“เล่อลี่หลิน” นางร้ายผู้เลอโฉมลูกสาวนายอำเภอที่แม่ตาย พ่อไม่รัก เกลียดชังฮูหยิน อนุภรรยา และเหล่าน้องชายน้องสาวต่างมารดาที่เอาแต่จ้องจะแย่งของของนาง แม้กระทั่งคู่หมั้นที่นางหมายมั่นปั้นมือ จึงวางแผนให้น้องสาวตัวดีมีสามีเป็นชายยากจน แต่ดันผิดแผน!!! คนที่ได้สามีเป็นเพียงพรานป่ายากจนนามว่า “หยางหนิงเฉิง” กลับเป็นนาง แถมยังถูกตัดขาดจากตระกูลต้องระหกระเหินเดินทางมาอยู่บ้านของสามีจนคุณหนูแสนบอบบางอย่างนางต้องล้มป่วยและได้เจอกับอีกโลกที่แตกต่าง มาลุ้นกันว่านางร้ายอย่างนางจะนำความรู้ที่ได้มาช่วยให้ครอบครัวผ่านพ้นความยากจนและเป็นคนที่มีความสุขที่สุดจนผู้อื่นต้องอิจฉาได้อย่างไร
ดูเพิ่มเติม“โอ๊ยย ปวดหัวๆ ทำไมปวดหัวแบบนี้” ลี่หลินอุทานออกมาด้วยความเจ็บปวด ภายในหัวหนักอึ้งเป็นอย่างมาก นางพยายามฝืนลืมตาอยู่นานกว่าจะพยุงตัวเองให้ลุกนั่งได้
ภาพที่เห็นหลังจากลืมตาขึ้นมาเป็นภาพหลังคาเก่าๆ สีดำมุงด้วยหญ้า เมื่อเลื่อนสายตาไปมาก็พบว่าห้องนี้มีผนังห้องเป็นดินเหนียว ภายในห้องมีหน้าต่างบานเล็กๆ หนึ่งบานที่แสงสามารถลอดผ่านได้ ของใช้ภายในห้องมีหีบขนาดกลางสองใบวางอยู่บนพื้น ตู้เสื้อผ้า โต๊ะหัวเตียง และเตียงนอนที่มีผ้าห่มผืนบางกับผ้าปูเตียงสีขาวออกเหลืองเต็มไปด้วยรอยปะชุน บนตัวของนางสวมใส่เสื้อผ้าเหมือนความทรงจำครั้งเก่าก่อนไม่มีผิดไหนจะผิวขาวละเอียดลออนี่อีก
“เอ๊ะ ทำไมข้าเหมือนเคยเห็น ของทุกอย่างก็ดูคุ้นตามาก อืมมมม” ลี่หลินหรี่ตาเล็กแคบลงพลางครุ่นคิด ทำไมทุกอย่างถึงดูคุ้นตาเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าก่อนสิ้นใจนางกำลังทำงานอยู่ในห้องทำงานแล้วรู้สึกว่าหัวใจบีบรัดจนหายใจไม่ออกหรือ
“ทำไมรู้สึกว่าของทุกอย่างนี้เคยเห็นกันนะ อย่าบอกนะว่า” ลี่หลินเบิกตาโพลงก่อนลุกขึ้นวิ่งไปนอกตัวบ้าน
นางมองภาพบ้านดินหลังน้อยสภาพทรุดโทรมที่หลังคามุงด้วยหญ้าฟาง ด้านหนึ่งของบ้านต่อเติมเพิงไม้ไผ่ออกมาใช้สำหรับนั่งเล่นหรือทำงาน รอบๆ บริเวณบ้านมีต้นไม้เขียวขจีเต็มไปหมดในหัวก็พลันคิดออกในทันที
“อย่าบอกนะว่า นี่คือบ้านของหยางหนิงเฉิง นี่ฉันย้อนกลับมาหรือ เป็นแบบนี้ได้อย่างไร ทำไมกัน “ลี่หลินพูดออกมาด้วยความเหม่อลอยอย่างไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เห็น แล้วที่นางได้ไปใช้ชีวิตในอีกโลกหนึ่งหล่ะ โลกที่ทุกคนเท่าเทียมกัน โลกที่นางมีครอบครัวแสนอบอุ่น มีเพื่อนที่แสนดี มีเทคโนโลยีก้าวหน้าพร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย แม้จะไม่ใช่สาวงามเป็นเพียงหญิงสาวหน้าตาธรรมดาทั่วไป เรียนหนังสือไม่เก่ง ความสามารถก็เหมือนกับแม่เป็ดที่ทำได้ทุกอย่างแต่ไม่ถนัดสักอย่าง ชีวิตที่มีความสุขมากนั้นหล่ะ เป็นเพียงความฝันหรือ
