Share

น่าสนใจ

last update Last Updated: 2025-01-20 12:20:00

6

น่าสนใจ

สืออีหรานเป็นสตรีเจ้าเล่ห์ นางมีความคิดลึกซึ้งกว่าผู้อื่น เชี่ยวชาญการใช้เสน่ห์ตนเองในการหลอกใช้ผู้อื่น หลินซีเป็นคุณชายน้อยตระกูลหลินมีอำนาจ มีผู้คนเกรงใจหากได้เขามาคอยอยู่ข้างกาย ผู้ใดจะกล้าเอ่ยคำไม่ดีต่อนาง

เมื่อได้รู้จากบุตรสาวคนโตของตระกูลเฉียน วันนี้หลินซีจะมาที่ตระกูลเพื่อร่วมพิธีปักปิ่นนางก็วางแผนไว้แล้ว กลับผิดแผนเพราะหว่านจืออวิ๋นสตรีโง่ผู้นั้นไปเสีย

“เจ้า เจ้าคือ...? ช่างเถอะ ข้ามีธุระขอตัวก่อน” สตรีงามย่อมดึงดูดบุรุษ แต่ไม่ใช่กับหลินซีเพราะเขาเองก็งามไม่แพ้สตรี ยิ่งเมื่อไม่มีธุระให้พูดคุยกันเขายิ่งไม่สนใจจะอยู่พูดคุยให้ตกเป็นเรื่องเล่าลือ

อีกทั้งเขายังต้องไปขอโทษหญิงสาวที่ถูกเขาตวาด นางตั้งใจช่วยเหลือกลับถูกต่อว่า เขานี่ช่างไร้มโนธรรมยิ่งนัก

ร่างสูงโปร่งสวมชุดสีชิงดูสง่ายิ่งเมื่อสอดรับกับใบหน้างดงามเสียยิ่งกว่าสตรี ที่ยามนี้ถูกลมปะทะใบหน้าเพราะวิ่งตามไป หมายจะขอโทษหญิงสาว

“เจียวเจียวรู้ได้อย่างไรว่ากิ่งทับทิมจะตกใส่คุณชายหลิน” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้น หลังกลับมาหาโจวเจียวเจียวที่ยืนรออยู่อีกฟากของลานดอกไม้ เพราะฝึกยุทธ์จนชินชาเสียงฝีเท้าของหลินซีจึงเบาราวขนนก

เขาได้ยินสิ่งที่สตรีทั้งสองกล่าวพอดี แท้จริงผู้ที่ช่วยเหลือเขาคือโจวเจียวเจียวแต่เพราะเหตุใดเล่า...

“พี่จืออวิ๋นไม่สังเกตหรือว่ารอยต่อกิ่งมันไม่ประสานกัน ไม่รู้ว่าทำไมสืออีหรานจึงประมาทเช่นนี้ ไม่ใช่นางเอาเสียเลย” คำพูดนางทำให้คิ้วเรียวดั่งคันธนูของหลินซีเลิกขึ้นสูง เหตุใดนางจึงเอ่ยราวกับเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

เขาไม่คิดว่าอยู่ ๆ ตนจะถูกสตรีลอบทำร้ายได้ เขาและนางมิได้รู้จักกันเลย นางไม่ควรมีความแค้นต่อเขามิใช่หรือ

“สืออีหรานไม่มีความแค้นต่อคุณชายหลิน เหตุใดต้องทำร้ายคุณชายหลินเล่า” สตรีที่ช่วยเขาถามได้ตรงใจยิ่งนัก เขาเองก็อยากรู้เหตุผลที่นางทำเช่นกัน ผู้ใดกล่าวว่าพิชัยสงครามเข้าใจยาก สำหรับเขา ใจสตรียากยิ่งกว่าเสียอีก

ทั้งที่ก่อนนี้ดุด่าเฉิงเชียงว่าสอดรู้เรื่องชาวบ้าน ยามนี้กลับแอบฟังสตรีคุยกันเสียเอง ไม่รู้ว่าหากเฉิงเชียงมาเห็นจะหัวเราะเยาะเขาหรือไม่

