“แบบวันนี้ คือแม่พี่ชอบมิลหรือเปล่าคะ”มิลลิถามขึ้นตอนที่กลับมาถึงคอนโดของยีนส์แล้ว
“ใช้คำว่าถูกใจเลยดีกว่า” เขาไม่ได้อวยเธอเกินจริง แต่การที่แม่เอ่ยปากชวนเธอไปชิมขนมที่ร้าน มันเป็นสัญญาณว่าแม่เขาถูกใจเธอมาก “แต่มิลก็อยากจะตีพี่เหลือเกิน รู้ว่ามิลชอบกินขนม ยังไม่บอกมิลอีกว่าแม่พี่เปิดร้านขนม” เธอทำหน้างอนเขาและทิ้งตัวนั่งลงตรงโซฟา โดยยีนส์ก็เดินเข้ามากอดเธอ ยกตัวเธอขึ้นนั่งบนตักของเขา ก่อนที่จะกดริมฝีปากลงไปบนกลีบปากนุ่มของเธอเบา ๆ “พี่กลัวมิลจะไม่อยากเจอแม่พี่ต่างหาก อีกอย่างตอนนั้นพี่ก็ยังไม่รู้ใจตัวเองด้วย หลังจากนี้พี่จะพาไปจนมิลเบื่อเลยดีไหมครับ” “ดีค่ะ มิลอยากเปิดร้านขนมมาตั้งนานแล้ว” “เรียนบริหารแต่ไปเปิดร้านขนมเหรอ” “ความชอบกับความฝันมันต่างกันค่ะ มิลเรียนบริหารเพราะเห็นพี่ชายคนโตเรียนค่ะ อีกอย่างเรียนจบมิลก็ต้องไปทำงานกับบริษัทของพ่อ” “แล้วไอ้โซลล่ะ มันเรียนวิศวะเครื่องยนต์นะ” “พ่อมีบริษัทผลิตยานยนต์ค่ะ พี่โซลตามพ่อไปทำงานตั้งแต่เด็ก ๆ เลยอยากเป็นอย่างพ่อ” “นี่พี่ตกถังข้าวสารเหรอเนี๊ยะ ต่อไปมิลต้องเลี้ยงพี่ด้วยนะ” “พี่รวยกว่ามิลอีกนะคะ เป็นลูกคนเดียวด้วย พี่นั่นแหละต้องเลี้ยงมิล”คนตัวสูงกดจมูกตรงแก้มของเธอแรง ๆ หนึ่งทีอย่างหมั่นเขี้ยว ที่เธอทำแก้มป่อง ๆ แกล้งเขา “พี่ยินดีเลี้ยงมิลอยู่แล้ว แต่มิลก็ต้อง….”เสียงทุ้มแกล้งเว้นจังหวะอย่างจงใจ นิ้วเรียวเริ่มไต่ขึ้นไปตามแขนเล็กของเธอ “ก็ต้องอะไรคะ”มิลลิถามพร้อมทำหน้าซื่อตาใส แกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร “ให้รางวัลพี่ด้วยนะ” “มิลให้พี่อยู่ทุกคืนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มิลมีอะไรจะบอกพี่ค่ะ” “หืม?” “พี่ฟรินท์ให้มิลพาพี่เข้าไปหาพ่อพรุ่งนี้ค่ะ” ได้ยินประโยคของเธอ ใจแกร่งก็กระตุกขึ้นมาทันที คนตัวสูงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ยอมรับว่ากลัวที่ต้องเจอพ่อเธอตอนนี้ ทั้งใบหน้าและตามลำตัวหรือแม้แต่ขาของเขา ยังมีรอยฟกช้ำอยู่มาก ไม่รู้ว่าที่พ่อตาจะใช้วิธีไหนรับน้องเขานะสิ “กลัวเหรอคะ” “ไม่ได้กลัวครับ พี่อยากไป” ใครจะกล้าบอกเธอว่ากลัว แค่ได้ยินว่าต้องไปหาว่าที่พ่อตาพรุ่งนี้ จากอยากจะทำรักกับเธอสักรอบ แก่นกายเขาก็หดลงไปทันที คืนนี้คงต้องงด เขาต้องการพักผ่อนร่างกายให้แข็งแรง เตรียมไปเจอกับว่าที่พ่อตา เมื่อคิดได้แบบนั้น ยีนส์ก็ลุกขึ้นจากโซฟาทันที เดินเข้าห้องนอน ทิ้งให้คนตัวเล็กนั่งหัวเราะการกระทำของเขาอยู่คนเดียว “ไหนบอกไม่กลัวไงคะ”เธอแกล้งตะโกนหยอกล้อเขาไป ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์โทรหาคนเป็นแม่ อย่างน้อยเธอก็ควรจะมีพวกไว้ก่อน เพราะดูท่าทางพี่ชายทั้งสองคนของเธอจะเป็นพวกเดียวกับพ่อหมดแล้ว “แม่ขา” (ว่าไงคะ ลูกสาวแม่) “พรุ่งนี้…” (แม่อยู่ข้างลูก) ยังไม่ทันพูดจบประโยค คนเป็นแม่ก็ตอบมาทันทีอย่างรู้ใจ เพราะเหตุนี้ไงเธอถึงได้รักแม่ที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความไม่รักพ่อ เพียงแต่เธอจะกลัวพ่อมากกว่าเท่านั้นเอง (มิลไม่ต้องกลัวนะ ถ้าพ่อทำอะไรแฟนมิล แม่จะจัดการพ่อเอง) “คิก คิก จัดการยังไงคะ” (เมื่อก่อนตัวเองก็ร้ายใช่ย่อย จะมาทำว่าที่ลูกเขยแม่ไม่ยอมหรอก) “แม่จำพี่ยีนส์ได้ไหมคะ เห็นว่าพี่เขาเคยไปบ้านเรามาก่อน” (จำได้สิลูก เพื่อนพี่โซลคนนี้เป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด กับหนูเขาพูดมากหรือเปล่า) “พูดมากค่ะ” (จริงเหรอ แม่ยังคิดว่าเขาจะพูดไม่ทันมิลของแม่เสียอีก) แม่เป็นแบบนี้กับเธอเสมอ เป็นคนที่เข้าใจเธอและรู้ทันเธอไปหมดทุกเรื่อง ในสายตาเธอแม่เป็นคนค่อนข้างหัวสมัยใหม่ ยังบอกให้เธอมีแฟนตั้งแต่เรียนปีหนึ่งด้วยซ้ำ “มิลรักแม่นะคะ” (แม่ก็รักมิลน้อยของแม่ที่สุด พรุ่งนี้เจอกันนะคะ) “ค่ะ ฝันดีนะคะ” วางสายจากคนเป็นแม่ คนตัวเล็กก็เข้าไปห้องนอน เห็นยีนส์นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนที่นอนด้วยท่าทางปกติ“คิดว่าพี่จะอาบน้ำ” “พี่รออาบพร้อมมิล”มิลลิทิ้งตัวลงนอนบนร่างหนาของเขา เธอเอามือกอดเอวเขาเอาไว้ หัวเล็กยกขึ้นมองสบตากับเขา ซึ่งเขาเองก็เอาโทรศัพท์วางลงและมองหน้าเธออยู่เหมือนกัน “มิลโทรหาแม่แล้วค่ะ” “แม่ว่าไงบ้างครับ” “แม่บอกว่าอยู่ข้างว่าที่ลูกเขยค่ะ” “หึ หึ”ยีนส์หัวเราะออกมาเบา ๆ เอามือลูบผมของเธอ จะบอกว่าเขาหลงเธอมากก็ไม่แปลก มิลลิเป็นผู้หญิงขี้อ้อนมาก และที่สำคัญเธอเป็นผู้หญิงที่ดีของผู้ชายร้าย ๆ อย่างเขา “อย่างน้อยพี่ก็มีแบคแล้วหนึ่งคน” “พี่อยากรู้แค่ว่า พ่อมิลมีปืนหรือเปล่าแค่นั้นแหละ” “ไม่รู้สิคะ รอดูพรุ่งนี้เลยแล้วกัน”มิลลิพูดตัดบท เมื่อรู้สึกว่าหนังตาของตัวเองมันเหมือนจะปิดเต็มที แต่เธอก็ยังยกหัวขึ้นไปตรงหน้าเขา กดจูบลงบนริมฝีปากของเขาเบา ๆ “ฝันดีนะคะ”และก็หลับไปทันที ยีนส์เองก็ง่วงแล้วเหมือนกัน เรื่องจะอาบน้ำตอนนี้คงต้องพับเก็บไปก่อน เพราะเมื่อคืนเขาเองก็จัดหนักจัดเต็ม และต้องตื่นเช้าไปส่งเธอ ทั้งที่นอนไปได้เพียงสองชั่วโมง ทำให้หลับตามเธอไปทันที บ้านบวรกิจวัฒนา “หวังว่าพี่จะจำที่ปิ่นบอกได้นะคะ”เพลิงหันหน้าหนีภรรยา เขาไม่พอใจเธอที่อยู่ ๆ ก็มาบอกให้เขายอมรับแฟนของลูกสาวโดยที่ไม่ต้องทำอะไร บอกตรง ๆ แค่เขารู้ว่าลูกสาวคนเดียวของเขามีแฟน ใจเขามันร้อนรนและคิดมากขนาดไหน ถ้าปิ่นมุกไม่ห้าม เขาอยากจะไปหาลูกตั้งแต่เมื่อวานแล้วด้วยซ้ำ “แต่มันเคยทำลูกเราเสียใจนะปิ่น” “แล้วพี่ไม่เคยทำผิดกับปิ่นเหรอคะ ความรู้สึกตอนนั้นของพี่เป็นยังไง” “เอ๊ะ!!! นี่ปิ่น เรื่องพี่กับไอ้ผู้ชายคนนั้นมันเหมือนกันที่ไหน” “เหมือนสิคะ เผลอ ๆ บางทีพี่อาจจะทำกับปิ่นมากกว่าด้วยซ้ำ” ปิ่นมุกพูดอย่างไม่ยอม เธอไม่มีทางปล่อยให้สามีทำอะไรแฟนมิลลิแน่ เพราะทั้งฟรินท์และโซลก็จัดการไปหมดแล้ว แบบนี้ต่อไปหากลูกแต่งงานกัน จะมองหน้ากันติดได้อย่างไร ลูกชายเธอเองก็มีส่วนผิดกับเรื่องในอดีต คนเราเคยผิดพลาดด้วยกันทั้งนั้น ขอแค่ปรับปรุงตัวได้ก็น่าจะพอแล้ว “ขนาดยังไม่ทันแต่งงานกับลูก ยังไม่รู้เลยว่าจะคบกับมิลลิไปได้นานแค่ไหน ปิ่นยังเข้าข้างมันขนาดนี้เลย” เพลิงพูดอย่างน้อยใจ เขาเป็นผัวแท้ ๆ เป็นพ่อของลูกเธอ แต่กลับไปเข้าข้างคนอื่นแบบนี้ จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไร “พูดด้วยเหตุผลนะคะ พี่เองก็เคยเจอเพื่อนตาโซลคนนี้มาก่อน ยังบอกว่าดูเป็นเด็กเงียบ ๆ ไม่มีพิษ ไม่มีภัยอะไร แต่ทำไมพอมาเป็นแฟนลูกสาวเรา พี่กลับไม่ชอบล่ะคะ ถ้าเป็นคนอื่นที่เราไม่เคยรู้จัก ปิ่นจะไม่ว่าพี่เลยนะคะ” มือเล็กของปิ่นมุกเอื้อมไปจับมือหนาของคนเป็นสามี เธอคิดว่าเขาเป็นคนมีเหตุผลมาตลอด ถึงจะใจร้อนไปบ้าง แต่เธอก็รู้ว่าเขารักเธอและลูกมากแค่ไหน แต่งงานกันมายี่สิบกว่าปี ไม่เคยทะเลาะรุนแรงกันสักครั้ง เขาจะเป็นฝ่ายยอมเธอตลอด หากเธอโกรธมาก ๆ ก็จะง้อและทำทุกอย่างให้เธอหายโกรธเขา “ตัดเรื่องนั้นออกไป พี่คิดว่าเด็กคนนี้ที่ลูกชายเราคบเป็นเพื่อนมาสิบกว่าปี เป็นคนไม่ดีเหรอคะ” “…..” “เรื่องนั้นลูกชายเราก็มีส่วนผิด ตาโซลเองก็ยอมรับกับปิ่นว่าเป็นความผิดของตัวเอง พี่เองก็ฟังอยู่ด้วยนะคะ ช่วงชีวิตวัยรุ่นก็แบบนี้แหละคะ เรามักจะขาดความยับยั้งชั่งใจ ทำในสิ่งที่ไม่ควรเสมอ เราน่าจะเข้าใจพวกเขาที่สุดนะคะ เพราะเราเองก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้ว” เพลิงหันมองหน้าภรรยา หลังจากที่นั่งฟังเธอพูดตั้งนาน มีทั้งที่เขายอมรับและยังทำใจไม่ได้ที่จะยอมรับ ถึงแม้สิ่งที่เธอพูดจะจริงก็เถอะ“พี่จะพยายาม” แค่คำนี้ ปิ่นมุกก็รู้ว่าเขาอ่อนลงมากแล้ว เลยต้องให้รางวัลโดยการหอมแก้มแรง ๆ หนึ่งที ทำเอาคนโดนหอมยิ้มออกมาทันที ที่คนเป็นเมียออดอ้อน เป็นผลให้ลูกชายสองคนที่เดินลงมาจากห้องนอน ส่งเสียงแซวมาแต่ไกล “เช้านี้มึงคันไหมว่ะไอ้โซล” “คันอะไรของพี่” “ก็มดเต็มเลยแถวนี้ สงสัยมีคนแอบหวานกัน“ ปิ่นมุกเอามือทุบอกเพลิงเบา ๆ เพราะเขินที่ลูกชายลงมาทันเห็นเธอหอมแก้มเขาพอดี แต่ทว่ายังไม่ทันได้หยอกล้อเธอกลับ ก็ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ทำให้ทั้งสี่คนเดินออกไปดูทันทียีนส์ขับรถหรูเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ เพื่อส่งมิลลิลงก่อน ส่วนเขาก็ขับไปจอดในลานจอดรถ ก่อนจะเดินลงมาหาเธอที่ยืนรออยู่ พร้อมกับว่าที่พ่อตา ว่าที่แม่ยาย และพี่ชายสองคนของเธอ คนตัวสูงยอมรับว่าประหม่ามาก แต่ก็ไม่ได้ถึงกับว่ากลัวอะไรขนาดนั้น เขาเองก็เป็นลูกผู้ชายมากพอ ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเคยทำไว้อยู่แล้ว เพราะงั้นไม่ว่าจะโดนอะไรเขาก็พร้อมจะยอมรับ ขอแค่อย่างเดียวอย่าให้เขาเลิกคบกับมิลลิ เพราะเป็นเรื่องเดียวที่เขาจะไม่ยอม “สวัสดีครับ”ยีนส์ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง และพี่ชายคนโตของมิลลิด้วยท่าทางปกติ ผิดกับสายตาของว่าที่พ่อตา ที่ดูเหมือนจะไม่พอใจเขามาก ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เพียงแต่สบัดหน้าหนีเขา ไม่รับไหว้เขาเหมือนอย่างแม่ของเธอ “เข้าบ้านกันดีกว่า มิลพาพี่เขาเข้ามาเร็วลูก” มิลลิจับมือของเขา เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกัน ตรงที่พ่อกับแม่นั่งรออยู่คือห้องรับแขกของบ้าน ยีนส์ทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามกับพ่อแม่ของมิลลิทันที ทุกสายตาจับจ้องมาที่เขาเป็นตาเดียว จากตอนแรกที่ไม่รู้สึกอะไร เจอแบบนี้เขาเองก็ต้องกุมมือเข้าหากันเพื่อลดอาการประหม่าของตัวเองตอนนี้ “เรื่องที่ผ่านมา แม่จะไม่พูดถึงมันนะ แต่หลังจากนี้
หลังจากงานแต่งจบลง ยีนส์และมิลลิก็รีบไปสนามบินทันที ทั้งคู่จะไปฮันนีมูนกันที่มัลดิฟส์ เป็นเจ้าสาวที่จองตั๋วเครื่องบินและที่พักเองหมดทุกอย่าง กำหนดการเที่ยวทุกอย่างใช้เวลา4วัน3คืน “มิลตื่นเต้นอยากเห็นทะเลใจจะขาดแล้วค่ะ”มิลลิเดินควงแขนสามีหนุ่มหล่อ เพื่อไปยังรถตู้ของโรงแรมที่เธอจองเอาไว้ แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาตีสี่กว่าแล้ว อีกทั้งยังเหนื่อยกับงานแต่ง แต่เธอกลับไม่รู้สึกง่วงสักนิด เพราะทะเลที่นี่ เธอใฝ่ฝันจะมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว “พี่อยากให้มิลพักหน่อยนะ”ยีนส์พูดไปตามที่คิด เพราะตั้งแต่ขึ้นเครื่องจนถึงตอนนี้ เขายังไม่เห็นเธอหลับเลย ทั้งที่ต้องตื่นตั้งแต่ตีสามเพื่อแต่งหน้า ทำผม ไหนจะยุ่งกับงานแต่งทั้งวัน เสร็จจากงานก็เที่ยงคืน ก็รีบมาสนามบินทันที เป็นเขาเสียอีกที่รู้สึกอ่อนเพลียมาก “ถึงที่พักแล้วค่อยนอนก็ได้ค่ะ สามีของมิลเหนื่อยแล้วเหรอคะ” “พี่ยอมแพ้มิล” รถตู้ของที่พักเข้ามาจอดตรงส่วนของโรงแรม แต่มิลลิจองเป็นที่พักติดทะเลไว้ เลยต้องใช้เวลาเดินไปอีก ขนาดว่าตอนนี้ตีห้า แต่ก็ยังมองเห็นความสวยงามของทะเล พนักงานของโรงแรมพาเดินไปตามสะพานไม้ที่พาไปยังที่พักเป็นหลังที่สร้างอยู่ในทะเล ก่อนที่จะหย
