การร่วมรักกับเฮ่อเหลียน เขากระทำอย่างลึกซึ้ง หวานล้ำ กระทำจากความรู้สึกรักแห่งก้นบึ้งของหัวใจไม่เคยเปลี่ยน
นางไร้ทายาทแล้วอย่างไร?
ไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็ยังรักนาง…
ทว่าบิดาของเขากลับเห็นต่าง เนื่องจากบ้านหลี่มีเขาเป็นทายาทเพียงคนเดียว ท่านเป็นห่วงเหลือเกินว่าสกุลหลี่จะดับสูญ ไร้บุตรหลานสืบสาน ผสานสองสิ่งที่ยึดถือ หนึ่งกตัญญู สองไม่เนรคุณ
คำสั่งเด็ดขาดจากบิดาจึงเกิดขึ้นในที่สุด พร้อมเหตุผลที่พึงมีต่อบุพการีและบรรพชน
อีกประโยคที่เสมือนฟางเส้นสุดท้ายสำหรับเขา บิดาจะปลดเฮ่อเหลียนจากการเป็นภรรยา ให้เป็นเพียงอนุของเขา ในข้อหาไร้ความสามารถ ไม่มีทายาทสืบสกุล และจะให้เขาแต่งภรรยาคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน
นั่นจึงทำให้เขายอมตามใจบิดาทุกสิ่ง ด้วยเงื่อนไขว่าขอให้เฮ่อเหลียนยังอยู่ตำแหน่งเดิม เขาขอแค่รับอนุให้ก็เท่านั้น
บิดาพาเขาไปเฟ้นหาสตรีที่ดีพร้อม อันเหมาะสมกับตำแหน่งแม่ของลูกเขา
จนกระทั่งได้เจอกับฟางเอ๋อร์ นางเป็นบุตรสาวของญาติฝ่ายบิดา มีสายสัมพันธ์อันดีต่อกัน นับเป็นญาติผู้น้องของเขา บ้านนี้มีลูกหลานหลายคน จึงลงตัวยิ่งนัก
เขามองออกว่าฟางเอ๋อร์ตกหลุมรักเขาเมื่อแรกเห็น ทว่าเขากลับมิได้ใส่ใจ แต่กระนั้นกลับไม่รอดพ้นสายตาของบิดา
ท่านติดต่อขอฟางเอ๋อร์จากญาติของท่านอยู่เนิ่นนาน ระหว่างนั้นก็พาเขาไปพบฟางเอ๋อร์นานร่วมเดือน
แน่นอนว่าเขาไม่กล้าบอกเฮ่อเหลียนตามตรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่บิดาจะปลดนาง หรือเรื่องที่เขาจะรับอนุ
ทุกครั้งหลังจากนัดเจอกับฟางเอ๋อร์เสร็จสิ้น เขากลับบ้านมาเจอกับเฮ่อเหลียน ก็ทำได้เพียงเงียบงัน ทำตัวปกติทุกประการ ไม่มีความกล้าเพียงนิดที่จะเอ่ยปากบอกนางสักคำ
หน้าที่นั้นจึงตกเป็นมารดาของเขา ซึ่งก็ใช้เวลาเนิ่นนานเช่นกันกว่าท่านจะกล้าเรียกเฮ่อเหลียนมาบอกกล่าว
สุดท้ายมารดาก็เลือกที่จะบอกความจริงแก่นางก่อนรับตัวฟางเอ๋อร์เข้าบ้านเพียงวันเดียว
ฟางเอ๋อร์ยินยอมเป็นเพียงอนุต่ำต้อยไร้เกียรติ เพื่อสร้างทายาทให้เขา การแต่งอนุที่แสนเรียบง่ายและรวดเร็วจึงเกิดขึ้นภายในหนึ่งวันเท่านั้น
ทุกสิ่งเกิดขึ้นตามความประสงค์ของบิดา ผู้เป็นใหญ่ที่สุดในคฤหาสน์หลี่ และตัวเขาก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
