แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: เฌอเลียร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-18 22:40:15

“ถ้าไม่มีอะไร ดิฉันกลับแล้วนะคะท่านซีอีโอ จะไล่ฉันออกก็กรุณาจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานด้วย อ้อ! อย่าลืมแจ้งให้ฉันรู้ก่อนหนึ่งเดือนด้วยนะคะ”

ทีแรกเวรุณีจะยอมรับการไล่ออก เดินไปจากที่นี่ดีๆ แต่เมื่อเขาแรงมาอย่างนี้ เธอก็แรงกลับ สมน้ำสมเนื้อกันดี

“ลาล่ะค่ะ”

ร่างกลมกลึงหันหลังเดินตัวปลิว เปิดประตูเข้าลิฟท์กลับไปชั้นสำนักงานตนด้วยใจเต้นระรัวทันที

บ้านที่มีเวรุณีเพียงลำพังนั้นเงียบเหงา เธอซื้อเพียงน้ำเต้าหู้เป็นมื้อเย็น เทใส่แก้วและเปิดโทรทัศน์ดูอย่างเหม่อลอย คิดถึงอนาคตอันลางเลือนของตน หากธรณ์ไล่ออก เศรษฐกิจแบบนี้จะไปสมัครงานที่ไหน จะกินอยู่อย่างไร จะใช้ชีวิตคนเดียวได้หรือไม่

คิดด้วยสมองอันสับสนอยู่นานจนปวดหัว จึงไปอาบน้ำ แต่งตัวขึ้นไปไหว้พระในห้องชั้นบนของบ้าน ซึ่งมีอัฐิพ่อแม่และเวลา ระหว่างนั้นได้ยินเสียงกดกริ่งหน้าบ้านรัว รถคันงามสีดำปลาบจอดนิ่งอยู่

“มาหาใครเหรอคะ”

เวรุณียืนห่างประตูรั้วประมาณวา คะเนให้ ...หากคนกดออกเป็นผู้ร้ายเอื้อมไม่ถึงตัวเธอแน่

“มาหาคุณนั่นแหละ เปิดประตูทีสิ”

ธรณ์ยืนจังก้าอยู่ตรงนั้น

“คุณมาที่นี่ได้ยังไง ทำไมรู้จักบ้านฉัน”

เธอพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น ในใจกลัวสุดขีด เขารุกคืบเข้ามาในชีวิตเธอ ทั้งที่ทำงาน ...ที่พัก

“คุณเป็นพนักงานบริษัทผมนะ ฝ่ายบุคคลมีข้อมูลคุณอยู่แล้ว อย่าลืมสิ”

ชายหนุ่มเฉลยหน้ายุ่ง

“เปิดประตู จะให้ยืนคุยอยู่ตรงนี้หรือยังไง”

“แล้วคุณมาหาฉันเรื่องอะไรล่ะ อยากทำอะไรก็บอกผ่านฝ่ายบุคคลสิ”

“ทำไมจะต้องบอกก็ในเมื่อเป็นเรื่องระหว่างคุณกับผม”

“ฉันกับคุณไม่มีเรื่องอะไรกันแล้ว”

ธรณ์หรี่ตามองลอดประตูรั้วเหล็กดัด ไปยังเจ้าของบ้านในชุดนอนเชิ้ตยาวคลุมเข่า ผมถักเป็นเปียเดี่ยวไพล่หลัง

“เรื่องที่คุณเสนอผมเองในบริษัท...เรื่องลูก”

ปลายประโยคลากยาว แผ่วเบาราวกระซิบ แสงจากหลอดไฟเหนือประตูรั้วสว่างจ้า เวรุณีอ่านการขยับปากเขาออก

“เร็ว! เปิดได้แล้ว จะให้ชาวบ้านแถวนี้รู้ด้วยหรือยังไง”

ธรณ์แกล้งเพิ่มเสียงดังขึ้น เวรุณีเม้มปาก ยอมเปิดประตู จึงเห็นว่าเขาไม่ได้มาคนเดียว มีคนขับรถและหนุ่มสวมสูทคนเคยเจอที่โรงพยาบาลนั่งหน้ามาด้วย

“รออยู่นี่แหละ เราจะคุยกันตามลำพัง”

เธอจำต้องเชิญเขานั่งบนโซฟาขนาดกะทัดรัด ประจันหน้ากับโทรทัศน์ โดยตัวเองนั่งถัดไป

“ผมยอมรับข้อเสนอ”

ธรณ์บอกเรื่องที่ต้องการไม่อ้อมค้อม

“อะไร...”

