Share

บทที่ 68

Author: ลิ่วเยว่
หยวนผินเงยหน้าขึ้นมองจ่านเหยียนด้วยแววตาตื่นตระหนก บนใบหน้าขาวซีดฉายแววสงสัยเล็กน้อย

จิ้นหรูกำลังจะพูด ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอก หยวนผินตกใจจนตัวสั่นเทา คุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับเสียงดังตุบ “ท่านผู้สูงศักดิ์ ท่านโปรดช่วยข้าด้วย!”

จ่านเหยียนมองนางด้วยความตกตะลึง ไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าเท่าไรนัก

“เสียงฝีเท้าดังขึ้นเรื่อย ๆ และใกล้เข้ามาทุกที จ่านเหยียนส่งสายตาให้จิ้นหรู จิ้นหรูรีบเข้าไปดึงหยวนผินให้ลุกขึ้น “พระสนม รีบตามบ่าวเข้ามาเถิดเพคะ”

กัวอวี้กางร่มแล้วรีบเดินออกไป ข้างหลังมีจี๋เสียงและหรูอี้เดินตาม

“เอ๊ะ? องครักษ์หยาง?” กัวอวี้เพิ่งก้าวออกจากประตูตำหนักหรูหลานก็เห็นองครักษ์หยางนำองครักษ์และข้าราชบริพารมา จึงมองเขาด้วยความประหลาดใจ

“เป็นกัวกูกู ขอถามกูกู ไม่ทราบว่าเห็นพระสนมหยวนผินหรือไม่?” องครักษ์หยางเอ่ยถาม

กัวอวี้ส่ายหน้า กล่าวด้วยรอยยิ้ม “องครักษ์หยางล้อเล่นแล้ว ตำหนักหรูหลานห้ามคนนอกเข้ามาโดยตลอด อย่าว่าแต่คนเลย แม้แต่ผีเสื้อก็บินเข้ามาไม่ได้”

“แต่มีคนเห็นพระสนมหยวนผินวิ่งมาทางนี้ ที่นี่นอกจากตำหนักหรูหลาน ก็ไม่มีที่อื่น” องครักษ์หยางกล่าวด้วยสีหน้าไม่เชื่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 69

    หยวนผินตกใจ “ที่นี่คือตำหนักหรูหลาน?”“หน้าประตูตำหนักมิได้แขวนป้ายใหญ่โตไว้หรอกหรือ?” จิ้นหรูเอ่ยถามหยวนผินเอ่ยอย่างละอายใจเล็กน้อย “หม่อมฉันมัวแต่วิ่งหนี ไม่ทันได้สังเกต เห็นประตูตำหนักที่นี่เปิดอยู่ จึงวิ่งเข้ามา ล่วงเกินหมู่โฮ่วฮองไทเฮาแล้ว โปรดประทานอภัยให้หม่อมฉันด้วยเพคะ”พูดจบ นางก็คุกเข่าลงถวายบังคมจ่านเหยียนอย่างนอบน้อม “หม่อมฉันหยวนฟางถวายพระพรหมู่โฮ่วฮองไทเฮาเพคะ!”หยวนฟาง?จ่านเหยียนยิ้ม “บิดาของเจ้า คือเฉินไท่ฟู่ใช่หรือไม่?”“เพคะ หม่อมฉันมีนามว่าเฉินหยวนฟาง” หยวนผินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่จ่านเหยียนรู้เรื่องของนาง“หยวนฟางเป็นชื่อที่ดี!” จ่านเหยียนยิ้ม พลางส่งสัญญาณให้จิ้นหรูประคองนางลุกขึ้นจี๋เสียงยกน้ำชาเข้ามา จากนั้นค้อมตัวถอยออกไปจ่านเหยียนกล่าวกับหยวนผิน “ดื่มชาก่อนสิ จะได้หายตกใจ”หลังจากที่หยวนผินกล่าวขอบคุณแล้ว ก็ใช้มือที่ยังคงสั่นเทา ยกถ้วยชาขึ้นมาดื่มหลายอึกติดต่อกันแล้วจึงวางลงจ่านเหยียนเห็นสีหน้าของนางดูสงบลงบ้างแล้ว จึงเอ่ยถาม “แล้วองครักษ์เหล่านั้น ไล่ตามเจ้ามาทำไม?”หยวนผินยิ้มอย่างเศร้าสร้อย “เหลียงกุ้ยเหรินแท้งแล้ว ฮองเฮาตรัสว่าเป็นเพราะหม

