Chapter 4
[4/1] @The Willington N group 10.00 น. ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ของวันนี้ บรรยากาศรอบๆ ช่างน่าอึดอัดใจสำหรับญารินอยู่ไม่ใช่น้อย การประชุมงานในครั้งถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันไม่ใช่การประชุมงานทั่วไปที่จะมีแค่ผู้บริหารระดับสูง แต่วันนี้มีผู้ถือหุ้นมากมายจากภายนอกองค์กร ที่เสียสละเวลามาฟังบริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ เพื่อที่จะเสนอร่างงบประมาณและจัดแผนการระดมทุนเพิ่มจากเหล่าผู้ถือหุ้นทั้งรายใหญ่และรายย่อย ร่างเพรียวบางยืนเตรียมสคริปต์มากมายที่จะใช้ในการนำเสนอสำหรับวันนี้ด้วยความตื่นเต้นและปนไปด้วยความกดดัน เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่กำลังจะทำอยู่ต่อจากนี้จะออกมาดีหรือไม่ ที่จริงแล้วเธอไม่ควรได้รับเกียรตินี้ด้วยซ้ำ ทว่าคนที่จะต้องนำเสนอมันจริงๆ กลับผลักภาระมาให้ลูกน้องอย่างเธอแทน ส่วนตนเองน่ะเหรอก็คงจะไปมีความสุขอยู่แถวๆ สนามแข่งรถแล้ว “คุณญารินพร้อมไหมคะ?” เลขาฯ ของท่านประธานบริษัทเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นอากัปกิริยาที่ไม่ค่อยสู้ดีนักของร่างเพรียวบางผู้เป็นเลขาฯ หน้าใหม่ “พอไหวอยู่ค่ะพี่วจี ขอบคุณนะคะ” “ถ้าพร้อมแล้วงั้นเราก็ออกไปเถอะ ทุกคนพร้อมแล้ว” “ค่ะ!!” ใบหน้าที่เคยแลดูมั่นใจมาตลอด ทว่าวันนี้กลับตอบเลขาฯ รุ่นพี่อย่างหวาดหวั่น ก่อนที่ร่างเพรียวบางจะพาตนเองออกไปยืนตรงหน้าห้องประชุม หญิงสาวค่อยๆ อธิบายเนื้องานตามที่ตนเองนั้นได้ทำความเข้าใจมาดีแล้วให้ทุกคนในที่ประชุมได้รับฟัง พอมองไปรอบเมื่อเห็นทุกคนในนี้ตั้งใจฟังอย่างไม่ขัด ความกดดันของเธอก็เริ่มค่อยๆ จางลงไปในที่สุด ถึงแม้จะมีสายตาคู่ดุที่กำลังเพ่งมองมาที่เธอ แต่เธอก็เตรียมใจมาในระดับหนึ่งแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้อย่างแน่นอน ภัทรกาฬที่นั่งอยู่หัวมุมสุดของโต๊ะใหญ่ สบตามาทางญารินเหมือนกำลังจะสื่อว่ามันไม่ใช่หน้าที่เธอที่จะต้องมานำเสนองานเลย คนที่จะต้องรับผิดชอบจริงๆ แล้วคือน้องชายของเขาต่างหาก “ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณหน่อย เชิญในห้องผมด้วยครับ” หลังจบการประชุมสำคัญนัดแรกไป ขณะที่กำลังเดินกลับเข้าไปทำงานที่โต๊ะของตนเอง ภัทรกาฬหรือท่านประธานบริษัทก็ดันเรียกหญิงสาวเข้าไปหาถึงด้านในห้อง “เชิญนั่งก่อน” “ค ...