รอยยิ้มพิมพ์ใจที่มักจะประดับบนใบหน้าของเฮ่อเหลียนถูกช่วงชิงให้ดับสูญไปแล้วเมื่อสองปีก่อน ยามที่เขาแต่งอนุคนแรกเข้ามา
เป็นความจริงที่ว่าเขารู้ดีถึงความเสียใจของภรรยา
แต่ทว่า เขายังคงคิดเข้าข้างตนเอง ว่านางย่อมเข้าใจทุกเรื่องราวในอีกไม่ช้า
เฮ่อเหลียนเป็นสตรีใจกว้าง มีเมตตา มีน้ำใจ นางมีนิสัยเรียบร้อยอ่อนโยนและอ่อนหวานน่ารัก เข้าอกเข้าใจผู้อื่นอยู่เสมอ
นางย่อมเข้าใจได้เองถึงความจำเป็นของเขา เกี่ยวกับปัญหาเรื่องทายาทสืบสกุล และความกดดันที่เขามี โดยมิต้องบอกกล่าวหรือสาธยายให้มากความ
เขาเพียงรับอนุต่ำศักดิ์ หาใช่ภรรยารองที่มีฐานะใกล้เคียงกับสตรีในดวงใจ
นางย่อมรับได้ในทุกการกระทำของเขา
ในคืนแรกที่เข้าหอกับฟางเอ๋อร์ เขายอมรับว่าเมาเหล้า จนเสียการควบคุมตัวตน
ความยับยั้งชั่งใจใดๆ แน่นอนว่าไม่มี
ถึงแม้จะสร่างเมาแต่อารมณ์ร้อนเร่ายังค้างคา เขาจึงทำตามความรู้สึกแห่งอารมณ์เพศเท่านั้น ไม่นับว่าเป็นอะไร
ฟางเอ๋อร์เป็นสตรีที่งดงาม รูปร่างเย้ายวนใจ ทั้งยังรู้สึกแปลกใหม่ในทุกสัมผัส เขาร่วมรักกับนางตามอารมณ์กำหนัดของตนเองก็เท่านั้น
การตอบสนองของร่างกายยามถูกกระตุ้นนับเป็นเรื่องสามัญ ไม่มีชายใด มัวคิดเล็กคิดน้อยกับอนุของตัวเอง
ทว่าเช้าวันนั้น จู่ๆ เฮ่อเหลียนก็เข้ามา นางยืนมองเขาที่กำลังทำกิจกรรมกับฟางเอ๋อร์อย่างไร้มารยาท
เขารู้สึกตกใจมาก ทั้งยังอับอายยิ่ง แต่ก็พยายามทำตัวสงบนิ่งอย่างที่สุด เพื่อควบคุมสถานการณ์อันพึงกระทำ
การที่ชายผู้หนึ่งจักมีภรรยามากกว่าหนึ่งคน เขาจำต้องคุมเชิงเหล่าสตรีในอาณัติให้อยู่หมัด ไม่อาจสั่นคลอนหรือแสดงอาการหวั่นไหวใดๆ ทั้งสิ้น
วันนั้นฟางเอ๋อร์กรีดร้องอย่างรับไม่ได้ที่ถูกพบเห็นในท่วงท่าน่าอาย ตัวเขาก็รู้สึกรับไม่ได้เช่นกัน แต่เมื่อเห็นน้ำตาของเฮ่อเหลียน เขาจึงทำได้เพียงเช็ดน้ำตาให้นาง ไม่อาจทำอันใดได้มากไปกว่านั้น เนื่องจากสตรีอีกคนที่มีความสำคัญต่อการคงอยู่ของเฮ่อเหลียน กำลังร้องร่ำว่าจะกลับบ้าน ไม่ร่วมสร้างทายาทอีก
หลังจากเฮ่อเหลียนคล้ายกับปรับอารมณ์ของนางได้แล้ว นางยังกำชับเขาว่าควรดูแลฟางเอ๋อร์ให้ดี ให้เขาอยู่กับนางที่นี่ เพื่อสร้างทายาทของบ้าน
เขาจึงอยู่ปลอบใจฟางเอ๋อร์ตามนั้น ส่วนเฮ่อเหลียนก็กลับเรือนไป
ตัวเขาไหนเลยจักคิดอันใดให้มากความ...
