"ดาริกา!"
สิ้นเสียงห้วนกระด้างที่ดังลอดไรฟันศรัณย์ก็ก้าวเข้าหาดาริกาทันทีทำเธอรีบถอยหลังหนีตามสัญชาตญาณ
"จะถอดเอง หรือให้ฉันเป็นคนถอดเลือกเอาดาริกา" เสียงห้วนกระด้างเอ่ยอีกครั้ง ขณะที่เท้ายังก้าวเข้าหาร่างบอบบางเรื่อย ๆ ใบหน้าคมเข้มดุดัน แววตาเกรี้ยวกราดจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างกดดันบ่งบอกให้รู้ว่าเขาจะทำจริง ๆ หากเธอยังดื้อรั้น
สีหน้าท่าทางของชายหนุ่มทำดาริกาหวั่นใจ แต่อีกเสี้ยวของความคิดและจิตใจยังนึกต่อต้านเพียงคิดถึงการกระทำร้าย ๆ ของเขา
เธอไม่ตอบโต้กลับวิ่งพุ่งตัวไปยังประตูหมายจะหนีให้พ้นคนใจร้ายเพราะยังไงเสียเธอจะไม่ยอมถอดเสื้อผ้าต่อหน้าเขาเด็ดขาด
"อ๊ะ!"
ทว่าวิ่งไม่ทันถึงประตูตัวก็เซถลาถอยหลังตามแรงกระชากของคนที่ตามมาทำให้ปะทะเข้ากับอกแกร่งเต็ม ๆ ใบหน้าจิ้มลิ้มเหยเกเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นแตกตื่นในเสี้ยววินาทีต่อมา
"อย่า..."
เธอร้องออกมาเสียงหลงดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจเพราะถูกอีกคนกระชากเสื้อสายเดี่ยวตัวจิ๋วสุดแรงจนขาดวิ่นติดมือ เผยให้เห็นทรวงอกใหญ่เกินตัวที่มีเพียงแผ่นแปะจุกติดปกปิดยอดถัน
เธออายจนต้องรีบยกมือข้างนึงปิดหน้าอก อีกข้างพยายามผลักอกเจ้าของการกระทำห่าม ๆ ปากร้องท้วงด้วยความโกรธ
"ปล่อยนะคุณศรัณย์ คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำลายของคนอื่นแบบนี้"
ดวงตากลมช้อนขึ้นมองใบหน้าคมเข้มอย่างหวาดระแวง รู้เต็มอกว่าชายหนุ่มจะทำอะไรต่อ ยิ่งออกแรงดีดดิ้น ทว่าแทนที่จะหลุดพ้นกลับถูกวงแขนแกร่งกอดรัดรอบเอวแน่นขึ้นจนลำตัวเธอและเขาแนบชิดกัน
"เธออยู่ภายใต้การปกครองของฉัน และตอนนี้เธอกำลังทำตัวไม่ดีฉันก็ต้องจัดการ"
"ฉันอยู่ในการปกครองของแม่คุณไม่ใช่คุณ ปล่อยนะคะ"
"ตอนนี้แม่ฉันไม่อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอำนาจการปกครองจึงเป็นของฉันแทน เธอควรเป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทของฉันนะดาริกา"
"งั้นคุณก็ควรทำตัวเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพนับถือสิคะ ไม่ใช่จ้องแต่จะทำร้ายกันแบบนี้"
"เถียงคำไม่ตกฟาก" ศรัณย์จ้องใบหน้าจิ้มลิ้มราวกับจะบดเธอให้ละเอียดด้วยสายตา สิ้นเสียงพูดก็ใช้มือข้างขวาจัดการกับกระโปรงยีนส์ของเธอ
"หยุดนะคุณศรัณย์" คนถูกรุกรานร้องห้ามเสียงหลงพร้อมด้วยหัวใจที่กระหน่ำเต้นแทบจะทะลุออกมานอกอก