ค่ะ” ร่างเพรียวบางลากเก้าอี้มาแล้วนั่งลงไปตามคำสั่งของภัทรกาฬ “ผมว่าผมยังบอกอะไรคุณไม่หมดหรือเปล่าครับ?” “อะไรหรอคะ? ท่านประธาน” ที่จริงไม่ใช่ไม่รู้ว่าที่เขาเรียกมาจะตำหนิอะไรเธอ ทว่าก็แกล้งๆ ไม่รู้ไปก่อนดีที่สุด เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรให้คนตรงหน้าเข้าใจ “มันไปไหน? ทำไมคุณต้องมาพรีเซ้นต์งานแทนมัน ผมบอกคุณกี่ครั้งแล้วว่า จ้างคุณให้มาทำงานของตัวเองไม่ใช่จ้างมาให้ทำงานของเจ้านาย ยิ่งคุณทำแบบนี้เจ้านายของคุณก็ยิ่งได้ใจ หรือคุณว่ามันไม่ใช่ ฮึ?” “คือ ดิฉันเข้าใจดีนะคะท่านประธานว่าตอนนี้ฉันดิฉันไม่สามารถทำได้อย่างที่ตกลงรับปากไว้กับคุณและท่านประธานอาวุโส แต่ฉันก็พยายามแล้วนะคะ” เพียงแค่ครึ่งเขากลับทำให้เธอเหนื่อยขนาดนี้เลย การตามคุมใครสักคนที่โตแล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย โดยเฉพาะกับคนหน้ามึนอย่างน้องชายของเขา ตอนเห็นค่าจ้างเธอก็รู้สึกมีแรงอยากทำงานอยู่หรอก ทว่าเมื่อคืนนี้มันพิสูจน์แล้วว่ายิ่งเธอเข้าไปในชีวิตของอีกฝ่ายมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีแต่เสียเปรียบทุกประตู “ผมว่า 3 ล้านที่ให้คุณไปมันก็มากอยู่นะสำหรับคนอย่างคุณ แค่นี้ก็น่าจะทำงานให้มันคุ้มหน่อยว่าไหม?” ภัทรกาฬข่มเสียงเข้มพร้อมกับทำสีหน้าตึงใส่หญิงสาวตรงหน้า เพื่อเป็นการบอกว่าเขาจริงจังกับเรื่องนี้มากขนาดไหน ช่วงนี้บริษัทกำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด จะมาให้เขาบริหารจัดการทุกอย่างเพียงคนเดียวคงเป็นไปได้ยาก แล้วยิ่งเขาเองก็ต้องไปๆ มาๆ กรุงเทพฯ กับต่างจังหวัดอยู่บ่อยครั้งเพื่อง้อผู้หญิงคนหนึ่งที่ในชีวิตเขาคงขาดเธอไปไม่ได้ ภัทรกาฬหวังว่าสักวันน้องชายของเขาจะพอช่วยผ่อนแรงกิจการครอบครัวได้บ้างไม่น้อยก็มาก หากวันใดที่เขาไม่อยู่แล้วจะพึ่งพาอาศัยใครได้ “ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอยกเลิกสัญญาค่ะ ดิฉันคงทำอย่างที่รับปากกับท่านประธานไว้ไม่ได้แล้ว ขอโทษทีนะคะ” ด้วยความกดดันตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานจนถึงตอนนี้หญิงสาวยังไม่มีความสุขในการทำงานเลยสักครั้งเดียว หากเลือกได้ตอนนี้เธอคิดว่าอยากจะเลิกทำแบบนี้แล้ว “คิดว่าทำแบบนี้แล้วมันจะดีหรอ? อย่าลืมนะว่าสัญญานั้นระบุไว้ชัดเจนแล้วว่าจะเลิกทำงานนี้ก็ต่อเมื่อครบ 6 เดือน” “ดิฉันยินดีคืนเงินให้คุณค่ะ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะใช้บางส่วนแล้วก็ตาม แต่ดิฉันสัญญาว่าจะรีบหามาคืนค่ะ” ในหัวยังนึกไม่ออกหรอกว่าจะหาเงินส่วนที่ตนเองใช้ไปแล้วจากไหนมาคืน แต่เธอก็คิดอยากจะไปอย่างเดียวแล้วตอนนี้ “คุณทำแบบนั้นไม่ได้หรอกคุณญาริน คิดดีๆ นะครับ ผมได้ข่าวว่าน้องสาวของคุณกำลังอยากย้ายออกไปอยู่คอนโดใกล้มหาลัยของเธอ แล้วถ้าคุณเลิกทำคุณคิดว่าจะไหวกับค่าใช้จ่ายที่บ้านของคุณหรอ? แล้วก็หลานของคุณอีกคุณจะมีปัญญาช่วยพี่สาวคุณเลี้ยงไหม? งานสมัยนี้มันหากันยากนะคุณ” “คือ ...