แชร์

EP.04 : ผิดห้อง... หรือผิดชาติ?

ผู้เขียน: แมวนอนซิม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-12 17:08:17

“อากาศสดชื่นดีจริง ๆ สมกับที่เป็นเมืองใหญ่...”

หญิงสาวพึมพำเบา ๆ ขณะก้าวออกมาจากสนามบิน พร้อมสะพายกระเป๋าใบใหญ่ไว้บนบ่า เธอโบกมือเรียกแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังคอนโดที่จองไว้ล่วงหน้า — ที่พักใหม่ซึ่งจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตบทใหม่ของเธอ

โชคดีที่คอนโดไม่ได้อยู่ไกลจากสนามบินมากนัก และโชคดียิ่งกว่าคือ... เธอจองห้องทันก่อนมีใครตัดหน้า ทั้งที่ความจริงแล้ว ห้องนั้นก็เคยมีคนอยู่มาก่อนแล้วก็ตาม

เมื่อมาถึง หญิงสาวเงยหน้ามองอาคารสูงทันสมัยตรงหน้า แม้จะเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ยังทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี เธอยืนนิ่งอยู่หน้าประตูคอนโดนานพอสมควร พยายามไล่เรียงความคิด — ถึงเหตุผลที่เลือกที่นี่ตั้งแต่แรก

แม้จะพยายามไม่คิดถึงมันอีกแล้ว แต่ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้นมองตึก Aurum Heights ในปัจจุบัน ภาพในหัวกลับพรั่งพรูขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว—ความทรงจำในชาติที่แล้ว ที่เริ่มต้นตรงหน้าประตูนี้เช่นกัน...

ราวกับว่าอารมณ์เก่า ๆ ถูกเรียกกลับมาทั้งหมดในพริบตาเดียว

“หุบปากสักทีได้ไหม!” น้ำเสียงของเธอในตอนนั้นดังแหลมขึ้นด้วยความเหลืออด “ต่อให้เขาจะดังแค่ไหน เขาก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของฉัน เข้าใจไหม! และที่สำคัญ—ฉันก็เป็น ‘ผู้เสียหาย’ ในเรื่องนี้เหมือนกัน!”

นิ้วชี้ของเธอเคยพุ่งไปตรงหน้าคนที่กล้ากล่าวหาด้วยท่าทีไม่ไว้หน้า

“และช่วยจำไว้ด้วย—ฉันไม่ใช่แฟนคลับของอีตา ‘ไม่หล่อ’ นั่น!”

“...ไม่หล่อ?” อีกฝ่ายทวนคำเสียงแผ่ว เหมือนไม่แน่ใจว่าหูตัวเองได้ยินถูกหรือไม่

“ใช่! ไม่หล่อ!” เธอเค้นเสียงตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ “ต่อให้เขาเป็นผู้ชายคนสุดท้ายบนโลก ฉันก็ยังเลือกอยู่คนเดียวซะดีกว่า! แล้วก็—ไม่ใช่ทุกคนบนโลกจะรู้จักศิลปินทุกคนเข้าใจไหม? ฉันไม่รู้ว่าเขาดังแค่ไหน และไม่อยากรู้ด้วยซ้ำ!”

เธอถอนหายใจยาวในตอนนั้น ก่อนจะทิ้งน้ำหนักคำพูดด้วยแววตาจริงจัง

“ฉันทุ่มเงินเก็บทั้งหมดกับคอนโดนี้เพื่อจะมาเรียนต่อให้ได้ ห่างจากบ้านเพื่อเริ่มต้นใหม่ แล้วเธอกล้าพูดอะไรแบบนี้ใส่ฉันงั้นเหรอ? หัดใช้สมองคิดบ้างมันจะตายหรือไง!”

และในตอนนั้น ไม่มีใครในห้องกล้าเอ่ยอะไรกลับมาอีกสักคำ...

