ราชินีทหารรับจ้างยุคปัจจุบันข้ามชาติไปอยู่ในร่างอยู่ของมู่จิ่วซีคุณหนูใหญ่จวนขุนพล ถูกใส่ร้ายว่าคบชู้จนกำลังจะถูกขังกรงหมูจับถ่วงน้ำ จากนั้นก็ถูกผู้สำเร็จราชการแทนถอนหมั้นทำลายชื่อเสียง ผู้คนคิดว่าคุณหนูใหญ่จะถูกคนหัวเราะเยาะ ไม่คิดเลยว่านางจะไม่เจ็บไม่คันสักนิด ไม่ปราณีพวกแม่พระ กดขี่เหล่าแพศยา ทุบตีสุนัขเจ้าเล่ห์ จับเป็นฆาตกร ลูกไม้ต่างๆ ได้รับทักษะมามากมาย พร้อมงัดมาใช้ได้ตลอดเวลา ผู้สำเร็จราชการแทนเห็นว่านางงดงามน่าหลงใหล วันๆ ถูกเย้าแหย่จนใจจักจี้ “จิ่วซี ให้โอกาสข้าอีกสักครั้งได้ไหม?” “he--tui!”。
View More"ข้าบอกว่าหากเจ้าบังคับเย่อู่เหิงแต่งงานกับองค์หญิงสือ ข้าจะแต่งงานกับเย่อู่เหิง!" มู่จิ่วซีก้รีบพูดแทรกขึ้นมา"เจ้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเย่อู่เหิงจะยอมแต่งกับเจ้าไหม เจ้าตัดสินใจแทนเขาได้?" มือของโม่จุนกำแน่นจนเป็นหมัด"ข้าเข้าใจเขา เขาก็เหมือนที่ใต้เท้าเฟิงพูด เขาจะไม่แต่งงานกับองค์หญิงสือแน่" มู่จิ่วซีกล่าวใต้เท้าเฟิงก็พยักหน้าและก็เอ่ยขึ้นมา : "คุณหนูใหญ่มู่ ใต้เท้าเย่ก็เป็นชายหนุ่มอายุยังน้อยจริงๆ เป็นหนุ่มหล่อที่มีความสามารถ บางทีอาจคู่ควรกับคุณหนูใหญ่มู่จริงๆ""เฟิงฉวนหรง เจ้าหุบปากให้ข้าเดี๋ยวนี้!" โม่จุนกล่าวอย่างโมโหกับใต้เท้าเฟิงใต้เท้าเฟิงตกใจจนจอกเหล้าของเขาคว่ำหก จนเขารีบลุกขึ้นมาขออภัยโทษ เขาไม่รู้จริงๆ ว่าตนเองพูดผิดตรงไหน ท่านผู้สำเร็จราชการแทนถึงได้โมโหขนาดนี้"เอาล่ะๆ โม่จุน เจ้าพอได้แล้ว ใต้เท้าเฟิงตกใจหมดแล้ว พวกเราเรียกเย่อู่เหิงเข้ามาในวังสอบถามดูก็พอ อีกอย่างองค์หญิงสือก็อาจไม่ได้กล่าวถึงเย่อู่เหิงด้วย" พระพันปีหลวงกลุ้มใจจนพระเกษาแถบหงอกขาวไปหมดแล้วอัครมหาเสนาบดีไป๋ก็รีบลากใต้เท้าเฟิงมาแล้วพูดกระซิบข้างหูไม่กี่ประโยคใต้เท้าเฟิงก็ตะลึงในสายตา จากนั้นเขาก็
ใต้เท้าเฟิงส่ายหัวและกล่าว : "ใต้เท้าเย่มีคนที่ชอบในใจแล้วหรือไม่ ข้าน้อยไม่ทราบ แต่ข้าน้อยทราบว่าเขาเป็นคนหยิ่งทระนงและไม่ยอมแพ้ เขาจะไม่ยอมแต่งกับองค์หญิงสือแน่"โม่จุนจู่ๆ ก็ยิ้มเยาะอย่างเยือกเย็นออกมา : "หากพระพันปีหลวงทรงมีพระบรมราชโองการรับสั่งล่ะ? เข้ายังจะกล้าปฏิเสธพระบรมราชโองการได้อีกหรอ?""พระพันปีหลวงเองก็ทรงให้เจ้าอภิเษกกับข้า แล้วเจ้าอภิเษกรึยังล่ะ?" มู่จิ่วซีจู่ๆ ก็พูดสวนขึ้นมาทุกคนถึงกับตกตะลึง คุณหนูใหญ่มู่ถูกจี้ใจดำเข้าแล้วหรือไง?"