คือว่า ดิฉัน” ภัทรกาฬพูดดักทางเธอทุกอย่างเหมือนรู้ทัน ขณะที่ญารินเองก็ไม่ไหนไม่ถูกเมื่อได้ฟังคำพูดของเขา มันยิ่งตอกย้ำความจนตรอกของเธอเข้าไปอีก แทบจะไม่มีทางให้ไปได้เลย “เอาเป็นว่าคุณก็ทำงานเหมือนเดิม และตั้งใจทำให้มากกว่านี้นะครับ ผมรู้ว่าคุณเป็นคนเก่งยังไงคุณก็ทำได้ครับ” ภัทรกาฬไม่ได้อยากให้เธอกดดันแบบนี้เลย ทว่าก่อนที่จะตัดสินใจลากเธอเข้ามาทำแบบนี้ก็เพราะว่าเขาเห็นอะไรบางอย่างในตัวของญาริน และก็เชื่อมั่นว่าเธอจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง “ค่ะ” “เชิญครับ ผมจะทำงานแล้ว อ่อ!! ตอนบ่ายถ้าผมไม่เห็นน้องชายผมเข้าบริษัท คุณเตรียมเดือดร้อนได้เลยนะครับ ...เชิญ” คำพูดส่งท้ายก่อนที่เธอจะเดินออกไปจากห้องประธานบริษัทแห่งนี้ มันเหมือนกับก่อนหน้านี้เขาปลุกเธอให้ฟื้นคืนชีพด้วยถ้อยคำให้กำลังใจแล้ว ทว่าตอนจบเขากลับสะดุดขาเธอล้มลงที่พื้นอย่างนั้นเลย แล้วญารินจะไปหาณัฐกานต์จากที่ไหนล่ะ สนามแข่งรถในประเทศกรุงเทพฯ ก็ตั้งมากมาย และถ้าเกิดไปตามตัวมาเธอก็คิดว่ามันเป็นเรื่องยากที่เขาจะกลับเข้ามาในบริษัทพร้อมกันกับเธอได้ Line ~~ ‘Thongruk_rukna : พี่ริน โอนค่าคอนโดมาให้รักยังอ่ะ เร็วๆ นะ พี่เค้ารอนานแล้ว รักรีบ’ ‘YaRin.n : แปบนะ พี่จะโอนไปให้เดี๋ยวนี้แหละ’ ‘Thongruk_rukna : คัมซาค้าบป๋ม จุ๊บๆ’ ร่างเพรียวบางอยากจะมุดตัวเข้าประตูไปที่ไหนก็ได้สักที่ในวันนี้เลย ยังไม่ทันจะได้เลิกงานกลับถึงบ้านก็มีคนไลน์มาขอเงินแล้ว และเธอเองก็ปฏิเสธไม่ได้ด้วย ต้องรักหรือน้องสาวของเธอเพิ่งจะสอบติดคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศไทย ต้องรักเป็นเด็กใฝ่เรียนมาโดยตลอด ถ้าเป็นเรื่องการเรียนแล้วน้องสาวคนนี้ไม่เคยทำให้เธอและคนในครอบครัวผิดหวังเลย ตั้งแต่สมัยตอนที่แม่ของเธอยังอยู่แม้จะไม่มีเงินแค่ไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องการเรียนแม่ของเธอจะพยายามหามาให้ทันใช้ตลอด โดยที่ไม่บ่นเหนื่อยเลยสักคำ ต้องรักเองก็ถูกเลี้ยงมาแบบนั้นจนหลังจากแม่ของพวกเธอทั้ง 3 คน จากไปแล้ว หากผู้เป็นพี่สาวอย่างญารินไม่สนับสนุนน้อง สานต่อความต้องการของผู้เป็นแม่แล้ว คิดดูว่าน้องสาวของเธอจะเสียใจมากเพียงใดในเมื่อที่ผ่านๆ มา เธอเคยได้รับโอกาสจากผู้เป็นแม่มาโดยตลอด “แล้วฉันจะไปหาคุณที่ไหนเนี้ย!! เฮ้อออ...” ถึงตอนนี้จะเกือบเที่ยงแล้ว แต่ร่างเพรียวบางก็ต้องหอบกระเป๋าออกไปตามหาเจ้านายหนุ่มของตนเอง แทนที่จะได้มีเวลาไปทานอาหารกลางวันเหมือนอย่างพนักงานทั่วไปเขา