INICIAR SESIÓNEP.14 ผู้ร้ายตัวจริง
มิลินทักทายผู้เป็นแม่พอหอมปากหอมคอ จองโรงแรมไว้แล้วแต่เลือกที่จะอยู่กับผู้เป็นแม่ก่อน เธอจึงนั่งทำงานในระหว่างที่รอมณีรินทำกับข้าวให้ทานในมื้อเที่ยง “แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู~ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู~”เสียงร้องเพลงแทรกขึ้นมาทำให้มิลินไหวตัวด้วยความตกใจ มณีรินถือเค้กเดินเข้ามาหาใกล้ๆด้วยท่าทางยิ้มแย้ม เสียงดังแสบแก้วหูและไม่ตรงคีย์ ลูกน้องของเธออีกสองสามคนปรบมือแทบไม่เข้าจังหวะ แต่โดยรวมครึกครื้นและทำให้เธออุ่นใจได้ “แฮปปี้เบิร์ดดดดด เดย์ แฮปปี้เบิร์ด เดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูมีนนนนน” “แม่กินยาลืมเขย่าขวดป่ะ” “ไง จำวันเกิดตัวเองไม่ได้เหรอ” “พอรู้ว่าลูกตัวเองรวยเนี่ย ก็เอาใจใหญ่เลยนะ จะเอาเท่าไรก็บอกมาสิ” “แล้วแต่มึงจะกรุณาเลย”มณีรินประชดประชัน “ว่าแล้ว คิดไว้ไม่มีผิด” “เลิกกระแนะกระแหนกูได้แล้ว จะกินไหมเค้กอ่ะ หรือจะต้องให้ป้อน”มณีรินพ่นลมเบาๆให้เทียนดับ หล่อนจัดการผ่าเค้กและแบ่งใส่จานให้ทุกคนได้ลิ้มรสเค้กแสนอร่อย “หรือให้กูจุดธูปเชิญ”ผู้หญิงกับเค้กเป็นของคู่กัน เว้นแต่ผู้หญิงที่หน้าตาเรียบเฉยอย่างมิลินที่ยังไม่สนใจใยดีกับมัน “ไม่กิน มันอ้วน” “เรื่องของมึง”มณีรินได้แต่ส่ายใบหน้าไปมาเบาๆ มิลินเปลี่ยนไปเยอะทั้งนิสัยและหน้าตาที่ดูดีแต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือความดื้อด้าน หล่อนดึงจานกลับหยิบเค้กเข้าปากเสียเองเคี้ยวตุ้ยๆ ล่อตาล่อใจให้มิลินอยากทานบ้าง แต่เธอไม่สนใจอะไรนอกจากไอแพดในมือเหมือนเดิม “ทำงานเหรอ” “ครับป้า”เตชินท์ตอบแทนพร้อมกับทานเค้กในส่วนของมิลินแทนเธอด้วย “มีน”น้ำเสียงจริงจังของมณีรินทำให้มิลินละสายตาจากไอแพดมามองผู้เป็นแม่ทันทีแต่เธอยังดึงใบหน้าเรียบเฉย “ทำบุญไหมมึงอ่ะ ปีนี้มึงเบญจเพสแล้วนะ” “เบญจเพส”มิลินและเตชินท์พูดขึ้นพร้อมกัน คนที่ซวยซ้ำซ้อนคงหนีไม่พ้นเรื่องพวกนี้ หลายเรื่องราวที่พบเจอมันคงมาจากวัยที่ย่างเข้ายี่สิบห้าปีที่ใครๆเขาพูดถึงกันมานาน เธอไม่ใช่คนงมงายเชื่อเรื่องอะไรพวกนี้ง่ายๆ แต่เมื่อก่อนเธอทำอะไรไม่เคยติดขัดหรือเคยเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขนาดนี้ พอนึกขึ้นได้ถึงได้รู้ว่ามันผ่านวันเกิดเธอมาแล้วจริงๆ ซึ่งวันนั้นก็เป็นคืนเดียวกับที่พยาบาลบอกว่าเธอเกือบเสียชีวิต “แม่ว่าจะพาไปหาพระไปไหม ทำบุญหน่อยไหม ตอนกูยี่สิบห้ารถคว่ำเกือบตาย ไม่อยากให้มึงเจอเรื่องซวย เข้าวัดบ้าง เรื่องร้ายจะได้กลายเป็นดี” “ผมว่าก็ดีนะครับ”เตชินท์เห็นด้วย เขาคาดคั้นมิลินด้วยสายตา อยากให้ลองดูเผื่อจะมีอะไรดีขึ้น “แล้วแต่แม่เถอะ” “แล้วแต่กูงั้นไปกันเลยดีไหม วัดอยู่ใกล้ๆ แม่จะไปขอหวยพระอาจารย์ด้วยอยู่พอดี” “เล่นมาเป็นชาติก็ไม่เคยถูกยังจะเล่นอีก แม่จะไร้สาระไปถึงไหนเนี่ย” “เป็นหมาหรือไง กัดกูเก่ง สรุปมึงจะไปไม่ไป อีคุณนายปากหมา”มณีรินยืนขึ้นเท้าเอวต่อว่าลูกสาวฉอดๆ ส่งผลให้คนโดนว่าชักสีหน้าเธอแทบไม่เคยเชื่อว่าทำบุญแล้วจะมีอะไรดีขึ้น แต่มาถึงตอนนี้อะไรที่ทำให้เธอสบายใจได้ก็จะทำ “จะไปก็ไป ฉันรีบมีงานต้องทำต่อ” “ก็แค่นี้!” @วัด “สวัสดีค่ะพระอาจารย์ วันนี้ฉันพาลูกสาวมาหาน่ะค่ะ ปีนี้มันเบญจเพส เพิ่งผ่านวันเกิดมันมาสดๆร้อนๆ เลยพามาทำบุญซะหน่อย”มณีรินยกมือไหว้พระภิกษุวัยชรา นั่งพับเพียบเรียบร้อยถวายของที่ซื้อมาเพื่อทำบุญพร้อมกับลูกสาวของหล่อน ความสนิทสนมจากการที่มณีรินมาช่วยงานวัดบ่อยทำให้มณีรินได้เข้าพบโดยไม่ต้องรอคิว หรือเรียกง่ายๆว่าใช้เส้นใช้สาย “มีอะไรไม่รู้วนรอบตัวลูกสาวเอ็ง”ไพบูลย์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังทักขึ้น เพราะสัมผัสได้ถึงมวลสารบางอย่างที่แรงมากๆรอบกายหญิงสาวคราวหลาน “อะ..อะไรเหรอคะ”มณีรินเมื่อได้ยินอย่างนั้นถึงกับหุบยิ้มลงโดยอัตโนมัติ แสดงความหวาดกลัวออกมาทางสีหน้า หล่อนมองรอบตัวลูกสาวก็ไม่เห็น กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคออย่างยากลำบาก หากมันคือสิ่งลี้ลับที่ตามลูกสาวมาจะต้องทำเช่นไร “เอ็งไปหาเลขเหอะ เดี๋ยวข้าจะช่วยลูกสาวเอ็งเอง” “คือ…มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ จะถึงขั้นตายไหม”มณีรินถามอย่างกล้าๆกลัวๆ เขยิบออกห่างจากมิลินเล็กน้อย ขนลุกขนพองโดยไม่ทราบสาเหตุ “อย่าคิดมากเลยโยม” “ช่วยลูกสาวฉันด้วยนะคะ วานพระอาจารย์ช่วยปัดเป่าเรื่องร้ายๆและเสริมดวงให้มันที แต่ฉันน่ะไม่เอาด้วยหรอกกลัวผี เดี๋ยวฉันไปหาหวยดีกว่า”มณีรินตีหน้าเศร้าเล่าจนจบ แต่เมื่อว่าจบมณีรินคลี่ยิ้มออกมาบางๆ ยกมือไหว้ขอลาค่อยๆคลานเข่าออกไป ไม่อยากรับรู้สิ่งเหนือธรรมชาติที่ตัวเองมองไม่เห็น เอาเวลานี้ไปพิจารณาตัวเลขเสียยังดีกว่า เมื่อมีที่ว่างข้างๆมิลินเตชินท์จึงอาสามานั่งแทนที่ เผื่อจะทำให้มิลินอุ่นใจมากขึ้น “แม่เอ็งก็เป็นซะอย่างนี้” “หมายถึงว่ามีคนตามฉันมาเหรอ”มิลินถามขึ้นมาเพราะตรงกับที่เธอสันนิษฐานไว้ ไม่มีอารมณ์คุยเล่นกับที่ไพบูลย์ชวนออกนอกเรื่อง “ไม่แน่ใจ มองเห็นแค่เงาดำๆที่มาด้วย ตอนเอ็งเข้ามามันมีลมอะไรไม่รู้นำมาก่อน” “ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ เอามันออกให้หน่อยได้ไหมคะ” “ไม่ใช่เรื่องยาก แค่เรื่องนี้ใช่ไหม” “ฉันมาตามหาของด้วย พระอาจารย์จะช่วยได้ไหมล่ะ ไม่อยากมาเสียเที่ยว”แค่อยากรู้ว่ามันอยู่กับใคร จะได้หายข้องใจเสียที ภาพของกุหลาบซ่อนพิษถูกเก็บไว้ในโฟล์เดอร์ของโทรศัพท์ เธอเลื่อนหาสักพักก่อนจะยื่นให้ไพบูลย์ดู “จะลองดูแล้วกัน ขยับมาใกล้ๆ แล้วเล่าเรื่องให้อาตมาฟังทีซิว่าเรื่องมันเป็นยังไง” หญิงสาวขยับเข้าไปหาอีกหน่อย ยื่นมือไปสัมผัสผ้าผืนเดียวกับไพบูลย์ จากนั้นมิลินก็เล่าเรื่องราวให้ฟังโดยไม่ปิดบังถึง ไพบูลย์คายหมากในปากทิ้งใส่กระโถนไปก่อนเพื่อความสะดวก เขาตั้งสมาธิแล้วค่อยๆหลับตาลง หลังจากนั้นบริกรรมคาถาอยู่นานหลายนาที จินตนาการนึกถึงภาพที่หญิงสาวเล่า “กุหลาบของเอ็ง มันอยู่ในที่มืด ถูกซ่อนอยู่” “ใครเอามันไปซ่อนคะ ใช่คนนี้ไหม”เปิดภาพมาร์ตินในโซเชียลของเขามาให้ไพบูลย์ดูเพื่อความแน่ชัด“ใช่ไหมคะ” ไพบูลย์ลืมตาขึ้นช้าๆและคลายมือจากผ้าผืนนั้น เพ่งพินิจรูปอยู่นานสองนาน ทำเอามิลินถึงกับอยู่ไม่สุขอยากได้คำตอบ หากรู้ว่าไพบูลย์มองเห็นขนาดนี้คงไม่ต้องเสียเวลากลับไปหาเอง “ไม่ใช่ผู้ชายคนนี้ เอ็งโดนใครสักคนทำร้าย เอ็งล้มลงแล้วสร้อยของเอ็งไปเกี่ยวกับกิ่งไม้ขาด แล้วคนที่เอาไปก็ไม่ใช่ผู้ชายคนที่เอ็งให้ดูรูป” “ไอ้เมฆา!”ถ้าไม่ใช่มาร์ตินก็ต้องเป็นเขา วินาทีนั้นเธอหาทางเอาตัวรอดจนลืมโฟกัสสิ่งสำคัญ ความจริงออกมาเป็นแบบนี้แต่ใช่ว่าเธอจะลดอคติกับมาร์ตินเพราะเขาก็ทำเรื่องมากมายให้เธอไม่แพ้กัน“แล้วผู้ชายในรูปเป็นคนที่ทำของใส่ฉันใช่ไหมคะ”ตอนพิเศษ 4 ปัจจุบันที่สวยงามปัจจุบัน@หลายเดือนต่อมา“เรื่องที่มีนเล่าโคตรสะใจเลย”“เรื่องที่ตินเล่าก็ทำให้มีนรักตินมากขึ้นนะ แบบมากๆเลยนะ เสียดายมากนะ วันนั้นตินน่าจะอยู่รอมีนฟื้น เราจะได้เจอกันเร็วขึ้นกว่านี้”“หลังจากที่มีนฟื้นมาจากการจมน้ำช่วงนั้นผมยุ่งมากเลย ทำให้ไม่ได้ตามมีนต่อ ผมโคตรเป็นห่วงมีนเลย ต่อมาเจอมีนอีกทีมีนก็กลายเป็นยักษ์ขมูขีไปแล้ว”“ฮ่าๆๆ มีนชอบตัวเองตอนนั้นมาก