“ถูกแล้วนางไม่มีความแค้นต่อคุณชายหลิน แต่คุณชายหลินมีอำนาจ มีฐานะ มีตำแหน่งทางทหาร พี่จืออวิ๋นลองคิดดูเถิดตั้งแต่เราก้าวเท้าเข้าจวนมาเห็นผู้ใดปฏิบัติต่อหลินซีย่ำแย่หรือไม่ ไม่มี...ใช่หรือไม่ นั่นเพราะผู้คนหวาดกลัวและเกรงใจตระกูลหลิน ของแม่ทัพหลินชวน หากนางได้เป็นสตรีในดวงใจเขาจะเป็นอย่างไร” หว่านจืออวิ๋นพยักหน้ารับทุกคำพูดของโจวเจียวเจียว แม้จะเชื่อแต่ก็ยากที่จะไม่ตกใจ โจวเจียวเจียวที่นางรู้จักไหนเลยจะมีความคิดลึกซึ้งเช่นนี้ได้

โจวเจียวเจียวคนเดิมคิดสิ่งใดก็ล้วนพูดออกมาจนหมด พูดสามประโยคไม่พ้นมู่หลินเฟิง

“เหตุใดเจียวเจียวคิดว่าเป็นนาง”

“ท่านลองคิดดู ยามนี้ผู้คนล้วนอยู่ในงานพิธีแต่นางกลับมาเดินเล่นลำพัง ประจวบเหมาะอาจเกือบช่วยคุณชายหลินเอาไว้อีก หากไม่ใช่เพราะเรามาเดินเล่นจนท่านเข้าไปช่วยไว้เสียก่อน”

“พี่เชื่อแล้ว เช่นนี้เจียวเจียวจึงให้พี่ไปช่วยคุณชายหลินใช่หรือไม่”

“ถูกแล้ว เรื่องนี้อย่าได้บอกให้เขารู้ตัว พี่จืออวิ๋นรับปากเจียวเจียวได้หรือไม่”

“ได้ ข้าจะไม่บอกเรื่องนี้กับผู้ใดแม้แต่คุณชายหลิน” หญิงสาวยิ้มกว้างให้ก่อนจะยื่นมือไปคล้องแขนหญิงสาวที่อายุมากกว่า ขณะกำลังจะเดินกลับออกไปทั้งสองได้ยินเสียงเข้มร้องเรียกชื่อใครบางคน

“คุณชายขอรับ คุณชาย” เฉิงเชียงตะโกนเรียกหลินซี ยามนี้พิธีการกำลังจะเริ่มขึ้นเขาจึงรีบมาเร่งให้ผู้เป็นนายเข้าไปในพิธี แต่เมื่อมาถึงคุณชายที่ควรจะนอนอยู่ใต้ต้นทับทิมกลับกลายเป็นกิ่งทับทิมแห้งเสียอย่างนั้น

“เจ้าเฉิงเชียง” ชายหนุ่มพึมพำก่อนจะกระโจนออกไปอีกทาง จากนั้นเดินอ้อมกลับมาหาเฉิงเชียงแล้วตามเข้าไปในพิธีปักปิ่นสกุลเฉียน

โจวเจียวเจียวหรือ น่าสนใจ...เพิ่มขึ้นอีกแล้ว เห็นทีวันนี้ก็มิได้น่าเบื่อดั่งที่คิด

หลังจบพิธีปักปิ่นผู้คนพากันแยกย้ายกลับ สืออีหรานเห็นหลินซีอยู่คนเดียวจึงเดินเข้าไปทัก ในใจหมายใช้มารยาตนยั่วยวนให้เขามีความหวังว่านางชื่นชอบ

“คุณชายหลินกำลังจะกลับหรือ”

“อืม” น้ำเสียงเย็นชาทำให้ความมั่นใจนางหดหายไปไม่น้อย ขณะตอบเขาไม่มองหน้านางเลยด้วยซ้ำ นัยน์ตาคู่นั้นเหลือบไปมาราวกับกำลังมองหาสิ่งใดอยู่

