Share

คำลวง

Author: Hawaii
last update Last Updated: 2025-12-12 00:37:08

เข้าวันต่อมา…

หญิงสาวตื่นขึ้นมาด้วยท่าทีงัวเงียแต่แล้วเธอก็เบิกตากว้างเมื่อเห็นว่ามีร่างใหญ่กำลังนอนกอดเธอจากทางด้านหลัง

“นี่นายแอบโฉยโอกาสมานอนกอดฉันโดยที่ฉันหรอ!”หญิงสาวรีบต่อว่าชายหนุ่มพร้อมกับดิ้นหนี้

“อะไร เมื่อคืนเธอก็ยอมให้ฉันกอดแล้วนี่”

“แต่ว่าตอนนั้นฉันเห็นว่านายมีไข้เลยยอมๆไป”

“ตอนนี้ฉันก็ยังมีไข้อยู่ไม่เชื่อเธอลองจับหน้าผากฉันดูสิ”

“ยังมีไข้จริงๆด้วย”

“วันนี้ฉันอนุญาตให้เธอตื่นสายหนึ่งวัน”ชายหนุ่มกล่าวใยขณะที่โอบกอดหญิงสาวไว้แน่น

“แต่ว่าฉันต้องตื่นไปเข้าห้องน้ำ”

“งั้นถ้าเธอไปเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วก็กลับเข้ามานอนเป็นเพื่อนฉันนะ”

“เข้านี้อากาศดีมากๆฉันอยากออกไปยืดเส้นยืดสาย”

“แต่ว่าฉันไม่สบายอยู่นะ”

“ไม่สบายก็พักผ่อนเดี๋ยวฉันจะทำข้าวต้มให้ทานเป็นมื้อเช้า”

“ฉันไม่อยากทานข้าวเช้า”

“ไม่อยากทานก็ต้องทานเพราะนายจะได้หายไวๆ”

“ก็ไม่อยากหายไง”

“ฉันไม่คุยกับนายแล้ว”พูดจบหญิงสาวก็ลุกจากที่นอนเพื่อลงไปทำอาหารเช้าให้ชายหนุ่ม

ตลอดทั้งวันหญิงสาวคอยดูแลชายหนุ่มที่ป่วยอยู่ไม่ห่างจนกระทั่งตกเย็นท้องฟ้าก็เริ่มอึมครึมและไม่นานฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย

“ฝนตกอีกแล้ว”หญิงสาวบ่นกับชายหนุ่มด้วยสีหน้าเซ็ง

“นั้นสิไม่รู้ว่าวันนี้ฟ้าจะผ่าต้นไม้ต้นไหนอีก”

“ฟ้าผ่าหรอ”

“ก็ฟ้าผ่าเหมือนเมื่อวานไง”เมื่อชายหนุ่มเห็นโอกาสจึงพูดจาหว่านล้อมให้เธอกลัว

“ไหนๆเมื่อคืนเราก็นอนด้วยกันแล้ววันนี้ฉันขอนอนกับนายอีกคืนนะ”ส่วนหญิงสาวที่กลัวฟ้าผ่าจึงเป็นฝ่ายขอนอนกับชายหนุ่มด้วยท่าทีหวาดระแวงว่าจะมีฟ้าผ่าอีกเมื่อไหร่

“มาสิ ฉันกำลังต้องการเธออยู่พอดี”คำว่าต้องการของชายหนุ่มนั้นมีนัยแอบแฝงแต่หญิงสาวกลับไม่ได้คิดอะไรมากจึงเข้าไปซุกในผ้าห่มของชายหนุ่ม

“ว้ายย!!”หญิงสาวกรีดร้องด้วยความตกใจเมื่อสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างกำลังทิ่มแทงบริเวณบั้นท้ายของเธอ

“ทำไมเธอถึงชอบกรี๊ดเสียงดังอยู่เรื่อย รู้มั้ยว่าเสียงร้องของเธอมันทำให้ฉันแทบคลั่ง”ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงกระเส่า

“ไอ่คนโรคจิต ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ”หญิงสาวพยามดิ้นหนีเมื่อรู้ตัวว่ากำลังไม่ปลอดภัย

“ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่หรอว่ากำลังต้องการเธออยู่ ”ชายหนุ่มกระซิบข้างหูหญิงสาวในขณะที่กอดร่างเล็กเอาไว้แน่น

“นายกำลังป่วยอยู่นะ”

“ฉันหายป่วยตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว”

“นี่นายแกล้งป่วยเพื่อฉวยโอกาสจากฉันงั้นหรอ”

“ให้ฉันเถอะนะ ฉันสัญญาว่าจะถนุถนอมเธอเป็นอย่างดี”ชายหนุ่มขึ้นคร่อมร่างเล็กพร้อมกับตรึงแขนของเธอแนบกับที่นอน

“ไม่มีวัน ฉันไม่มีวันปล่อยให้มันเกิดขึ้น”หญิงสาวจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างผิดหวังในตัวเขา

“ตลอดระเวลากว่าสองอาทิตย์ที่เราได้ใช้ร่วมกันเธอไม่รู้สึกเหมือนกับที่ฉันรู้สึกบ้างเลยหรอ”ชายหนุ่มปรับโทนเสียงนิ่มนวลพร้อมกับมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย ส่วนหญิงสาวที่เห็นดังนั้นก็นิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่

“รู้สึกอะไร”

“ก็รู้สึกอยากเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน อยากใช้ชีวิตร่วมกันแบบนี้ตลอดไป”

“ไม่ ฉันไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยแม้แต่นิด และฉันไม่ลืมว่านายเป็นใคร”แม้ลึกๆหญิงสาวเริ่มมีความรู้สึกบางอย่างกับชายหนุ่มแต่เธอก็ไม่ลืมว่าเขาเป็นใคร

“แล้วไม่คิดจะลองเปิดใจให้กันบ้างเลยหรอ”ชายหนุ่มขอโอกาสจากหญิงสาวด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง และการกระทำเหล่านั้นก็ทำเอาหัวใจของหญิงสาวนั้นเต้นไม่เป็นจังหวะ

“งั้นนายก็ปล่อยฉันไปสิ”หญิงสาวที่เห็นโอกาสจึงต่อรองอย่างชาญฉลาดเพื่อที่จะได้หลุดพ้นจากพันธนาการ

“ความพยายามทั้งหมดของฉันมันไม่มีค่าอะไรเลยสินะ”ชายหนุ่มที่ได้ยินดังนั้นก็ตัดพ้อด้วยสีหน้าผิดหวัง

“พูดแบบนี้หมายความว่าไง”

“ฉันเข้าใจเธอดีว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยที่่ฉันจับตัวเธอมาแล้วจู่ๆฉันก็มาสารภาพความรู้สึกดีๆที่มีต่อเธอแบบนี้ แต่ฉันสาบานได้ว่าฉันรู้สึกแบบที่ฉันพูดจริงๆ”ชายหนุ่มพยายามหว่านล้อมหญิงสาวอย่างไม่คิดยอมแพ้

“งั้นก็บอกความจริงมาว่านายจับตัวฉันมาทำไม”

“ความจริงคือฉันตั้งใจจับตัวเธอมาเพื่อต่อรองบางสิ่งบางอย่างกับพ่อของเธอ แต่ว่าตอนนี้ฉันไม่สนใจเรื่องนั้นแล้ว ฉันสนใจแค่ว่าฉันอยากทำในสิ่งที่หัวใจเรียกร้อง ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่”

“นายต่อรองอะไรกับพ่อฉัน”

“อันที่จริงฉันก็ไม่อยากจะพูดให้พ่อเธอดูเป็นคนไม่ดี แต่ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้วมันคงถึงเวลาที่เธอต้องรู้ความจริง”พูดจบเขาก็ปล่อยให้หญิงสาวเป็นอิสระ

“ความจริงอะไรก็พูดมาสิมัวแต่อ้ำอึ้งอยู่ได้”

