ภูผา.....
สุดท้ายผมก็ไม่ได้ให้คำตอบเอินว่าจะพาไปไหนเพราะมันไม่มีแพลนตั้งแต่แรก แล้วการที่เอินมาหาผมที่บ้านผมก็ไม่รู้ด้วยว่ามาได้ยังไงใครบอกให้มาตอนแรกผมกะว่าจะขอตัวไปนอนเพราะเหนื่อยจากการเดินทางข้ามประเทศคือผมไม่อยากคุยกับใครอยากนอนมากกว่าแต่บังเอิญว่าสายผมมันดันเหลือบไปเห็นเงาของใครบางคนที่แอบหลบอยู่หลังประตูซึ่งผมรู้ว่าเป็นใครไปไม่ได้นอกจากยัยเด็กข้างบ้านว่าที่คู่หมั้นของผมเองผมก็เลยชวนเอินคุยอย่างสนิทสนมทั้งที่จริงแล้วผมไม่ได้อะไรกับเอิน
ผมขับรถมาเรื่อยๆ จนมาถึงคาเฟ่แห่งหนึ่งใกล้ๆ บ้านเพราะผมไม่อยากไปไหนไกลๆ อยากนอกมากกว่า
"พี่ภูคะเอินมีเรื่องจะถามพี่ภูหน่อยค่ะไม่รู้ว่าจะเป็นการละลาบละล้วงเกินไปหรือเปล่า"
"เรื่องอะไร"
"เรื่อง..เรื่องที่พี่ภูจะหมั้นกับอัยวาน่ะค่ะพี่ภูต้องหมั้นด้วยจริงๆ เหรอคะ" เรื่องนี้ผมก็เครียดอยู่เหมือนกันเพราะผมไม่อยากหมั้นผมไม่ชอบการถูกจับคลุมถุงชนนี่มันปีสองพันยี่สิบสี่แล้วนะแล้วหมั้นกับใครไม่หมั้นต้องหมั้นกับยัยอัยวาอีกคือผมไม่ได้รักไม่ได้ชอบจะให้หมั้นกันได้ยังไง ผมคิดว่าผมอาจจะต้องคุยเรื่องนี้กับพ่อแม่อย่างจริงจังอีกครั้งจะให้ผมมีคู่หมั้นนิสัยแย่เอาแต่ใจแบบนี้ผมไม่ไหวว่ะ ถ้าอนาคตต้องแต่งงานกันอีกชีวิตนี้คงหาความสุขไม่เจอแล้วยิ่งแม่ผมชอบตามใจแบบนี้ด้วยแล้วผมคิดว่าชีวิตคู่คงมีปัญหาเพราะฉะนั้นผมควรจะต้องตัดไฟแต่ต้นลมโดยการยกเลิกงานหมั้น
"ทำไมพี่ภูเงียบไปล่ะคะหรือว่าพี่ภูคิดที่จะหมั้นกับอัยวา"
"เรื่องนั้นพี่ยังไม่ได้ตัดสินใจ" ผมพูดตัดบทเพราะไม่รู้พ่อกับแม่จะยอมไหมถ้าผมจะยกเลิกการหมั้น
"พี่ภูไม่หมั้นได้มั้ยคะ" ผมหันไปมองหน้าเอินที่ทำหน้าเศร้าเสียงสั่นเหมือนจะร้องไห้
"ทำไม"
"เอินสงสารพี่ภูค่ะ"
"สงสารพี่??" ผมถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
"ใช้ค่ะถ้าพี่ภูต้องหมั้นกับอัยวาอย่าหาว่าเอินพูดลับหลังหรือเอาเรื่องคนในครอบครัวมาพูดเลยนะคะ พี่ภูคงไม่รู้ว่าตอนที่พี่ภูไปเรียนต่อเมืองนอกอัยวาเค้าคบกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้าหลายคนแต่ช่วงนี้เห็นสนิทกับคนที่ชื่อบอมเป็นพิเศษ"
"บอม??" ผมรู้สึกคุ้นๆ กับชื่อนี้แต่นึกไม่ออก
"ค่ะบอมพี่ภูก็น่าจะรู้จักเพราะเอินแอบได้ยินผู้ชายคนนี้บอกกับคุณลุงว่าเป็นน้องชายเพื่อนสนิทพี่ภู" อ่อผมนึกออกแล้วไอ้บอมน้องชายไอ้บาสเพื่อนสนิทผมเองซึ่งคืนนี้ผมก็นัดกับมันไปปาร์ตี้ด้วยกัน
"อ่อพี่พอจะนึกออกละบอมเป็นน้องชายไอ้บาสเพื่อนสนิทพี่เอง"