หลังจากบทรักตอนเที่ยงจบลง ท้องของมิลลิก็ส่งเสียงประท้วงเสียงดัง ตอนแรกคนตัวสูงอยากจะต่อรอบกับเธอด้วยซ้ำ เพราะบรรยากาศที่เป็นใจ ถึงจะร้อนไปหน่อย แต่มีความตื่นเต้นจากการทำรักเอาท์ดอร์ครั้งแรก แต่ทว่าคนตัวเล็กขอพักกินข้าวก่อน "ประจำเดือนมิลมาอยู่หรือเปล่า” ยีนส์ต้องถามภรรยาเรื่องนี้ เพราะหลังจากเธอเรียนจบก็ไม่ได้กินยาคุมอีก แต่ผ่านมาเกือบสามเดือน ทำไมเธอถึงยังไม่ท้องสักที ทั้งที่เขาขยันทำการบ้านกับเธอแทบตาย งัดกลเม็ดทุกอย่างมาใช้หมดแล้ว แต่ทว่ายังไร้วี่แวว “ที่จริงประจำเดือนมิลก็มาไม่ปกติอยู่แล้ว แต่เพื่อความสบายใจของพี่ มิลจะตรวจหลังจากเรากลับนะคะ” “เมื่อวานพ่อตาบอกว่าพี่ไม่มีน้ำยา”มิลลิหัวเราะออกมา เมื่อนึกถึงคำพูดของพ่อที่บ่นเธออยู่ทุกวันว่าเมื่อไหร่จะมีหลานให้ท่านสักที “หรือพี่จะไม่มีน้ำยาอย่างพ่อตาว่าจริง ๆ”เขายังคงคิดมากเรื่องนี้อยู่ ก็เขาอยากมีลูก พ่อกับแม่ของเขาก็อยากมีหลานหลาย ๆ คน “พี่อย่าคิดมากสิคะ มิลเพิ่งปล่อยได้แค่สองเดือนกว่า ๆ เอง ใครจะไปรู้ตอนนี้มิลอาจจะท้องแล้วก็ได้” “งั้นเราไปซื้อที่ตรวจมาตรวจเลยได้ไหม พี่อยากรู้ตอนนี้เลย มิลก็รู้ว่าพี่อยากมีลูกขนาดไหน” สุดท้าย
รถหรูคันสีดำเลี้ยวเข้าจอดที่จอดรถประจำ ลานจอดรถคณะวิศวะ เจ้าของความสูง 187 ใบหน้าหล่อเหลา แต่ทว่าเย็นชา เปิดประตูลงจากรถ ทำเอาสาว ๆ ทั้งในคณะและต่างคณะมองเป็นตาเดียวกัน พร้อมทั้งเสียงซุบซิบต่าง ๆ "กรี๊ด...หล่อมากเลยแก" "อยากได้เป็นพ่อของลูกอ่ะ" "เบ้าหน้าฟัาประทานมาก นี่ขนาดไม่ค่อยยิ้มนะ ฉันยังเก็บไปฝันอ่ะ" "จริง อยากรู้จังใครจะทำให้พี่เขายิ้มได้ว่ะ" ยีนส์เจ้าของหัวข้อสนทนา ไม่ได้สนใจเสียงซุบซิบเหล่านั้น ยังคงเย็นชาใบหน้าไร้ความรู้สึก เดินเร็ว ๆ ไปหากลุ่มเพื่อนสนิท ที่นั่งแซวสาว ๆ อยู่ที่ม้าหินอ่อน หน้าลานเกียร์ "ช้าจังว่ะ"คีรินเพื่อนสนิท ที่ถือกีตาร์ดีดเพลงแซวสาว เป็นงานถนัดที่เพื่อนคนนี้ทำประจำ "มึงมาไม่ทันเมื่อกี้..." "กูบอกว่าอย่าพูดไอ้ตะวัน ปากมากอีกแล้วมึง" ตะวันที่กำลังจะอ้าปากบอกอะไรบางอย่างกับยีนส์ ต้องหันมองคีรินที่เอามือมาตบหัวเขา "ถ้าจะพูดก็พูด" ถึงจะไม่ได้อยากรู้ แต่ดูเหมือนเพื่อนจะอยากบอกมากกว่า ยีนส์เลยไม่อยากขัดศรัทธาเพื่อน "กูเจอเพื่อนรักมึงว่ะ แม่ง!!! ควงเด็กอักษรฯ อีกแล้ว ใจคอมันจะเก็บทุกคณะเลยหรือไงว่ะ ก่อนหน้าก็เด็กบัญชี" แววตาคมของยีนส์เปลี่ยนไปเล็ก
คณะบริหาร "เดินผ่านทุกวัน ไม่เคยเห็นว่าเขาจะสนใจเลย พรุ่งนี้กูไม่ไปแล้วนะ เบื่ออีตานั่น แซวอยู่ได้" คาเทียร์บ่นพึมพำ เธอไม่ชอบผู้ชายเรียนวิศวะเลย ถึงพ่อเธอจะเป็นศิษย์เก่ามาก่อนก็เถอะ ผู้ชายท่าทางเถื่อน ๆ พวกนั้น ไม่พ้นนิสัยก็คงเถื่อนไม่ต่างกัน "มึงก็นะมิลลิ ไปชอบพี่เขาได้ยังไง กูยังไม่เห็นเคยยิ้มให้มึงเลย แถมยังนั่งก้มหน้าอีกต่างหาก ทำราวกับไม่สนใจผู้หญิงงั้นแหละ หยิ่ง ๆ แบบนี้ มีไรให้ชอบหนักหนา" "พี่เขาหล่อนะ มึงเห็นหรือเปล่า สาว ๆ มองเขาเต็มเลย แต่เขาไม่เห็นเคยสนใจใคร กูอยากเป็นคนนั้น คนที่เขายิ้มให้กูอย่างเต็มใจ" คาเทียร์และปลายฝนหันมองหน้า อย่างรู้กันว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนแบบไหน อยากได้อะไรต้องได้ ถึงจะไม่ได้เอาแต่ใจ แต่ก็เป็นคนมุ่งมั่น "อย่าให้พี่โซลกันพี่ฟรินท์รู้แล้วกัน กูสองคนไม่ช่วยนะ ตีนพี่มึงยิ่งหนัก ๆ อยู่ด้วย" ปลายฝนทำท่าขยาดขนลุก เพราะพี่ชายของมิลลิ เป็นประเภทหวงน้องสาวมาก "แต่ว่านะ พี่เขาเรียนปีเดียวกันกับพี่โซลนิ เขารู้จักกันป่าวว่ะ" "ไม่รู้...กูเคยเห็นเพื่อนพี่กูหมดทุกคน ไม่เคยเห็นพี่เขาเลย แต่ไม่กล้าถามหรอก" "เห้ออ...หนุ่ม ๆ ตามจีบเป็นขบวนรถไฟ มึงกลับไปชอบคน