เธอยังจำสายตาเงียบงันที่จ้องมองเธอได้อยู่เลย—โดยเฉพาะดวงตาสีน้ำทะเลที่เคยทิ่มแทงหัวใจเธออย่างไม่รู้ตัว

แปลก... ทั้งที่ตอนนั้นเธอก็เป็นฝ่ายพูดด้วยความมั่นใจ

แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้น... มันกลับไม่เคยง่ายเลย

หญิงสาวก้าวเข้าไปที่เคาน์เตอร์บริการของ Aurum Heights อย่างมั่นใจ พนักงานหญิงในชุดสูทเรียบหรูเงยหน้าขึ้นยิ้มต้อนรับอย่างมืออาชีพ

Um—excuse me.”

(เอ่อ... ขอโทษนะคะ)

หญิงสาวเอ่ยขึ้นพลางเดินเข้าไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของคอนโดหรู Aurum Heights เสียงของเธออ่อนนุ่มแต่มั่นคง

I booked a room here. Is this Aurum Heights Condominium?

(ฉันจองห้องพักไว้ที่นี่... ที่นี่คือคอนโดออรัมไฮท์ ใช่ไหมคะ?)

Yes, welcome to Aurum Heights,

(ใช่ค่ะ ยินดีต้อนรับสู่คอนโดออรัมไฮท์)

พนักงานหญิงที่แต่งกายเรียบร้อยในชุดสูทหรูยิ้มตอบอย่างสุภาพ ก่อนจะถามต่อด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรยิ่งขึ้น

May I ask whose name the reservation is under?

(ไม่ทราบว่าจองไว้ในชื่อของใครคะ?)

Natalie.

(นาตาลีค่ะ)

ทันทีที่ได้ยินชื่อ พนักงานก็คลี่ยิ้มกว้างขึ้นเล็กน้อยอย่างรู้สึกคุ้นเคย

Oh! You’re the one who booked the penthouse on the top floor, right?

(อ้อ! คุณคือคนที่จองห้องเพนต์เฮาส์ชั้นบนสุดไว้ใช่ไหมคะ?)

หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนเซ็นเอกสารอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่พนักงานดูจะยิ่งกระตือรือร้นขึ้นตามจำนวนหน้าเอกสารที่ถูกเซ็น ระหว่างรอการตรวจห้อง เธอเดินไปนั่งพักที่โซฟาในล็อบบี้ ปล่อยร่างจมลงในเบาะลึกอย่างอ่อนล้า

…วันแรกของการเริ่มต้นใหม่ และมันก็เหนื่อยเสียจนเธอแทบไม่มีแรงจะหายใจ

แถมยังมีเรื่อง “ปวดหัว” อีกมาก... ที่กำลังรอเธออยู่

This way, please, ma’am.

(ทางนี้ค่ะ)

เสียงพนักงานสาวดังขึ้นอีกครั้งอย่างนุ่มนวล เธอเดินนำไปทางลิฟต์ ราวกับพนักงานโรงแรมหรูระดับห้าดาว

แน่นอน—เพนต์เฮาส์ชั้นบนสุดไม่ใช่ห้องธรรมดา ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียม มองออกไปเห็นวิวเมืองแบบพาโนรามา... แต่ความจริงแล้ว ห้องนี้ ไม่ใช่ของเธอแต่แรก

อยากรู้ใช่ไหมว่าใครเป็นเจ้าของตัวจริง?

อีกไม่กี่นาที ก็จะได้รู้เอง...

เมื่อลิฟต์พาเธอมาถึงชั้นบนสุด หญิงสาวลากกระเป๋าใบใหญ่เดินตามพนักงานอย่างระวัง มือยังสั่นเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความตื่นเต้น... หรือความกังวล

เธอหยุดยืนที่หน้าห้องชุด บรรยากาศเงียบงันจนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเองสะท้อนอยู่ในโถงหินอ่อนขัดเงา

แล้วประตูกระจกบานใหญ่ตรงหน้าก็เปิดออกช้า ๆ...

