แชร์

บทที่ 7 ครอบครัวสามี

ผู้เขียน: ปังจัง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-05 22:23:45

“ฮ้าวววววว” ลี่หลินหาวน้ำหูน้ำตาไหลออกมาหลังจากรู้สึกตัวตื่นนอนในยามเหม่า (เวลา05.00 – 06.59 น) เสียงไก่ขันยามเช้าทำให้รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย นางรู้สึกอ่อนเพลียอยากนอนต่ออีกนิดหน่อย แต่เสียงคนคุยกันในห้องครัวที่แว่วมาให้ได้ยินทำเอาลี่หลินนอนหลับไม่ลงกันเลยทีเดียว นางจำใจตื่นนอนก่อนจะเดินตามเสียงรบกวนออกไป ลี่หลินเห็นหยางหนิงเฉิงกับอี้เฉินลงเขามาพอดี ทั้งสองมีไก่ป่า 3 ตัวกับกระต่าย 2 ตัว ติดมือมาด้วย ตอนนี้พวกเขากำลังเตรียมถังไปใส่ปลาในหลุม ส่วนอ้ายฉิงก็กำลังจุดไฟต้มน้ำในครัวเช่นกัน

“ข้ากับอี้เฉินจะไปตรวจดูหลุมดักปลาเสียหน่อย หากวันนี้ได้เยอะกว่าเมื่อวานคงต้องเช่าเกวียนต้าไห่เข้าไปในเมืองเพื่อขายของ เจ้าอยากได้อะไรเพิ่มอีกไหม” หยางหนิงเฉินหันมาถามลี่หลินด้วยรอยยิ้ม ภรรยาตัวน้อยของเขาเพิ่งหายป่วย เขาอยากซื้อของดีๆ มาให้นางกินเพื่อบำรุงเสียหน่อย

“ท่านซื้อไหมาให้ข้าเพิ่มอีกหน่อยข้าจะทำปลาหมัก อ้อ แล้วก็ซื้อแป้งสำหรับทำอาหารมาด้วย ข้าอยากทำอาหารอย่างอื่นบ้าง”

ลี่หลินเห็นว่าในครัวไม่มีแป้งสำหรับทำอาหารจึงสั่งหยางหนิงเฉิงซื้อเพิ่ม นางอยากทำซาลาเปาร้อนๆ กินตอนเช้ากับชากุหลาบ

“ได้ข้าจะซื้อมาให้ เจ้าไม่อยากได้อย่างอื่นอีกเลยหรือ” หยางหนิงเฉิงถามซ้ำอีกครั้งเพราะเขาเคยเห็นลี่หลินแอบกินขนมเปี๊ยกุหลาบบ่อยๆ หรือหากนางมีขนมชนิดอื่นที่อยากกินเขาจะได้ซื้อมาฝาก

“ไม่หล่ะ ปลาที่พวกท่านจับมาคัดเอาแต่ตัวใหญ่ไปขายนะ ถ้าปลาตัวใหญ่จะได้ราคาดี ส่วนปลาตัวเล็กเก็บไว้ทำกับข้าวและตากแห้ง” ลี่หลินยังคิดไม่ออกว่าอยากได้อะไรเพิ่ม นางจึงหันไปแนะนำเรื่องปลาให้หยางหนิงเฉิงแทน เขาพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะพาหยางอี้เฉินออกไปอย่างรวดเร็ว

“อ้ายฉิง เจ้าไปเก็บผักกูดให้ข้าหน่อย ข้าจะทำอาหารเช้าเอง” วันนี้ลี่หลินอยากกินข้าวสวย หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จ นางจึงไปจัดการหุงข้าวไว้ ต่อด้วยการทำความสะอาดปลาอย่างพิถีพิถัน ลี่หลินเลือกทำปลานึ่งซีอิ๊วที่หยางหนิงเฉิงซื้อมาเมื่อวานเป็นอันดับแรก นางผัดผักกูดใส่กากหมูเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง ก่อนจะทำน้ำซุปปลาไว้ซดให้คล่องคอ

เพียงไม่นานหยางหนิงเฉิงก็พาหยางอี้เฉินกลับบ้านพร้อมด้วยปลาอีก 5 ถัง เมื่อคัดแยกขนาดปลาแล้วทำให้เหลือปลาตัวใหญ่ไปขาย 4 ถังเท่านั้น

“พี่สะใภ้ ข้ากับพี่ใหญ่จะเช่าเกวียนเอาปลาไปขายในเมืองเสร็จแล้วค่อยกลับมากินข้าวเช้า ถ้าเกิดหิวมากพวกท่านกินก่อนได้เลย” หยางอี้เฉินวิ่งเข้ามาบอกลี่หลินในครัวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม วันนี้พวกเขาได้ปลาเยอะมากแถมราคาดีด้วย ขายปลารอบนี้คงได้เงินเยอะกว่ารอบก่อนแน่ๆ

“อืม ถ้าพวกเจ้าหิวก็ซื้อซาลาเปาในเมืองกินรองท้องไปก่อน กลับมาถึงจะได้ไม่หิวโซจนเกินไป ปล่อยให้ร่างกายหิวมากไม่ดี จะป่วยเอาได้” ลี่หลินกำชับกับอี้เฉินก่อนเขาจะจากไป หยางอี้เฉินอยู่ในช่วงวัยกำลังโตต้องกินให้มาก ถึงแม้ในยุคนี้เขาจะเป็นชายหนุ่มที่สามารถออกเรือนได้แต่ในอีกโลกที่ลี่หลินได้เห็นนั้นเขายังอยู่ในช่วงวัยรุ่น ร่างกายยังสามารถเติบโตได้อีกมาก

“ขอรับพี่สะใภ้” หยางอี้เฉินมองลี่หลินด้วยแววตาสงสัย เหตุใดพี่สะใภ้ถึงแสดงความห่วงใยกับเขา นางแปลกไปหรือไม่ ปกติพี่สะใภ้แทบไม่อยากคุยกับเขาด้วยซ้ำ

เมื่อหยางหนิงเฉิงและหยางอี้เฉินออกไปเรียบร้อยแล้ว ลี่หลินจึงหันมาทำกับข้าวต่อ ส่วนอ้ายฉิงก็กลับมาจากเก็บผักเช่นกัน

“พี่สะใภ้ วันนี้ข้าเก็บผักได้เยอะเลยเจ้าค่ะ ผักกูดตรงตีนเขาพึ่งแตกยอดอ่อนใหม่ ข้าเก็บเพลินจนได้มาครึ่งตะกร้า”

“อ้อ แบ่งไว้แค่พอกิน ส่วนที่เหลือเจ้าเอาไปตากแห้งไว้ เข้าสู่ฤดูเหมันต์เมื่อไหร่พวกเราจะได้ไม่อดอยาก” ผักครึ่งตะกร้าไม่ใช่น้อย แบ่งมาผัดกินทั้งสามมื้อก็ไม่หมด หากกินไม่ทันผักกูดจะเหี่ยวเฉาไปเฉยๆ ลี่หลินจึงอยากตากแห้งเอาไว้กินหน้าหนาวด้วย

“เจ้าค่ะ พี่สะใภ้จะให้ข้าช่วยอะไรอีกหรือไม่” อ้ายฉิงเห็น ลี่หลินกำลังลงมือทำอาหารอย่างคล่องแคล่วก็อยากมีส่วนร่วมด้วย

“กุหลาบป่าที่ตากไว้ทำชาเมื่อวานยังไม่แห้งดี เจ้าเอาไปตากอีกรอบ หลังบ้านมีถังปลาที่ข้าทำความสะอาดและหมักไว้เรียบร้อย เจ้าเอาไปตากด้วยเลย”

