Chapter 3
[3/2] ญารินรีบวิ่งเข้ามาหลบฝนด้านในคลับที่ตอนนี้ยังมีผู้คนหนาแน่นอยู่เหมือนเดิม ถึงแม้ว่าตอนนี้ใกล้จะเที่ยงคืนเข้าไปแล้วก็ตาม โชคดีที่ตอนวิ่งออกมาเธอยังไม่ได้เช็คเอ้าท์ออกจากห้องพักเสียก่อน จึงถือว่าเป็นโชคดีสำหรับคืนนี้ อย่างน้อยเธอเองก็จะได้มีที่หลับนอน “เฮ้ออ” ร่างเพรียวบางยืนมองตัวเองอยู่ด้านหน้ากระจกภายในห้องพักของโรงแรม หลังจากที่เข้ามาในห้องหญิงสาวก็รีบอาบน้ำเช็ดตัวจนเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว จึงเดินมาสำรวจตัวเองที่หน้ากระจกบานใส ตอนนี้เธอเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า ตัวเองไม่ได้มีชุดมาเปลี่ยนแล้วในห้องนี้ก็มีแค่ผ้าขนหนูกับชุดคลุมสำหรับใช้อาบน้ำเพียงเท่านั้น “เอาวะ ใส่ๆ ไปก่อน” อย่างไรเสียเธอก็อยู่ในห้องนี้เพียงแค่คนเดียวจะใส่ชุดแบบไหนก็คงจะไม่มีใครเห็น คร่อกกก~ เสียงท้องร้องในขณะที่ร่างเพรียวบางกำลังนั่งเช็ดผมให้แห้งก่อนจะเตรียมนอน ก่อนที่เธอจะใช้โทรศัพท์ของห้องพักโทรไปยังพนักงานของโรงแรมเพื่อจะได้สั่งอาหาร ทว่ากลับโชคร้ายเมื่อไม่มีสัญญาณตอบรับจากปลายสายเลย ญารินตัดสินใจเดินเปิดประตูออกไปด้วยชุดคลุมอาบน้ำเพียงชิ้นเดียวที่ปกปิดร่างกายตนเองอยู่ จุดมุ่งหมายของเธอคือเคาท์เตอร์ของโรงแรม ขืนอยู่แบบนี้เฉยๆ มีหวังคงจะได้อดอาหารทั้งคืน หนำซ้ำโรคกระเพาะที่เป็นอยู่จะต้องกำเริบขึ้นในไม่ช้าไม่นานนี้แน่นอน “โทษนะคะ ดิฉันจะขอสั่งอาหารหน่อยน่ะค่ะ พอดีโทรมาแล้วแต่ไม่มีพนักงานรับสายเลย ไม่ทราบว่าดิฉันสามารถสั่งได้เลยไหมคะ?” ทันทีที่เดินมาถึงหน้าเคาท์เตอร์ร่างเพรียวบางเห็นมีพนักงานชายคนหนึ่งกำลังก้มหน้าหันหลังนั่งพิมพ์อะไรบางอย่างอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ก่อนที่เจ้าตัวจะหมุนเก้าอี้หันหน้ามาผู้มาใหม่ “คะ คุณ!!” ตาคู่สวยสะดุดมองไปยังคนตรงหน้าที่อยู่ในเคาท์เตอร์ ก่อนจะถอนหายใจเสียงดังออกมา อย่างรู้สึกเบื่อหน่ายที่รู้ว่าคนตรงหน้านี้เป็นใคร “ยังไม่กลับอีกหรอ?” ณัฐกานต์เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาว ในใจแอบตกใจเล็กน้อยที่เจออีกรอบ แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการออกแต่อย่างใด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังเห็นเธอรีบวิ่งออกจากที่อยู่เลย จนลืมแฟ้มเอกสารที่เธอเองเป็นคนถือมาให้เขาเซ็น และตอนนี้มันก็อยู่บนห้องของเขา “เรื่องของฉันค่ะ” “ทำไม? ทีเธอเองยังวุ่นวายเรื่องของฉันได้เลย ตอบแค่นี้มันจะตายหรือไง” “ถ้าฉันไม่ถูกสั่งมาให้ดูแลคุณ ฉันก็คงไม่อยากจะวุ่นวายหรอกค่ะ แล้วนี่สรุปที่โรงแรมของคุณนี่มีบริการอาหารด้วยไหมคะ? หรือว่าแย่จนเรื่องแค่นี้ยังบริการแขกไม่ได้” ญารินอดไม่ได้เลยจริงๆ ที่จะพูดต่อปากต่อคำกับเจ้านายหนุ่ม ทั้งที่ก่อนหน้านี้สัญญากับตัวเองไว้แล้วแท้ๆ ว่าจะไม่ทำแบบนี้ “ถึงโรงแรมฉันจะเป็นโรงแรมขนาดเล็กแต่ก็ไม่ได้บริการห่วยขนาดนั้น อ่อ! แล้วแขกที่ว่าเนี้ยอยู่ในห้องกับเธออีกคนหรือเปล่า?” ณัฐกานต์ใช้สายตาไล่มองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ร่างเพรียวบางในตอนนี้อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวของโรงแรม ชายหนุ่มเดาว่าภายใต้ชุดนี้ก็คงจะไม่มีอาภรณ์ชิ้นอื่นปกปิดเรือนร่างของเธออีก เพราะนอกจากชุดคลุมจะเป็นสีขาวแล้ว เนื้อผ้าก็ยังเบาบางจนคนมองเห็นจุกดอกบัวตูมของหญิงสาวได้อย่างชัดเจน “นี่คุณ!! ฉันไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นซักหน่อย” “แต่ดูจากสภาพเธอตอนนี้แล้ว ฉันว่ามันใช่อยู่นะ ขายหรือซื้อล่ะ... เอ๊ะ! หรือว่าฟรี หื้ม?” เขาคิดไปไกลว่าเธออาจจะไม่ได้เข้าพักที่นี่คนเดียว หรือดีไม่ดีเธออาจจะมีใครอีกคนที่อยู่ในห้องนั้นก็ได้ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่เดินออกมาสภาพพร้อมเข้าสู่สนามรบแบบนี้ “ฉันไม่กินแล้วก็ได้ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” ร่างเพรียวบางเริ่มไม่สบอารมณ์กับคำพูดดูถูกของเขา จนต้องสะบัดหน้าหันหลังเดินกลับเข้ามาที่ห้องพักของตนเอง ปล่อยให้อีกคนที่อยู่ตรงนั้นเข้าใจไปแบบนั้นเลย เพราะอย่างไรเสียเธอก็ไม่ได้มีหน้าที่ต้องมาอธิบายอะไรต่างๆ นานา เพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจ ระหว่างทางเดินกลับเข้าห้องญารินก็นึกถึงคำพูดเมื่อสักครู่ของเจ้านายหนุ่มอย่างหงุดหงิด ถึงเธอจะเป็นผู้หญิงปากร้ายชอบทำตัวแรงๆ สักแค่ไหนก็ตาม แต่เอาเข้าจริงแล้วเรื่องอย่างว่าแบบนี้เธอเองก็ไม่เคยทำ ในแวดวงการทำงานของการเป็นนางแบบ ซึ่งก็มีบางโอกาสที่เธอได้ไปร่วมงานแบรนด์ดังหลายๆ แบรนด์ในต่างประเทศ เจอสังคมเพื่อนหลากหลายในวงการก็มากมายอยู่ เจอเพื่อนดีก็ถือว่าได้โชค แต่ถ้าเจอเพื่อนไม่ดีนี่สิน่าเป็นห่วง บ้างก็ชักชวนไปทำเรื่องเสียหายบ้างก็ชักชวนไปทำเรื่องที่ไม่ดี จะเป็นการซื้อหรือขายเหมือนอย่างที่เขาพูดเธอก็ไม่เคยทำทั้งนั้น และถึงแม้จะเคยผ่านการมีแฟนมาแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยได้ลิ้มรสชาติสวาทรักเหมือนกับคู่รักคู่อื่นๆ เลยแม้แต่น้อย ตี๊ดด ~~ หมั่บ!!! ก่อนที่เรียวขายาวจะเดินเข้าไปในห้องหลังจากที่แตะคีย์การ์ดได้แล้ว ก็มีอีกคนเดินเข้ามาคว้าแขนเรียวเอาไว้ก่อน “นี่คุณ! จะตามมาทำไมอีก” ญารินหัวหน้ากลับไปมองคนที่ยืนจับแขนเธออยู่ด้านหลัง ไม่รู้ว่าเขาจะตามมาทำไม “ก็มาดูให้แน่ใจไงว่าเลขาฯ ส่วนตัวของฉัน กลับมาเพื่อหลบฝนจริงๆ หรือเปล่า?” ร่างสูงแอบมองเข้าไปด้านในห้องพักที่ขณะนี้ถูกเปิดออกแล้ว สายตาคู่คมสำรวจด้านในเหมือนกำลังจะหาอะไรบางอย่างอยู่ “แค่เนี้ย? นี่คุณณัฐ ฉันว่าเราควรแยกย้ายกันไปพักผ่อนได้แล้วนะคะ พรุ่งนี้ก็ต้องทำงาน” “เธอลืมแฟ้มไว้บนห้องฉัน” ก่อนหน้านี้เหตุการณ์บนห้องของเขา ทำให้เธอลืมเอกสารที่นำมา และคนที่เป็นเจ้านายก็ไม่รู้ว่าตอนนี้จะพูดอะไรออกไปดี จึงหาเรื่องมาอ้างไปก่อน “ก็เดี๋ยวยังไงคุณก็ต้องเข้าบริษัทอยู่แล้วนี่คะ” “ฉันบอกหรอว่าจะไป?” “คุณอย่ามาเป็นแบบนี้ได้ไหมคะ ฉันขอร้องล่ะช่วยไปทำงานให้ครบ 5 วันซักทีเถอะ ตำแหน่งและเงินเดือนของคุณก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ คุณควรจะทำงานให้คุ้มกับเงินที่ได้บ้าง ขอร้องล่ะค่ะ” ประโยคทำนองนี้เธอแทบจะพูดกรอกหูเขาทุกวัน แต่เหมือนพูดไปก็เท่านั้น ในเมื่อใจอีกคนไม่ได้มีความฝักใฝ่อยากจะทำงานเลยแม้แต่น้อย “หึ! แล้วไอ้เงินเดือนที่ได้เนี้ย คิดว่าฉันอยากได้มันมาหรอ วันนี้เธอเองก็เห็นหนิว่าฉันมีกิจการที่เป็นของฉันเองและมันก็ไปได้ดี ไม่เห็นต้องง้อท่านประธานอาวุโสของเธอเลยซักนิด” “แต่ยังไงซะ สิ่งที่ท่านทำก็เพราะท่านหวังดีกับคุณมากนะคะ” ต่อให้พี่ชายเขาและท่านประธานอาวุโสเอาช้างมาฉุด เธอคิดว่าก็คงจะยากถ้าจะบังคับคนคนนี้ อยากจะรู้เสียจริงว่าเขามีปมในใจอะไรกับพ่อของเขาหรือไม่ ถึงไม่ค่อยอยากจะมองหน้าและสบตาคุยกัน “เธอเองก็หน้าเงิน! แค่เค้าจ้างให้มาเคี่ยวเข็ญฉันเธอก็ยอมทำ มีความสุขบนความทุกข์ของชาวบ้าน” “โลกมันหมุนด้วยเงินคุณไม่รู้หรอ” เอาเถอะถ้าเขาจะคิดได้แบบนั้น ส่วนหนึ่งมันก็จริงที่เธอต้องการเงิน ความจนมันน่ากลัวใครๆ ก็อยากหลุดพ้น แล้วคนที่มีภาระทางบ้านให้ดูแลแบบเธอ มันไม่มีทางเลือกให้ปฏิเสธได้เลย ก่อนจะตกลงเธอเองก็คิดว่าสิ่งที่พี่ชายและพ่อของเขาสั่งเธอมา ก็ไม่เห็นว่ามันจะไม่ดีตรงไหนเลย ตรงกันข้ามเธอเองก็สัมผัสได้ถึงความเป็นห่วงเป็นใยของทั้งสองที่อยากจะมอบให้ณัฐกานต์ทั้งนั้น มีแต่เขานั่นล่ะที่เอาแต่ปฏิเสธ “หึ! ยอมรับแล้วสินะ อยากได้มากป้ะเงินน่ะ? ฉันมีงานให้เธอทำเอาไหมล่ะ” ร่างสูงร้อยเก้าสิบต้นๆ ขยับเท้าเข้ามาใกล้ พร้อมกับโน้มใบหน้าคมหล่อตามแบบฉบับหนุ่มลูกครึ่งไทยอิตาลี่ลงเค้าเคลียข้างแก้มใสของหญิงสาว “งะ ...