"ทีหลังไม่ต้องมากินถึงที่นี่ ถ้าโรงอาหารที่คณะเต็ม ก็ออกไปกินข้างนอก เข้าใจหรือเปล่า" มิลลิยังคงถูกคนเป็นพี่ชายบ่นไม่หยุด ขนาดว่ากินข้าวจะเสร็จแล้ว ก็ยังทำหน้าไม่พอใจ "หรือว่าแอบชอบใครที่คณะนี้"สายตาคมของโซลหรี่มองน้องสาวอย่างจับผิด "แค่ก! แค่ก!" มิลลิสำลักออกมาทันที เมื่อคนเป็นพี่พูดแทงใจดำ พูดราวกับมานั่งอยู่ในใจเธอ หันหาเพื่อนสองคนเพื่อขอความช่วยเหลือ ถึงพี่ชายของเพื่อนจะหวงน้องสาวเหมือนกัน แต่คงไม่เท่าพี่ชายเธอทั้งสองคน "เอ่อ...คือ ไม่มีหรอกค่ะพี่โซล ทีหลังเราจะไม่มาอีกแล้วนะคะ จะไปกินคณะนิติฯ แทน" ปลายฝนแกล้งบอกออกไปแบบนั้น เพื่อให้โซลเห็นว่า ไม่ว่าจะคณะไหนก็มีผู้ชายทั้งนั้น "ไม่ต้อง บอกว่าให้ออกไปกินข้างนอก" "กินข้างนอกอะไร บางวันพักแค่ชั่วโมงเดียวมันไม่ทัน ไม่รู้แหละต่อไปมิลจะมากินที่นี่แหละ ใกล้กว่าคณะอื่นด้วย" "อย่าดื้อได้ไหมมิล เดี๋ยวฟ้องพ่อนะ หรือพี่ฟรินท์ดี หรือแม่" เมื่อถูกเอ่ยขู่ ด้วยคนที่เธอกลัวทั้งนั้น ก็ทำให้ร่างเล็กหุบปากลงไปได้ทันที "เราก็เหมือนกันเทียร์ ไหนบอกไม่ชอบผู้ชายคณะนี้ เถื่อนอย่างนั้น เถื่อนอย่างนี้ ทำไมไม่ห้ามเพื่อน" "แล้วทำไมเทียร์ต้องห้าม เร
หลังจากเล่นเกมส์จ้องตาอยู่นาน เป็นมิลลิเองที่ทนสายตาคมที่ส่งมาไม่ไหว ใบหน้าเธอร้อนผ่าวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน "หน้ามึงแดงมากเลย เก็บอาการหน่อย" "กูทำไม่ได้ ทำไงดีอ่ะ พี่เขาต้องรู้แล้วแน่เลยว่ากูชอบ"มิลลิลนลาน พยายามหันใบหน้าหนีเขา แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงสายตาคมอยู่ตลอด แบบนี้หัวใจเธอก็ทำงานหนัก เพราะตอนนี้มันเต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้ "อยากรู้ไหม? พี่เขาชื่ออะไร" "มึงจะไปถามเหรอ" "เปล่า แต่กูคิดว่าผู้หญิงในคาเฟ่รู้จักพี่เขาหลายคน มึงดูสิ แต่ละคนจ้องพี่เขาตาเป็นมัน" มิลลิหันมองรอบ ๆ ก็พบว่าที่ปลายฝนพูดเป็นเรื่องจริง แสดงว่าพี่เขาน่าจะฮอตมาก แต่เธอก็ไม่สงสัย เพราะจากรูปร่าง หน้าตาแล้ว จะเป็นคนดังของคณะวิศวะ ก็ไม่น่าแปลกใจ "คู่แข่งมึงเพียบเลย แต่มั่น ๆ เข้าไว้นะ" "...." "เพราะกูว่าเขาตามมึงมาชัวร์ ไม่งั้นไม่มานั่งส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มหามึงแบบนี้หรอก" พนักงานกำลังเดินเอาเครื่องดื่มที่สั่งมาเสิร์ฟ ก่อนจะถูกพวกรุ่นพี่สามคนเรียกตัวไว้ก่อน มิลลิสังเกตุเห็นว่าพวกพี่สามคนนั้น หันมามองกลุ่มเธอเป็นตาเดียว ก่อนที่พนักงานเสิร์ฟจะเดินตรงมาโต๊ะเธอ "เอ่อ...คือว่าน้องกลุ่มนั้น เขาจ่ายค่
ยีนส์กลับมาถึงคอนโดสุดหรูของเขา ห้องพักที่มีขนาดใหญ่ สมกับฐานะลูกชายเจ้าของโรงแรมหรูชื่อดัง อันที่จริงคนเป็นแม่อยากให้เขาไปอยู่ที่โรงแรมมากกว่า แต่ทว่าเขาไม่ชอบให้ตัวเองอยู่ในสายตาครอบครัวมากเกินไป หากไม่ได้ไปมหาลัย หรือเพื่อนสองคนชวนไปผับ เขาก็ไม่เคยออกไปไหน นิสัยจริง ๆ คือค่อนข้างเป็นคนเก็บตัว นอกจากคีรินกับตะวัน เขาก็ไม่มีเพื่อนสนิทที่ไหนอีก ยกเว้นเมื่อก่อน ที่เพื่อนที่เขาสนิทที่สุดคือโซล เราสองคนคบกันตั้งแต่มัธยมต้น เรียนห้องเดียวกันมาตลอด เข้ามาเรียนมหาลัยก็ยังเรียนคณะเดียวกัน ถึงจะคนละสาขา แต่ก็ตัวติดกันเหมือนปาท่องโก๋ ไม่เคยมีความลับต่อกัน จนกระทั่งเกิดเรื่องเกือบสองปีก่อน ตอนเข้าเรียนปีหนึ่งใหม่ ๆ เขาชอบผู้หญิงคนหนึ่ง เรียนคณะนิเทศศาสตร์ปีเดียวกัน ตามจีบอยู่สักพัก ยอมรับว่าเธอคือรักแรกของเขา เป็นผู้หญิงที่ตรงสเปกทุกอย่าง จนกระทั่งได้คบกันเป็นแฟน เพื่อนทุกคนต่างรู้จักเธอ เพราะเขาพาไปไหนมาไหนด้วยกัน ในมหาลัยก็นั่งกินข้าวด้วยกันตลอด เราสองคนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันหลังจากตกลงเป็นแฟนกันทันที บางครั้งเธอก็มานอนกับเขาที่คอนโด แต่ไม่เคยให้เขาไปนอนที่คอนโดของเธอ เราคบกันได้ประมาณห