มือผละจากหน้าอกมาผลักไสมือหนาที่กำลังวุ่นวายกับกระดุมกระโปรงยีนส์พัลวันพลางดีดดิ้นจนเนินอกใหญ่โตสั่นไหวเสียดสีแผงอกแกร่งเรียกความสนใจของอีกคนให้เลื่อนสายตาลงมอง
หน้าอกขาวผ่องขนาดใหญ่โตเกินตัวเจ้าของที่กำลังสั่นไหวตามแรงดิ้น และแรงหอบหายใจหนัก ๆ ทำศรัณย์ลำคอแห้งผากจนต้องรีบกลืนน้ำลายอึกใหญ่
คบกันมาตั้งนานเขาไม่เคยรู้เลยว่าผู้หญิงที่เมื่อก่อนเคยเป็นเด็กน้อยในสายตาเขาเสมอจะซ่อนรูปขนาดนี้
ที่เขาไม่รู้ว่าเธอซ่อนรูปเพราะเมื่อก่อนบังคับให้เธอใส่เสื้อผ้าตัวใหญ่เสมอ และถึงแม้จะเป็นแฟนกันมาสักระยะหนึ่งเขาก็ไม่เคยทำอะไรเกินเลยมีแค่กอดจูบหอมแก้มเท่านั้นตามประสาคู่รักที่ต้องมีบ้าง
เขาอยากให้เกียรติเธอกับแม่จึงไม่คิดทำเรื่องแบบนั้นจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม แต่ทุกอย่างกลับต้องพังย่อยยับด้วยน้ำมือแม่ของเธอเอง
พอนึกถึงหน้าเกสรแม่ของเธอก็ยิ่งทำให้โมโหเป็นทวีคูณจึงระบายอารมณ์ใส่คนตรงหน้าไม่หยั่ง
ปัดมือเล็กที่เอาแต่ผลักไสและพยายามดึงมือเขาออกจากขอบกระโปรงยีนส์ด้วยความรำคาญ ก่อนจะกระชากกระดุมอย่างแรงจนขาดกระเด็นทำเอาดาริกาหน้าแตกตื่น
"คุณศรัณย์! ทำแบบนี้มันจะเกินไปแล้วนะ ถ้าพ่อคุณกลับมาฉันจะฟ้องให้หมดว่าคุณทำอะไรกับฉันไว้บ้าง" ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรมากไปกว่านี้เธอรีบเอาเรื่องพ่อของเขามาขู่ด้วยหวังว่าเขาจะเกรงใจพ่อตัวเองบ้างจะได้เลิกทำอะไรบ้า ๆ กับเธอ
แต่เหมือนจะต้องผิดหวังเมื่ออีกคนเค้นหัวเราะในลำคอพร้อมด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันมุมปาก
ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นที่ห้องอาหารรุ่นพี่หนุ่มก็เปลี่ยนไป เวลาเจอกันก็ทำเหมือนไม่รู้จัก หรือเดินหนีไปเลยคงจะโกรธหรือไม่ก็เกลียดกันไปแล้ว แต่เธอก็เข้าใจได้"ช่างเถอะยังไงพี่เขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเราอยู่แล้ว ไปเรียนเถอะถึงเวลาแล้ว" มิ้นท์ตัดบทเมื่อก้มมองนาฬิกาบนข้อมือเห็นว่าถึงเวลาเรียนแล้วจากนั้นทั้งสามก็พากันเดินขึ้นห้องเรียน เรียนเสร็จก็แยกย้ายกลับบ้านตัวเอง-บ้านพิทักษ์ธรานนท์-"ที่บ้านมีงานอะไรกัน" ดาริกาพึมพำด้วยความสงสัยเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วเห็นบริเวณลานสนามหญ้าหน้าบ้านมีโต๊ะอาหารทรงกลมวางอยู่สี่ห้าโต๊ะ รอบ ๆ มีการตกแต่งด้วยดอกไม้และลูกโป่งสีสันสดใส เหล่าแม่บ้านกำลังทำงานกันให้ขวักเธอเดินเข้าไปในบ้านเมื่อเห็นแม่บ้านกำลังเดินผ่านไปจึงถามไถ่ "มีงานอะไรกันเหรอคะ""งานวันเกิดคุณแป้งค่ะ น้องดาไม่รู้เหรอ""ไม่รู้ค่ะ" เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของแป้ง ไม่เห็นมีใครพูดถึงเลยหรือไม่ก็พูดแต่เธอไม่รู้ แต่คงไม่แปลกเพราะทุกวันนี้เธอแทบจะไม่มีตัวตนในบ้านหลังนี้ หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผู้เป็นแม่กับเกรียงศักดิ์ก็หมางเมินใส่เธอพูดด้วยเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนศรัณย์ก็เอาแต
หนึ่งเดือนต่อมาดาริกาตื่นขึ้นมาในเช้าของวันใหม่ภายในอ้อมกอดของผู้ชายใจร้ายที่เห็นเธอเป็นเพียงที่ระบายอารมณ์ระบายความใคร่เธอค่อย ๆ พลิกตัวเข้าหาคนที่นอนกอดเธออยู่ด้านหลัง จับจ้องใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพปั้นด้วยความรู้สึกเจ็บช้ำ เกิดคำถามในใจซ้ำ ๆ ว่าเขาไม่รักเธอตั้งแต่ตอนไหนทำไมถึงใจร้ายใส่กันได้มากขนาดนี้เขารังแกเธอทุกทางไม่เคยจะปราณีกันสักครั้ง รังแกทางร่างกายเธอยังพอทนไว้ แต่รังแกจิตใจกันเธอแทบทนไม่ไหวกลางวันเธอต้องทนเห็นเขาแสดงความรักกับว่าที่คู่หมั้น แต่พอตกกลางคืนกลับย่องมาหาเธอที่ห้อง มาตักตวงความสุขจากร่างกายเธอแทบทุกคืนในสถานะเมียน้อยที่เขายัดเยียดให้น้ำสีใสค่อย ๆ รินไหลออกจากดวงตาอย่างกลั้นไม่อยู่จนต้องรีบยกมือขึ้นเช็ด แล้วค่อย ๆ ยกท่อนแขนแกร่งที่พาดบนเอวออกพาตัวลงจากเตียงคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำเสร็จเธอก็ออกมาแต่งตัว แล้วเดินไปปลุกคนที่นอนหลับไหลอย่างสบายอยู่บนเตียง"คุณศรัณย์ตื่น เช้าแล้วนะ" ร้องเรียกพลางยื่นมือไปเขย่าไหล่เบา ๆ"อือ..." คนถูกปลุกฮึมฮำในลำคอแสดงสีหน้าหงุดหงิดทั้งที่เปลือกตายังปิดอยู่จนดาริกาต้องยื่นมือไปเขย่าไหล่ซ้ำ"ตื่นค่ะคุณศรัณย์""เธอจะเข
"ถ้าไม่เชื่อผมเปิดคลิปให้ดูได้นะครับ" ศรัณย์ล้วงไปหยิบมือถือในกระเป๋ากางออกมาเพื่อเปิดคลิปยืนยันเมื่อประทีปแสดงสีหน้าคลางแคลงใจ"พอได้แล้วศรัณย์ เลิกบ้าสักที" เกรียงศักดิ์ตวาดลั่นก่อนที่บุตรชายจะทำอะไรเลว ๆ "คลิปอะไรศรัณย์" ประทีปไม่สนว่าพ่อลูกจะทะเลาะกัน แต่เขาอยากรู้ว่ามันเรื่องอะไรกันแน่"คลิปผมกับดาริกาตอนมีอะไรกันครับ"ประทีปกับวลีอึ้งเป็นครั้งที่สองหันมองหน้าเด็กสาวเชิงตั้งคำถาม "จริงเหรอหนูดา