“เสือเย็น”เป็นวิชากลายร่างจากมนุษย์แปลงเป็น เสือ ตำนานสมิงร้ายแห่งล้านนาที่อยู่คู่กับเรื่องเล่าของชาวบ้านมานาน
“เสือเย็น" วิชากลายร่างจากมนุษย์แปลงเป็น "เสือ" ถึงวิชาคล้ายกับ "เสือสมิง" เสือเย็น จะเป็นวิชาอาคมที่ใช้แปลงร่างเป็นเสือ แต่สามารถควบคุมสติของตนเองและไม่อาละวาดฆ่าคนได้ แต่ถ้าเป็นเสือสมิงจะไม่สามารถควบคุมสติของตนเองได้เมื่อกลายร่าง ……………………………………………… ดาวเหนือ…. ต่อ… พรึบ “แผลเอ็งพรุ่งนี้ก็น่าจะหายแล้ว…”พี่เข้มเอ่ยขึ้นหลังจากที่เขาใส่ยาสมุนไพรให้ผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็นั่งมองพี่เข้มสุดหล่อตาไม่กระพริบด้วยความปลื้มปริ่มใจยังไงบอกไม่ถูก นี่ผมกำลังชอบเขาคนนี้แล้วใช่ไหม? พี่เข้มใช้ผ้าผืนใหม่พันรอบๆเอวผมเพื่อปิดบาดแผลผมให้อย่างนุ่มนวลและเบามือ ผมก็จ้องมองพี่เข้มตลอดระยะเวลาที่เขาทำแผลให้ผม แต่น่าแปลกใจว่าผมนึกว่าจะโดนยิงจนตัวพุนซะอีกทีไหนได้โดนแค่นัดเดียวแต่ก็น่าแปลกอีกว่าทำไมเวลาแค่สามวันแผลผมถึงได้หายเร็วอย่างนี้ เพราะมันเกือบปิดจนสนิทแล้ว แผลสมานกันจนจะหายอยู่แล้วหรืออาจจะเป็นเพราะยาสมุนไพรของพี่เข้มก็ได้ ความรู้สึกที่คุ้นเคยกับเขาคนนี้ มันคืออะไรกันนะ “เรา…เคยเจอกันมาก่อนไหมครับ..?”ผมเอ่ยถามพี่เข้มไปอย่างสงสัย พี่เข้มที่ทำแผลเสร็จแล้วก็ทำท่าจะยันตัวลุกขึ้นยืนก็หันมามองหน้าผม ด้วยแววตาที่เรียบเฉย “ใช่…เอ็งกับข้าเคยเจอกัน” “แต่มันมานานแล้ว…”พี่เข้มตอบผมเสียงเรียบแววตาเรียบเฉยก่อนจะหันหลังและเดินออกจากห้องนี้ไป ปล่อยให้ผมงุนงงกับคำพูดของเขาอยู่เพียงคนเดียว เคยเจอกันมานานแล้วเหรอ…? ไม่นะ…ผมกับเขาเราไม่เคยเจอกันมาก่อนหนิ… แต่ทำไมเขากลับพูดแบบนั้นล่ะ…? ผมจมปรักอยู่กับคำพูดที่แสนจะกำกวมของพี่เข้มทั้งวันทั้งคืน นั่งก็แล้ว นอนก็แล้ว ผมก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดีว่าเคยเจอเขาคนนี้ที่ไหนมาก่อน แต่ความรู้สึกของผมมันบอกว่าผมคุ้นเคยและผูกพันกับเขามาก่อนแน่ๆ เช้าวันต่อมา…. “อื้ออออ”ผมบิดขี้เกียจไปมาอย่างหลับสบายเพราะอากาศตอนกลางคืนที่นี่ค่อนข้างเย็นสบายมากๆ ว่าแต่แถวหุบเขาภูดาวมีหมู่บ้านด้วยเหรอ? ผมไม่ยักรู้มาก่อนแหะ…ตอนที่ผมสำรวจพื้นที่กับกรมป่าไม้ก็ไม่เคยเจอหมู่บ้านเลยนะ หรือคนพวกนี้จะเป็นพวกเพื่อนบ้านของผม แต่ก็ไม่น่าใช่นะเพราะเขาพูดภาษาไทยหนิ ผมฟังพี่เข้มเข้าใจและหน้าตาพี่เข้มก็หล่อเข้มสมเป็นชายชาติไทยสมบูรณ์ทุกอย่างเลยด้วย หรือว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะตกสำรวจ ใช่ต้องเป็นอย่างนี้แน่ๆ วันนี้ผมจะเดินสำรวจเพื่อจะกลับบ้านให้ได้และก็จะถามพี่เข้มด้วยว่าเจอผมที่ไหน ผมจะให้เขาไปส่งผมกลับบ้าน พรึบ ผมยันตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนอย่างช้าๆเพราะยังคงงัวเงียกับการนอนหลับสบายอยู่ แต่ที่น่าแปลกใจในร่างกายของผมนั่นคือแผลจากการถูกยิงของผม ซึ่งตอนนี้มันไม่เจ็บแล้ว ไม่เจ็บเลยสักนิด เหมือนมันไม่เคยถูกยิงหรือมีแผลมาก่อนด้วยซ้ำ พรึบ ว่าแล้วอย่างสงสัยผมก็ใช้มือปลดผ้านิ่มที่พี่เข้มใช้พันแผลให้ผมออกจากเอวสอบของผมทันทีและทันใดนั้นก็ต้องทำให้ผมถึงกับอ้าปากค้้างด้วยความตกใจกับภาพเบื้องหน้าที่เห็น “ไม่มีแม้กระทั่งรอยของแผลเป็น…” “มันเป็นไปได้อย่างไง?”ผมอุทานออกมาอย่างตกใจกับบาดที่หน้าท้องผม ไม่สิ เมื่อคืนตอนที่พี่เข้มเข้ามาทำแผลให้ผมมันยังมีร่องรอยของบาดแผลอยู่เลยแต่ทำไมตอนนี้กลับไม่มี ไม่หลงเหลือแม้กระทั่งรอยแผลเป็นเสียด้วยซ้ำ “เห้ย!”ผมทำหน้าตกใจกับสิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว “น่าเหลือเชื่อ…”ผมพูดขึ้นพร้อมกับเลิกให้ความสนใจบาดเเผลที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยของผมและลุกขึ้นยืนเดินเปลือยท่อนบนออกมาจากห้องนอนแห่งนี้ด้วยท่าทางปกติไม่เหมือนคนเจ็บอีกต่อไป “พี่เข้มครับ…”ผมตะโกนเรียกหาเจ้าของบ้านแต่ก็ไร้วี่เเววของเขา ทำให้ผมขมวดคิ้วงุนงงว่าเขาไปไหนกันนะ ผมจึงเลือกที่จะเดินมาที่ชานบ้านพักและเดินลงบันไดสามขั้นมาพร้อมกับมองไปรอบๆเพื่อหาพี่เข้มแต่ก็ยังคงไร้วี่แววเช่นเดิม"ครับ....ผมรับปาก"ผมเอ่ยบอกพี่เข้มไปแทบจะทันทีโดนไม่ต้องคิด เพราะสายตาที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองของพี่เข้ม มันช่างดุเหลือเกินน่ะสิครับ"ที่พิธีในค่ำคืนนี้ข้าร่ายมนต์บังตาไว้....จะไม่มีใครหาปรัมพิธีของข้าเจอ....เพราะฉะนั้นเอ็งไม่ต้องห่วงข้า""เข้านอนนะคนดีของข้า"*พี่เข้มเอ่ยขึ้นและลดเสียงเข้มลงเป็นเสียงอ่อน ก่อนจะยื่นมือมาจับแก้มผมและยิ่มบางๆให้ผมผมก็ยิ้มให้เขาก่อนจะพยักหน้าเป็นอันเข้าใจและรับรู้ทุกเรื่อง"ข้าต้องไปก่อน....