ชายร่างสูงก้าวออกมาจากภายใน ร่างสูงโปร่งในชุดลำลองดูสบาย ๆ แต่สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

เขายืนนิ่งอยู่หน้าประตู ขมวดคิ้วแน่น ขณะที่สายตาจับจ้องหญิงสาวราวกับเพิ่งเห็น “แขกไม่ได้รับเชิญ”

…และใช่—เขาคือเจ้าของห้องนี้

เสียงทุ้มเย็นเฉียบดังขึ้นกลางโถงหรูหราของชั้นบนสุดคอนโดฯ

“What are you doing here?”

(เธอมาทำอะไรที่นี่)

น้ำเสียงนั้นนิ่ง เรียบเฉย แต่เฉือนลึกพอจะทำให้ใครหลายคนต้องสะดุ้ง ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลของชายหนุ่มจ้องมายังหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่กะพริบ ก่อนจะหันไปมองพนักงานที่ยืนอยู่ข้างเธอ แล้วกลับมาที่เธออีกครั้ง — เงียบงัน แต่เต็มไปด้วยแรงกดดัน

“Ah! Mr. Kenneth!” พนักงานหญิงอุทานเสียงหลง ราวกับเพิ่งรู้ตัวว่าตกอยู่กลางเรื่องผิดพลาด “I… I think there’s been some kind of mistake.

(เอ๊ะ! คุณเคนเนธ! ฉัน... ฉันว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ ค่ะ)

...เรียบร้อยแล้ว ทีนี้ก็ชัดเจน — ห้องนี้เป็นของใคร

“Who are you?”

(เธอเป็นใคร?)

เขาถามเสียงนิ่ง แต่หนักแน่น ดวงตาเยือกเย็นยังไม่ละจากใบหน้าของเธอแม้แต่วินาทีเดียว ความนิ่งของเขามากพอจะทำให้ใครบางคนรู้สึกตัวเล็กลงอย่างไม่รู้ตัว... แต่เธอกลับยืนนิ่ง ไม่สะทกสะท้าน ไม่แม้แต่จะหลบตา

เธอรู้อยู่แล้ว ว่าต้องเจอกับอะไรแบบนี้

“I booked this room,” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ไร้ซึ่งการข่มหรือขอโทษ มีเพียงข้อเท็จจริงที่เรียงออกมาจากปากช้า ๆ “And the receptionist told me the room number matched this one.

(ฉันจองห้องนี้ไว้ และพนักงานบอกว่าหมายเลขห้องตรงกับที่นี่)

“But this is my place.” เขาไม่ยอมลดสายตา ดวงตาสีฟ้านั้นลึกเกินกว่าจะอ่านออกได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ “How could you possibly book this penthouse when I’ve already booked it myself?”

(แต่นี่คือบ้านของฉัน เธอจะจองเพนต์เฮาส์ห้องนี้ได้ยังไง ในเมื่อฉันก็จองไว้เหมือนกัน?)

“It might be a system error...” พนักงานหญิงรีบแทรกขึ้นอย่างลนลาน “Our data center must have made a mistake… but unfortunately, we can’t refund the deposit to either party.”

(มันอาจจะเป็นความผิดพลาดของระบบค่ะ… ทางฝ่ายศูนย์ข้อมูลอาจจัดการข้อมูลผิด... แต่เราไม่สามารถคืนเงินจองให้ได้ค่ะ)

คำพูดนั้นชัดเจนจนไม่ต้องแปลต่อ — ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายถูก สุดท้าย... ไม่มีใครได้เงินคืน

หญิงสาวหลุบตาลงมองพื้น พยายามเก็บอาการ แม้ร่างจะยังจับกระเป๋าเดินทางไว้แน่น แต่กลับไม่รู้สึกถึงเรี่ยวแรงในร่างกายเลยแม้แต่น้อย

แล้ว...เสียงฝีเท้าอีกคู่ก็ดังขึ้น

“What’s going on here?”

(เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?)

เสียงหญิงสาวดังแทรกเข้ามาอย่างไม่สบอารมณ์ ตามด้วยร่างของหญิงสาวผมสีน้ำตาลอ่อนไฮไลต์ทองที่เดินออกมาจากด้านในห้องอย่างหัวเสีย ดวงตาคมหรี่ลงมองภาพตรงหน้าอย่างขัดใจเต็มประดา

“Didn’t you say you were going to call the staff? And now you’re just standing here doing... what, exactly?”