ขณะเธอยังงงๆ อยู่

“ที่ว่าคุณจะมีลูกกับผมไง”

“เฮ้ย!”

เจ้าของบ้านร้องสียงหลง ดีดตัวออกจากโซฟา เขาก็ไวทายาด คว้าแขนดึงไว้เสียก่อน กลายเป็นเขาและเธอลุกขึ้นยื้อกันไว้

“คุณเป็นคนเสนอเองนะเวรุณี”

สายตาเขามองโลมเลียร่าง ดวงหน้ากลมใสกระจ่าง ลำคอใต้ปกเสื้อคอวี อกสาวเคลียเนื้อผ้ารำไร ต่ำไปจนถึงปลีน่องขาวๆ ซึ่งโผล่พ้นรอยสาปเสื้อนอน เธอหน้าแดงย่อตัวลงหวังความยาวเสื้อเพิ่มขึ้นเพื่อปิดขา แต่กลายเป็นดันอกอิ่มให้พุ่งดันแนบเสื้อออกมาอีก

“ไปหาผู้หญิงคนอื่นให้อุ้มท้องแทนสิ คุณมีเงินตั้งเยอะ”

“ไม่เอา เดี๋ยวมีปัญหาต้องฟ้องร้องกันเหมือนในข่าว”

ธรณ์หมายถึงข่าวฟ้องร้องแม่อุ้มบุญซึ่งต้องการเก็บเด็กเอาไว้เสียเอง

“เป็นคุณนั่นแหละดีแล้ว เราไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกัน”

ผู้ชายคนนี้แย่เหลือเกินในสายตาเวรุณี พูดเรื่องแบบนี้ได้หน้าตาเฉย ...เขาจะใช้มดลูกเธอเลี้ยงลูกเขา

“ฉันไม่เอาด้วยหรอก”

“แล้วตอนนั้นคุณเสนอมาทำไม”

เขากระชับมือที่จับแน่นขึ้น ...เจ็บจนเธอนิ่วหน้า

“ก็ฉันโมโหนี่ เลยพูดอะไรอย่างนั้นไป”

“งั้นรักษาคำพูดด้วยนะ คุณต้องรับผิดชอบมีลูกให้ผม เขาจะเป็นทายาทคนต่อไปของตระกูล”

เวรุณีรู้สึกเหมือนกำลังพูดกับคนบ้า ที่คิดถึงแต่ความต้องการของตัวเอง ไม่สนใจเธอเลย

“อย่างนี้แฟร์กับผมแล้ว”

“แต่ไม่แฟร์กับฉัน แล้วคนอื่นจะมองฉันว่ายังไง”

“ก็มองแบบเดิมนั่นแหละ คุณยังโสด ไม่มีแฟน ไม่มีใครนี่”

เธออ้าปากค้าง

“คุณให้คนสืบเรื่องฉันเหรอ!”

เขายักไหล่ ดังเป็นเรื่องธรรมดามาก

“มดลูกที่ลูกผมต้องอาศัยอยู่ตั้งเก้าเดือนนี่ ผมก็มีสิทธิ์รู้นี้ ว่าสะอาดหรือเปล่า ผ่านมาแล้วกี่คน”

เวรุณีทนไม่ไหวกับวาจาร้ายกาจ เงื้อมือเตรียมสมนาคุณ ธรณ์ไม่ยอมพลาดซ้ำสอง กระตุกแขนทีเดียวร่างอวบก็ปลิวมาเข้าปะทะอกแกร่ง วงแขนแข็งแรงข้างเดียวรัดเอวไว้แน่น ส่วนมือที่เหลือเชยคางมนขึ้น

“คุณเลวที่สุด หยาบคาย!”

