Masukมิลินค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาเหม่อมองเพดานสีขาวที่ไม่คุ้นเคย สมองของเธอกำลังประมวลผลเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ก่อนที่หญิงสาวจะมองไปยังท่อนแขนใหญ่ที่พาดอยู่บนเอวคอดของเธอ
“หนักเป็นบ้าเลย...”
มิลินพึมพำเสียงเบาเพราะกลัวคนที่นอนกอดรัดเธออยู่ด้านหลังๆจะได้ยิน เธอค่อยๆยกท่อนแขนแกร่งนั้นออกจากเอวของเธออย่างระมัดระวัง
“อ่า...เจ็บชะมัด”
มิลินบ่นอุบอิบรู้สึกโกรธเคืองคาร์เตอร์ที่ลักพาตัวเธอมาขมขื่นแบบนี้ หญิงสาวรู้สึกเสียรู้เขาเป็นอย่างมากเมือเขาปล่อยให้เธอตายใจและล่อเธอมาติดกับดักเขาแบบนี้
หญิงสาวนึกโทษตัวเองที่เป็นสาเหตุให้เพื่อนรักอย่างวาโย และ คิว ต้องมาเดือดร้อนไปด้วย แต่ที่มิลินรู้สึกผิดและเป็นห่วงที่สุดคงจะหนีไม่พ้น พริบพราว ที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นตายร้ายดียังไง
“อะ..โอ๊ยย..อุ๊บ!"
มือบางรีบตะครุบปากตัวเองทันทีที่ตัวเธอรีบลุกขึ้นนั่งอย่างกะทันหัน ใบหน้าหวานหันหลังกลับมามองคนตัวโตที่นอนหลับอยู่ทันที เพราะเมื่อกี้เธอเผลอส่งเสียงร้องดังออกมา
เมื่อคาร์เตอร์ยังคงหลับสนิท มิลินก็หันกลับมาสอดส่ายสายตามองไปทั่วห้องหากระเป๋าสะพายของตัวเอง ตอนนี้เธอเพียงต้องการมือถือแค่เครื่องเดียวเท่านั้น เพราะใจเธอกำลังร้อนรนต้องการจะโทรหาพริบพราวด้วยความเป็นห่วง
มิลินหันกลับมาจ้องมองคาร์เตอร์ด้วยสายตาที่เกลียดชังอีกครั้ง หญิงสาวไล่สายตามองไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาราวเทพบุตร สันจมูกโด่งที่ได้รูป ริมฝีปากหยักที่เขาใช้บดขยี้ริมฝีปากของเธอจนบวมเจ่อ ก่อนจะไล่สายตาต่ำลงมาจนถึงรอยสักรูปมังกรที่หน้าอกข้างขวาที่ขนาดตัวยาวลงมาถึงมัดกล้ามหน้าท้องแกร่ง และมองเลยไปยังอาวุธร้ายที่ตอนนี้นอนหลับใหลอยู่ใต้ผืนผ้าห่มสีดำที่มันได้ทำลายความบริสุทธิ์ของเธอไป
'เสียดาย...'
มิลินจ้องมองใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับพระเจ้าประทานมาให้ แต่ผิดกับนิสัยที่เลวร้ายราวกับซาตานเป็นคนมอบให้เขามา มือบางบีบเข้าหากันแน่นเมื่อคิดถึงตรงนี้หยาดน้ำตาของก็พานจะไหลออก
“ฮึก...”
มิลินพยายามสกัดกั้นน้ำตาไว้ไม่ให้มันไหล ก่อนที่เธอกวาดสายตามองหากระเป๋าสะพายอีกครั้งแต่ก็พบเพียงแต่ความว่างเปล่า ซึ่งเธอสามารถเดาได้ไม่ยากว่าใครเป็นคนซ่อนกระเป๋าของเธอไป พลันสายตามองดูเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายไปทั่วพื้นห้อง ซึ่งสภาพมันตอนนี้คงจะกลับมาสวมใส่ไม่ได้อีก
มิลินตัดสินใจค่อยๆลุกออกจากผ้าห่มผืนบางอย่างระมัดระวัง ตอนนี้เธอต้องการเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายโดยเฉพาะคราบเหนียวเกรอะกรังที่บริเวณใจกลางความเป็นสาว และโคนขาอ่อนของเธอ
“ซี๊ดดด โอ๊ยย...”
