“อ้าว…เป็นยังไงบ้างล่ะพ่อหนุ่ม?”เสียงเข้มทุ้มอย่างคนมีอายุของผู้ชายเอ่ยทักทายผม ผมที่กำลังมองซ้ายมองขวาเพื่อหาร่างของพี่เข้มอยู่ก็ต้องหันกลับไปมองยังต้นเสียงของผู้ชายนั้นทันที
“คุณลุง?”ผมเอ่ยขึ้นเรียกเขาไปที่น่าพอจะเป็นคุณลุงได้แล้ว เพราะเขาก็อายุอานามน่าจะปาเข้าไปเลขเจ็ดแล้วล่ะมองท่า เขานั่งอยู่บนแคร่ด้านหน้าบ้านหลังติดๆกับพี่เข้มนี่เอง โดยที่เขาสวมใส่เสื้อม่อฮ้อมสีซีดกำลังนั่งเคี้ยวหมากอยู่ในปากของเขาอย่างเพลิดเพลิน ที่ผมรู้ว่าเขากำลังกินหมากอยู่นั้นเพราะผมเห็นเขาห่อหมากน่ะ “มานี่สิ….”เขาเอ่ยเชื้อชวนพร้อมกับกวักมือเรียกผมให้เข้าไปหาเขา ผมก็คลี่ยิ้มบางๆให้เขาก่อนจะเดินไปหาชายคนนั้น ที่จะว่าชราภาพก็ไม่น่าใช่เพราะเขายังคงดูแข็งแรงอยู่เลยนะ “สวัสดีครับ…”ผมยกมือไหว้คุณลุงไปอย่างสุภาพอ่อนน้อมเขาก็ยิ้มอย่างใจดีให้ผมก่อนจะยกมือรับไหว้ผม “ไหว้พระๆๆเถอะ…นั่งลงสิ…” “ขอบคุณครับ…”ผมเอ่ยขอบคุณเขาไปพร้อมกับก้มศีรษะลงเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงบนแคร่หน้าบ้านของคุณลุงเขาโดยยิ้มแหยๆให้เขาไป เขาก็ผมจ้องมองผมด้วยสายตาเอ็นดู ใช่สายตาเอ็นดูแน่นอน ผมเป็นตำรวจ ผมจับผิดนักโทษบ่อยผมมั่นใจว่าผมมองคนไม่ผิดแน่ “แผลของเอ็งหายแล้วใช่ไหม?”คุณลุงเอ่ยผมพร้อมกับมองต่ำลงมาที่หน้าท้องของผมที่เต็มไปด้วยหมัดกล้ามหน้าท้องที่เรียงตัวกันสวยด้วยสายตาที่ไม่แปลกใจเลยสักนิดกับอาการที่บาดแผลของผมหายไปอย่างเป็นปิดทิ้งแบบนี้ “ครับ…มันน่าเหลือเชื่อมาก…”ผมก้มมองไปที่หน้าท้องของตัวเองพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาตอบคุณลุงไปอย่างเหลือเชื่อ คุณลุงเขาก็ทำเพียงแค่ขำขันออกมา “ข้าชื่อสิงห์…เป็นพ่อของไอ้เข้ม…”คุณลุงเอ่ยแนะนำตัวให้ผมได้รู้จัก ผมนี่ถึงกับตาเบิกโตมองหน้าลุงด้วยความตกใจ พ่อของพี่เข้มหรือเนี่ย… “พ่อของพี่เข้มหรือครับ?” “ก็ใช่น่ะสิ…ข้าน่ะเห็นไอ้เข้มมันแบกเอ็งที่นอนหมดสติมาเพราะถูกยิงน่ะ…” “แต่พวกของเอ็ง…ตายหมดเลยนะ…” “ไม่มีใครรอดสักคน…นอกจากเอ็ง…ที่ไอ้เข้มไปช่วยไว้ได้ทัน…”คุณลุงว่าต่อ สีหน้าของแกดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผมนึกสงสัยกับภาพสุดท้ายที่ผมเห็น นั่นคือเสือโคร่งร่างใหญ่ที่กลิ่นสาปของมันเหม็นมาก มันกัดกินร่างของไอ้ปลิวตายต่อหน้าต่อตาผม “ที่นี่มีเสือด้วยหรือครับ…?”