งานอะไรของคุณ?” “ขายอยู่ใช่ไหม? อ่ะงั้นฉันซื้อ เธอจะได้มีเงินมากพอแล้วออกไปจากชีวิตฉันซะที” มือหนาเอื้อมไปดันประตูห้องให้เปิดออกกว้างแล้วดันไหล่เล็กให้เข้าไปด้านในพร้อมๆ กัน จากนั้นจึงรีบปิดประตูลงกลอนทันที “ขะ ขาย! ขายอะไรของคุณ ไม่! ฉันไม่ได้ขายนะ!” ญารินได้แต่ยืนนิ่งทำตัวไม่ถูกเมื่อโดนอีกฝ่ายจู่โจม “เหอะ! กำลังเล่นบทอัพฯ ค่าตัวอยู่งั้นหรอ?” “ถอยไปเลยนะ!” มือหนาเริ่มลูบไล้วนเวียนอยู่ด้านล่างบริเวณขาอ่อนของร่างเพรียวบาง ผิวกายที่เนียนนุ่มมือทำให้อีกฝ่ายยิ่งได้ใจใหญ่จนลากนิ้วแกร่งเข้าไปด้านในชุดคลุม พลางสายตาก็จ้องมองจุกดอกบัวตูมที่ชี้หน้าเขาอยู่ 'อ่าส์ ...โนบลาไปอีก' “คุณ อย่า!! อื้มม” นิ้วหนาเลื่อนเข้ามาด้านในชุดคลุมอาบน้ำของเธอ ที่ตอนนี้ไม่มีสิ่งกีดขวางอันใดกลั้นอยู่ เขาใช้นิ้วลูบวนผ่านเนื้ออวบอูมไปมาจนเธอเผลอร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ “ก็ได้! พรุ่งนี้ฉันจะนำเสนองานแทนคุณเอง คุณไม่ต้องเข้าบริษัทโอเคไหม!?” ร่างเพรียวบางเมื่อโดนจู่โจมด้านในก็ทนไม่ไหวกับความเสียวซ่านที่ไล่เข้ามาทั่วท้อง จนต้องยอมความพ่ายแพ้ให้กับเจ้านายหนุ่มอย่างจำใจ หากเขาจะเล่นแบบนี้เพื่อหวังต่อรองกับเรื่องพรุ่งนี้แล้วล่ะก็ บอกเลยว่ามันสำเร็จแล้ว “หึๆ” “ป ปล่อย! ออกไปจากตัวฉันได้แล้วค่ะ” ญารินเริ่มตั้งสติขึ้นได้ก็รีบใช้มือผลักอกแกร่งออกไปจากตัวเอง “ก็แค่เนี๊ยะ เหอะ!” ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะพอใจจนเผลอยิ้มมุมปากออกมาเยาะเย้ยหญิงสาวผู้ที่พ่ายแพ้ให้กับเขา “ออกไปจากห้องเถอะค่ะ ไม่งั้นฉันจะโทรแจ้งตำรวจข้อหาโดนลวนลาม” “ฉันออกไปแน่ อีกอย่างต่อให้เธอโทรแจ้งตำรวจจริงๆ คิดว่าคนอย่างฉันกลัวงั้นหรอ?” “งั้นก็ออกไปสิคะ” “หึ แต่จะว่าไป ตรงนั้นของเธอน่ะ ...มันส์มือดีนะ” ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ร่างสูงได้หันหน้ามาจ้องมองหน้าเลขาฯ สาว และพูดทิ้งท้ายเอาไว้ให้เธอเจ็บใจเล่นๆ ปังง!! กรี๊ดดดด!!! ร่างเพรียวบางได้แต่กรีดร้องเงียบๆ ไม่ออกเสียง แต่ทั้งใบหน้าของเธอในตอนนี้ร้อนผ่าวเต็มไปด้วยความอับอายอย่างถึงขีดสุด เมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านเธอเพิ่งจะโดนเจ้านายหนุ่มสัมผัสจู่โจมเข้ากับส่วนสงวนของเธอ หนำซ้ำยังพูดทิ้งท้ายให้เธออับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ตรงไหนได้อีก คอยดูเถอะสักวันเธอจะต้องเอาคืนเขาให้สาสมChapter 