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 70

    จ่านเหยียนยิ้ม “จิ้นหรู เจ้าอยู่ในวังหลังมานานหลายปี เหตุการณ์เหล่านี้ยังทำให้เจ้าโกรธได้อีกหรือ? เจ้ายังสู้หยวนผินมิได้ นางเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย ยังสามารถทำใจให้สงบได้ขนาดนี้”จิ้นหรูถอนหายใจ “จะทำใจให้สงบได้อย่างไรเพคะ? เห็นเหตุการณ์พวกนี้ ก็เหมือนกับกลืนแมลงวันตัวหนึ่งเข้าไปในปาก จะกลืนลงไปก็ไม่ได้ คายออกมาก็รู้สึกขยะแขยง”“หากเจ้าใส่ใจมากเช่นนี้ เช่นนั้นเราก็ตามไปที่ตำหนักเฟยเฟิ่งกัน” จ่านเหยียนเสนอ“หากพวกเราสามารถต่อกรกับฮองเฮาได้ การไปก็ย่อมเป็นเรื่องดี แต่ในตอนนี้พวกเราจะไปต่อกรกับฮองเฮาได้อย่างไร? ถ้าไปแล้ว เกรงว่าแม้แต่ชีวิตที่สงบสุขในตอนนี้ก็จะหายไป การช่วยเหลือผู้อื่น ต้องดูว่าตนเองมีความสามารถหรือไม่ เรื่องนี้บ่าวรับใช้ทราบดีเพคะ คุณหนูใหญ่อย่าได้ลองเชิงบ่าวเลย” จิ้นหรูตอบ“ข้าไม่ได้ลองเชิงเจ้า” จ่านเหยียนกล่าวพลางเลิกคิ้ว“เช่นนั้นคุณหนูใหญ่คิดจะไปจริง ๆ หรือ? อย่าลืมนะเพคะว่าฮองเฮาองค์ปัจจุบันนั้นสกุลถง” จิ้นหรูมองจ่านเหยียนด้วยความประหลาดใจ นางหลบเลี่ยงผู้คนมาหนึ่งปี แม้กระทั่งข่าวลือข้างนอกที่ว่านางมีความสัมพันธ์กับนักดนตรีก็ไม่คิดจะอธิบาย ตอนนี้กลับจะออกไปเ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 71

    หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว จ่านเหยียนรู้สึกรังเกียจที่ตัวเองหน้าแดงระเรื่อเกินไป ไม่เหมือนคนป่วยอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงให้กัวอวี้แต่งหน้าให้นาง พยายามอย่างสุดความสามารถที่ทำให้ดูซีดขาวลงหน่อยหลังจากบำรุงร่างกายมาหนึ่งปี นางก็สูงขึ้นห้าเซนติเมตร รูปร่างไม่ได้อวบอ้วนขึ้น แต่ก็ได้ดูบอบบางเฉกเช่นเมื่อก่อน แม้แต่ส่วนที่ควรเจริญเติบโตก็เติบโตขึ้นมาในทางที่ดีขึ้นนางกางแขนสองข้าง ประหนึ่งราชันวิหคที่กำลังจะโบยบินสู่ท้องนภา ทำให้คนรู้สึกได้ว่ามีความน่าเกรงขามอย่างไม่มีเหตุผลเมื่อพานางกำนัลทั้งสี่คนเดินออกจากตำหนักหรูหลาน อาซานก็ตามออกมา “ไทเฮา โปรดทรงอนุญาตให้กระหม่อมติดตามไปด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ” จ่านเหยียนมององครักษ์ที่จงรักภักดีซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ตรงหน้านี้ แน่นอนว่าคนที่เขาจงรักภักดีด้วยคือเซ่อเจิ้งอ๋อง“ได้!” จ่านเหยียนตอบรับหลังจากเดินไปสองก้าว จ่านเหยียนพลันเอ่ยว่า “หนทางยาวไกล เกี้ยวของข้าเล่า?”จิ้นหรูแย้มยิ้ม “จะไปสั่งให้คนจัดเตรียมเดี๋ยวนี้เพคะ พระองค์มิได้รับสั่ง หม่อมฉันเลยนึกว่าพระองค์มิทรงต้องการเสียอีก”ความจริงแล้วในหนึ่งปีมานี้ หากเรื่องที่จ่านเหยียนไม่ได้

