Mag-log inชายหนุ่มกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งด้วยสภาพที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน
“ฝนตกหนักกว่าที่ฉันคิดเอาไว้อีก แต่ยังดีที่หลังคาไม่รั่วซึม”ชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวในขณะที่กำลังเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว “ฝนตกแบบนี้ก็ดีเหมือนกันน้อจะได้หลับสบาย” “กำลังเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว”ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับถอดเสื้อออกจนเผยให้เห็นแผ่นอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ “ทำไมนายไม่ออกไปถอดข้างนอก มาถอดอะไรในนี้”ส่วนหญิงสาวที่เห็นดังนั้นจึงรีบหลบสายตา “ทำอย่างกับไม่เคยเห็นฉันเปลือยกายท่อนบน” “เปรี้ยง! กรี๊ด!”ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้โต้ตอบจู่ๆเสียงฟ้าผ่าที่ดังขึ้นกระทันหันทำให้เธอตกใจกลัวจนกรี๊ดร้องพร้อมกับเอามือทั้งสองข้างอุดหูตัวเองไว้ “เปรี้ยง!! ”เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับมีสายฟ้าแลบอย่างต่อเนื่องจนหญิงสาวที่เห็นดังนั้นจึงรีบลุกจากที่นอนแล้ววิ่งไปกอดชายหนุ่มด้วยอาการหวาดกลัวจนสั่นเทาไปทั้งตัว “เหมือนฟ้าผ่าต้นไม้ใหญ่”ส่วนชายหนุ่มที่เห็นว่าหญิงสาวกำลังตกอยู่ในอาการหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดจึงตัดสินใจลูบหลังเธอช้าๆเป็นการปลอบ “ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว”หญิงสาวปล่อยโฮราวกับเด็กน้อยที่กำลังงอแงอยากกลับบ้าน ส่วนชายหนุ่มที่เห็นดังนั้นก็เผลอเผยรอยยิ้มด้วยความเอนดูเธอ “ฟ้าคงไม่ผ่าทั้งคืนหรอก” “แต่เราไม่รู้ว่ามันจะผ่าอีกตอนไหน เผลอๆมันอาจจะผ่ากระท่อมหลังนี้ก็ได้”หญิงสาวยืนซบแผ่นอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อโดยที่มือทั้งสองข้างโอบเอวเขาไว้แน่น “เธอทำให้อุณหภูมิในร่างกายฉันกำลังเพิ่มสูงขึ้นนะรู้ตัวมั้ย”ชายหนุ่มกล่าวตักเตือนหญิงสาวเมื่อเขาเริ่มรู้สึกปวดตึงบริเวณเป้ากางเกง “นายพูดแบบนี้หมายความว่าไง”ส่วนหญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นจึงเงยหน้าถามชายหนุ่มจนทั้งสองได้สบตากันอย่างใกล้ชิด ด้วยความที่ชายหนุ่มรุ่มร้อนในกายอยู่แล้วแต่พอเขาได้สบตากับหญิงสาวก็ยิ่งทำให้้ช่วงล่างแทบจะระเบิดทะลุกางเกง ดังนั้นเขาจึงผลักร่างผอมบางออก “ทำบ้าอะไรของนาย” “ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว”พูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืนจากนั้นร่างสูงโปร่งก็ค่อยๆเดินพ้นประตูออกไป …. “นอนไม่หลับหรอ”ชายหนุ่มหันไปถามหญิงสาวซึ่งกำลังนอนพลิกตัวไปมา “ก็ฉันระแวงว่าจะมีฟ้าผ่าอีกเลยนอนไม่หลับ” “ถ้าเธอนอนดิ้นไปมาแบบนี้ทั้งคืนฉันก็จะไม่ได้นอนด้วยนะ” “งั้นสลับที่นอนกันมั้ยอ่ะ ฉันจะได้ไม่รบกวนเวลานอนของนาย” “เอาฟูกที่นอนลงมาไว้ข้างล่างไม่ง่ายกว่าหรอ” “ถ้าทำแบบนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการนอนด้วยกัน” “อย่างน้อยๆมันก็ดีกว่าที่ฉันต้องทนฟังเสียงแคร่ไม้ดังทั้งคืนเพราะเธอเล่นขยับตัวไปมาอยู่นั่นแหละ” “ก็แล้วทำไมนายถึงไม่ทำขามันให้แข็งแรงตั้งแต่แรก” “ไม่ใช่ว่าฉันทำไม่แข็งแรงแต่มันก็เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ไว้พรุ่งนี้ฉันจะเปลี่ยนกับอันที่อยู่ข้างนอกให้ แต่ว่าตอนนี้เธอเอาฟูกที่นอนมาไว้ข้างล่างเถอะฉันจะได้นอนสักที” “ก็ได้”พูดจบหญิงสาวก็รีบยกฟูกที่นอนลงไปไว้ที่พื้นอย่างทุลักทุเล “คราวนี้นอนดิ้นเต็มที่เลย”ชายหนุ่มหันมากล่าวกับหญิงสาวก่อนที่จะเอาผ้าห่มคลุมหัว และไม่นานเสียงกรนของเขาก็ดังขึ้นจนทำให้หญิงยิ่งนอนไม่หลับเข้าไปใหญ่ ตกดึกเสียงกรนของเขาค่อยๆเงียบหายไปจนหญิงสาวถอนหายใจด้วยความโล่งอก และไม่นานเธอก็ผลอยหลับตามเขา “อือๆๆ!!”ตกดึกชายหนุ่มส่งเสียงครางในลำคอจนทำให้หญิงสาวที่นอนอยู่ๆข้างๆสะดุ้งตื่น “นายเป็นอะไร”หญิงสาวคลานเข้าไปหาร่างใหญ่ที่กำลังนอนตัวสั่น จากนั้นเธอก็พยายามปลุกชายหนุ่มพร้อมกับถามไถ่อาการของเขา “หนาวฉันหนาว”ชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวพร้อมกับนอนคดตัว “นายเป็นไข้นี่”หญิงสาวเบิกตากว้างเมื่อเอามือแตะหน้าผากของชายหนุ่มแล้วพบว่าเขานั้นตัวร้อนจี๋ “ขอผ้าห่มอีกผืน” “ถ้าฉันให้นายแล้วจะเอาอะไรห่ม” “ฉันหนาว” “เดี๋ยวจะไปเอายามาให้”พูดจบหญิงสาวก็เดินไปหยิบยาแก้ไข้ที่ชายหนุ่มเพิ่งซื้อมาได้ไม่นาน จากนั้นเธอก็นำไปให้ชายหนุ่มพร้อมกับน้ำดื่ม “มาให้กอดหน่อย” “ห๊า” “มาให้ฉันกอดหน่อย ฉันหนาว” “แต่ว่าฉันเป็นผู้หญิงนะแล้วนายก็เป็นผู้ชาย ผู้หญิงกับผู้ชายนอนกอดกันมันคงดูไม่ดีสักเท่าไหร่” “งั้นก็เอาผ้าห่มเธอมา” “ก็ได้ อย่างน้อยๆมันก็ดีกว่าที่ต้องนอนกับนาย”พูดจบหญิงสาวก็นำผ้าห่มของตัวเองมอบให้กับชายหนุ่ม จากนั้นเธอก็นอนคดตัวอยู่บนฟูกที่นอน “ทำไมมันถึงได้ร้อนขนาดนี้”ชายหนุ่มลุกจากที่นอนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อ “นั่นนายจะออกไปไหน”หญิงสาวกำลังผลอยหลับแต่กลับสะดุ้งตื่นอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มบ่นพึมพำ “ฉันจะลงไปอาบน้ำ” “ลงไปอาบน้ำเวลานี้เนี่ยนะ” “ก็มันร้อน”พูดจบชายหนุ่มก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับถือตะเกียงที่ถือไว้อยู่ในมือ และไม่นานเขาก็กลับเข้ามาด้วยสภาพเปลือยกายท่อนบนส่วนท่อนล่างถูกปกปิดด้วยผ้าเช็ดตัว “ยังไม่นอนอีกหรอ”ชายหนุ่มถามหญิงสาวเมื่อเห็นว่าเธอยังไม่นอน “ก็ฉันรอนายกลับเข้ามาก่อน” “เป็นห่วงฉันว่างั้น” “ก็นายมีไข้นี่” “เพิ่งทานยาลดไข้ไป แต่ไม่แน่ใจว่าคืนนี้จะกลับมามีไข้อีกหรือเปล่า”ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับสวมใส่ชุดนอนตัวใหม่ “ถ้ากลับมีไข้อีกก็หยิบยาขึ้นมากินเอง”หญิงสาวกล่าวในขณะที่นอนหันหลังให้ชายหนุ่ม “อ่ะ ผ้าห่มเธอ”ชายหนุ่มโยนผ้าห่มใส่หญิงสาวในขณะที่เธอกำลังนอนหลับไม่รู้เรื่อง ส่วนเขาที่เห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปห่มผ้าให้กับร่างเล็กอย่างระมัดระวังไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว “อืออ..ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงชายหนุ่มก็เริ่มกลับมามีไข้อีกครั้ง”เขาส่งเสียงครางอยู่ในลำคอจนทำหญิงสาวตื่นอีกครั้ง “นายมีไข้อีกแล้วหรอเนี่ย”เมื่อหญิงสาวเห็นอาการไม่ดีของชายหนุ่มจึงรีบนำยาไปป้อนให้กับเขาในทันที “ฉันขอโทษนะที่ทำเธอตื่น”ชายหนุ่มกล่าวขอโทษหญิงสาวด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “นายคงจะหนาวมาสินะ”พูดจบหญิงสาวก็ห่มผ้าห่อของตัวเองให้ชายหนุ่มที่กำลังนอนหนาวสั่น “อย่าเพิ่งไป”ชายหนุ่มคว้าหญิงสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอดจนร่างเล็กเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “นายกำลังจะทำอะไร” “ฉันหนาวมาก ช่วยอยู่ให้ความอบอุ่นแก่ฉันสักแป๊บได้มั้ย” “แต่ว่า” “นะๆๆ ฉันต้องการเธอ”ชายหนุ่มอ้อนวอนหญิงสาวอย่างต้องการเธอในเวลานี้ “อืม”หญิงสาวจำใจยอมนอนอยู่ในอ้อมกอดของเขาด้วยท่าทีเขินอายเล็กน้อย ผ่านไปไม่นานชายหนุ่มก็เริ่มมีเหงื่อท่วมตัวจนต้องดึงผ้าห่มออก “อะไรของนายเนี่ย”หญิงสาวเริ่มแสดงท่าทีหงุดหงิด “เธอเอาผ้าห่มไปห่มก่อน”ชายหนุ่มมอบผ้าห่มทั้งหมดให้กับหญิงสาว “ดี ฉันจะได้นอนแบบอุ่นๆ”พูดจบหญิงสาวก็นอนห่มผ้าทั้งสองผืนอย่างสบายใจเมื่อข้าวสวยพร้อมไข่ดาววางอยู่ตรงหน้าหญิงสาว เธอก็ไม่รอช้ารีบจัดการป้อนเข้าปากด้วยความหิว และพอเธออิ่มแล้วจึงเตรียมตัวขึ้นไปหาเด็กชายแต่แล้วสิ่งที่เธอเห็นตรงหน้ากลับทำเอาเธอแทบต้องหยุดเดิน ภาพสามคนพ่อแม่ลูกกำลังเดินลงมายังชั้นล่างพร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคักของเด็กชายนั้นทำเอาหญิงสาวหยุดชะงักด้วยความไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นมัน