(ไหนนายบอกว่าจะลงไปเรียกพนักงาน แล้วนี่มายืนทำบ้าอะไรอยู่ตรงนี้?)

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ขอเวลา...เพื่อรักเธออีกครั้ง   EP.15 : ทางลับที่เธอเคยเดิน…

    นาตาลีใช้แอปฯ เรียกรถให้มารับที่หน้าคอนโดฯ แล้วปักหมุดไปยังจุดหมายที่เธอจำได้แม่นยำราวกับมันฝังอยู่ในดีเอ็นเอ — ท่าเรือแคมบริดจ์ พอร์ทรหัส USY ที่นั่นมีโกดังหลังหนึ่งซึ่งจากภายนอกดูเก่าคร่ำคร่าเกือบจะร้าง ทั้งที่ความจริงแล้วมันถูกจัดแต่งอย่างจงใจให้ดูโทรม — “โทรมแบบมีคอนเซปต์” มากกว่าโทรมจริงการจะเข้ามาถึงจุดนี้ได้ไม่ง่ายเลย ด่านรักษาความปลอดภัยหลายชั้นทำเอาเธอแทบถอดใจกลางทาง แต่ในที่สุด... ก็ยืนอยู่ตรงหน้าโกดังหมายเลข 7 — โกดังเก็บของขนาดใหญ่ที่ต้นสังกัดซื้อไว้เพื่อใช้เป็นสถานที่ซ้อมลับเฉพาะของวง ไซเรนจำนวนรถยนต์ที่จอดเรียงรายอยู่ด้านหน้าโกดังชัดเจนพอจะฟันธงได้ว่า... ลิงทั้งห้า น่าจะอยู่กันครบถ้วนทุกตัวแน่นอนนาตาลีเลือกใช้ทางลับ — เส้นทางที่ไม่มีใครรู้ นอกจากเธอกับเอเดน ทางที่เคยใช้ด้วยกันเป็นประจำในอดีตชาติที่เธอจำได้ไม่ลืมหัวใจเธอหวิวขึ้นมาเล็กน้อยในระหว่างที่ก้าวเดินอย่างเงียบเชียบผ่านตรอกแคบ ๆ ข้างโกดังเขาจะสงสัยไหมว่าเธอรู้ได้ยังไง?หรืออาจจะถามเลยว่าเธอเป็นใครกันแน่?หรือไม่ก็แค่จ้องมาด้

  • ขอเวลา...เพื่อรักเธออีกครั้ง   EP.14 : แพนเค้กไม่สมบูรณ์แบบ

    นาตาลีตื่นขึ้นมาในเช้าวันหยุดด้วยใบหน้าบวมเป่ง ราวกับเพิ่งโดนฝ่ามือของความจริงตบซ้ำซากหลายครั้งไม่ให้ทันตั้งตัว ขอบตาคล้ำลึก เครื่องสำอางเก่าที่ไม่ได้เช็ดออกจนหมดทำให้ดวงตาดูเลอะเลือนคล้ายงานศิลป์ที่เปียกฝน และเส้นผมกระเซอะกระเซิงเหมือนคนเพิ่งรอดพ้นพายุมาไม่ต้องส่องกระจกก็รู้—สภาพเธอตอนนี้แย่เกินจะออกไปรับแดดเธอถอนหายใจแรง ๆ ยกมือขึ้นกุมขมับเมื่อความปวดหัวแล่นขึ้นมาราวกับคีมเหล็กบีบสมอง ทั้งเสียงของแม่ที่ยังวนเวียนในหัวไม่หยุด และภาพเมื่อคืนที่เอเดนโอบเธอไว้แน่นยังฝังแน่นอยู่ในความทรงจำ“ไม่ ไม่สิ — หยุด! ของขวัญ แกต้องตั้งสติ”เสียงในหัวเธอสั่งอย่างนั้นนาตาลีรีบล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้า และเดินออกมาจากห้องนอนราวกับหนีออกจากฝันร้าย แพนเค้กง่าย ๆ สักสองสามแผ่นอาจพอช่วยให้สมองของเธอกลับมาทำงานได้ในห้องครัวที่เงียบเกินไป เสียงตีแป้งกลับชัดเจนราวกับมีไมค์จ่ออยู่ ความคิดที่พยายามผลักไสก็เริ่มกระซิบขึ้นมาอีกครั้ง…ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่กับเขา — กับคนที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนไกลแสนไกล และไม่คิดว่าจะได้เข้