เจ้าอยากให้เย่อู่เหิงแต่งงาน ก็ต้องถามเขาด้วยสิว่าชอบหรือไม่? โม่จุน เจ้าเองพอไม่ชอบกลับมีสิทธิถอนหมั้นไม่แต่งงานด้วยได้ หรือว่าคนอื่นไม่มีสิทธิเลือกเหมือนเจ้าหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห "แค่เจ้าเป็นท่านผู้สำเร็จราชการแทนก็เลยมีสิทธิบังคับคนอื่นหรือไง?"โม่จุนโกรธขึ้นมาอีกครั้งจนใบหน้าหล่อเหลาดำทะมึนดั่งกับน้ำหมึก เขาจ้องมู่จิ่วซีอยากจะโมโหใส่นางแต่ก็โมโหไม่ลง"เจ้าแค้นที่ข้าถอนหมั้นเจ้า เจ้าเลยบังคับให้ข้าอภิเษกกับเจ้าสินะ?" โม่จุนกัดฟันพูดออกมา"ใครอยากแต่งงานกับเจ้า เจ้าไม่ใช่ว่ามีคนในใจตั้งนานแล้วหรอกหรอ? ไปแต่งกับนางนวลจัน
คนของแคว้นเกาอวิ๋นต่างก็หันไปมองโม่จุนผู้ชายคนนี้โกหกโดยไม่ได้เตี๊ยมกันไว้ก่อนเลย ปัญหาคืออารมณ์ที่รุนแรงของเขา ทุกคนจึงไม่มีใครกล้าที่จะไม่เชื่อมู่จิ่วซีก็กลอกตามองไปที่เขาตรงๆ ผู้ชายคนนี้มีผู้หญิงที่ชอบอยู่แล้วหรอ? นางจะต้องเป็นเซียวหลิงเย่ว์แน่ๆ ถึงอย่างไรก็เป็นลูกสาวบุญธรรมของปรมาจารย์ เติบโตมาตั้งแต่เล็กด้วยกันเหอะ ไอผู้ชายชาติหมา ปากไม่เคยพูดความจริงอะไรเลยองค์ชายสามตกตะลึงไป จากนั้นก็ยิ้มแบบแหยงๆ : "พระพันปีหลวง งั้นไม่ทราบว่าท่านอ๋องหก...""ท่านอ๋องหกก็ไม่ได้ เขาชอบกับซีเอ๋อร์ของตระกูลข้า" มู่เทียนซิงกล่าวขึ้นมาตรงๆมู่เทียนซิงไม่ได้มีความคิดอื่น เขากลัวลูกสาวของเขาไม่ได้แต่งออกเรือนไป ท่านอ๋องหกเองก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว เตรียมสำรองไว้ให้ลูกสาวเขาก่อนจะดีกว่าแววตาของโม่จุนพริบตาก็คมกริบกวาดมองไปยังมู่เทียนซิงเพียงแต่มู่เทียนซิงไม่เห็นและก็รีบพูดขึ้นมา : "ท่านอ๋องเจ็ดไง ท่านอ๋องเจ็ดเองก็ถึงวัยที่จะอภิเษกสู่ขอพระชายาได้แล้ว""มู่เทียนซิง ท่านอ๋องเจ็ดได้หมั้นหมายแล้ว" พระพันปีหลวงทรงยิ้มอย่างขมขื่นและตรัสขึ้นมา"พี่สาม น้องจำเป็นต้องอภิเษกกับตระกูลราชวงศ์เท่านั้นเ
โม่จุนชะงักไปเล็กน้อยจากนั้นก็หุบรอยยิ้มนั้น"เจ้าเลิกตีฝีปากแล้วไปหาพระพันปีหลวงทางด้านนั้นก่อน" แม้ว่าโม่จุนจะพูดกับนางด้วยเสียงทุ้มลึก แต่ก็ไม่อาจหุบรอยยิ้มไว้ได้ มุมปากของเขายกขึ้นพร้อมกับมองนางด้วยแววตาเอ็นดู"ฮิๆ ข้าพูดว่าเจ้าดูดีเจ้าก็ไม่พอใจ เจ้านี่เอาใจยากจริงๆ" หลังจากมู่จิ่วซีมองเขาอย่างเอือมระอา