“ความจริงคือพ่อของเธอพยายามขอซื้อที่ดินจากแม่ของฉันแถวเขตชานเมือง ตอนนั้นฉันกับแม่ไม่ต้องการขายมัน จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ฉันทราบมาว่าแม่ได้ขายที่ดินตรงนั้นให้กับพ่อของเธอไปแล้ว และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฉันกับแม่เริ่มมีปัญหากัน ฉันเอาแต่โทษแม่ที่ขายที่ดินผืนนั้นโดยที่ไม่ปรึกษากันและแม่ก็เอาแต่ขอโทษฉันโดยที่ไม่ยอมพูดความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งแกป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล หมอวินิจฉัยว่าแม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายและอาจจะมีชีวิตอยู่ต่อได้ไม่นาน ถึงตอนนั้นแม่ถึงยอมบอกความจริงว่าโดนคนของพ่อเธอไปข่มขู่ ด้วยความที่แม่ของฉันไม่อยากให้ฉันตกงานและมีอนาคตที่ดีจึงยอมขายที่ผืนนั้นซึ่งเป็นมรดกชิ้นสุดท้ายที่ยายต้องการมอบให้ฉันกับพี่สาว ฉันที่ต้องการที่ดินผืนนั้นกลับคืนมาจึงพยายามไปต่อรองขอซื้อคืนจากพ่อของเธอแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะพ่อของเธอได้ถมที่แล้วและกำลังปลูกสิ่งก่อสร้าง นั่นจึงทำให้ฉันเกิดความรู้สึกแค้นเลยทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ที่ดินนั้นกลับคืนมา”

“ไม่จริง พ่อฉันไม่มีวันทำอะไรแบบนั้น”

“ฉันคิดไว้อยู่แล้วว่าเธอต้องไม่เชื่อ”

“ใช่ ฉันไม่มีวันเชื่อนาย”

“งั้นก็ดูนี่”พูดจบเขาก็เดินไปเอาเอกสารซึ่งเป็นหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่เขาพูดนั่นเป็นความจริง ชายหนุ่มยื่นเอกสารให้หญิงสาวดูพร้อมกับเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ทำให้แม่ของเขาจำใจต้องขายที่ให้กับพ่อของเธอโดยไม่ชอบธรรม

“นี่มันที่ดินที่พ่อเคยพาฉันไปดูนี่ แต่ว่าเจ้าของที่เป็นคู่สามีภรรยา และนายเคยบอกว่าพ่อของนายเสียชีวิตไปนานแล้ว”

“คนที่เธอเห็นคือพ่อเลี้ยงฉันเอง”

“แต่ว่าตอนนั้นดูเหมือนแม่ของนายกับพ่อเลี้ยงของนายเต็มใจขายให้”

“นั่นมันหลังจากที่คนของพ่อเธอไปข่มขู่แม่ฉัน คือตอนนั้นฉันทำงานเป็นวิศวกรอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งและต่อมาฉันเพิ่งรู้ว่าบริษัทนั้นมีพ่อของเธอเป็นผู้ถือหุ้นด้วย ตอนนั้นหน้าที่การงานของฉันกำลังไปได้ดี แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ฉันโดนสั่งพักงานโดยที่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แม่รู้ดีว่าการอาชีพวิศวกรเป็นอาชีพที่ฉันใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กและกว่าฉันจะไปถึงจุดนั้นมันไม่ง่ายเลย อันที่จริงสำหรับฉันแล้วการถูกไล่ออกหรือถูกกีดกันจากสายอาชีพนั้นมันไม่ได้ทำให้ฉันกลัวเมื่อเทียบกับการที่ต้องสูญเสียที่ดินผืนนั้น”

“ที่ดินผืนนั้นมันสำคัญกับนายยังไง”

“ก็มันเป็นที่ดินของยาย และฉันกับพี่สาวถูกเลี้ยงมาโดยยาย ที่ดินตรงนั้นเต็มไปด้วยภาพความทรงจำในวัยเด็กสำหรับฉัน ยายตั้งใจมอบที่ตรงนั้นให้ฉันกับพี่สาวแต่ยังไม่ทันที่ยายจะได้ทำพินัยกรรมยายก็ยิงจากไปก่อนมันเลยตกเป็นของแม่”

