อี้หมิง พยายามเอาชนะชะตาชีวิตในยุคที่เธอทะลุมิติมา ด้วยวิชาความรู้ของโลกยุคปัจจุบันเธอก่อร่างสร้างตัวในยุค จีนโบราณจนมีฐานะอู้ฟู่ร่ำรวย สร้างงาน สร้างอาชีพคนเร่ร่อน จนที่เล่าขานไปทั่วทั้งแคว้น
View Moreเฟินเฟินเดินแทรกกับกลุ่มคนเข้าไปยังด้านหน้าร้าน นางทั้งมุดทั้งเบียดเสียดกับผ็คนที่พยายามผลักอีกทั้งยื้อแย่งกันเพื่อให้ได้ผักราคาดี จนในที่สุดก็มุดหลุดออกมาโผล่ยังด้านหน้าแผงผักดังกล่าวได้สำเร็จ“เฮ้อ เกือบตายแล้วเรา เอ๊ะนี่มัน...” เฟิน เฟิน ปาดเหงื่อออกจากใบหน้าก่อนสายตาจะแลเห็นผักด้านหน้า ทันใดนั้นดวงตาก็เบิกโพล่งขึ้นอย่างตกใจราวกับเจอภูตผีปีศาจก็ไม่ปาน ทันใดนั้นร่างเล็กก็มุดลอดเบียดสวนผ่านผู้คนออกมา“พี่หมิงอี้!”“ได้ความว่าเช่นไรเล่าเฟิน เฟิน” หมิงอี้เอ่ยพลางยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับใบหน้าเล็กของสาวน้อยเฟิน เฟิน ที่บัดนี้มีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นให้ได้เห็นแฮ่ก ๆ“แฮ่ก ๆ พะพี่หมิงอี้ ผักนั่น...ผักนั่นเหมือนของร้านเรามิผิดเพี้ยน” เฟิน เฟิน หอบเหนื่อยแต่กระนั้นก็พยายามเอ่ยบอกหมิงอี้ให้ได้รู้หมิงอี้เมื่อได้ยินเฟิน เฟิน พูดก็ตกใจตาเบิกกว้าง ก่อนจะจับจูงลากแขนเฟิน เฟิน เข้าไปยังด้านในร้านน้ำชาไป๋หวงที่เปิดอยู่อย่างรวดเร็ว“เฟิน เฟิน เจ้าว่าอย่างไรนะ ผักนั้นเหมือนร้านเทียนฝูของเรา เจ้าเห็นกับตารึไม่ จะเป็นไปได้เช่นไรผักของข้าจะเหมือนผู้ใดได้เช่นไรกัน” หมิงอี้กอดอกพยายามนึกคิดว่าตนนั้นได้เผลอบอกขั้น
ครั้นยังไม่ทันนั่งดีเสียงเย็นเนิบของผู้เป็นเจ้าของจวนสูงศักดิ์ก็พลันเอ่ยทักขึ้น ทำให้กู้ไห่ซินแลพรรคพวกต่างยิ้มกริ่มไปตามกันด้านเฉินอ๋องเมื่อแลเห็นท่าทางของพวกเขาแล้วก็พอเดาผลประกอบการในครั้งนี้ได้ทะลุปรุโปร่งจึงได้ยิ้มกว้างแลเอ่ยยิ้มอย่างอารมณ์ดี“พวกเจ้าทำหน้าเช่นนี้หมายความว่าเช่นไร...หึ! หากให้ข้าเดาคงขายดีจนหมดสิท่า ฮ่า ๆ” เฉินอ๋องเอ่ยจบก็ยกจอกสุราขึ้นเป็นสัญญาณชวนบรรดาพวกพ้องของตนดื่ม สะใจเขายิ่งนักครานี้เห็นทีสวรรค์จะมีตาเข้าข้างข้าเสียที หึ!“ขอบพระทัยท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ไม่ใช่เพียงขายดีพ่ะย่ะค่ะ หากแต่เอามาเท่าไหร่ก็ยังไม่พอลูกค้าลงรายชื่อสั่งซื้อมากมาย พ่อค้าต่างเมืองต่างมาจับจองกันจนเกรงว่าที่เรามีอยู่จะมิพอขายเสียกระมัง” กู้ไห่ซินรายงานด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะนำหีบตั๋วเงินออกมาเปิดต่อหน้าผู้เป็นนาย“ทั้งหมดนี้ขายวันเดียวเกือบแสนตำลึงพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อม...กระหม่อมเองมือไม้สั่นไปหมดไม่เคยทำการค้าคราใดที่ประสบความสำเร็จมากมายเพียงนี้มาก่อนในชีวิตเลยพ่ะย่ะค่ะ” กู้ไห่ซินกล่าวไม่เกินจริงบัดนี้แค่เห็นเงินตรงหน้าในหัวเขาก็จินตนาการวาดฝันความสำราญไปเสียไกล“ฮ่า ๆ ดี! ดีมาก” เฉินอ๋องเอ
