เพราะคำว่าสมควรโดนทิ้งที่เธอพลั้งปากพูดออกมาด้วยความโมโห มันทำให้สติของเขาขาดผึงขึ้นมาทันที มือหนาออกแรงบีบแขนเล็กแรงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว จนมิลลินิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด แต่เธอก็ยังอดทนไม่ร้องออกมา
“คนเหี้ย ๆ ที่เธอพูดคนนี้ไม่ใช่เหรอ ที่เx็ดเธออยู่ทุกวัน ไอ้เหี้ยนี่ไม่ใช่เหรอที่เธออมคxยให้ ตอนนั้นทำไมไม่ขยะแขยงบ้างว่ะ ตอนที่ฉันแยงมันเข้าไปในรูเธอ” เพี๊ยะ!!! มือเล็กสะบัดออกจากการเกาะกุม ก่อนจะตบเข้าที่ใบหน้าหล่อเหลาอย่างจัง ด้วยแรงทั้งหมดที่มี จนขึ้นรอยนิ้วมือบนแก้มสากอย่างชัดเจน “อย่ามาพูดจาทุเรศ ๆ แบบนี้นะ ฉันไม่ใช่คนประเภทเดียวกับพี่ อีกอย่างถ้าตอนนั้นฉันรู้ว่าพี่เหี้ย คงไม่เอาตัวลงไปเกลือกกลั้วด้วยหรอก แค่คิดก็ขนลุกไม่ไหว” “เธอจะหยุดได้หรือยังมิลลิ!!!” มิลลิสะดุ้งเพราะเสียงทุ้มที่ตะโกนออกมา ใบหน้าเขาแดงก่ำเพราะความโมโหสุดขีด ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนด่าเขาเจ็บแสบแบบเธอมาก่อน มันเจ็บจนเข้าไปถึงกระดูกดำ ยิ่งเธอเน้นย้ำคำว่ารังเกียจ คำว่าขยะแขยง ความโมโหเขายิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก “ออกไปจากรถฉันได้ ละ อื้อ~” เสียงหวานหายเข้าไปในลำคอทันที เมื่อใบหน้าหล่อขยับเข้ามาประกบจูบรุนแรงกับเธอทันที เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความป่าเถื่อน ดุดัน ราวกับจะสั่งสอนเธอให้หลาบจำ และไม่ต้องพูดกับเขาแบบนี้อีก มือเล็กยกขึ้นทุบอกแกร่งแรง ๆ ให้เขาหยุดการกระทำ แต่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ยังคงตะโปมจูบเธออยู่อย่างนั้นอย่างหิวกระหาย จนได้รสชาติเฝื่อนของเลือดที่ซิบออกมา จูบกินเวลายาวนานหลายนาที เมื่อเธอเลิกดิ้นเขาก็ผละใบหน้าออกห่างเล็กน้อย น้ำเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด“เป็นไง...รสจูบของไอ้เหี้ย” “นอกจากเหี้ยแล้ว ก็ไม่มีอะไรดี” “เธอจะเอาแบบนี้ใช่ไหมมิลลิ!!! คิดว่าตัวเองเป็นต่ออยู่หรือไง” “….” “เวลาแค่สองวัน เธอลืมฉันได้แล้วเหรอ ไหนบอกว่ารักนัก รักหนา ล่าสุดยังเอากันในห้องน้ำที่ค่ายอาสาอยู่เลย ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะลืมฉันได้ ขณะตอนนี้ตาเธอยังบวมอยู่เลย” “ไม่ค่ะ” “งั้นก็มาคุยกันดี ๆ”ความเข้าใจของเขาคือคิดว่าเธอยังไม่ลืม แต่พอเธอพูดต่อเขาก็ต้องชะงักไป “ที่บอกว่าไม่ค่ะ คือไม่มีอะไรต้องลืม เพราะพี่ไม่ใช่คนที่อยู่ในใจฉัน คนแบบพี่ไม่มีค่าให้ฉันรักหรอก อย่าสำคัญตัวเองเกินไป ตอนนั้นฉันแค่หลงพี่ เลยคิดว่าเป็นความรักแต่ที่จริงแล้วไม่ใช่” “หมายความว่าไงว่ะ!!!” “ไม่น่าโง่ จนไม่เข้าใจที่พูดนะคะ แล้วจูบเมื่อกี้ ฉันจะถือว่าทำทานให้เอาบุญค่ะ“ มือหนายกขึ้นบีบคางเล็กอย่างแรง สันกรามขบเข้าหากันแน่น แต่คนตัวเล็กก็ยังทำหน้าอวดดีอยู่แบบนั้น ไม่ได้เจ็บปวดกับการกระทำของเขา “ด่ามาอีกสิ ด่ามาแรง ๆ แล้วเธออย่าหยุดด่าฉันนะ” “….” “อวดดี” ดวงตากลมโตแดงก่ำ ไม่เข้าใจผู้ชายตรงหน้าว่าต้องการอะไรจากเธออีก ที่เขาได้จากเธอไปยังไม่พออีกเหรอ แล้วยังต้องการอะไรจากเธออีก “ด่าสิ!!! เงียบทำไม” “…..” “ไหน ๆ เธอก็คิดว่าฉันเหี้ยอยู่แล้ว” ยีนส์ยกโทรศัพท์ขึ้นมา กดเข้าวิดีโอลับที่เขาตั้งรหัสเอาไว้ ก่อนที่ภาพและเสียงจะฉายออกมาชัดเจน มิลลิตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เธอลืมเรื่องคลิปของเธอกับเขาไปเสียสนิท ถ้าเขาไม่เปิดออกมาตอนนี้ เธอคงลืมไปแล้วว่าเคยถ่ายคลิปลับแบบนี้กับเขา “พี่นี่เลวสุดยอดของจริง นอกจากคำนำหน้าชื่อว่าเป็นผู้ชาย ฉันไม่เห็นมีอย่างอื่นที่แสดงความเป็นลูกผู้ชายจากพี่" "อยากด่าอะไรก็ด่า" "เอาสิ...