Share

บทที่ 385

Author: ลิ่วเยว่
หลงฉางเทียนใบหน้าเคร่งเครียด เอ่ยสีหน้าจริงจัง “ทูลหมู่โฮ่วฮองไทเฮา หากนางเหลวไหลเช่นนี้จริง กระหม่อมจะไม่ไว้นางเป็นคนแรกพ่ะย่ะค่ะ” หลงฉางเทียน

อาเสอแค่นเสียงหัวเราะ “ท่านแม่ทัพช่างคุยโม้เสียจริง ท่านเป็นขุนนางคนหนึ่ง จะไม่ไว้หมู่โฮ่วฮองไทเฮาองค์ปัจจุบันได้อย่างไร?”

หลงฉางเทียนมองอาเสอด้วยความโกรธ “เจ้าเป็นใคร? เจ้ามีสิทธิ์พูดที่นี่หรือ?”

จ่านเหยียนเอื้อมมือตบหลังมืออาเสอทีหนึ่งแล้วเอยกับหลงฉางเทียน “ท่านแม่ทัพ ทุกคำที่นางพูดล้วนเป็นตัวแทนของข้าได้”

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ที่อาเสอพูดมาก็คือสิ่งที่นางอยากจะพูด

ครั้นหลงฉางเทียนคิดได้ก็เดือดดาล แต่ติดที่สถานะของตัวเองจึงไม่กล้าระเบิดอารมณ์ ถลึงตาใส่อาเสอกับจ่านเหยียนทีหนึ่ง

ฮองเฮาลุกขึ้นยืน สาวเท้าเร็วข้างหน้า ปากก็ว่า “เจ้าเป็นใครกัน? คนอื่นสั่งสอนเจ้าไม่ได้ แต่ข้ายังสั่งสอนเจ้าไม่ได้หรือ? ถือว่ามีไทเฮาให้ท้ายก็ไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา ที่นี่เจ้ามีสิทธิ์พูดหรือ?”

กล่าวจบก็สะบัดมือใส่หน้าอาเสอ ถ้อยคำของนางนี้ แค่ฟังก็รู้ว่าพูดให้จ่านเหยียนฟัง อาเสอเป็นเพียงแพะรับบาป ฮองเฮาแค้นหลงจ่านเหยียนมานานแล้ว ยามนี้จึงถามเอาความผิด แล้วนางจะไม่ระบาย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 390

    เหล่าสมุหพระอาลักษณ์ต่างรู้อยู่ในใจดี ความลับของราชวงศ์ยังให้พวกเขาร่วมฟัง ยามนี้จะมีอะไรที่ฟังไม่ได้อีก?แต่ใครก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวาย เรื่องของราชวงศ์เป็นเรื่องที่ไม่สมควรถามพวกเขาจึงลุกขึ้นยืนขอตัว พร้อมทอดสายตาสงสารให้กับจ่านเหยียนเล็กน้อยมาเอาเรื่องที่ตำหนักหรูหลานอย่างเอิกเกริกเช่นนี้ แล้วตอนนี้จะปล่อยไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?เฮ้อ คิดแล้วแม้มีใจแต่ก็หมดแรง หลงฉางเทียนเป็นบิดาของนางยังไม่เข้าข้างนางเลย พวกเขาที่ไร้ซึ่งอำนาจและอิทธิพลเหล่านี้จะทำอะไรได้?หลังจากหมอหลวงออกไป จงเสี้ยนก็ส่งสายตากับราชครูถง ตามด้วยลุกขึ้นยืนอย่างขี้เกียจ “ประคองข้ากลับตำหนัก ชิงเอ๋อร์ เหยียนเอ๋อร์ พวกเจ้าก็กลับเถอะ”ครั้นถงไทเฮาและฮองเฮาได้ยินดังนั้นจึงลุกขึ้นแล้วไปประคองจงเสี้ยนพร้อมกันจ่านเหยียนกลับส่งสายตากับอาเสอ อาเสอสาวเท้าเร็วเดินไปปิดประตูตำหนัก จากนั้นก็ยืนอยู่คนละฝั่งกับอาหู จงเสี้ยนพลันเกิดโทสะหันมาจ้องจ่านเหยียน “นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”จ่านเหยียนก็ลุกขึ้นเดินเหมือนกัน คลี่ยิ้มตอบ “แม่สามีจะรีบเสด็จกลับไปไยเพคะ? เชิญประทับก่อน หม่อมฉันยังมีเรื่องจะถามแม่สามี”

