“อืม จริงอย่างที่บิดาของเจ้าบอกไปนั่นแหล่ะนะ พอถึงเวลาประชุมทีไรก็เอาแต่จะส่งบุตรหลานเข้าตำหนักบูรพา เมื่อมีขุนนางคนอื่นจะเสนอเรื่องแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ก็ขัดขวางไม่ยอมแสดงความคิดเห็นอันใดทั้งสิ้น จะไม่ให้ลุงโมโหถึงขั้นงดประชุมได้อย่างไร”“ในเมื่อตาแก่หัวโบราณคร่ำครึพวกนั้นอยากให้บุตรหลานแต่งงาน เสด็
เมื่อใต้เท้าเยี่ยกับใต้เท้าเมิ่งรู้สึกตัวก็พบว่าตนนั้นอยู่ที่จวนแล้ว การนั่งคุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตาจากฮ่องเต้ไม่เป็นผล แม้จะไม่อยากให้บุตรสาวอันเป็นที่รักต้องเดินทางไกล แต่ไม่อาจขัดราชโองการได้จำต้องจัดเตรียมสินเดิมและคนคุ้มกันบุตรสาวอย่างเยี่ยหลิงถิง เดินทางร่วมกับขบวนเจ้าสาวไปส่งให้ถึงแดนใต้อย่า
ที่บรรลุวรยุทธ์ขั้นสูงเท่านั้น”“ขอรับท่านพ่อ ข้าจะให้หัวหน้าจางเตรียมคนไว้เป็นบุรุษและสตรี เผื่อบางเรื่องสตรีอาจจะทำงานได้ง่ายกว่าบุรุษ”“เอาตามที่เจ้าว่ามาก็แล้วกัน เอาล่ะพ่อจะไปดูมารดาของเจ้าเสียหน่อย ไม่รู้ตอนนี้รื้อของออกมาวางเต็มเรือนไปหมดแล้วกระมัง”“เช่นนั้นข้าขอตัวออกนอกเมืองไปพบหัวหน้าจางก
ต้องเดินทางไกลหลายเดือนกว่าจะถึง ถ้าโชคร้ายเจอโจรภูเขาระหว่างทางคงมีชีวิตรอดไปถึงแดนใต้ได้ยาก แม้บิดาของพวกนางจะส่งทหารตามไปคุ้มกันมากมาย แต่ไม่มีใครกล้ารับประกันว่าทหารที่คุ้มกันจะเก่งกว่าพวกโจรนะ” เสวี่ยซินเหยาพูดถึงเยี่ยหลิงถิงกับเมิ่งเจียวลู่“ท่านหญิงก็แค่โชคดีได้เกิดเป็นธิดาของชินอ๋องเท่านั้นแ
เซียวเยว่เล่อจัดการบุตรหลานขุนนางใจสกปรกไปแล้ว ก็อยู่พูดคุยกับสหายทั้งสามอีกเล็กน้อยก่อนจะแยกย้ายกันกลับจวน ส่วนทางด้านเซียวหนิงหลงที่ขี่ม้าออกนอกเมืองได้ไม่ไกลนัก กลับหยุดม้าเอาไว้ระหว่างทางด้วยรู้สึกว่ามีคนแอบตามมาซึ่งคนผู้นั้นก็มิใช่ใครที่ไหนแต่เป็นซิ่วเหวิน องครักษ์คนสนิทของจวิ้นอ๋องเขาแอบตามเซ
หัวหน้าจางเข้าใจถึงสิ่งที่เซียวหนิงหลวงต้องการ “ได้ขอรับข้าจะกำชับทุกคนเพื่อเตรียมเสื้อผ้าตามที่ซื่อจื่อสั่งการ”“ถ้าอย่างไรรบกวนหัวหน้าจางอีกสักเรื่อง ท่านช่วยส่งหน่วยลับฝีมือดีสักสองสามคน เข้าไปสอดแนมในแคว้นตงเฉียนสักหน่อย ข้าไม่ไว้ใจเกรงว่าหลังจากแคว้นตงหนานพ่ายแพ้สงคราม ฮองเฮาของตงเฉียนซึ่งเป็นพ
“อ่อ ที่แท้พวกเจ้าก็เป็นสหายกับพวกเจียวมิ่งนี่เอง พวกเจ้าจะอิจฉาสหายเพียงแค่เรื่องอาหารไม่ได้นะ เพราะข้าแอบเห็นอาวุธประจำกายที่เจียวมิ่งกับคนอื่นใช้อยู่ มันเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งและยังงดงามอีกด้วย ที่สำคัญความคมของดาบพวกนั้นแค่ตวัดเบา ๆ ใบไม้ยังแยกออกจากกันทันที ข้าขอยืมจากเจียวมิ่งมาดูด้วยลวดลายมันแ
เมื่อกลับมาถึงบ้านของเยวี๋ยนจิ้งห้าวก่อนดวงอาทิตย์จะตกดิน หลี่เฉียงกับสหายจึงอาสาจัดการทำความสะอาดหมูป่า โดยให้อาฉงเป็นคนก่อไฟและตักน้ำใส่ถังไว้รอ เยวี๋ยนจิ้งห้าวเห็นทุกคนแบ่งงานกันทำไปหมดแล้ว จึงยอมเดินเข้าบ้านเพื่อเขียนจดหมายส่งถึงลู่ชิงเรื่องต้นเฉ่าเหมยส่วนที่ดินติดเชิงเขาอย่างที่เซียวหนิงหลงต้อ
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”