"เสื้อผ้าและรองเท้าพวกนี้เป็นของฉันหมดเลยเหรอ ถ้าใส่เบื่อแล้วฉันเก็บขายมือสองได้ปะ คงได้หลายบาท" ฮันนี่คิดเอาชนะคนตัวโตด้วยการหยิบยกเรื่องข้าวของขึ้นมาแอบอ้าง
เล่นฝีปากกับคนหน้าด้านที่กล้าพูดอย่างน่าไม่อายว่าจ้องจะเอาเธออยู่ตลอดมันต้องเจอแบบนี้มันถึงจะคู่ควร "ถอดเสื้อผ้าแล้วไปอ้าขารอฉันบนเตียง!" คำสั่งของออสตินส่งผลให้ใจดวงน้อยกระตุกวูบ รู้ตั้งแต่ตอนที่สบตากันว่าเขาเอาจริง! "เรามาเดิมพันกันปะ" "..." "ถ้าดื่มกับฉันแล้วคุณเมา คืนนี้คุณไม่ต้องเอาฉัน" "ทำไมฉันจะต้องเดิมพัน ในเมื่อฉันมีสิทธิ์ที่จะเอาเธอตลอดเวลา" "ป๊อดว่ะ กลัวแพ้ฉันล่ะสิ หึ!" ฮันนี่เหยียดยิ้มเย้ยหยันพลางตวัดขาสวยขึ้นไขว้ห้าง ท่าทางราวกับนางพญา หยิ่งยโสราวกับว่าเหนือกว่า แต่ความจริงแล้วเธอไม่ต่างจากปลาย่างที่แมวรอจ้องจะขย้ำตลอดเวลา "ถ้าฉันเมา ฉันไม่มีสิทธิ์เอาเธอ..." "...แต่ถ้าเธอเมา คืนนี้ฉันจะเอาเธอทั้งคืน" ฮันนี่บิดยิ้มรับคำตอบ กลัวจะตายแต่ทำได้เพียงยิ้มเฉยๆ ออกมา "ไวน์อยู่ในตู้เย็นปะ ฉันขอเดินไปหยิบนะ" "เชิญ" ออสตินผายมือไปยังโซนห้องครัวอย่างใจเย็น มาเฟียหนุ่มทิ้งสายตามองตามแผ่นหลังขาวเนียนที่โผล่พ้นเหนือชุดที่เธอสวมใส่ เขาไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนมากมายขนาดนี้ และไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้ฝันร้ายของเขาหายไปเหมือนกับผู้หญิงคนนี้ กลิ่นของเธอ สัมผัสของเธอ ใบหน้าและสายตาที่ตรึงตาตรึงใจของเธอมันทำให้ฝันร้ายนั้นหายไป มาเฟียหนุ่มยินดีจ่ายหากได้พิสูจน์อย่างแน่ชัดว่าเธอคือสาเหตุที่ทำให้ฝันร้ายนั้นหายไปจริงๆ "มัวทำอะไรอยู่" "...!" ฮันนี่หันขวับอย่างรวดเร็วเมื่อเสียงของออสตินดังขึ้นจากทางด้านหลัง มือเรียวประคองขวดไวน์แน่น ในขณะที่มืออีกข้างยึดแก้วดีไซน์เก๋ไว้แน่นเลยเช่นกัน "ฉันแค่กำลังนึกอยู่ว่าไวน์ยี่ห้อนี้ฉันเคยกินรึเปล่า สุดท้ายก็จำได้ว่าเคยกิน" "ไม่ใช่ว่าถ่วงเวลานะ" ท่อนขาแกร่งแทรกเข้ากลางหว่างขาสวย ร่างสูงโปร่งประชิดเข้ามาอย่างรวดเร็ว กลิ่นลมหายใจที่กระทบลงมาบนใบหน้าตอกย้ำว่ายังไงซะเธอก็หนีเขาไม่พ้น เธอหลุดพ้นจากแฟนเก่าเฮงซวยอย่างอาร์ต! แม่ของเธอ ได้อยู่ในที่ที่ดีกว่าและปลอดภัยกว่า! เงินของเขา