เช้าตรู่วันนี้ตลาดฝั่งคนเมืองดูคึกครื้นเป็นพิเศษ เสียงบรรดาผู้คนที่ออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าในเช้านี้ต่างพูดคุยถึงเรื่องผักของร้านเทียนฝูกันเสียทั้งสิ้น ผักที่ความกรอบเป็นที่หนึ่ง ความงามของผักไม่นั้นไม่เป็นรองผู้ใด ผักกินง่ายรากก็ขาวสะอาดประหนึ่งหยกเนื้อดีเลยทีเดียว“เร็ว ๆ พวกเราทางนั้นได้ยินว่ามีร้านแผงผักเปิดใหม่ แถมยัง…”“แถมยังอะไรเล่า รีบๆ บอกมาให้เร็วข้าอยากรู้จะแย่แล้ว เร็วสิ”“แถมยังบอกว่าเป็นผักจากร้านเทียนฝูเลยน๊า แถมยังราคาถูกกว่าเท่านึงแน่ะ”ชายเจ้าของร้านผ้าไหมออกมาบอกเล่าต่อถึงเรื่องราวตื่นเต้นที่คนงานในร้านนำมาแจ้งตนหลังจากเกิดเสียงเซ็งแซ่ขึ้นบริเวณตรอกแถวหลิงจิ่งขึ้นจนเป็นที่ผิดสังเกต เขาบอกเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นและจริงจัง อีกทั้งยังบอกว่าราคาถูกกว่าของร้านเทียนฝูกว่าครึ่ง ผักงามแถมหัวใหญ่ ก่อนจะนำบางส่วนที่ตนนั้ไต่แถววซื้อตั้งแต่ร้านเปิดออกมาให้กับบรรดาคนที่สัญจรผ่านไปมาได้ดู“อ่ะไม่เชื่อ ไม่เชื่อใช่มั๊ยดูสิ นี่!”“โอ้โห นะนี่เรื่องจริงงั้นหรือ เช่นนั้นข้าต้องรีบหน่อยแล้ว ขอบคุณเถ้าแก่”ผู้คนที่ล้อมเขาอยู่เมื่อครู่สลายหายไปในพริบตาเดียว ทันใดนั้นกู้ไห่ซินก็เดินมาหาพร
หมิงอี้ที่มานั่งหน้าโต๊ะบัญชีเองคู่กับอู๋ไป๋หลังจากที่เฉิงอี้อยู่ช่วยเสียครึ่งวันก็ขอตัวกลับไป อ้างว่ามีธุระเร่งด่วนต้องสะสางก่อนจากก็มิวายทิ้งทวนรอยยิ้มทรงเสน่ห์ให้นางใจเต้นอีกครา หมิงอี้ไล่สายตามาหยุดตรงรายชื่อหนึ่ง“หลานเย่หรง” หมิงอี้ครางในใจคนผู้นี้ซื้อร่วม 200 จิน นี่ผักเกือบ 100 กิโลกรัมคนผู้นี้เอาไปทำสิ่งใดกันนอ นี่นับว่าเป็นลูกค้ารายใหญ่เลยนี่ ขอสวรรค์เมตตาลูกค้าซื้อไปแล้วติดใจกลับมาซื้ออีกเยอะ ๆ ทีเถิดสาธุ ๆ“ข้าเองเจ้าค่ะ”“เจ้าเองรึ”“เจ้าค่ะ ข้าเป็นสาวใช้ของฮูหยินมารับผักแทนเจ้าค่ะ นี่ตั๋วเจ้าค่ะ” สตรีรูปร่างสมส่วนใบหน้าหมดจรดกล่าวยิ้ม ๆ ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ได้ว่านางนั้นตื่นเต้นอยู่มิน้อย“อ่อ เป็นเช่นนี้ขอถามได้รึไม่นายหญิงเจ้าซื้อไปมากมายเพียงนี้ เอาผักข้าไปทำอันใดเช่นนั้นหรือ” หมิงอี้ด้วยความอยากรู้จึงเอ่ยถามออกไป“อ่อ คนตระกูลกู้เป็นครอบครัวใหญ่คนในตระกูลเยอะนักเจ้าค่ะ ฮูหยินของข้ามีใจที่จะซื้อไปเผื่อแผ่พี่น้องทุก ๆ คน อยากให้ได้กินของดี ๆ อีกทั้งผักของร้านเทียนฝูช่างน่าอัศจรรย์นักจึงคิดอยากให้คนในตระกูลได้ลิ้มลองกันทุกคนเจ้าค่ะ”“อืมเป็นเช่นนี้ฮูหยินช่างใจกว้างยิ่งนัก