“โอ๊ยยยย เจ็บ อ๊า หยิกตัวเองก็เจ็บนี่นา” หลังจากลองหยิกตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่านางตายแล้วและเป็นเพียงวิญญาณหรือไม่ ก็ได้รู้ว่านี่คือความจริง ตอนนี้นางยังมีชีวิต หรือนางสามารถข้ามมิติได้ เกิดใหม่ได้ แบบที่เคยอ่านในนิยายของโลกนั้น หากบอกว่าเป็นเพียงความฝันก็ไม่ใช่เพราะทุกอย่างเหมือนจริงมาก ทั้งอารมณ์ ความรู้สึกและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
รวมถึงความรู้หลากหลาย มันยังอยู่ในหัวของนางอยู่เลย แล้วทำไมตอนนี้นางถึงกลับมาอยู่ที่นี่ หรือเป็นเพราะว่าก่อนสิ้นลมในโลกนั้นนางปรารถนาอยากมีลูกและมีครอบครัวเช่นคนอื่นกัน แม้จะเป็นชีวิตที่มีความสุขมาก แต่ในโลกนั้นคนที่นางรักต้องจากไปตั้งแต่นางอายุเพียง 18 ปี ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ และคุณยายเสียชีวิตกันหมด เหลือเพียงนางที่ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า ต่อสู้ชีวิตและหาเลี้ยงชีพจากมรดกที่พวกท่านทิ้งไว้ให้ นางมีเพื่อนสนิทอยู่หลายคน แต่เมื่ออายุมากขึ้นพวกเขาก็มีครอบครัวเป็นของตัวเอง ทำให้มีเวลาเจอกันน้อยลง ลี่หลินรู้สึกโดดเดี่ยวมาตลอด กระทั่งถึงอายุ 40 ปี นางก็สิ้นลมหายใจเพียงลำพังในห้องทำงาน
“อย่างไรก็มีชีวิตอีกครั้งแล้ว ถึงจะเป็นชีวิตในแบบที่ข้าไม่ได้ปรารถนาก็เถอะ แล้วอย่างไร ชีวิตนี้ข้ายังมีสามี นี่เป็นสิ่งที่ข้าไม่เคยมีเลยนะ ตั้งแต่โลกก่อนก็โสดจนตาย ช่างน่าอนาถนัก ยังไงตอนนี้ก็มีแล้ว ลองดูสักหน่อยแล้วกัน” ลี่หลินพูดกับตนเองก่อนเดินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้งเพื่อพักผ่อน และใช่แล้วตอนนี้นางคือ “เล่อลี่หลิน”
“เล่อลี่หลิน” บุตรสาวตัวร้ายของนายอำเภอผู้เกิดจากฮูหยินเอกที่ตายไป
สาวงามอันดับหนึ่งรูปโฉมสะคราญ สวยสะกดตราตรึงใจ ด้านการเล่าเรียนก็เก่งกาจไม่แพ้ใคร นอกจากนี้ยังมีคู่หมายเป็นคุณชาย “เจียงมู่หยาง” จากตระกูลพ่อค้า เขาหน้าตาหล่อเหลา ฐานะร่ำรวยที่สุดในเมือง ช่างน่าอิจฉายิ่งนักเมื่อมองจากภายนอก แต่ใครจะไปรู้ว่าภาพชีวิตอันสวยหรูที่เห็นนั้นกลับไม่ใช่อย่างที่คิด