กลับต้องเอาเวลาไปทุ่มเทให้กับคนเกเรไม่รู้จักโตเพียงคนเดียวที่ทำให้ชีวิตของเธอวุ่นวายอยู่แบบนี้Chapter 32[32/2]@มิลาน, ประเทศอิตาลี่วันนี้ญารินมีนัดคุยงานถ่ายแบบงานชิ้นสำคัญในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากการเดินแบบแล้วเธอก็ไม่เคยได้มีโอกาสได้ขึ้นปกหนังสือนิตยสารเลยสักครั้ง ต้องขอบคุณโรสมากๆ ที่ทำให้ความฝันของญารินได้กลายเป็นจริงสักทีก่อนหน้านี้โรสได้รับการติดต่อให้จัดหานางแบบในสังกัดให้มาถ่ายนิตยสารจากแบรนด์เสื้อแบรนด์หนึ่งที่เป็นฝีมือของคนไทยเองโดยที่เจ้าของแบรนด์ให้โจทย์กับโรสมาว่าจะต้องเป็นหญิงหน้าไทย แต่ยังมีโครงหน้าที่ดูทันสมัยด้วย เนื่องจากแบรนด์นี้ใช้ผ้าไทยหลายชนิดมาตัดทำเป็นชุด แต่ยังเพิ่มดีไซน์ผสมผสานให้ทันสมัยตามแบบของผู้หญิงยุคใหม่ซึ่งจากโจทย์ที่ให้มาโรสไม่สามารถนึกถึงใครอื่นได้เลย นอกจากญารินนางแบบหน้าไทยสวยเก๋เซ็กซี่คนนี้ เธอคือตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ เหมาะสมกับแบรนด์ VANIDEE ที่สุดแล้วภายในร้านอาหารสัญชาติอิตาเลี่ยนที่ตั้งอยู่ในคอมเพล็กซ์ Museo del Novecento ทำให้เราสามารถมองออกไปด้านนอกแล้วเห็นทิวทัศน์อันงดงามได้อย่างประทับใจของ Piazza del Duomo หรือที่เรียกกันว่าจัตุรัสหลวง“วิวสวยจังเลยนะคะพี่โรส” ญารินนั่งมองวิวด้านนอกจากในร้านอาหารแห่งนี้ด้วยความร
Chapter 32[32/1]“คุณหนูคะ คุณยุวดีกลับมาแล้วค่ะ ท่านเรียกให้ไปพบค่ะ” ขณะที่พี่น้องสองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ ก็มีหญิงแม่บ้านชาวอิตาเลี่ยนวัยกลางคนเดินมาเรียกณัฐกานต์ก่อน“แม่? ครับๆ เดี๋ยวผมไป”“ท่านรออยู่ที่ห้องรับแขกนะคะ”“ขอบคุณครับ” ณัฐกานต์หันไปบอกแม่บ้าน เธอรับคำพร้อมกับเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่นั้นอีกครั้งเขายังอยากนั่งคุยกับผู้เป็นพี่ชายต่ออีกสักพัก ถ้านอกจากออสโม่กับแม่นมที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็กแล้ว ทั้งตระกูลนี้ก็คงมีพี่ชายคนนี้นี่แหละที่เขาพอจะพูดคุยด้วยกันได้ทุกเรื่องจริงๆ“ไปหาแม่เถอะ ฉันขอนั่งอยู่แบบนี้สักพักก่อน” ภัทรกาฬบอกน้องชายแบบนี้เพราะกลัวว่ายุวดีจะรอนานเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัวภัทรกาฬเองก็รับรู้ เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกชัดเจนแบบณัฐกานต์ว่าไม่พอใจกับสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำไว้แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ของพวกเขาก็ยังรักลูกเสมอ เพียงแต่พวกท่านไม่ได้แสดงออกมาในรูปแบบเหมือนที่ครอบครัวอื่นเขาปฏิบัติกัน หวังว่าสักวันน้องชายของเขาจะมองพวกท่านทั้งสองในอีกมุมที่เขาได้มองบ้าง“อย่าคิดมากนะเฮีย” ณัฐกานต์รับคำจากพี่ชาย พลางลุกขึ้นยืนเตรียมจะเดินออกไป แต่ก่อนจะไปเขา
