Share

ลมพายุ

Author: Hawaii
last update Last Updated: 2025-12-05 10:32:02

“นายไม่ไปทำงานตั้งหลายวันแล้วไม่กลัวโดนไล่ออกหรอ”หญิงสาวตัดสินใจถามในสิ่งที่สงสัยเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ไปทำงานติดต่อกันได้สี่วันถ้านับวันที่เขาลาด้วย

“ก็ลาออกไปแล้ว”ชายหนุ่มเงยหน้าตอบหญิงสาวในขณะที่เขากำลังประคบเย็นตรงข้อเท้าให้กับเธอ

“ห๊า นายพูดจริงหรือพูดเล่น”หญิงสาวแสดงสีหน้าตกใจเมื่อได้รู้ความจริงว่าชายหนุ่มได้ลาออกจากงานแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่ปักใจเชื่อ

“พูดจริง”ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“นี่ฉันทำนายตกงานหรอ ขอโทษ”

“ถ้าฉันไปทำงานแล้วใครจะดูแลเธอ กว่าข้อเท้าเธอจะหายคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณสองอาทิตย์”

“ต่อไปฉันจะไม่ทำให้นายต้องเดือดร้อนอีก”

“ช่างมันเถอะ แค่เธอไม่เป็นอะไรมากก็ดีแค่ไหนแล้ว”

“ทำไมนายดูเป็นห่วงเป็นใยฉันทั้งที่มันไม่ควรเป็นแบบนั้นนี่”ตลอดระยะสองวันที่ผ่านมาชายหนุ่มดูแลเอาใจใส่หญิงสาวในยามที่เธอมีไข้และคอยประคบเย็นให้เธอทุกวันแถมยังอุ้มเธอห้องน้ำวันละหลายรอบอย่างไม่มีบ่น นั่นจึงทำให้หญิงสาวเกิดความสงสัยว่าเขาทำดีกับเธอไปเพื่ออะไร

“ที่ฉันเป็นห่วงเธอและดูแลเธอเป็นอย่างดีก็เพราะว่าฉันรู้สึกผิดที่ทำเธอเจ็บตัว”

“ไม่ นายอย่าคิดแบบนั้น”

“ทำไมถึงไม่อยากให้ฉันคิดแบบนั้นในเมื่อก่อนหน้านี้เธอเป็นคนพูดเองว่าเป็นความผิดของฉัน พูดตามตรงถึงแม้ก่อนหน้านี้ที่ฉันโทษว่าเธอซุ่มซ่ามเองแต่ลึกๆฉันก็อดโทษตัวเองไม่ได้เหมือนกัน”ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนว่าเขานั้นรู้สึกผิดจริงๆ

“ไม่ มันไม่ใช่ความผิดนาย และที่ฉันโทษนายแค่ต้องการเอาชนะ จริงๆแล้วฉันซุ่มซ่ามอย่างที่นายพูดแหละ”หญิงสาวรีบยอมรับผิดอย่างไม่ต้องการให้ชายหนุ่มรู้สึกแย่

“อันที่จริงฉันซ่อมหลังคาคนเดียวก็ได้แต่อยากใช้เธอเล่นเฉยๆ คือฉันไม่คิดว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้”

“ช่างมันเถอะ ถ้าฉันไม่ซุ่มซ่ามก็คงไม่ต้องมาเจ็บตัวและนายเองก็คงไม่ต้องลำบากถึงขั้นต้องลาออกจากงานเพื่อมาดูแลฉัน”หญิงสาวรู้สึกผิดไม่น้อยเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มได้ลาออกจากงานไปแล้วเพียงเพราะต้องดูแลเธอ

“เอาเป็นว่าฉันจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เธอหายไวที่สุด ส่วนเธอก็พยายามให้ความร่วมมือด้วยก็แล้วกัน”

“ได้ ฉันจะพยายามให้ความร่วมมือ”

“งั้นก็นอนตะแคงรอนะ เดี๋ยวฉันจะไปเอาน้ำมาประคบเอวให้ ”หลังจากที่เขาประคบเย็นตรงข้อเท้าและนำผ้าพันมันเรียบร้อยแล้ว จึงนำน้ำแข็งใหม่มาประคบเอวให้กับเธอต่อ

หญิงสาวนอนตะแคงอยู่บนที่นอนแล้วถกเสื้อขึ้นเล็กน้อยโดยมีชายหนุ่มค่อยๆประคบเย็นให้เธออย่างเบามือ