หญิงสาวยังทำใจกล้าพูดคุยเอ่ยถามเขาอยู่ต่อไป แม้เขาจะไม่ใส่ใจแต่หากอยู่คุยด้วยกันนาน ไม่ช้าต้องมีผู้คนสงสัยความสัมพันธ์ของทั้งสอง เช่นนี้ก็ได้ประโยชน์สองชั้นแล้ว

ผู้คนที่เกรงใจเขาก็จะคิดว่านางกับเขาเกี่ยวข้องกันพากันปฏิบัติดีต่อนาง อีกทางเรื่องนี้เข้าหูมู่หลินเฟิงอาจทำให้เขาเร่งผู้อาวุโสในตระกูลมาสู่ขอนาง

“คุณชายหลินได้รับบาดเจ็บหรือไม่ หากได้รับบาดเจ็บท่านลองนำยานี้ไปใช้เถิด ไม่ทำให้เกิดแผลเป็นบิดาข้าหาสิ่งนี้จนทั่วแคว้นก็พบเพียงไม่กี่ขวดเท่านั้น” นางว่าพลางยื่นขวดให้เขาด้วยท่าทางเขินอาย หลินซีเห็นก็ไม่สบอารมณ์ขึ้นมา เขาไม่ได้พูดสิ่งใดด้วยเหตุใดนางต้องทำท่าทางเช่นนั้น

นี่มิทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดหรอกหรือ...

“คุณหนูสือ เจ้าไม่เห็นหรือว่าข้ายังปกติ ไม่ได้รับบาดเจ็บที่ใด เจ้ามากกว่ากระมังที่ควรใช้ยา อีกอย่างยาทาแผลตระกูลหลินข้ามีไม่น้อย ไม่ต้องรบกวนเจ้าเป็นห่วง เอะนั่น...คุณหนูท่านนั้นเดี๋ยวก่อน” หลินซีพูดยังไม่ทันจบดีก็เห็นเงาร่างเล็กที่รอคอยเดินออกมาจากประตูสกุลเฉียน ชายหนุ่มร้องเรียกแล้ววิ่งตรงเข้าไปหา โดยไม่สนใจสืออีหรานด้านหลังอีกต่อไป

สืออีหรานยามปกติมันถูกห้อมล้อมด้วยสายตาอิจฉาและปลาบปลื้ม ยามนี้ถูกเมินจนเสียหน้านางกำมือจิกเล็บลงบนฝ่ามือตนเองจนเป็นแผล

เขาละเลยนางที่เป็นคุณหนูอันดับหนึ่งเพื่อเข้าไปพูดคุยกับสตรีเอาแต่ใจเช่นโจวเจียวเจียวและหว่านจืออวิ๋น

“คุณชายหลิน ท่านมีสิ่งใดหรือ” โจวเจียวเจียวถามขึ้นเมื่อหลินซีเดินเข้ามาหานางทั้งสอง ดวงตาคมคู่นั้นเหลือบมองนางก่อนจะหันไปทางหว่านจืออวิ๋น

“ก่อนนี้ข้าพูดกับคุณหนูไม่ดีสักเท่าใด ทั้งที่เจ้าจงใจช่วยข้าแต่กลับถูกโมโหใส่ ข้ารู้สึกผิดนักจึงตั้งใจรอพวกท่านทั้งสอง เพื่อเอ่ยคำขอโทษ และขอบคุณจากใจจริง ๆ ขอบคุณคุณหนู ท่าน...?”

“ข้าหว่านจืออวิ๋น คุณชายเรียกข้าว่าจืออวิ๋นก็ได้”

“เช่นนั้นขอบคุณคุณหนูหว่านที่ช่วยชีวิตข้าไว้ แล้วคุณหนูท่านนี้คือ?”