อาจจะทำให้ชีวิตของเธอดีกว่า! ทุกอย่างต้องแลกมาด้วยการที่เธอทำให้เขาพอใจ! "ฉันจะถ่วงเวลาให้มันได้อะไรขึ้นมา สุดท้ายฉันก็หนีคุณไม่พ้นอยู่ดี" "คิดแบบนี้ได้ก็ดี เพราะคนอย่างฉันไม่ยอมเสียอะไรไปฟรีๆ แน่" ฮันนี่เม้มปากแน่น ฝ่ามือเล็กดันแผงอกแกร่งออกห่าง ก่อนจะถือขวดไวน์แล้วเดินนวยนาดกลับมาที่โซฟากลางห้องตามเดิม ฮันนี่รินไวน์ลงไปบนแก้วทั้งสองใบ ใบแรกเป็นของเขา ส่วนอีกใบเป็นของเธอ มาเฟียหนุ่มตวัดขายาวขึ้นไขว้ห้าง วางแขนข้างหนึ่งไว้กับพนักวางแขน ใช้มืออีกข้างควงแก้วเครื่องดื่มอย่างใจเย็น "คุณมาทำอะไรที่นี่อ่ะ ถ้าบ้านของคุณอยู่ที่อังกฤษ หมายความว่าคุณเดินทางมาที่นี่เพราะแค่มาเที่ยวงั้นเหรอ" "ยก" ดวงตาคมกริบจ้องแก้วเครื่องดื่มเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพยายามชวนคุยเพื่อเลี่ยงการดื่มแบบที่เธอชักชวน ฮันนี่ยกแก้วขึ้นจรดริมฝีปากอย่างว่าง่าย ที่มัวแต่ชวนคุย ไม่ใช่ว่าเธอหาทางหลีกเลี่ยงเพราะอยากจะหลอกล่อให้เขาเป็นฝ่ายเมาแล้วเธอจะรอด แต่เธอแค่ทดเวลาบาดเจ็บให้กับตัวเองแค่นั้นเอง! "ถามจริงๆ นะ คุณจะอยู่ที่นี่นานปะ" "แล้วแต่อารมณ์ อยากอยู่ก็จะอยู่ อยากไปเมื่อไหร่ก็จะไป" "ฉันคิดว่าเราต้องร่างสัญญาขึ้นมานะ อย่างน้อยๆ ฉันก็อยากได้ความมั่นใจแบบเป็นลายลักษณ์อักษรว่าฉันจะหลุดพ้นจากคุณจริงๆ" "ผู้หญิงครึ่งโลกอยากเป็นผู้หญิงของฉัน เธออาจจะไม่ใช่หนึ่งในนั้นทันทีที่พบ แต่ถ้าผ่านพ้นคืนนี้ไป...ก็คงไม่แน่" "คุณเอาอะไรมามั่นใจอ่ะ ถ้าคนอย่างฉันจะชอบอะไรแบบนั้น ฉันว่าฉันก็คงหาไม่ยากหรอก อย่าลืมสิว่าก่อนหน้านี้ฉันก็มีแฟน" "เธอแค่โชคดีที่ไม่สูญเสียความสาวโดยสิ้นเปล่า" "บางทีถ้าฉันให้เขา เขาก็คงจะไม่พยายามไขว่คว้ามันกับผู้หญิงคนอื่น" "ความสาวมันหยุดผู้ชายให้อยู่กับเธอไปทั้งชีวิตไม่ได้หรอก ถ้าคนมันจะไม่พอ อะไรก็ทำให้มันพอไม่ได้" "ขอบใจก็แล้วกันนะที่อุตส่าห์บอกให้ฉันรู้ว่าสันดานของพวกผู้ชายมันเป็นแบบไหน ดีเหมือนกัน ฉันจะได้ไม่รู้สึกผิดหากต้องแลกความสดความสาวเพื่อครอบครัว" ฮันนี่กระดกไวน์ผ่านลำคอครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ที่ผ่านมาเธอจะค่อนข้างดื่มอยู่บ้าง แต่มันก็เป็นการดื่มแบบครั้งคราว เธอไม่ได้คอแข็งขนาดนั้น