“เจ้าค่ะ” อ้ายฉิงรับคำก่อนจะไปจัดการทุกอย่างตามที่ลี่หลินสั่งจนเรียบร้อย นางเข้ามาช่วยดูเตาไฟในครัวอย่างขยันขันแข็งทำให้ลี่หลินมีเวลาถามเรื่องราวต่างๆ รวมไปถึงเรื่องครอบครัวด้วย

ลี่หลินได้รู้ว่าตอนแรกครอบครัวหยางไม่ได้ยากจนขนาดนี้ ท่านพ่อของหยางหนิงเฉิงเป็นช่างไม้ฝีมือดีทำงานกับโรงไม้ในตำบลนอกจากนี้ยังรับจ้างสร้างบ้านให้คนในหมู่บ้านด้วย ครอบครัวหยางพอมีฐานะอยู่บ้างถึงขนาดมีเกวียนวัวใช้ แต่สถานการณ์ก็ย่ำแย่ลงไปเมื่อท่านพ่อของพวกเขาป่วยหนัก หัวหน้าครอบครัวหยางตกหลังคาบ้านตอนทำงานจึงไม่สามารถเดินได้ พวกเขาต้องเสียเงินค่าหมอ ค่ายาไปจำนวนไม่น้อย

เมื่อไม่มีรายได้ก็จำเป็นต้องขายเกวียนวัว ขายที่นาเพื่อนำมาจ่ายค่ารักษาและค่าใช้จ่ายทั่วไป พี่ชายทั้งสองคนพยายามหางานทำแต่พวกเขายังเด็กมากอายุไม่ถึง 15 ปีด้วยซ้ำจึงไม่มีคนจ้างงาน หลังท่านพ่อจากไปเพียง 1 ปี ท่านแม่ของพวกเขาก็ตรอมใจจนป่วยและจากไปอีกคน

ในตอนนั้นหยางหนิงเฉิงอายุเพียง 15 ปี ส่วนน้องๆ ของเขามีอายุเพียงสิบกว่าปีเท่านั้น สามพี่น้องต้องดิ้นรนอยู่หลายปีจนกระทั่งหยางอี้เฉินอายุ 15 จึงสามารถทำงานช่วยแบ่งเบาภาระพี่ใหญ่ได้ ครอบครัวหยางถือว่าดีขึ้นจากแต่ก่อนมาก

“พวกเจ้าคงลำบากกันมาไม่น้อยเลยใช่หรือไม่ เจ้าอดทนเก่งมากเลยนะหยางอ้ายฉิง” เมื่อลี่หลินได้ฟังเรื่องราวจบนางก็รู้สึกหดหู่มาก

พวกเขาสามคนพี่น้องต้องต่อสู้กับความยากลำบากขนาดไหนกัน หยางหนิงเฉิงต้องแข็งแกร่งแค่ไหนถึงสามารถเลี้ยงดูน้องชายกับน้องสาวให้เติบโตมาได้ ลี่หลินพอเข้าใจอยู่บ้างเนื่องจากในโลกอีกใบนางเป็นเด็กกำพร้าแต่มีอายุเยอะกว่ามาก แถมยังมีทรัพย์สินที่ครอบครัวทิ้งไว้ให้ ถึงจะไม่สบายแต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไร เด็กสามคนนี้เอาตัวรอดมาได้ทั้งที่ไม่มีอะไรเลยสักอย่างแถมยังไร้ญาติขาดมิตรถือว่าเก่งมาก

“ครอบครัวของเราคงดีกว่านี้ถ้ามีที่ดินสำหรับปลูกข้าวเหมือนครอบครัวอื่นเจ้าค่ะ” อ้ายฉิงพูดกับลี่หลินเมื่อเห็นสีหน้าของพี่สะใภ้สลดลง พี่สะใภ้ของนางคงไม่ชื่นชอบความลำบากเป็นแน่ ขนาดนางเองยังหวังว่าสักวันครอบครัวจะหลุดพ้นจากความลำบากได้เสียที อ้ายฉิงรีบปลอบใจลี่หลินต่อเสียงเบา