หลังจากบทรักตอนเที่ยงจบลง ท้องของมิลลิก็ส่งเสียงประท้วงเสียงดัง ตอนแรกคนตัวสูงอยากจะต่อรอบกับเธอด้วยซ้ำ เพราะบรรยากาศที่เป็นใจ ถึงจะร้อนไปหน่อย แต่มีความตื่นเต้นจากการทำรักเอาท์ดอร์ครั้งแรก แต่ทว่าคนตัวเล็กขอพักกินข้าวก่อน "ประจำเดือนมิลมาอยู่หรือเปล่า” ยีนส์ต้องถามภรรยาเรื่องนี้ เพราะหลังจากเธอเรียนจบก็ไม่ได้กินยาคุมอีก แต่ผ่านมาเกือบสามเดือน ทำไมเธอถึงยังไม่ท้องสักที ทั้งที่เขาขยันทำการบ้านกับเธอแทบตาย งัดกลเม็ดทุกอย่างมาใช้หมดแล้ว แต่ทว่ายังไร้วี่แวว “ที่จริงประจำเดือนมิลก็มาไม่ปกติอยู่แล้ว แต่เพื่อความสบายใจของพี่ มิลจะตรวจหลังจากเรากลับนะคะ” “เมื่อวานพ่อตาบอกว่าพี่ไม่มีน้ำยา”มิลลิหัวเราะออกมา เมื่อนึกถึงคำพูดของพ่อที่บ่นเธออยู่ทุกวันว่าเมื่อไหร่จะมีหลานให้ท่านสักที “หรือพี่จะไม่มีน้ำยาอย่างพ่อตาว่าจริง ๆ”เขายังคงคิดมากเรื่องนี้อยู่ ก็เขาอยากมีลูก พ่อกับแม่ของเขาก็อยากมีหลานหลาย ๆ คน “พี่อย่าคิดมากสิคะ มิลเพิ่งปล่อยได้แค่สองเดือนกว่า ๆ เอง ใครจะไปรู้ตอนนี้มิลอาจจะท้องแล้วก็ได้” “งั้นเราไปซื้อที่ตรวจมาตรวจเลยได้ไหม พี่อยากรู้ตอนนี้เลย มิลก็รู้ว่าพี่อยากมีลูกขนาดไหน” สุดท้าย
หลังจากงานแต่งจบลง ยีนส์และมิลลิก็รีบไปสนามบินทันที ทั้งคู่จะไปฮันนีมูนกันที่มัลดิฟส์ เป็นเจ้าสาวที่จองตั๋วเครื่องบินและที่พักเองหมดทุกอย่าง กำหนดการเที่ยวทุกอย่างใช้เวลา4วัน3คืน “มิลตื่นเต้นอยากเห็นทะเลใจจะขาดแล้วค่ะ”มิลลิเดินควงแขนสามีหนุ่มหล่อ เพื่อไปยังรถตู้ของโรงแรมที่เธอจองเอาไว้ แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาตีสี่กว่าแล้ว อีกทั้งยังเหนื่อยกับงานแต่ง แต่เธอกลับไม่รู้สึกง่วงสักนิด เพราะทะเลที่นี่ เธอใฝ่ฝันจะมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว “พี่อยากให้มิลพักหน่อยนะ”ยีนส์พูดไปตามที่คิด เพราะตั้งแต่ขึ้นเครื่องจนถึงตอนนี้ เขายังไม่เห็นเธอหลับเลย ทั้งที่ต้องตื่นตั้งแต่ตีสามเพื่อแต่งหน้า ทำผม ไหนจะยุ่งกับงานแต่งทั้งวัน เสร็จจากงานก็เที่ยงคืน ก็รีบมาสนามบินทันที เป็นเขาเสียอีกที่รู้สึกอ่อนเพลียมาก “ถึงที่พักแล้วค่อยนอนก็ได้ค่ะ สามีของมิลเหนื่อยแล้วเหรอคะ” “พี่ยอมแพ้มิล” รถตู้ของที่พักเข้ามาจอดตรงส่วนของโรงแรม แต่มิลลิจองเป็นที่พักติดทะเลไว้ เลยต้องใช้เวลาเดินไปอีก ขนาดว่าตอนนี้ตีห้า แต่ก็ยังมองเห็นความสวยงามของทะเล พนักงานของโรงแรมพาเดินไปตามสะพานไม้ที่พาไปยังที่พักเป็นหลังที่สร้างอยู่ในทะเล ก่อนที่จะหย
ยีนส์ขับรถหรูเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ เพื่อส่งมิลลิลงก่อน ส่วนเขาก็ขับไปจอดในลานจอดรถ ก่อนจะเดินลงมาหาเธอที่ยืนรออยู่ พร้อมกับว่าที่พ่อตา ว่าที่แม่ยาย และพี่ชายสองคนของเธอ คนตัวสูงยอมรับว่าประหม่ามาก แต่ก็ไม่ได้ถึงกับว่ากลัวอะไรขนาดนั้น เขาเองก็เป็นลูกผู้ชายมากพอ ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเคยทำไว้อยู่แล้ว เพราะงั้นไม่ว่าจะโดนอะไรเขาก็พร้อมจะยอมรับ ขอแค่อย่างเดียวอย่าให้เขาเลิกคบกับมิลลิ เพราะเป็นเรื่องเดียวที่เขาจะไม่ยอม “สวัสดีครับ”ยีนส์ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง และพี่ชายคนโตของมิลลิด้วยท่าทางปกติ ผิดกับสายตาของว่าที่พ่อตา ที่ดูเหมือนจะไม่พอใจเขามาก ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เพียงแต่สบัดหน้าหนีเขา ไม่รับไหว้เขาเหมือนอย่างแม่ของเธอ “เข้าบ้านกันดีกว่า มิลพาพี่เขาเข้ามาเร็วลูก” มิลลิจับมือของเขา เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกัน ตรงที่พ่อกับแม่นั่งรออยู่คือห้องรับแขกของบ้าน ยีนส์ทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามกับพ่อแม่ของมิลลิทันที ทุกสายตาจับจ้องมาที่เขาเป็นตาเดียว จากตอนแรกที่ไม่รู้สึกอะไร เจอแบบนี้เขาเองก็ต้องกุมมือเข้าหากันเพื่อลดอาการประหม่าของตัวเองตอนนี้ “เรื่องที่ผ่านมา แม่จะไม่พูดถึงมันนะ แต่หลังจากนี้