รู้ดีว่าดื่มไปเพียงไม่กี่แก้วก็เมาแล้ว เหตุผลที่เธอท้าทาย เหตุผลมันมีเพียงสั้นๆ คืออยากใช้ความเมาให้ช่วยคลายความรู้สึกแย่ๆ ที่ถาโถมเข้าใส่เมื่อผู้ชายคนนั้นเข้ามาในตัวเธอ "อื้ออ~ มึนหัวชะมัด" ฮันนี่ยกมือขึ้นกุมขมับเมื่อแอลกอฮอล์ที่เดือดพล่านในร่างกายส่งผลให้คนคออ่อนรู้สึกคล้ายจะอาเจียน "หึ..." มาเฟียหนุ่มตวัดขากลับ เลือกที่จะวางข้อศอกกับต้นขาทั้งสองข้าง รอยยิ้มจางๆ ผุดขึ้นบนมุมปากหนาในเวลาต่อมา "จบเกม เธอแพ้...หมายความว่าฉันมีสิทธิ์เอาเธอทั้งคืน" "คุณ!" "อะไร?" คิ้วดกเข้มขมวดเข้าหากันเมื่ออยู่ดีๆ ฮันนี่ก็ตะโกนเสียงดังลั่น ใบหน้าสะสวยเชิดขึ้น ดวงตากลมสวยกลอกกลิ้งไปมาขณะจ้องมองที่ใบหน้าหล่อเหลา "มาชิตะแปลว่าอร่อย มาหาหน่อย...แปลว่าคิดถึงนะ คิกๆ~ มุกจีบผู้ชายของฉันดูเก๋ปะ" ใบหน้าจิ้มลิ้มหลุดรอยยิ้มกว้าง ฟันสวยสะอาดเรียงตัว ออสตินถึงกลับผละห่างตามด้วยการใช้มือผลักหน้าผากมนแรงๆ "อย่าให้ฉันรู้ว่าเมาแล้วสะเออะไปพูดแบบนี้ที่ไหน" "อะไรอ่ะ เกรี้ยวกราดแบบนี้คือหวงปะ หวงล่ะซี~ ใช่ม่ะๆ" "ฉันเสียเวลากับเธอมามากเกินพอแล้วนะ ถอดเสื้อผ้าออกซะ ถึงเวลาที่เธอต้องทำหน้าที่ของตัวเอง" "ฉันรู้ คุณไม่ต้องดุนักหรอก" คนเมาเสียงอ่อนลง มือเรียวยกขึ้นตบแก้มเนียนเบาๆ เป็นเชิงเรียกสติของตัวเองให้กลับมา "คุณเป็นผู้ชายคนแรกของฉันเลยนะ ช่วยอ่อนโยนกับฉันหน่อยได้ปะ นี่ขนาดเมาแล้วนะฉันยังรู้เลยว่าถ้าคุณยัดมันเข้ามา ฉันคงเจ็บจนต้องร้องไห้แน่ๆ เลย" ------ น้ำหยดใส่หินทุกวันหินมันยังกร่อน นับประสาอะไรกับผู้ชายอย่างออสติน 55555@หนึ่งเดือนต่อมา “ยัยดี!” ทับทิมโบกไม้โบกมือทักทายเพื่อนสาวที่โดดเด่นตั้งแต่ตอนก้าวขาเข้ามาในร้านนั่งชิลที่ทับทิมเป็นคนนัดหมาย สายตาหลายต่อหลายคู่หันมามองที่ซีดีด้วยความสนใจ แม้สถานที่จะไม่ใช่ผับที่คนจะเยอะมาก แต่ด้วยความที่ร้านมีดีเรื่องอาหารอร่อย บรรยากาศได้ แม้จะเป็นแค่ร้านนั่งชิลคนก็เยอะไม่ต่างกัน “ไม่ได้เจอกันในรอบเดือน เพื่อนฉันสวยขึ้นมากจ้า” ทับทิมจีบปากจีบคอชมเพื่อน ถึงจะไม่ได้เจอกันแต่เธอกับซีดีพูดคุยกันตลอด รู้ข่าวคราวของเพื่อนรักตลอด รู้ว่าตอนนี้ซีดีมีรักที่ดี เป็นรักที่สวยงามที่ควรค่าแก่การรักษาเป็นที่สุดเลย “แกก็ว่าเกินไป