แม้จะทั้งสะสวยและมากความสามารถเพียงใด แต่ลี่หลินก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของบิดา เนื่องจากฮูหยินเอกหรือท่านแม่ของนางนั้นมิได้เป็นภรรยาที่ตบแต่งด้วยความรัก หากแต่ต้องจำใจแต่งงานเพื่อผลประโยชน์และคำสัญญา ต่างจากฮูหยินรองที่ท่านพ่อตบแต่งด้วยความรัก หลังจากตบแต่งฮูหยินรองท่านพ่อก็ไม่ให้ความสนใจท่านแม่ของนางอีกเลย ทำให้ลี่หลินรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ยิ่งเมื่อฮูหยินรองคลอดน้องสาวอย่าง “เล่อจินเยว่” ท่านพ่อก็ทั้งรักทั้งตามใจดูแลทะนุถนอมเป็นอย่างดี แค่นั้นยังไม่พอน้องสาวของนางก็รูปโฉมสวยสดงดงามมิแพ้นางเลย ลี่หลินจึงมีความเกลียดชังน้องสาวขึ้นมา
หลังจากท่านแม่เสียไปลี่หลินตั้งใจศึกษาเล่าเรียนอย่างหนักเพราะต้องการมีตัวตนในสายตาท่านพ่อ และต้องการให้ท่านพ่อเห็นว่านางมีดีกว่าน้องสาว แต่ความพยายามเหมือนจะไร้ผล เมื่อท่านพ่อต้องการมีบุตรชายและตบแต่งอนุภรรยาอีกหลายคน
ภายในจวนกลายเป็นสถานที่แห่งการแก่งแย่งชิงดี ในแต่ละวันแทบหาความสงบสุขไม่ได้ หล่อหลอมให้ลี่หลินกลายเป็นคุณหนูใหญ่ผู้มีนิสัยร้ายกาจ ตบตี แย่งชิง กับบรรดาน้องสาว น้องชาย และอนุภรรยาทั้งหลาย รวมถึงดุด่าบ่าวไพร่ ใครเห็นก็เป็นต้องเบือนหน้าหนี
แต่สิ่งที่ทำให้ชีวิตของลี่หลินต้องตกต่ำเช่นนี้ก็เนื่องจากคู่หมั้นของนาง คุณชายเจียงมู่หยางแสดงออกชัดเจนว่ารังเกียจ ไม่ชอบพอนาง แต่กับจินเยว่ผู้เป็นน้องสาวเจียงมู่หยางกลับเทียวแวะเวียนมาหา จนวันหนึ่งเขาได้มาขอถอนหมั้นนางและบอกว่ารักจินเยว่ ทั้งสองคนต่างมีใจให้กัน ทำให้ลี่หลินโกรธมากนางปรี่เข้าไปกระชากเล่อจินเยว่จนล้มลงและฟาดฝ่ามือใส่หน้านางไม่ยั้ง
“เล่อจินเยว่ ชีวิตนี้เจ้าคิดจะแย่งทุกอย่างจากข้าไปหมดเลยงั้นรึ” พูดจบก็ฟาดฝ่ามือใส่อีกหลายครา ท่ามกลางสายตาของผู้คนภายในบ้านและแม่สื่อที่นำของกำนัลสำหรับการถอนหมั้นมาให้
ลี่หลินโกรธมาก นางจะไม่ยอมให้คนพวกนั้นมีความสุขเด็ดขาด นางวางแผนใช้ยาปลุกกำหนัดกับจินเยว่ให้นอนกับผู้ชายข้างถนน ลี่หลินอยากให้น้องสาวได้ลองลิ้มรสการมีสามีจนๆ ดูบ้าง
หลังจากวางแผนเสร็จจึงให้สาวรับใช้ไปเตรียมการโดยวางยาสลบชายยากจนมาสักคน หลังจากนั้นจึงวางยาปลุกกำหนัดให้ทั้งสองได้เสียกัน
แต่ แต่ แต่ เรื่องกลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อนางถูกสาวรับใช้หักหลังและคนที่ถูกวางยากลับเป็นลี่หลินซะเอง นางต้องมีสามีเป็นพรานป่ายากจน นามว่า "หยางหนิงเฉิง" เรื่องนี้เป็นที่น่าอับอายขายขี้หน้าสำหรับท่านพ่อของนางนัก หลังจากจัดงานแต่งงานเสร็จ ท่านพ่อก็ได้ทำหนังสือตัดขาดนางออกจากตระกูล ลี่หลินจึงทำได้เพียงเก็บเสื้อผ้าเดินทางออกมาอยู่บ้านของสามี ซึ่งก็คือหมู่บ้านหงชุน ที่นางอาศัยอยู่ในตอนนี้