“คารวะคุณชายหลินซี ข้าบุตรสาวคนเดียวของตระกูลโจว นามเจียวเจียว” หลินซีแสร้งทำท่าไม่สนใจ เพราะจำได้ว่าก่อนนี้นางกำชับหว่านจืออวิ๋นไว้ว่าห้ามบอกเขา เขาเองก็อยากรู้ว่าเหตุใดต้องห้ามบอก จึงมิได้ทักท้วงสิ่งใด

การแสร้งไม่รู้คือวิธีรอบรู้ที่ง่ายที่สุด ไว้รอหลังนางกลับจากตระกูลเฉียนเขาค่อยตามดูไม่สาย

“ที่แท้ก็คุณหนูโจวที่ผู้คนร่ำลือ ข้าหลินซี ดูเหมือนพวกท่านกำลังจะกลับ เช่นนี้ข้าไม่รบกวนแล้ว หากมีโอกาสข้าจะตอบแทนบุญคุณวันนี้เป็นแน่” ชายหนุ่มกล่าวกับหว่านจืออวิ๋นแต่กลับเหลือบตามองหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลัง ท่ามกลางสายตาเคียดแค้นของสืออีหราน

แผนนางไม่สำเร็จล้วนเป็นเพราะสตรีโง่ทั้งสองคนนั้น

“นั่นคุณหนูสือมิใช่หรือ มายืนทำสิ่งใดหน้าประตูสกุลเฉียนหรือว่ามารอพบคุณชายหลินซี” โจวเจียวเจียวกล่าวด้วยรอยยิ้มวาววับ ราวกับกำลังเยาะเย้ยนางอยู่ ผู้คนรอบข้างถึงกับหยุดมองอย่างสงสัย

จริงดังโจวเจียวเจียวว่าเมื่อครู่นางยืนคุยอยู่กับหลินซีนานสองนาน แต่นางมีสัมพันธ์ที่ดีกับคุณชายอันดับอย่างมู่หลินเฟิงมิใช่หรือ ผู้คนสงสัยจึงพากันกระซิบนินทา สืออีหรานเห็นเช่นนั้นก็จงใจใช้มารยาบีบน้ำตาเรียกร้องความเห็นใจในทันที

“คุณหนูโจว ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ชอบข้าแต่เหตุใดต้องใส่ร้ายกันถึงเพียงนี้ อย่างไรข้าก็เป็นสตรี ข้าเพียงสอบถามคุณชายหลินซีเท่านั้น”

“หากไม่ได้ทำสิ่งใดผิดก็ไม่เห็นต้องร้อนรน ข้าพูดเมื่อไหร่กันว่าเจ้าเห็นคุณชายหลินซีรูปงามมากอำนาจจึงมายั่วยวน” สืออีหรานถึงกับสะอึก เหตุใดโจวเจียวเจียวจึงรู้เป้าหมายแท้จริงของนาง นางไม่ตอบกลับสิ่งใดอีกทำเพียงเดินหนีไปเท่านั้น

โจวเจียวเจียวแม้ไม่อยากพูดคุยกับสืออีหราน แต่หากอยากเป็นโจวเจียวเจียวที่แท้จริงย่อมต้องหาเรื่องนางบ่อยครั้งเพื่อความสมจริง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ ฤกษ์ดี [จบ]

    ฤกษ์ดีงานวิวาห์สองงานถูกจัดขึ้นพร้อมกัน เป็นเหตุให้เรื่องนี้ร่ำลือไปทั่วเมืองเทียนเผิง สองตระกูลขุนนางสำคัญวิวาห์บุตรสาวจากตระกูลคหบดีชื่อดัง งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นที่โรงเตี้ยมมีชื่อแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของตระกูลโจวอีกเช่นกันทั้งสองไม่ได้คิดจะแต่งวันเดียวกัน แต่ฤกษ์ดีวันนี้กลับมีเพียงห้าปีครั้ง หลินซีเองก็ไม่อยากรอ มู่หลินเฟิงก็ไม่อยากรอ ยิ่งมีบุตรปีนี้จะเกื้อหนุนครอบครัวเป็นอย่างมาก อีกทั้งสตรีทั้งสองยังกลัวจะไม่ได้ไปร่วมดื่มอวยพรให้อีกฝ่ายเมื่อเลือกไม่ได้จึงตกลงแต่งพร้อมกัน มู่หลินเฟิงและหลินซียังคงปะทะฝีปากกันบ่อย ๆ แต่ทุกครั้งก็ถูกว่าที่ภรรยาตำหนิจนหน้าบูดกันไปทุกทีหากงานจัดในบ้าน เจ้าสาวย่อมไม่มีหน้าที่มาต้อนรับ แต่งานวิวาห์นี้กลับจัดในโรงเตี้ยมใหญ่โต เจ้าสาวทั้งสองจึงสวมผ้าคลุมหน้าพูดคุยกับผู้มาร่วมยินดีด้วยได้ กระทั่งมีชายสูงศักดิ์ผู้หนึ่งเดินเข้ามาคารวะสุรากับโจวเจียวเจียว“