ฉันก็เหมือนเดิมไหม” นิ้วเรียวเกี่ยวเส้นผมไปทัดที่ใบหูเล็กก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งบนที่นั่งตรงข้ามกัน “ดื่มอะไรดี วันนี้ผัวแกมีงานนี่?” “อือ เห็นว่าสองสามวันนี้งานจะยุ่งหน่อย ทำงานให้เจ้านายน่ะ” “แล้วมาเที่ยวกับฉันนี่คือบอกผัวปะ?” “บอกว่ามากินข้าวกัน แล้วฉันก็จะสั่งข้าวจริงๆ” ซีดีหันไปโบกมือเรียกพนักงานให้เข้ามารับออเดอร์ สั่งเมนูอาหารจานเดียวง่ายๆ ทำคนที่ชวนเพื่อนเพราะความเหงามองตามตาเป็นประกาย“มาร้านนั่งชิลคือแกจะมาทานข้าว?”“อือ แกเอาด้วยไหมล่ะ”“
“เวลาแบบนี้คือมันต้องมืดมากแล้วนะคะ แต่ทำไมในความมืดมันถึงมีความสว่างอยู่ล่ะ” ซีดีกวาดสายตามองออกไปรอบๆ ตัวเองที่ถูกปกคลุมด้วยเสียงธรรมชาติ มีลมพัดเบาๆ ในขณะที่แสงจันทร์บนฟ้าทำหน้าที่ให้ความสว่างแม้จะเป็นเวลากลางคืนก็ตาม “นานเหมือนกันที่ฉันไม่ได้อยู่กับบรรยากาศแบบนี้ อยู่ที่กรุงเทพนานเกินไป” “สรุปอยากกลับมาอยู่ที่นี่แบบจริงจังแล้วใช่ไหมคะ” “ก็อยากนะ อยากใช้เวลาชีวิตบ้าง อยากมีความรักมีความสุขแบบที่คนอื่นเขามี” “ไม่นึกเลยค่ะว่าจะเห็นคุณในมุมแบบนี้” แว๊บหนึ่งที่ซีดีลอบมองเสี้ยวใบหน้าคม แม้จะเห็นไม่ชัดมากแต่ตลอดเวลาที่คุยกันก็สัมผัสได้ถึงความสุขผ่านน้ำเสียงจริงๆ “ขอโทษนะ…” ตากลมสวยที่กวาดมองออกไปรอบๆ และจมูกเชิดรั้นที่สูดรับอากาศบริสุทธิ์หยุดชะงักก่อนจะตวัดสายตาไปหาอาชาทันที “ขอโทษเรื่องอะไรคะ” “ขอโทษที่ก่อนหน้านี้ฉันเคยคิดหักห้ามใจตัวเอง พยายามที่จะไม่รู้สึกอะไรกับเธอ ไหนจะใช้คำพูดแบบไม่แคร์เธออีก ทุกอย่างมันก็เป็นเพราะฉันหากฉันไม่คิดและทำแบบนั้นเรื่องระหว่างเรามันอาจจะเดินเร็วกว่านี้ก็ได้” “แต่สุดท้ายมันก็ทำให้เรายอมรับหัวใจตัวเองไม่ใช่เหรอคะ อย่างน้อยการที่คุณทำแบบนั้น มันก็ทำ
“ให้ฉันได้ดูแลเธอนะ ซีดี” คนถูกขอน้ำตาคลอเบ้า ข้าวปลายังไม่ตกถึงท้องด้วยซ้ำแต่กลับรู้สึกอิ่มเอมขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “เธอเข้าใจที่ฉันพูด รับรู้ในสิ่งที่ฉันต้องการอธิบายใช่ไหม” คนที่เม้มริมฝีปากกดใบหน้ารับ ไม่กลัวแล้วไม่ว่าจะอุปสรรคหรือใครหน้าไหนที่เคยคิดร้ายกับเธอ ความรู้สึกเหล่านั้นไม่มีเหลือ แค่มีเขาเธอก็รู้สึกปลอดภัย “พ่อกับแม่ไม่มีปัญหาและไม่ติดขัดอะไรอยู่แล้ว