เพราะปกติชายหนุ่มจะออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าตรู่ซึ่งแม่บ้านทุกคนก็แทบไม่เคยเห็นหน้าเขา เว้นแต่แม่ครัวที่ต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อเตรียมอาหารให้เจ้านายทานก่อนไปทำงาน แม้หญิงสาวจะเตรียมใจมาบ้างแล้วสำหรับการเผชิญหน้ากับภรรยาและลูกของชายหนุ่ม แต่พอเธอเห็นภาพตรงหน้ากลับทำเธอเสียศูนย์อีกครั้ง “พี่ญาดาค้าบ นี่พ่อน้องติณณ์เอง ชื่อพ่อวี”เด็กชายดิ่งตรงไปหาหญิงสาวแล้วแนะนำผู้เป็นพ่อด้วยท่าทีตื่นเต้น แต่เธอกลับไม่แสดงอาการใดๆนอกจากยืนตัวตรงหน้าแน่นิ่ง “พี่ญาดาเป็นอะไรไปค้าบ”ส่วนเด็กชายที่เห็นดังนั้นก็เขย่าแขนหญิงสาวจนเธอได้คืนสติ “ว่าไงค้าบน้องติณณ์”หญิงสาวกล่าวทักทักเด็กชายด้วยน้ำเสียงสั่นๆราวกับกำลังจะร้องไห้ “นี่พ่อวีค้าบ เป็นพ่อของน้องติณณ์เอง”“สวัสดีค่ะนายใหญ่”หญิงสาวกล
เมื่อหญิงสาวรู้ตัวว่ากำลังอยู่ในสถานะเมียน้อยเธอจึงไม่รอช้าที่จะหาทางหนีออกจากไร่องุ่นซึ่งเป็นอาณาจักรไวน์ของคู่สามีภรรยา และมันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่เธอคิดเมื่อร่างเล็กได้ลองเดินเท้าเปล่าเพื่อไปยังถนนใหญ่ซึ่งเป็นถนนที่จะนำพาเธอออกไปจากไร่องุ่นที่กินพื้นที่เกือบสามร้อยไร่ ร่างเล็กค่อยๆเดินตามถนนเส้นหลักซึ่งอยู่ภายในไร่องุ่นโดยที่ไม่มีใครสงสัยในตัวเธอ แต่ด้วยอากาศที่ร้อนทำให้หญิงสาวเดินช้าลงเรื่อยๆจนแทบหยุดเดิน เมื่อเรี่ยวแรงที่หญิงสาวมีเริ่มหมดลงเธอจึงนั่งพักตรงที่ร่มซึ่งมีต้นองุ่นบดบังแสงแดด และในขณะนั้นเองหญิงสาวก็สังเกตเห็นรถยนต์คันหนึ่งกำลังแล่นเข้ามาทางเธอ “ทำไมฉันถึงได้โง่ซ้ำโง่ซ้อนขนาดนี้เนี่ย”หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะตำหนิตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเส้นทางที่เธอใช้อยู่ในตอนนี้มันเสี่ยงเกินไปถ้าหากชายหนุ่มรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า เมื่อคิดได้ดังนั้นหญิงสาวจึงรีบมุดลอดผ่านต้นองุ่นเพิื่อซ่อนตัวจากคนที่อยู่ในรถยนต์ แต่การกระทำของเธอดันทำให้ต้นองุ่นมีการเคลื่อนไหวจนชายหนุ่มที่ค่อยๆขับรถมาตามเส้นทางแล้วคอยมองซ้ายขวาสังเกตเห็นเข้าพอดี และทันทีที่หญิงสาวเห็นว่ามีคนกำลังลงจากรถเธอจึง