  • ขอเวลา...เพื่อรักเธออีกครั้ง   EP.13 : กอดที่ไม่ถามอะไรเลย

    เสียงริงโทนเก่า ๆ ดังขึ้นภายในกระเป๋า สะท้อนก้องไปในลิฟต์ที่เงียบสงัดราวกับห้องสารภาพบาป นาตาลีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาช้า ๆ — ลึก ๆ เธอหวังว่าอาจจะเป็นต้นหอม แต่ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอกลับไม่ใช่...“ค่ะ แม่…”[เดินทางไปถึงแล้วใช่ไหม เป็นยังไงบ้าง]“ก็ดีค่ะ... หมายถึงโดยรวม”[แม่ไม่ได้หมายถึงแบบนั้น แนต — แม่หมายถึงงาน เรียน แล้วก็ที่สำคัญที่สุด... เรื่องของ ‘ลีวาย’]ลมหายใจของเธอขาดช่วงแผ่วเบาในลิฟต์ที่เงียบสนิท ราวกับคำพูดของแม่กดทับอะไรบางอย่างในอก — ไม่ใช่ห่วง แต่เป็น... ความคาดหวังที่ไม่เคยมีที่สิ้นสุด“งานโอเคค่ะ... หัวหน้าก็ดี เพื่อนร่วมงานก็ดีมากเลย บริษัทก็บรรยากาศดี—เรื่องเรียน แม่ไม่ต้องห่วงเลย หนูคิดว่าสิ่งที่ได้จากงานนี้ช่วยให้หนูเรียนได้ดีขึ้นแน่นอนค่ะ”[แล้วลีวายล่ะ?]ความเงียบยาวเกิดขึ้น ราวกับเวลาถูกยืดออกด้วยแรงโน้มถ่วงจากชื่อที่เอ่ยถึง คำตอบนั้นอยู่ที่ริมฝีปากเธอแล้ว เพียงแต่... ไม่ว่าจะพูดออกไปยังไง มันก็ “ผิด” สำหรับแม่อยู่ดี

  • ขอเวลา...เพื่อรักเธออีกครั้ง   EP.12 : วีไอพี = Very Intense Punch

    “มันจะช่วยอะไรได้จริงเหรอเนี่ย...”วัตสันพึมพำเสียงเบา มือยังยกแก้วน้ำขึ้นจรดริมฝีปากราวกับใช้มันเป็นเกราะกำบังจากโลกภายนอก เธอไม่แม้แต่จะปรายตามามองคู่สนทนา สายตาของเธอทอดยาวออกไปยังบรรยากาศโดยรอบห้องวีไอพี ที่เริ่มวุ่นวายขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับตลาดยามค่ำคืน“ดูคนพวกนั้นสิ...” เธอเสริม น้ำเสียงไม่ติดจะเหนื่อยใจ “เหมือนอดอยากความบันเทิงมาทั้งชีวิต”นาตาลีเหลือบตามองตามคำพูดของเพื่อนร่วมงานเบื้องหน้า — เจมส์กำลังกระดกเหล้าเพียว ๆ ราวกับดื่มน้ำผลไม้ สีหน้ารื่นเริงเกินเหตุ ท่ามกลางเสียงเพลง EDM จังหวะยวบ ๆ จากลำโพงที่ไม่มีใครขอ แต่ทุกคนก็ยอมรับมัน“แล้วลมอะไรพัดเธอมานี่ล่ะ” เสียงของนาตาลีดังพอได้ยินแค่กันสองคน หยอกเย้าแต่ก็ซ่อนความสงสัยจริงจังไว้เล็กน้อย “นึกว่าเธอจะรอให้คุณเจรอสโลว์มาด้วยซะอีก ถึงจะยอมขยับตัว”

