ต้นยามเฉินของวันต่อมาครอบครัวของชินอ๋อง มาถึงร้านก๋วยเตี๋ยวก่อนเวลาเล็กน้อย เพราะบุตรสาวผู้ตื่นเต้นกับการเปิดร้านครั้งนี้ และอยากจะชิมรสชาติของก๋วยเตี๋ยวเหลือเกิน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ลู่ชิงได้ฝากสูตรการทำน้ำซุปผ่านลู่จื้อไปแล้วก็ยังอุตส่าห์ตื่นแต่เช้ามืดเดินเคาะประตูปลุกทุกคน จะไม่ตื่นก็ไม่ได้จึงมาอย
“เจ้าหนุ่มอย่าเอาเรื่องเหลวไหลพวกนี้มาปั่นหัวพวกข้าเลย คิดจะหลบเลี่ยงการจ่ายเงินให้กับทางการสินะ ถ้าไม่ยอมจ่ายก็ปิดกิจการของเจ้าไม่ต้องเปิดแล้ว และรีบเก็บข้าวของทุกอย่างย้ายออกไปโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นคนของข้าจะทุบทำลายที่นี่ทิ้งซะ” แม้เรื่องที่เซียวหนิงหลงพูดไปจะสะกิดในใจ และเกิดความสงสัยขึ้นมาเงียบ ๆ
“ขอบพระทัยท่านอ๋อง ๆ”“อาหลงเจ้าไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จภายในวันนี้ ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องได้รับโทษ ไม่ว่าจะโทษหนักหรือเบาไม่มีการล่ะเว้นใด ๆ ทั้งสิ้น ตรวจค้นให้ละเอียดทุกซอกทุกมุมภายในจวนเจ้าเมือง แล้วค่อยกลับมารายงานผลทีหลัง” ที่ชินอ๋องมอบหน้าที่นี้ให้เซียวหนิงหลง มิใช่แค่คิดว่าเขาอยากลงมือ
นายบ่าวคู่นี้ยังคงทะเลาะถกเถียงกันต่อหน้าเซียวหนิงหลง จนตันเจียงกลับมารายงานตามคำสั่งหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม โดยให้ชุนชานอยู่ควบคุมที่จวนเจ้าเมือง เพื่อป้องกันมิให้คนในจวนหลบหนีออกไปได้ ซึ่งทุกคนจะถูกเชือกผูกข้อมือเชื่อมต่อกันเอาไว้ มีคนขัดขืนบ้างในคราแรกที่ไปถึง แต่เมื่อเห็นท่าทางเอาจริงขององครัก
“ไปได้แล้วอย่าเรียกร้องความยุติธรรมให้ตนเองเลย คนเราจะโง่แค่ไหนก็ควรจะมีสามัญสำนึกเสียบ้าง ไปชดใช้ในสิ่งที่เจ้าทำไว้เถิดสวินเย่าหยาง” ตันเจียงเดินเข้ามาลากตัวสวินเย่าหยางออกไป พร้อมกับองครักษ์อีกคนที่พาจั๋วถงจินตามหลังมาอีกทีชาวบ้านที่อยู่ใกล้ศาลาว่าการได้ชักชวนกันมาดูการลงโทษนี้ แม้พวกเขาจะไม่ถูกก
ในความเป็นจริงนั้นอาเตี๋ยผู้โชคร้ายจากทิศอุดร ถูกหน่วยลับจับสังเกตได้ตั้งแต่วันที่สองหลังจากมาถึงเมืองหลวง เพราะหน่วยลับได้รับคำสั่งให้คอยตรวจตราเมืองหลวง ไม่มีการปล่อยปละละเลยเหล่าขุนนางให้ทำอะไรลับหลังซึ่งอาเตี๋ยถูกจับไปทรมานยังคุกใต้ดิน ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านนอกเมืองเนื่องจากทนรับการทรมานไม่ไหว อ
โหยวซวงอี๋กับสาวใช้อย่างอาว่านนั่งรถม้าจากจวนเพียงแค่หนึ่งเค่อ ก็มาหยุดอยู่หน้าร้านผ้าที่ดีที่สุดของเมืองหย่งเฉียว และร้านนี้ก็ได้ต้อนรับคุณหนูผู้นี้บ่อยมาก เมื่อโหยวซวงอี๋มาถึงจึงมีหลงจู๊ของร้านอายุห้าสิบต้น ๆ ออกมารอต้อนรับอยู่ก่อนหน้านี้แล้วด้านบุรุษทั้งสามคนที่หน่วยลับได้ส่งจดหมายลึกลับ ส่งไปบอ
“อ้อ ที่แท้ก็บุตรสาวของอดีตอนุรองแม่ทัพโหยว ที่อุตส่าห์ไต่เต้าขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งฮูหยินได้ มารดาของเจ้าช่างเก่งกาจมากจริง ๆ คุณหนูโหยว แต่อย่างไรความจริงในอดีตมันก็ไม่อาจลบล้างได้หรอก อีกอย่างที่สาวใช้ของท่านบอกว่าอะไรนะ ท่านเป็นว่าที่ชายาของซื่อจื่อจวนชินอ๋องด้วย ฮ่า ๆ ๆ ขออภัยที่ข้าต้องหัวเราะเสีย
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”