“ฉันเสียใจถ้าเรื่องที่นายพูดนั้นเป็นความจริง และฉันขอโทษแทนพ่อด้วย แต่เชื่อฉันเถอะว่าฉันสามารถช่วยให้นายได้ที่ดินตรงนั้นคืนเพียงแค่นายยอมให้ฉันคุยกับพ่อ อันที่จริงนายไม่ควรทำแบบนี้เพราะมันเสี่ยงทำนายเข้าคุกได้”

“ก่อนหน้านี้ฉันเจรจากับพ่อเธอแล้วว่าให้รีบโอนที่ดินนั่นคืนให้ฉันเพื่อแลกกับตัวเธอ แต่พ่อของเธอขอเวลาอีกนิดเพื่อเจรจากับผู้ร่วมโครงการคนอื่นๆ”

“ถ้านายยอมให้ฉันคุยกับพ่อนายจะได้ที่ตรงนั้นกลับคืนมาในทันที”

“ช่างเถอะฉันไม่สนใจเรื่องนั้นแล้ว”

“นายไม่ต้องการที่ดินตรงนั้นแล้วหรอ”

“ไม่ และในทางกลับกันฉันภาวนาไม่ให้พ่อของเธอติดต่อกลับมาอีกเลย”

“ทำไม”

“เพราะสิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือเธอ”

“เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อ”

“แล้วฉันต้องพิสูจน์ยังไงเธอถึงจะเชื่อว่าฉันต้องการเธอจริงๆ”พูดจบเขาก็จับร่างผอมบางนอนหงายกับที่นอนแล้วตรึงแขนเรียวทั้งสองข้างเหนือศีรษะหญิงสาว นั่นจึงส่งผลให้ใบหน้าของทั้งสองแนบชิดกันอีกครั้ง ชายหนุ่มมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยอย่างลึกซึ้งจนหญิงสาวตกอยู่ในภวังค์

ภายในกระท่อมหลังเล็กตกอยู่ภายใต้ความเงียบอยู่ชั่วครู่กระทั่งชายหนุ่มไม่อาจต้านทานความต้องการของตัวเองได้อีกต่อไป

“เป็นของฉันเถอะนะ ฉันสัญญาว่าจะถนุถนอมเธอราวกับของมีค่าที่สุดในชีวิต”ชายหนุ่มให้คำมั่นสัญญาก่อนที่จะมอบจุมพิตอันแสนหวานให้กับหญิงสาวในขณะที่เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจ และพอเธอเริ่มตั้งสติได้จึงพยายามขัดขืนโดยการไม่ยอมให้ร่างบนได้สัมผัสกับลิ้นของเธอ ส่วนเขาที่เห็นดังนั้นก็ไม่ลดละความพยายามจึงบดขยี้ริมฝีปากบางด้วยริมฝีปากหนาของตัวเอง จากนั้นเขาก็อาศัยความแข็งแรงของร่างกายจัดการตรึงแขนทั้งข้างของหญิงสาวไว้ในอุ้มมือเดียวส่วนมืออีกข้างก็รีบปลดตะขอบราอย่างชำนาญ มือสากกอบกุมเต้าขนาดพอดีมือส่วนนิ้วชี้ก็ทำหน้าที่เขี่ยยอดปทุมถันอย่างช้าๆจนร่างเล็กเริ่มส่งเสียงครางอยู่ในลำคอและไม่นานหญิงสาวก็ปล่อยให้ลิ้นของเธอเป็นอิสระจนชายหนุ่มที่เห็นดังนั้นก็เผยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ จากจุมพิตอันแสนหวานค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นจุมพิตอันเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจถอนริมฝีปากเมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังตอบสนอง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กลแค้นซ่อนรัก   แพ้ท้อง