ลูกชายมีความรับผิดชอบชาวบ้านเขาก็จะว่าพ่อแม่สอนมาดี แต่อย่าลืมสิ ว่าบ้านเรามันยังมีประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานนะ” “ประเพณีเหรอครับ?” อาชาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ผู้เป็นแม่เองก็ชักสงสัยไม่ต่างกัน“ประเพณีอะไรเหรอพ่อ” “ก็ประเพณีที่ลูกสะใภ้ต้องบอกความรู้สึกและความในใจที่มีต่อลูกชายเราไง จำไม่ได้เหรอว่าตอนที่แม่เข้ามาเป็นสะใภ้บ้านพ่อ แม่ก็เคยผ่านประเพณีนี้มาเหมือนกัน” หางคิ้วของอาชากระตุกตอบรับ ประเพนงประเพณีอะไรไม่เคยได้ยินทั้งนั้น แต่สถานการณ์มันกำลังบ่งบอกว่าพ่อกำลังช่วยลูกชัดๆ พ่อคงเห็นว่าลูกชายรักเขามาก รักจนพร้อมยกทุกอย่างให้เขานั่นแหละ ถึงยอมออกแรงช่วยขึ้นมา “แม่ ยังไม่แก่เท่าไหร่เลยมาทำเป็นหลงเป็นลืมดูทำเข้
“ครับ เมีย!” เสียงตอบรับที่ชัดถ้อยชัดคำส่งผลให้คนเป็นพ่อแม่หันมองหน้ากันแทบจะทันที เรื่องนี้มันอาจจะเป็นไปได้ เกิดขึ้นได้ แต่มันแปลกตรงที่เด็กคนนี้พิเศษแบบไหนถึงทำให้ลูกชายของพวกเขาหลงรักได้ “อึ้งกันเลยเหรอครับ ลูกสะใภ้ของพ่อน่ารักไหมครับ” “เรื่องน่ารักมันก็น่ารัก แต่ไปรักกันตอนไหนก่อน”“ตอนไหนไม่สำคัญ แต่ตอนนี้รักกันแล้วโอเคไหมครับ” ไม่ว่าเปล่า อาชาตวัดแขนขึ้นโอบบ่าของคนตัวเล็กประกอบคำพูด ใบหน้าคมคายผุดรอยยิ้มจางๆ ถึงจะเป็นภาพที่ค่อนข้างแปลกตาแต่ว่าคนเป็นพ่อแม่ค่อนข้างถูกใจ “หน้าบ้านยุงเยอะ พ่อว่าเราเข้าบ้านกันดีไหม” “ไปๆ เข้าบ้านกันลูก” ผู้เป็นแม่ยิ้มหวานให้คนรักของบุตรชาย จากนั้นก็ปล่อยให้พวกผู้ชายลากกระเป๋าเข้าบ้าน คนเป็นแม่ทำหน้าที่จูงมือสะใภ้สาวเข้าบ้านพร้อมกัน “บ้านพ่อกับแม่เก่าหน่อยนะ เราอยู่กันแบบบ้านๆ ไม่ค่อยจะเหมือนคนกรุงเทพหรอก หนูอยู่ที่กรุงเทพใช่ไหมลูก” “ใช่ค่ะ” ซีดียิ้มรับก่อนจะกวาดสายตามองออกไปรอบๆ บ้าน ยอมรับว่าทุกมุมภายในบ้านแตกต่างจากคอนโดมิเนียมของอาชามาก แต่ทุกมุมบ้านกลับสะอาดสะอ้านเช่นกัน “นั่งก่อนลูก มุมนี้พ่อกับแม่ชอบใช้นั่งๆ นอนๆ ดูทีวีจ้ะ” คนเป็นแม่ดึง
