ภูผา....
หลังจากทานอาหารกับเสร็จผมก็ขับรถพาเอินมาส่งที่บ้านตอนแรกผมจะแค่มาส่งแล้วก็กลับเลยแต่เอินบอกว่าแม่ตัวเองอยากเจอซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะอยากเจอผมทำไมร้อยวันพันปีไม่เคยคุยกันหน้าผมยังจำไม่ได้แต่ผมก็ไม่อยากเป็นคนไร้มารยาทก็เลยเดินตามเข้ามาในบ้าน
"ขอบคุณนะคะพี่ภูที่พาเอินไปทานอาหารอร่อยๆ^^"
"อืมมไม่เป็นระ...." ผมพูดไม่ทันขาดคำก็ได้ยินเสียงคนในบ้านกำลังทะเลาะกันอยู่
"แกว่าใครเป็นหมาห๊ะ"
"ก็ว่าผู้ใหญ่ที่ปากเหมือนหมายังไงล่ะ ถ้าเธอคิดว่าเป็นตัวเองก็รับไปสิ" เสียงอัยวาผมจำได้แต่ทะเลาะกับใครวะ?? ผมคิดในใจ
"กรี๊ดดด นังเด็กเมื่อวันซืนฉันจะฟ้องพ่อแกว่าแกด่าฉันเป็นหมา" อ่อผมนึกออกละแม่ของเอินแม่เลี้ยงอัยวานั่นเอง
"เชิญคิดว่าฉันกลัวหรือไงถ้าฉันกลัวแกฉันไม่อยู่บ้านหลังนี้มาจนถึงทุกวันนี้หรอกนะ"
"ฉันจะทำให้แกไม่มีที่ซุกหัวนอนเลยไม่เชื่อก็คอยดู"
"เสียใจด้วยนะเธอคงไม่รู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นชื่อของฉัน"
"แกว่าไงนะ!!!!"
"เอ่อพี่ภูคะเอินว่าพี่กลับไปก่อนก็ได้นะคะ" เอินรีบหันมาพูดกับผมเหมือนไม่อยากให้ผมรู้เรื่องที่แม่ตัวเองกับอัยวากำลังทะเลาะกันแต่ผมอยากรู้ไงได้ยินมาขนาดนี้แล้ว
"พี่ยังไม่ได้เจอกับแม่เราเลยนะแม่เราอยากเจอพี่ไม่ใช่??"
"ยะยังไม่ต้องเจอตอนนี้ก็ได้ค่ะ" เอินพยายามดึงแขนผมให้ออกไป
"อ้าวพี่ภูมาทำไรตรงนี้" ผมหันไปมองว่าใครมาทักปรากฏว่าเป็นไอ้บอมน้องชายไอ้บาสเพื่อนสนิทผมเอง
"แล้วเรามาทำไรบ้านนี้" ผมถามกลับไป
"มารับอัยครับไม่รู้แต่งตัวเสร็จหรือยัง"
"เรา...เป็นแฟนอัยวา??"