    เมื่อข้าวสวยพร้อมไข่ดาววางอยู่ตรงหน้าหญิงสาว เธอก็ไม่รอช้ารีบจัดการป้อนเข้าปากด้วยความหิว และพอเธออิ่มแล้วจึงเตรียมตัวขึ้นไปหาเด็กชายแต่แล้วสิ่งที่เธอเห็นตรงหน้ากลับทำเอาเธอแทบต้องหยุดเดิน ภาพสามคนพ่อแม่ลูกกำลังเดินลงมายังชั้นล่างพร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคักของเด็กชายนั้นทำเอาหญิงสาวหยุดชะงักด้วยความไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นมัน เพราะปกติชายหนุ่มจะออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าตรู่ซึ่งแม่บ้านทุกคนก็แทบไม่เคยเห็นหน้าเขา เว้นแต่แม่ครัวที่ต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อเตรียมอาหารให้เจ้านายทานก่อนไปทำงาน แม้หญิงสาวจะเตรียมใจมาบ้างแล้วสำหรับการเผชิญหน้ากับภรรยาและลูกของชายหนุ่ม แต่พอเธอเห็นภาพตรงหน้ากลับทำเธอเสียศูนย์อีกครั้ง “พี่ญาดาค้าบ นี่พ่อน้องติณณ์เอง ชื่อพ่อวี”เด็กชายดิ่งตรงไปหาหญิงสาวแล้วแนะนำผู้เป็นพ่อด้วยท่าทีตื่นเต้น แต่เธอกลับไม่แสดงอาการใดๆนอกจากยืนตัวตรงหน้าแน่นิ่ง “พี่ญาดาเป็นอะไรไปค้าบ”ส่วนเด็กชายที่เห็นดังนั้นก็เขย่าแขนหญิงสาวจนเธอได้คืนสติ “ว่าไงค้าบน้องติณณ์”หญิงสาวกล่าวทักทักเด็กชายด้วยน้ำเสียงสั่นๆราวกับกำลังจะร้องไห้ “นี่พ่อวีค้าบ เป็นพ่อของน้องติณณ์เอง”“สวัสดีค่ะนายใหญ่”หญิงสาวกล

  • กลแค้นซ่อนรัก   สถานะที่ไม่อยากเป็น

    เมื่อหญิงสาวรู้ตัวว่ากำลังอยู่ในสถานะเมียน้อยเธอจึงไม่รอช้าที่จะหาทางหนีออกจากไร่องุ่นซึ่งเป็นอาณาจักรไวน์ของคู่สามีภรรยา และมันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่เธอคิดเมื่อร่างเล็กได้ลองเดินเท้าเปล่าเพื่อไปยังถนนใหญ่ซึ่งเป็นถนนที่จะนำพาเธอออกไปจากไร่องุ่นที่กินพื้นที่เกือบสามร้อยไร่ ร่างเล็กค่อยๆเดินตามถนนเส้นหลักซึ่งอยู่ภายในไร่องุ่นโดยที่ไม่มีใครสงสัยในตัวเธอ แต่ด้วยอากาศที่ร้อนทำให้หญิงสาวเดินช้าลงเรื่อยๆจนแทบหยุดเดิน เมื่อเรี่ยวแรงที่หญิงสาวมีเริ่มหมดลงเธอจึงนั่งพักตรงที่ร่มซึ่งมีต้นองุ่นบดบังแสงแดด และในขณะนั้นเองหญิงสาวก็สังเกตเห็นรถยนต์คันหนึ่งกำลังแล่นเข้ามาทางเธอ “ทำไมฉันถึงได้โง่ซ้ำโง่ซ้อนขนาดนี้เนี่ย”หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะตำหนิตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเส้นทางที่เธอใช้อยู่ในตอนนี้มันเสี่ยงเกินไปถ้าหากชายหนุ่มรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า เมื่อคิดได้ดังนั้นหญิงสาวจึงรีบมุดลอดผ่านต้นองุ่นเพิื่อซ่อนตัวจากคนที่อยู่ในรถยนต์ แต่การกระทำของเธอดันทำให้ต้นองุ่นมีการเคลื่อนไหวจนชายหนุ่มที่ค่อยๆขับรถมาตามเส้นทางแล้วคอยมองซ้ายขวาสังเกตเห็นเข้าพอดี และทันทีที่หญิงสาวเห็นว่ามีคนกำลังลงจากรถเธอจึง