อยากได้อะไรจากฉันแลกกับคลิปนี่ล่ะ บอกมาเลย”เธอไม่ได้โง่ที่พูดออกไปแบบนั้น เพราะรู้ว่าการที่เขาเอาคลิปมาขู่ เขาคงต้องการอะไรจากเธอ แววตาและรอยยิ้มเย้ยหยันอย่างเป็นต่อของยีนส์ ทำให้มิลลิตาแดงก่ำ น้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว มันไม่ใช่น้ำตาของความเสียใจ แต่เป็นน้ำตาจากความแค้นผู้ชายตรงหน้าเธอตอนนี้ “ก็ไหนว่าเธอเป็นต่อฉันไง ทำไมยอมง่าย ๆ เสียล่ะ แต่ก็ดี ว่าง่าย ๆ แบบนี้ฉันชอบ” มือเล็กกำเข้าหากันแน่น สะบัดหน้าออกนอกกระจกรถ ท้องฟ้าข้างนอกเริ่มเป็นสีส้มและบรรยากาศเริ่มเงียบสงบ นึกโทษตัวเองทุกอย่าง เพราะความรักบังตา ทำให้เธอทำตัวโง่ได้ถึงขนาดนี้ ยอมให้เขาถ่ายคลิปตอนนั้นได้ยังไง ถ้าคลิปนี้หลุดออกไป พ่อแม่พี่น้องจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ลูกสาวคนเดียวนอนกับผู้ชายไม่พอ แต่ยังมีคลิปหลุดออกไปว่อนโซเชียลอีก เธอจะยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด “ต้องการอะไร? บอกมาเลยดีกว่า อย่าทำเหมือนเป็นพูดดี ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่” “เธอคิดว่าฉันต้องการอะไรจากเธอล่ะ”มือหนาเริ่มลูบไล้ตามแขนของเธอไปมา นัยน์ตาคมบอกความต้องการของตัวเองอย่างไม่ปิดบัง “กลับมาเป็นเหมือนเดิม” มิลลิตวัดสายตาไปมองเขาตรง ๆ ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยคำถาม สงสัยว่าคำว่าเหมือนเดิมของเขาคืออะไร“หมายความว่ายังไง” “ก็หมายความว่า มาเอากันเหมือนเดิม” “เลว!!!” “คำก็เหี้ย สองคำก็เลว ลองมาเป็นเมียไอ้เหี้ยตัวนี้หน่อยแล้วกัน”เขาไม่ได้สะทกสะท้านกับคำด่าของเธอแล้ว ร่างกายมันชินชาไปแล้ว ตอนแรกแค่จะมาขอโทษเธอเพราะรู้สึกผิดที่ทำกับเธอแบบนั้น กลายเป็นต้องเอาคลิปมาขู่ ทั้งหมดมันเป็นเพราะเธอ เธอทำให้เขาโมโห แต่ไหน ๆ ตอนนี้ก็เดินหน้ามาถึงขนาดนี้แล้ว ถอยตอนนี้คงไม่ได้ “เอาสิ อยากทำอะไรก็ทำ ฉันจะอ้าขาให้พี่เอาจนกว่าพี่จะพอใจ ยอมลบคลิปทุเรศ ๆ นั่นออกไป” “ก็ดี งั้นขับรถกลับคอนโดฉันตอนนี้เลย ฉันอยากเx็ดเธอจนแทบบ้าแล้วตอนนี้” “นี่คงเป็นตัวตนของพี่สินะ คำพูดและการกระทำป่าเถื่อนและทุเรศที่สุด ฉันไม่เคยเห็นใครเลวได้อย่างพี่” “อย่าพูดมาก!! รีบขับรถไปได้แล้ว” มือเล็กกำพวงมาลัยแน่นด้วยความโมโห เหยียบคันเร่งพารถออกจากจุดจอดด้วยความเร็ว ตามอารมณ์ที่คุกกรุ่นภายในใจ ตลอดทางถึงคอนโด ไม่มีบทสนทนาอะไรออกจากปากเธอทั้งนั้น มีเพียงความเงียบ และน้ำตาของเธอที่ไหลออกมาไม่หยุด ไม่คิดว่าเรื่องจะเลวร้ายได้ขนาดนี้ กลัวเหลือเกินว่าคนบ้า ๆ แบบเขา หากเธอทำอะไรไม่ถูกใจ จะปล่อยคลิปนั่นหลุดออกไปทันที ส่วนยีนส์ที่ลอบมองเสี้ยวหน้าสวยที่มีน้ำตาไหลอยู่ตลอดเวลา ก็ทำได้เพียงกำมือเข้าหากันแน่น ไม่รู้ว่าเขาและเธอมาถึงจุดนี้ได้ยังไง ดูเธอจะเกลียดเขามากจนแม้แต่หางตาเธอก็ไม่อยากมอง ผู้หญิงที่เคยมีแววตาขี้อ้อนอยู่ตลอดเวลา ทั้งการกระทำก็น่ารัก น่าหลง กลายเป็นแววตาของความเกลียดชัง ยิ่งเขาทำแบบนี้เธอยิ่งดูเกลียดเขามากขึ้นไปอีก เมื่อรถเข้ามาจอดตรงลานจอดรถของคอนโด มิลลิก็ดับเครื่อง นั่งนิ่ง ไม่ได้ลงจากรถในทันที เธอพยายามสงบสติอารมณ์และยอมรับความจริง ตอนนี้เธอต้องตกลงบางอย่างกับเขาก่อน หลังจากที่นั่งสงบสติตัวเองมาสักพัก ก็คิดได้ว่าตัวเองเป็นรองเขามาก จะทำอะไรผลีผลามมากไม่ได้ หากไม่อยากให้คลิปหลุดออกไป เธอต้องยอมเขา “เรามาตกลงกันก่อน” “ว่ามาสิ”ใบหน้ายียวนของยีนส์ ยิ้มมุมปากท้าทายเธอ “เรื่องนี้จะต้องไม่มีใครรู้” “ใครที่เธอว่าคือ?” “พี่ชายฉัน ครอบครัวฉัน” “ก็ไม่คิดจะให้รู้อยู่แล้ว แต่เพื่อนฉันคงห้ามไม่ได้” “แล้วเมื่อไหร่พี่จะปล่อยฉันไป” “ยังไม่ทันเริ่มเลย ถามหาตอนจบแล้วเหรอ ดูท่าว่าเธอจะเกลียดฉันมากสินะ ทำไมไม่คิดว่าที่เราต้องเป็นแบบนี้ มันเพราะพี่ของเธอ ถ้าพี่เธอไม่ทำกับฉันแบบนั้น เราสองคนคงไม่ลงเอยแบบนี้ “แล้วทำไมพี่ไม่คิดบ้างว่าฉันไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับความแค้นของพี่ ทำไมต้องเอาเรื่องบ้า ๆ พวกนี้มาลงกับฉันด้วย” “….” ยีนส์เงียบไม่ตอบ เขาไม่มีคำตอบให้เธอ เพราะเรื่องแก้แค้นเธอมันคือเรื่องจริง ถึงตอนแรกจะอยากขอโทษที่ีทำลงไป แต่ตอนนี้มันก็มาไกลมากแล้ว เพราะความเห็นแก่ตัวที่เขาไม่อยากปล่อยเธอไปอีก เป็นความต้องการในส่วนลึกของเขา ส่วนที่เขาพยายามปฏิเสธตัวเองมาตลอด ว่าที่จริงแล้วเขากำลังมีความรู้สึกกับเธอจริง ๆเมื่อเข้ามาในห้อง ยีนส์ก็เดินตรงไปนั่งที่โซฟา พร้อมทั้งดึงเธอให้นั่งลงบนตักเขา มือหยาบหนาลูบไล้ใบหน้าสวยของเธอเบา ๆ จับคางเล็กให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา “หิวหรือเปล่า?” “จะถามทำไมคะ อยากทำอะไรก็ทำเลยค่ะ” “ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเธอจะปากดีได้ขนาดนี้ ไม่กลัวมือฉันลั่นทำคลิปหลุดออกไปหรือไง” มิลลิระบายยิ้มออกมาอย่างขมขื่น“ที่มานั่งทนอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่เพราะความกลัวเหรอคะ หรือพี่ยังคิดว่าฉันพิศวาสพี่” “งั้นมาดูหน่อยดีกว่า ว่าเธอไม่ได้พิศวาสฉันจริงหรือเปล่า” มือหนาของยีนส์บีบเค้นอกอวบของเธอทันที ความเจ็บปวดแล่นปราดไปทั่วร่าง เพราะเขาบีบเค้นมันอย่างแรง มิลลินิ่วหน้า แต่ทว่าก็นั่งนิ่งให้เขาบีบอยู่แบบนั้น ใบหน้าหล่อเหลาก็ก้มลงมาไซร้ซอกคอของเธอ ใช้ลิ้นสากปาดเลียไปทั่วจนถึงกกหู มืออีกข้างก็ถกกระโปรงนักศึกษาทรงเอขึ้นมาไว้บนเอวคอดกิ่ว ใช้นิ้วกรีดกรายตรงรอยแยกเบา ๆ จนเธอกระตุกตัวสั่นเกร็ง ริมฝีปากอวบอิ่ม ขบเม้มกันแน่น กลั้นเสียงครางเมื่อความเสียวซ่านเริ่มถาโถมเข้ามาไม่หยุด “แฉะแล้วนิ ไหนบอกขยะแขยงฉัน” “…..” “แค่นิ้วฉันกรีดตรงร่องเธอ ร่างกายเธอมันก็สั่นเหมือนลูกนกแบบนี้ ไม่ใช่เพราะเธอชอบสัมผัสของ
ใบหน้าหล่อเหลาผละออกจากใบหน้าสวย สบตากับเธอบอกความต้องการของตัวเองอย่างชัดเจน ใช้เข่าดันขาเธออ้าออก ก่อนจะค่อย ๆ สอดแก่นกายใหญ่เข้ามาในร่องรักช้า ๆ เขาทำมันอย่างใจเย็น ขัดกับความร้อนรุ่มภายในที่เมื่อสัมผัสกับร่องสาว ก็แทบจะระเบิดออกมา “ซี้ด อย่าเพิ่งตอด อ๊าสส” ความอึดอัดเริ่มคืบคลานเข้ามาช้า ๆ พร้อมด้วยความเสียวซ่านจากแท่งเนื้ออุ่นที่เสียดสีกับร่องคับแคบ นิ้วเล็กเริ่มจิกเกร็ง ใบหน้าสวยเชิดขึ้นส่งเสียงครางกระเส่าไม่เป็นภาษา และเมื่อคนตัวสูงทนใจเย็นไม่ไหว ก็กระแทกเอวสอบเข้าไปทันทีสุดแรง จนคนตัวเล็กกระตุกสะโพกเพราะความเจ็บปนจุก สวบ!!! “อื้อ~” มิลลิน้ำตาไหลหยดลงมาเพราะความเจ็บปวด ที่โดนเขากระแทกเอ็นแข็งเข้ามาทีเดียวสุดลำ ก่อนที่ความอึดอัดจะเข้ามาแทนที่ เอวสอบก็เริ่มขยับเข้าออกอย่างช้า ๆ เพื่อปรับขนาดร่องรักที่คับแคบจนขยับได้ลำบาก “ซี้ด แน่น อ๊าสส” เมื่อกระแทกแก่นกายเข้าสุด ออกสุด อยู่สักพัก ก็เริ่มเร่งจังหวะให้แรงขึ้นเรื่อย ๆ ความเสียวซ่านแผ่ไปทั่วร่างทั้งสองที่สอดรับแรงกระแทกกันอย่างลงตัว บรรยากาศภายในห้องนอนร้อนระอุ ได้ยินเสียงครางกระเส่าของคนสองคน แข่งกับเสียงเนื้อกระทบกันดัง
คบกันมาเกือบสองเดือน มิลลิไม่เคยเห็นรอยยิ้มของเขาจริง ๆ มีเพียงเธอที่มีความสุขกับเรื่องของเรา แต่เขากลับยังไม่ลืมผู้หญิงคนนั้น เธอรีบเอาโทรศัพท์ไปวางเอาไว้ที่เดิม แล้วฝืนลุกขึ้น พาร่างกายมานั่งอยู่ตรงโซฟา ปลดปล่อยความเสียใจของตัวเองออกมาให้มากที่สุด ติ้ง เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้นรัว ๆ คงจะเป็นเพื่อนสนิทของเธอส่งข้อความมาหา เพราะตั้งแต่ออกจากมหาลัย เธอก็บอกกับเพื่อนว่าจะนัดเคลียร์กับยีนส์ แต่จนป่านนี้ยังไม่ได้กลับคอนโด ปลายฝน: มิลลิตกลงเป็นยังไงบ้าง คาเทียร์: อีมิล มึงกลับหรือเปล่า คาเทียร์: ตอบกูบ้างดิว่ะ ปลายฝน: อย่าให้กูเป็นห่วง คาเทียร์: มึงเงียบแบบนี้กูใจคอไม่ดีเลย และอีกหลายข้อความ เป็นข้อความที่ส่งจากแชทกลุ่มสามคนของพวกเธอ มิลลิเลยกดส่งไปเพียงหนึ่งข้อความให้เพื่อนสบายใจว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ มิลลิ: กูไม่เป็นไร เสียงฝีเท้าดังขึ้นด้านหลัง แต่เธอก็ไม่ได้หันไปมอง เพราะรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเจ้าของห้อง “ตื่นมาทำไม?” “ฉันหิว” “แล้วทำไมไม่สั่งล่ะ นั่งอยู่แบบนี้จะได้กินหรือไง” เธอเหยียดยิ้มออกมาด้วยความขมขื่น ไม่ได้คาดหวังคำพูดดี ๆ จากเขาอยู่แล้ว เพราะเธอเองก็ไม่ได้
มิลลินอนซมอยู่ที่ห้องสองวันเต็ม โชคดีที่ตรงกับเสาร์อาทิตย์พอดีเลยไม่ต้องขาดเรียน และเธอก็ไม่กลับบ้านเพราะบอกแม่ว่าต้องทำรายงานกับเพื่อน แม่กับพ่อเองก็ไม่ได้สงสัยอะไร เธออยากจะไปเจอท่านตอนที่สภาพจิตใจเธอพร้อมกว่านี้ ส่วนพี่โซลรายนั้นก็ยังเอาแต่โทษตัวเองอยู่ ขนาดเธอบอกไปแล้วว่าไม่เป็นไร เธอเองก็ดีขึ้นมาก แค่ป่วยนิดหน่อยก็ยังไม่เชื่อ จะมานอนเฝ้าเธอที่คอนโด แต่เธอห้ามไว้ บอกว่าอยากพักรักษาใจคนเดียวก่อน หากเธอพร้อมเมื่อไหร่ เธอจะกลับไปเป็นคนเดิมให้เร็วที่สุด ติ้ง เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง ในตอนเย็นวันอาทิตย์ ก่อนหน้านี้เธอก็แค่ตอบข้อความยีนส์ไปว่าไม่สบาย ขอนอนพักผ่อน ดูเหมือนเขาจะเข้าใจ ไม่ได้เซ้าซี่อะไรเธอ แต่เมื่อวานเธอไม่ได้ตอบและรับโทรศัพท์เขาเลย คงจะส่งข้อความมาขู่เธออีกแน่ที่หายไปแบบนี้ ยีนส์: ทำไม่ไม่รับโทรศัพท์ ยีนส์: ข้อความเธอก็ไม่อ่าน ยีนส์: ที่บอกไม่สบาย โกหกใช่ไหม ยีนส์: เธอกำลังหนีฉันอยู่หรือเปล่า ยีนส์: รู้ใช่ไหม ทำแบบนี้ไม่มีประโยชน์ ยีนส์: ลงมาฉันรอเธออยู่ที่ด้านล่างคอนโด ยีนส์: ให้เวลาสิบนาที ยีนส์: อย่าให้ฉันต้องขึ้นไปตามเธอนะ ยีนส์: อยากลองดี
07.30 น. มิลลิตื่นเพราะเสียงนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์ที่เธอตั้งเอาไว้ มือบางควานหามันมาปิดเสียง แต่ทว่าเคลื่อนไหวได้ลำบากเพราะแขนแกร่งที่ทับตัวเธออยู่ “เรียนกี่โมง?”เสียงทุ้มงัวเงียถาม ตายังปิดสนิท “สิบโมงค่ะ แต่ฉันไม่ได้เอาชุดนักศึกษามา ต้องกลับไปเปลี่ยนก่อน” ยีนส์จำใจต้องลุกขึ้น จากที่นอนทั้งที่เขามีเรียนบ่าย มือหนายกมือยีผมตัวเองแรง ๆ เพื่อเรียกสติ ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาไม่นานเขาก็อาบน้ำ แต่งตัวเรียบร้อย ออกมาหาเธอที่นั่งรออยู่ตรงโซฟา“ไปสิ” คนตัวสูงเร่งความเร็วรถมากกว่าปกติ มาถึงคอนโดเธอตอนแปดโมงครึ่ง เมื่อเธอเตรียมตัวจะลงจากรถ เสียงทุ้มก็เรียกเธอไว้ก่อน“ฉันจะรอตรงนี้” เขารู้ว่าเธอจอดรถไว้ที่มหาลัย เขาเลยจะไปส่งเธอ แต่คนตัวเล็กปฏิเสธเสียงแข็งทันที “ไม่ค่ะ ฉันจะไปกับเพื่อน” “อย่าดื้อได้ไหม หรืออยากให้ฉันขึ้นไปรอข้างบน” เขาทำทีจะลงจากรถจริงอย่างปากว่า แต่คนตัวเล็กก็ดักทางเสียก่อน เลยต้องนั่งรอในรถเหมือนเดิม หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดูเฟซบุ๊คฆ่าเวลาระหว่างรอ แต่ทว่าเขาก็เห็นข้อความของจูเน่ถูกส่งเข้ามาตอนค่ำเมื่อวาน เขาจำได้ดีว่าไม่เคยเปิดอ่านข้อความของเธอมาก่อน แต่เห
“เรามีเรื่องต้องคุยกันค่ะ” มิลลิพูดแค่นั้นก็ลุกขึ้นเดินออกจากโรงอาหารทันที เธอเดินออกไปรอเขาตรงหลังอาคารเรียนที่ไม่ค่อยมีนักศึกษาพลุกพล่านเท่าไหร่ ยืนรอไม่นานคนตัวสูงก็เดินมาหาเธอ ด้วยใบหน้าเรียบเฉย “พี่ทำแบบนี้ทำไม ฉันบอกแล้วว่าห้ามให้คนอื่นรู้” “คนอื่นที่ว่า คือไอ้ผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า” “ถ้าใช่แล้วทำไมคะ พี่มีสิทธิ์อะไรในตัวฉันกัน อย่าลืมสิว่าถ้าพี่ไม่มีคลิปนั่น ฉันไม่มีวันจะอยู่กับพี่ตอนนี้แน่” คำพูดของเธอกระแทกใจเขาอย่างจัง มันรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวไปหมด มือหนากำเข้าหากันแน่น จากที่ตั้งใจว่าจะมาคุยกันดี ๆ กลายเป็นเธอมาทำให้เขาโมโหอีกแล้ว “เธอถามหาสิทธิ์ในตัวเธอจากฉันเหรอ ต้องให้ฉันทบทวนให้เธอฟังหรือเปล่า ว่าฉันมีสิทธิ์อะไรบ้าง” “อย่ามาพูดทุเรศแถวนี้นะ แล้วก็จำไว้ด้วยว่า สมัยนี้แค่เอากันเขาไม่นับว่าเป็นแฟนหรือเป็นผัวเมียหรอก” “มิลลิ!!!”