"โอ๊ยเปล่าครับเพื่อนกันยัยนั่นใครจะรักลงปากยังกับกรรไกร55555" ผมพยักหน้ารับรู้ก่อนจะมองไปที่แววตาของไอ้บอมว่าที่มันพูดมามันพูดจริงหรือโกหกกันแน่ ผมรู้จักมันมานานเพราะมันเป็นน้องชายเพื่อนสนิทผม
"แล้วอีกอย่างยัยนั่นก็ไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนเพราะรอแต่พี่" ผมถึงกับไปไม่เป็นเมื่อได้ยินแบบนี้
"อย่ามาพูดเลยบอมเรารู้หรอกน่าว่านายกับอัยวาเป็นอะไรกัน"
"ถ้าเธอไม่รู้อะไรจริงก็หุบปากไปเลยดีกว่านะ"
"ไอ้บอม??" เอินตะคอกใส่ไอ้บอมคงจะลืมตัวว่าผมยืนอยู่ตรงนี้ด้วย ถามว่าผมรู้ไหมว่าที่เอินทำตัวน่ารักน่าสงสารต่อหน้าผมเธอต้องการอะไรกันแน่ ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกเพราะไม่เคยสนิทกันจนกระทั่งตอนที่ผมจะพาไปส่งโรงพยาบาลแล้วเอินบอกว่าขาหายเจ็บแล้วนี่แล่ะ คนบ้าอะไรบอกขาพลิกเดินไม่ไหวแต่หายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ที่พูดๆมาผมก็เออออไปตามน้ำนั่นแล่ะ ผมผ่านผู้หญิงมาเยอะผมรู้ ส่วนเรื่องอัยวากับไอ้บอมผมไม่รู้หรอกนะว่าสองคนนี้เป็นมากกว่าเพื่อนหรือเปล่าแต่ถ้าเป็นมันก็ดีไม่ใช่เหรอผมจะได้มีข้ออ้างยกเลิกงานหมั้น
"หึอย่าเพิ่งแสดงตัวจนออกมาดิพี่ภูจะตกใจเอาน๊าาา"
"พี่ภูคะฟังน้องชายเพื่อนพี่พูดสิ><" ผมถอนหายใจอย่างเซ็งๆ
"พี่ขอตัวกลับบ้านก่อนนะง่วงมากเลย" ผมเลิกสนใจทุกสิ่งอย่างแล้วเดินออกมาก่อนจะขับรถกลับบ้าน
แต่พอผมกลับมาถึงบ้านก็เจอพ่อกับแม่นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก สายตาพ่อไม่เท่าไหร่แต่สายตาแม่ผมนี่สิ
"กลับมาแล้วเหรอห๊ะพ่อตัวดี"
"พ่อดูแม่พูดกับผมดิ" ผมพูดก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาตรงข้ามกับพ่อแม่
"แม่บอกพ่อว่าเราไปส่งยัยเอินไปโรงพยาบาลมาเป็นไงบ้าง" แม่คงเล่าเรื่องทุกอย่างให้พ่อฟังหมดแล้วสินะ
"ก็....ไม่ได้เป็นอะไรแล้วครับ" ผมไม่อยากให้แม่รู้ว่าเอินโกหกเพราะถ้าผมบอกแม่ก็ต้องสวดผมอีกโทษฐานทำให้หลานสาวสุดที่รักเสียใจ
"ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว?? แต่เมื่อเช้ายังร้องไห้โวยวายบอกขาพลิกขาแพลงเดินไม่ไหว"
"ไม่เป็นอะไรก็คือไม่เป็นอะไรไงครับแม่ ผมขอตัวก่อนนะผมง่วง อ่อลืมบอกไปว่าคืนนี้ผมจะออกไปหาเพื่อนนะ"
"มาถึงก็จะออกเที่ยวเลยนะเรา"
"ผมก็คิดถึงเพื่อนฝูงหรือเปล่าครับพ่อไม่เจอกันตั้งนาน เอาเป็นว่าผมขอตัวก่อนนะครับ"
ผมกำลังขยับตัวลุกขึ้นแต่....
