โต๊ะกลางหน้าโซฟาตรงมุมหนึ่งของโถงบ้านกลายเป็นโต๊ะรับประทานอาหารของสองคน เมื่อชายหนุ่มบอกแม่ครัวใหญ่ให้สั่งเด็กรับใช้จัดการย้ายเมื่อลงมาถึง
สิริแสดงท่าทีไม่พอใจ ณิชาสังเกตเห็น แต่บอกตัวเองให้มองข้ามเสีย จนเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ไรวินทร์ก็บอกพวกเธอให้กลับที่พักซึ่งเป็นเรือนพักสร้างอยู่ใกล้กำแพงด้านหลัง ห่างจากตัวบ้านใหญ่หลายสิบเมตร...ในเวลานี้จึงเหลือแต่เธอและเขาณิชาขยับตัว แม้ไรวินทร์จะไม่มอง ไม่ได้แสดงความสนใจในตัวเธอ แต่เธอกลับอึดอัดกับบรรยากาศตอนนี้กระทั่งไรวินทร์เคลื่อนไหวฉับไว ณิชาสะดุ้งสุดตัว แต่เพื่อจะพบว่าเขาแค่หยิบรีโมตมาเปิดทีวีจอยักษ์ที่ติดตั้งกับผนังอีกฝั่งซึ่งห่างจากกันเกือบสิบเมตร แล้วเร่งเสียงจนได้ยินมาถึงถ้าเป็นเวลาปกติ ณิชาคงหนวกหูกับเสียงลั่นระทึก แต่เวลานี้กลับนึกดีใจที่มีมันมาทำลายความเงียบซึ่งเธอสัมผัสได้ว่าช่างวังเวงจับใจโซฟาไหวยวบ หัวใจของหญิงสาวเต้นถี่ไม่เป็นจังหวะ เหลือบมองคนตัวโตที่ทำกิจกรรมของเขาไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจเธอเหมือนเดิมณิชาพ่นลมออกจากปาก ระบายความฟุ้งซ่าน หยิบจานสลัดซีฟู้ดที่จัดแต่งอย่างสวยงามมาตักกินบ้าง จากที่จนท้องฟ้าด้านนอกสว่างเรืองรอง ณิชาปรือตาเปิดเมื่อแสงส่องเข้ามา กะพริบตามองเพดานห้อง สัมผัสความคุ้นเคย กระทั่งไออุ่นที่โอบรัด วินาทีนั้นเธอยังไม่อยากจากความอบอุ่นนี้ไป เรียวปากอิ่มแย้ม เปลือกตาบางปรือปิด ตั้งท่าจะหลับต่อหากแค่เสี้ยววินาทีดวงตาหวานกลับเบิกโพลง หันมองเจ้าของอ้อมกอด เขากำลังหลับสนิท ใบหน้าคมสันซุกนิ่งอยู่ข้างแก้มเธอ ณิชาเม้มริมฝีปากแน่น สูดหายใจลึก...เช้ามาอย่างนี้ไม่อยากเริ่มต้นด้วยอารมณ์บูดเลยแต่เขาก็ทำกับเธอเกินไป ออกไปหาความสุขนอกบ้าน พอคิดจะกลับก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่หล่อนคงกลายเป็นคู่นอนหมอนข้างของเขาอย่างสมบูรณ์แล้วสินะ มีประโยชน์ก็แค่บนเตียงนอนร่างน้อยดิ้นขลุกขลัก ออกแรงผลักร่างใหญ่โต หนักอึ้งปานหินผา ทั้งผลักทั้งดันอย่างไรก็ไม่เป็นผล ซ้ำร้ายยังขยับเข้ามาแนบชิด ท่อนแขนกำยำปานเหล็กกล้ายังออกแรงรัดจนหล่อนแทบจมหายเข้าไปในอ้อมกอดนั้น...ทุกอย่างเป็นไปโดยอัตโนมัติ โดยที่เจ้าของร่างใหญ่นั้นยังหลับอยู่ณิชาหยุดตัวเอง หายใจหอบ เหลือบมองชายหนุ่มอย่างเคืองๆหญิงสาวปล่อยให้ตัวเองนอนอยู่นิ่งๆ เพื่อรอให้หายเหนื่อย แต่แค่นาทีผ่านไป ร่างหนาให