เพียงแค่ขยับตัวลุกมิลินก็รู้สึกเจ็บแปลบตรงใจกลางความเป็นสาวและปวดร้าวลงมาที่ขาราวกับมันจะไม่มีแรง หญิงสาวเดินพยุงจับไล่ไปตามผนังห้องด้วยขาที่สั่นเทาจนมาถึงห้องน้ำได้สำเร็จ
“อึก...”
มิลินจ้องมองสภาพตัวเองในกระจก ที่ตอนนี้ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยร่องรอยขบเม้มเป็นจุดสีแดงช้ำทั่วเนื้อตัว โดยเฉพาะที่เนินหน้าอกใหญ่ที่มีรอยฟันคมเต็มทุกพื้นที่ ไม่พ้นแม้กระทั่งเรียวขาที่เขายังฝากทิ้งรอยไว้ และร่องรอยบาดแผลมันก็ตอกย้ำความเจ็บปวดยิ่งทำให้ความรู้สึกดิ่งลึกลงไป
“ฮึกกก...ฮืออออ”
มิลินไม่สามารถกั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป มือบางยกขึ้นมาปิดใบหน้าสวยและปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาตามห้วงอารมณ์ เมื่อเธอไม่อยากเห็นสภาพของตัวเองอีกต่อไป เพราะยิ่งเธอมองรอยแดงช้ำพวกนั้นมันก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกรังเกียจตัวเอง
แกร๊กกก
“!”
มิลินที่นั่งแช่น้ำอุ่นในอ่างจากุชชี่รีบหันหน้าไปยังต้นเสียงทันที เมื่อประตูห้องน้ำที่เธอกดล็อกไว้มันถูกเปิดออกโดยที่เธอไม่ได้รับอนุญาต
มาเฟียหนุ่มเดินเข้ามาในห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูพันรอบเอวไว้อย่างหมิ่นเหม่ เขามีหยดน้ำเล็กๆเกาะตามลำตัวทำให้รู้ว่าเขาก็พึ่งไปอาบน้ำมาเช่นกัน
มิลินลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อคาร์เตอร์เดินตรงเข้ามาหา และถอดผ้าขนหนูลงบนพื้นทำให้เห็นแก่นกายใหญ่ที่เคยหลับใหลก่อนหน้านี้มันตื่นตัวขึ้นมาชี้มายังใบหน้าเธอ
“ออกไปนะ! ออกไปเดี๋ยวนี้!” มิลินเปล่งเสียงร้อนรนรีบขดตัวกอดขาตัวเองไว้แน่น เพื่อไม่ให้มาเฟียหนุ่มเห็นเรื่องร่างเปลื่อยเปล่าของเธออีกครั้ง
“นี่มัน ห้องฉัน” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงกดต่ำ
"มะ..ไม่.."
คาร์เตอร์ค่อยๆเดินมาหาหญิงสาว ก่อนที่เขาจะเข้าไปประชิดตัวของเธอทันที ที่เท้าหนาก้าวลงมาในอ่างน้ำ
“ซี๊ดดด แสบ อย่าจับ!” หญิงสาวร้องขึ้นด้วยความเจ็บแสบ มือบางผลักไสมือหนาพัลวัน
คาร์เตอร์ใช้มือหนามือล้วงไปยังใจกลางความเป็นสาวของมิลิน เขาถูไถมันเบาๆราวกับกำลังทักทาย มิลินรีบบีบขาขาวไว้แน่น พยายามจับมือหนาไม่ให้ล้วงเข้าไปได้ เพราะมันยังระบบและเจ็บแสบ
“อืมส์~ เม็ดเธอ..มันนุ่มจัง”
ถ้อยคำลามกที่ออกจากปากของคาร์เตอร์ไม่ได้ทำให้มิลินรู้สึกเขินอายเลยสักนิด แต่มันกลับยิ่งทำให้เธอรู้สึกขยะแขยง รังเกียจคำพูดของเขาที่พ่นออกมา
“หยุดนะ! ไอ้คนชั่ว! ไอ้คนเลว..อ๊ะ!”
คาร์เตอร์รวบข้อมือหญิงสาวทั้งสองข้างไว้เหนือศีรษะด้วยมือหนาเพียงข้างเดียว และดันหลังเธอให้แนบชิดไปกับอ่างน้ำ ก่อนที่จะใช้มือหนาอีกข้างลูบไล้ริมฝีปากที่บวมเจ่อของหญิงสาวเบาๆอย่างคิดพิจารณา
“หึ ปากเธอ..นี่มันดีจริงๆเลยนะ”
“......”
“ฉันชักอย่างจะลอง...ว่าปากของเธอมันดีจริงๆไหม...”