“ผมพูดความจริงต่างหาก เราโตๆ กันแล้วนะ”

ธรณ์พึงใจกับกลิ่นหอมรวยริน ...เธอใช้น้ำหอมอะไร ชื่นใจและเย้ายวนอย่างประหลาด เวรุณีอวบ ตัวนิ่ม อกหยุ่น ไม่บางหุ่นนางแบบจนตัวแทบหักเหมือนผู้หญิงอื่นที่เคยคบ

“วิธีนี้แหละวินๆ ทั้งสองฝ่าย ผมได้ทายาท แล้วจะให้เงินคุณสักก้อน เอาไปทำเรื่องที่อยากทำ”

เวรุณีตกขอบสเปคเขาไปเสียไกล ทั้งหน้าตา คุณวุฒิ ทรัพย์สิน สถานะทางสังคม ข้อดีอย่างเดียวที่เธอมีคือประวัติขาวสะอาด ไม่มีปัญหาเรื่องผู้ชาย

“แล้วถ้าฉันแบล็คเมล์คุณล่ะ”

หญิงสาวยิงคำถามท้าทาย

“ก็ลองดูสิ ผมมีวิธีจัดการของผมเหมือนกัน”

ธรณ์ยิ้ม แต่ดวงตาไม่ยิ้มด้วย เวรุณีลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น

“งั้นก็แค่เป็นการอุ้มบุญ เอาน้ำเชื้อคุณฉีดใส่ไข่ แล้วฝังมดลูกฉันเท่านั้นใช่ไหม”

“รู้ดีจังเลยนะ”

ชายหนุ่มเลิกคิ้วทึ่งกับเธอ

“ในอินเตอร์เน็ตมีเรื่องนี้ตั้งเยอะแยะ ปล่อยฉันได้แล้ว”

เวรุณีเคยคิดเล่นๆ หากเหงามากๆ น้องชายแยกไปมีครอบครัวใหม่ และเธอไม่มีใคร วันหนึ่งอาจทำเหมือนนางเอกหนังต่างประเทศ ไปขออสุจิจากธนาคารอสุจิ เพื่อตั้งท้องโดยไม่ต้องการพ่อ จึงหาอ่านข้อมูลเผื่อไว้

ไม่คิดเลยว่าต้องมาใช้จริงๆ ธรณ์ปล่อยคลายวงแขนอย่างเสียดาย เธอผลักอกเขาออก ถอยไปยืนหน้าโทรทัศน์

“แล้วเราจะคุยเรื่องนี้กันอีกที”

ชายหนุ่มกระชับสูทที่ยับ แล้วเดินออกไป ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายใจของเจ้าของบ้าน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 28 พิเศษ The Wedding 6 (จบ)

    “สวยเหมือนนางฟ้าเลย”อาม่าชมเปาะ เมื่อการแต่งหน้าอันยาวนานสิ้นสุดลง เวรุณีก็อึ้งไปเหมือนกันเมื่อมองภาพในกระจก ผู้หญิงในชุดขาวที่สวยเกินจินตนาการ“อาธรณ์อีต้องตะลึงเหมือนกันแน่ๆ”อาม่าหัวเราะคิก ท่านมาอยู่กับเธอตั้งแต่เช้ามืดในวันงานแต่งงานอันแสนวุ่นวาย“คุณภูสิตโทร.มาตามแล้วค่ะ”เว็ดดิ้งเพลนเนอร์เร่ง รีบมาช่วยยกชายกระโปรงฉลุลายลูกไม้ กลุ่มเจ้าสาวจึงได้พากันทยอยออกจากห้องอาม่าพูดอะไรสักอย่างแว่วๆ เวรุณีไม่ทันได้ฟัง ด้วยหูก็อื้อ ตาก็หนักเพราะขนตาปลอมหนามือใหญ่คุ้นเคยจับเธอไว้ พร้อมกระซิบ“ทิปสวยมากเลยครับ”น่าเสียดายที่ขนตาปลอมเยอะไปหน่อย เธอจึงไม่ได้เห็นหน้าเขาว่าปลื้มเพียงใด ธรณ์พาเธอเดินผ่านไปในประตูใหญ่ ที่มีเสียงดนตรีและแสงเฟลชกล้องรัวต่อเนื่อง“บ่าวสาวยิ้มครับ ยิ้ม”เวรุณีพยายามตามเสียงที่บอก แต่หน้าตึงเครื่องสำอางจนไม่รู้ว่าตนเองยิ้มจริงหรือแค่แสยะเขาพาเธอเดินขึ้นเวที ก่อนพิธีก่อนจะพูดอะไรสักอย่างที่ฟังไม่ทันทุกอย่างรวดเร็วเหลือเกินในความรู้สึกเธอ วงดนตรีเล่นเพลงรักหวาน ภูสิตแอบมากระซิบเจ้าบ่าว“ไฟล์สไลด์รูปพรีเวดดิ้งเสียครับ รอสักครู่เว็ดดิ้งแพลนเนอร์กำลังให้วินมอเตอร์ไซด์เอ