เมื่อใกล้ถึงเวลาเข้างานหญิงสาวก็เร่งฝีเท้าไปยังบ้านหลังใหญ่ด้วยความกังวลว่าถ้าเดินช้ากว่านี้อาจจะไปสายได้ “เธอมาสายห้านาที”“พอดีเมื่อเช้าหนูไปที่ออฟฟิศเพราะลืมตัวว่าต้องมาทำงานที่นี่”“เป็นเด็กเป็นเล็กทำไมถึงได้ขี้ลืม”“นั่นสิคะหนูเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน หลังๆมานี่รู้สึกใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย”“อ่ะๆ ช่างมันเถอะเอาเป็นว่าพรุ่งนี้อย่ามาสายอีกก็แล้วกัน”“ค่ะ หนูจะไม่มาสายอีก”“ไหนๆก็มาแล้ว ช่วยขึ้นไปปลุกคุณหนูติณณ์ให้หน่อย พอดีวันนี้เชอร์รี่ลางาน ส่วนแววออกไปซื้อของที่ตลาด”“ค่ะ”“ห้องคุณหนูอยู่ในสุดฝั่งซ้ายมือ”หญิงวัยกลางคนซึ่งเป็นแม่ครัวประจำบ้านกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆส่วนหญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นก็ขึ้นไปยังชั้นบนทันที เมื่อเธออยู่ตรงหน้าห้องของเด็กชายก็ค่อยๆบิดลูกหมุนแล้วเดินเข้าไปปลุกเด็กชายที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงขนาดเล็ก “น้องติณณ์ค้าบ ตื่นได้แล้ว”มือนิ่มค่อยๆเขย่าเด็กชายเบาๆอยู่ชั่วครู่จนกระทั่งร่างเล็กรู้สึกตัว “พี่คนสวย”เด็กชายที่กำลังงัวเงียแต่พอได้เจอหน้าหญิงสาวก็เผยรอยยิ้มแล้วลุกจากที่นอน“เรียกพี่ญาดาก็ได้ค้าบ”“ค้าบพี่ญาดา”“แล้วนี่พี่ต้องทำอะไรบ้างค้าบ”
ร่างผอมบางยืนรอชายหนุ่มซึ่งเป็นคนรักของเธออยู่ที่จุดนัดพบอย่างใจจดใจจ่อ และไม่นานร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า“หายไปแบบนี้อีกแล้ว รู้ตัวมั้ยว่านายทำฉันเป็นห่วงแทบแย่”ทันทีที่ทั้งสองได้พบหน้ากันอีกครั้งหญิงสาวก็เกิดความรู้สึกหลายอย่างปะปนกัน ใจนึงเธออยากเข้าไปสวมกอดเขาแน่นๆให้หายคิดถึง แต่พอเธอนึกขึ้นได้ว่าเขาไปไหนแล้วไม่บอกกล่าวจึงเลือกที่จะเดินเข้าไปทุบตีเขาด้วยความโมโห “ใจเย็นๆสิคุณ”ส่วนชายหนุ่มที่เห็นว่าหญิงสาวกำลังโมโหจึงรีบสวมกอดเธอ“อย่ามาแตะตัวฉัน!”ร่างเล็กพยายามดิ้นหนีพร้อมกับทุบตีที่แผ่นอกหนาของชายหนุ่ม“ก็วันนั้นผมตั้งใจมาหาคุณตามนัดและตั้งใจมาบอกเรื่องที่ต้องตามเจ้านายไปต่างจังหวัด แต่คุณไม่มาตามนัด”“แล้วทำไมไม่รอ ทำไมไม่คิดบ้างว่าอาจจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับฉัน”“ผมรอสิ รอเกือบยี่สิบนาที อันที่จริงผมตั้งใจรอจนกว่าจะเจอคุณ และตั้งใจจะออกไปตามหาด้วยถ้าหากวันนั้นคุณไม่มาหาผมภายในหนึ่งชั่วโมง แต่บังเอิญว่าระหว่างรอคุณอยู่นั้นเจ้านายดันโทรตามให้ผมไปเตรียมตัวออกเดินทางในคืนนั้นทั้งที่ตอนแรกเขาบอกว่าจะออกเดินทางช่วงเช้าของอีกวัน”“ที่พูดมานายไม่ได้โกหกฉันใช่มั้ย”หญิงสาวที่