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 72

    องครักษ์หยางเอ่ยถามว่า “เช่นนั้นกระหม่อมจะนำคนไปค้นอีกครั้งดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ฮองเฮาโบกพระหัตถ์แล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “ไม่ต้องแล้ว คิดว่านางผู้นั้นก็คงไม่กล้าเก็บนังแพศยาหยวนฟางไว้หรอก”นางส่งสัญญาณให้องครักษ์หยางออกไป จากนั้นนางกำนัลที่อยู่ข้างกายก็เข้ามาเอ่ยว่า “ฮองเฮา เรื่องนี้จำเป็นต้องกราบทูลฝ่าบาทหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“ฝ่าบาทเสด็จไปยังวัดฮู่กั๋ว อีกสองวันถึงจะเสด็จกลับมา แต่ข้าสั่งให้คนไปแจ้งฝ่าบาทแล้ว รอฝ่าบาทกลับมา นังแพศยานี่ก็คงถูกจัดการไปเรียบร้อยแล้ว” ฮองเฮาเอนตัวนอนบนพิงตั่งนอน เอ่ยพลางขมวดคิ้วฝ่าบาทเสด็จออกนอกวัง นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุด หากฝ่าบาททรงประทับอยู่กลับดำเนินการได้ยากทันใดนั้นก็มีนางกำนัลเข้ามารายงานว่า “ฮองเฮา กัวกงกงพาหยวนผินมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฮองเฮาหัวเราะหยัน “ข้าคาดเดาไว้แล้วว่านางผู้นั้นไม่กล้ารับตัวหยวนผินไว้หรอก เซียวเซียว ไปเชิญพระสนมจากตำหนักต่าง ๆ มาให้หมดเถิด และก็หามเหลียงกุ้ยเหรินเข้ามาด้วย” “เช่นนั้นต้องแจ้งให้ทางฝั่งไทเฮาทรงทราบหรือไม่เพคะ?” เซียวเซียว นางกำนัลผู้ดูแลตำหนักเฟยเฟิ่งเอ่ยถาม“เสด็จแม่สุขภาพไม่ค่อยดี อย่าเอาเรื่องนี้ไปสร้

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 73

    ฮองเฮาตบที่วางแขน นัยน์ตาเย็นเยียบดุจน้ำค้างแข็ง “หลักฐานแน่นอน เจ้าจะปฏิเสธได้อย่างไร?”หยวนผินเองก็อดระเบิดความไม่ยินยอมออกมาไม่ได้ภายใต้ความตกตะลึง “หลักฐานที่ฮองเฮาตรัสถึงคือหลักฐานอะไรเพคะ?”ฮองเฮาหัวเราะหยัน “ใครก็ได้ พาคนจากตำหนักหานชุ่ยมา!”หยวนผินอึ้งไป หันหน้าไปมองก็เห็นองครักษ์หลายนายลากนางกำนัลข้างกายนางเข้ามา พวกเขาตัวสั่นระริกพลางหมอบอยู่บนพื้น ปากก็พูดว่า “ฮองเฮาทรงพระปรีชา ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคำสั่งของหยวนผินเพคะ พวกหม่อมฉันแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น” หยวนผินได้ยินคำพูดนี้ก็แทบจะกระอักเลือดออกมา นางเบิกตาโตด้วยความโกรธเกรี้ยว ข่มกลั้นความคาวหวานในลำคอไว้ “พวกเจ้าพูดจาเหลวไหล ข้าเคยสั่งพวกเจ้าตั้งแต่เมื่อไร?”ฮองเฮาแค่นเสียงเย็น “เสี่ยวซานจื่อ เจ้าจงเล่าเรื่องทุกอย่างออกมา ให้จิตใจอันชั่วร้ายของนางไร้ที่ซ่อน” เสี่ยวซานจื่อเงยหน้าขึ้นกล่าว "พ่ะย่ะค่ะ เรียนฮองเฮา นับตั้งแต่หยวนผินรู้ว่าเหลียงกุ้ยเหรินตั้งครรภ์ก็ซึมเซามาโดยตลอด แม้ว่าใบหน้าจะดูดีใจแทนเหลียงกุ้ยเหริน แต่กลับคอยถามพวกกระหม่อมในตำหนักว่ามีวิธีการใดบ้างที่จะทำให้ทารกในครรภ์ของเหลียงกุ้ยเหรินหายไปอย่างเงียบงัน

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 74

    ดวงหน้าที่ประแป้งของฮองเฮาดูเย็นชาดุจน้ำค้างแข็ง “เจ้าไม่เคยทำ? ความหมายคือบอกว่าข้าใส่ความเจ้าหรือ? ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เจ้ากำเริบเสิบสานเลย เจ้ามาดู ถุงผ้านี้เป็นของที่เจ้าส่งให้เหลียงกุ้ยเหรินใช่หรือไม่?”นางกล่าวจบก็หยิบถุงเครื่องหอมขึ้นมาแล้วโยนลงพื้นอย่างแรงหยวนผินก้มหน้ามอง ถุงหอมสีแดงลายไผ่และกล้วยไม้นั้นเป็นฝีมือของนางจริง ๆ ตอนที่ปักถุงหอมนี้ เสี่ยวซานจื่อยังเคยบอกว่านางฝีมือดีมาก ไม่มีงานเย็บปักถักร้อยของผู้ใดในวังสามารถทำได้ดีเช่นนี้เลย“เป็นของที่หม่อมฉันมอบให้เหลียงกุ้ยเหรินจริง ๆ เพคะ แต่ว่าในถุงหอมนี้เป็นเครื่องหอมที่ช่วยให้จิตใจสงบทั้งหมด ไม่มีชะมดเช็ดเลยเพคะ” หยวนผินเก็บถุงหอมขึ้นมาแล้วเอาเข้ามาใกล้จมูกดมกลิ่นอย่างละเอียด ก่อนจะทำสีหน้าอึ้งไปแล้วมองฮองเฮาอย่างตกตะลึงพรึงเพริด “ฮึ เจ้าพูดเองสิว่ามีชะมดเช็ดหรือไม่?” ฮองเฮาแค่นเสียงเย็นชา กลอกตามองนางหยวนผินหน้าซีดเผือด ส่ายหัวพึมพำว่า “เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่ได้ทำ ข้าไม่เคยใส่ชะมดเช็ด”“ยังไม่ยอมรับอีก?” สีหน้าของฮองเฮาเปลี่ยนไป “ดูเหมือนถ้าไม่ทรมานเจ้า เจ้าคงไม่ยอมรับความผิดสินะ!”นางเงยหน้าขึ้นแล้วร้องเรียกว่า