ผมเอ่ยถามคุณลุงไปด้วยสีหน้าตกใจและสงสัย คุณลุงสิงห์ก็มองหน้าผมนิ่งก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบให้ผม สีหน้าที่เป็นกังวลของแกทำให้ผมรู้สึกหวาดๆขึ้นมา เหมือนมันมีสิ่งแปลกปลอมอะไรบางอย่างกำลังเกิดขึ้นกับผม เพราะเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้อุทยานภูดาวบอกว่าที่ป่านี้และที่หุบเขาแห่งนี้ไม่มีเสือโคร่งอาศัยอยู่ เพราะสังเกตได้จากการวางกล้องทุกๆจุดๆในทุกๆสิบห้าวันหรือหนึ่งเดือนพวกเขาจะไปนำกล้องที่บันทึกภาพเหตุการณ์ในป่าออกมาดู และมันก็ไม่เคยมีสัตว์ประเภทนี้ปรากฏในกล้องเลยสักครั้ง “ไม่ต้องทำหน้าสงสัยขนาดนั้นหรอก…” “ที่ที่เอ็งอยู่น่ะ…ไม่มีเสืออยู่…” “แต่ที่ที่ข้าอยู่…มันมีเสือสมิงกับเสือเย็นอาศัยอยู่…”เสียงเรียบของลุงสิงห์เอ่ยบอกผมมาทำให้ผมรอบกลืนน้ำลายลงคอดังอึกใหญ่ และที่แย่ไปกว่านั้น คือผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “เสือสมิง?…กับเสือเย็นหรือครับ…?”ผมเอ่ยทวนคำพูดของลุงสิงห์พ่อพี่เข้มไปอย่างสงสัย อีกใจก็เชื่อ ว่ามีเสืออยู่จริงๆเพราะผมเห็นมันมากับตาแต่อีกใจ ผมกลับไม่ค่อยเชื่อว่าในยุคนี้จะมีเสือสมิงและเสือเย็นที่เคยเป็นตำนานอยู่จริงๆ…."ครับ....ผมรับปาก"ผมเอ่ยบอกพี่เข้มไปแทบจะทันทีโดนไม่ต้องคิด เพราะสายตาที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองของพี่เข้ม มันช่างดุเหลือเกินน่ะสิครับ"ที่พิธีในค่ำคืนนี้ข้าร่ายมนต์บังตาไว้....จะไม่มีใครหาปรัมพิธีของข้าเจอ....เพราะฉะนั้นเอ็งไม่ต้องห่วงข้า""เข้านอนนะคนดีของข้า"*พี่เข้มเอ่ยขึ้นและลดเสียงเข้มลงเป็นเสียงอ่อน ก่อนจะยื่นมือมาจับแก้มผมและยิ่มบางๆให้ผมผมก็ยิ้มให้เขาก่อนจะพยักหน้าเป็นอันเข้าใจและรับรู้ทุกเรื่อง"ข้าต้องไปก่อน....