  • กลแค้นซ่อนรัก   น้ำตา

    เมื่อใกล้ถึงเวลาเข้างานหญิงสาวก็เร่งฝีเท้าไปยังบ้านหลังใหญ่ด้วยความกังวลว่าถ้าเดินช้ากว่านี้อาจจะไปสายได้ “เธอมาสายห้านาที”“พอดีเมื่อเช้าหนูไปที่ออฟฟิศเพราะลืมตัวว่าต้องมาทำงานที่นี่”“เป็นเด็กเป็นเล็กทำไมถึงได้ขี้ลืม”“นั่นสิคะหนูเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน หลังๆมานี่รู้สึกใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย”“อ่ะๆ ช่างมันเถอะเอาเป็นว่าพรุ่งนี้อย่ามาสายอีกก็แล้วกัน”“ค่ะ หนูจะไม่มาสายอีก”“ไหนๆก็มาแล้ว ช่วยขึ้นไปปลุกคุณหนูติณณ์ให้หน่อย พอดีวันนี้เชอร์รี่ลางาน ส่วนแววออกไปซื้อของที่ตลาด”“ค่ะ”“ห้องคุณหนูอยู่ในสุดฝั่งซ้ายมือ”หญิงวัยกลางคนซึ่งเป็นแม่ครัวประจำบ้านกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆส่วนหญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นก็ขึ้นไปยังชั้นบนทันที เมื่อเธออยู่ตรงหน้าห้องของเด็กชายก็ค่อยๆบิดลูกหมุนแล้วเดินเข้าไปปลุกเด็กชายที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงขนาดเล็ก “น้องติณณ์ค้าบ ตื่นได้แล้ว”มือนิ่มค่อยๆเขย่าเด็กชายเบาๆอยู่ชั่วครู่จนกระทั่งร่างเล็กรู้สึกตัว “พี่คนสวย”เด็กชายที่กำลังงัวเงียแต่พอได้เจอหน้าหญิงสาวก็เผยรอยยิ้มแล้วลุกจากที่นอน“เรียกพี่ญาดาก็ได้ค้าบ”“ค้าบพี่ญาดา”“แล้วนี่พี่ต้องทำอะไรบ้างค้าบ”

  • กลแค้นซ่อนรัก   ตบหัวแล้วลูบหลัง

    ร่างผอมบางยืนรอชายหนุ่มซึ่งเป็นคนรักของเธออยู่ที่จุดนัดพบอย่างใจจดใจจ่อ และไม่นานร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า“หายไปแบบนี้อีกแล้ว รู้ตัวมั้ยว่านายทำฉันเป็นห่วงแทบแย่”ทันทีที่ทั้งสองได้พบหน้ากันอีกครั้งหญิงสาวก็เกิดความรู้สึกหลายอย่างปะปนกัน ใจนึงเธออยากเข้าไปสวมกอดเขาแน่นๆให้หายคิดถึง แต่พอเธอนึกขึ้นได้ว่าเขาไปไหนแล้วไม่บอกกล่าวจึงเลือกที่จะเดินเข้าไปทุบตีเขาด้วยความโมโห “ใจเย็นๆสิคุณ”ส่วนชายหนุ่มที่เห็นว่าหญิงสาวกำลังโมโหจึงรีบสวมกอดเธอ“อย่ามาแตะตัวฉัน!”ร่างเล็กพยายามดิ้นหนีพร้อมกับทุบตีที่แผ่นอกหนาของชายหนุ่ม“ก็วันนั้นผมตั้งใจมาหาคุณตามนัดและตั้งใจมาบอกเรื่องที่ต้องตามเจ้านายไปต่างจังหวัด แต่คุณไม่มาตามนัด”“แล้วทำไมไม่รอ ทำไมไม่คิดบ้างว่าอาจจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับฉัน”“ผมรอสิ รอเกือบยี่สิบนาที อันที่จริงผมตั้งใจรอจนกว่าจะเจอคุณ และตั้งใจจะออกไปตามหาด้วยถ้าหากวันนั้นคุณไม่มาหาผมภายในหนึ่งชั่วโมง แต่บังเอิญว่าระหว่างรอคุณอยู่นั้นเจ้านายดันโทรตามให้ผมไปเตรียมตัวออกเดินทางในคืนนั้นทั้งที่ตอนแรกเขาบอกว่าจะออกเดินทางช่วงเช้าของอีกวัน”“ที่พูดมานายไม่ได้โกหกฉันใช่มั้ย”หญิงสาวที่