“อ๊ะ!...ว๊ายยยย”
มิลินร้องเสียงหลงออกมาเมื่อคาร์เตอร์ช้อนตัวเธอขึ้นในท่าเจ้าสาวทำให้หญิงสาวตกใจและกลัวตกจนต้องรีบเอามือไปคล้องคอของมาเฟียหนุ่มทันที
“หึ”
คาร์เตอร์ขบขันกับท่าทางหวาดกลัวของมิลิน ก่อนที่เขาจะอุ้มเธอขึ้นและมุ่งตรงไปยังเตียงนอนและโยนตัวเธอลงบนเตียงนุ่มอย่างแรง
“นี่! มันเจ็บนะ ทำไมต้องโยนกันลงมาด้วย ว๊ายยยย”
คาร์เตอร์ไม่สนใจคำพูดของมิลินเขาตามขึ้นไปนั่งคร่อมตรงใบหน้าหวานทันที ในทิศทางที่มาเฟียหนุ่มหันใบหน้าไปยังปลายเท้าเล็ก และใช้ฝ่ามือหน้ากดที่หน้าอกของหญิงสาวไม่ให้เธอลุกหนีไปไหนได้ ก่อนที่เขาจะเอาท่อนเอ็นใหญ่ตีไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มแรงๆ จนเธอต้องเบ้หน้าหนีด้วยความเจ็บ
“ปากดีแบบนี้ ฉันชอบ”
“........” มิลินไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เธอเพียงจ้องมองคาร์เตอร์ด้วยสายตาที่เกลียดชัง
“ตอนนี้....ปากเธอหน้าโดนกระแทกมาก”
“.......” มิลินขึงตามองเม้มริมฝีปากไว้แน่นเหมือนกำลังต้องการท้าทายมาเฟียหนุ่ม
"อ๊าาา อย่างนั้นแหละมิลิน...ตรงนั้น แรงๆ" มือหนาลูบไล้ที่เรือนผมสวยเบาๆ มิลินก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ละเลงลิ้นรัว ก่อนที่หญิงสาวจะลากเรียวลิ้นไล่ลงมาหยุดที่พวงไข่สวรรค์ เลียลิ้นวนหยอกล้อไปมา และจูบซับมันเบาๆ ที่พวงไข่ทั้งสองข้างและดูดมันจนเกิดเสียงลามก จ๊วบบบ “ซี๊ดดด....อย่าเล่นแบบนั้น อ๊าาส์...มันเสียว” คาร์เตอร์รวบผมสวยไปทางด้านหลัง เพื่อจะมองใบหน้าหวานได้อย่างชัดเจน บ๊วบบบ.. บ๊วบบบ..! "อ้าส์ ๆ อ้าส์ๆ" คาร์เตอร์ครางกระเส่าอย่างสุขสม พึงพอใจกับปากเนื้อนุ่มที่ที่หยอกล้อเล่นกับพวงไข่สวรรค์ เขาส่งมือหนาอีกข้างลงไปบีบขยำเข้าที่หน้าอกอวบใหญ่ผ่านเนื้อผ้าอย่างแรง ก่อนที่มือหนาจะดึงรั้งเสื้อและบราเซียร์ของเธอขึ้นมากองอยู่บนเนินอก จนหน้าอกใหญ่โผล่พ้นออกมาทั้งสองเต้า ส่ายกระเพื่อมล่อสายตาคม ริมฝีปากอวบอิ่มลากผ่านเนื้อเอ็นแข็งจากโคนถึงปลายหัวเห็ดก่อนจะอ้าปากกว้างครอบลงมาที่ท่อนเอ็นยักษ์อีกครั้ง หญิงสาวโยกหัวขึ้นลงเป็นจังหวะ ส่วนฝ่ามือบางอีกข้างก็กอบกุมเข้าที่ท่อนเอ็นใหญ่ชักรูดขึ้นลงไปพร้อมๆกัน "โอ้วส์ อูววส์
ติ้ง.... “ไง.....มีอะไรให้ผัวช่วยไหม?” “!!” เมื่อมิลินมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์ ที่มีข้อความปรากฏขึ้นมาทำให้เธอหยุดคิดไปชั่วขณะ หญิงสาวยืนกำมัดแน่น เดาได้ไม่ยากว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้มีใครที่อยู่เบื้องหลัง “ลิน หนูเป็นอะไรไปลูก” “.....” “พี่ลินคะ” มินนี่ที่เห็นพี่สาวของเธอเงียบไปก็เอื้อมมือไปเขย่าที่ต้นแขนของพี่สาวเบาๆ “อ๊ะ..