ใกล้จะได้ฤกษ์แล้ว""ครับ""เอ็งเข้าบ้านได้แล้ว""ครับ"ผมเอ่ยบอกพี่เข้มเสร็จและก็กำลังจะหันหลังเดินเข้าบ้านอีกครั้งตามคำสั่งของพี่เข้มแต่คราวนี้ร่างของผมก็โดนพี่เข้มคว้าเอวสอบของผมไปให้หันไปหาเขาโดยที่ผมตั้งตัวไม่ทันอีกครั้งรู้ตัวอีกที ริมฝีปากของผมก็โดนครอบครองด้วยริมฝีปากขอพี่เข้มเป็นที่เรียบร้อยแล้วพรึบเขาดันร่างของผมจนแผ่นหลังของผมแนบชิดไปกับไม้ฝาของบ้านพี่เข้มและเขาก็มอบจุมพิตที่เร้าร้อนและร้อนแรงให้ผมจนผมเริ่มเคลิ้มตามและจูบตอบเขาเราสองคนเกี่ยวตวัดปลายลิ้นหยอกเย้ากันไปมาโดยที่ผมเองก็ใช้ปลายลิ้นตวัดเลียน้ำลายและชิมความหวานละมุนในโพรงปากของพี่เข้มราวกับว่ามันเป
กลับมาที่ ภูดาวในปี พุทธศักราช 2466Part.ดาวเหนือ "เอ็งเดินให้มันดีๆหน่อยได้ไหม!!!"พี่เข้มตะโกนเสียงดังใส่ผม จนผมที่เดินนำหน้าเข้าอยู่ต้องหันกลับไปหาเขาอย่างเอาเรื่อง"นี่ผมก็เดินดีแล้วและมันไม่ดีตรงไหน?!"ผมเอ่ยถามเขาไปด้วยท่าทางจริงจังพลางยกมือขึ้นมาเท้าเอวจ้องหน้าพี่เข้มอย่างไม่วางตาพี่เข้มที่ถือตะเกียงอยู่ในมือก็เดินมาถึงตัวผมพอดี"ถ้าเอ็งยังไม่เลิกยั่วโมโหข้า....ข้าจะจับเอ็งกินเดี๋ยวนี้!!!"เสียงเข้มพร้อมหน้าตาดุๆมองจ้องผมอย่างไม่วางตาและสายตานั่นของพี่เข้มทำให้ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอดังอึกใหญ่อย่างยากลำบาก"ใช่สิ....เอ๊ะอ๊ะก็จะกิน....คิดว่าผมกลัวเสืออย่างพี่เหรอไง?"แต่ปากของผมกลับพูดในสิ่งที่ใจผมไม่ได้คิดแบบนั้น และเพราะไอ้น้ำเมานี่ทำให้ผมมีความกล้ามากกว่าเดิม และปากไวมากขึ้นอีกด้วยนี่สินะของมึนเมาทำให้คสเราขาดสติสัมปชัญญะน่ะไอ้เหนือนะไอ้เหนือ"ไม่ใช่ว่าข้าเป็นเสือแล้วจะกินเอ็ง....แต่ที่กล้าหมายถึงคือ"พี่เข้มว่าทิ้งท้ายก่อนจะทำสายตากะลิ้มกะเหลี่ยมองร่างกายของผมที่เขามองนานที่สุดก็คงจะเป็นพรึบ"อย่าเก่งแต่พูดครับ.....อยากโดนกินจะแย่"ผมล่ะอยากจะเอาหัวตัวเองไปกระแทกกับต้นไม้ที
"สะเสือสมิง?"คุณหญิงพรทิพย์เอ่ยเสียงสั่นออกมาพลางหายใจไม่ทั่วท้องแข่งขาอ่อนแรงจนโยรินจึงรีบถลามาประคองคุณหญิงไว้ในอ้อมแขนเธออย่างรวดเร็ว"ไร้สาระน่ะ....ถ้าคุณไม่หยุดพูดเรื่องโกหกผมจะแจ้งความจับคุณข้อหาป่วนการทำงาาของเจ้าหน้าที่!!!"พลตำรวจเอกพงศพัศษ์เอ่ยเสียงเข้มหน้าตาจริงจังอย่างโกรธจัดชี้หน้าพรานโต พรานโตก็ยิ้มอ่อนให้พงศพัศษ์"ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะมาป่วน....แต่แค่จะมาชี้ทางสว่างให้กับคุณและคุณ"พรานโตว่าพลางชี้นิ้วไปที่พลตำรวจเอกพงศพัศษ์และคุณหญิงพรทิพย์"พวกคุณลองคิดดีๆ....