ใกล้จะได้ฤกษ์แล้ว""ครับ""เอ็งเข้าบ้านได้แล้ว""ครับ"ผมเอ่ยบอกพี่เข้มเสร็จและก็กำลังจะหันหลังเดินเข้าบ้านอีกครั้งตามคำสั่งของพี่เข้มแต่คราวนี้ร่างของผมก็โดนพี่เข้มคว้าเอวสอบของผมไปให้หันไปหาเขาโดยที่ผมตั้งตัวไม่ทันอีกครั้งรู้ตัวอีกที ริมฝีปากของผมก็โดนครอบครองด้วยริมฝีปากขอพี่เข้มเป็นที่เรียบร้อยแล้วพรึบเขาดันร่างของผมจนแผ่นหลังของผมแนบชิดไปกับไม้ฝาของบ้านพี่เข้มและเขาก็มอบจุมพิตที่เร้าร้อนและร้อนแรงให้ผมจนผมเริ่มเคลิ้มตามและจูบตอบเขาเราสองคนเกี่ยวตวัดปลายลิ้นหยอกเย้ากันไปมาโดยที่ผมเองก็ใช้ปลายลิ้นตวัดเลียน้ำลายและชิมความหวานละมุนในโพรงปากของพี่เข้มราวกับว่ามันเป
กลับมาที่ ภูดาวในปี พุทธศักราช 2466Part.ดาวเหนือ "เอ็งเดินให้มันดีๆหน่อยได้ไหม!!!"พี่เข้มตะโกนเสียงดังใส่ผม จนผมที่เดินนำหน้าเข้าอยู่ต้องหันกลับไปหาเขาอย่างเอาเรื่อง"นี่ผมก็เดินดีแล้วและมันไม่ดีตรงไหน?!"ผมเอ่ยถามเขาไปด้วยท่าทางจริงจังพลางยกมือขึ้นมาเท้าเอวจ้องหน้าพี่เข้มอย่างไม่วางตาพี่เข้มที่ถือตะเกียงอยู่ในมือก็เดินมาถึงตัวผมพอดี"ถ้าเอ็งยังไม่เลิกยั่วโมโหข้า....ข้าจะจับเอ็งกินเดี๋ยวนี้!!!"เสียงเข้มพร้อมหน้าตาดุๆมองจ้องผมอย่างไม่วางตาและสายตานั่นของพี่เข้มทำให้ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอดังอึกใหญ่อย่างยากลำบาก"ใช่สิ....เอ๊ะอ๊ะก็จะกิน....คิดว่าผมกลัวเสืออย่างพี่เหรอไง?"แต่ปากของผมกลับพูดในสิ่งที่ใจผมไม่ได้คิดแบบนั้น และเพราะไอ้น้ำเมานี่ทำให้ผมมีความกล้ามากกว่าเดิม และปากไวมากขึ้นอีกด้วยนี่สินะของมึนเมาทำให้คสเราขาดสติสัมปชัญญะน่ะไอ้เหนือนะไอ้เหนือ"ไม่ใช่ว่าข้าเป็นเสือแล้วจะกินเอ็ง....แต่ที่กล้าหมายถึงคือ"พี่เข้มว่าทิ้งท้ายก่อนจะทำสายตากะลิ้มกะเหลี่ยมองร่างกายของผมที่เขามองนานที่สุดก็คงจะเป็นพรึบ"อย่าเก่งแต่พูดครับ.....อยากโดนกินจะแย่"ผมล่ะอยากจะเอาหัวตัวเองไปกระแทกกับต้นไม้ที
"สะเสือสมิง?"คุณหญิงพรทิพย์เอ่ยเสียงสั่นออกมาพลางหายใจไม่ทั่วท้องแข่งขาอ่อนแรงจนโยรินจึงรีบถลามาประคองคุณหญิงไว้ในอ้อมแขนเธออย่างรวดเร็ว"ไร้สาระน่ะ....ถ้าคุณไม่หยุดพูดเรื่องโกหกผมจะแจ้งความจับคุณข้อหาป่วนการทำงาาของเจ้าหน้าที่!!!"พลตำรวจเอกพงศพัศษ์เอ่ยเสียงเข้มหน้าตาจริงจังอย่างโกรธจัดชี้หน้าพรานโต พรานโตก็ยิ้มอ่อนให้พงศพัศษ์"ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะมาป่วน....