“ฉันรู้สึกผิดจังเลยที่ชอบทำตัวเป็นภาระให้นายต้องมาคอยดูแลอยู่ตลอด”แม้หญิงสาวเริ่มรู้สึกผิดที่ทำให้ชายหนุ่มต้องลาออกจากงานเพื่อมาดูแลเธอแต่อีกความรู้สึกกลับใจฟูไม่น้อยเวลาเห็นมุมอ่อนโยนของชายหนุ่ม

“ต่อไปก็หัดระมัดระวังตัวให้มากกว่านี้ไม่ใช่ว่าฉันกลัวเธอเป็นภาระอะไรหรอก แค่ไม่อยากให้เธอต้องมาเจ็บตัวเพราะฉันอีก”

แม้หญิงสาวรู้สึกใจฟูไม่น้อยกับคำพูดของชายหนุ่มที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงแต่เธอกลับไม่แสดงออกแบบที่กำลังรู้สึก

“อืม ฉันจะพยายามระมัดระวังตัวก็แล้วกัน”หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆอย่างกับว่าไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก

“แล้วเป็นไงบ้างตอนนี้”ชายหนุ่มถามหญิงสาวในระหว่างที่กำลังประคบเย็นให้กับเธอ

“พอแล้ว ฉันเริ่มง่วงแล้ว และกำลังปวดฉี่ด้วย”

เมื่อหญิงสาวต้องการทำธุระส่วนตัวชายหนุ่มจึงเดินออกไปรอนอกห้องอย่างรู้หน้าที่ และพอเธอส่งสัญญาณเขาจึงกลับเข้ามาในห้องแล้วหยิบถังขยะซึ่งบรรจุถุงปัสสาวะของหญิงสาวออกไปทิ้ง

ส่วนทางด้านหญิงสาวก็มองดูการกระทำของชายหนุ่มอย่างรู้สึกทราบซึ้งเมื่อเห็นว่าเขาไม่มีท่าทีแสดงถึงความรังเกียจต่อสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยทำให้กันถ้าไม่ใช่เพราะความจำเป็นหรือทำเพื่อคนรักและคนในครอบครัว

…..

ชายหนุ่มใช้เวลากว่าสองสัปดาห์ในการดูแลหญิงสาวเป็นอย่างดีกระทั่งข้อเท้าของเธอกลับมาใช้งานได้ปกติ และในช่วงสองสัปดาห์นั้นก็ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

“เหมือนฝนจะตกพายุจะเข้าอย่างที่กรมอุตุนิยมวิทยารายงานจริงๆด้วย”ชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวเมื่อเห็นท้องฟ้าอึมครึมในตอนห้าโมงเย็นและส่อแววว่าจะมีพายุเข้าในอีกไม่ช้า

“กระท่อมจะไม่ปลิวใช่มั้ย”หญิงสาวหันไปถามชายหนุ่มด้วยความไม่มั่นใจในความแข็งแรงของกระท่อมหลังเล็ก

“เธอไม่ต้องห่วงหรอก แม้กระท่อมมันจะดูเล็กแต่โครงสร้างของมันนั้นแข็งแรงไม่แพ้บ้านทั่วไป”

“นายมั่นใจนะว่ามันแข็งแรง”

“อืม ไปอาบน้ำได้แล้วก่อนที่ฝนจะตกลงมา”

“อืม”พูดจบหญิงสาวก็เดินเข้าไปอาบน้ำและไม่นานเธอก็เดินกลับเข้าไปในบ้านในขณะที่ชายหนุ่มนั้นกำลังนำอุปกรณ์ต่างๆเข้าไปไว้ในห้องเก็บของเล็กๆซึ่งอยู่ติดกับห้องนอนของทั้งสอง

“กรี๊ด!”ยังไม่ทันไรเสียงฟ้าผ่าก็ดังขึ้นจนทำให้หญิงสาวกรีดร้องด้วยความตกใจ ส่วนชายหนุ่มที่เห็นดังนั้นจึงรีบตามเธอเข้าไปในห้องแล้วจัดการปิดประตูหน้าต่างอย่างแน่นหนา

“สักพักฝนน่าจะตกหนัก เดี๋ยวฉันจะออกไปเก็บข้าวของที่อยู่ข้างนอกเข้ามาไว้ในบ้านต่อ ส่วนเธอรออยู่ในห้องห้ามออกไปข้างนอกเด็ดขาดเข้าใจมั้ย”พูดจบชายหนุ่มก็เปิดประตูออกไปส่วนหญิงสาวทำได้แค่นั่งรอเขากลับเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนในยามที่ฟ้าร้องและมีฝนโปรยลงมาจากท้องฟ้า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กลแค้นซ่อนรัก   ลมพายุ