ตอนนี้ความรู้สึกที่เล่าให้ตินฟังมันสะใจมากไม่ได้เจ็บปวดแล้วนะ”“นี่สิมิลินคนแกร่งของผม”“มีนยังร้ายอยู่นะแต่ซ่อนพิษตัวเองไว้ ซึ่งตอนนี้มีนเป็นนางฟ้าสุดสวยของตินนะ มีนจะไม่ใช้ความร้ายกาจกับตินอีก”“ครับ แม่นางฟ้าคนสวยของผม ผมก็จะไม่ทำให้พิษที่มีนซ่อนไว้เผยออกมาอีกแน่นอน”คนคลั่งรักกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันบนโซฟา กอดกันกลมอย่างมีความสุข โดยได้ยินเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากของลูกชายซึ่งเล่นกับทวดของเขาเสียงดังเล็ดลอดมาในห้องที่ปิดประตูไม่ค่อยสนิทนัก แต่ทั้งสองก็ยังคงหยอกล้อกันด้วยความมันเขี้ยว เติมความหวานให้กันในช่วงที่มีเวลา“มีนรักตินมากเลยอ่ะ ขอบคุณที่ตอนนั้นช่วยมีน คอยเอาเสบียงมาส่ง คอยตามดูมีนอยู่ห่างๆนะ”มิลิ
ตอนพิเศษ 3 คลุ้มคลั่งมาเฟียหนุ่มเปียกโซกหนาวสั่น เขายืนดูกู้ภัยปั๊มหัวใจของมิลินด้วยความห่วงใย ญาติของมิลินตามมาในทันที เขาจึงต้องหลีกออกไปเล็กน้อยเพื่อเปิดทางแต่ก็ชะเง้อมองดูห่างๆ“ผมว่าผู้หญิงคนนี้ต้องปลอดภัย นายกลับกรุงเทพเถอะครับ เดี๋ยวไม่ทันการ” โอภาสพยายามดึงมาร์ตินออกมา หากช้าไปกว่าเวลาที่กำหนดงานจะมีปัญหาหนักกว่าเก่า“แต่กูยังไม่อยากกลับ”“เดี๋ยวเธอก็ถึงมือหมอ ไปก่อนเถอะครับ”มาร์ตินจิ๊ปากด้วยความหงุดหงิดห่วงหน้าพะวงหลัง หากไปตอนนี้เขาก็คงไม่มีอารมณ์คุยงาน แต่ทางเลือกมีไม่มาก เขาต้องตัดใจจากมิลิน ปล่อยให้กู้ภัยช่วยชีวิตมิลินต่อ ส่วนตัวเขาต้องกลับไปทำงานต่อทันที@โรงพยาบาลมิลินเหม่อมองเพดานขาวโพลนของห้องพักผู้ป่วยอย่างหมดอาลัยตายอยาก เธอไม่รู้ว่าเธอจะมีชีวิตต่อไปทำไม ทำไมกู้ภัยต้องช่วยเธอไว้ หากรอดไปได้เธอคงโดนแม่บ่นจนหูชา ความรู้สึกตอนนี้คือเธออยากจะหนีออกจากโรงพยบาลและหายไปไม่อยากพบหน้าใคร“อยากออกไปจากที่นี่ ได้ยินไหม! ใครก็ได้ปล่อยฉันที!”มิลินขยับได้ยากลำบากเพราะมือและเท้าถูกมัดไว้กับเตียง แต่เธอก็พยายามดิ้นให้ถึงที่สุด“น้องคลุ้มคลั่งพี่จำเป็นต้องทำอย่างนี้นะ”พยาบ
ตอนพิเศษ2 ความเจ็บปวด@คอนโดโอมเมื่อเท้าเล็กก้าวพ้นขอบประตูเข้ามาในห้องโอม การฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีของมิลินก็หยุดลงทันที ไอความเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในห้องกระทบกายบ่งบอกว่าโอมอยู่ในห้อง เธอจะนำน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ที่ซื้อมาระหว่างทางไปเทใส่แก้วให้โอม เท้าเล็กดันไปเหยียบกับอะไรบางอย่างหน้าห้องเสียก่อน“ระ…รองเท้าใคร”ตั้งคำถามขึ้นมาแต่หัวใจดวงน้อยดันสั่นระรัว รองเท้าส้นสูงคู่นี้ไม่ใช่ของเธอแน่นอน แต่มันคุ้นตาเธอมากเสียจนเธอคิดในแง่ดีต่อไปไม่ได้ มือเรียวที่สั่นเทาหยิบขึ้นมาดู เธอต้องการคำตอบของความสงสัยทั้งหมดจึงรีบเดินไปหาโอม“…!”