แต่แค่จะมาชี้ทางสว่างให้กับคุณและคุณ"พรานโตว่าพลางชี้นิ้วไปที่พลตำรวจเอกพงศพัศษ์และคุณหญิงพรทิพย์"พวกคุณลองคิดดีๆ....ว่าถ้าไม่ใช่อย่างที่ผมบอก...ลูกของพวกคุณและพวกโจรจะเดินไปทางไหน....""ในเมื่อรอยเท้าพวกนี้ยังอยู่ที่เดิมไม่ได้เดินออกไปจากที่ตรงนี้.....ถ้าพวกเขาไม่ได้บินขึ้นฟ้าไป""เลิกพูดจาไร้สาระสักที....นี้มันยุคสมัยไหนแล้วมันจะมีเรื่องแบบที่คุณว่าเกิดขึ้นได้ยังไง!!!"พลตำรวจเอกพงศพัศคำรามเสียงดังลั่น อย่างข่มใจตัวเอง เพราะเขาเองก็เริ่มที่จะคิดตามคำพูดของพรานโตไปแล้ว เพราะร่องรอยรองเท้า ของคนนับสิบคนมันบ่งบอกแบบนั้นจริงๆ"คุณนั้นแหละค่ะที่ต้องหยุด!!!"เป็นคุณหญิงพรทิพย์ที่ตะโกนเสียงเข้มใส่พงศพัศษ์สามีที่ดำรงตำแหน่งเป็นถึงผู้บังค
กลับ ปัจจุบันพุทธศักราช 2566หุบเขาภูดาว"ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคนหลายคนหายไปจะไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้!!"เสียงเข้มที่ทรงอำนาจเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจและดุดันจากผู้บัญชาการใหญ่ที่มีดาวสีทองประดับอยู่เต็มบ่าทั้งสองข้าง ที่ติดยศพลตำรวจเอกพงศพัศษ์ที่ยืนเท้าเอวสั่งลูกน้องหลายสิบรายให้ไล่หาลูกชายเพียงคนเดียวของเขาที่หายไปนับสัปดาห์พวกเขาปูพรมค้นหาทั่วทั้งหุบภูดาวมาเป็นอาทิตย์แต่ยังก็ไร้วี่เเววของคนอีกหลายสิบคนที่หายไปอยู่ดีเหลือเพียงแค่เต็นท์หนึ่งหลังใหญ่และของกลางมากมายที่มีทั้งยาเสพติดผงเฮโรอีนและอาวุธสมครามมากมายถูกวางจัดเรียงไว้เป็นอย่างดีแต่ไร้ซึ่งคนสักคนเดียว"ฮืฮๆๆๆๆๆ"เสียงร่ำไห้โฮที่ร้องไห้ไม่ขาดติดต่อกันมาเป็นเวลานับชั่วโมงตั้งแต่ที่เธอมาถึงที่นี่ เธอคือภริยาของผู้บังคับบัญชาการใหญ่ข้างกายเธอมีหญิงสาวรูปร่างผอมเพียวหุ่นบางอยู่ในชุดเดรสสีขาวแขนตุ๊กตาผมยาวสยายของเธอพัดปลิวไหวไปด้านข้างตามกระแสของลมมือของเธอก็โอบกอดร่างของคุณหญิงพรทิพย์เพื่อทำการปลอบโยนเธอ"ไม่เป็นไรนะคะคุณป้า....พี่เหนือเป็นคนเก่งค่ะ...พี่เขาต้องเอาตัวรอดได้อยู่แล้วเชื่อโยนะคะ"เสียงหวานไพเราะเอ่ยขึ้นอย่างปลอบประโยนคนข้า