    “นายไม่ไปทำงานตั้งหลายวันแล้วไม่กลัวโดนไล่ออกหรอ”หญิงสาวตัดสินใจถามในสิ่งที่สงสัยเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ไปทำงานติดต่อกันได้สี่วันถ้านับวันที่เขาลาด้วย“ก็ลาออกไปแล้ว”ชายหนุ่มเงยหน้าตอบหญิงสาวในขณะที่เขากำลังประคบเย็นตรงข้อเท้าให้กับเธอ“ห๊า นายพูดจริงหรือพูดเล่น”หญิงสาวแสดงสีหน้าตกใจเมื่อได้รู้ความจริงว่าชายหนุ่มได้ลาออกจากงานแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่ปักใจเชื่อ“พูดจริง”ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ“นี่ฉันทำนายตกงานหรอ ขอโทษ”“ถ้าฉันไปทำงานแล้วใครจะดูแลเธอ กว่าข้อเท้าเธอจะหายคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณสองอาทิตย์”“ต่อไปฉันจะไม่ทำให้นายต้องเดือดร้อนอีก”“ช่างมันเถอะ แค่เธอไม่เป็นอะไรมากก็ดีแค่ไหนแล้ว”“ทำไมนายดูเป็นห่วงเป็นใยฉันทั้งที่มันไม่ควรเป็นแบบนั้นนี่”ตลอดระยะสองวันที่ผ่านมาชายหนุ่มดูแลเอาใจใส่หญิงสาวในยามที่เธอมีไข้และคอยประคบเย็นให้เธอทุกวันแถมยังอุ้มเธอห้องน้ำวันละหลายรอบอย่างไม่มีบ่น นั่นจึงทำให้หญิงสาวเกิดความสงสัยว่าเขาทำดีกับเธอไปเพื่ออะไร “ที่ฉันเป็นห่วงเธอและดูแลเธอเป็นอย่างดีก็เพราะว่าฉันรู้สึกผิดที่ทำเธอเจ็บตัว”“ไม่ นายอย่าคิดแบบนั้น”“ทำไมถึงไม่อยากให้ฉันคิดแบบน

  • กลแค้นซ่อนรัก   อุบัติเหตุ

    ชายหนุ่มพยายามเร่งมือในการซ่อมแซมหลังคาเพื่อที่จะได้กลับมาดูแลหญิงสาวต่อ แต่แล้วเขากลับพบว่าเธอนั้นได้หลับไปแล้ว “ทำไมมันปวดขนาดนี้เนี่ย!”หญิงสาวตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ดูเจ็บปวดจากการที่ข้อเท้าของเธอเริ่มบวมช้ำ “ตื่นสักที แล้วนี่เธอหิวหรือยัง อาการเป็นยังไงบ้าง”เมื่อชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวตื่นแล้วจึงรีบกลับเข้ามาในห้องจากนั้นเขาก็รีบเข้าไปดูข้อเท้าข้างที่ได้รับบาดเจ็บ“มันเจ็บกว่าเดิมอีก”หญิงสาวกล่าวด้วยสีหน้าเจ็บปวดจนน้ำตาแทบไหลออกมา“เดี๋ยวฉันจะไปเอานำแข็งมาประคบให้อีกรอบ”พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องไป ชายหนุ่มเดินกลับเข้ามาหาหญิงสาวอีกครั้งพร้อมกับถือชามข้าวกับน้ำแข็งที่ถูกห่อด้วยผ้า “เธอทานข้าวไข่เจียวไปก่อนเดี๋ยวฉันจะคอยประคบข้อเท้าให้”ชายหนุ่มยื่นข้าวไข่เจียวที่อยู่ในจานให้หญิงสาวก่อนที่เขาจะค่อยๆนั่งคุกเข่าเพื่อทำการประคบเย็นข้อเท้าข้างที่บวม“ไม่ต้อง เดี๋ยวทานข้าวเสร็จฉันจะประคบเอง”ส่วนหญิงสาวที่เห็นดังนั้นจึงรีบปฏิเสธไม่ให้ชายหนุ่มประคบเย็นให้“เจ็บเอวด้วยไม่ใช่หรอ ถ้าก้มบ่อยๆมันจะยิ่งเจ็บเข้าไปใหญ่”ชายหนุ่มให้เหตุผลที่ไม่ต้องการให้หญิงสาวประคบเย็นด้วยตัวเองหญิงสาวนั่งตัวตรงแล