  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 27 พิเศษ The Wedding 5

    แขกกลับประมาณสามทุ่ม อาม่าบ่นอยากอยู่คุยด้วยมากกว่านี้ แต่ติดเรื่องสุขภาพ อายุมากและเดินทางมาไกล ทำให้เพลียมาก ท่านเล่าให้ฟังว่ามีบ้านอยู่อีกแห่งแถวปทุมธานีพจนารถกลับเป็นรายถัดมา ด้วยรับรู้ถึงบรรยากาศ “ไล่” ของธรณ์เวรุณีช่วยแอนเก็บล้างภาชนะ เขากับภูสิตอาสาจะช่วย แต่เธอปรามไว้ ให้เหตุผลว่าครัวเล็ก เกะกะกันเสียเปล่าๆ ทั้งสองจึงมานั่งดูโทรทัศน์หน้าโซฟา“คุณทิปไปไหน”ธรณ์ถามเมื่อแวะห้องน้ำข้างครัวแล้วเห็นแอนคนเดียว“ขึ้นไปข้างบนตั้งนานแล้วค่ะ”เขาพยักหน้า ก่อนตามขึ้นไป ห้องเวรุณีปิดประตูเงียบ แต่มีไฟลอดออกมาจากห้องพระเธอพนมมือพับเพียบหน้าโกศบรรจุอัฐิคนในครอบครัว ธรณ์ย่อตัวลงนั่งข้าง เขาเห็นน้ำตาน้อยๆ เอ่อคลอคลองจักษุ“ร้องไห้ทำไม”“ฉันดีใจที่พ่อแม่ ไทม์ ยังห่วง ดลใจให้พวกอาม่ามา แต่ก็เศร้าเพราะคิดถึงพวกเขา”ธรณ์เอื้อมมือไปโอบศีรษะเธอมาแนบชิด“ทุกอย่างเหมือนกับฝันไป จู่ๆ ฉันก็มีญาติตั้งเยอะ” เวรุณีเล่าเสียงเครือ“สมัยก่อนฉันอิจฉามาก เวลาปิดเทอมที่เพื่อนๆ ได้ไปอยู่บ้านปู่ย่าตายาย ได้แต่คิดว่าทำไม่ครอบครัวไม่มีญาติเลย”“ไม่ใช่ฝันหรอก ทุกอย่างเป็นความจริง”“มันเร็ว เกิดขึ้นกะทันหัน”เวรุณี