“พี่สะใภ้ท่านไม่ต้องห่วง พี่ใหญ่กับพี่รองต้องช่วยกันทำงานเก็บเงินซื้อที่ดินได้แน่เจ้าค่ะ ถ้าเราปลูกข้าวไว้กินและปลูกมันเทศไว้ขายได้ พวกเราจะประหยัดเงินค่าใช้จ่ายลงมากแถมยังมีรายได้จากการขายมันเทศเพิ่มมาด้วย ต่อไปไม่ลำบากแล้วเจ้าค่ะ ท่านรออีกหน่อยเถอะนะ ข้าเชื่อว่าพี่ใหญ่ต้องทำได้แน่” อ้ายฉิงพูดปลอบใจลี่หลินยกใหญ่ นางกลัวว่าพี่สะใภ้จะทนความลำบากไม่ได้แล้วขอหย่าร้างกับพี่ใหญ่ เป็นแบบนั้นคงไม่ดีแน่

“ได้ ข้อจะรอ” ลี่หลินรับปากเพื่อให้อ้ายฉิงให้สบายใจ อนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้างไม่มีใครรู้ เมื่อเห็นพี่สะใภ้รับปากอ้ายฉิงก็ยิ้มร่าออกมาด้วยความดีใจ นางเชื่อว่าสักวันครอบครัวต้องดีขึ้นกว่านี้มาก ทั้งสองคุยกันเรื่อยเปื่อยต่ออีกสักพักก็ได้ยินเสียงเกวียนวัวมาจอดหน้าบ้าน

“พี่ใหญ่กับพี่รองกลับมาแล้ว ข้าจัดโต๊ะเลยนะเจ้าคะ” อ้ายฉิงรีบตักข้าวใส่ชามก่อนทยอยยกอาหารอีกหลายอย่างออกไปวางไว้บนโต๊

“ว้าว อาหารน่ากินมาก ข้ารู้สึกว่ากระเพาะของข้าต้องการอาหาร” อี้เฉินเกิดอาการน้ำลายไหลขึ้นมา อาหารที่พี่สะใภ้ใหญ่ทำรสชาติอร่อยจนแทบกลืนลิ้นทุกครั้ง

“อย่างนั้นก็เริ่มกินกันเลยเถอะ” เมื่อเห็นหยางหนิงเฉิงเดินเข้ามาพอดีลี่หลินจึงเรียกทุกคนกินข้าว แต่ละคนต่างตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเอร็ดอร่อยเช่นเคย

“พี่สะใภ้ปลานี้อร่อยมากข้าชอบ ไม่เคยกินปลาที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย น้ำดำๆ ในจานเรียกว่าอะไร รสชาติดีมากเค็มๆ หอมๆ เนื้อปลาก็หวาน” อี้เฉินพูดไปคีบปลากินไปอย่างตะกละ ดูเหมือนว่าเขาจะชื่นชอบปลานึ่งซีอิ๊วมาก

“เรียกว่าปลานึ่งซีอิ๊ว ถ้าเจ้าชอบข้าจะทำให้กินบ่อยๆ” ลี่หลินส่ายหน้าเบาๆ อย่างเอ็นดู

หลังจากกินข้าวเสร็จอ้ายฉิงก็รับหน้าที่ล้างจานเช่นเคย ส่วนลี่หลินกำลังจะเข้าห้องนอนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวขึ้นเขา อยู่ๆ หยางหนิงเฉิงก็รีบเดินมารั้งนางไว้ เขายื่นถุงผ้าใส่เงินให้นางพร้อมกับขนมเปี๊ยะอีกสองกล่อง แล้วพูดว่า