  • กลแค้นซ่อนรัก   ความหลัง

    “โอม มานั่งพักได้แล้วเดี๋ยวก็เป็นลมตายพอดี”ผู้เป็นพี่สาวตะโกนบอกน้องชายวัยสิบห้าที่กำลังพรวนดินอย่างขยันขันแข็ง“พี่อันพักคนเดียวเถอะ เดี๋ยวน้องจะพยายามพรวนดินให้เสร็จเราจะได้กลับบ้านไวๆ”“แต่ว่าโอมยังไม่ได้พักเลยทั้งที่พี่มานั่งพักแล้วตั้งสองรอบ”“ก็พี่เป็นผู้หญิงส่วนผมเป็นผู้ชาย อีกอย่างผมไม่อยากให้พี่เหนื่อย”ผู้เป็นพี่สาวทราบซึ้งในความเสียสละของน้องชายดังนั้นเธอจึงจัดสินใจออกไปช่วยผู้เป็นน้องเพื่อที่จะให้งานเสร็จไวๆแล้วน้องชายของเธอจะได้พัก และสองพี่น้องก็ช่วยกันทำงานกลางทุ่งนาโดยปราศจากเงาของผู้เป็นแม่ที่วันๆเอาแต่กินเหล้าและออกไปเล่นการพนันจนสองพี่น้องต้องดูแลกันเพียงลำพัง “ถ้าพี่ไม่เอาอนาคตตัวเองมาทิ้งไว้กับผม ป่านนี้พี่คงได้ไปเป็นดาราไปแล้ว”ผู้เป็นน้องอดไม่ได้ที่จะกล่าวโทษตัวเองเมื่อเห็นว่าพี่สาวมีโอกาสหลายครั้งที่จะได้ไปเป็นดาราแต่พี่สาวของเขากลับปฏิเสธ“การจะเป็นดาราได้มันไม่ง่ายขนาดนั้น อีกอย่างเรามีกันแค่สองคนพี่ไม่อยากทิ้งโอมไว้กับแม่ ถ้าโอมอยู่กับแม่พี่กลัวว่าโอมจะไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด”ส่วนผู้เป็นพี่สาวก็ให้เหตุผลกับน้องชายอย่างต้องการให้น้องชายเข้าใจเธอ“ไม่หรอกพี่ ผ

  • กลแค้นซ่อนรัก   หวั่นไหว

    เช้าวันรุ่งขึ้น..“ตื่นได้แล้ว!”“ฉันเพิ่งได้นอนไม่กี่ชั่วโมงเองนะ”กว่าอาการปวดท้องของหญิงสาวทุเลาก็ปาไปเช้ามืดของอีกวันและนั่นจึงส่งผลให้เธอนอนไม่เต็มอิ่ม “ฉันไม่สน”พูดจบเขาก็ลากหญิงสาวลุกจากที่นอน“เดี๋ยวฉันไปเอง”หญิงสาวกล่าวด้วยเสียงเบาก่อนที่เธอจำใจลงไปหุงข้าวเช้าให้เขาตามปกติแม้จะอยากนอนต่อก็ตาม ความลำบากที่หญิงสาวพบเจอทำให้เธอคิดถึงชีวิตที่สุขสบาย เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้น้ำตาคลอ “วันนี้ฉันกลับดึกนะ พอดีต้องไปงานวันเกิดเพื่อน”ชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวก่อนจะเดินจากไป ส่วนหญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นก็ทำได้แค่พยักหน้ารับทราบแม้จะไม่เห็นด้วยกับเขาก็ตาม และพอรถกระคันเก่าขับแล่นออกไปแล้ว หญิงสาวจึงรีบซักผ้าต่อให้มันแล้วเสร็จจากนั้นเธอก็กลับขึ้นไปบนห้องพร้อมกับลากโซ่เล็กเส้นสาวขึ้นไปด้วย เมื่อถึงที่นอนร่างเล็กไม่รอช้าที่จะทิ้งตัวนอนลงด้วยความรู้สึกอ่อนเพลียจากการที่เธอพักผ่อนไม่เพียงพอ ใกล้ค่ำหญิงสาวก็ปิดประตูหน้าต่างแล้วนอนคดตัวโดยที่เอาผ้าห่มคลุมหัวจรดเท้า เธอรอคอยให้ชายหนุ่มกลับมาแต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่มีวี่แววของเขาจนกระทั่งตกดึกเกือบเที่ยงคืน เสียงรถกระบะอันคุ้นเคยทำให

