“เช่นนั้นกระหม่อมสองคนทูลลาพ่ะย่ะค่ะ” ชินอ๋องและบุตรชายจึงทำความเคารพฮ่องเต้ และกลับออกไปด้วยวิธีการเช่นเดียวกับตอนที่เข้ามาในตำหนัก“จ้าวกงกงให้คนของเราจับตามองพวกหนอน ที่แอบอยู่ในตำหนักนี้ให้ดี หากจับตัวได้จัดการส่งหัวของพวกมัน ไปให้กับคนที่ส่งหนอนพวกนี้มาในตำหนัก เป็นของที่ระลึกจากเจิ้นก็แล้วกัน”
ด้านลู่ชิงกับครอบครัว หลังจากที่นำน้ำยาปรับผ้านุ่ม ไปเสนอทำการค้ากับเถ้าแก่หง ยามเช้าของวันที่สองยังไม่ถึงกำหนดวัน ที่นัดเจอกันไว้กลับกลายเป็นว่า เถ้าแก่หงมาหาพวกเขาถึงแผงขายอาหาร เพราะต้องการมาให้คำตอบว่า ตนตกลงทำการค้าตามข้อเสนอของลู่ชิง โดยให้นำหนังสือสัญญาการค้า ไปให้เขาลงชื่อที่ร้านหลังจากลู่ชิ
กว่าทุกคนจะทำความสะอาดเสร็จ และกลับมาถึงบ้านก็เลยยามอู่ไปเล็กน้อย แต่พวกเขาทานมื้อเที่ยงระหว่างที่นั่งเกวียนกลับมาเรียบร้อยแล้ว ส่วนของในบ้านก็ไม่ได้มีของมีค่าอันใด จึงใช้เวลาเก็บไม่นาน ตอนนี้ทุกคนกำลังนั่งพักเหนื่อย เนื่องจากครึ่งวันเช้าพวกเขาใช้เวลาไปคุ้มค่ามาก ลู่ชิงจึงเอาน้ำในบ่อวิเศษมาให้ดื่ม พ
ลู่จื้อและลู่เสียนไปหาสหาย ไม่ได้ต่างกันกับครั้งที่มาพูดเรื่องอาชีพเสริม จนตอนนี้พวกเขามายืนพร้อมหน้ากัน ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หลังหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว“นี่อาจื้อเจ้ามีเรื่องสำคัญทีไร ก็ไม่ยอมให้ข้ามีคำถามทุกทีแล้วยังเร่งให้รีบเดินเร็ว ๆ อีก มันเหนื่อยนะเจ้าเข้าใจบ้างไหม” กวงเหอบ่นให้สหายที่พาเขามาเหมือน
ยามสายของวันนี้ครอบครัวของลู่ชิง จะย้ายไปพักอยู่ที่ร้านอาหารเป็นการชั่วคราว ซึ่งเมื่อวานลู่ชิงได้แจ้งกับลูกค้าทุกคน ที่มาซื้ออาหารที่แผงไว้แล้วว่า จะหยุดขายอาหารที่แผงตรงนี้ โดยจะเปิดขายอาหารอีกครั้งที่ร้านอาหารของครอบครัวทุกคนสามารถตามไปซื้อ หรือนั่งทานอาหารที่ร้านได้ และยังได้บอกกับลูกค้าอีกว่า จ
“เช่นนั้นเย็นนี้พวกเราก็ช่วยกันทำจะได้เสร็จเร็ว ๆ และเป็นการทดลองชิมรสชาติอาหาร ก่อนทำขายให้ลูกค้ากันเถิดขอรับ” ลู่เสียนเป็นฝ่ายเสนอความคิดนี้ขึ้น เพราะเขาก็อยากชิมเหมือนกันว่ารสชาติจะเป็นแบบไหนทุกคนเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ และเย็นวันนี้พวกเขาช่วยกันทำ ช่วยกันชิมจนได้รสชาติที่ถูกใจ และคิดว่าลูกค้าก็คง
“ยิ่งน้ำหลากสีที่ร้านให้ลองชิม พอดื่มแล้วมันช่างสดชื่นจริง ๆ”ยังมีอีกมากมายกับคำชมของลูกค้า ที่ได้ชิมรสชาติอาหารใหม่วันนี้ แขกพิเศษทั้งสามท่านกลับไปได้สักพักแล้ว พอเข้าถึงปลายยามเว่ยอาหารทุกอย่างก็หมดไม่มีเหลือเลย สหายของพี่ชายก็ล้วนเดินเข้าออก เพื่อยกอาหารเก็บจานชามแทบไม่ได้นั่งพัก แต่พวกเขาก็ยังท
เจียวมิ่งที่เห็นคุณหนูลู่ชิงหยุดชะงักไป หลังจากมีคำถามไม่หยุดก็ให้นึกเอ็นดูนาง เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมซื่อจื่อถึงได้พึงใจในตัวคุณลู่ชิง“คุณหนูขอรับ พวกเราเข้าไปนั่งคุยกันข้างในร้านเถิด” เจียวมิ่งได้กลิ่นหอมของอาหารที่โชยออกมาจากร้าน ท้องของเขาและสหายก็เริ่มประท้วงทันที“อ้อ ขออภัยเจ้าค่ะ เชิญพี่ชายพี่
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”