32[32/2]@มิลาน, ประเทศอิตาลี่วันนี้ญารินมีนัดคุยงานถ่ายแบบงานชิ้นสำคัญในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากการเดินแบบแล้วเธอก็ไม่เคยได้มีโอกาสได้ขึ้นปกหนังสือนิตยสารเลยสักครั้ง ต้องขอบคุณโรสมากๆ ที่ทำให้ความฝันของญารินได้กลายเป็นจริงสักทีก่อนหน้านี้โรสได้รับการติดต่อให้จัดหานางแบบในสังกัดให้มาถ่ายนิตยสารจากแบรนด์เสื้อแบรนด์หนึ่งที่เป็นฝีมือของคนไทยเองโดยที่เจ้าของแบรนด์ให้โจทย์กับโรสมาว่าจะต้องเป็นหญิงหน้าไทย แต่ยังมีโครงหน้าที่ดูทันสมัยด้วย เนื่องจากแบรนด์นี้ใช้ผ้าไทยหลายชนิดมาตัดทำเป็นชุด แต่ยังเพิ่มดีไซน์ผสมผสานให้ทันสมัยตามแบบของผู้หญิงยุคใหม่ซึ่งจากโจทย์ที่ให้มาโรสไม่สามารถนึกถึงใครอื่นได้เลย นอกจากญารินนางแบบหน้าไทยสวยเก๋เซ็กซี่คนนี้ เธอคือตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ เหมาะสมกับแบรนด์ VANIDEE ที่สุดแล้วภายในร้านอาหารสัญชาติอิตาเลี่ยนที่ตั้งอยู่ในคอมเพล็กซ์ Museo del Novecento ทำให้เราสามารถมองออกไปด้านนอกแล้วเห็นทิวทัศน์อันงดงามได้อย่างประทับใจของ Piazza del Duomo หรือที่เรียกกันว่าจัตุรัสหลวง“วิวสวยจังเลยนะคะพี่โรส” ญารินนั่งมองวิวด้านนอกจากในร้านอาหารแห่งนี้ด้วยความร
Chapter 32[32/1]“คุณหนูคะ คุณยุวดีกลับมาแล้วค่ะ ท่านเรียกให้ไปพบค่ะ” ขณะที่พี่น้องสองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ ก็มีหญิงแม่บ้านชาวอิตาเลี่ยนวัยกลางคนเดินมาเรียกณัฐกานต์ก่อน“แม่? ครับๆ เดี๋ยวผมไป”“ท่านรออยู่ที่ห้องรับแขกนะคะ”“ขอบคุณครับ” ณัฐกานต์หันไปบอกแม่บ้าน เธอรับคำพร้อมกับเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่นั้นอีกครั้งเขายังอยากนั่งคุยกับผู้เป็นพี่ชายต่ออีกสักพัก ถ้านอกจากออสโม่กับแม่นมที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็กแล้ว ทั้งตระกูลนี้ก็คงมีพี่ชายคนนี้นี่แหละที่เขาพอจะพูดคุยด้วยกันได้ทุกเรื่องจริงๆ“ไปหาแม่เถอะ ฉันขอนั่งอยู่แบบนี้สักพักก่อน” ภัทรกาฬบอกน้องชายแบบนี้เพราะกลัวว่ายุวดีจะรอนานเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัวภัทรกาฬเองก็รับรู้ เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกชัดเจนแบบณัฐกานต์ว่าไม่พอใจกับสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำไว้แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ของพวกเขาก็ยังรักลูกเสมอ เพียงแต่พวกท่านไม่ได้แสดงออกมาในรูปแบบเหมือนที่ครอบครัวอื่นเขาปฏิบัติกัน หวังว่าสักวันน้องชายของเขาจะมองพวกท่านทั้งสองในอีกมุมที่เขาได้มองบ้าง“อย่าคิดมากนะเฮีย” ณัฐกานต์รับคำจากพี่ชาย พลางลุกขึ้นยืนเตรียมจะเดินออกไป แต่ก่อนจะไปเขา