มิลินอ้าปากค้าง ชุดชั้นในของผู้หญิงกองเรี่ยราดอยู่เต็มพื้น เธอเดินตามมันไปก็พบเจ้าของของมันนอนอยู่บนเตียงเดียวกับโอมโดยทั้งสองปราศจากเสื้อผ้าห่อหุ้มร่างกาย มีเพียงผ้าห่มที่ปกปิดท่อนล่างไว้ ผู้หญิงที่นอนกับโอมก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเพื่อนที่คบกันมานานหลายปี เป็นคนที่เธอไว้ใจ เป็นเพื่อนที่เธอรักมากที่สุดในชีวิต น้ำตาไหลเอ่อออกมาอย่างไม่อาจกลั้นได้ หัวใจดวงน้อยเจ็บปวดคล้ายมันกำลังถูกทุบอย่างรุนแรงจนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แทบจะยืนไม่ไหว ชาไปทั่งร่างกรี๊ดดดดดดดด
ตอนพิเศษ1 อดีต@หลายปีก่อนหน้ามิลินในชุดนักศึกษาถูกระเบียบก้าวเท้าเข้ามาในสนามบาสเกตบอลในช่วงเย็นหลังจากเลิกเรียน เธอมองซ้ายมองขวามองหาโอมซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของเธอ เขาเป็นนักบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย เธอจึงนำน้ำและขนมติดไม้ติดมือมาฝากเขาด้วยเพื่อจะได้ให้เขามีแรงซ้อมและทุกครั้งที่มา มักจะเจอเพื่อนนักบาสของโอมซ้อมอยู่ก่อนแล้วในสนาม ซึ่งหากเจอผู้ชายคนอื่นเธอไม่อยากเข้าใกล้ เพราะเธอมักจะถูกพวกผู้ชายเหล่านั้นแซวเล่นหรือไม่ก็ถูกกลั่นแกล้ง“ไงจ๊ะ น้องมีน เอาเสบียงมาให้ไอ้โอมเหรอ”สิ่งที่เธอไม่ชอบก็เกิดขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ชายทั้งสี่คนเดินเข้ามาหาเธอ พวกเขามีจุดประสงค์จะมาเอาน้ำและขนมที่เธอซื้อมาให้โอมไปทาน บางครั้งเธอเลยต้องซื้อมาฝากพวกเขาด้วยเพื่อตัดปัญหา แต่วันนี้เธอตั้งใจนำมันมาให้โอมเพียงคนเดียวจึงรีบวิ่งหนี“จะหนีไปไหน เห้ย!พวกมึงตามดิ๊”“พวกพี่อย่ามายุ่งกับมีนสิ มีนเอาของมาให้พี่โอม ไม่ได้เอามาให้พวกพี่”“เป็นคนหวงกินตั้งแต่เมื่อไร”“พวกพี่มีตังก็ไปซื้อเองสิ อย่ามาแย่งของมีนนะ”“ใจร้ายจังครับคนสวย”“พี่ๆอย่ามายุ่งกับมีนนะ”ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทั้งสี่มายืนล้อมเธอหมายจะกลั่