ทว่าเรื่องราวกลับไม่จบเพียงเท่านั้น เมื่อเฮ่อเหลียนเกิดมีปากเสียงกับบิดาของเขา ในเรื่องที่ซือจิงถูกโบย นางประกาศกร้าวว่าจะจากไป ทั้งยังร่างหนังสือหย่าเอาไว้ ซึ่งเขาไม่มีวันลงตราประทับให้อย่างแน่นอน
เขาพยายามรั้งนางไว้ พยายามคุยกับนางให้ใจเย็นๆ เตือนสติว่านางใจร้อนเกินไป
แต่นางกลับเงียบงันไร้วาจาใด ไม่ตัดพ้อ ไม่ต่อว่า มีเพียงเดินหน้าออกประตูบ้านอย่างดื้อรั้น
เขาเห็นว่านางกำลังโกรธกรุ่นจึงบันดาลโทสะด้วยอารมณ์ชั่ววูบก็เท่านั้น จึงได้ปล่อยนางไปก่อน
สินเดิมของนาง เขายังคงดูแลให้อย่างดี รอเพียงเวลา ให้นางได้ใจเย็นลง นางย่อมกลับมา
เหตุการณ์นั้นผ่านไปสามวัน เขาคิดจะไปรับนางกลับมา
แต่ทว่ากลับถูกบิดาห้ามเอาไว้ ด้วยท่านแน่ใจเหลือเกินว่าเฮ่อเหลียนยังไม่หายโกรธ หากกลับมายามนี้ อาจจะอยู่ร่วมกับฟางเอ๋อร์ลำบาก บิดาจึงสร้างเงื่อนไขว่าควรให้ฟางเอ๋อร์ตั้งครรภ์เสียก่อน เฮ่อเหลียนถึงจะกลับมาเป็นภรรยาเอกได้อย่างสบายใจ
นั่นจึงทำให้เขาต้องร่วมเตียงกับฟางเอ๋อร์อย่างต่อเนื่องถึงสามเดือน
กระทั่งฟางเอ๋อร์มีอาการผิดปกติ คล้ายว่านางตั้งครรภ์
เขาจึงเตรียมการอย่างดีพร้อม สั่งให้หมอประจำคฤหาสน์ลาพักผ่อน แล้วพานางเดินทางไปหาหมอที่อยู่ใกล้กับบ้านเฮ่อ
หากฟางเอ๋อร์ตั้งครรภ์ เขาก็จะเดินทางไปรับเฮ่อเหลียนในทันที ไม่เปิดทางให้บิดาสรรหาเหตุผลอันใดให้ต้องรั้งรอนานกว่านี้
เมื่อรู้ผลเป็นที่แน่นอน จึงออกมาจากโรงหมอ ประจวบเหมาะกับเจอเข้ากับเฮ่อเหลียน ทุกสิ่งคล้ายเป็นใจ วันนั้นเขาจึงได้ตัวหญิงคนรักกลับคืนมา
การร่วมรักกับเฮ่อเหลียน เขากระทำอย่างลึกซึ้ง หวานล้ำ กระทำจากความรู้สึกรักแห่งก้นบึ้งของหัวใจไม่เคยเปลี่ยนนางไร้ทายาทแล้วอย่างไร?ไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็ยังรักนาง…ทว่าบิดาของเขากลับเห็นต่าง เนื่องจากบ้านหลี่มีเขาเป็นทายาทเพียงคนเดียว ท่านเป็นห่วงเหลือเกินว่าสกุลหลี่จะดับสูญ ไร้บุตรหลานสืบสาน ผสานสองสิ่งที่ยึดถือ หนึ่งกตัญญู สองไม่เนรคุณ คำสั่งเด็ดขาดจากบิดาจึงเกิดขึ้นในที่สุด พร้อมเหตุผลที่พึงมีต่อบุพการีและบรรพชนอีกประโยคที่เสมือนฟางเส้นสุดท้ายสำหรับเขา บิดาจะปลดเฮ่อเหลียนจากการเป็นภรรยา ให้เป็นเพียงอนุของเขา ในข้อหาไร้ความสามารถ ไม่มีทายาทสืบสกุล และจะให้เขาแต่งภรรยาคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทนนั่นจึงทำให้เขายอมตามใจบิดาทุกสิ่ง ด้วยเงื่อนไขว่าขอให้เฮ่อเหลียนยังอยู่ตำแหน่งเดิม เขาขอแค่รับอนุให้ก็เท่านั้นบิดาพาเขาไปเฟ้นหาสตรีที่ดีพร้อม อันเหมาะสมกับตำแหน่งแม่ของลูกเขาจนกระทั่งได้เจอกับฟางเอ๋อร์ นางเป็นบุตรสาวของญาติฝ่ายบิดา มีสายสัมพันธ์อันดีต่อกัน นับเป็นญาติผู้น้องของเขา บ้านนี้มีลูกหลานหลายคน จึงลงตัวยิ่งนักเขามองออกว่าฟางเอ๋อร์ตกหลุมรักเขาเมื่อแรกเห็น ทว่าเขากลับมิได้ใส่ใจ แต่กระ
หญิงสาวยืนอยู่หน้าเตียงฉ่ำเลือดที่เมื่อครู่มีศพของเจ้านายอันเป็นที่รักอยู่ สายตาเลื่อนลอยมองเหม่อเอื่อยเฉื่อยไปที่ผืนผ้าบิดเบี้ยวบนคานหลังคาผ้าผืนนี้ เมื่อห้าวันก่อนหน้า ยังเป็นสิ่งที่เฮ่อเหลียนใช้ยึดเหนี่ยวเพื่อเบ่งคลอดคุณชายน้อยออกมาแต่ยามนี้ ซือจิงจะใช้มันเพื่อปลดปล่อยตนเองไปพี่ซือจิง ข้าหิวข้าวพี่ซือจิง ข้าเก่งหรือไม่พี่ซือจิง ข้ารักพี่ที่สุดเลยพี่ซือจิง ข้า...ไม่ไหวแล้ว ทรมานเหลือเกินเส้นเสียงกังวานใสในวันวาน สุดท้ายคงเหลือเพียงน้ำเสียงสั่นเครือร่ำไห้ในวันนี้โธ่เอ๋ย! เด็กดีของพี่ซือจิง...สาวใช้ผู้ภักดีไม่คิดจะใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างเดียวดาย นางคิดจะตามไปดูแลนายสาวยังที่ไกลแสนไกล ไม่แม้แต่จะคิดใคร่ครวญบ้านหลังน้อยเก่าคร่ำ พลันปรากฏศพของหญิงสาวผู้หนึ่ง ตายในสภาพแขวนคอที่ขื่อเรือน…...บนเส้นทางทอดยาว สองข้างทางรกร้างว่างเปล่า มีเพียงทุ้งหญ้าเหี่ยวเฉา แห้งแล้งอ้างว้าง ไร้ชีวิตชีวาร่างสูงรู้สึกชาหนึบครั้งแล้วครั้งเล่า และยิ่งโศกเศร้าเมื่อครั้งนี้เขาตามภรรยากลับมาได้สำเร็จหากแต่นางกลับไร้ลมหายใจไม่คิดอยู่กับเขาเหมือนเช่นวันวานการเดินทางผ่านไปไม่กี่วัน หลี่ชางก็นำศพของเฮ่
สายตาคมเข้มของหลี่ชางยังคงไม่อาจละออกจากร่างขาวซีดที่มีเลือดสีแดงฉานเปื้อนเปรอะแต่อย่างใดชายหนุ่มยังคงจ้องนิ่งที่ร่างไร้ลมหายใจของเฮ่อเหลียนสตรีที่เขารักเพียงหนึ่งเดียวไม่เปลี่ยนแปลง“เหลียนเอ๋อร์” หลี่ชางทรุดตัวลงข้างกายภรรยา พยายามเรียกนางอีกครา หวังเพียงว่านางจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ตื่นขึ้นมามองเขา...