“แบบวันนี้ คือแม่พี่ชอบมิลหรือเปล่าคะ”มิลลิถามขึ้นตอนที่กลับมาถึงคอนโดของยีนส์แล้ว “ใช้คำว่าถูกใจเลยดีกว่า” เขาไม่ได้อวยเธอเกินจริง แต่การที่แม่เอ่ยปากชวนเธอไปชิมขนมที่ร้าน มันเป็นสัญญาณว่าแม่เขาถูกใจเธอมาก “แต่มิลก็อยากจะตีพี่เหลือเกิน รู้ว่ามิลชอบกินขนม ยังไม่บอกมิลอีกว่าแม่พี่เปิดร้านขนม” เธอทำหน้างอนเขาและทิ้งตัวนั่งลงตรงโซฟา โดยยีนส์ก็เดินเข้ามากอดเธอ ยกตัวเธอขึ้นนั่งบนตักของเขา ก่อนที่จะกดริมฝีปากลงไปบนกลีบปากนุ่มของเธอเบา ๆ “พี่กลัวมิลจะไม่อยากเจอแม่พี่ต่างหาก อีกอย่างตอนนั้นพี่ก็ยังไม่รู้ใจตัวเองด้วย หลังจากนี้พี่จะพาไปจนมิลเบื่อเลยดีไหมครับ” “ดีค่ะ มิลอยากเปิดร้านขนมมาตั้งนานแล้ว” “เรียนบริหารแต่ไปเปิดร้านขนมเหรอ” “ความชอบกับความฝันมันต่างกันค่ะ มิลเรียนบริหารเพราะเห็นพี่ชายคนโตเรียนค่ะ อีกอย่างเรียนจบมิลก็ต้องไปทำงานกับบริษัทของพ่อ” “แล้วไอ้โซลล่ะ มันเรียนวิศวะเครื่องยนต์นะ” “พ่อมีบริษัทผลิตยานยนต์ค่ะ พี่โซลตามพ่อไปทำงานตั้งแต่เด็ก ๆ เลยอยากเป็นอย่างพ่อ” “นี่พี่ตกถังข้าวสารเหรอเนี๊ยะ ต่อไปมิลต้องเลี้ยงพี่ด้วยนะ” “พี่รวยกว่ามิลอีกนะคะ เป็นลูกคนเดียวด้วย พี่นั่น
“พี่ไม่แปลกใจเลย ทำไมพี่ชายมิลถึงหวงมิลนัก” “ใช่ค่ะ เราห่างกันคนละปีกว่า ๆ เอง คลอดปุ๊บ แม่ก็ท้องปั๊บเลย” “อาทิตย์หน้าไปกินข้าวบ้านพี่บ้างสิ พี่อยากให้แม่กับพ่อพี่ได้รู้จักว่าที่ลูกสะใภ้” “พี่เคยพาแฟนเก่าเข้าบ้านหรือเปล่าคะ” ที่ถามไม่ใช่ว่าเพราะเธอโกรธหรอก เธอเองก็ทำใจเรื่องใจอดีตเขาได้แล้ว เพียงแต่ถามเพื่อจะได้ทำตัวถูกเวลาเจอหน้าพ่อกับแม่ของเขา “ไม่เคย ตอนนั้นพี่เพิ่งเรียนปีหนึ่งเองนะ ยังไม่คิดเรื่องนี้เลย” “….” “แต่ตอนนี้พี่คิดแล้วนะ พี่เป็นคนรักคนยากนะมิล ถ้าพี่รักแล้ว พี่ก็อยากจะคบกับเขาให้นานที่สุด” ยิ่งเขาพูด เธอก็ยิ่งเขินหน้าแดงจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็ไม่อยากจะคิดหรอกว่าเธอโชคดีแค่ไหน ที่ได้เป็นคนนั้นในใจเขา เรื่องของความรัก มันไม่ใช่อีกฝ่ายต้องเป็นฝ่ายโชคดีอย่างเดียว แต่มันคือการที่คนสองคนโชคดีทั้งคู่ต่างหากที่ได้มาเจอกัน ตอนนี้อยากจะบอกแฟนเก่าของเขาเหลือเกินว่าขอบคุณนะคะ ที่ทิ้งเขามาจนเจอกับเธอ 21.30 น. บรรยากาศในผับสุดหรูของพายุ ที่มีศักดิ์เป็นลุงของมิลลิ เธอไม่ค่อยได้มาที่นี่ นอกจากว่าจะมาพี่ชายหรือคนเป็นพ่อ เวลามีงานฉลองอะไร ครอบครัวของเธอมักจะเลือกมาฉลองกันที่นี่
“กว่าครอบครัวมิลจะยอมรับพี่ กระดูกพี่ไม่หักไปก่อนเหรอ” “หักไม่ได้คะ มิลไม่ยอมหรอก ว่าแต่….” “แต่อะไร?” “ว่าแต่มีตรงไหนให้พ่อมิลทำพี่ได้อีกบ้างค่ะ หน้าโดนแล้ว ขาโดนแล้ว งั้นหลังได้ไหมคะ” “มิลลิ”เสียงทุ้มเรียกชื่อเธออย่างไม่เชื่อ ตอนแรกเขาก็คิดว่าเธอพูดเล่น แต่ทำไมท่าทางเธอตอนนี้ถึงดูจริงจังขนาดนี้ “คิก คิก มิลพูดเล่นค่ะ เหลือด่านสุดท้ายแล้วนะคะ” มิลลิเข้าไปออดอ้อนแฟนหนุ่ม ตอนนี้ที่พวกเธอนั่งอยู่ท่ามกลางสายตาของเพื่อนสนิทมิลลิสองคน ตรงใต้ตึกคณะบริหาร ทำให้เพื่อนสองคนนั่งมองเธอด้วยสายตาหมั่นไส้ “งั้นมิลก็ต้องปลอบใจพี่ด้วยนะ ดูสิ”เขาเอียงหน้าให้เธอดูรอยแผลตรงมุมปาก คนตัวเล็กหันซ้าย หันขวา ก่อนจะกดริมฝีปากลงไปเบา ๆ อย่างเอาใจ “แหวะ!!! อีมิล กูจะอ้วก” คาเทียร์มองบนทนความคลั่งรักของคู่นี้ไม่ไหว ต้องทำท่าอ้วกออกมา โดยมีปลายฝนนั่งหัวเราะอยู่ข้าง ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่สนใจพวกเธอสักนิด ยังคงนั่งออดอ้อนกันอยู่แบบนั้น ราวกับว่าโลกนี้มีเพียงสองเรา “ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ยีนส์จะเป็นคนคลั่งรักขนาดนี้”ปลายฝนพูดขึ้นขณะเดินไปเรียนวิชาช่วงเช้า “ไม่ใช่แค่พี่ยีนส์หรอก อีเพื่อนตัวดีของเราก็น้อยห