Chapter 31[31/2]สวนดอกไม้ดอกกุหลาบและดอกคาเดนเยียร์จากหลังคฤหาสน์ ทำให้ทรรศนียภาพของที่นี่น่ามองขึ้นไปอีก โดยรวมแล้วทั้งดอกไม้ทั้งสวนองุ่นที่ถัดออกไปบวกกับวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่มีภูเขาเป็นฉากกั้นอยู่ ถ้าใครได้มาตรงที่แห่งนี้ก็คงจะยอมกลับละสายตาไปไหนนอกจากทรรศนีภาพที่สวยงามแล้ว ยังมีเจ้าของสวนคนใหม่นั่งอยู่ที่สวนนี้ด้วย ตอนนี้ณัฐกานต์มองจากด้านหลังของคนที่นั่งตรงโต๊ะหินอ่อนจากทางประตู ก่อนจะก้าวขาเดินไปหาคนคนนั้น“ไง... นั่งชมนกชมไม้ ดูสบายจังนะเฮีย” ร่างสูงเดินเอามือไปวางบนไว้ไหล่พี่ชายของตัวเองที่กำลังนั่งอยู่“ได้ยินปู่บอกว่าแกมาทำธุระหรอ?”“ใช่” ว่าแล้วก็นั่งลงบนโต๊ะนั่งข้างๆ กับพี่ชาย“ธุระอะไรของแก? งานสาขานี้พ่อก็บินไปกลับเป็นว่าเล่นแล้ว”“ธุระส่วนตัวน่ะ ถ้าแค่งานของเขา... ผมคงไม่ลงทุนมาขนาดนี้หรอก ไม่ใช่เฮียนี่”แน่นอนว่าถ้าเกิดเป็นงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง ณัฐกานต์ไม่มีวันมาทำขนาดนี้ให้หรอก ลำพังแค่ทำงานที่บริษัทให้ทุกวันนี้ก็มากเกินพอแล้วกำไรจะมากหรือน้อยเงินเดือนของเขาก็ยังเท่าเดิมอยู่ดี แม้จะมีปันผลทุกๆ ไตรมาสให้อยู่แล้วก็เถอะ อย่างไรเขาก็คงไม่ได้มากเท่าพี่ชายอยู่แล้ว“ธุระ
Chapter 31[31/1]@โรม, ประเทศอิตาลี่ณัฐกานต์เดินทางมาถึงที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของเศรษฐีไร่องุ่นคนเก่าแก่ในย่านกรุงโรม ด้านหลังของคฤหาสน์หลังใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยไร่องุ่นและโรงหมักไวน์ขนาดใหญ่ และทั้งหมดนี้กินเนื้อที่ไปหลายร้อยไร่โดยประมาณ ซึ่งทรัพย์สินทุกอย่างในที่แห่งนี้เป็นของออสโม่ปู่ของเขาเองชายหนุ่มนั่งรถจากสนามบินมาถึงที่นี่ใช้เวลาไม่นานมาก ตอนแรกคิดว่าจะบินตรงไปมิลานเลย ทว่าพอลองมาคิดใหม่เขาอยากจะแวะมาที่นี่ก่อน เพื่อมาเยี่ยมปู่และพี่ชายของตัวเอง เพราะไม่ได้เจอทั้งสองคนนานมากแล้วพอทำธุระที่นี่แล้วเสร็จก็จะรีบไปมิลานเลยทันที เพราะนอกจะไปหาญารินแล้วเขาก็คิดว่าจะไปดูความเป็นอยู่ของยุวดีสักหน่อย ได้ข่าวว่าช่วงนี้ธุรกิจของผู้เป็นแม่กำลังเติบโตไปได้สวยเลยรถ SUV สุดหรูอย่าง Rolls-Royce Black Badge รุ่นปี 2022 ราคาในไทยโดยประมาณอยู่ที่ 41 ล้าน แต่ราคาที่อิตาลี่ไม่รู้ว่าขึ้นไปเท่าไหร่บ้างแล้วตอนนี้คนขับรถของคฤหาสน์ออกมารับณัฐกานต์ที่สนามบิน ตอนนี้กำลังขับเคลื่อนและชะลอความเร็วลงเพื่อเลี้ยงเข้าสู่คฤหาสน์กาเซียโน่ของเศรษฐีคนดังในย่านนี้ ก่อนจะลงจากรถแล้วเข้าไปหาเจ้าของบ้านที่ตอนนี้รอต้อนร