“นายหญิงคะ มีคนงานอยากเข้าพบค่ะ”“ใคร”หญิงสาวเจ้าของไร่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่ามีคนมาขอเข้าพบเพราะปกติแล้วแทบไม่มีใครกล้าเข้ามาในบ้านพักส่วนตัวของเธอ“เป็นแม่บ้านที่ออฟฟิศค่ะ”“ให้เธอเข้ามา”หญิงสาวที่ได้รับอนุญาตจึงค่อยๆเดินเข้าไปหาเจ้าของบ้านที่กำลังนั่งจิบกาแฟในยามเช้าอยู่บนโซฟา “สวัสดีค่ะ”หญิงสาวเริ่มต้นกล่าวทักทายเจ้าของไร่ด้วยท่าทีประหม่าเล็กน้อย “นั่งตรงเลยโซฟา เพราะที่นี่ไม่มีการนั่งพื้น” หญิงเจ้าของบ้านกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆในขณะสายตาของเธอนั้นจ้องหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพิจารณา“ขอบคุณค่ะ”หญิงสาวที่เตรียมจะนั่งพื้นค่อยๆลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปนั่งโซฟาเมื่อเห็นว่าเจ้าของบ้านอนุญาต“มีเรื่องอะไรก็ว่ามา”หญิงเจ้าของไร่กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ“คือ…สามีของฉันทำงานอยู่ที่นี่ ฉันไม่เจอเขามาหลายวันแล้วเลยมาร้องขอให้คุณช่วย”“แล้วไม่โทรหาเขาหล่า”“พอดีดิฉันไม่มีโทรศัพท์ใช้ค่ะ อีกอย่างฉันไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของสามีด้วย”“นี่เธอไม่ได้ล้อกันเล่นใช่มั้ย”หญิงเจ้าของบ้านที่ได้ยินดังนั้นก็แสดงสีหน้าเชิงไม่เชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด“คือเรื่องมันยาวอ่ะค่ะ”“ถ้าไม่เห็นแหวนแต่งง
ณ ไร่องุ่นซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งไวน์ขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่เกือบ 300 ไร่ที่เต็มไปด้วยเถาองุ่นเรียงรายสุดลูกหูลูกตา ท่ามกลางภูมิทัศน์อันงดงามของเขาใหญ่ ไร่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งผลิตไวน์คุณภาพเยี่ยม แต่ยังเป็นสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การทำไวน์แบบครบวงจร และภายในไร่องุ่นมีบ้านหลังใหญ่ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของเจ้าของไร่ และมีสิ่งปลูกสร้างอื่นๆรวมอยู่ด้วย“ไม่ได้เจอกันนานออมคิดถึงพี่วีที่สุดเลย”หญิงสาวซึ่งเป็นภรรยารีบโผเข้ากอดผู้เป็นสามีด้วยสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข“พี่ก็คิดถึงออมกับลูก”“ตั้งแต่แต่งงานกันมาเราไม่เคยห่างกันนานขนาดนี้ ดังนั้นกลับมาบ้านรอบนี้พี่วีต้องอยู่กับออมยาวๆนะคะ”“พี่ตั้งใจกลับมาอยู่กับออมและลูกยาวๆอยู่แล้ว”“งั้นเรารีบปั๊มเบบี๋กันมั้ย”“ไว้พี่พร้อมเมื่อไหร่เราค่อยไปทำเด็กหลอดแก้วกันนะ”“แต่ว่าออมอยากได้ลูกด้้วยวิธีธรรมชาติ หมอแนะนำว่าถ้าเราสามารถเพิ่มความถี่ในการมีเซ็กส์และนับวันไข่ตกมันก็จะเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์โดยไม่ต้องพึ่งวิธีทางวิทยาศาสตร์ ที่ผ่านมาออมคิดว่าเราพยายามกันไม่มากพอ ดังนั้นกลับมาบ้านรอบนี้เราไปเที่