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ อารมณ์ดี

    ตอนพิเศษอารมณ์ดีหลังถูกสตรีในใจปฏิเสธชัดเจน หลินซีรู้สึกว่าตนเองต้องเสียใจมากเป็นแน่ ทว่าเรื่องราวไม่เป็นเช่นนั้น เขารู้สึกราวยกภูเขาออกจากอกเสียมากกว่า ร่างสูงโปร่งที่มีใบหน้างดงามราวอิสตรีเดินเอื่อยไปเรื่อย ๆ บนถนนเส้นหลักของตลาดฝั่งประจิมแม้จะมีใบหน้างดงามจนหาที่เปรียบได้ยากและเป็นที่ชื่นชอบของสตรีมากมาย แต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าก่อกวนเพราะตระกูลนักรบเช่นเขาไหนเลยจะรู้จักรักหยกถนอมบุปผาได้เฉิงเชียงที่เดินอยู่ด้านหลังขยับขึ้นมากระซิบชายหนุ่มแผ่วเบา“คุณชายนั่นแม่นางจืออวิ๋นขอรับ” หว่านจืออวิ๋นเป็นสตรีที่งดงามราวเทพธิดาไม่ต่างสืออีหราน ต่างกันเพียงนางไม่ใช่บุตรสาวตระกูลขุนนาง หากแต่เป็นบุตรสาวพ่อค้ายามนี้ไร้ซึ่งเงาของสืออีหราน นางจึงเป็นที่เลื่องลือมากยิ่งขึ้น มีบรรดาบุตรชายขุนนางหลายคนมาทำความรู้จัก บางคนต้อ

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   พิมดาว

    47พิมดาวจวนตระกูลมู่เงียบเชียบราวกับจวนร้างแต่ยังมีเสียงเล็ดลอดออกมาทำให้รู้ว่าแท้จริงที่นี่มิได้ร้างผู้คน สตรีวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนเตียงสีหน้าเศร้าหมองไม่น้อย นางชี้หน้าผู้เป็นสามีต่อว่าเขาแต่ตนเองกับร่ำ ๆ จะร้องไห้บุตรชายนางไปทำงานต่างเมืองสองเดือนแล้ว แม้มีจดหมายแต่ราวกับไม่มี จดหมายนั้นหาใช่บุตรชายนางเขียน หากบุตรชายนางยังอยู่ดีเหตุใดจึงไม่เขียนจดหมายมาเอง“ท่านโกหกข้า ลูกข้าอยู่ที่ใด ฮือ...” อี้ฮูหยินกล่าวไปร่ำไห้ไป จดหมายสองฉบับที่ส่งมา ลายมือแทบไม่ต่างจากบุตรชายแต่นางที่เฝ้ามองบุตรชายเติบใหญ่ มีหรือไม่สามารถจำได้ลายมือบนจดหมายถูกปลอมแปลงขึ้น แล้วเหตุใดต้องปลอมหากไม่ใช่เพราะบุตรชายนาง...“ฮูหยินเจ้าใจเย็น ๆ เสียก่อน เฟิงเอ๋อร์ยังอยู่ดี”“อยู่ดีหร