ยีนส์ทำสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เขาเดินลงมาส่งเธออย่างไม่เต็มใจ เมื่อเห็นสีหน้ายียวนของไอ้เพื่อนเวร เขาก็ชักสีหน้าใส่มันทันที “ทำไมมึงทำหน้าบูดแบบนั้นล่ะว่ะ” โซลแซวด้วยรอยยิ้มขบขัน เขารู้ว่ามันไม่เต็มใจจะให้น้องสาวเขากลับ ยอมรับว่าที่มารับมิลลิ ก็เพราะเขาอยากแกล้งมันโดยตรง หมั่นไส้มันที่เคยทำกับน้องเขา แล้วมาดี๊ด๊าเมื่อน้องเขาให้อภัยมันง่าย ๆ “ไอ้เวร มึงเอาคืนกูที่น้องมึงให้อภัยกูใช่ไหม” “ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!”โซลหัวเราะเสียงดัง ไม่อยากเชื่อว่ามันจะอ่านใจเขาออกขนาดนี้ “สัด!!! กูขอแช่งให้มึงโดนบ้างเวลามึงมีความรัก มึงคอยดู” “แม่ง!!! แช่งเป็นเด็ก ๆ แต่กูคงไม่มีวันนั้นว่ะ ขอโทษด้วยนะ เพราะคนอย่างกูไม่รักใครง่าย ๆ เหมือนมึงหรอก” มิลลิยืนมองพี่ชายกับแฟนยืนเถียงกันแบบเด็ก ๆ แล้วก็ส่ายหัวออกมา ดูท่าว่าเธอจะต้องเจอแบบนี้ไปตลอด เพราะสองคนนี้ดูเป็นคนไม่ยอมใครทั้งคู่ “ไปได้แล้วค่ะ”เธอตัดบทก่อนจะขึ้นไปรอบนรถคนเป็นพี่ชาย มองเห็นสองคนยังยืนเถียงกันต่อ จนเธอต้องเปิดกระจกตะโกนเรียกพี่ชายให้ขึ้นรถได้แล้ว “เตรียมจะบอกพ่อกับแม่เมื่อไหร่” ระหว่างที่นั่งบนรถ พี่ชายก็ถามเธอถึงเรื่องนี้ แต่ก็เป็นเ
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! เสียงตอกอัดเข้าออกรุนแรงอย่างดิบเถื่อน จนร่างเล็กโยกโคลงตามแรงกระแทกนั้น เธอต้องเอามือขึ้นเกาะบ่าเขาไว้ เล็บจิกเกร็งตรงผิวเนื้อเขาจนเลือดซิบ ใบหน้าสวยเหยเก หลับตาคราญครางเสียงดังด้วยความเสียวซ่าน ทุกจังหวะการกระแทกที่เพิ่มระดับความแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามความกระสันที่พุ่งสูงขึ้น เหงื่อเม็ดโตผุดพลายบนใบหน้าหล่อเหลา กรามหนาขบเข้าหากันแน่นทุกครั้งที่ร่องรักของเธอตอดรัดเอ็นร้อนของเขาแรง ๆ รัว ๆ “อ๊าสส ตอดแรง พี่เสียวหัวมากเลยครับ” เสียงทุ้มครางกระเส่า พร้อมคำพูดหวานหู ที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน ยิ่งมาพูดเวลานี้ ยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านขึ้นถึงขีดสุด ร่างหนายังคงขยับโยกไปมาอย่างไม่ลดระดับความแรง มือหนาเอื้อมไปบีบเค้นอกอวบของเธอไปด้วย “มิลไม่ไหวแล้วค่ะ อื้อ~ อ๊าสส” มิลลิสะบัดหน้าไปมาด้วยความเสียวซ่าน ร้องครางเสียงดัง ก่อนที่เธอจะกระตุกตัวเกร็งปลดปล่อยออกมาทันที “อร้ายย”เมื่อเห็นเธอเสร็จแล้ว ยีนส์ก็เร่งความเร็วถึงขีดสุด กระแทกเข้าออกถี่ ๆ แรง ๆ ก่อนที่เขาจะแตกพร่า ฉีดอัดน้ำรักเข้าไปในร่องรักของมิลลิจนหมด “อึก อ๊าส”ครวญครางออกมาอย่างสุขสม ยีนส์แช่เอ็นร้อนเอาไว้ ไม่ได้ถอดอ
เมื่อประตูคอนโดเปิดออก ยีนส์ก็ผลักคนตัวเล็กติดผนังทันที แววตาคมเต็มไปด้วยเปลวเพลิง ร่างกายเครียดเกร็งไปหมดทุกส่วน บางอย่างที่แข็งขืนอยู่นาน ยิ่งทวีความต้องการมากขึ้น ริมฝีปากหนาก้มลงจูบดูดดื่มกับริมฝีปากอวบอิ่ม ส่งลิ้นร้อนเข้าไปกวาดต้อน เกี่ยวพันกับลิ้นเล็ก รสจูบแผดเผาร่างกายมิลลิจนร้อนรุ่มไปหมด ใจเต้นเสียงดังโครมคราม มันแตกต่างจากจูบทุกครั้งที่ผ่านมา นอกจากความเร่าร้อนแล้ว ยังเต็มไปด้วยความดุดัน ลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร มือเล็กยกขึ้นเกี่ยวคอแกร่ง เมื่อถูกความกระสันเสียวเล่นงานไม่หยุด จนร่างกายอ่อนปวกเปียกยืนทรงตัวแทบไม่ได้ มือหนาของคนตัวสูงยกขึ้นบีบสะโพกสวยอย่างจงใจ เขาค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้ง ของคนตัวเล็ก ก่อนจะมาเจอกับก้อนกลมด้านหน้าสองลูก ที่เขาออกแรงบีบเค้นมากกว่าปกติ ริมฝีปากก็ยังดูดดึงกันอยู่อย่างนั้น “อืม”เสียงทุ้มครางออกมาอย่างถูกใจ ก่อนจะผละริมฝีปากออกไป“พี่เจ็บจังเลยครับ” “ให้มิลทำยังไงคะ”รอยยิ้มกรุ่มกริ่มที่ส่งมา ทำให้เธอเขินอาย หน้าแดงก่ำ ช่วงริมฝีปากไม่สามารถหุบยิ้มได้ “มิลอยากทำยังไงกับพี่ครับ” “มิลอยากทำแผลให้พี่ค่ะ”ยีนส์กรอกตามอ