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย ในที่สุดเทศกาลขึ้นปีใหม่ที่ทุกคนรอคอยก็เวียนมาถึงอีกครั้ง สมาชิกตัวน้อยของตระกูลหยางตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้กันมาก นอกจากอั่งเปาซองสีแดงแล้วพวกยังได้ของเล่นชิ้นใหม่จากท่านอาด้วย“หยางลู่เสียน หยางลี่อิน พวกเจ้าสองคนเลิกก่อกวนแม่ได้หรือไม่” ลี่หลินถอนหายใจยืดยาวครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างเบื่อหน่าย วันนี้มื้อค่ำสำหรับปีใหม่ของนางยังไม่ไปไหนเลย ผู้ช่วยตัวน้อยสองคนเอาแต่แย่งเตรียมอาหารทั้งวัน“ท่านแม่ข้าอยากช่วยนี่ขอรับ” ลูกชายตัวดีตอบกลับเร็วพลันจนลี่หลินท้อใจ“เจ้าพาลี่อินไปช่วยท่านพ่อจัดสถานที่สำหรับปิ้งย่างดีกว่า อยู่กับแม่ในครัวน่าเบื่อจะตาย” ลี่หลินหาข้ออ้างให้ลูกสาวกับลูกชายยอมจากไปแต่โดยดี“จะดีหรือขอรับ” ลู่เสียนมีท่าทีลำบากใจเล็กน้อย“ข้าอยากอยู่กับท่านแม่” ลี่อินปฏิเสธเสียงแข็งอย่างไม่คิด“เฮ้อ พวกเจ้าไม่รู้อะไร ทำงานในสวนสนุกมากนะ ได้วิ่งเล่นจับแมลงด้วย เมื่อเช้าดอกโม่ลี่ฮวาพึ่งผลิบาน หากนำมาจัดใส่แจกันคงส่งกลิ่นหอมไปทั่ว” ลี่หลินหลอกล่อไม่หยุด นางรู้ว่าลูกสาวตัวน้อยชื่นชอบการจัดดอกไม้มากแค่ไหน“ว้าว ข้าอยากไปเล่นในสวนกับท่านพ่อเจ้าค่ะ” ลี่อินอุท
“พวกเราเข้านอนกันเถอะดึกมากแล้ว”หยางหนิงเฉิงปลุกลี่หลินให้ตื่นจากภวังค์ เขาถอดเสื้อตัวนอกมาพาดไว้ข้างเตียงเพื่อระบายความร้อนโดยไม่สนใจนางสักนิด“อะ อืม”ลี่หลินเลื่อนลอยไปชั่วขณะ สายตาไม่รักดีของนางเหลือบไปเห็นมัดกล้ามเนื้อวับๆ แวมๆ ที่โผล่พ้นเสื้อตัวในของหยางหนิงเฉิงออกมาพาให้เลือดสูบฉีดทั่วทั้งกาย ลี่หลินพยายามกลืนน้ำลายเหนียวฝืดคอลงไปอย่างยากลำบาก วันนี้หยางหนิงเฉิงวางแผนหลอกล่อนางหรืออย่างไร“หลินเออร์เจ้าไม่สบาย”หยางหนิงเฉิงตกใจมาก เขารีบพุ่งตัวมาประคองใบหน้าของลี่หลินเอาไว้อย่างแผ่วเบา“หะ หะ หืม ข้าสบายดี”ลี่หลินขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัย นางไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรสักนิด“สบายดีอะไร จมูกของเจ้ามีเลือดไหลออกมา”หยางหนิงเฉิงใช้ปลายนิ้วเช็ดเลือดบนจมูกลี่หลินเล็กน้อยก่อนหงายมือให้นางดู“ห๊า ละ เลือด ให้ตายเถอะ”ลี่หลินอุทานออกมาอย่างสิ้นหวัง นางเลือดกำเดาไหลเพราะแอบมองกล้ามเนื้อวับๆ แวมๆ ของสามีเนี่ยนะ อยากจะบ้าตาย รู้ถึงไหนอายถึงนั่นเลยเชียว“เจ้ารอก่อน เดี๋ยวข้าไปตามหมอมารักษา”หยางหนิงเฉิงร้อนรน“ไม่ต้อง ข้าไม่ได้เป็นอะไรมาก น้ำลายไม่ไหลออกมาด้วยก็ดีเท่าไหร่แล้ว”ลี่หลินดึงแขนเขาไว้ก่อนปร