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ขอเพียงท่านฟื้น

    46ขอเพียงท่านฟื้นปลายวสันต์ลมโชยพัดผ่านกิ่งไม้ใบไม้เสียดสีกันฟังราวกับกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจีให้ความสดชื่นไม่น้อย เพียงแต่ที่นี่คือเรือนข้างในคฤหาสน์หลังใหญ่สกุลโจว ร่างสูงโปร่งบนเตียงก็ยังคงหลับตาอยู่เช่นเดิมหญิงสาวใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมดำสนิทที่ถูกลมพัดของมู่หลินเฟิงออกจากใบหน้า“สองเดือนแล้วที่ท่านปล่อยให้ข้าพูดคุยเพียงลำพัง ยังไม่ทันได้หมั้นหมายก็ทิ้งให้ข้ากังวลเช้าเย็นเช่นนี้ คิดว่าข้ายังจะอยากแต่งกับท่านอีกหรือคุณชายมู่” บ่นไปก็เช็ดตัวเขาไป นางทำจนเคยชินไปเสียแล้ว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนนางจึงเช็ดเนื้อเช็ดตัวของเขาทั้งเช้าและเย็นเดิมทีนางคิดว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาภายในหนึ่งเดือน เพราะก่อนนี้เขาตอบสนองนางด้วยการขยับนิ้ว แต่ก็เพียงแค่ครั้งเดียว ดูเหมือนอี้ฮูหยินเองก็เริ่มสงสัยแล้วเหมือนกันว่าบุตรชายไม่ได

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ข้ายังรออยู่

    45ข้ายังรออยู่ตระกูลสือที่รุ่งเรืองในอดีต ยามนี้จบสิ้นแล้วทั้งตระกูล ประตูใหญ่จวนสือที่เคยรุ่งโรจน์บรรดาขุนนางน้อยใหญ่ตบเท้าเข้ามาทำความรู้จัก บัดนี้มีเพียงเศษใบไม้ปลิดปลิว เวิ้งว้างวังเวง ประตูปิดสนิทถูกแปะทับด้วยกระดาษสีแดงแผ่นยาวในตลาดมีประกาศความผิดติดไว้ให้ผู้คนรับรู้ ตระกูลสือกำเริบเสิบสาน ไม่เกรงกลัวกฎหมาย สตรีสกุลสือไร้คุณธรรมบงการลอบทำร้ายผู้อื่น ต้องโทษทั้งตระกูล ยึดทรัพย์ยึดจวน ริบคืนบรรดาศักดิ์ทั้งหมดสือจินเฉิงถูกโบยห้าสิบครั้ง เนรเทศไปชายแดน สืออีหรานถูกโบยสามสิบครั้งถูกกรีดใบหน้าด้านขวาว่าไร้คุณธรรม เกรงว่าชั่วชีวิตนี้นางคงไม่อาจผูกสมัครรักผู้ใดได้อีก ส่วนมารดาของนางถูกโบยยี่สิบครั้งฐานเป็นมารดาที่สั่งสอนบุตรสาวไร้คุณธรรมเมื่อได้ยินเรื่องนี้โจวเจียวเจียวไม่ได้มีท่าทางยินดียินร้ายใดต่อเรื่องที่ได้ย

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ท่านต้องฟื้น

    44ท่านต้องฟื้นจวนแม่ทัพหลินมู่หลินเฟิงถูกพากลับมายังจวนตระกูลหลิน เพราะอยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งหมอของตระกูลหลินเชี่ยวชาญชำนาญบาดแผลเช่นนี้มากกว่า ร่างโชกเลือดถูกยกเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง สาวใช้สองสามคนช่วยท่านหมออยู่ภายใน ผ่านไปเกือบสองเค่อจึงยกเอาอ่างไม้ออกมา เปลี่ยนเป็นน้ำร้อนแล้วเข้าไปอีกโจวเจียวเจียวเดินวนไปวนมา ร้อนใจนักไม่รู้คนโง่ผู้นั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง มีดปักคาไว้ไม่รู้ถูกส่วนสำคัญบ้างหรือไม่เหตุใดคน ๆ นั้นจึงโง่เช่นนี้ การช่วยคนต้องช่วยโดยไม่ให้ตนเองเป็นอันตรายไปด้วย นี่อันใดกันทำตนเองบาดเจ็บคาบเกี่ยวชีวิต คิดแล้วยิ่งขุ่นเคืองเป็นถึงจอหงวนสิ้นคิดนักหญิงสาวทำได้เพียงต่อว่าเขาในใจ นางต่อว่าเขาจนลืมไปกระมังว่าตนเองก็ตายเพราะช่วยผู้อื่น“ท่านหมอ เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ร่างเล็กปรี่เข้าไปถาม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status