ยีนส์ตะโกนออกมาด้วยความโมโห นี่เธอจงใจยั่วประสาทให้เขาทำรุนแรงกับเธอหรือไง ทำไมเธอถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ “ทำไมคะ รับไม่ได้เหรอ” “เธอกำลังทำให้ฉันหมดความอดทนกับเธอ หรือเธออยากโดนเอาตอนนี้” “เอาสิ!!! อยากเอาก็เอา ยังไงฉันก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้
“พี่โซล หยุด”มิลลิรีบเดินไปขวางระหว่างพี่ชายเธอที่ยกเท้ากำลังจะถีบซ้ำเขาที่อกแกร่งของยีนส์ แต่โดนคาเตอร์จับให้ถอยออกมาก่อน เลยได้แต่ยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นมองคนเป็นพี่ชายที่สาดหมัดใส่ใบหน้าของยีนส์นับสิบหมัด ผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ! “ฮืก ฮือ พี่เตอร์ไปห้ามพี่โซลหน่อยสิคะ” เสียงร้องโหยหวนของมิลลิยังดังไม่หยุด ก่อนที่เธอจะถูกคาเทียร์กับปลายฝนพาออกจากห้องน้ำไป แม้ว่าจะออกแรงขัดขืนแต่ก็สู้แรงเพื่อนสองคนไม่ได้ “สัดยีนส์!!! มึงมายุ่งกับน้องกูอีกทำไม” มือหนาของโซลจับคอเสื้อของยีนส์ขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยรอยบวมช้ำ มีเลือดออกตรงมุมปากทั้งสองข้าง แต่ทว่าเจ้าตัวกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บ ยังคงมองหน้าอดีตเพื่อนสนิทอย่างท้าทาย “มึงต้องการอะไรจากน้องกูอีก” “หึ กูต้องการเมียกูคืน” “เหี้ยยีนส์ ใครเมียมึง อย่ามาพูดหมา ๆ มึงมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย มึงทำน้องกูเสียใจ” ผลัวะ!!! หมัดขวาของโซลซัดเข้าที่แก้มซ้ายของยีนส์อีกครั้ง “ไอ้พวกเหี้ย มึงปล่อยเพื่อนกูก่อน” ตะวันกับคีรินที่รีบวิ่งมาจากคณะเพราะมีรุ่นน้องไปบอกว่ายีนส์มีเรื่องกับโซลอยู่ที่ห้องน้ำหลังตึกบริหาร เข้ามาถึงก็ผลักโซลหงายหลังไป ก่อนที่จะย
“มิลอยากตอบคำถามพี่ก่อนค่ะ” “แต่พี่อยากบอกก่อนว่า พี่รักมิล” เธออยากจะกรี๊ดออกมาดัง ๆ ด้วยความเขิน ไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดออกมาต่อหน้าพี่ชายเธอขนาดนี้ คนอะไรปกติดูเย็นชาแต่กลับมีมุมแบบนี้ด้วย เธอไม่อยากเชื่อเลย “แล้วถ้าคำตอบของมิลคือไม่ให้อภัยพี่ล่ะคะ พี่จะเสียใจหรือเปล่า” ใบหน้าหล่อเหลาหุบยิ้มลงทันที แต่เขาก็เตรียมใจมาระดับหนึ่งแล้ว เพราะเขาเองก็ทำกับเธอไว้เยอะเหมือนกัน ไม่แปลกใจเลยหากเธอจะไม่ให้อภัยเขา “พี่ก็จะยอมรับความจริง และปล่อยมิลไป” นี่คือสิ่งที่เขาคิดจริง ๆ หากเธอไม่ให้อภัยเขาก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะรั้งเธอไว้กับตัวเอง มิลลิเดินเข้าไปใกล้เขามากขึ้น เธอยกมือขึ้นสัมผัสตรงแก้มเขา ลูบไล้ไปมาเบา ๆ และเผยรอยยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่ทำให้คนตัวสูงใจกระตุก เธอกำลังทำให้เขาคลั่งเธอ “มิลให้อภัยพี่ค่ะ”แค่ประโยคนี้จริง ๆ ที่เขาต้องการจะได้ยิน ร่างหน้าดึงเธอเข้ามากอดทันที โดยไม่สนใจโซลที่ยืนมองอยู่ แต่ทว่ากอดได้แค่แปบเดียวก็ต้องผละออกจากกันเพราะแรงดึงของคนที่ทนมองภาพบาดตาไม่ไหว “กูยังไม่อนุญาติให้มึงทำอะไรน้องกู อย่าได้ใจไปไอ้ยีนส์” “มึงก็ได้ยิน ว่าน้องมึงให้อภัยกูแล้ว” “ใช่ ก