“ไม่มีวันเลิกอยู่แล้ว” “ตอนนี้คุณก็พูดได้สิ คำตอบของเขามันไม่ใช่อุปสรรคนี่คะ” “เราไม่ควรมานั่งโกรธกันนะ ที่ฉันไปดูเพราะอยากรู้เผื่อมีสิ่งที่ต้องแก้ไข ทำขนาดนี้แล้วคงรู้ใช่ไหมว่าฉันรักมากแค่ไหน” มือหนาเลื่อนเข้ามาประคองแก้มนิ่ม ส่วนคนที่กำลังหงุดหงิดอยู่ได้แต่ปัดมือนั้นออกห่างทันที “หนูอยากกลับแล้วค่ะ” “แต่ฉันยังมีอีกที่ที่อยากพาเธอไป” “จะพาหนูไปดูดวงที่สำนักไหนอีกหนูไม่อยากไปแล้ว หนูเหนื่อยมาก อยากนอน อยาก…” “ฉันจะพาเธอไปที่บ้านของฉัน” คำตอบที่ดังแทรกขึ้นทั้งที่ซีดียังไม่ทันจบประโยคส่งผลให้เธอชะงัก ตากลมสวยกระพริบถี่ๆ ถึงมันจะตรงต่อใจแต่เธอก็ผิดหวังไปแล้วเช่นกัน“อะไรนะคะ” “ฉันจะพาเธอไปที่บ้านของฉัน ไปรู้จักกับพ่อแม่ของฉันให้เป็นเรื่องเป็นราว” เสียงยืนยันกระตุ้นให้ซีดีลอบกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอด้วยความยากลำบาก มือเรียวยกขึ้นมาลูบใบหน้าของตัวเองเบาๆ ถึงกับไปไม่เป็นเลย“พ่อแม่ของฉันมีลูกแค่คนเดียว เดี๋ยวพาเธอไปฝากเป็นลูกสาวอีกคนดีไหม” “ไม่ได้จะพาไปเพราะหนูกำลังโกรธคุณใช่ไหม”“ตั้งใจจะพาไปอยู่แล้ว ถือโอกาสไปเยี่ยมบ้านด้วยเลย” “แล้วบ้านคุณอยู่ที่ไหนคะ ต้องนั่งรถไกลไหม ต้องเตรียมตั
“นี่มันวิสัยของคนแก่มีเมียเด็กค่ะ” “แก่แล้วไง มีหัวใจเหมือนกัน” ซีดีคลี่ยิ้มตอบรับคนที่หาเรื่องเถียงแบบข้างๆ คูๆ “เอาเป็นว่าหนูตามใจคุณก็ได้ค่ะ ท้องตอนไหนก็ตอนนั้นโอเคนะคะ” อาชาเคาะปลายนิ้วกับหน้าขาของตัวเองอย่างคนที่กำลังใช้ความคิด แว๊บหนึ่งที่อยู่ดีๆ หนึ่งเหตุการณ์ที่มันเคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ประเดประดังเข้ามาในหัว เอาวะ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องเอาด้วยคาถา ไอ้อาชาสู้ตาย! “อิ่มมาก หนูบอกแล้วว่าขนมจีนร้านนี้อร่อยและได้เยอะมาก ไว้วันหลังเรามาทานกันอีกนะคะ” “สั่งห่อกลับบ้านขนาดนี้ฉันคิดว่าเธอจะอิ่มอีกหลายวันเลยนะ เพิ่งกินมาหมาดๆ ความอยากไม่หายเลย?” “แฮ่ๆ ของชอบนี่คะ” ซีดียิ้มกว้างอวดลักยิ้มเล็กๆ บนแก้ม ตาเป็นประกายเมื่อเห็นขนมจีนน้ำยาอีกชุดที่อยู่ในมือ “เธออยากไปที่ไหนต่อหรือเปล่า” “หนูไม่มีธุระที่ไหนต่อแล้วค่ะ คุณมีงานเหรอคะ” “ไม่เชิงกับว่ามีงาน เอาเป็นว่าถ้าไม่ได้ไปที่ไหนต่อฉันมีที่ที่หนึ่งที่อยากพาเธอไป” “ที่ไหนคะ” ตากลมสวยตวัดมองคนรักด้วยความอยากรู้อยากเห็นก่อนหน้านี้คุยกันเรื่องทายาทสืบสกุล อย่าบอกนะว่าเขาจะพาเธอไปเจอคนที่บ้าน พ่อเขาแม่เขา ญาติพ