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 75

    นางยืนอยู่ทางด้านข้างเช่นเดิม จ้องมองด้วยสายตาเย็นชาจ่านเหยียนกระซิบข้างหูจิ้นหรูสองประโยค จากนั้นจิ้นหรูก็พยักหน้าแล้วเดินเข้ามาเอ่ยถามว่า “พยานบุคคลและพยานหลักฐานที่ฮองเฮาตรัสเมื่อครู่นี้ล้วนอยู่ที่นี่หรือเพคะ?”หากเป็นจ่านเหยียนเอ่ยถาม เกรงว่าคงไม่มีใครพูด ทว่าแต่เดิมจิ้นหรูรับใช้ข้างกายฮ่องเต้พระองค์ก่อน และเป็นนางกำนัลชั้นหนึ่ง เมื่อนางเอ่ยถาม นางกำนัลที่อยู่ต่ำกว่าย่อมต้องตอบคำถาม ดังนั้น พวกคำพูดที่เสี่ยวซานจื่อเอ่ยเมื่อครู่นี้ เวลานี้จึงทวนซ้ำอีกครั้งด้วยเสียงสะอื้นไห้ต่อหน้าจ่านเหยียนฮองเฮารักษาสีหน้าเย็นชามาโดยตลอด เมื่อมีนางกำนัลยกเก้าอี้มา นางก็ไม่นั่ง ราวกับโกรธเคืองจ่านเหยียนจ่านเหยียนฟังคำพูดของเสี่ยวซานจื่อแล้วพูดกับจิ้นหรูว่า “นำถุงหอมมาให้ข้า”จิ้นหรูเดินขึ้นหน้าไปหยิบถุงหอมในมือหยวนผิน หยวนผินมองจ่านเหยียนด้วยสายตาไหววูบ นางรู้ว่าไทเฮารีบรุดมาโดยไม่ลังเลที่จะล่วงเกินฮองเฮาก็เพื่อที่จะช่วยเหลือนางเพียงแต่ว่า...จิ้นหรูยื่นถุงหอมให้จ่านเหยียน ภายใต้สายตาจับจ้องของผู้คน จ่านเหยียนเอาถุงหอมจ่อไว้ที่ใต้ปลายจมูกแล้วสูดดม จากนั้นก็พยักหน้า “อืม มีชะมดเช็ดอยู่จ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 76

    จ่านเหยียนเพียงแต่นั่งอย่างสบายอารมณ์ ไม่สนใจฮองเฮาที่โกรธจนหน้าเขียวเลยหมอหลวงถูกเชิญมาอย่างรวดเร็ว เขาถวายบังคมฮองเฮาก่อน เมื่อเห็นจ่านเหยียน สีหน้าก็ตกตะลึงไปเล็กน้อยแต่ยังคงเข้ามาถวายบังคม “กระหม่อมถวายบังคมหมู่โฮ่วฮองไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ”“ตอนที่เหลียงกุ้ยเหรินแท้ง เจ้าเป็นคนรักษาหรือ?” จ่านเหยียนเอ่ยถาม“กราบทูลไทเฮา เป็นกระหม่อมเองพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงตอบรับ “เช่นนั้นทำความสะอาดเลือดคั่งในร่างกายนางหมดแล้วหรือไม่? ได้จ่ายยาขับเลือดให้นางกินบ้างหรือไม่?”“กระหม่อมจ่ายยาบำรุงเลือดลม ครรภ์หลุดออกมาสะอาดมาก ไม่จำเป็นต้องจ่ายยาขับเลือดอีกพ่ะย่ะค่ะ” “หม่อมฉันจ่ายยาเสริมเลือดและพลังงานให้แล้วเพคะ ครรภ์หลุดออกมาจนหมด ไม่จำเป็นต้องจ่ายยาขับเลือดเพิ่มเติม” หมอหลวงตอบจ่านเหยียนโยนถุงหอมลงตรงหน้าเขา “หลุดออกมาจนหมด? เหลียงกุ้ยเหรินดมชะมดเช็ดในถุงหอมนี้ก็ทำให้แท้ง เจ้าบอกข้ามาสิว่าชะมดเช็ดปริมาณเล็กน้อยพวกนี้เพียงพอที่จะทำให้ครรภ์ของเหลียงกุ้ยเหรินหลุดออกมาจนหมดจดถึงเพียงนี้ได้เชียวหรือ?”หมอหลวงหยิบถุงหอมขึ้นมา หลังจากเปิดออกก็เทชะมดเช็ดทั้งหมดลงมาบนฝ่ามือ หลังจากพิจารณาอย่างละเอียดแล้วเ