พี่ไม่ได้เป็นอะไร แม่ค่ะพอดีลินพึ่งคิดได้ว่าเรามีทางหาเงิน 2ล้านมาใช้หนีให้แม่ได้แล้วค่ะ แม่กับมินไม่ต้องกังวลแล้วนะคะ” มิลินสวมกอดแม่และน้องสาวพร้อมกัน เพื่อหลบซ่อนแววตาที่ไหววูบ เธอคิดว่านี่คงจะเป็นฝีมือของคาร์เตอร์ที่ต้องการจะบีบเธอ “ลินหนูพูดอะไรออกมาลูก หนูจะไปหาเงินเยอะแบบนั้นได้ที่ไหน” พุดซ้อนกอดตอบพลางลูบหลังลูกสาวตัวเองเบาๆอย่างสงสัย มิลินไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เธอเพียงคิดถึงใบหน้าคนที่เธอโกรธแค้น คนที่อ้างว่าเป็นเจ้าชีวิตของเธอ “งั้นแม่กับมิน รอหนูแป็บนะคะ หนูขอไปคุยโทรศัพท์ก่อน” Rrrrrn Rrrrrn “หึ” คาร์เตอร์ที่นั่งจิบไวน์อยู่ในรถยนต์
@1 สัปดาห์ผ่านไป[Part มิลิน] ฉันกลับมาอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว นอกจากฉันจะกลับมาทำบุญให้กับพ่อที่ฉันรัก ฉันก็อยากจะหลบหน้าหนีคาร์เตอร์ด้วย และตลอดหนึ่งสัปดาห์ เขาก็โทรมาหาฉันตลอด บังคับให้ฉันกลับไปหาเขาตามสัญญา ไหนจะส่งข้อความมาข่มขู่ฉันทุกวัน “มิลิน…เธอต้องกลับมาหาฉันตามสัญญา” เสียงทุ้มของเขาแผ่วต่ำผ่านสายโทรศัพท์ แต่กลับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกกดทับ “ฉะ..ฉันยังไม่พร้อมจะกลับไปหา” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่พยายามยืนยันความตั้งใจของตัวเอง “หึ..เธอคิดว่าเธอจะรอดจากฉันงั้นเหรอ” เขาพูดติดตะกุกตะกักเล็กน้อย แต่สายตาที่ฉันจินตนาการในหัว…มันเย็นเฉียบและน่ากลัวจนทำให้ฉันกลืนน้ำลาย ฉันถอนหายใจหนัก รู้ว่าทุกคำพูดของฉันจะถูกเขาจดจำและฉันก็ไม่อาจบังคับให้ตัวเองกลับไปหาเขาตามสัญญาได้ ฉันจึงตัดสินใจ…ไม่รับสาย ไม่ตอบข้อความของเขาอีกเลย จนเมื่อสามวันก่อน ข้อความสุดท้ายจากเขาส่งเข้ามาในโทรศัพท์ของฉัน “นี่คือโอกาสสุดท้ายของเธอ…ที่เธอจะหันหลังให้กับฉัน…” และเขาก็ยังใจดีส่งคำขู่ทิ้งท้ายไว้ให้ฉันอีกนะ เฮ้อ
@ห้องทำงานคาร์เตอร์ “คุณคาร์เตอร์ฉันขอกลับห้องได้ไหม พอดีว่าฉันจะต้องกลับบ้านที่ต่างจังหวัด....” หลังจากที่คาร์เตอร์คุยงานกับดีนเสร็จ มิลินก็ตัดสินใจพูดความต้องการของตัวเอง เธอรู้สึกไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอจะต้องมานั่งขออนุญาตเรื่องการกลับบ้านของตัวเองด้วย “........” “คือมันสำคัญมากๆ ฉันนัดกับแม่ไว้แล้วว่าจะไปทำบุญให้กับพ่อ...” มิลินเผลอส่งสายตาเศร้าไปยังมาเฟียหนุ่มเมื่อเธอพูดถึงพ่อที่เธอรักซึ่งได้จากพวกเธอไปแล้ว “เฮ้อ....กี่วัน?” “สามวันค่ะ” “รีบกลับ” “อ๊ะ...คุณอนุญาตแล้วใช่ไหมคะ” มิลินดีใจจนเธอเผลอยิ้มกว้างออกมา ทำให้ตาคมจ้องมองไปยังรอยยิ้มสดใสนั่น นี่คงจะเป็นรอยยิ้มแรกตั้งแต่ที่เธออยู่กับเขามา “อืม...แต่ถ้าฉันสั่งให้เธอกลับมาเมื่อไร เธอก็ต้องกลับมา อย่าคิดหนี หรือ แข็งข้อกับฉัน และอย่ายุ่งกับผู้ชายคนอื่น ฉันไม่ชอบสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงไม่เชื่อง เข้าใจไหม?” คาร์เตอร์เอ่ยสั่งหญิงสาวเสียงเข้ม “ค่ะๆ ” มิลินตอบอย่างขอไปที ถึงแม้จะไม่ชอบใจในคำพูดของมาเฟียหนุ่มมากนัก แต่เธอก็เลือกที