ที่ศรัณย์พูดเป็นความจริงเหรอบอกป้าหน่อย"คนถูกถามได้แต่ก้มหน้าเพราะอับอายเกินกว่าจะพูดออกไปได้ แต่เพียงเท่านี้ประทีปกับวดีก็รู้แล้วประทีปผุดลุกขึ้นยืนชี้หน้าเกรียงศักดิ์ด้วยความโกรธ "มึงทำแบบนี้ได้ไงไอ้ศักดิ์ ยังเห็นกูเป็นเพื่อนอยู่ไหม""ใจเย็น ๆ ไอ้ทีปฟังฉันก่อน" เกรียงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนพยายามบอกให้ประทีปใจเย็น"กูไม่ฟังอะไรทั้งนั้น มึงเห็นกูกับเมียเป็นคนโง่นี่ถ้าศรัณย์ไม่พูดพวกกูคงถูกมึงหลอก นับจากนี้ไปมึงกับกูไม่ใช่เพื่อนกัน" เอ่ยกับเพื่อนทรยศจบประทีปก็หันไปออกคำสั่งกับเมียและลูก "กลับ!""ใจเย็น ๆ ก่อนครับพ่อ" โจพยายามบอกให้คนเป็นพ่อใจเย็น เขาไม่ต้องการให้งานแต่งครั้งนี้ล้มเลิก"อย่
การคุยเรื่องแต่งงานของทั้งสองฝ่ายเป็นไปได้ด้วยดีกระทั่งประตูห้องอาหารถูกเปิดออกแกร๊ก!ทุกคนภายในห้องพากันขมวดคิ้วหันมองไปที่ประตูอย่างพร้อมเพรียงกัน "ศรัณย์.."เกรียงศักดิ์กับเกสรตาเบิกกว้างหน้าถอดสีเมื่อเห็นหน้าคนที่เปิดประตูเข้ามา กลัวว่าบุตรชายจะมาทำให้เสียเรื่อง ขณะที่ดาริกากลับนิ่งเฉยเพราะไม่ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นมันคงไม่แย่กว่าที่เป็นอยู่แล้วศรัณย์มองใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างคาดโทษ ก่อนเลื่อนสายตามองหน้าผู้เป็นพ่อสลับกับเกสรพร้อมยกยิ้มมุมปากอย่างคนเหนือกว่า ทั้งสองคงคิดว่าปิดหูปิดตาเขาจากเรื่องการแต่งงานของหญิงสาวได้สินะ และคงกลัวว่าเขาจะขัดขวางถึงได้นัดกันมาคุยข้างนอก แต่เขามันคนโชคดีเมื่อวันก่อนดันบังเอิญได้ยินผู้เป็นพ่อคุยโทรศัพท์กับลุงประทีปเรื่องจะให้หญิงสาวแต่งงานกับลูกของท่านแน่นอนว่าเขาจะไม่ปล่อยให้ผู้เป็นพ่อ และเกสรสมหวังสักเรื่องจะคอยขัดขวางทุกทาง"แกอย่ามาสร้างเรื่องที่นี่" เกรียงศักดิ์กดเสียงเอ่ยเบา ๆ ให้พอได้ยินแค่สองคน ถามว่าศรัณย์ฟังไหมตอบเลยว่าไม่"เจอกันอีกแล้วนะโจ" หันไปจ้องโจที่กำลังมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจก่อนจะระบายยิ้มยี้ยวนให้ เขาดูไม่แปลกใจที่เจอโจเ