  • กลแค้นซ่อนรัก   นายหญิง

    “นายหญิงคะ มีคนงานอยากเข้าพบค่ะ”“ใคร”หญิงสาวเจ้าของไร่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่ามีคนมาขอเข้าพบเพราะปกติแล้วแทบไม่มีใครกล้าเข้ามาในบ้านพักส่วนตัวของเธอ“เป็นแม่บ้านที่ออฟฟิศค่ะ”“ให้เธอเข้ามา”หญิงสาวที่ได้รับอนุญาตจึงค่อยๆเดินเข้าไปหาเจ้าของบ้านที่กำลังนั่งจิบกาแฟในยามเช้าอยู่บนโซฟา “สวัสดีค่ะ”หญิงสาวเริ่มต้นกล่าวทักทายเจ้าของไร่ด้วยท่าทีประหม่าเล็กน้อย “นั่งตรงเลยโซฟา เพราะที่นี่ไม่มีการนั่งพื้น” หญิงเจ้าของบ้านกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆในขณะสายตาของเธอนั้นจ้องหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพิจารณา“ขอบคุณค่ะ”หญิงสาวที่เตรียมจะนั่งพื้นค่อยๆลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปนั่งโซฟาเมื่อเห็นว่าเจ้าของบ้านอนุญาต“มีเรื่องอะไรก็ว่ามา”หญิงเจ้าของไร่กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ“คือ…สามีของฉันทำงานอยู่ที่นี่ ฉันไม่เจอเขามาหลายวันแล้วเลยมาร้องขอให้คุณช่วย”“แล้วไม่โทรหาเขาหล่า”“พอดีดิฉันไม่มีโทรศัพท์ใช้ค่ะ อีกอย่างฉันไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของสามีด้วย”“นี่เธอไม่ได้ล้อกันเล่นใช่มั้ย”หญิงเจ้าของบ้านที่ได้ยินดังนั้นก็แสดงสีหน้าเชิงไม่เชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด“คือเรื่องมันยาวอ่ะค่ะ”“ถ้าไม่เห็นแหวนแต่งง

  • กลแค้นซ่อนรัก   ใครอีกคน

    ณ ไร่องุ่นซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งไวน์ขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่เกือบ 300 ไร่ที่เต็มไปด้วยเถาองุ่นเรียงรายสุดลูกหูลูกตา ท่ามกลางภูมิทัศน์อันงดงามของเขาใหญ่ ไร่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งผลิตไวน์คุณภาพเยี่ยม แต่ยังเป็นสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การทำไวน์แบบครบวงจร และภายในไร่องุ่นมีบ้านหลังใหญ่ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของเจ้าของไร่ และมีสิ่งปลูกสร้างอื่นๆรวมอยู่ด้วย“ไม่ได้เจอกันนานออมคิดถึงพี่วีที่สุดเลย”หญิงสาวซึ่งเป็นภรรยารีบโผเข้ากอดผู้เป็นสามีด้วยสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข“พี่ก็คิดถึงออมกับลูก”“ตั้งแต่แต่งงานกันมาเราไม่เคยห่างกันนานขนาดนี้ ดังนั้นกลับมาบ้านรอบนี้พี่วีต้องอยู่กับออมยาวๆนะคะ”“พี่ตั้งใจกลับมาอยู่กับออมและลูกยาวๆอยู่แล้ว”“งั้นเรารีบปั๊มเบบี๋กันมั้ย”“ไว้พี่พร้อมเมื่อไหร่เราค่อยไปทำเด็กหลอดแก้วกันนะ”“แต่ว่าออมอยากได้ลูกด้้วยวิธีธรรมชาติ หมอแนะนำว่าถ้าเราสามารถเพิ่มความถี่ในการมีเซ็กส์และนับวันไข่ตกมันก็จะเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์โดยไม่ต้องพึ่งวิธีทางวิทยาศาสตร์ ที่ผ่านมาออมคิดว่าเราพยายามกันไม่มากพอ ดังนั้นกลับมาบ้านรอบนี้เราไปเที่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status