"ค่ะช่วงนี้เอินเห็นสองคนนี้ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดบางทีก็พามาที่บ้านอยู่ในห้องนอนกันตามลำพังสองต่อสอง แม่เอินเคยเตือนแล้วว่ามันดูไม่ดีเป็นผู้หญิงแต่ให้ผู้ชายเข้าห้องแต่อัยวาก็ไม่สนใจค่ะยังด่าแม่เอินเลยว่าอย่าเสือกอย่ามายุ่ง ตั้งแต่นั้นแม่เอินก็ไม่กลัายุ่งอะไรกับอัยวาอีก แต่อัยวาก็จะบอกกับทุกคนนะคะว่าบอมน่ะเป็นแค่เพื่อนเท่านั้นแต่ทุกคนรู้ค่ะว่าไม่ใช่แค่เพื่อนแต่เป็นมากกว่านั้นอย่างแน่นอน แม่เอินเป็นห่วงอัยวามากก็เลยขอร้องให้คุณลุงช่วยเตือนแต่ก็นั่นแล่ะค่ะอัยวาก็ไม่ฟังใครเลยเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง เห้อออ เอินเองก็เคยเตือนนะคเรื่องผู้ชายแต่ก็ถูกด่ากลับมาจนร้องไห้เลยค่ะพี่ภู><"
"จริงอ่ะ" ผมไม่รู้หรอกนะว่าที่เอินพูดมามันน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน เรื่องบ้านนั้นผมรู้มาตลอดแล่ะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแต่ผมก็ไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายเพราะมันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของผมมีแต่แม่ของผมเท่านั้นแล่ะที่ชอบไปยุ่งไปคอยโอ๋คอยปลอบเวลาที่อัยวาร้องไห้มาหาที่บ้าน ตอนแรกผมก็สงสารหรอกนะที่พอแม่ตายไม่ทันไรพ่อตัวเองก็พาเมียใหม่เข้าบ้านแต่นั่นมันก็ไม่ใช่สาเหตุที่อัยวาต้องมาทำตัวทำนิสัยแย่ๆ ใส่ใครแบบนี้จนทุกคนเอือมระอาคงมีแต่แม่ผมผมเท่านั้นที่เอ็นดูยัยนั่นจนออกนอกหน้านอกตา
"จริงค่ะเรื่องนี้แม่ของเอินเป็นพยานได้ ทั้งแม่ทั้งเอินต่างก็เป็นห่วงเพราะเห็นว่าอัยวาไม่มีแม่แม่ของเอินรักอัยวาเหมือนลูกสาวแท้ๆ แต่อัยวาไม่เคยรับรู้ความความห่วงใยที่เอินกับแม่มีให้เลย"
"อื้มมมม" ผมพยักหน้าแต่ถามว่ามันเป็นเรื่องที่ผมต้องสนใจไหมก็ไม่นะ
"ทุกวันนี้อัยวาคิดว่าเอินกับแม่จะมาหลอกเอาสมบัติคุณลุงทั้งที่จริงแล้วไม่ใช่เลยค่ะแม่ของเอินไม่เคยต้องการทรัพย์สินเงินทองอะไรเลยแม่ของเอินรักคุณลุงด้วยใจจริงแต่อัยวาก็ไม่ยอมเชื่อ คอยแต่จะด่าจะว่าเอินกับแม่ตลอด เอินเสียใจมากๆ เลยค่ะที่ความหวังดีของแม่กับเอินอัยวาไม่เคยรับรู้" ผมนั่งมองหน้าเอินที่มีน้ำตาไหลออกมาผมก็เลยหยิบทิชชู่ยื่นให้
"ขอบคุณนะคะพี่ภู"
"ไม่เป็นไร"
"พี่ภูเข้าใจความหวังดีของเอินกับแม่ใช่มั้ยคะ"
"อื้มพี่เข้าใจ"
"แต่ทำไมอัยวาถึงไม่เข้าใจล่ะคะ"
"ช่างเขาเถอะเขาจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจมันก็เป็นเรื่องของเขาในเมื่อเราทำดีที่สุดแล้ว"
อัยวา.....