@ห้องทำงานคาร์เตอร์ “ฉันอยากกลับบ้านแล้ว ฉันขอโทรศัพท์มือถือคืนด้วยค่ะ” “.....” คาร์เตอร์ไม่ตอบอะไรกลับไป นอกจากเคาะนิ้วมือเป็นจังหวะลงที่โต๊ะทำงาน และมองไปยังมิลิน ที่ยืนอยู่กลางห้องใหญ่ “นี่! คุณได้ยินฉันรึเปล่า ฉันต้องการของของฉันคืน!!” มิลินกระแทกเสียงจนดังลั่น เมื่อเขายังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติ่ง “ฉันคงจะใจดีกับเธอมากเกินไปสินะ....” น้ำเสียงราบเรียบของมาเฟียหนุ่มที่เปล่งออกมาทำให้มิลินรู้สึกเสียวสันหลังวาบทันที แต่เธอก็ยังคงต้องเก็บอาการเหล่านั้นไว้ “...ฉะ...ฉันก็แค่อยากได้โทรศัพท์ของฉันคืน ตอนนี้ฉันอยากโทรไปหาเพื่อนของฉันก่อน ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ยัยพราวเป็นยังไงบ้าง แล้วเพื่อนของคุณ...ทำอะไรเพื่อนของฉันรึเปล่า...” “หึ เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ค่อยไปห่วงคนอื่น" น่าขำสิ้นดีที่ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอจะไปช่วยเพื่อนรักจากไอ้ไบรอันต์และไอ้เซนได้ “ตะ...แต่ คุณก็ไม่มีสิทธิมาทำแบบนี้กับฉันนะ....” น้ำเสียงเย้ยหยันของคนตรงหน้า ยิ่งทำให้เธอรู้สึกขุ่นเคืองใจมากขึ้น “ฉันหรือที่ไม่มีสิทธิ ให้ฉัน...ทวนสิทธิให้เ
“อ๊าสสสสส์” เสียงคาร์เตอร์ปลดปล่อยน้ำกามสีขาวขุ่นพุ่งปรี๊ดเข้าไปในปากของมิลิน ทำให้น้ำรักที่มีอยู่มากเอ่อล้นออกมาจากมุมปากของเธอ และเปรอะเปื้อนไปทั่วคางลามไปถึงลำคอ แค่กๆ แค่กๆ มิลินเผลอกลืนน้ำรักของมาเฟียหนุ่ม เมื่อเขาถอดถอนความเป็นชายออกจากปากของเธอ หญิงสาวสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวและรสชาติของบุรุษชายที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน และความเหนียวหนืดของมัน ทำก็ให้เธอรู้สึกอยากจะอ้วก ก๊อกๆ ก๊อกๆ "เข้ามา" "! " มิลินรีบขดตัวเข้าไปในผ้าห่มสีดำผืนบางทันที เมื่อมาเฟียหนุ่มอนุญาตให้คนที่อยู่หน้าห้องเข้ามาได้ "นี่ครับของที่นายสั่ง เสื้อผ้าของคุณมิลิน" เจมส์มองไปยังเจ้านายหนุ่มที่กำลังหยิบผ้าขนหนูสีขาวมาพันรอบเอวหนาไว้ และชำเลืองมองหญิงสาวที่เอาผ้าห่มคลุมศีรษะไว้มิด ก่อนที่จะเดินเอาถุงกระดาษแบรนด์ดังในมือมาวางไว้ที่โต๊ะตามคำสั่งของผู้เป็นนาย "วันนี้มีงานสำคัญอะไรไหม" "วันนี้มีนัดประชุมกับฝ่ายบัญชี บ่ายสอง เรื่องงบประมาณโปรเจ็คใหม่ครับ" "แล้วงานที่กูให้ไอ้ดีนจัดการ เป็นไง" "เรียบร้อย