  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 26 พิเศษ The Wedding 4

    ตะวันคล้อยจากฟ้า จวนเจียนจะลาลับ วันที่น่าเบื่อหน่ายของหลายคนอาจใกล้สิ้นสุด ทว่าความสุขของธรณ์เพิ่งเริ่มต้นรถคันงามกำลังแล่นฝ่าการจราจรแออัด มีปลายทางคือทาวน์เฮ้าส์หลังน้อยของเวรุณีธรณ์จงใจไม่โทร.หาเธอ ให้ภูสิตเตรียมไวน์ดีๆ ไว้ เพื่อดื่มคู่กับอาหารอิตาเลียน เขาตั้งใจให้เป็นเซอไพรส์ แต่การจราจรก็ติดสาหัสสากรรจ์เหลือเกิน“ให้ผมโทร.บอกคุณทิปไหมครับว่าเราจะไปถึงช้าหน่อย”ภูสิตถามจากเบาะหน้าข้างคนขับ“ไม่ต้องหรอก ทิปเขาเข้าใจ”ข้อดีของการไม่ติดโทรศัพท์คือเวรุณีไม่โทร.ตามจิกเขา เธอจะรอถ้าเขาบอกว่าจะไปหา และธรณ์ก็ไม่เคยผิดนัดเสียด้วยเวรุณีรู้จักการรักษาระยะห่าง เธอเลือกจะอยู่ในที่ทางของตัวเอง ซึ่งเป็นทั้งส่วนที่น่ารักและน่าหงุดหงิด...น่ารักตรงเขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจ น่าหงุดหงิดที่เธอดูสบายๆ จนเหมือนคนไม่มีแฟนครั้งหนึ่งทั้งสองไปทานมื้อค่ำด้วยกัน ระหว่างเดินออกมาจากร้าน เขามีสายสำคัญจากลูกค้า เธอจึงเลี่ยงไปเลือกขนมฝากเด็กที่ดูแลบ้านและคนขับรถธรณ์คุยโทรศัพท์ไม่กี่นาที หันมาอีกครั้ง เวรุณีก็ยืนหัวเราะคิกคักกับเชฟฝรั่งชุดขาวหุ่นอ้วน หูตาคนพูดทั้งแพรวพราวทั้งโลมเลียหน้าอกเธอขนาดเขาเดินไปใกล้ยั

  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 25 พิเศษ The Wedding 3

    ทันใดนั้นแอนซึ่งป้าเอื้องให้มาอยู่เป็นเพื่อนก็เข้ามาบอกว่าท่อระบายน้ำอ่างล้างจานตัน ทั้งเธอและเขาหน้าแดงกันทั้งคู่เวรุณีต่อว่าธรณ์ เขาไม่ทุกข์ร้อน เรียกแอนมาและบังคับให้สัญญาว่าจะไม่เอาเรื่องที่เห็นไปบอกใครแอนตัวสั่น น้ำตาคลอ เวรุณีเห็นแล้วสงสาร ต่อไปชีวิตเด็กคนนี้จะไม่เหมือนเดิม ต้องอยู่กับความหวาดระแวง กลัวเจ้านายลงโทษ กลัวการตกงาน กลัวครอบครัวลำบากเธอโกรธธรณ์ที่ใช้วิธีรุนแรง เหนือจากนั้นเวรุณีโทษว่าเป็นความผิดตนเอง ทำเรื่องไม่สมควรทำให้คนอื่นเดือดร้อน เธอจึงต้องทำเรื่องที่ตัวเองเท่านั้นจะทำได้“นะคะ ...คุณธรณ์ อีกไม่กี่สัปดาห์เอง เราก็จะแต่งงาน ได้อยู่บ้านเดียวกันแล้ว”เวรุณีภาวนาให้ธรณ์ใจอ่อน มิเช่นนั้นก็ไม่รู้จะทำเช่นไรแล้ว“คุณยังมากินข้าวกับฉันได้นะคะ ถ้าจะมาวันนี้ฉันจะลองทำอาหารอิตาเลี่ยนแบบที่เราดูกันในสารคดีวันก่อนให้คุณชิม”เธอเปลี่ยนมาอ้อน“ร้ายนักนะทิป”“ผู้หญิงตอแหลก็อย่างนี้แหละค่ะ”ครั้งหนึ่งเคยเป็นคำบริภาษแสลงหู ตอนนี้เธอเก็บไว้ล้อเลียนเวลาตนทำอะไรแสบๆ ให้เขา“คุณยื่นขอเสนอที่ผมไม่อาจปฏิเสธได้อีกแล้ว”เสียงหัวเราะใสแว่วจากปลายสาย เพราะเธอรู้ว่านี่เป็นวลีจากภาพยนตร์