นางก็ทำแก้มป่องและเดินกระแทกเท้าไปหาพระพันปีหลวงคนของแคว้นเกาอวิ๋นตอนนี้กำลังตกอยู่ในความดีอกดีใจ ต่างทยอยกู่ร้องสรรเสริญมู่จิ่วซี แน่นอนว่าก็สรรเสิรญพระพันปีหลวงและฝ่าบาทด้วย ทุกคนยิ้มแย้มราวกับดอกไม้บานในทางตรงกันข้าม คนของแคว้นซีเย่ว์สีหน้ายากที่จะดูได้ พวกเขาแพ้ทั้งสามรอบ และยังแพ้ให้กับคนๆ เดียว และยังเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ยินมาว่าเป็นแค่ผู้หญิงที่ไม่มีอะไรดี นี่ทำให้พวกเขาขายหน้ายิ่งกว่าอะไรโคตรขายหน้าเลย!แต่อันที่จริง ใครต่างก็ไม่คาดคิดว่าลูกสาวของแม่ทัพใหญ่มู่จะเก่งกาจถึงขั้นนี้ นางเป็นแค่ผู้หญิงจริงๆ เหรอ?ผู้หญิงคนหนึ่งยิงธนู 100 เมตรได้เก่งขนาดนี้เลยเหรอ? ดูจากท่าทีนางเหมือนกับยังไม่ได้ใช้ความสามารถแท้จริง อีกทั้งนางยังใช้คันธนูของอามู่ด้วย
ทุกคนต่างตกลึง เหมือนกับว่ากำลังคิดถึงสิ่งที่นางพูด?คำพูดนี้หมายความว่ายังไง?"ฟิ้วฟิ้วฟิ้ว!" ทันใดนั้นเสียงธนูยิงออกไปก็ดังขึ้นทุกคนต่างมองออกไป ก็เห็นธนุทั้งสามดอกเรียงเป็นแถวพุ่งตรงไปยังเป้าแดงตรงกลาง"พระเจ้าช่วย!" บางคนอดไม่ได้จนต้องอุทานออกมาเสียง "ฉึก!" ดังขึ้น มีเพียงแค่เสียงเดียวที่ดังขึ้น จากนั้นทุกคนก็เห็นธนู 3 ดอกเรียงเป็นแถวปักตรงใจกลางสีแดงของเป้า"ว้าว !" ทันใดนั้นคนทั้งสนามก็ระเบิดเสียงกู่ร้องออกมาลูกธนูของมู่จิ่วซีดอกแรงยิงโดนตรงใจกลางสีแดงของเป้า ธนูดอกที่สองปักลงตรงปลายหางธนูของดอกแรก ดอกที่สามก็ปักลงตรงปลายหางธนูของดอกที่สองดังนั้นธนูทั้งสาม 3 ยิงเรียงเป็นแถวปักลงตรงกลางของเป้าแดงตรงกลาง"แม่เจ้า สุดยอด!""แม่เจ้า โคตรตื่นเต้น ข้าอยากจะร้องไห้แล้ว""พระเจ้า เป็นไปได้ยังไง!""พระเจ้า!" ผู้คนทั้งสนามต่างโห่ร้องว่าพระเจ้ากันระงม นี่มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ อภินิหารมากๆ เลยใบหน้าหล่อเหลาของโม่จุนก็เผยรอยยิ้มกว้าง เขามองมู่จิ่วซีที่แอ่นตัวตรงอย่างกับวีรสตรี อดไม่ได้จริงๆ ที่จะชื่นชมนางนางทำแบบนั้นได้ยังไง นี่ขนาดเขายังไม่กล้ารับประกันก็ยังสามารถทำได้อ