จนวิชาในตัวผมเสื่อมและหมดไปดีไม่ดีผมอาจจะกลายเป็นเสือสมิงขึ้นมาอีกตัวก็ได้เพราะผมร่ำเรียนวิชาเสือเย็นมา เสือเย็นก็ไม่ต่างจากเสือสมิงแต่เสือเย็นไม่กินเนื้อของสัตว์และของคนรักษาศีลห้าอยู่เสมอและผมเองก็เป็นคนอยู่ในศีลด้วย "เอ็งเลิกเซ้าซี้ข้าเสียที.....ข้าไม่มีทางรักเอ็ง""ข้ามีคนรักอยู่แล้ว.....ซึ่งคนนั้นไม่ใช่เอ็งเเน่นอน"ผมยื่นคำขาดน้ำเสียงจริงจังบอกเเสงเดือนไป เธอก็หน้าเสียและซีดสลดลงอย่างเห็นได้ชัดเธอทำสีหน้าที่ตกใจและไม่พอใจ แต่ทำไงได้ ในเมื่อผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้วที่ผมรักเธอหรือรักคนอื่นไม่ได้เพราะมันเหมือนผมรอคอยใครสักคนมานานแสนนาน คนที่ผมคุ้นเคยกับเขามานาน เหมือนเราเคยพบเจอกันมาก่อน และเหมือนมีบางอย่างมันสั่งให้ผม รอคนคนนั้น ในใจผมบอกเองว่า เมื่อเขามา ผมจะรู้ได้เอง และมันก็จริงเมื่อผมพบเจอหน้าดาวเหนือหัวใจที่ไม่เคยหวั่นไหวกับหญิงหรือชายใด ก็เต้นวูบวาบขึ้นมา มันตื่นเต้นทุกครั้งเวลาที่เห็นหน้าเขาหรือได้แตะสัมผัสตัวเขามันอยากกอดอยากหอมทุกครั้งที่ได้กลิ่นกายเขาหรือเขาอยู่ใกล้ๆนี่สิน่ะ ที่ผมรอคอยมาเกือบครึ่งชีวิต......"ถึงพี่เข้มจะไม่มีวันรักฉันแต่ยังไงๆเราก็ต้องแต่งงานกันอยู
เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นPart พรานเข้ม.....พรึบ"ฟอดดดดดด ฟอดดดดด"ผมหลับตาพร้อมกับเอาขาเกี่ยวกอดร่างของดาวเหนือและพรมจูบหอมไปทั่วบนพวงแก้มของเขาอย่างรักใคร่แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องแปลกใจและรีบลืมตาเบิกดูทันทีว่าคนที่ผมกำลังกอดก่ายร่างของเขาและเอาหน้าซุกไซ้หอมไปเมื่อกี้นี้ไม่ใช่ดาวเหนือเพราะเป็นร่างเล็กเนื้อตัวนุ่มนิ่มและอรชรมันเป็นร่างของผู้หญิงแน่นอน"พี่เข้มอื้อออออย่าสิจ๊ะฉันจั๊กกะเดียมนะ"และยิ่งเสียงนี้ก็ทำให้ผมมั่นใจทันทีว่าคนที่ผมเผลอจูบหอมไปนั้นไม่ใช่ดาวเหนือแน่นอน"อีเดือน!!"ผมร้องตะโกนชื่อของผู้หญิงที่ผมกอดก่ายไปเมื่อครู่เพราะคิดว่าเป็นดาวเหนือที่เขาบอกผมเขาจะไปเอาข้าวมาให้ผมกิน พอกินเสร็จก็จะเช็คตัวให้ผม ผมที่เห็นว่าดาวเหนือไปนานแล้วก็เลยคิดว่าต้องเป็นเขาแน่ๆที่เป็นคนมาเปิดประตูและเข้ามาในบ้านของผมแต่ทำไมกลับเป็นแสงเดือนไปได้ล่ะพรึบตุ๊บ"โอ้ย!!!ฉันเจ็บนะพี่เข้มไม่เห็นต้องโยนร่างฉันออกมาแบบนี้เลย"แสงเดือนที่นั่งอยู่บนพื้นไม้แคร่ของบ้านผมร้องโอดครวญขึ้นมาพร้อมทำใบหน้าที่เหยเกและเอามือลูบบั้นท้ายของตัวเองไปด้วยผมที่มีสีหน้าแตกต่างและตกใจและนึกโกรธตัวเองที่ไม่รอบคอบทำอะไรที่น่