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 280

    ไม่นานเรื่องที่จ่านเหยียนพังตำหนักชิงหนิงก็ดังกระฉ่อนไปทั่ววังหลวงจงเสี้ยนไทฮองไทเฮากริ้วหนัก แต่นางไม่ได้ทำอะไร การที่หลงจ่านเหยียนกล้าพังตำหนักชิงหนิง เป็นการพิสูจน์แล้วว่าวันนี้มิอาจเทียบวันวานนึกถึงตอนที่นางเข้าวังใหม่ ๆ แล้วมาคารวะ ใจเสาะขี้กลัวปานนั้น แม้แต่คุกเข่าก็ยังถลาลงไปกับพื้น ชวนให้คนตลกขบขันใครจะคิด วันนี้นางกลับกล้าพังตำหนักชิงหนิง?ดูท่านางคงบรรลุข้อตกลงบางอย่างกับเซ่อเจิ้งอ๋องแล้ว มิเช่นนั้น ด้วยเบื้องหลังของฐานะนาง นางจะไม่กล้าทำเช่นนี้เด็ดขาดหากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นที่พังตำหนักชิงหนิงในวันนี้ก็คงเป็นแผนการของเซ่อเจิ้งอ๋องเหมือนกันเขาจะทำอะไร?ฉวยโอกาสที่ตอนนี้ถงจื่อหยาเกิดเรื่อง โจมตีสกุลถงต่อ?“หย่าจู้ เจ้าเห็นว่าอย่างไร?” ไทฮองไทเฮาถามหมัวมัวด้านข้างหย่าจู้คิดแล้วจึงเอ่ย “หลงจ่านเหยียนผู้นี้เหนือความคาดหมายอยู่บ้างจริง ๆ ก่อนหน้านี้แทรกแซงเรื่องของหยวนผินยังพอพูดได้ว่าอยากได้หน้า แต่การพังตำหนักชิงหนิงนี้ เรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องที่สตรีผู้หนึ่งจะทำได้ โดยเฉพาะนางที่เป็นสตรีเช่นนี้เพคะ”“พูดอีกอย่างหนึ่ง เจ้าคิดว่าเซ่อเจิ้งอ๋องคือผู้บงการหรือ?”“ยาก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 279

    นางทิ้งมือทั้งสองลง จากนั้นก็ค่อย ๆ หลับตาอาเสอตกใจ ยื่นมือออกไปทดสอบลมหายใจของนางฉับพลัน จากนั้นก็เงยหน้ามองจ่านเหยียนอย่างตกตะลึงจ่านเหยียนเอ่ยเสียงหนัก “ปกป้องหัวใจของนางก่อน”ถงไทเฮาหัวเราะเสียงเย็น ในดวงตามีความกระหยิ่มยิ้มย่องและสาแก่ใจ “นางตายแน่”อาเสออุ้มจิ้นหรูเข้าไปในตำหนัก แต่ช้าไป นางมิอาจช่วยไว้ได้จ่านเหยียนลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวกับอาหู “รอพวกเราออกไปแล้วก็พังตำหนักชิงหนิงเสีย”อาหูฉายรอยยิ้มหนาวเหน็บ “เพคะ!”“หลงจ่านเหยียน เจ้าน่าจะรู้นะ ภัยเกิดจากปาก ต่อให้วันนี้เจ้าพังตำหนักชิงหนิงของข้าไม่ได้ ข้าก็บันทึกแค้นนี้เอาไว้แล้ว” ถงไทเฮาเอ่ยข่มขู่จ่านเหยียนยิ้มระรื่น “วางใจ ไม่ว่าเรื่องใดที่ลงมือได้ ข้าจะไม่เปลืองน้ำลายเด็ดขาด”ผ่านไปพักหนึ่ง อาเสออุ้มจิ้นหรูออกมาแล้วพยักหน้ากับจ่านเหยียน “กลับไปเถอะ!”จ่านเหยียนเดินตามอาเสอออกไป จากนั้นก็หันมาสั่งกับอาหู “พังตำหนักชิงหนิงแล้วไปพาอาถงกับอาเถี่ยออกมาจากห้องมืดเถอะ”“รับบัญชา!” อาหูขานรับอย่างเริงร่าสวรรค์รู้ นางเห็นจิ้นหรูมีเลือดเต็มตัวแล้วอยากฆ่านางอัปลักษณ์ผู้นี้แค่ไหน หากติดตามนายที่เอาแต่พูดเรื่องคุณธรรมจริยธ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 278