ว่าถ้าไม่ใช่อย่างที่ผมบอก...ลูกของพวกคุณและพวกโจรจะเดินไปทางไหน....""ในเมื่อรอยเท้าพวกนี้ยังอยู่ที่เดิมไม่ได้เดินออกไปจากที่ตรงนี้.....ถ้าพวกเขาไม่ได้บินขึ้นฟ้าไป""เลิกพูดจาไร้สาระสักที....นี้มันยุคสมัยไหนแล้วมันจะมีเรื่องแบบที่คุณว่าเกิดขึ้นได้ยังไง!!!"พลตำรวจเอกพงศพัศคำรามเสียงดังลั่น อย่างข่มใจตัวเอง เพราะเขาเองก็เริ่มที่จะคิดตามคำพูดของพรานโตไปแล้ว เพราะร่องรอยรองเท้า ของคนนับสิบคนมันบ่งบอกแบบนั้นจริงๆ"คุณนั้นแหละค่ะที่ต้องหยุด!!!"เป็นคุณหญิงพรทิพย์ที่ตะโกนเสียงเข้มใส่พงศพัศษ์สามีที่ดำรงตำแหน่งเป็นถึงผู้บังค
กลับ ปัจจุบันพุทธศักราช 2566หุบเขาภูดาว"ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคนหลายคนหายไปจะไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้!!"เสียงเข้มที่ทรงอำนาจเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจและดุดันจากผู้บัญชาการใหญ่ที่มีดาวสีทองประดับอยู่เต็มบ่าทั้งสองข้าง ที่ติดยศพลตำรวจเอกพงศพัศษ์ที่ยืนเท้าเอวสั่งลูกน้องหลายสิบรายให้ไล่หาลูกชายเพียงคนเดียวของเขาที่หายไปนับสัปดาห์พวกเขาปูพรมค้นหาทั่วทั้งหุบภูดาวมาเป็นอาทิตย์แต่ยังก็ไร้วี่เเววของคนอีกหลายสิบคนที่หายไปอยู่ดีเหลือเพียงแค่เต็นท์หนึ่งหลังใหญ่และของกลางมากมายที่มีทั้งยาเสพติดผงเฮโรอีนและอาวุธสมครามมากมายถูกวางจัดเรียงไว้เป็นอย่างดีแต่ไร้ซึ่งคนสักคนเดียว"ฮืฮๆๆๆๆๆ"เสียงร่ำไห้โฮที่ร้องไห้ไม่ขาดติดต่อกันมาเป็นเวลานับชั่วโมงตั้งแต่ที่เธอมาถึงที่นี่ เธอคือภริยาของผู้บังคับบัญชาการใหญ่ข้างกายเธอมีหญิงสาวรูปร่างผอมเพียวหุ่นบางอยู่ในชุดเดรสสีขาวแขนตุ๊กตาผมยาวสยายของเธอพัดปลิวไหวไปด้านข้างตามกระแสของลมมือของเธอก็โอบกอดร่างของคุณหญิงพรทิพย์เพื่อทำการปลอบโยนเธอ"ไม่เป็นไรนะคะคุณป้า....พี่เหนือเป็นคนเก่งค่ะ...พี่เขาต้องเอาตัวรอดได้อยู่แล้วเชื่อโยนะคะ"เสียงหวานไพเราะเอ่ยขึ้นอย่างปลอบประโยนคนข้า