“เงินนี้ข้าให้เจ้าเป็นคนดูแล เจ้าสามารถนำมาใช้จ่ายได้ตามความเหมาะสม ปกติข้าเป็นคนจัดการเงินส่วนนี้ แต่เมื่อเจ้าฟื้นแล้วให้เจ้าดูแลเหมาะสมกว่า” หยางหนิงเฉิงมอบเงินส่วนกลางของบ้านให้ลี่หลินดูแล เขาไตร่ตรองมาแล้วยังไงนางก็เป็นภรรยาเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของบ้านหน้าที่นี้ควรของนาง หลังจากฟื้นขึ้นมาลี่หลินดีขึ้นมาก ปลาที่นำไปขายได้เงินมาจุนเจือครอบครัวไม่น้อยก็เป็นความคิดของนาง

“ขนมสองกล่องนี้คืออะไร” ลี่หลินเข้าใจเรื่องเงินที่นางต้องดูแลจัดการ แต่ขนมในมือนางคืออะไร

“เอ่อ เอ่อ ข้าเห็นว่าเมื่อก่อนเจ้าชอบกินขนมเปี๊ยะบ่อยๆ จึงซื้อมาฝาก เจ้าพึ่งหายป่วยได้กินขนมบ้างคงอารมณ์ดีไม่น้อย” หยางหนิงเฉิงพูดไปหน้าแดงไป

เขาเพียงอยากให้ลี่หลินได้กินของอร่อยบ้าง เมื่อมีเงินจึงอยากซื้อมาฝากนางก็เท่านั้น แต่เมื่อถูกถามตรงๆ เขาดันเกิดอาการหัวใจเต้นแรงขัดเขินนางขึ้นมาซะได้

“ข้าไปทำงานต่อก่อนนะ” หยางหนิงเฉิงรีบพูดก่อนจะวิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว

“โถ่วว แค่ซื้อขนมมาฝากเมียทำเป็นเขินไปได้” ลี่หลินยืนอมยิ้มพูดกับตัวเอง สามีนางมีมุมน่ารักเหมือนกันนะเนี่ย คงต้องลองเรียนรู้ตัวตนของเขาดูบ้าง อย่างไรนางกับเขาก็แต่งงานเป็นสามีภรรยากัน ลี่หลินก้มมองขนมในมืออีกครั้งก่อนเดินถือเข้าไปในห้องนอนอย่างอารมณ์ดี

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 40 ครอบครัวของเรา(ตอนจบ)

    วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย ในที่สุดเทศกาลขึ้นปีใหม่ที่ทุกคนรอคอยก็เวียนมาถึงอีกครั้ง สมาชิกตัวน้อยของตระกูลหยางตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้กันมาก นอกจากอั่งเปาซองสีแดงแล้วพวกยังได้ของเล่นชิ้นใหม่จากท่านอาด้วย“หยางลู่เสียน หยางลี่อิน พวกเจ้าสองคนเลิกก่อกวนแม่ได้หรือไม่” ลี่หลินถอนหายใจยืดยาวครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างเบื่อหน่าย วันนี้มื้อค่ำสำหรับปีใหม่ของนางยังไม่ไปไหนเลย ผู้ช่วยตัวน้อยสองคนเอาแต่แย่งเตรียมอาหารทั้งวัน“ท่านแม่ข้าอยากช่วยนี่ขอรับ” ลูกชายตัวดีตอบกลับเร็วพลันจนลี่หลินท้อใจ“เจ้าพาลี่อินไปช่วยท่านพ่อจัดสถานที่สำหรับปิ้งย่างดีกว่า อยู่กับแม่ในครัวน่าเบื่อจะตาย” ลี่หลินหาข้ออ้างให้ลูกสาวกับลูกชายยอมจากไปแต่โดยดี“จะดีหรือขอรับ” ลู่เสียนมีท่าทีลำบากใจเล็กน้อย“ข้าอยากอยู่กับท่านแม่” ลี่อินปฏิเสธเสียงแข็งอย่างไม่คิด“เฮ้อ พวกเจ้าไม่รู้อะไร ทำงานในสวนสนุกมากนะ ได้วิ่งเล่นจับแมลงด้วย เมื่อเช้าดอกโม่ลี่ฮวาพึ่งผลิบาน หากนำมาจัดใส่แจกันคงส่งกลิ่นหอมไปทั่ว” ลี่หลินหลอกล่อไม่หยุด นางรู้ว่าลูกสาวตัวน้อยชื่นชอบการจัดดอกไม้มากแค่ไหน“ว้าว ข้าอยากไปเล่นในสวนกับท่านพ่อเจ้าค่ะ” ลี่อินอุท