Chapter 31[31/2]สวนดอกไม้ดอกกุหลาบและดอกคาเดนเยียร์จากหลังคฤหาสน์ ทำให้ทรรศนียภาพของที่นี่น่ามองขึ้นไปอีก โดยรวมแล้วทั้งดอกไม้ทั้งสวนองุ่นที่ถัดออกไปบวกกับวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่มีภูเขาเป็นฉากกั้นอยู่ ถ้าใครได้มาตรงที่แห่งนี้ก็คงจะยอมกลับละสายตาไปไหนนอกจากทรรศนีภาพที่สวยงามแล้ว ยังมีเจ้าของสวนคนใหม่นั่งอยู่ที่สวนนี้ด้วย ตอนนี้ณัฐกานต์มองจากด้านหลังของคนที่นั่งตรงโต๊ะหินอ่อนจากทางประตู ก่อนจะก้าวขาเดินไปหาคนคนนั้น“ไง... นั่งชมนกชมไม้ ดูสบายจังนะเฮีย” ร่างสูงเดินเอามือไปวางบนไว้ไหล่พี่ชายของตัวเองที่กำลังนั่งอยู่“ได้ยินปู่บอกว่าแกมาทำธุระหรอ?”“ใช่” ว่าแล้วก็นั่งลงบนโต๊ะนั่งข้างๆ กับพี่ชาย“ธุระอะไรของแก? งานสาขานี้พ่อก็บินไปกลับเป็นว่าเล่นแล้ว”“ธุระส่วนตัวน่ะ ถ้าแค่งานของเขา... ผมคงไม่ลงทุนมาขนาดนี้หรอก ไม่ใช่เฮียนี่”แน่นอนว่าถ้าเกิดเป็นงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง ณัฐกานต์ไม่มีวันมาทำขนาดนี้ให้หรอก ลำพังแค่ทำงานที่บริษัทให้ทุกวันนี้ก็มากเกินพอแล้วกำไรจะมากหรือน้อยเงินเดือนของเขาก็ยังเท่าเดิมอยู่ดี แม้จะมีปันผลทุกๆ ไตรมาสให้อยู่แล้วก็เถอะ อย่างไรเขาก็คงไม่ได้มากเท่าพี่ชายอยู่แล้ว“ธุระ
Chapter 31[31/1]@โรม, ประเทศอิตาลี่ณัฐกานต์เดินทางมาถึงที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของเศรษฐีไร่องุ่นคนเก่าแก่ในย่านกรุงโรม ด้านหลังของคฤหาสน์หลังใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยไร่องุ่นและโรงหมักไวน์ขนาดใหญ่ และทั้งหมดนี้กินเนื้อที่ไปหลายร้อยไร่โดยประมาณ ซึ่งทรัพย์สินทุกอย่างในที่แห่งนี้เป็นของออสโม่ปู่ของเขาเองชายหนุ่มนั่งรถจากสนามบินมาถึงที่นี่ใช้เวลาไม่นานมาก ตอนแรกคิดว่าจะบินตรงไปมิลานเลย ทว่าพอลองมาคิดใหม่เขาอยากจะแวะมาที่นี่ก่อน เพื่อมาเยี่ยมปู่และพี่ชายของตัวเอง เพราะไม่ได้เจอทั้งสองคนนานมากแล้วพอทำธุระที่นี่แล้วเสร็จก็จะรีบไปมิลานเลยทันที เพราะนอกจะไปหาญารินแล้วเขาก็คิดว่าจะไปดูความเป็นอยู่ของยุวดีสักหน่อย ได้ข่าวว่าช่วงนี้ธุรกิจของผู้เป็นแม่กำลังเติบโตไปได้สวยเลยรถ SUV สุดหรูอย่าง Rolls-Royce Black Badge รุ่นปี 2022 ราคาในไทยโดยประมาณอยู่ที่ 41 ล้าน แต่ราคาที่อิตาลี่ไม่รู้ว่าขึ้นไปเท่าไหร่บ้างแล้วตอนนี้คนขับรถของคฤหาสน์ออกมารับณัฐกานต์ที่สนามบิน ตอนนี้กำลังขับเคลื่อนและชะลอความเร็วลงเพื่อเลี้ยงเข้าสู่คฤหาสน์กาเซียโน่ของเศรษฐีคนดังในย่านนี้ ก่อนจะลงจากรถแล้วเข้าไปหาเจ้าของบ้านที่ตอนนี้รอต้อนร