ทุกคนต่างถลึงตาจ้องมองลูกธนูนั้น จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงฉึกที่ปักโดนใจกลางเป้า"สุดยอด!" แคว้นซีเย่ว์ทางด้านนั้นดีใจจนตะโกนออกมาทางด้านโม่จุนและองคมนตรีหลายคนก็กล่าวชื่นชมออกมา จากนั้นก็ถูกพวกผู้หญิงหลายคนมองอย่างเคืองๆ นี่อยู่ฝั่งใครกันแน่ ?"ก็คนเขามีความสามารถ ยิงได้แม่น!" พวกผู้ชายชื่นชมในความสามารถจริงๆ พวกเขามองอามู่องครักษ์คนนี้ดีขึ้นไปอีกขั้น"แม้ว่าจะเป็นการแข่ง แต่ว่าพวกเราก็ต้องใจกว้างหน่อย""เดี๋ยวพอแพ้ขึ้นมาก็อยากเห็นพวกเจ้านักว่าจะใจกว้างยังไง" เสียงผู้หญิงบางคนกล่าวออกมาอย่างไม่พอใจมู่จิ่วซีก็ปรบมือกล่าวชมยินดีดช่นกัน ทันใดนั้นอามู่ก็กล่าวอย่างภูมิใจ : "คุณหนูใหญ่มู่ชมเกินไปแล้ว"จากนั้นเขาก็เริ่มยิงธนูดอกที่สอง ซึ่งถูกเป้าแดงตรงกลางอีก ดอกที่สามก็ถูกเป้าแดงตรงกลางอีกเช่นกัน ทำเอาแคว้นเกาอวิ๋นที่ได้เห็นตกตะลึงตาค้าง"แย่แล้ว คุณหนูใหญ่มู่แพ้แน่""เมื่อครู่ยังคิดอยู่เลยว่าจะมีโชคบ้างไหม ดูจากตอนนี้แล้ว แถบไม่มีโอกาสเลย ต่อให้นางยิงโดนเป้าแดงตรงกลางทั้งหมด ซึ่งมันก็ได้แค่เสมอ""คุณหนูใหญ่มู่ยิงโดนเป้าแดงตรงกลางทั้งหมด จะต้องเป็นคุณหนูใหญ่ชนะสิ นางเป็นผู้หญิง"
"ข้าคิดว่าวันนี้ข้าดวงดีมากเลยล่ะ ฮิฮิ" มู่จิ่วซีหันไปมองอามู่ด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย"การประลองเริ่มขึ้น ณ บัดนี้ ! แต่ละฝ่ายยิงได้ 3 ดอก พวกเจ้าใครจะเป็นคนแรก?" ใต้เท้าเฟิงเลขาธิการกระทรวงพิธีการได้เอ่ยถามอามู่รีบพูดก่อนคนแรก "ข้าน้อยขอเป็นคนแรก" ขณะที่เขาพูดก็หยิบธนูของตนเองออกมา โดยไม่ได้ใช้ธนูที่องครักษ์เตรียมให้"ช้าก่อน" ใต้เท้าเฟิงรีบพูดขึ้นมา "เจ้าใช้ธนูของเจ้าเองรึ ? ไม่ใช่ว่าทั้งสองคนต้องใช้ธนูอันเดียวกันหรอกเหรอ?"อามู่ก็รีบพูดขึ้นมา : "ข้าน้อยถนัดใช้ธนูของตัวเอง ใช้ธนูอื่นเกรงว่าคงจะไม่ถนัด เพื่อให้ยุติธรรม คุณหนูใหญ่มู่จะใช้ธนูของตัวเองก็ได้""คุณหนูใหญ่มู่ เจ้าได้เอาธนูของเจ้าเองมาหรือไม่?" ใต้เท้าเฟิงถาม"ข้าก็คิดว่าจะใช้ธนูอันเดียวกันเสียอีก ข้าเองก็ไม่ได้มีธนูที่เหมาะสม" ประโยคนี้ของมู่จิ่วซีทำให้คนของแคว้นซีเย่ว์ดีใจขึ้นมามู่จิ่วซีไม่มีธนูของตัวเอง แบบนั้นไม่ใช่มือธนูที่แท้จริงแล้ว อีกสักพักเซียนมือธนูอามู่จะต้องชนะแน่ยังดีที่การประลองรอบที่สาม มีธัญพืช 10,000 ตันเป็นเดิมพัน ต่อให้เพียงแค่ชนะการประลองรอบเดียว ก็เพียงพอแก้ขัดได้แล้วองค์ชายสามเมื่อได้ยินมู่