“อื้ม นะนี่! อื้ม” อู๋ไป๋ที่ยกดื่มรวดเดียวพร้อมกำลังเคี้ยวไข่มุกตุ้ย ๆ ในปากครางออกมาเบา ๆ อย่างพอใจซึ่งไม่ต่างจากสหายคนอื่น ๆ ของนางและมารดาอย่างอี้เฟินหมิงอี้มองเหล่าสหายที่กำลังพักเหนื่อยจากการขายเปลี่ยนมาลองดื่มชานมไข่มุกของตนก็พึงพอใจยิ่งนัก เธอเผยยิ้มกว้างอย่างพอใจก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นคนดูบัญชีให้สหายทั้งสองได้ค่อย ๆ ดื่มชานมไข่มุกอย่างอร่อย“มาเลยเจ้าค่ะ คนต่อไปมาเลย” หมิงอี้ก้มดูบัญชีว่าบัดนี้ไล่ขายถึงลำดับที่เท่าใดแล้ว“...”หมิงอี้ที่ยังคงก้มหน้าก้มตามองบัญชีก็จำต้องเงยหน้าขึ้นมองเมื่อพบสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เมื่อลูกค้าของตนเรียกแล้วไม่ขานรับ“แม่นาง ชื่ออะไรเล่าเจ้าค่ะ ขอดูตั๋วจองด้วยเจ้าค่ะ” หมิงอี้เงยหน้าขึ้นมองก็คนเป็นสายน้อยแรกรุ่นยืนบิดชายชุดที่สวมใส่ไปมา ท่าทางเขินอายกระมิดกระเมี้ยนช้อนสายตามองหมิงอี้ แต่เพียงหมิงอี้มองสบนางก็หลบสายตาจนหมิงอี้เอ่ยถามขึ้นอย่างใคร่สงสัย“แม่นาง เป็นอะไรไปรึเจ้าคะ ท่านไม่สบายรึไม่ อู๋ไป๋ ๆ” หมิงอี้เมื่อเห็นจึงเรียกสหายรักให้เร่งมาดูสตรีตรงหน้า แต่เธอเอ่ยได้เพียงครึ่งคำก็ถูกนางเอ่ยละล่ำละลักแย้งขึ้นดวงตานั้นเบิกกว้างอย่างตระหนก“อะเอ่อ เถ้าแ
หมิงอี้ที่วิ่งมาถึงโรงเรือนก่อนก็รีบเปิดประตูอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นเต้นที่จะให้ทุกคนได้ลิ้มรสชาไข่มุกที่ตนเองลงมือทำ“โอ๊ะ นี่ลืมไปเสียสนิท” หมิงอี้เมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังขาดบางอย่างที่สำคัญไป และสำคัญอีกด้วยจึงหันไปหมายจะใช้ลู่อินที่เธอนั้นเรียกให้ตามมาดูในสิ่งที่เธอทำแฮ่ก ๆลู่อินที่มาถึงก็มีอาการเหนื่อยหอบเพราะตนนั้นกลัวเจ้านายจะเกิดหกล้มจึงเร่งวิ่งให้ทันเถ้าแก่สาว ‘หือ กลิ่นหอม ๆ หวาน ๆ นี่มันอะไรกัน’ ลู่อินสูดจมูกดมกลิ่นที่ไม่ค่อยคุ้นเสียเท่าไหร่พร้อมทั้งมองซ้ายแลขวาเพื่อหาต้นตอของกลิ่นประหลาด ของหวานหรือขนมเช่นนั้นหรือ“ลู่อิน น้ำแข็งที่ซื้อเก็บไว้ใต้เรือนครั้งก่อนยังเหลืออยู่ใช่รึไม่”“ยังพอเหลืออยู่เจ้าค่ะ น่าจะเหลือใช้ถึงหน้าหนาวที่จะมาเลยแหละเจ้าค่ะ” ลู่อินตอบและนึกทึ่งที่เถ้าแก่ตนคิดรอบคอบครั้งก่อนนำคนงานออกไปตัดน้ำแข็งมาเก็บไว้ใต้เรือนทำให้หน้าร้อนทั้งร้านเทียนฝูก็มีน้ำแข็งเย็น ๆ พอดับกระหายร้อน“อืมเช่นนั้นเจ้าไปเอามาให้ข้าที อ่อลู่อินทุบ ๆ ให้แตกเป็นก้อนเล็ก ๆ มาให้ข้าด้วยนะ อืมลู่อินไปตามคนที่พอว่างงานมาอีกสักคนเถิดแล้วเอาถ้วยชามาให้ข้าทีขอมากหน่อยนะ” หมิงอี้ที่กำลังริ
Comments