หลังจากร้องไห้กับป้าพิมพ์จนพอใจแล้วฉันก็กลับมาที่บ้านอาบน้ำเปลี่ยนชุดนักศึกษาเพื่อไปมหาลัยวันนี้ฉันมีรายงานที่ต้องส่งอาจารย์ซึ่งฉันก็นัดกับไอ้บอมเพื่อนสนิทของฉันเอาไว้ด้วย
ครืดดดด ครืดดดด ไม่ทันขาดคำไอ้บอมมันก็โทรมาหาฉันพอดี
"ว่าไงบอม"
"เธออยู่ไหนแล้วออกมายัง"
"ยังเลยกำลังจะอาบน้ำ"
"เออเดี๋ยวฉันขับรถไปรับที่บ้านนะ"
"อื้มมมขอบใจนะแกวันนี้ฉันไม่อยากขับรถเองด้วย" คือตอนนี้ฉันไม่อยากทำอะไรเลยมากกว่าจิตใจมันห่อเหี่ยวไปหมดแทนที่วันนี้ฉันจะมีความสุขที่ได้เจอพี่ภูแต่เปล่าเลยสักนิด
"ว่าแต่เธอเจอว่าที่คู่หมั้นเธอแล้วใช่ไหม"
"อื้มมมเจอแล้ว"
"ทำไมทำเสียงไม่สดใสเลยล่ะ ไม่ดีใจหรือไงที่พี่ภูกลับมา"
"ดีใจสิทำไมจะไม่ดีใจล่ะ"
"ดีใจแต่เสียงเธอไม่ใช่แบบนั้นเลยนะ"
"แกอย่ามารู้ดีนักเลย"
"ฉันเป็นเพื่อนเธอมาตั้งกี่ปีทำไมจะไม่รู้ เอาเป็นว่าเธอไปอาบน้ำเลยเดี๋ยวอีกสิบห้านาทีฉันจะไปรับ"
"อื้มมม"
หลังจากวางสายจากบอมฉันก็รีบอาบน้ำแต่งชุดนักศึกษาแล้วรีบลงไปรอบอมข้างล่างแต่พอเดินลงมาเจอนังแม่เลี้ยงใจร้ายนั่งจิบกาแฟอยู่ที่ห้องรับแขกฉันทำเป็นไม่สนใจเดินผ่านหน้าไปเหมือนยัยนั่นเป็นธาตุอากาศ
"นังอัยวาแกคงเห็นแล้วสินะว่าตาภูเค้าสนใจใครมากกว่ากันระหว่างแกกับลูกสาวของฉันเพราะฉะนั้นแกเลิกหวังได้เลยว่าตาภูจะหมั้นกับแก"
"เห้อออ หมาที่ไหนมาเห่าแถวนี้นะ" ฉันพูดขึ้นลอยๆ แต่ก็ทำให้นังแม่เลี้ยงใจยักษ์มันหัวร้อน
"แกว่าใครเป็นหมาห๊ะ"
"ก็ว่าผู้ใหญ่ที่ปากเหมือนหมายังไงล่ะ ถ้าเธอคิดว่าเป็นตัวเองก็รับไปสิ"
"กรี๊ดดด นังเด็กเมื่อวันซืนฉันจะฟ้องพ่อแกว่าแกด่าฉันเป็นหมา"
"เชิญคิดว่าฉันกลัวหรือไงถ้าฉันกลัวแกฉันไม่อยู่บ้านหลังนี้มาจนถึงทุกวันนี้หรอกนะ"
"ฉันจะทำให้แกไม่มีที่ซุกหัวนอนเลยไม่เชื่อก็คอยดู"
"แม่ค๊าบบบบ" ภูฟ้าลูกชายคนเล็กวิ่งมากอดฉัน"มาอ้อนแม่แบบนี้อยากได้อะไรครับหื้มมม""แม่รู้ทันฟ้าตลอดเลยอ่ะเบื่อจัง>ถ้าฟ้ารักแม่ฟ้าก็ต้องฟังแม่นะลูก หรือฟ้าอยากให้แม่เป็นห่วงกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเอาแต่เป็นกังวลเรื่องฟ้าขับรถ" ฉันพยายามหาเหตุผลมาคุยกับลูกเพราะภูฟ้าแกก็เป็นเด็กมีเหตุผลประมาณหนึ่งถึงแม้ว่าจะถูกพ่อถูกปู่ถูกย่าถูกยายทวดตามใจมากแค่ไหนก็ตามเพราะเป็นหลานชายคนเล็กแต่สุดท้ายแล้วแกก็จะเชื่อฟังฉันมากที่สุดเพราะแบบนี้พี่ภูถึงให้ภูฟ้ามาคุยกับฉัน"แม่สัญญาแล้วนะครับ""ครับแม่สัญญา^^"