ใบหน้าหล่อเหลาของโม่จุนของตึงเครียดขึ้นมา : "จิ่วซี นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ยิงธนู 100 เมตร ต้องใช้กำลังแขน กำลังภายใน สายตาแม่นยำ ขาดอะไรไปสักอย่างไม่ได้เลย""เจ้าหมายความว่าไง จะบอกว่าข้าทำไม่ได้หรอไง? งั้นเจ้าก็มาแข่ง! ถึงอย่างไรข้าก็ชนะมา 2 รอบแล้ว" มู่จิ่วซีหงุดงหงิดโมโหในแบบคุณหนูใหญ่องค์ชายสามก็รีบพูดขึ้นมาในทันที : "แบบนั้นไม่ได้หรอก ตกลงแล้วไม่ใช่หรอ ว่าคุณหนูใหญ่มู่จะประลองทั้ง 3 ครั้ง หากคุณหนูใหญ่มู่ประลองแค่ 2 รอบ งั้นทั้งสองรอบก่อนหน้านี้ถือว่าโมฆะ"มู่จิ่วซียิ้มกล่าว : "องค์ชายสาม เจ้าเองหนังหนาช่างหนาเสียจริงๆ"องค์ชายสามชะงักไปครู่หนึ่งและพูดขึ้นมา : "คุณหนูใหญ่มู่ หากไม่ใช่ว่าท่านสามารถประลองได้ทั้ง 3 รอบ การแข่งก่อนหน้านี้พวกเราคงไม่ออกหัวข้อประลองแบบนั้น""ได้ๆๆ ข้าประลองก็พอสินะ" มู่จิ่วซีกล่าว "ท่านผู้สำเร็จราชการแทน นี่เจ้ายังจะห้ามข้าแข่งประลองอีกไหม?"ท่านผู้สำเร็จราชการแทนหันมองพระพันปีหลวง พระพันปีหลวงสีพระพักตร์ทรงกังวล อัครมหาเสนาบดีไป๋ก็เดินเข้ามาหาในตอนนี้"พระพันปีหลวง ท่านผู้สำเร็จราชการแทน คุณหนูใหญ่มู่ชนะมาสองรอบแล้ว ถือว่าทำคุรประโยชน์ให้แคว้น
"ท่านแม่ ไม่มีอะไร ก็แค่ถูกหมาบ้ากัด" มู่จิ่วซีกล่าวอัครมหาเสนาบดีไป๋ทันใดนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา โม่จุนกลายเป็นหมาบ้าไปแล้วสินะพอหันไปทางโม่จุนด้านนั้น ท่านผู้สำเร็จราชการแทนคนนี้ผู้ไม่เคยสติหลุดมาก่อน แต่พออยู่กับมู่จิ่วซี ผู้ชายคนนี้ก็ไม่อาจควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้แต่น่าเสียดาย ตัวเขาเองกลับไม่รู้ว่าตัวเองได้ชอบมู่จิ่วซีเข้าแล้วไม่งั้นเขาจะโมโหขนาดนี้และขาดสติขนาดนี้หรอผู้คนได้เฝ้าสังเกตคาดเดาอยู่รอบ อัครมหาเสนาบดีไป๋เป็นคนที่มองออก พระพันปีหลวงก็มองออก รวมถึงเซียวหลิงเย่ว์ที่นั่งอยู่ในกลุ่มสตรีผู้สูงศักดิ์ก็มองออกเช่นกันสายตาของนางมองโม่จุนอย่างเคียดแค้น จากนั้นก็หันมองมู่จิ่วซีอย่างแค้นเคืองเย่อู่เหิงไม่ได้ยินที่พวกเขาคุยกัน แต่พอเห็นท่าทีโมโหของมู่จิ่วซี และหันไปมองโม่จุน เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแคว้นซีเย่ว์ทางอีกด้านหนึ่งก็เจรจาถึงการประลองรอบที่สาม แต่ในตอนสุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกว่ายิงธนู 100 เมตรโอกาสชนะมากกว่า สำหรับมู่จิ่วซีที่ผู้หญิงคนนี้ พวกเขาแถบเดาไม่ออกเลยพวกเขารู้สึกแค่ว่าต่อให้ผู้หญิงคนนี้เก่งกาจ นางก็ยังเป็นแค่ผู้หญิง การยิงธนู 100 เมตรส