จนวิชาในตัวผมเสื่อมและหมดไปดีไม่ดีผมอาจจะกลายเป็นเสือสมิงขึ้นมาอีกตัวก็ได้เพราะผมร่ำเรียนวิชาเสือเย็นมา เสือเย็นก็ไม่ต่างจากเสือสมิงแต่เสือเย็นไม่กินเนื้อของสัตว์และของคนรักษาศีลห้าอยู่เสมอและผมเองก็เป็นคนอยู่ในศีลด้วย "เอ็งเลิกเซ้าซี้ข้าเสียที.....ข้าไม่มีทางรักเอ็ง""ข้ามีคนรักอยู่แล้ว.....ซึ่งคนนั้นไม่ใช่เอ็งเเน่นอน"ผมยื่นคำขาดน้ำเสียงจริงจังบอกเเสงเดือนไป เธอก็หน้าเสียและซีดสลดลงอย่างเห็นได้ชัดเธอทำสีหน้าที่ตกใจและไม่พอใจ แต่ทำไงได้ ในเมื่อผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้วที่ผมรักเธอหรือรักคนอื่นไม่ได้เพราะมันเหมือนผมรอคอยใครสักคนมานานแสนนาน คนที่ผมคุ้นเคยกับเขามานาน เหมือนเราเคยพบเจอกันมาก่อน และเหมือนมีบางอย่างมันสั่งให้ผม รอคนคนนั้น ในใจผมบอกเองว่า เมื่อเขามา ผมจะรู้ได้เอง และมันก็จริงเมื่อผมพบเจอหน้าดาวเหนือหัวใจที่ไม่เคยหวั่นไหวกับหญิงหรือชายใด ก็เต้นวูบวาบขึ้นมา มันตื่นเต้นทุกครั้งเวลาที่เห็นหน้าเขาหรือได้แตะสัมผัสตัวเขามันอยากกอดอยากหอมทุกครั้งที่ได้กลิ่นกายเขาหรือเขาอยู่ใกล้ๆนี่สิน่ะ ที่ผมรอคอยมาเกือบครึ่งชีวิต......"ถึงพี่เข้มจะไม่มีวันรักฉันแต่ยังไงๆเราก็ต้องแต่งงานกันอยู
เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นPart พรานเข้ม.....พรึบ"ฟอดดดดดด ฟอดดดดด"ผมหลับตาพร้อมกับเอาขาเกี่ยวกอดร่างของดาวเหนือและพรมจูบหอมไปทั่วบนพวงแก้มของเขาอย่างรักใคร่แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องแปลกใจและรีบลืมตาเบิกดูทันทีว่าคนที่ผมกำลังกอดก่ายร่างของเขาและเอาหน้าซุกไซ้หอมไปเมื่อกี้นี้ไม่ใช่ดาวเหนือเพราะเป็นร่างเล็กเนื้อตัวนุ่มนิ่มและอรชรมันเป็นร่างของผู้หญิงแน่นอน"พี่เข้มอื้อออออย่าสิจ๊ะฉันจั๊กกะเดียมนะ"และยิ่งเสียงนี้ก็ทำให้ผมมั่นใจทันทีว่าคนที่ผมเผลอจูบหอมไปนั้นไม่ใช่ดาวเหนือแน่นอน"อีเดือน!!"ผมร้องตะโกนชื่อของผู้หญิงที่ผมกอดก่ายไปเมื่อครู่เพราะคิดว่าเป็นดาวเหนือที่เขาบอกผมเขาจะไปเอาข้าวมาให้ผมกิน พอกินเสร็จก็จะเช็คตัวให้ผม ผมที่เห็นว่าดาวเหนือไปนานแล้วก็เลยคิดว่าต้องเป็นเขาแน่ๆที่เป็นคนมาเปิดประตูและเข้ามาในบ้านของผมแต่ทำไมกลับเป็นแสงเดือนไปได้ล่ะพรึบตุ๊บ"โอ้ย!!!ฉันเจ็บนะพี่เข้มไม่เห็นต้องโยนร่างฉันออกมาแบบนี้เลย"แสงเดือนที่นั่งอยู่บนพื้นไม้แคร่ของบ้านผมร้องโอดครวญขึ้นมาพร้อมทำใบหน้าที่เหยเกและเอามือลูบบั้นท้ายของตัวเองไปด้วยผมที่มีสีหน้าแตกต่างและตกใจและนึกโกรธตัวเองที่ไม่รอบคอบทำอะไรที่น่