เกือบเที่ยงคืนไรวินทร์ยังไม่กลับมา ณิชานอนพลิกกายอยู่บนเตียง พยายามคิดว่าเขาจะออกไปไหนและพบกับใคร ยิ่งคิดความระแวงก็ยิ่งถามหา พานผุดเป็นใบหน้าของคนที่เธอไม่อยากนึกถึง...อรุณวดี“ไม่หรอก เขาไม่มีทางทำกับเราอย่างนั้น”เมื่อนอนไม่หลับจึงลุกขึ้นเปิดไฟจนสว่างโร่ เดินวนเวียนอยู่ในห้องนอน ทะลุไปถึงห้องเสื้อผ้า สายตาเจ้ากรรมชำเลืองไปทางมุมหนึ่งแล้วใบหน้าก็ร้อนวาบ ภาพยามเช้าตรู่วันนั้นที่เธอหลบมาซุกนั่งด้วยไม่อาจทำใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างกัน จนเขาตามเข้ามา จากนั้นณิชาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเขาถึงกระโจนหาหล่อนรวดเร็วตั้งตัวไม่ทัน แล้วทุกอย่างก็เกิดตามครรลองอีกรอบบ่อยครั้งเมื่ออยู่ใกล้ไรวินทร์ หล่อนรู้สึกเหมือนว่าตัวเขามีแรงลึกลับที่จะดึงดูดให้เอนเข้าหา ณิชาเคยต่อต้านแต่ก็ไม่เคยสำเร็จหล่อนหันกายจะกลับ แต่แล้วก็เห็นถุงกระดาษแปะโลโก้โรงแรมคุ้นตาวางกองสุมอยู่ เหมือนไม่มีใครใส่ใจจัดเก็บมันให้เข้าที่เข้าทางหญิงสาวตรงไปหยิบ ตั้งใจจัดให้เรียบร้อยด้วยไม่อาจปล่อยให้รกหูรกตา เสื้อเชิ้ตสไตล์ที่ไรวินทร์ใช้หลายตัว ณิชาหยิบมาจะเข้าตู้ของเขา แต่กระดาษชิ้น
ณิชามองหน้าจอมือถืออย่างตัดสินใจหลังจบการติดต่อผ่านโปรแกรมสนทนา เธอยังไม่ยอมรับสาย ไม่พูดคุยกับคนที่เพียรติดต่อหาโดยตรงนัดหมายของพีระ...ทำให้ณิชาลังเล สองจิตสองใจ ทั้งที่ก่อนนี้ตั้งใจจะตัดขาด ไม่ยอมพบหน้าเขาอีก“นิดไม่อยากได้บ้านคืนแล้วเหรอ ทางพีชช่วยได้นะ คุณพ่อจัดการให้ได้ นายไรวินทร์มันมีจุดอ่อนให้เราเล่นงานตั้งหลายจุด คุณพ่อรู้ดี คุณพ่อเล็งจะเล่นงานมันนานแล้ว’พ่อของพีระเป็นนายตำรวจใหญ่ในเชียงราช มีอิทธิพลและคนรู้จักอย่างกว้างขวาง การจะหาจุดอ่อนเพื่อเล่นงานนักธุรกิจหน้าใหม่ที่เข้ามาในเชียงราชสักคน ไม่ใช่เรื่องเกินความสามารถ“จะทำยังไง บอกได้ไหม”“ออกมาคุยกันสิ คุยอย่างนี้ไม่สะดวก ไม่ปลอดภัยทั้งพีชและนิด”“นิดขอคิดดูก่อนนะ”“ทำไม รักมันแล้วใช่ไหมถึงลังเล เปลี่ยนใจยกบ้านให้มันแล้วสิ”“นิดอยู่ในบ้าน มีคนของเขาจับตามองอยู่ การออกไปพบพีชไม่ใช่เรื่องง่าย”“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง พีชเข้าใจนิดแล้ว พีชจะรอนะ”การพูดคุยผ่านโปรแกรมจบลงเท่านั้น ณิชาก้มหน้าก้มตาอ
น้ำเสียงจริงจังแต่ไม่อาจทำให้คนฟังเชื่อ!“ผมไม่อยากขวางคุณทำงานหรอกนะ คุณทำงานกับคุณแหวว ผมชอบและยินดีกับคุณ คุณแหววก็ดูเชื่อมั่นคุณไม่น้อย”คนที่ล่วงรู้ความคิดเธอบอก แต่ณิชากลับรู้สึกแย่“พูดอะไรตอนนี้ คุณทำลายมันหมดแล้วนี่”“ให้ผมหาคนที่แกล้งคุณได้ก่อนแล้วจะพาสมัครงานใหม่ รับรองคุณแหววไม่มีทางกล้าปฏิเสธผม”“ไม่ต้องมาอวดตัว คุณแหววรับฉันเข้าทำงานเพราะตัวฉันเอง ถ้าจะรับกลับอีกก็ไม่เกี่ยวกับคุณ”แค่รู้ว่าจะได้กลับไปทำงาน มีลู่ทางสร้างความหวังเป็นของตัวเองอีก ณิชาก็อารมณ์ดีพอจะโต้เขาด้วยการจิกกัดพอให้เจ็บๆ คันๆ เล่น...