“พะ พ่อขอโทษ” นายอำเภอเล่อมู่ขอโทษลี่หลินด้วยน้ำตา ในบรรดาลูกสาวลูกชายของเขาไม่มีใครสามารถพึ่งพาได้เลย หลังจากหมดตัวทุกคนต่างพากันทยอยทิ้งเขา“การให้อภัยท่านเป็นเรื่องยากสำหรับข้า” ลี่หลินเบือนหน้าหนีอีกครั้ง น้ำตาของนางไหลรินออกมาหลังได้ยินคำขอโทษจากคนเป็นพ่อ“เจ้าไม่ให้อภัยพ่อก็ไม่เป็นไร แต่ได้โปรดช่วยเหลือพวกเราสักครั้ง หากไม่มีเงินไปใช้หนี้บ่อนพนันข้ากับนางต้องถูกจับตัดแขนตัดขาเป็นขอทานข้างถนนแน่นอน” นายอำเภอเล่อมู่หันไปมองภรรยาสุดที่รักอย่างเป็นห่วง“เฮอะ ข้าเกลียดนางแทบเข้ากระดูกดำ ทำไมข้าต้องช่วย ท่านพ่อเคยรักข้าบ้างไหมเจ้าคะ เหตุใดถึงกล้าขอร้องออกมาอย่างไม่อาย” ลี่หลินตะโกนเสียงดังอย่างเหลืออด ผู้หญิงคนนี้ทำให้ชีวิตนางกับท่านแม่ต้องตกต่ำ“พะ พ่อ เอ่อ” นายอำเภอเล่อมู่เงียบงันไปพักใหญ่ เขาไม่แน่ใจว่าตนเองรักลี่หลินหรือไม่ ความผูกพันธ์ระหว่างพ่อลูกของเขากับนางมีเพียงน้อยนิด“ข้าขอโทษ ข้าไม่ดีเอง ข้ามันชั่วช้า ข้าไม่เคยทำหน้าที่แม่ให้เจ้าเลยตั้งแต่ฮูหยินใหญ่จากไป เป็นข้าที่ละเลยเจ้าและกีดกันความสัมพันธ์พ่อลูก ข้าเห็นแก่ตัวเองที่ไม่อยากแบ่งปันคนรักกับใคร ท่านแม่ของเจ้าสวยมาก นางเป็
หยางหนิงเฉิงกับหยางอี้เฉินเดินทางเข้าอำเภออยู่หลายเดือนเพื่อเตรียมตัวทำการค้า พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบดูแลหลายอย่างเริ่มตั้งแต่การเลือกซื้อหน้าร้าน การตกแต่ง การตั้งราคา การหาลูกจ้าง และอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องจัดการ ลี่หลินแค่คอยให้คำแนะนำในบางครั้งเท่านั้น อีกไม่กี่วันร้านค้าตระกูลหยางก็พร้อมเปิดให้บริการแล้วหลังจากวางแผนขยายกิจการหยางหนิงเฉิงกับหยางอี้เฉิน ก็เดินทางเข้าออกอำเภอเป็นว่าเล่น พวกเขาต้องเดินทางไปจัดการธุระบ่อยมาก การเดินทางเข้าอำเภอแต่ละครั้งต้องใช้เวลานานถึงสองวัน ลี่หลินเลยต้องหอบผ้าหอบผ่อนมาช่วยอ้ายฉิงดูแลร้านค้า ในตำบลแทน“พี่สะใภ้ข้าเลือกชุดไหนดีเจ้าคะ” อ้ายฉิงเดินถือเสื้อผ้าเข้ามาในห้องนอนของลี่หลินอย่างต้องการความช่วยเหลือ“อืม ไหนดูซิ” ลี่หลินเพ่งสายตามองเสื้อผ้าหลากหลายแบบตรงหน้าอย่างเคร่งเครียด“ข้าควรใส่สีแดงเข้ม แดงอ่อน แดงทอง หรือแดงอมชมพูดีเจ้าคะ” อ้ายฉิงคาดคั้นเอาคำตอบ นางนั่งเลือกอยู่นานแล้วแต่ยังเลือกไม่ได้สักที“สีแดงอมชมพูเหมาะกับเจ้า ใส่แล้วดูไม่แก่จนเกินไป” ลี่หลินแนะนำ“พี่สะใภ้ตาแหลมนัก ข้าเลือกชุดนี้เจ้าค่ะ” อ้ายฉิงพึงพอใจมาก นางเองก็คิดว่าใส่แล้ว