จะมองด้วยสายตาอย่างไรก็ช่าง ขอเพียงนางตื่นขึ้นมาจะด่าจะว่าหรือจะเย็นชา เขาล้วนยินดี ขอแค่ชีวิตนี้ยังมีนางอยู่ ไม่หายไปหากนางแค่หนีเขาไป เขาแค่ตามกลับมา จากนั้นก็ได้อยู่ด้วยกัน นางควรเข้าใจเขา ควรเข้าใจเรื่องจารีตประเพณีพึงปฏิบัติ มิใช่ทำกับเขาเช่นนี้เหตุใดต้องทิ้งเขาไปอย่างไม่ไยดี เหตุใดไม่เข้าใจเขาหลี่ชางปิดเปลือกตาลง พยายามซ่อนหยดน้ำตาร้อนผ่าวที่หางตา ข่มความรู้สึกแตกสลายในอกอย่างยากลำบากเพราะบางที...อาจเป็นตัวเขาเองที่ไม่เข้าใจอะไรชั่วขณะที่รอบด้านเงียบงันคล้ายวังเวง เสียงร่ำไห้พลันดังขึ้นอย่างเดือดดาล“เจ้าพอใจแล้วหรือยัง เจ้าคนชั่ว!”เสียงนั้นเป็นของซือจิง นางชี้นิ้วกราดมาทางหลี่ชาง พลางอุ้มทารกน้อยในห่อผ้าส่งให้เขา“เจ้าอยากได้นักมิใช่หรือไร? นี่ปะไร ลูกชายของเจ้า”ชา
หลายเดือนทีเดียวที่หลี่ชางออกตามหาเฮ่อเหลียนอย่างบ้าคลั่งไม่กินไม่นอนเขากลับมาจากสะสางปัญหาร้านค้า ก็มาเจออนุภรรยากับมารดาของเขาทะเลาะกัน ด้วยเรื่องราวบานปลาย บุตรสาวตัวน้อยเจ็บป่วย และภรรยาเอกของเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในยามนั้น หลังเรือนของเขาจะวุ่นวายปานใด ชายหนุ่มหาได้ใส่ใจ เพราะสตรีอันเป็นที่รักได้หายตัวไปหลังจากที่นางตั้งครรภ์ลูกของเขาเศษซากยาบำรุงครรภ์ถูกพบในห้องของนาง มันถูกซุกซ่อนเอาไว้อย่างดีในมุมลับตา หากเขาไม่เข้ามาตามหาตัวนางทุกซอกทุกมุมในเรือนก็คงไม่มีทางได้ล่วงรู้จากนั้นเขาก็ออกตามหานางทั้งวันทั้งคืน ไปหานางที่บ้านเฮ่อ ที่นั่นไม่มีผู้ใดล่วงรู้ พวกเขาต่างพากันตกใจ ด้วยคาดไม่ถึงว่าเฮ่อเหลียนจะกระทำการเช่นนี้ และหนีไปทั้งที่ตั้งท้องเช่นนั้น ได้อย่างไร ทุกคนล้วนไม่เข้าใจหลี่ชางเองก็ไม่เข้าใจ เขาจึงออกตามหาภรรยาอย่างต่อเนื่อง รู้เพียงว่าซือจิงก็หายตัวไป ไม่ต้องคาดเดาก็คิดได้ ว่าเฮ่อเหลียนย่อมหนีไปกับซือจิงสาวใช้ผู้นี้ร้ายกาจไม่เบา ทำเอาเขาตามแกะร่องรอยของเฮ่อเหลียนอย่างยากลำบาก เขาตามหานางนานมาก จนเวลาผ่านไปหลายเดือน การค้าใดๆ เขาล้วนไม่ใส่ใจ คฤหาสน์จักวุ่นวายปานใด