หลายปีต่อมา...อัยวา....ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันกับพี่ภูจะมาถึงวันนี้ได้ เราแต่งงานกันมาเกือบสิบปีแล้วและวันนี้เป็นวันครบรอบการแต่งงานของฉันกับพี่ภูซึ่งพี่ภูก็ได้จัดงานเลี้ยงฉลองให้ทุกปีและปีนี้เป็นปีที่พิเศษกว่าปีไหนๆ เพราะลูกๆ ทั้งสี่คนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาเนื่องจากว่าน้องภูมิไปเรียนต่อต่างประเทศเพิ่งกลับมา อ่อฉันลืมบอกไปว่าลูกคนเล็กของฉันเป็นผู้ชายนะคะแกมีชื่อว่าน้องภูฟ้าชื่อนี้พี่ภูเป็นคนตั้งให้เองเลยค่ะเขาอยากให้ลูกชายมีชื่อคล้ายกับเขาทุกคนส่วนลูกสาวก็ชื่อคล้ายฉัน ซึ่งหลังจากคลอดน้องภูฟ้าฉันก็บังคับให้พี่ภูทำหมันค่ะเพราะไม่อย่างงั้นฉันคงต้องตั้งท้องทุกๆ ปีเพราะเขาหื่นมากแม้ลูกสี่แล้วก็ตาม"ฉันดีใจด้วยนะที่เธอมีครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุขคุณแม่ลูกสี่อ่ะนี่ของขวัญจากฉัน" บอมยื่นของขวัญมาให้"ขอบคุณนะนายมายินดีกับฉันทุกปีเลย^^""อื้มมม""แล้วเมื่อไหร่นายจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักทีล่ะบอมฉันไม่เคยเห็นนายจริงจังกับผู้หญิงคนไหนเลยทั้งที่มีผู้หญิงเข้าหาตั้งเยอะ" อันนี้คือเรื่องจริงตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาฉันไม่เคยเห็นบอมคบกับใครจริงจังเลยอาจจะมีบ้างแต่ไม่นานก็เลิกคุยพอฉันถามเหตุผลมันก็บอกมั
อัยวา...."เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นเสียงครางหวานๆให้พี่ฟังได้มั้ยครับที่รัก" พี่ภูส่งสายตาหื่นกระหายมาให้ฉันฉันยิ้มหวานส่งไปให้พร้อมกับเดินเข้าไปโอบรอบคอพี่ภูแล้วก็ซบลงที่อกกว้าง เราอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปีทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะว่าพี่ภูต้องการอะไร"คืนนี้อัยจะครางให้พี่ฟังทั้งคืนเลยค่ะ" ฉันเงยหน้าพร้อมสบสายตาเชิญชวน"มายั่วกันแบบนี้ระวังจะไม่ได้นอนทั้งคืนนะครับเมีย""ไม่นอนก็ไม่นอนค่ะ อัยพร้อมอยู่แล้ว^^""เมียใครน่ารักจัง""เมียพี่ภูไงคะ^^" จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จ๊วบ จ๊วบ ฉันจุ๊บที่คอพร้อมกับดูดเบาๆ"ซี๊ดดดด อัยจ๋าดูดแรงๆเลยครับที่รักพี่ชอบ" พี่ภูครางกระเส่าเมื่อฉันดูดคอเขาจนเป็นรอย"คืนนี้อัยจะไม่ได้ดูแค่ที่คอนะคะอัยอยาก...