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 39 ความสุข

    “พวกเราเข้านอนกันเถอะดึกมากแล้ว”หยางหนิงเฉิงปลุกลี่หลินให้ตื่นจากภวังค์ เขาถอดเสื้อตัวนอกมาพาดไว้ข้างเตียงเพื่อระบายความร้อนโดยไม่สนใจนางสักนิด“อะ อืม”ลี่หลินเลื่อนลอยไปชั่วขณะ สายตาไม่รักดีของนางเหลือบไปเห็นมัดกล้ามเนื้อวับๆ แวมๆ ที่โผล่พ้นเสื้อตัวในของหยางหนิงเฉิงออกมาพาให้เลือดสูบฉีดทั่วทั้งกาย ลี่หลินพยายามกลืนน้ำลายเหนียวฝืดคอลงไปอย่างยากลำบาก วันนี้หยางหนิงเฉิงวางแผนหลอกล่อนางหรืออย่างไร“หลินเออร์เจ้าไม่สบาย”หยางหนิงเฉิงตกใจมาก เขารีบพุ่งตัวมาประคองใบหน้าของลี่หลินเอาไว้อย่างแผ่วเบา“หะ หะ หืม ข้าสบายดี”ลี่หลินขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัย นางไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรสักนิด“สบายดีอะไร จมูกของเจ้ามีเลือดไหลออกมา”หยางหนิงเฉิงใช้ปลายนิ้วเช็ดเลือดบนจมูกลี่หลินเล็กน้อยก่อนหงายมือให้นางดู“ห๊า ละ เลือด ให้ตายเถอะ”ลี่หลินอุทานออกมาอย่างสิ้นหวัง นางเลือดกำเดาไหลเพราะแอบมองกล้ามเนื้อวับๆ แวมๆ ของสามีเนี่ยนะ อยากจะบ้าตาย รู้ถึงไหนอายถึงนั่นเลยเชียว“เจ้ารอก่อน เดี๋ยวข้าไปตามหมอมารักษา”หยางหนิงเฉิงร้อนรน“ไม่ต้อง ข้าไม่ได้เป็นอะไรมาก น้ำลายไม่ไหลออกมาด้วยก็ดีเท่าไหร่แล้ว”ลี่หลินดึงแขนเขาไว้ก่อนปร

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 38 ปล่อยวาง

    “พะ พ่อขอโทษ” นายอำเภอเล่อมู่ขอโทษลี่หลินด้วยน้ำตา ในบรรดาลูกสาวลูกชายของเขาไม่มีใครสามารถพึ่งพาได้เลย หลังจากหมดตัวทุกคนต่างพากันทยอยทิ้งเขา“การให้อภัยท่านเป็นเรื่องยากสำหรับข้า” ลี่หลินเบือนหน้าหนีอีกครั้ง น้ำตาของนางไหลรินออกมาหลังได้ยินคำขอโทษจากคนเป็นพ่อ“เจ้าไม่ให้อภัยพ่อก็ไม่เป็นไร แต่ได้โปรดช่วยเหลือพวกเราสักครั้ง หากไม่มีเงินไปใช้หนี้บ่อนพนันข้ากับนางต้องถูกจับตัดแขนตัดขาเป็นขอทานข้างถนนแน่นอน” นายอำเภอเล่อมู่หันไปมองภรรยาสุดที่รักอย่างเป็นห่วง“เฮอะ ข้าเกลียดนางแทบเข้ากระดูกดำ ทำไมข้าต้องช่วย ท่านพ่อเคยรักข้าบ้างไหมเจ้าคะ เหตุใดถึงกล้าขอร้องออกมาอย่างไม่อาย” ลี่หลินตะโกนเสียงดังอย่างเหลืออด ผู้หญิงคนนี้ทำให้ชีวิตนางกับท่านแม่ต้องตกต่ำ“พะ พ่อ เอ่อ” นายอำเภอเล่อมู่เงียบงันไปพักใหญ่ เขาไม่แน่ใจว่าตนเองรักลี่หลินหรือไม่ ความผูกพันธ์ระหว่างพ่อลูกของเขากับนางมีเพียงน้อยนิด“ข้าขอโทษ ข้าไม่ดีเอง ข้ามันชั่วช้า ข้าไม่เคยทำหน้าที่แม่ให้เจ้าเลยตั้งแต่ฮูหยินใหญ่จากไป เป็นข้าที่ละเลยเจ้าและกีดกันความสัมพันธ์พ่อลูก ข้าเห็นแก่ตัวเองที่ไม่อยากแบ่งปันคนรักกับใคร ท่านแม่ของเจ้าสวยมาก นางเป็

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 37 เผชิญหน้า

    หยางหนิงเฉิงกับหยางอี้เฉินเดินทางเข้าอำเภออยู่หลายเดือนเพื่อเตรียมตัวทำการค้า พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบดูแลหลายอย่างเริ่มตั้งแต่การเลือกซื้อหน้าร้าน การตกแต่ง การตั้งราคา การหาลูกจ้าง และอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องจัดการ ลี่หลินแค่คอยให้คำแนะนำในบางครั้งเท่านั้น อีกไม่กี่วันร้านค้าตระกูลหยางก็พร้อมเปิดให้บริการแล้วหลังจากวางแผนขยายกิจการหยางหนิงเฉิงกับหยางอี้เฉิน ก็เดินทางเข้าออกอำเภอเป็นว่าเล่น พวกเขาต้องเดินทางไปจัดการธุระบ่อยมาก การเดินทางเข้าอำเภอแต่ละครั้งต้องใช้เวลานานถึงสองวัน ลี่หลินเลยต้องหอบผ้าหอบผ่อนมาช่วยอ้ายฉิงดูแลร้านค้า ในตำบลแทน“พี่สะใภ้ข้าเลือกชุดไหนดีเจ้าคะ” อ้ายฉิงเดินถือเสื้อผ้าเข้ามาในห้องนอนของลี่หลินอย่างต้องการความช่วยเหลือ“อืม ไหนดูซิ” ลี่หลินเพ่งสายตามองเสื้อผ้าหลากหลายแบบตรงหน้าอย่างเคร่งเครียด“ข้าควรใส่สีแดงเข้ม แดงอ่อน แดงทอง หรือแดงอมชมพูดีเจ้าคะ” อ้ายฉิงคาดคั้นเอาคำตอบ นางนั่งเลือกอยู่นานแล้วแต่ยังเลือกไม่ได้สักที“สีแดงอมชมพูเหมาะกับเจ้า ใส่แล้วดูไม่แก่จนเกินไป” ลี่หลินแนะนำ“พี่สะใภ้ตาแหลมนัก ข้าเลือกชุดนี้เจ้าค่ะ” อ้ายฉิงพึงพอใจมาก นางเองก็คิดว่าใส่แล้ว