สถานที่ลับตาจากหมู่บ้านในตัวเมืองซือจิงซุกซ่อนเฮ่อเหลียนเอาไว้ที่บ้านหลังน้อย เพื่อมิให้ชายผู้นั้นมาตามเจ้านายกลับไปได้อีก นางดูแลนายสาวอย่างยากลำบาก บางครายังต้องปลอมตัวออกไปหาซื้อยาบำรุงและอาหารมากักตุนร่างบอบบางของเฮ่อเหลียนแม้กำลังตั้งครรภ์ ทว่ากลับอ่อนแอลงเรื่อยๆซือจิงพยายามหายาบำรุงพร้อมอาหารอย่างดีมาให้เสมอ ด้วยเงินทั้งหมดทั้งของตัวเองและของคุณหนู กระทั่งขายเครื่องประดับทั้งหลายแต่ดูเหมือนว่าไม่ได้ผลแต่อย่างใดหลายเดือนผ่านไป...ในที่สุดเฮ่อเหลียนก็เจ็บท้องคลอด ร่างกายของนางอ่อนแอมาก นางนอนกรีดร้องครวญครางทั้งวันทั้งคืน ใบหน้างามมีเหงื่อผุดพรายไม่ขาดสายจวบจนย่างเข้าวันที่สี่ สีหน้าของเฮ่อเหลียนเขียวคล้ำจนน่าตกใจ กระทั่งหมอตำแยยังต้องลอบปาดเหงื่อตนเองเบาๆล่วงเข้าวันที่ห้า หญิงสาวทนทรมานแทบจะไม่ไหว ร่างกายของนางนี้บอบบางจนเกินไป หากแต่บุตรในครรภ์กลับตัวใหญ่โตเหลือเกินเส้นเสียงแหบแห้งกรีดร้องสั่นพร่า เฮ่อเหลียนทำได้เพียงหลั่งน้ำตาอย่างเจ็บปวด ร้องร่ำด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ทุกคำล้วนเรียกเพียงนามของชายในดวงใจหญิงสาวรอเพียงเขา หลี่ชาง...เฮ่อเหลียนเริ่มหมดเรี่ยวแรงลงทุกที แต่กระ
วันเวลาช่างประจวบเหมาะ ในที่สุดวันที่เฮ่อเหลียนรอคอยก็มาถึงหลี่ชางกับนายท่านผู้เฒ่าได้รับข่าวว่าหอการค้าต่างเมืองประสบปัญหา ต้องเร่งเดินทางไปกู้หน้าและช่วยกันแก้ไขโดยเร็วส่วนภายในบ้านก็มีอนุคนงามช่างเอาแต่ใจ พวกนางยังคงมีปากเสียงกันเสมอมา เดือดร้อนถึงฮูหยินผู้เฒ่าต้องคลี่คลายด้วยตนเอง เพราะเฮ่อเหลียนปิดประตูเรือนเงียบเชียบอย่างดื้อดึงไม่สนใจใครเพียงไม่นานก็ได้ยินข่าวสะเทือนขวัญ ว่าธิดาตัวน้อยของฟางเอ๋อร์เจ็บป่วยยากรักษาเมื่อภายในบ้านวุ่นวายจนบ่าวรับใช้ไม่เป็นอันทำงาน อีกทั้งมีบ่าวไพร่ถูกนายท่านพาไปนอกบ้านเสียส่วนใหญ่ นับได้ว่าหนทางช่างปลอดโปร่งโล่งสบายยิ่งนักเฮ่อเหลียนไม่คิดว่าจะมีโอกาสงามๆ เช่นนี้อีกแล้วนางจึงไม่คิดจะเสียเวลาไตร่ตรองอันใด วันนี้นับได้ว่าเป็นวันดีที่นางจะหนีออกไปจากนรกในใจแห่งนี้เสียทีก่อนหน้าเมื่อไม่นาน หญิงสาวแอบหาโอกาสส่งจดหมายไปหาซือจิง และก็ได้รับการตอบกลับมาแล้วเป็นอย่างดีไม่มีผู้ใดล่วงรู้เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนบ้านเฮ่อ หรือคนบ้านหลี่ นางล้วนไม่ยินดีให้ผู้ใดรู้ทั้งสิ้นเฮ่อเหลียนพาร่างระหงที่หน้าท้องเริ่มกลมนูนออกมาจากคฤหาสน์ด้วยประตูเล็กทางด้านหลังได้ส