ร้านค้าตระกูลหยางเติบโตขึ้นทุกวันแบบก้าวกระโดด ตอนนี้ลี่หลินกับครอบครัวกลายเป็นเศรษฐีหน้าใหม่ของตำบลอย่างเป็นทางการแล้ว ครอบครัวหยางร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ สินค้าส่วนใหญ่ของลี่หลินมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนทำให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในความเป็นจริงแล้วการค้าของครอบครัวหยางก็ไม่ได้ราบรื่นเท่าไหร่ พวกเขามีคู่แข่งมากมายและมีปัญหาเข้ามาให้แก้ไขไม่น้อย ทั้งเรื่องการลอกเลียนแบบสินค้า การตัดราคา ข่าวลือ การใส่ร้ายป้ายสี รวมไปถึงเรื่องราวจิปาถะหลายอย่าง พวกเขาสามารถก้าวผ่านปัญหาเหล่านั้นมาได้เพราะทุกคนในครอบครัวช่วยเหลือกันคู่แข่งทางการค้ามีเข้ามาเรื่อยๆ แต่คนพวกก็ไม่สามารถเล่นงานลี่หลินได้เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่นางผลิตเอง ลี่หลินทำการค้าจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำเน้นการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก ทำให้คู่แข่งส่วนมากต้องล่าถอยออกไปเพราะยิ่งแข่งขันกับนางเท่าไหร่พวกเขายิ่งขาดทุนกิจการร้านเหล้าผลไม้ (ไวน์) ทำให้ครอบครัวหยางกลายเป็นที่รู้จักในหมู่ขุนนางมากขึ้น ด้วยรสชาติที่แตกต่าง ดื่มง่าย มีระดับมากกว่าเหล้าทั่วไป ขุนนางน้อยใหญ่จึงกลายเป็นลูกค้าประจำอย่างดี นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมในการซื้อเป็นของฝากแก่ผู
“อ้ายฉิงแต่งตัวเสร็จหรือยัง”ลี่หลินตะโกนถามอย่างใจเย็น วันนี้นางกับอ้ายฉิงต้องนำของขวัญปีใหม่ไปเยี่ยมเยียนครอบครัวต้าไห่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการของนางทุกคนล้วนได้รับของขวัญชิ้นนี้“เสร็จแล้วเจ้าค่ะพี่สะใภ้”อ้ายฉิงวิ่งลงมาจากชั้นบนของบ้านอย่างรวดเร็ว“รีบไปกันเถอะเสร็จแล้วจะได้เข้าเมืองกัน”ลี่หลินเอ่ยเร่ง วันนี้สองหนุ่มของบ้านต้องเข้าไปดูแลร้านค้ากันก่อนเพื่อให้ลี่หลินกับอ้ายฉิงจัดการธุระ“เจ้าค่ะ ท่านเอาของขวัญมาข้าถือเอง”อ้ายฉิงแย่งตะกร้าของขวัญในมือลี่หลินไปถืออย่างรวดเร็วก่อนเดินนำออกไปทั้งสองคนใช้เวลาเดินเพียงไม่นานก็มาถึงบ้านต้าไห่ ลี่หลินกวาดสายตามองรอบๆ อย่างพิจารณา บ้านของต้าไห่ตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก จากบ้านดินสภาพกลางเก่ากลางใหม่กลายเป็นเรือนสี่ประสานหลังใหญ่สวยงาม อ้ายฉิงเคาะประตูได้ไม่นานก็มีสาวรับใช้อายุน้อยนางหนึ่งออกมาต้อนรับเป็นอย่างดี ลี่หลินกับอ้ายฉิงเดินตามสาวน้อยคนนั้นเข้าไปในเรือนหลังใหญ่ของบ้านอย่างแปลกใจ ว่ากันตามตรงกำไรจากการขายถ่านไม่เยอะเลยเมื่อเทียบกับกิจการทั้งหลายของลี่หลิน แต่ละเดือนนางได้รับผลกำไรประมาณ 30-50 ตำลึงทองเท่านั้น บ้านของต้าไห่เองก็น่าจะ
ความคิดเห็น