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 389

    มีนิ้วหนึ่งกำลังจิ้มด้านหลังอาเสอ และที่อยู่ด้านหลังของนางก็คือมู่หรงฉิงเทียน วันนี้นายท่านท่านนี้ไม่กล้าเปิดปาก เพราะทันทีที่เปิดปากจะเปิดเผยตัวตนดังนั้นวันนี้นางจึงทำหน้าที่เป็นเครื่องขยายเสียงให้มู่หรงฉิงเทียนแม้อาเสออยากดูความสนุกมาก แต่มู่หรงฉิงเทียนออกคำสั่ง จึงได้แต่ตะคอกใส่หมอหลวง “นี่มันอะไรกัน? ไสหัวไปนะ!”แม้ไม่ใช่คำพูดเดิมของมู่หรงฉิงเทียน หากถ่ายทอดเสียงในใจของมู่หรงฉิงเทียน ดังนั้นเขาจึงมองอาเสออย่าปลาบปลื้ม คนผู้นี้ใช้ได้หมอหลวงอึ้งแล้วมองจงเสี้ยน จงเสี้ยนหน้าตึงเอ่ยเสียงแข็ง “ทหาร ลากตัวนางออกไปตบปาก!”มีองครักษ์สองนายมาจะลากตัวอาเสอไปทันที อาเสอยิ้มเย็น ขณะกำลังจะลงมือก็ถูกจ่านเหยียนดึงมือเอาไว้ แล้วตวาดกับองครักษ์สองนายนั้น “ต่อหน้าข้า พวกเจ้ากล้ากำแหงหรือ? ไสหัวออกไป!”พวกเขาคือคนของจงเสี้ยน จะฟังคำสั่งของจ่านเหยียนได้อย่างไร?สองคนเดินฉับมาจะกระชากมืออาเสอ จ่านเหยียนหัวเราะเสียงเย็น “อาซาน โยนสองคนนี้ออกไป”มู่หรงฉิงเทียนกำลังกลุ้มว่าไม่มีที่ระบายอารมณ์ พอจ่านเหยียนพูด เขาก็ซัดฝ่ามือไป กำลังลมแรงปะทะทำให้ทั้งสองกระเด็นออกนอกประตูตำหนัก“บังอาจ!” จงเสี้ยน