ดูดอย่างอื่นของพี่ด้วย" ทั้งสายตาทั้งคำพูดของฉันทำเอาพี่ภูอึ้งไปพักนึงเลย ฉันอยากจะตอบแทนความรักที่เขามีให้ฉันเพราะฉันรู้สึกว่าที่ผ่านมาฉันดูแลเอาใจใส่พี่ภูได้ไม่ดีพอ ฉันผลักพี่ภูให้นอนลงบนเตียงก่อนที่ฉันจะตามขึ้นมา ฉันไม่รอช้ารีบจัดการถอดกางเกงของเขาออก ก่อนจะหันมาจัดการกับชุดเจ้าสาวของตัวเองจนตอนนี้เราสองคนเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่ ฉันยิ้มให้พี่ภูด้วยสายตายั่วยวนก่อนจะขยับตัวลง
ภูผา....ผมนั่งมองลูกสาวสองคนที่กำลังเล่นทรายกันอยู่ริมชายหาดใต้ต้นมะพร้าว สักพักก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุน่าจะพอๆกับน้องภูมิวิ่งถือลูกบอลมายืนมองดูลูกสาวผมที่กำลังนั่งเล่นทรายกัน ผมก็นั่งดูอยู่ไม่ได้พูดอะไรจนกระทั่งลูกสาวผมพูดชวน"พี่มาเล่นด้วยกันมั้ยค๊าาา" น้องอันดาชวนแล้วก็ตามมาด้วยน้องเอิงเอย"มาเล่นด้วยกันซี่สนุกน๊าาา" ว่าแล้วทั้งสองสาวก็ลุกขึ้นพร้อมกันแล้วเดินไปจูงมือเด็กชายมาเล่นทรายด้วย"น่ารักจังเลยครับชื่ออะไรกันเหรอน้องสองคนหน้าเหมือนเลยเป็นฝาแฝดเหรอ""ใช่ค่า""พี่ชี่อพี่กลัฟน่ะอายุเจ็ดขวบ^^"ผมเหร่ตามองเด็กผุู้ชายที่แนะนำตัวเองเสร็จสรรพกับลูกสาวของผม"น้องชื่ออันดาค่าส่วนนี่น้องเอิงเอยเป็นน้องสาวอันดาเองค่าอายุสี่ขวบครึ่งแล้ว^^" ลูกสาวผมก็ใช่ย่อยครับบอกชื่อบอกอายุเขาเรียบร้อย ที่ผมไว้หนวดมานี่ไม่มีผลเลยสินะ เห้อออออผมนั่งมองเด็กทั้งสามคนเล่นด้วยกันจนกระทั่งเย็นมากแล้วผมก็เลยไล่ให้เด็กผู้ชายนั่นกลับบ้าน"ไว้พรุ่งนี้พี่มาเล่นด้วยอีกนะ^^""ได้ค่าพี่กลัฟ^^""ได้ค่าพี่กลัฟ^^"พอคล้อยหลังเจ้าเด็กนั่นผมก็เรียกสองสาวมาคุยด้วยใบหน้าจริงจัง"น้องอันน้องเอิงหนูฟังพ่อนะลูก เราเป็นผู้