"อย่าเพิ่งไปพ่อกับแม่มีเรื่องคุยกับเราเรื่องหมั้นนั่งลงก่อน"
"เรารู้ใช่ไหมว่าเรียนจบกลับมาต้องหมั้นกับน้อง"
"รู้ครับแต่ผมไม่หมั้นได้ไหม"
"ไม่ได้!!" แม่ผมรีบสวนกลับทันที
"แม่นี่มันยุคไหนสมัยไหนกันแล้วแม่จะมาบังคับให้ผมหมั้นกับผู้หญิงที่ผมไม่ได้รักผมทำไม่ได้"
"แต่แกต้องหมั้นเพราะมันคือคำสัญญาระหว่างเราสองครอบครัว"
"ถ้าเกิดว่าหลานรักของแม่มีคนรักแล้วล่ะผมไม่ต้องหมั้นใช่ป่ะ"
"พูดแบบนี้หมายความว่าไงห๊ะตาภู"
"ก็ถ้าเกินยัยนั่น.." แม่มองผมตาเขียวทันที่ที่ผมเรียกอัยวาว่ายัยนั่น
"เอ่ออยัยอัยวามีแฟนแล้วงานหมั้นก็ต้องยกเลิกใช่ไหม"
"เราพูดเหมือนกับว่าตอนนี้น้องมีแฟนแล้วอย่างงั้นแล่ะ" พ่อถามผม
"ใช่ครับ"
"ใคร/ใคร" พ่อกับแม่ถามผมพร้อมกัน
"ไอ้บอมน้องชายไอ้บาสเพื่อนผมเองไง"
"แล้วเราไปรู้ได้ยังไงว่าน้องกับตาบอมเป็นแฟนกัน" แม่ถามผมด้วยสีหน้าสงสัยแปลว่าแม่ไม่รู้เรื่องนี้สินะ
"เมื่อกี้ผมไปส่งเอินที่บ้านเจอไอ้บอมมันมารับหลานสาวสุดที่รักแม่พอดี"
"ตาบอมกับน้องเป็นเพื่อนกันเรื่องนี้แม่ยืนยันได้"
"แม่จะไปรู้ดีไปกว่าพวกเขาสองคนได้ไง ไม่รู้ล่ะถ้าผมมีหลักฐานยืนยันได้ว่าสองคนนั้นเป็นแฟนกันเรื่องหมั้นระหว่างผมกับยัยอัยก็ต้องยกเลิกนะครับตกลงไหม" พอผมยื่นข้อเสนอพ่อกับแม่หันมามองหน้ากันทันทีก่อนจะหันมามองหน้าผมแล้วทั้งสองคนก็พยักหน้าตกลงพร้อมกัน ผมยิ้มออกมาทันที ผมมีทางรอดแล้วถ้าสองคนนั้นไม่ได้เป็นแฟนกันผมก็จะทำให้เป็นเอง
อัยวา.....
"ทะเลาะอะไรกัน" บอมถามฉันขณะขับรถไปมหาลัย
"เรื่องเดิมๆน่ะ" ฉันบอกกับบอมอย่างเซ็งๆ ถามว่าทุกวันนี้ฉันอยากทะเลาะไหมไม่เลยเพราะมันทำให้ฉันเสียสุขภาพจิตแต่ถ้าฉันไม่ทะเลาะไม่เถึยงสองแม่ลูกนั่นก็จะได้ใจข่มเหงรังแกฉัน
"เธอทนอยู่ได้ไงวะทำไมไม่ย้ายออกมาหาคอนโดอยู่"
"ฉันไปไหนไม่ได้หรอกบ้านหลังนั้นเป็นบ้านของฉันเป็นบ้านที่ฉันรักถ้าฉันไปสองแม่ลูกนั่นก็จะเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของแม่ไป"
"เธอก็เลยต้องทนอยู่แบบนั้นอ่ะนะแล้วเธอจะทนไปถึงเมื่อไหร่"
"เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแล่ะแต่ฉันจะไม่ยอมแพ้สองแม่ลูกนั่นเด็ดขาด บอกตามตรงเลยนะบอมฉันเป็นห่วงพ่อ พ่อไม่เคยรู้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รักพ่อด้วยใจจริงถ้าพ่อไม่มีสมบัติแกคิดว่ายัยแม่เลี้ยงของฉันจะยอมอยู่ด้วยไหม"
"แต่เธอก็ทนปวดประสาทกับสองแม่ลูกนั่นทุกวันเลยนะ"