หลังจากบทรักตอนเที่ยงจบลง ท้องของมิลลิก็ส่งเสียงประท้วงเสียงดัง ตอนแรกคนตัวสูงอยากจะต่อรอบกับเธอด้วยซ้ำ เพราะบรรยากาศที่เป็นใจ ถึงจะร้อนไปหน่อย แต่มีความตื่นเต้นจากการทำรักเอาท์ดอร์ครั้งแรก แต่ทว่าคนตัวเล็กขอพักกินข้าวก่อน "ประจำเดือนมิลมาอยู่หรือเปล่า” ยีนส์ต้องถามภรรยาเรื่องนี้ เพราะหลังจากเธอเรียนจบก็ไม่ได้กินยาคุมอีก แต่ผ่านมาเกือบสามเดือน ทำไมเธอถึงยังไม่ท้องสักที ทั้งที่เขาขยันทำการบ้านกับเธอแทบตาย งัดกลเม็ดทุกอย่างมาใช้หมดแล้ว แต่ทว่ายังไร้วี่แวว “ที่จริงประจำเดือนมิลก็มาไม่ปกติอยู่แล้ว แต่เพื่อความสบายใจของพี่ มิลจะตรวจหลังจากเรากลับนะคะ” “เมื่อวานพ่อตาบอกว่าพี่ไม่มีน้ำยา”มิลลิหัวเราะออกมา เมื่อนึกถึงคำพูดของพ่อที่บ่นเธออยู่ทุกวันว่าเมื่อไหร่จะมีหลานให้ท่านสักที “หรือพี่จะไม่มีน้ำยาอย่างพ่อตาว่าจริง ๆ”เขายังคงคิดมากเรื่องนี้อยู่ ก็เขาอยากมีลูก พ่อกับแม่ของเขาก็อยากมีหลานหลาย ๆ คน “พี่อย่าคิดมากสิคะ มิลเพิ่งปล่อยได้แค่สองเดือนกว่า ๆ เอง ใครจะไปรู้ตอนนี้มิลอาจจะท้องแล้วก็ได้” “งั้นเราไปซื้อที่ตรวจมาตรวจเลยได้ไหม พี่อยากรู้ตอนนี้เลย มิลก็รู้ว่าพี่อยากมีลูกขนาดไหน” สุดท้าย
หลังจากงานแต่งจบลง ยีนส์และมิลลิก็รีบไปสนามบินทันที ทั้งคู่จะไปฮันนีมูนกันที่มัลดิฟส์ เป็นเจ้าสาวที่จองตั๋วเครื่องบินและที่พักเองหมดทุกอย่าง กำหนดการเที่ยวทุกอย่างใช้เวลา4วัน3คืน “มิลตื่นเต้นอยากเห็นทะเลใจจะขาดแล้วค่ะ”มิลลิเดินควงแขนสามีหนุ่มหล่อ เพื่อไปยังรถตู้ของโรงแรมที่เธอจองเอาไว้ แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาตีสี่กว่าแล้ว อีกทั้งยังเหนื่อยกับงานแต่ง แต่เธอกลับไม่รู้สึกง่วงสักนิด เพราะทะเลที่นี่ เธอใฝ่ฝันจะมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว “พี่อยากให้มิลพักหน่อยนะ”ยีนส์พูดไปตามที่คิด เพราะตั้งแต่ขึ้นเครื่องจนถึงตอนนี้ เขายังไม่เห็นเธอหลับเลย ทั้งที่ต้องตื่นตั้งแต่ตีสามเพื่อแต่งหน้า ทำผม ไหนจะยุ่งกับงานแต่งทั้งวัน เสร็จจากงานก็เที่ยงคืน ก็รีบมาสนามบินทันที เป็นเขาเสียอีกที่รู้สึกอ่อนเพลียมาก “ถึงที่พักแล้วค่อยนอนก็ได้ค่ะ สามีของมิลเหนื่อยแล้วเหรอคะ” “พี่ยอมแพ้มิล” รถตู้ของที่พักเข้ามาจอดตรงส่วนของโรงแรม แต่มิลลิจองเป็นที่พักติดทะเลไว้ เลยต้องใช้เวลาเดินไปอีก ขนาดว่าตอนนี้ตีห้า แต่ก็ยังมองเห็นความสวยงามของทะเล พนักงานของโรงแรมพาเดินไปตามสะพานไม้ที่พาไปยังที่พักเป็นหลังที่สร้างอยู่ในทะเล ก่อนที่จะหย
ยีนส์ขับรถหรูเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ เพื่อส่งมิลลิลงก่อน ส่วนเขาก็ขับไปจอดในลานจอดรถ ก่อนจะเดินลงมาหาเธอที่ยืนรออยู่ พร้อมกับว่าที่พ่อตา ว่าที่แม่ยาย และพี่ชายสองคนของเธอ คนตัวสูงยอมรับว่าประหม่ามาก แต่ก็ไม่ได้ถึงกับว่ากลัวอะไรขนาดนั้น เขาเองก็เป็นลูกผู้ชายมากพอ ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเคยทำไว้อยู่แล้ว เพราะงั้นไม่ว่าจะโดนอะไรเขาก็พร้อมจะยอมรับ ขอแค่อย่างเดียวอย่าให้เขาเลิกคบกับมิลลิ เพราะเป็นเรื่องเดียวที่เขาจะไม่ยอม “สวัสดีครับ”ยีนส์ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง และพี่ชายคนโตของมิลลิด้วยท่าทางปกติ ผิดกับสายตาของว่าที่พ่อตา ที่ดูเหมือนจะไม่พอใจเขามาก ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เพียงแต่สบัดหน้าหนีเขา ไม่รับไหว้เขาเหมือนอย่างแม่ของเธอ “เข้าบ้านกันดีกว่า มิลพาพี่เขาเข้ามาเร็วลูก” มิลลิจับมือของเขา เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกัน ตรงที่พ่อกับแม่นั่งรออยู่คือห้องรับแขกของบ้าน ยีนส์ทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามกับพ่อแม่ของมิลลิทันที ทุกสายตาจับจ้องมาที่เขาเป็นตาเดียว จากตอนแรกที่ไม่รู้สึกอะไร เจอแบบนี้เขาเองก็ต้องกุมมือเข้าหากันเพื่อลดอาการประหม่าของตัวเองตอนนี้ “เรื่องที่ผ่านมา แม่จะไม่พูดถึงมันนะ แต่หลังจากนี้