ห้าปีต่อมา...ภูผา...."พ่อกลับมาแล้วววว""พ่อออขาาาาาพ่ออออ" ตุ่บ ตุ่บ ตุ่บ เสียงวิ่ง"พ่อกลับมาแล้วครับ" ผมอ้าแขนรับสองแฝดตัวอ้วนกลมจนอุ้มไม่ไหววัยสี่ขวบครึ่งที่วิ่งแข่งกันมาหาผมโดยมีพี่เลี้ยงเดินตามมาติดๆ"จุ๊บ จุ๊บค่าพ่อ" น้องอันดาหอมแก้มซ้าย"จุ๊บ จุ๊บค่าพ่อ" น้องเอิงเอยหอมแก้มขวา"ชื่นใจจังครับ" ฟอด ฟอด ผมหอมแแก้มลูกสาวตัวน้อยคนละข้างก่อนจะอุ้มทั้งคู่เข้าบ้านพร้อมกันพอผมเดินเข้ามาก็เจอเมียรักกำลังนั่งจัดคุ๊กกี้ใส่กล่องอยู่ที่ห้องนั่งเล่น"กลิ่นหอมไปถึงหน้าบ้านเลยมีให้พี่ชิมมั้ยครับ" ผมวางลูกๆทั้งสองคนลงแล้วเดินมานั่งข้างๆเมีย"มีสิคะอัยแบ่งไว้ให้แล้ว ส่วนนี่ของน้องภูมิค่ะพรุ่งนี้แกก็กลับมาแล้ว""เห้อคิดถึงลูกจัง" ผมบ่นกับอัยวาทุกวันเรื่องคิดถึงลูกชายซึ่งตอนนี้แกไปเรียนภาษาที่อเมริกาแม้ว่าน้องภูมิจะอายุแค่เจ็ดขวบกว่าแต่แกก็เป็นเด็กใฝ่เรียนชอบศึกษาหาความรู้ตั้งแต่เล็กๆ ถามว่าไปกับใครก็ไปกับพ่อกับแม่ผมไงล่ะครับท่านห่วงหลานชายก็เลยตามไปกันทั้งคู่ซึ่งผมก็อุ่นใจนะที่พ่อกับแม่ผมตามไปดูแลแต่ผมก็อดคิดถึงแกไม่ได้ยังดีที่มีสองสาวคอยป่วนทำให้ผมไม่คิดถึงน้องภูมิจนฟุ้งซ่านคิดมาก อ้อผมลืมบอกไ
ภูผา...."ก่อนหน้านี้พ่ออัยเอาโฉนดบ้านมากู้เงินจากพี่แต่พี่ไม่รับเพราะพี่รู้ว่าอัยรักบ้านหลังนี้มากแต่ก็ให้เงินท่านไปนะแต่ไม่นานเงินก็หมดเพราะพ่ออัย...ติดการพนัน""พ่อติดการพนันเหรอคะทำไมอัยไม่เคยรู้เลย""เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แต่ตอนนี้พี่คิดหาทางออกให้อัยแล้ว""ยังไงคะ""ในเมื่อพ่ออัยเห็นว่าบ้านยังเป็นชื่อของอัยแล้วท่านอยากได้เงินเราก็ต้องหาคนมาซื้อบ้านหลังนี้ซะแล้วเราก็ซื้อคืนทีหลัง แล้วอัยก็แบ่งเงินขายบ้านให้ท่านครึ่งนึงอย่าให้ท่านหมดเพราะท่านจะเอาเข้าบ่อนจนไม่เหลือ""บ้านไม่ได้ขายได้ง่ายๆเลยนะคะพี่ภูแล้วใครจะมาซื้อ""เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงพี่จะให้คนของพี่ที่พี่ไว้ใจมาจัดการเรื่องนี้""งั้นก็แปลว่าอัยต้องขายบ้านก่อนเหรอคะ""ขายแบบหลอกๆไงครับที่รักไม่ได้ขายจริงก็แค่ทำทีเป็นว่าขายไปแล้วต่อไปพ่ออัยจะได้ไม่มาขอเงินมาตอแยวุ่นวายอัยอีกเพราะคิดว่าบ้านถูกขายให้คนอื่นไปแล้วเรียบร้อยแต่จริงๆแล้วยังเป็นของอัยอยู่""หมายความว่าบ้านยังเป็นของอัยอยู่อย่างงั้นใช่มั้ยคะ""ใช่ครับ""แล้วอัยจะเอาเงินที่ไหนให้พ่อคะอัยไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอกนะคะ"."อัยอย่าลืมว่าอัยมีสามีรวยนะ""แต่อัยเกรงใจพี่ภูพ่อเคย