"ฉันปลงแล้วล่ะทุกวันนี้ฉันอยู่ด้วยความหวัง ถ้าฉันได้หมั้นกับพี่ภูได้แต่งงานกับพี่ภูฉันคงมีความสุขมากกว่านี้พี่ภูคงจะปกป้องฉันได้" พี่ภูคือความหวังเดียวของฉันจริงๆนะแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าพี่ภูไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันเลยก็ตาม แต่ฉันขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆเขาแค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว
"แม่ค๊าบบบบ" ภูฟ้าลูกชายคนเล็กวิ่งมากอดฉัน"มาอ้อนแม่แบบนี้อยากได้อะไรครับหื้มมม""แม่รู้ทันฟ้าตลอดเลยอ่ะเบื่อจัง>ถ้าฟ้ารักแม่ฟ้าก็ต้องฟังแม่นะลูก หรือฟ้าอยากให้แม่เป็นห่วงกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเอาแต่เป็นกังวลเรื่องฟ้าขับรถ" ฉันพยายามหาเหตุผลมาคุยกับลูกเพราะภูฟ้าแกก็เป็นเด็กมีเหตุผลประมาณหนึ่งถึงแม้ว่าจะถูกพ่อถูกปู่ถูกย่าถูกยายทวดตามใจมากแค่ไหนก็ตามเพราะเป็นหลานชายคนเล็กแต่สุดท้ายแล้วแกก็จะเชื่อฟังฉันมากที่สุดเพราะแบบนี้พี่ภูถึงให้ภูฟ้ามาคุยกับฉัน"แม่สัญญาแล้วนะครับ""ครับแม่สัญญา^^"
หลายปีต่อมา...อัยวา....ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันกับพี่ภูจะมาถึงวันนี้ได้ เราแต่งงานกันมาเกือบสิบปีแล้วและวันนี้เป็นวันครบรอบการแต่งงานของฉันกับพี่ภูซึ่งพี่ภูก็ได้จัดงานเลี้ยงฉลองให้ทุกปีและปีนี้เป็นปีที่พิเศษกว่าปีไหนๆ เพราะลูกๆ ทั้งสี่คนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาเนื่องจากว่าน้องภูมิไปเรียนต่อต่างประเทศเพิ่งกลับมา อ่อฉันลืมบอกไปว่าลูกคนเล็กของฉันเป็นผู้ชายนะคะแกมีชื่อว่าน้องภูฟ้าชื่อนี้พี่ภูเป็นคนตั้งให้เองเลยค่ะเขาอยากให้ลูกชายมีชื่อคล้ายกับเขาทุกคนส่วนลูกสาวก็ชื่อคล้ายฉัน ซึ่งหลังจากคลอดน้องภูฟ้าฉันก็บังคับให้พี่ภูทำหมันค่ะเพราะไม่อย่างงั้นฉันคงต้องตั้งท้องทุกๆ ปีเพราะเขาหื่นมากแม้ลูกสี่แล้วก็ตาม"ฉันดีใจด้วยนะที่เธอมีครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุขคุณแม่ลูกสี่อ่ะนี่ของขวัญจากฉัน" บอมยื่นของขวัญมาให้"ขอบคุณนะนายมายินดีกับฉันทุกปีเลย^^""อื้มมม""แล้วเมื่อไหร่นายจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักทีล่ะบอมฉันไม่เคยเห็นนายจริงจังกับผู้หญิงคนไหนเลยทั้งที่มีผู้หญิงเข้าหาตั้งเยอะ" อันนี้คือเรื่องจริงตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาฉันไม่เคยเห็นบอมคบกับใครจริงจังเลยอาจจะมีบ้างแต่ไม่นานก็เลิกคุยพอฉันถามเหตุผลมันก็บอกมั
