“หรือว่าที่วันนี้ร้านตระกูลสวีไม่เปิดเพราะสินค้าถูกคนขโมย นี่เถ้าแก่เนี้ยท่านขโมยสินค้าของผู้อื่น จากนั้นเอามาย้อมแมวขายบอกพวกข้าว่าเป็นของตนเองงั้นเรอะ ข้าไม่ซื้อแล้ว ๆ นี่มันของโจรชัด ๆ”“พวกเจ้าพูดบ้าอันใดกัน นี่เป็นสินค้าที่ร้านข้าได้มาจะเป็นของตระกูลสวีได้อย่างไร”“นี่น้องชายทั้งสองท่านช่วยบอกอ
“อืม เถ้าแก่ชิ่งท่านลองมองคนที่นั่งเรียงรายด้านหลังสักหน่อย เป็นคนที่ท่านรู้จักบ้างไหม”“นายท่าน ๆ ช่วยพวกข้าด้วยขอรับ ฮือ ๆ ๆ พวกข้าไม่อยากติดคุก นายท่านโปรดช่วยพวกข้าด้วยเถิด เห็นแก่ที่พวกข้าทำงานให้ท่านตั้งมากมาย ช่วยแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น นายท่าน ๆ ๆ”ชิ่งซินสือถึงกับพูดตะกุกตะกัก เมื่อเห
ชุนเผิงกับชุนผางที่หลบมุมตามคำชี้แนะของลู่ชิง เมื่อพวกเขาเห็นความวุ่นวาย ที่เกิดขึ้นกับร้านค้าของเถ้าแก่ชิ่ง ก็รีบพากันออกไปนอกเมืองอย่างรวดเร็ว และทั้งสองไปรอพบลู่ชิงอยู่ที่หน้าจวนสวี รอจนกระทั่งลู่ชิงกลับมาพร้อมกับเซียวหนิงหลง จึงพาสองพี่น้องเข้าไปพูดคุยด้านในจวน เรื่องการจ้างเป็นคนดูแลจวนหลังนี้ข
“ได้ขอรับคุณหนู พวกเจ้าสองคนตามข้ามาเถิดไปดูห้องพักของพวกเจ้ากัน”“ข้ากับน้องชายขอตัวก่อนขอรับ”หลังจากเจียวมิ่งพาทั้งสองออกไปแล้ว เซียวหนิงหลงอยู่พูดคุยอีกสักพัก จึงขอตัวกลับจวนเช่นกัน เนื่องจากต้องตามบิดาเข้าวังหลวงในยามเว่ย เพื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้เรื่องเทศกาลล่าสัตว์ทุกคนต่างเข้าใจดี ลู่ชิงเดินออกมา
เช่นนั้นสำหรับแคว้นที่ชนะนอกจากรางวัลที่ตั้งไว้ เจิ้นจะมอบของที่ระลึกเป็นกระทะและมีดที่ทำมาจากทองคำ เพื่อเป็นการยืนยันว่า คนผู้นั้นมีฝีมือด้านอาหารที่เป็นเลิศ เหล่าพ่อครัวที่ติดตามมาหรือใครที่มีความสามารถ จะได้มีแรงกระตุ้นกับการรังสรรค์รายการอาหารที่แปลกใหม่ เพิ่มความตื่นตาตื่นใจออกมาได้หลากหลายมากข
เมื่อกิจการไม่มีผู้ใดมารังควานอีก ลู่ชิงจึงไม่จำเป็นต้องไปที่ร้านทุกวัน นางใช้วิธีวนไปดูร้านค้าทั้งห้าร้านวันละหนึ่งร้านค้า ส่วนอีกสองวันที่เหลือต่อสัปดาห์ จะอยู่ดูแลแปลงผักและฝึกซ้อมวรยุทธ์กับเหล่าองครักษ์ทั้งหลาย ที่สำคัญยังให้พ่อครัวที่เลือกไว้หนึ่งคน มาฝึกฝีมือการทำอาหารที่หลากหลายจากเนื้อสัตว์ป
รัชทายาทจากแคว้นฉีซานก็ให้ความสนใจอีกคน “เช่นนั้นเป็นผู้ใดที่ช่างคิดและทำออกมาได้หรือพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเองก็สนใจเช่นกันยามต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่และพักค้างแรมในป่า คงเลิกกังวลเรื่องพวกแมลงไปได้มากพ่ะย่ะค่ะ”“รัชทายาทฉีซานช่างมีความเห็นตรงกับกระหม่อม ขอฝ่าบาทช่วยแนะนำผู้ที่ทำกระโจมนี้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่
“นี่ ๆ ๆ!”“พระชายารองไปเปลี่ยนชุดพักผ่อนเถิดเพคะ อย่าเพิ่งมีเรื่องกับพระชายาเอกเลย ตอนนี้ยอม ๆ ไปก่อนค่อยหาโอกาสเอาคืนทีหลังก็ยังไม่สายพระชายารองว่าจริงหรือไม่เพคะ”พระชายารองจ้าวรู้สึกเสียหน้าไม่น้อย ที่ถุกพระชายาเอกกล่าวตักเตือนต่อหน้าบ่าวไพร่ “ฮึ่ยยย ข้าจะเชื่อเจ้าก็ได้อิ๋งชุน เชิดหน้าต่อไปก่อนเ
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”