  • ขอเวลา...เพื่อรักเธออีกครั้ง   EP.11 : สายลมกับเสียงแฟนคลับ

    เช้าวันถัดมาหลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อย นาตาลีออกจากห้องพร้อมกาแฟแก้วหนึ่งและแซนด์วิชในมือ — ของสองสิ่งที่พอจะยึดเหนี่ยวเธอไว้ในเช้าวันใหม่ได้เธอใช้วันทำงานอย่างตั้งใจจนน่าแปลกใจ แม้เมื่อค่ำคืนก่อนจะเต็มไปด้วยความฝันที่... เอ่อ... วาบหวามเกินจะบรรยาย และถึงแม้ตอนเช้าจะสะดุ้งตื่นตกเตียงไปแบบสิ้นสภาพ นั่นก็ไม่ได้ลดทอนความตั้งใจในการทำงานของเธอลงเลยแม้แต่น้อยเพราะในเส้นทางใหม่นี้ เธอไม่มีเวลาจะหลงทางอีกแล้วช่วงพักกลางวัน นาตาลีเลือกเดินขึ้นไปยังดาดฟ้าของตึก บรรยากาศที่เงียบสงบและลมเย็นที่พัดปะทะใบหน้าเบา ๆ ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูกแสงแดดอ่อน ๆ กระทบเส้นผมของเธอขณะที่เธอนั่งลงบนม้านั่งไม้ กาแฟแก้วที่สองอยู่ในมือ และแซนด์วิชอีกชิ้นที่ยังไม่ได้แกะห่อวางอยู่ข้างตัวเธอมองไปยังขอบฟ้าที่ไกลลิบ ภาพสะท้อนของตึกสูงเบื้องหน้าเป็นเหมือนโลกอีกใบที่เธอยังไม่เข้าใจ &mdas

  • ขอเวลา...เพื่อรักเธออีกครั้ง   EP.10 : ครั้งนี้...จะไม่มีใครหายไปเงียบ ๆ อีกแล้ว

    หลังมื้ออาหาร เอเดนลุกขึ้นก่อน ค่อย ๆ เก็บจานชามอย่างเงียบ ๆ เขาเดินไปยังอ่างล้างจานโดยไม่พูดอะไรเพิ่ม แผ่นหลังสูงใหญ่เคลื่อนไหวอย่างเป็นจังหวะ ท่ามกลางแสงไฟสลัวที่ส่องกระทบเส้นผมเขาให้ดูอ่อนโยนกว่าปกตินาตาลีมองภาพนั้นเงียบ ๆเขาไม่เคยชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายในพื้นที่ส่วนตัวของเขา ไม่ชอบให้ใครเดินผ่านหลัง หรือทำอะไรโดยไม่บอกล่วงหน้า — เธอรู้ดี เพราะเธอเคยอยู่ตรงนี้มาก่อน...แล้วทำไม ครั้งนี้ถึงต่างออกไป?เธอพยายามบอกตัวเองไม่ให้คิดมาก แต่กลับห้ามไม่ทัน คำถามโง่ ๆ อย่าง “เขาสงสารเราหรือเปล่า?” แล่นขึ้นมาในหัว และที่แย่กว่านั้นคือคำถามที่สอง — “หรือว่า... เขาเริ่มรู้สึกอะไรบางอย่างกับเราแล้ว?”เธอเผลอพูดขึ้นเบา ๆ ขณะมองแผ่นหลังของเขา"...นายดูดีนะ ตอนล้างจานน่ะ"เอเดนหยุดมือไปชั่ววินาที ก่อนจะหันกลับมาพร้อมยิ้มที่ยากจะตีความ"นี่เธอชมฉันเหรอ?" เขาพูดพลางเดินกลับมาช้า ๆ "เขินเลยนะครับเนี่ย"นาตาลีหลบตาเล็กน้อย หัวใจเธอเริ่มเต้นแรงโดยไร้เหตุผลเขามาหยุดอยู่ตรงหน้า กลิ่นโคโลญจ์จาง ๆ ผ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status