อัยวา...."เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นเสียงครางหวานๆให้พี่ฟังได้มั้ยครับที่รัก" พี่ภูส่งสายตาหื่นกระหายมาให้ฉันฉันยิ้มหวานส่งไปให้พร้อมกับเดินเข้าไปโอบรอบคอพี่ภูแล้วก็ซบลงที่อกกว้าง เราอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปีทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะว่าพี่ภูต้องการอะไร"คืนนี้อัยจะครางให้พี่ฟังทั้งคืนเลยค่ะ" ฉันเงยหน้าพร้อมสบสายตาเชิญชวน"มายั่วกันแบบนี้ระวังจะไม่ได้นอนทั้งคืนนะครับเมีย""ไม่นอนก็ไม่นอนค่ะ อัยพร้อมอยู่แล้ว^^""เมียใครน่ารักจัง""เมียพี่ภูไงคะ^^" จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จ๊วบ จ๊วบ ฉันจุ๊บที่คอพร้อมกับดูดเบาๆ"ซี๊ดดดด อัยจ๋าดูดแรงๆเลยครับที่รักพี่ชอบ" พี่ภูครางกระเส่าเมื่อฉันดูดคอเขาจนเป็นรอย"คืนนี้อัยจะไม่ได้ดูแค่ที่คอนะคะอัยอยาก...ดูดอย่างอื่นของพี่ด้วย" ทั้งสายตาทั้งคำพูดของฉันทำเอาพี่ภูอึ้งไปพักนึงเลย ฉันอยากจะตอบแทนความรักที่เขามีให้ฉันเพราะฉันรู้สึกว่าที่ผ่านมาฉันดูแลเอาใจใส่พี่ภูได้ไม่ดีพอ ฉันผลักพี่ภูให้นอนลงบนเตียงก่อนที่ฉันจะตามขึ้นมา ฉันไม่รอช้ารีบจัดการถอดกางเกงของเขาออก ก่อนจะหันมาจัดการกับชุดเจ้าสาวของตัวเองจนตอนนี้เราสองคนเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่ ฉันยิ้มให้พี่ภูด้วยสายตายั่วยวนก่อนจะขยับตัวลง
ภูผา....ผมนั่งมองลูกสาวสองคนที่กำลังเล่นทรายกันอยู่ริมชายหาดใต้ต้นมะพร้าว สักพักก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุน่าจะพอๆกับน้องภูมิวิ่งถือลูกบอลมายืนมองดูลูกสาวผมที่กำลังนั่งเล่นทรายกัน ผมก็นั่งดูอยู่ไม่ได้พูดอะไรจนกระทั่งลูกสาวผมพูดชวน"พี่มาเล่นด้วยกันมั้ยค๊าาา" น้องอันดาชวนแล้วก็ตามมาด้วยน้องเอิงเอย"มาเล่นด้วยกันซี่สนุกน๊าาา" ว่าแล้วทั้งสองสาวก็ลุกขึ้นพร้อมกันแล้วเดินไปจูงมือเด็กชายมาเล่นทรายด้วย"น่ารักจังเลยครับชื่ออะไรกันเหรอน้องสองคนหน้าเหมือนเลยเป็นฝาแฝดเหรอ""ใช่ค่า""พี่ชี่อพี่กลัฟน่ะอายุเจ็ดขวบ^^"ผมเหร่ตามองเด็กผุู้ชายที่แนะนำตัวเองเสร็จสรรพกับลูกสาวของผม"น้องชื่ออันดาค่าส่วนนี่น้องเอิงเอยเป็นน้องสาวอันดาเองค่าอายุสี่ขวบครึ่งแล้ว^^" ลูกสาวผมก็ใช่ย่อยครับบอกชื่อบอกอายุเขาเรียบร้อย ที่ผมไว้หนวดมานี่ไม่มีผลเลยสินะ เห้อออออผมนั่งมองเด็กทั้งสามคนเล่นด้วยกันจนกระทั่งเย็นมากแล้วผมก็เลยไล่ให้เด็กผู้ชายนั่นกลับบ้าน"ไว้พรุ่งนี้พี่มาเล่นด้วยอีกนะ^^""ได้ค่าพี่กลัฟ^^""ได้ค่าพี่กลัฟ^^"พอคล้อยหลังเจ้าเด็กนั่นผมก็เรียกสองสาวมาคุยด้วยใบหน้าจริงจัง"น้องอันน้องเอิงหนูฟังพ่อนะลูก เราเป็นผู้