Chapter 31[31/2]สวนดอกไม้ดอกกุหลาบและดอกคาเดนเยียร์จากหลังคฤหาสน์ ทำให้ทรรศนียภาพของที่นี่น่ามองขึ้นไปอีก โดยรวมแล้วทั้งดอกไม้ทั้งสวนองุ่นที่ถัดออกไปบวกกับวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่มีภูเขาเป็นฉากกั้นอยู่ ถ้าใครได้มาตรงที่แห่งนี้ก็คงจะยอมกลับละสายตาไปไหนนอกจากทรรศนีภาพที่สวยงามแล้ว ยังมีเจ้าของสวนคนใหม่นั่งอยู่ที่สวนนี้ด้วย ตอนนี้ณัฐกานต์มองจากด้านหลังของคนที่นั่งตรงโต๊ะหินอ่อนจากทางประตู ก่อนจะก้าวขาเดินไปหาคนคนนั้น“ไง... นั่งชมนกชมไม้ ดูสบายจังนะเฮีย” ร่างสูงเดินเอามือไปวางบนไว้ไหล่พี่ชายของตัวเองที่กำลังนั่งอยู่“ได้ยินปู่บอกว่าแกมาทำธุระหรอ?”“ใช่” ว่าแล้วก็นั่งลงบนโต๊ะนั่งข้างๆ กับพี่ชาย“ธุระอะไรของแก? งานสาขานี้พ่อก็บินไปกลับเป็นว่าเล่นแล้ว”“ธุระส่วนตัวน่ะ ถ้าแค่งานของเขา... ผมคงไม่ลงทุนมาขนาดนี้หรอก ไม่ใช่เฮียนี่”แน่นอนว่าถ้าเกิดเป็นงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง ณัฐกานต์ไม่มีวันมาทำขนาดนี้ให้หรอก ลำพังแค่ทำงานที่บริษัทให้ทุกวันนี้ก็มากเกินพอแล้วกำไรจะมากหรือน้อยเงินเดือนของเขาก็ยังเท่าเดิมอยู่ดี แม้จะมีปันผลทุกๆ ไตรมาสให้อยู่แล้วก็เถอะ อย่างไรเขาก็คงไม่ได้มากเท่าพี่ชายอยู่แล้ว“ธุระ
Chapter 30[30/1]ก่อนที่จะเดินทางข้ามทวีปไปในวันพรุ่งนี้ คนที่บอกว่าจะเคลียร์งานของตัวเองให้เสร็จทันก่อนจะขึ้นเครื่อง ทว่าตอนนี้ยังมะงุมมะงาหราอยู่กับกองเอกสารที่ต้องเซ็นจนป่านนี้เป็นเวลา 1 ทุ่มกว่าแล้ว ท่านรองประธานบริษัทหนุ่มหล่อไฟแรงก็ยังไม่ได้ลุกออกไปไหนเลยLine~Dar.runnn : กลับเพ้นท์เฮ้าส์ยังคะ? น้องดาอยากไปหาDar.runnn : วันนี้คุณย่าบ่นๆ คิดถึงพี่ณัฐด้วยนะ ถ้าว่างๆ ก็อยากให้พี่แวะมาคุณย่าบ้างDar.runnn : พรุ่งนี้เลยดีไหมคะ วันหยุดด้วยน่าจะเหมาะเลย น้องดาจะได้ทำกับข้าวไว้เผื่อเสียงโทรศัพท์ข้างๆ ตัวณัฐกานต์ดังขึ้น สายตาคมเหลือบไปมองการแจ้งเตือนบนหน้าจอ ถึงได้รู้ว่าเป็นใครที่ส่งมาวันนี้ทั้งวันดารันยังไม่ได้มาหาเขาเลย ซึ่งถ้าปกติแล้วเธอจะมาที่นี่แทบทุกวัน โดยมาพร้อมกับของกินตลอดและในแต่ละครั้งที่มาหาณัฐกานต์ก็ไม่เคยห้ามเลยสักครั้ง ตั้งแต่ตอนที่ญารินยังอยู่รวมถึงตอนที่เธอไม่อยู่ที่นี่แล้วร่างสูงไม่ได้หยิบสมาร์ตโฟนสีเซียร่าบลูของตัวเองขึ้นมาตอบแต่อย่างใด ก่อนจะหันหน้ากลับไปสนใจงานของตัวเองต่อ เพราะเขาต้องรีบทำเวลาให้ทันก่อนขึ้นเครื่องในวันพรุ่งนี้@มิลาน, ประเทศอิตาลี่ญารินได้