Chapter 31[31/2]สวนดอกไม้ดอกกุหลาบและดอกคาเดนเยียร์จากหลังคฤหาสน์ ทำให้ทรรศนียภาพของที่นี่น่ามองขึ้นไปอีก โดยรวมแล้วทั้งดอกไม้ทั้งสวนองุ่นที่ถัดออกไปบวกกับวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่มีภูเขาเป็นฉากกั้นอยู่ ถ้าใครได้มาตรงที่แห่งนี้ก็คงจะยอมกลับละสายตาไปไหนนอกจากทรรศนีภาพที่สวยงามแล้ว ยังมีเจ้าของสวนคนใหม่นั่งอยู่ที่สวนนี้ด้วย ตอนนี้ณัฐกานต์มองจากด้านหลังของคนที่นั่งตรงโต๊ะหินอ่อนจากทางประตู ก่อนจะก้าวขาเดินไปหาคนคนนั้น“ไง... นั่งชมนกชมไม้ ดูสบายจังนะเฮีย” ร่างสูงเดินเอามือไปวางบนไว้ไหล่พี่ชายของตัวเองที่กำลังนั่งอยู่“ได้ยินปู่บอกว่าแกมาทำธุระหรอ?”“ใช่” ว่าแล้วก็นั่งลงบนโต๊ะนั่งข้างๆ กับพี่ชาย“ธุระอะไรของแก? งานสาขานี้พ่อก็บินไปกลับเป็นว่าเล่นแล้ว”“ธุระส่วนตัวน่ะ ถ้าแค่งานของเขา... ผมคงไม่ลงทุนมาขนาดนี้หรอก ไม่ใช่เฮียนี่”แน่นอนว่าถ้าเกิดเป็นงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง ณัฐกานต์ไม่มีวันมาทำขนาดนี้ให้หรอก ลำพังแค่ทำงานที่บริษัทให้ทุกวันนี้ก็มากเกินพอแล้วกำไรจะมากหรือน้อยเงินเดือนของเขาก็ยังเท่าเดิมอยู่ดี แม้จะมีปันผลทุกๆ ไตรมาสให้อยู่แล้วก็เถอะ อย่างไรเขาก็คงไม่ได้มากเท่าพี่ชายอยู่แล้ว“ธุระ
Chapter 30[30/1]ก่อนที่จะเดินทางข้ามทวีปไปในวันพรุ่งนี้ คนที่บอกว่าจะเคลียร์งานของตัวเองให้เสร็จทันก่อนจะขึ้นเครื่อง ทว่าตอนนี้ยังมะงุมมะงาหราอยู่กับกองเอกสารที่ต้องเซ็นจนป่านนี้เป็นเวลา 1 ทุ่มกว่าแล้ว ท่านรองประธานบริษัทหนุ่มหล่อไฟแรงก็ยังไม่ได้ลุกออกไปไหนเลยLine~Dar.runnn : กลับเพ้นท์เฮ้าส์ยังคะ? น้องดาอยากไปหาDar.runnn : วันนี้คุณย่าบ่นๆ คิดถึงพี่ณัฐด้วยนะ ถ้าว่างๆ ก็อยากให้พี่แวะมาคุณย่าบ้างDar.runnn : พรุ่งนี้เลยดีไหมคะ วันหยุดด้วยน่าจะเหมาะเลย น้องดาจะได้ทำกับข้าวไว้เผื่อเสียงโทรศัพท์ข้างๆ ตัวณัฐกานต์ดังขึ้น สายตาคมเหลือบไปมองการแจ้งเตือนบนหน้าจอ ถึงได้รู้ว่าเป็นใครที่ส่งมาวันนี้ทั้งวันดารันยังไม่ได้มาหาเขาเลย ซึ่งถ้าปกติแล้วเธอจะมาที่นี่แทบทุกวัน โดยมาพร้อมกับของกินตลอดและในแต่ละครั้งที่มาหาณัฐกานต์ก็ไม่เคยห้ามเลยสักครั้ง ตั้งแต่ตอนที่ญารินยังอยู่รวมถึงตอนที่เธอไม่อยู่ที่นี่แล้วร่างสูงไม่ได้หยิบสมาร์ตโฟนสีเซียร่าบลูของตัวเองขึ้นมาตอบแต่อย่างใด ก่อนจะหันหน้ากลับไปสนใจงานของตัวเองต่อ เพราะเขาต้องรีบทำเวลาให้ทันก่อนขึ้นเครื่องในวันพรุ่งนี้@มิลาน, ประเทศอิตาลี่ญารินได้