“แบบวันนี้ คือแม่พี่ชอบมิลหรือเปล่าคะ”มิลลิถามขึ้นตอนที่กลับมาถึงคอนโดของยีนส์แล้ว “ใช้คำว่าถูกใจเลยดีกว่า” เขาไม่ได้อวยเธอเกินจริง แต่การที่แม่เอ่ยปากชวนเธอไปชิมขนมที่ร้าน มันเป็นสัญญาณว่าแม่เขาถูกใจเธอมาก “แต่มิลก็อยากจะตีพี่เหลือเกิน รู้ว่ามิลชอบกินขนม ยังไม่บอกมิลอีกว่าแม่พี่เปิดร้านขนม” เธอทำหน้างอนเขาและทิ้งตัวนั่งลงตรงโซฟา โดยยีนส์ก็เดินเข้ามากอดเธอ ยกตัวเธอขึ้นนั่งบนตักของเขา ก่อนที่จะกดริมฝีปากลงไปบนกลีบปากนุ่มของเธอเบา ๆ “พี่กลัวมิลจะไม่อยากเจอแม่พี่ต่างหาก อีกอย่างตอนนั้นพี่ก็ยังไม่รู้ใจตัวเองด้วย หลังจากนี้พี่จะพาไปจนมิลเบื่อเลยดีไหมครับ” “ดีค่ะ มิลอยากเปิดร้านขนมมาตั้งนานแล้ว” “เรียนบริหารแต่ไปเปิดร้านขนมเหรอ” “ความชอบกับความฝันมันต่างกันค่ะ มิลเรียนบริหารเพราะเห็นพี่ชายคนโตเรียนค่ะ อีกอย่างเรียนจบมิลก็ต้องไปทำงานกับบริษัทของพ่อ” “แล้วไอ้โซลล่ะ มันเรียนวิศวะเครื่องยนต์นะ” “พ่อมีบริษัทผลิตยานยนต์ค่ะ พี่โซลตามพ่อไปทำงานตั้งแต่เด็ก ๆ เลยอยากเป็นอย่างพ่อ” “นี่พี่ตกถังข้าวสารเหรอเนี๊ยะ ต่อไปมิลต้องเลี้ยงพี่ด้วยนะ” “พี่รวยกว่ามิลอีกนะคะ เป็นลูกคนเดียวด้วย พี่นั่น
“พี่ไม่แปลกใจเลย ทำไมพี่ชายมิลถึงหวงมิลนัก” “ใช่ค่ะ เราห่างกันคนละปีกว่า ๆ เอง คลอดปุ๊บ แม่ก็ท้องปั๊บเลย” “อาทิตย์หน้าไปกินข้าวบ้านพี่บ้างสิ พี่อยากให้แม่กับพ่อพี่ได้รู้จักว่าที่ลูกสะใภ้” “พี่เคยพาแฟนเก่าเข้าบ้านหรือเปล่าคะ” ที่ถามไม่ใช่ว่าเพราะเธอโกรธหรอก เธอเองก็ทำใจเรื่องใจอดีตเขาได้แล้ว เพียงแต่ถามเพื่อจะได้ทำตัวถูกเวลาเจอหน้าพ่อกับแม่ของเขา “ไม่เคย ตอนนั้นพี่เพิ่งเรียนปีหนึ่งเองนะ ยังไม่คิดเรื่องนี้เลย” “….” “แต่ตอนนี้พี่คิดแล้วนะ พี่เป็นคนรักคนยากนะมิล ถ้าพี่รักแล้ว พี่ก็อยากจะคบกับเขาให้นานที่สุด” ยิ่งเขาพูด เธอก็ยิ่งเขินหน้าแดงจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็ไม่อยากจะคิดหรอกว่าเธอโชคดีแค่ไหน ที่ได้เป็นคนนั้นในใจเขา เรื่องของความรัก มันไม่ใช่อีกฝ่ายต้องเป็นฝ่ายโชคดีอย่างเดียว แต่มันคือการที่คนสองคนโชคดีทั้งคู่ต่างหากที่ได้มาเจอกัน ตอนนี้อยากจะบอกแฟนเก่าของเขาเหลือเกินว่าขอบคุณนะคะ ที่ทิ้งเขามาจนเจอกับเธอ 21.30 น. บรรยากาศในผับสุดหรูของพายุ ที่มีศักดิ์เป็นลุงของมิลลิ เธอไม่ค่อยได้มาที่นี่ นอกจากว่าจะมาพี่ชายหรือคนเป็นพ่อ เวลามีงานฉลองอะไร ครอบครัวของเธอมักจะเลือกมาฉลองกันที่นี่
“กว่าครอบครัวมิลจะยอมรับพี่ กระดูกพี่ไม่หักไปก่อนเหรอ” “หักไม่ได้คะ มิลไม่ยอมหรอก ว่าแต่….” “แต่อะไร?” “ว่าแต่มีตรงไหนให้พ่อมิลทำพี่ได้อีกบ้างค่ะ หน้าโดนแล้ว ขาโดนแล้ว งั้นหลังได้ไหมคะ” “มิลลิ”เสียงทุ้มเรียกชื่อเธออย่างไม่เชื่อ ตอนแรกเขาก็คิดว่าเธอพูดเล่น แต่ทำไมท่าทางเธอตอนนี้ถึงดูจริงจังขนาดนี้ “คิก คิก มิลพูดเล่นค่ะ เหลือด่านสุดท้ายแล้วนะคะ” มิลลิเข้าไปออดอ้อนแฟนหนุ่ม ตอนนี้ที่พวกเธอนั่งอยู่ท่ามกลางสายตาของเพื่อนสนิทมิลลิสองคน ตรงใต้ตึกคณะบริหาร ทำให้เพื่อนสองคนนั่งมองเธอด้วยสายตาหมั่นไส้ “งั้นมิลก็ต้องปลอบใจพี่ด้วยนะ ดูสิ”เขาเอียงหน้าให้เธอดูรอยแผลตรงมุมปาก คนตัวเล็กหันซ้าย หันขวา ก่อนจะกดริมฝีปากลงไปเบา ๆ อย่างเอาใจ “แหวะ!!! อีมิล กูจะอ้วก” คาเทียร์มองบนทนความคลั่งรักของคู่นี้ไม่ไหว ต้องทำท่าอ้วกออกมา โดยมีปลายฝนนั่งหัวเราะอยู่ข้าง ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่สนใจพวกเธอสักนิด ยังคงนั่งออดอ้อนกันอยู่แบบนั้น ราวกับว่าโลกนี้มีเพียงสองเรา “ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ยีนส์จะเป็นคนคลั่งรักขนาดนี้”ปลายฝนพูดขึ้นขณะเดินไปเรียนวิชาช่วงเช้า “ไม่ใช่แค่พี่ยีนส์หรอก อีเพื่อนตัวดีของเราก็น้อยห