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 388

    มู่หรงฉิงเทียนเห็นนางถลกแขนเสื้อขึ้นมา เผยแขนให้คนมากมายเห็นเช่นนั้น ใบหน้าจึงมีความอึมครึมชั้นหนึ่งปกคลุม เขาถลึงตาใส่อาเสอแรง ๆ จนนางตกใจสะดุ้ง รีบเอื้อมมือไปดึงแขนเสื้อของจ่านเหยียนลง “ไทเฮาไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้เพคะ ใต้เท้าทุกท่านล้วนเป็นผู้มีเหตุผล มองปราดเดียวก็ทราบว่าพระองค์ถูกปรักปรำ”เป็นบรรยากาศเงียบสงัดราวกับความตาย ฮองเฮาที่โอหังมาตลอด เวลานี้ก็หมดคำพูดด้วยเช่นกันหมัวมัวที่อยู่ข้างตัวจงเสี้ยนกระซิบข้างหูนาง “ไทฮองไทเฮา เกรงว่าแต้มพรหมจรรย์จะเป็นของปลอมเพคะ ตอนที่นางเข้าวังมิได้มีแต้มพรหมจรรย์”จงเสี้ยนตาโตและเอ่ยเสียงเย็น “น่ากลัวว่าแต้มพรหมจรรย์นี้จะเป็นของปลอม เด็ก ๆ เชิญหมอหลวง”จ่านเหยียนชายตาขึ้นมองจงเสี้ยน “ไทฮองไทเฮา หรือว่าพระองค์ทรงอยากเห็นหม่อมฉันทรยศอดีตฮ่องเต้ให้ได้จึงจะสมพระทัย?”“ในสายตาของข้าจะมีเม็ดกรวดไม่ได้แม้แต่น้อย หากเจ้ามิได้ทรยศอดีตฮ่องเต้ ข้าย่อมไม่เอาผิดเจ้า แต่หากทำ เช่นนั้นจะไม่ละเว้นเด็ดขาด”จงเสี้ยนกล่าวจบก็มองหลงฉางเทียน “แม่ทัพหลง พวกท่านเคยแต้มแต้มพรหมจรรย์ให้นางหรือไม่?”หลงฉางเทียนส่ายหน้า “ทูลไทฮองไทเฮา เนื่องจากมารดาของนางด่วนจากไ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 387

    อาเสอพูดแทนจ่านเหยียนอีก “เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา ทรงประทับอยู่วังหลังมาหลายปี เหตุใดจึงไม่ทรงทราบว่าข่าวลือของวังหลังเชื่อถือไม่ได้ที่สุด? ข่าวที่ยังไม่ได้พิสูจน์กลับออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ ช่างทำให้คนแปลกใจจริง ๆ นะเพคะ”“หุบปาก!” ถงไทเฮาเห็นอาเสอสอดปากซ้ำแล้วซ้ำเล่าจึงอดระเบิดอารมณ์ไม่ได้อาเสอยิ้มด้วยสีหน้าเย็นชา จากนั้นก็ถอยกลับไปอยู่ด้านข้างไม่ได้พูดอีกราชครูถงเดินไปถามต้าเหมย “เล่าชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าในตำหนักหรูหลานมาสิ”ต้าเหมยปากสั่นเล็กน้อย เอ่ยด้วยใบหน้าหม่นหมอง “คุณชายฮุ่ยอวิ๋นส่งบ่าวเข้าวัง คุณชายฮุ่ยอวิ่นบอกให้พวกบ่าวปรนนิบัติหมู่โฮ่วฮองไทเฮาอย่างดี พวกบ่าวจึงได้แต่ปรนนิบัติอย่างทุ่มเทใจ ตอนเข้าวังใหม่ ๆ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาเพียงให้พวกบ่าวบรรเลงเพลงให้ฟังเท่านั้น ถือว่ามีมารยาท แต่ภายหลังมีอยู่คืนหนึ่ง หมู่โฮ่วฮองไทเฮาเรียกบ่าวเข้าตำหนักบรรทม ตรัสกับบ่าวมากมาย บอกว่าทรงเหงามาก ให้บ่าวอยู่เป็นเพื่อน แล้วยัง...”ในขณะที่ทุกคนกำลังฟังด้วยความตื่นเต้นก็ได้ยินเขาหยุด จึงพากันมองเขาราชครูถงเอ่ยเสียงแข็ง “พูดต่อ!”ต้าเหมยตัวสั่นระริก ลังเลครู่หนึ่ง ขณะกำลังจะอ้าปากพูดต่อ จ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 386