  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 24 พิเศษ The Wedding 2

    “ยัยตัวแสบ!”ธรณ์จะทำอย่างไรกับเธอดี นอกจากคาดเดาไม่ได้แล้วยังทำให้เขาหัวปั่น ธรณ์ไม่เคยง้อใคร กับน้องสาวก็มีแต่อ้อนและเอาใจเขาการยอมให้เวรุณีกลับไปอยู่บ้านนี่ไม่ได้หมายความว่าให้เธอไม่ต้องสนใจเขาเหมือนคนปลายทางจะรู้ใจ หน้าจอปรากฏสายเข้าเป็นรูปเธอ ธรณ์กดรับอย่างไม่ลังเล แล้วต่างฝ่ายต่างก็เงียบ“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณธรณ์ โทร.มาตั้งหลายสาย”“ทำไมไม่รับโทรศัพท์”เขาใช้เสียงแบบตำหนิลูกน้องเวลาทำงานพลาด“ฉันไม่ได้เอามือถือไป”เธอไม่ทุกข์ร้อนหรือมีแววสำนึกผิดในน้ำเสียง“แล้วคุณไปไหนมา! โทรศัพท์น่ะมันของจำเป็นนะ ถ้าเกิดเรื่องอะไรมากับคุณ คนอื่นจะได้รู้”ถ้าเจ้าหล่อนอยู่ตรงหน้า ธรณ์จะจับตัวเขย่าๆ ให้หัวคลอนเลยทีเดียว ในยุคที่คนติดมือถือ นับเป็นปัจจัยที่ห้าในการดำรงชีวิตเห็นจะมีแต่เธอเท่านั้นแหละไม่ไยดีมัน ที่ติดตัวเป็นประจำมีแต่ไอพ็อดไว้ฟังเพลง“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็เดินไปสถานีตำรวจสิ อยู่ใกล้ๆ นิดเดียวเอง”“แล้วคุณไปที่ไหน ถึงใกล้สถานีตำรวจแบบนั้น”“ฉันไปลานออกกำลังกายชุมชน เล่นโน่นนี่จนเหงื่อโทรมเลย มันอยู่ใกล้ๆ สถานีตำรวจ”ทาวน์เฮ้าส์เวรุณีมีสถานที่นั้นหรือเปล่า ธรณ์ไม่ทันสังเกต สิ่งเดียวท

  • กลหัวใจซาตาน   บทที่ 23 พิเศษ The Wedding 1

    โนโมโฟเบีย เป็นการรวมสองคำคือ โทรศัพท์มือถือ (Mobile Phone) และ อาการกลัว(Phobia) ใส่ คำว่าโน (No) นำหน้าไปนิด ก็ได้คำศัพท์ใหม่ทันสมัยแปลว่ากลุ่มอาการติดโทรศัพท์มือถือ และกังวลใจว่าถ้าหากไม่มีมันจะเป็นอย่างไร สังเกตง่ายๆ คือ ห่วงแต่มือถือ เช็คหน้าจอตลอด วางไว้ใกล้ชนิดแค่ฝ่ามือคว้าภูสิตเหลือบตาจากข้อมูลไอแพ็ดที่ยกระดับปกสูทเทา แอบมองคนมีอาการดังว่าเจ้านายสวมเสื้อกั๊กน้ำเงินเข้มหลังโต๊ะทำงานหน้ามุ่ย พยายามกดมือถือโทร.ไปเบอร์ซ้ำๆ คิ้วใต้ผมหวีเสียเรียบขมวด ขบกรามเป็นสัน อันเป็นสัญญาณบอกว่าปลายทางไม่รับสาย“เซ็นก่อนดีไหมครับ แล้วค่อยโทร.ใหม่”เลขาฯคู่ใจเก็บไอแพ็ดแนบอก พยักหน้าไปทางเอกสารรอการอนุมัติซึ่งวางค้างเติ่งไว้นานแล้ว“ทิปไม่รับสายเลย ไม่แม้แต่จะโทร.กลับ”ธรณ์บ่น แต่ยังวางโทรศัพท์ไม่ห่างมือนัก หยิบปากกาหมึกซึมแท่งดำเงาเลื่อมราคาแพง ตวัดชื่อลงบนกระดาษ“นั่นมันเมื่อห้านาทีที่แล้วนะที่คุณติดต่อเธอ หลังจากนั้นก็จี้ตลอด สงสัยคุณทิปโทร.เข้าไม่ได้เพราะสายคุณสวนออกไปมั้งครับ”ภูสิตเผยยิ้มน้อยๆ เพราะหากมากกว่านี้ อาจเป็นเขาเองที่โดนระเบิดลง“เดี๋ยวเย็นนี้ก็เจอกัน”“เจอไม่กี่ชั่วโมงแล้วฉัน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status