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 36 ขยายกิจการ

    ร้านค้าตระกูลหยางเติบโตขึ้นทุกวันแบบก้าวกระโดด ตอนนี้ลี่หลินกับครอบครัวกลายเป็นเศรษฐีหน้าใหม่ของตำบลอย่างเป็นทางการแล้ว ครอบครัวหยางร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ สินค้าส่วนใหญ่ของลี่หลินมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนทำให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในความเป็นจริงแล้วการค้าของครอบครัวหยางก็ไม่ได้ราบรื่นเท่าไหร่ พวกเขามีคู่แข่งมากมายและมีปัญหาเข้ามาให้แก้ไขไม่น้อย ทั้งเรื่องการลอกเลียนแบบสินค้า การตัดราคา ข่าวลือ การใส่ร้ายป้ายสี รวมไปถึงเรื่องราวจิปาถะหลายอย่าง พวกเขาสามารถก้าวผ่านปัญหาเหล่านั้นมาได้เพราะทุกคนในครอบครัวช่วยเหลือกันคู่แข่งทางการค้ามีเข้ามาเรื่อยๆ แต่คนพวกก็ไม่สามารถเล่นงานลี่หลินได้เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่นางผลิตเอง ลี่หลินทำการค้าจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำเน้นการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก ทำให้คู่แข่งส่วนมากต้องล่าถอยออกไปเพราะยิ่งแข่งขันกับนางเท่าไหร่พวกเขายิ่งขาดทุนกิจการร้านเหล้าผลไม้ (ไวน์) ทำให้ครอบครัวหยางกลายเป็นที่รู้จักในหมู่ขุนนางมากขึ้น ด้วยรสชาติที่แตกต่าง ดื่มง่าย มีระดับมากกว่าเหล้าทั่วไป ขุนนางน้อยใหญ่จึงกลายเป็นลูกค้าประจำอย่างดี นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมในการซื้อเป็นของฝากแก่ผู

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 35 ปัญหาของคนมีเงิน

    “อ้ายฉิงแต่งตัวเสร็จหรือยัง”ลี่หลินตะโกนถามอย่างใจเย็น วันนี้นางกับอ้ายฉิงต้องนำของขวัญปีใหม่ไปเยี่ยมเยียนครอบครัวต้าไห่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการของนางทุกคนล้วนได้รับของขวัญชิ้นนี้“เสร็จแล้วเจ้าค่ะพี่สะใภ้”อ้ายฉิงวิ่งลงมาจากชั้นบนของบ้านอย่างรวดเร็ว“รีบไปกันเถอะเสร็จแล้วจะได้เข้าเมืองกัน”ลี่หลินเอ่ยเร่ง วันนี้สองหนุ่มของบ้านต้องเข้าไปดูแลร้านค้ากันก่อนเพื่อให้ลี่หลินกับอ้ายฉิงจัดการธุระ“เจ้าค่ะ ท่านเอาของขวัญมาข้าถือเอง”อ้ายฉิงแย่งตะกร้าของขวัญในมือลี่หลินไปถืออย่างรวดเร็วก่อนเดินนำออกไปทั้งสองคนใช้เวลาเดินเพียงไม่นานก็มาถึงบ้านต้าไห่ ลี่หลินกวาดสายตามองรอบๆ อย่างพิจารณา บ้านของต้าไห่ตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก จากบ้านดินสภาพกลางเก่ากลางใหม่กลายเป็นเรือนสี่ประสานหลังใหญ่สวยงาม อ้ายฉิงเคาะประตูได้ไม่นานก็มีสาวรับใช้อายุน้อยนางหนึ่งออกมาต้อนรับเป็นอย่างดี ลี่หลินกับอ้ายฉิงเดินตามสาวน้อยคนนั้นเข้าไปในเรือนหลังใหญ่ของบ้านอย่างแปลกใจ ว่ากันตามตรงกำไรจากการขายถ่านไม่เยอะเลยเมื่อเทียบกับกิจการทั้งหลายของลี่หลิน แต่ละเดือนนางได้รับผลกำไรประมาณ 30-50 ตำลึงทองเท่านั้น บ้านของต้าไห่เองก็น่าจะ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status