วันต่อมาดาริกาได้ออกจากโรงพยาบาลประมาณช่วงบ่ายโดยคนที่มารับเธอกับแม่คือเกรียงศักดิ์ เธอควรดีใจที่ได้กลับบ้าน แต่ไม่เลยความรู้สึกของเธอเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมถ้าเลือกได้เธออยากอยู่โรงพยาบาลต่อมากกว่า "ตอนเย็นผู้ใหญ่ทางฝั่งนู่นจะมาคุยเรื่องการแต่งงานนะ หนูดาเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ"คำบอกล่าวจากเกรียงศักดิ์ที่กำลังขับรถอยู่ทำให้หัวใจดวงน้อยปวดหนึบ น้ำสีใสพลันเอ่อคลอดวงตาจนเธอต้องรีบหันหน้ามองออกไปนอกกระจกรถกลัวว่าเกรียงศักดิ์กับแม่ที่นั่งคู่กันด้านหน้าเห็นนี่เธอต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก หนำซ้ำยังไม่รู้จักจริง ๆ เหรอ ทำไมทุกอย่างจึงมาถึงจุดนี้ได้มันเป็นเพราะแม่เพราะเธอหรือเพราะชายหนุ่มกันแน่ แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะใครสุดท้ายคนที่รับกรรมก็มีแค่เธอคนเดียว ทำไมถึงเป็นเธอที่ต้องแบกรับทุกอย่างเธอปิดตาลงพยายามกลั้นน้ำตาไว้ แต่สุดท้ายมันก็ยังรินไหลออกมาอยู่ดี หลายวันมานี้ไม่มีวันไหนเลยที่เธอไม่ร้องไห้เหมือนกับน้ำตาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้วความสุขหน้าตาเป็นยังไง และให้ความรู้สึกยังไงเธอไม่ได้สัมผัสมันมาหลายเดือนแล้วจนเริ่มจำไม่ได้เปลือกตาบางปรือขึ้นเมื่อรถจอดนิ่ง เธอลอบถอนหายใจออกมาครั้นเห็
"ทำไมคุณต้องพูดจารุนแรงใส่น้องสาวตัวเองด้วย สิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นแบบที่คุณคิดนะครับ" เขาพยายามอธิบาย แต่กลับทำให้คนฟังยิ่งเลือดลมขึ้นหน้าเพราะหญิงสาวบอกกับคนอื่นว่าเขาเป็นพี่ชายทั้งที่ความจริงไม่ใช่ เหมือนกับเธอปกปิดสถานะของเขาเพราะแคร์ไอ้หน้าอ่อนที่ยืนอยู่ หรือไม่ก็กำลังคบกันคงกลัวมันรู้แล้วจะทิ้งไป"ดาริกาบอกมึงว่ากูเป็นพี่ชายเหรอ" กดเสียงแข็งกระด้างถาม สายตาจับจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มราวกับจะกินหัว"ใช่ครับ" โจตอบตามความจริง เขาเคยเห็นชายหนุ่มมาส่งรุ่นน้องสาวที่มหาวิทยาลัยเมื่อหลายเดือนก่อนจึงถามไถ่ เธอบอกว่าเป็นพี่ชายเขาก็เชื่อสนิทใจ"งั้นมึงก็รู้ไว้ด้วยว่ากูเป็น 'ผัว' ดาริกาไม่ใช่พี่ชาย" ศรัณย์เน้นคำว่าผัวใส่หน้าโจทำเอาเขางงเป็นไก่ตาแตกหันมองหน้ารุ่นน้องสาวขอคำยืนยัน "จริงเหรอครับน้องดา"มะ...""ถ้าไม่เชื่อกูพิสูจน์ให้ดูได้นะ" ดาริกาไม่ทันตอบศรัณย์ก็พูดแทรกขึ้น ไม่ว่าเปล่ายังเดินเข้าหาคนบนเตียงโน้มใบหน้าลงหมายจะจูบเธอ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะถูกอีกคนดึงคอเสื้อด้านหลังแล้วลากให้ออกห่างคนบนเตียงศรัณย์แกะมือโจออกจากคอเสื้อพร้อมกับจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง โจจ้องตอบไม่เกรงกลัว"ไม่ว่าคุณจะอย