แชะ!เสียงกดชัตเตอร์จากกล้องถ่ายรูปราคาแพงทำให้มิลินที่นั่งอยู่บนรถไหวตัวด้วยความตกใจ แต่เมื่อเธอหันมาเห็นกล้องจึงโพสต์ท่าให้ตากล้องส่วนตัวถ่ายทุกอิริยาบถของเธอเก็บไว้ “ดึงเกาะอกขึ้นนิดนึง มันจะเห็นทั้งเต้าละนะครับ”“อย่างนี้เหรอ”เธอดึงลงมาอย่างยั่วยวน เผยความเซ็กซี่ให้เขาเห็นโดยไม่ปิดบัง“อยากโดนอีกรอบเหรอครับ”เขาเข้ามาดึงเกาะอกให้กลับที่เดิม“มีนชอบยั่วตินเฉยๆ”“ชุดมีนมันจะแหวกกี่ที่ครับ”“ก็ชอบแบบนี้ รูปที่ตินถ่ายออกมามันก็ดูไม่ได้โป๊นะ”ภาพที่เขาถ่ายให้มันถูกใจเธออีกเช่นเคย จนอดใจที่จะเก็บไว้ดูคนเดียวไม่ได้ต้องโพสต์ภาพลงโซเชียลส่วนตัว‘คุณแม่แซ่บมากเลย เกาะอกจริงๆ เซ็กซี่มากแม่’‘คนท้องที่แซ่บที่สุดอยู่ตรงนี้ ใครอย่ามาเทียบเคียงหญิงมีนของฉันนะยะ’‘นางแบบสวยที่สุด ตากล้องรู้ใจสุด อยากได้ตากล้องส่วนตัวแบบนี้บ้าง’‘ถ่ายหนึ่งได้ถึงสอง อวดความสวย อวดผัวที่ถ่ายรูปเก่ง น่าอิจฉา’ มิลินคลี่ยิ้มกว้างด้วยความสดใส ยื่นโทรศัพท์ไปให้มาร์ตินดูคำชมของคนในโซเชียล เธอไม่รู้ว่ามีใครอิจฉาเธออย่างที่พูดรึเปล่า แต่ตอนนี้เธออิจฉาตัวเองที่มีความสุขมากขึ้นทุกวัน“ตินเคยไปเรียนถ่ายรูปจริงจังไ
EP.74“มองเหี้ยอะไรนักหนา”เสียงของโอภาสดังขัดจังหวะสวีทหวานของเจ้านาย เขาไม่อาจทนเพื่อรักษาบรรยากาศได้เพราะเตชินท์กวนประสาทและตั้งใจหาเรื่องเขาก่อน“มึงนั่นแหละมองอะไรวะ”ผั๊วะ!เตชินท์เป็นฝ่ายเริ่มปล่อยหมัดหนักๆใส่โอภาส โอภาสจึงไม่ยอมง่ายๆกระทำแบบเดียวกันคืน จากนั้นทั้งสองก็ปล่อยหมัดใส่กันไม่ยั้งมิลินกับมาร์ตินยืนมองนักมวยมือสมัครเล่นอย่างเอือมระอา ปล่อยให้ทั้งสองก่นด่าและต่อยกันคนละหมัดจนมีรอยแผลบนใบหน้าคนละแผล“หยุด!”มาร์ตินใช้น้ำในแจกันดอกไม้มาสาดใส่ทั้งสองจนเปียกปอนทำให้ทั้งสองแยกตัวออกห่างจากกันได้ “เป็นหมารึไง อยู่บ้านเดียวกันจะทะเลาะกันทำไม”“…”“ตอบ!”“…”ไร้คำตอบจากปากของทั้งคู่มีเพียงการก้มหน้ารับผิดที่ไม่อาจรู้ได้ว่าสำนึกจริงๆรึเปล่า“มึงจะทะเลาะกันทำไม”“ตินคืนนี้ฉันอยากให้ลูกน้องเราทั้งสองนอนด้วยกัน จะได้ละลายพฤติกรรมกัน และรักกันมากขึ้น”“โถ่นายหญิง ไม่เอาครับ”เตชินท์รีบปฏิเสธทันที คงจะอยู่ร่วมห้องกับคนที่ไม่ชอบไม่ได้“ผมเห็นด้วยนะ”มาร์ตินยกนิ้วโป้ง เห็นด้วยกับความคิดมิลินเสียงจิ๊ปากของโอภาสดังพอๆกับเสียงถอนหายใจของเตชินท์ คงไม่อาจหนีได้ ผู้เป็นนายสั่งอย่า

![นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


![เจ้าเวหา [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