    จ่านเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือด้วยท่าทางผ่อนคลาย นั่นคือตำแหน่งที่ถงไทเฮานั่งยามมีนางสนมมาเข้าเฝ้านางเอ่ยกับอาเสอและอาหู “ค้นตำหนักชิงหนิงให้ทั่ว ข้าต้องพบจิ้นหรู”“ช้าก่อน!” ถงไทเฮามองจ่านเหยียนแบบคล้ายยิ้มแต่มิได้ยิ้ม “น้องหญิงตั้งใจจะมาอาละวาดที่นี่หรือ? คิดถึงผลที่จะตามมาหรือไม่?”จ่านเหยียนโบกมือ “เรื่องอาละวาดต้องอาละวาดแน่แล้ว สำหรับผลที่จะตามมา ยังไม่มีเวลาคิดจริง ๆ และไม่คิดจะคิดด้วย”อาเสอและอาหูได้ยินคำนี้ของจ่านเหยียนก็ยิ้มร้ายกับถงไทเฮา จากนั้นก็จะเข้าไปค้นทันทีทันใดนั้นก็มีองครักษ์สิบกว่าคนออกมาขวางอาหูกับอาเสอปีศาจสองตนนี้เอาไว้มีหรือเหล่าองครักษ์จะเห็นพวกนางอยู่ในสายตา ผู้ที่อยู่ข้างหน้าคือหัวหน้าองครักษ์ของตำหนักชิงหนิง เขาตวาดกับอาเสอและอาหู “พวกเจ้ากล้าเหิมเกริมในตำหนักชิงหนิงหรือ?! อย่าหาว่าข้าลงมือไม่ยั้งไมตรีก็แล้วกัน!”กระบี่ยาวชี้มาทางอาเสอด้วยความเร็วยิ่ง ปลายกระบี่มาพร้อมกับคมกระบี่ อาเสอเคยเห็นอาซานแสดงฝีมือมาก่อน แม้เขาจะมีฝีมือด้อยกว่าอาซาน แต่ก็นับว่าเป็นยอดฝีมือชั้นนำแล้วกระบี่ของเขาเร็วนั้นไม่ผิด กลับไม่ส่งผลกระทบซึ่งเป็นการไม่เกรงใจอาเสอใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 277

    ส่วนกัวอวี้นึกว่าจ่านเหยียนซื้อตัวองครักษ์ในวัง ดังนั้นองครักษ์จึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับการเดินออกไปของพวกนาง“เข้าไปเถอะ!” อาเสอไม่อยากพูดมาก เดินฉับเข้าไปอย่างเร่งรีบจี๋เสียงกับหรูอี้เพิ่งเรียกกับพู่หยกไปสองสามที เห็นพู่หยกไม่มีปฏิกิริยายังนึกว่าไม่ได้ผล ใครจะรู้พอหันกลับไปก็เห็นจ่านเหยียนกับพวกอาเสอยืนอยู่หน้าห้องแล้ว“คุณหนูใหญ่! ทรงเสด็จกลับมาก็ดีแล้วเพคะ!” จี๋เสียงกับหรูอี้ปรี่ไปหา พูดน้ำเสียงสะอื้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?” กัวอวี้รีบถามจี๋เสียงสะอึกสะอื้น “เป็นเช่นนี้ วันนี้ตอนกลางวันมีคนมาจากตำหนักถงไทเฮาเชิญจิ้นหรูกูกูไป แต่ไม่กลับมาสักที อาถงจึงให้พวกบ่าวสองคนไปถาม แต่พอไปถึงนอกตำหนักชิงหนิง หรูหัวกูกูก็ไม่ให้เข้า ซ้ำยังไล่พวกบ่าวออกมา เพียงแต่... เพียงแต่บ่าวได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากในตำหนัก ถึงไม่ยืนยันว่าใช่เสียงร้องของจิ้นหรูกูกูจริงหรือไม่ แต่ฟังแล้วเหมือนมาก ตอนหลังอาถงกับอาเถี่ยก็ไปหา แต่ก็ไม่กลับมา...”จี๋เสียงเหม่อลอย แม้พูดไม่ปะติดปะต่อ แต่ก็ยังอธิบายเรื่องราวชัดเจน“คุณหนูใหญ่ ถงไทเฮาให้จิ้นหรูไป จะเกิดอะไรหรือไม่เพคะ?” กัวอวี้ถามจ่านเหยียนนึกถึงเรื่องข