ยีนส์ทำสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เขาเดินลงมาส่งเธออย่างไม่เต็มใจ เมื่อเห็นสีหน้ายียวนของไอ้เพื่อนเวร เขาก็ชักสีหน้าใส่มันทันที “ทำไมมึงทำหน้าบูดแบบนั้นล่ะว่ะ” โซลแซวด้วยรอยยิ้มขบขัน เขารู้ว่ามันไม่เต็มใจจะให้น้องสาวเขากลับ ยอมรับว่าที่มารับมิลลิ ก็เพราะเขาอยากแกล้งมันโดยตรง หมั่นไส้มันที่เคยทำกับน้องเขา แล้วมาดี๊ด๊าเมื่อน้องเขาให้อภัยมันง่าย ๆ “ไอ้เวร มึงเอาคืนกูที่น้องมึงให้อภัยกูใช่ไหม” “ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!”โซลหัวเราะเสียงดัง ไม่อยากเชื่อว่ามันจะอ่านใจเขาออกขนาดนี้ “สัด!!! กูขอแช่งให้มึงโดนบ้างเวลามึงมีความรัก มึงคอยดู” “แม่ง!!! แช่งเป็นเด็ก ๆ แต่กูคงไม่มีวันนั้นว่ะ ขอโทษด้วยนะ เพราะคนอย่างกูไม่รักใครง่าย ๆ เหมือนมึงหรอก” มิลลิยืนมองพี่ชายกับแฟนยืนเถียงกันแบบเด็ก ๆ แล้วก็ส่ายหัวออกมา ดูท่าว่าเธอจะต้องเจอแบบนี้ไปตลอด เพราะสองคนนี้ดูเป็นคนไม่ยอมใครทั้งคู่ “ไปได้แล้วค่ะ”เธอตัดบทก่อนจะขึ้นไปรอบนรถคนเป็นพี่ชาย มองเห็นสองคนยังยืนเถียงกันต่อ จนเธอต้องเปิดกระจกตะโกนเรียกพี่ชายให้ขึ้นรถได้แล้ว “เตรียมจะบอกพ่อกับแม่เมื่อไหร่” ระหว่างที่นั่งบนรถ พี่ชายก็ถามเธอถึงเรื่องนี้ แต่ก็เป็นเ
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! เสียงตอกอัดเข้าออกรุนแรงอย่างดิบเถื่อน จนร่างเล็กโยกโคลงตามแรงกระแทกนั้น เธอต้องเอามือขึ้นเกาะบ่าเขาไว้ เล็บจิกเกร็งตรงผิวเนื้อเขาจนเลือดซิบ ใบหน้าสวยเหยเก หลับตาคราญครางเสียงดังด้วยความเสียวซ่าน ทุกจังหวะการกระแทกที่เพิ่มระดับความแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามความกระสันที่พุ่งสูงขึ้น เหงื่อเม็ดโตผุดพลายบนใบหน้าหล่อเหลา กรามหนาขบเข้าหากันแน่นทุกครั้งที่ร่องรักของเธอตอดรัดเอ็นร้อนของเขาแรง ๆ รัว ๆ “อ๊าสส ตอดแรง พี่เสียวหัวมากเลยครับ” เสียงทุ้มครางกระเส่า พร้อมคำพูดหวานหู ที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน ยิ่งมาพูดเวลานี้ ยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านขึ้นถึงขีดสุด ร่างหนายังคงขยับโยกไปมาอย่างไม่ลดระดับความแรง มือหนาเอื้อมไปบีบเค้นอกอวบของเธอไปด้วย “มิลไม่ไหวแล้วค่ะ อื้อ~ อ๊าสส” มิลลิสะบัดหน้าไปมาด้วยความเสียวซ่าน ร้องครางเสียงดัง ก่อนที่เธอจะกระตุกตัวเกร็งปลดปล่อยออกมาทันที “อร้ายย”เมื่อเห็นเธอเสร็จแล้ว ยีนส์ก็เร่งความเร็วถึงขีดสุด กระแทกเข้าออกถี่ ๆ แรง ๆ ก่อนที่เขาจะแตกพร่า ฉีดอัดน้ำรักเข้าไปในร่องรักของมิลลิจนหมด “อึก อ๊าส”ครวญครางออกมาอย่างสุขสม ยีนส์แช่เอ็นร้อนเอาไว้ ไม่ได้ถอดอ
เมื่อประตูคอนโดเปิดออก ยีนส์ก็ผลักคนตัวเล็กติดผนังทันที แววตาคมเต็มไปด้วยเปลวเพลิง ร่างกายเครียดเกร็งไปหมดทุกส่วน บางอย่างที่แข็งขืนอยู่นาน ยิ่งทวีความต้องการมากขึ้น ริมฝีปากหนาก้มลงจูบดูดดื่มกับริมฝีปากอวบอิ่ม ส่งลิ้นร้อนเข้าไปกวาดต้อน เกี่ยวพันกับลิ้นเล็ก รสจูบแผดเผาร่างกายมิลลิจนร้อนรุ่มไปหมด ใจเต้นเสียงดังโครมคราม มันแตกต่างจากจูบทุกครั้งที่ผ่านมา นอกจากความเร่าร้อนแล้ว ยังเต็มไปด้วยความดุดัน ลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร มือเล็กยกขึ้นเกี่ยวคอแกร่ง เมื่อถูกความกระสันเสียวเล่นงานไม่หยุด จนร่างกายอ่อนปวกเปียกยืนทรงตัวแทบไม่ได้ มือหนาของคนตัวสูงยกขึ้นบีบสะโพกสวยอย่างจงใจ เขาค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้ง ของคนตัวเล็ก ก่อนจะมาเจอกับก้อนกลมด้านหน้าสองลูก ที่เขาออกแรงบีบเค้นมากกว่าปกติ ริมฝีปากก็ยังดูดดึงกันอยู่อย่างนั้น “อืม”เสียงทุ้มครางออกมาอย่างถูกใจ ก่อนจะผละริมฝีปากออกไป“พี่เจ็บจังเลยครับ” “ให้มิลทำยังไงคะ”รอยยิ้มกรุ่มกริ่มที่ส่งมา ทำให้เธอเขินอาย หน้าแดงก่ำ ช่วงริมฝีปากไม่สามารถหุบยิ้มได้ “มิลอยากทำยังไงกับพี่ครับ” “มิลอยากทำแผลให้พี่ค่ะ”ยีนส์กรอกตามอ