    ครั้นกล่าวคำพูดนี้ออกมา ทุกคนก็พากันตกตะลึงบรรดาสมุหพระอาลักษณ์มองหน้ากันทีหนึ่ง สีหน้าไม่สู้ดีนักสมุหพระอาลักษณ์เหลียงลุกขึ้นยืนประสานมือกับจงเสี้ยน “ไทฮองไทเฮา เรื่องนี้คือเรื่องของวังหลัง ไทฮองไทเฮาทรงจัดการก็พอ พวกกระหม่อมไม่เหมาะอยู่ มิเช่นนั้นพวกกระหม่อมขอทูลลาก่อนพ่ะย่ะค่ะ?”วันนี้ไทฮองไทเฮาเชิญพวกเขามาร่วมฟัง ก็เพราะต้องการให้พวกเขาเป็นพยานในเรื่องนี้ จะได้มีคำอธิบายให้กับราชสำนักแต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่สมควรให้พวกเขามีส่วนร่วม เพราะสุดท้ายแล้วมันเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของอดีตฮ่องเต้ ยากจะรับรองว่าทุกคนจะปิดปากสนิทเก็บเป็นความลับ แต่ไรมาราชวงศ์ทำงานรอบคอบเสมอ ดังนั้นทุกคนต่างรู้อยู่แก่ใจ ทันทีที่หมู่โฮ่วฮองไทเฮาถูกเอาผิดประหารชีวิต พวกเขาก็ไม่รอดเหมือนกันเป็นขุนนางในเมืองหลวง สาเหตุการตายที่มากที่สุดก็คือรู้มากเกินไปราชครูถงโบกมือและพูดด้วยความหงุดหงิด “ไทฮองไทเฮาให้พวกเจ้าอยู่ที่นี่ ย่อมมีจุดประสงค์ นั่งก่อนเถอะ อย่าได้พูดมาก”อยู่ในราชสำนัก ราชครูถงเผด็จการเสมอ เหล่าสมุหพระอาลักษณ์ซื่อตรงจนเคยชิน เมื่อได้ฟังคำพูดของเขาในเวลานี้ ทุกคนพาลรู้สึกอึดอัดใจอยู่บ้าง

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 385

    หลงฉางเทียนใบหน้าเคร่งเครียด เอ่ยสีหน้าจริงจัง “ทูลหมู่โฮ่วฮองไทเฮา หากนางเหลวไหลเช่นนี้จริง กระหม่อมจะไม่ไว้นางเป็นคนแรกพ่ะย่ะค่ะ” หลงฉางเทียนอาเสอแค่นเสียงหัวเราะ “ท่านแม่ทัพช่างคุยโม้เสียจริง ท่านเป็นขุนนางคนหนึ่ง จะไม่ไว้หมู่โฮ่วฮองไทเฮาองค์ปัจจุบันได้อย่างไร?”หลงฉางเทียนมองอาเสอด้วยความโกรธ “เจ้าเป็นใคร? เจ้ามีสิทธิ์พูดที่นี่หรือ?”จ่านเหยียนเอื้อมมือตบหลังมืออาเสอทีหนึ่งแล้วเอยกับหลงฉางเทียน “ท่านแม่ทัพ ทุกคำที่นางพูดล้วนเป็นตัวแทนของข้าได้”กล่าวอีกนัยหนึ่ง ที่อาเสอพูดมาก็คือสิ่งที่นางอยากจะพูดครั้นหลงฉางเทียนคิดได้ก็เดือดดาล แต่ติดที่สถานะของตัวเองจึงไม่กล้าระเบิดอารมณ์ ถลึงตาใส่อาเสอกับจ่านเหยียนทีหนึ่งฮองเฮาลุกขึ้นยืน สาวเท้าเร็วข้างหน้า ปากก็ว่า “เจ้าเป็นใครกัน? คนอื่นสั่งสอนเจ้าไม่ได้ แต่ข้ายังสั่งสอนเจ้าไม่ได้หรือ? ถือว่ามีไทเฮาให้ท้ายก็ไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา ที่นี่เจ้ามีสิทธิ์พูดหรือ?”กล่าวจบก็สะบัดมือใส่หน้าอาเสอ ถ้อยคำของนางนี้ แค่ฟังก็รู้ว่าพูดให้จ่านเหยียนฟัง อาเสอเป็นเพียงแพะรับบาป ฮองเฮาแค้นหลงจ่านเหยียนมานานแล้ว ยามนี้จึงถามเอาความผิด แล้วนางจะไม่ระบาย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status