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 276

    ทั้งสองจะยอมหรือ? จึงบอกจะเข้าไปพูดกับจิ้นหรูกูกู หรูหัวกลับหน้าขรึม “พวกเจ้าเห็นตำหนักชิงหนิงคือสถานที่ใด? พวกเจ้าอยากเข้าก็เข้าได้ตามใจชอบหรือ?”อาถงข่มอารมณ์โกรธ กล่าวขอร้อง “กูกูอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราก็ทำงานตามคำสั่ง หากเชิญจิ้นหรูกูกูกลับไปไม่ได้ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาต้องพาลมาถึงเราแน่ กูกูคงไม่อยากเห็นพวกเราถูกลงโทษกระมัง?”“พวกเจ้าถูกลงโทษหรือไม่ เกี่ยวอันใดกับข้า? ข้าแค่ฟังคำสั่งของเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาเท่า...”อาถงกับอาเถี่ยรีบฉวยโอกาสตอนที่หรูหัวพูดบุกเข้าไปเพียงแต่ทั้งสองเพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกองครักษ์สองสามคนขวางเอาไว้“บุกรุกตำหนักของไทเฮา พวกเจ้ามีกี่ชีวิต? เอาตัวไป!” หรูหัวเอ่ยเสียงกร้าวกระบี่หลายเล่มพาดอยู่ตรงลำคอของอาถงกับอาเถี่ย ทั้งสองไม่กล้าต่อต้าน จึงได้แต่หันไปมองหรูหัวและเอ่ย “กูกู พวกเรามิได้จงใจบุกรุก กูกูโปรดเมตตา อนุญาตให้เราไปพบจิ้นหรูกูกูหน่อยเถอะ”หรูหัวหัวเราะเสียงเย็น ส่งสายตากับองครักษ์ “เอาตัวไป ขังอยู่ในห้องมืดก่อน”ห้องมืดใช้กักขังคนในตำหนักที่กระทำความผิดโดยเฉพาะ บ้างเข้าห้องมืดไม่กี่วันก็ออกมา แต่ทั่วไปแล้วมักมอบให้หัวหน้าขันทีในวั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 275

    ทั้งสองคิดไปก็มิใช่วิธี จึงให้จี๋เสียงกับหรูอี้ไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์หมู่โฮ่วฮองไทเฮา ตามจิ้นหรูกลับมาปรนนิบัติที่ตำหนักครั้นจี๋เสียง หรูอี้ไปถึงตำหนักชิงหนิงกลับเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ให้ขันทีในตำหนักไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์ของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาผ่านไปพักหนึ่ง หรูหัวก็ยิ้มตาหยีเดินออกมา “เซิ่งหมู่ฮองไทเฮากำลังเดินหมากกับจิ้นหรูกูกู นี่กำลังสนุกเลย จะอย่างไรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาก็ไม่ยอมให้กูกูไป พวกเจ้าสองคนกลับไปทูลรายงานหมู่โฮ่วฮองไทเฮาว่าจะส่งคนกลับไปดึกหน่อยแล้วกัน”“อ๊าาา”เสียงร้องดังมาจากข้างในอีก จี๋เสียง หรูอี้สบตากันทีหนึ่ง สีหน้าเริ่มกังวลเล็กน้อยหรูหัวเอ่ยเรียบ “มีนางกำนัลคนหนึ่งไม่ทันระวังทำน้ำชาหกใส่หลังมือของจิ้นหรูกูกู นี่อย่างไร กำลังถูกโบยอยู่เลย”“แต่... เหตุใดเสียงนี้ฟังดูแล้วจึงเหมือนเสียงของจิ้นหรูกูกูล่ะ?” จี๋เสียงเอ่ยอย่างขลาด ๆ“เหลวไหลอันใด?” หรูหัวเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน “เจ้าจะบอกว่าเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาทรมาทรกรรมจิ้นหรูกูกูหรือ? ยังมิได้กล่าวถึงจิ้นหรูกูกูเป็นคนข้างพระวรกายของหมู่โฮ่วฮองไทเฮา แค่อดีตนางคือนางกำนัลคนสนิทของอดีตฮ่องเต้ ทั้งยังมีไมตรีกับเซิ่งหมู่ฮองไทเฮามาต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 274

    จิ้นหรูหัวใจรัดแน่น สุดท้ายดวงตาก็ฉายความแตกตื่นออกมา “พระองค์คิดจะทำอันใดกันแน่เพคะ?”“ถามได้ดี!” ถงไทเฮาลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วเดินก้าวหนึ่ง เหยียบหลังมือของจิ้นหรู ออกแรงขยี้ มองดูความทรมานบนใบหน้าของจิ้นหรู ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เจ็บหรือ?”จิ้นหรูกัดฟัน “ไทเฮาจะลงโทษบ่าวอย่างไรก็ได้เพคะ”อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้วก็คือหลุดพ้น แต่... นางรู้ ถงไทเฮาแค้นนางที่สุด จะไม่ให้นางตายง่าย ๆ เด็ดขาด“ข้าได้ยินว่าคุกทักษิณมีทัณฑ์ทรมานมากมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเทียบกับข้าที่นี่แล้ว จะเหนือกว่าหรือไม่? มิสู้จิ้นหรูกูกูช่วยข้าเปรียบเทียบสักหน่อย” ถงไทเฮาโน้มตัวลงเชยคางของจิ้นหรู มุมปากแย้มยิ้มชั่วร้ายเหี้ยมเกรียมเดิมรูปลักษณ์ก็มิได้งามวิไล ยามนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน ยิ่งทำให้ดุร้ายอัปลักษณ์มากกว่าเดิมจิ้นหรูขวัญผวา ไม่กล้ามองดวงตากระหายเลือดของนาง จึงก้มหน้ากัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บที่ส่งมาถึงแต่... นี่ยังห่างไกลกับจุดสิ้นสุดหรูหัวยกตะปูมากะละมังหนึ่ง พวกมันมิใช่ตะปูเหล็ก แต่เป็นตะปูไม้ท้อทุกเล่มทำจากไม้ท้อ ส่วนปลายแหลมคมเงาวับ“ถ้าเจ้าร้องสักแอะ ข้าจะเพิ่มตะปูอีกเล่ม” ถงไทเฮาเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 273