แต่พอได้ยินคำพูดเนิบช้าคล้ายกำลังเล่าเรื่องดินฟ้าอากาศ ณิชาก็ถึงกับอึ้ง มึนงง ไม่รู้ว่าควรไปอย่างไรต่อดี“บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามองผมในแง่ร้ายเกินไป เผื่อใจไว้บ้าง รู้จักตัวจริงของผมเมื่อไหร่คุณจะหลงรักผมหัวปักหัวปำ”ไรวินทร์มองคนนั่งข้าง เรียวปากอิ่มขยับเหมือนจะพูดบางอย่างแต่กลับไม่มีเสียงหลุดออกมา เขานึกอยากหัวเราะคนเก่งเสียจริง...แต่ก็สงสาร กลัวว่าจะยิ่งทำตัวไ
สิบนาฬิกาตรงของวันนั้น ณิชาต้องติดอยู่ในรถสปอร์ตของคนที่เจ้ากี้เจ้าการเลือกเสื้อผ้าให้เธอเปลี่ยนจากเสื้อยืดเนื้อนิ่มสวมสบายเป็นเสื้อผ้าพลิ้วสีขาวขลิบลูกไม้กับกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้มกระชับเรือนร่างมองกระจกณิชาก็ว่าสวยอยู่หรอก เสื้อตัวนี้หล่อนซื้อมาจากร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังช่วงลดราคาก่อนเข้าหน้าหนาวตอนไปฝึกงานที่ยุโรป แต่ไม่ค่อยหยิบมาสวมใส่เพราะคิดว่ามันดูดีเกินความจำเป็นสำหรับงานในแต่ละวันของเธอแต่พอวันนี้ ก้มมองตัวเองอีกทีแล้วสลับกับคนข้างนอกที่ยืนคุยอยู่กับผู้ชายสี่คนก็ทำให้นึกพอใจที่ยอมเออออตาม เขาอยู่ในเสื้อผ้าสไตล์เดิมแสนคุ้นตาหากว่าดูดีและโดดเด่นเหมือนอย่างเคยไรวินทร์กับผู้ชายกลุ่มนั้นยืนอยู่หน้าอาคารสามชั้นกรุกระจกโดยรอบที่ณิชาสังเกตเห็นอยู่ว่าสร้างมาสักพักแล้ว ภายในพื้นที่เขตก่อสร้างอันกว้างขวาง คะเนด้วยสายตาเกินยี่สิบไร่แน่นอน ที่สำคัญตั้งอยู่เกือบกลางเมืองเชียงราชด้วยสิไม่กี่ปีมานี้เชียงราชขยายตัวอย่างรวดเร็ว การจะเห็นอาคารเกิดใหม่รูปทรงทันสมัยนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกตาอย่างเมื่อก่อน ที่ตรงนี้ก็เหมือนกัน ณิชาเคยขี่รถผ่านอยู่หลายรอบ เห็นจนชินต
ฟังคำพล่าม อรุณวดีถึงกับเหยียดปากอย่างไม่ปกปิดความรู้สึก นี่นายพีระคิดว่าไรวินทร์เป็นตาแก่หัวล้านแถมลงพุงอย่างที่ณิชาต้องทำใจเป็นคู่นอนอย่างนั้นหรือคนอย่างไรวินทร์ต่อให้มีแต่ตัวก็มีผู้หญิงเข้าแถวรอกระโจนลงเตียงนอนเขา แล้วอย่างแม่ณิชานั่นดูภายนอกว่าเป็นพวกน้ำยาเย็น แต่เชื่อสายตาอรุณวดีสิว่าพอถึงเวลาจริง แม่คนนั้นอาจร้อนแรงจนนายพีระคิดไม่ถึงก็ได้...แค่ได้เชื้อไฟดีๆ“เธอกับณิชา เคยมีอะไรกันหรือเปล่า”“ผมกับนิด...เราไม่มีอะไรกันแล้ว”พีระตั้งใจพูดกำกวม ตอบไม่ตรงคำถาม เพราะรู้สึกหวงณิชา บางสิ่งในตัวหญิงสาวที่เพิ่งได้สัมผัสทำให้เขาไม่อยากปล่อยมือแต่ด้วยชั่วโมงบินที่สูงกว่ามาก แค่อ้าปาก คนฟังก็รู้ทันแล้ว“อยากได้เขาไหม”“คุณวดีหมายความว่ายังไง”“ฉันรู้เธอยังตัดใจจากณิชาไม่ขาด ยังอยากได้เขาอยู่ใช่ไหม ตามใจตัวเองไปสิ”“คุณวดีพูดอย่างนี้ไม่ดีเลยนะครับ ยังไงผมก็มีรวีอยู่ทั้งคน”“นายไม่รู้หรือว่าตัวจริงกับทางผ่าน ควรจัดวางกันยังไง ตรงไหน”