  • กลแค้นซ่อนรัก   ต่อต้าน

    เช้าวันต่อมา..“กรี๊ด!”เสียงกรีดร้องของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มตกใจจนวิ่งออกมาจากห้องน้ำทั้งที่ยังไม่ทันได้แปรงฟัน“เกิดอะไรขึ้น?”ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่กำลังฝึกหุงข้าวด้วยตัวเอง แต่โชคร้ายโดนน้ำซาวข้าวลวกใส่แขน“น้ำแข็งๆขึ้นไปเอาน้ำแข็งมาให้ฉันหน่อย”หญิงสาวยื่นแขนที่โดนน้ำซาวข้าวร้อนๆลวกให้ชายหนุ่มดู ส่วนเขาที่เห็นดังนั้นจึงวิ่งขึ้นไปหยิบน้ำแข็งจากบนบ้านจากนั้นเขาก็ค่อยๆประคบน้ำแข็งบริเวณแผลที่บวมแดงของหญิงสาว “ฮือๆๆๆฉันเจ็บ”หญิงสาวร้องไห้โฮราวกับเด็กน้อยเมื่อไม่สามารถทนต่อความรู้สึกแสบร้อนบริเวณแขน ส่วนชายหนุ่มที่เห็นดังนั้นจึงพาเธอขึ้นไปบนห้อง “ร้องไห้เป็นเด็กไปได้”ชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเรียบๆในขณะที่กำลังปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับเธอ“ก็มันทั้งเจ็บทั้งแสบร้อน ใครมันจะไปทนได้”หญิงสาวกล่าวด้วยความน้อยใจ“ก็เข้าใจว่ามันปวดแสบแต่ไม่จำเป็นต้องร้องไห้ขี้มูกโป่งขนาดนั้น”ส่วนชายหนุ่มแม้จะบ่นกับหญิงสาวแต่ในใจลึกๆเขาก็อดเป็นห่วงเธอไม่ได้เช่นกัน“แล้วใครกันที่ทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้”หญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นก็ยิ่งน้อยใจเข้าไปใหญ่จนอดไม่ได้ที่จะกล่าวโทษเขาแบบทางอ้อม“ฉันไม่ได้เอา

  • กลแค้นซ่อนรัก   กระท่อมหลังน้อย

    ณ กระท่อมหลังน้อย“นายซื้ออะไรมาเยอะแยะเต็มรถเลย”หญิงสาวถามชายหนุ่มด้วยความสงสัยเมื่อเห็นข้าวของเต็มท้ายกระบะ “ก็เห็นอยู่ว่าของเยอะทำไมถึงได้นั่งดูเฉยๆไม่คิดจะช่วยกันขนของเข้าบ้าน”“ก็เดี๋ยวนายจะหาว่าฉันยุ่งเลยขออยู่เฉยๆดีกว่า อีกอย่างฉันโดนล่ามโซ่อยู่”เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าใกล้ค่ำแล้วเขาจึงตัดสินใจไขกุญแจให้หญิงสาว จากนั้นทั้งสองก็ช่วยกันขนของที่อยู่ท้ายกระบะเข้าไปไว้ในบ้าน และในขณะที่ชายหนุ่มยกฟูกที่นอนเข้าไปไว้ในบ้านอย่างทุลักทุเลหญิงสาวจึงใช้โอกาสนั้นแอบหยิบกุญแจรถกระบะคันเก่าอย่างระมัดระวังไม่ให้เขารู้ตัว เมื่อได้กุญแจมาแล้วเธอก็รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีค่อยๆไขประตูรถกระบะ ส่วนชายหนุ่มที่จัดการวางฟูกที่นอนบนแคร่ไม้ไผ่เสร็จก็รีบเดินออกจากห้องเพื่อช่วยหญิงสาวขนของต่อ แต่แล้วเขาก็พบว่าเธอกำลังพยายามจะสตาร์ทรถยนต์เพื่อหนี “ให้ตายเถอะมันขับยังไงเนี่ย!”หญิงสาวหายใจเข้าออกลึกๆแล้วตั้งสติเพื่อคิดหาวิธีสตาร์ทรถกระบะคันเก่า โดยที่ไม่รู้ตัวว่ากระกระทำของเธอนั้นอยู่ในสายตาของเขา “ให้ฉันสอนวิธีสตาร์ทมั้ย”ชายหนุ่มเปิดประตูรถออกแล้วยืนดูการกระทำของเธออย่างใจเย็น “ไอ่บ้า! ฉันตกใจหมด”ส่วนหญิง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status