ห้าปีต่อมา...ภูผา...."พ่อกลับมาแล้วววว""พ่อออขาาาาาพ่ออออ" ตุ่บ ตุ่บ ตุ่บ เสียงวิ่ง"พ่อกลับมาแล้วครับ" ผมอ้าแขนรับสองแฝดตัวอ้วนกลมจนอุ้มไม่ไหววัยสี่ขวบครึ่งที่วิ่งแข่งกันมาหาผมโดยมีพี่เลี้ยงเดินตามมาติดๆ"จุ๊บ จุ๊บค่าพ่อ" น้องอันดาหอมแก้มซ้าย"จุ๊บ จุ๊บค่าพ่อ" น้องเอิงเอยหอมแก้มขวา"ชื่นใจจังครับ" ฟอด ฟอด ผมหอมแแก้มลูกสาวตัวน้อยคนละข้างก่อนจะอุ้มทั้งคู่เข้าบ้านพร้อมกันพอผมเดินเข้ามาก็เจอเมียรักกำลังนั่งจัดคุ๊กกี้ใส่กล่องอยู่ที่ห้องนั่งเล่น"กลิ่นหอมไปถึงหน้าบ้านเลยมีให้พี่ชิมมั้ยครับ" ผมวางลูกๆทั้งสองคนลงแล้วเดินมานั่งข้างๆเมีย"มีสิคะอัยแบ่งไว้ให้แล้ว ส่วนนี่ของน้องภูมิค่ะพรุ่งนี้แกก็กลับมาแล้ว""เห้อคิดถึงลูกจัง" ผมบ่นกับอัยวาทุกวันเรื่องคิดถึงลูกชายซึ่งตอนนี้แกไปเรียนภาษาที่อเมริกาแม้ว่าน้องภูมิจะอายุแค่เจ็ดขวบกว่าแต่แกก็เป็นเด็กใฝ่เรียนชอบศึกษาหาความรู้ตั้งแต่เล็กๆ ถามว่าไปกับใครก็ไปกับพ่อกับแม่ผมไงล่ะครับท่านห่วงหลานชายก็เลยตามไปกันทั้งคู่ซึ่งผมก็อุ่นใจนะที่พ่อกับแม่ผมตามไปดูแลแต่ผมก็อดคิดถึงแกไม่ได้ยังดีที่มีสองสาวคอยป่วนทำให้ผมไม่คิดถึงน้องภูมิจนฟุ้งซ่านคิดมาก อ้อผมลืมบอกไ
ภูผา...."ก่อนหน้านี้พ่ออัยเอาโฉนดบ้านมากู้เงินจากพี่แต่พี่ไม่รับเพราะพี่รู้ว่าอัยรักบ้านหลังนี้มากแต่ก็ให้เงินท่านไปนะแต่ไม่นานเงินก็หมดเพราะพ่ออัย...ติดการพนัน""พ่อติดการพนันเหรอคะทำไมอัยไม่เคยรู้เลย""เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แต่ตอนนี้พี่คิดหาทางออกให้อัยแล้ว""ยังไงคะ""ในเมื่อพ่ออัยเห็นว่าบ้านยังเป็นชื่อของอัยแล้วท่านอยากได้เงินเราก็ต้องหาคนมาซื้อบ้านหลังนี้ซะแล้วเราก็ซื้อคืนทีหลัง แล้วอัยก็แบ่งเงินขายบ้านให้ท่านครึ่งนึงอย่าให้ท่านหมดเพราะท่านจะเอาเข้าบ่อนจนไม่เหลือ""บ้านไม่ได้ขายได้ง่ายๆเลยนะคะพี่ภูแล้วใครจะมาซื้อ""เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงพี่จะให้คนของพี่ที่พี่ไว้ใจมาจัดการเรื่องนี้""งั้นก็แปลว่าอัยต้องขายบ้านก่อนเหรอคะ""ขายแบบหลอกๆไงครับที่รักไม่ได้ขายจริงก็แค่ทำทีเป็นว่าขายไปแล้วต่อไปพ่ออัยจะได้ไม่มาขอเงินมาตอแยวุ่นวายอัยอีกเพราะคิดว่าบ้านถูกขายให้คนอื่นไปแล้วเรียบร้อยแต่จริงๆแล้วยังเป็นของอัยอยู่""หมายความว่าบ้านยังเป็นของอัยอยู่อย่างงั้นใช่มั้ยคะ""ใช่ครับ""แล้วอัยจะเอาเงินที่ไหนให้พ่อคะอัยไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอกนะคะ"."อัยอย่าลืมว่าอัยมีสามีรวยนะ""แต่อัยเกรงใจพี่ภูพ่อเคย