    ด้วยประการละฉะนี้ ทุกคนจึงนึกว่าฮ่องเต้โปรดปรานแต่ฮองเฮา ทอดทิ้งวังหลังแม้นางสนมจะตำหนิไม่พอใจ แต่เพราะฮองเฮาคือคนสกุลถง จึงไม่มีใครกล้าพูดฮองเฮารูปโฉมไม่โดดเด่น กลับได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพียงนี้ เห็นได้ว่าฮ่องเต้รักนางจริง ๆชั่วขณะ ฮองเฮาบารมีไร้ที่สิ้นสุด รั้งตำแหน่งฮองเฮา ทั้งยังมีความโปรดปรานของฮ่องเต้มั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้สกุลถงเหิมเกริมมากขึ้นทุกวันเขาใช้การกระทำบอกนาง ในใจของเขามีแต่นางเท่านั้นสามสิบกว่าปีแล้ว นางเข้าวังในวัยสิบสอง บัดนี้สี่สิบสาม อดีตฮ่องเต้คือแผ่นฟ้าของนาง คือสามีของนาง คือนายของนางเขาจากไปก่อนนาง แม้นางจะเสียใจ แต่ก็มิได้แสดงออกว่าเสียใจมาก เพราะนางรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่ตรงนั้น สุดท้ายนางจะได้ไปพบกับเขานางรู้ ยามนี้ได้เวลาแล้ว“พูด!” หรูหัวดุดันขึ้นมา ตบหน้านางฉาดหนึ่งจิ้นหรูหน้าเอียงไปข้างหนึ่ง แก้มบวมขึ้นรอยประทับนิ้วมือทันทีจิ้นหรูคุกเข่าตัวตรง “บ่าวไม่มีอะไรจะพูดเพคะ”“เจ้ามอบความบริสุทธิ์ของเจ้าให้ผู้ใด?” ถงไทเฮาไม่แสดงออกว่าโกรธมาก ในทางกลับกัน นางพรูลมยาว ข้อกังขาที่เก็บอยู่ในใจนางยี่สิบกว่าปี กระจ่างแจ้งในที่สุด“บ่าวไม่ทร

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 272

    หรูหัวลากนางเข้าตำหนักชั้นในไปอย่างไม่ให้ปฏิเสธจิ้นหรูมองเสื้อผ้าบนฉากบังลมด้วยความประหลาดใจ เหตุใดหรูหัวจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ในตำหนักบรรทมของไทเฮาได้แต่นางมิได้ถาม เพราะถามแล้วก็คงไม่บอก นางมองเสื้อผ้านางกำนัลชุดนี้ มิได้สงสัยเรื่องอื่นก็เข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังฉากบังลมนางเพิ่งถอดเสื้อผ้า หรูหัวก็เข้ามา “อุ๊ย ข้าลืมบอกเจ้าไป ชุดนี้เคยใส่แล้ว เปลี่ยนอีกชุดเถอะ!”นางยื่นชุดสีเหลืองอ่อนในมือให้จิ้นหรู พร้อมกับกวาดสายตามองบริเวณแขนของจิ้นหรูอย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจิ้นหรูเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็มีหญิงสูงวัยดุดันเข้ามาสองคน ลากแขนจิ้นหรูคนละข้างออกไปข้างนอกจิ้นหรูตกตะลึงพรึงเพริดถามขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”หญิงสูงวัยสองคนนั้นลากนางไปแล้วผลักจนนางสะดุดล้มลงพื้น ถงไทเฮามองนางจากมุมสูง ดวงหน้าอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา บ่าวทำอะไรผิดไปเพคะ?” จิ้นหรูหัวใจหนักอึ้ง แต่ยังสงบสติอารมณ์แล้วถาม“ทำอะไรผิด?” เสียงของถงไทเฮาราวกับส่งมาจากขุมนรก พกพากลิ่นอายเย็นยะเยือกชุ่มชื้น “แต้มพรหมจรรย์ของเจ้าเล่า?”จิ้นหรูหัวใจ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status