เฟิ่งหวง [鳳凰]

เฟิ่งหวง [鳳凰]

last updateLast Updated : 2025-10-22
By:  ไป๋ชิงหงUpdated just now
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
3Chapters
2views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

นางรับงานสังหารรัชทายาทต้าฉินเพราะรู้มาว่าเขาเป็นชายรักชาย แม้จะเปลือยเปล่าต่อหน้าเขานางก็ได้หาอับอายไม่ แล้วไฉนเขาถึงทำราวกับว่ารู้จักสนิทสนมกับพี่ชายนางดีเช่นนี้

View More

Chapter 1

ปฐมบท

เมื่อครั้งที่เหมันต์คืบคลานเข้ามายังดินแดนที่ราบลุ่มแม่น้ำโลหิต[1] แคว้นที่อยู่ทางใต้ตั้งแต่หนานเยว่[2]ทางทิศตะวันออกรวมไปถึงดินแดน

ซื่อซวน[3]ทางทิศตะวันตกประสบปัญหาฤดูหนาวอันโหดร้าย จากดินแดนที่เคยอุดมสมบูรณ์ พืชพรรณธัญญาหารกลับขาดแคลนอย่างแสนสาหัส ประชาชนที่ยากไร้ต่างก็ลุกฮือต่อต้าน ก่อการจลาจลวุ่นวาย แคว้นฉินแต่เดิมเป็นแคว้นที่อยู่ในภาคกลาง อากาศย่อมหนาวเหน็บกว่าดินแดนลุ่มแม่น้ำ แต่กลับมีผลผลิตทางการเกษตรเพียงพอตลอดทั้งปี อาศัยช่วงเวลาที่บ้านเมืองของแคว้นลุ่มน้ำระส่ำระสายร่วมมือกับแคว้นเว่ยเข้าบุกยึดครอง ใช้กุศโลบายอย่าง

ชาญฉลาดเพื่อยับยั้งความยากไร้ในยามนั้น อาศัยข่าวลือที่ว่าดินแดนภาคกลางแม้ไม่อุดมสมบูรณ์เท่าทางใต้ แต่กลับมีอาหารการกินเหลือเฟือไปอีกนับร้อยปี  อีกทั้งเป็นเพราะความอ่อนแอจากภายในของแคว้นฉู่ สุดท้ายฉินและเว่ยจึงกำชัยเหนือพวกเขาได้อย่างดงาม

แคว้นฉู่ แต่เดิมเป็นแคว้นใหญ่ที่คอยช่วยเหลือให้ความดูแลแก่แคว้นเล็กๆ โดยรอบ ทว่ากลับเกิดความระส่ำระสายจากการแย่งชิงบัลลังก์ระหว่างวงศ์ญาติ ค่ำคืนของวันขึ้นปีใหม่ซึ่งหิมะตกหนักที่สุดในรอบปี เหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ที่วางแผนการใหญ่ซึ่งกำลังมั่นใจในความสามารถของตนเกิดความชะล่าใจ กระทั่งหลังจากเสร็จสิ้นงานเฉลิมฉลองในวัง ยังสามารถวางใจและเฉลิมฉลองอย่างหรูหราในครัวเรือนของตนได้ ทว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ในกองทัพหนานฉู่ ที่คนเหล่านั้นคิดว่าสามารถใช้ต้านศัตรูที่เข้ามาประชิดเมืองกลับไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ทันการ เรื่องนี้กลายเป็นหนามแหลมที่คอยทิ่มแทงใจบรรดาขุนนางในราชสำนักฉู่ไม่เสื่อมคลายในกาลต่อมา เพราะสุดท้ายจากความอ่อนแอของแคว้นก็ทำให้ถูกกองทัพของแคว้นเว่ยบุกยึดวังหลวงหนานฉู่ได้อย่างรวบรัดหมดจดเพียงแค่ชั่วข้ามคืน

กุญแจสำคัญของศึกนี้คือการที่แคว้นเว่ยได้รับความช่วยเหลือจากเผ่าหมาป่าซึ่งมอบแบบร่างอาวุธบุกประชิดเมืองชนิดใหม่ให้ เป็นรถลากที่ใช้แรงของม้าศึกในการน้าวยิงคันศรขนาดราวหนึ่งจั้ง[4] อานุภาพการทะลุทะลวงรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง จึงสามารถบุกประชิดเมืองหลวงหนานฉู่ได้อย่างรวดเร็ว

พลุไฟสว่างไสวในค่ำคืนเฉลิมฉลอง อันเป็นแรกก้าวเข้าสู่ฤดูวสันต์ที่แสนเหน็บหนาว เบื้องหลังบุปผาพราวพรั่งบนท้องฟ้าสีน้ำหมึก กลับซ่อนเร้นห่าธนูที่ผลิตจากเหล็กกล้าชั้นดี ความสว่างไสวอำพรางกลอุบายนี้อย่างแยบคาย นอกประตูเมืองห่างออกไปสามสิบลี้ ยังสามารถส่งอาวุธร้ายเข้าสู่เขตพระราชฐานของแคว้นฉู่โดยที่ชาวเมืองด้านนอกยังไม่ทันรู้ตัว

ห่าธนูนับสิบหมื่นพุ่งทะลวงสู่วังหลวง สังหารข้าทาสบริวารและ

เชื้อพระวงศ์ไปจำนวนหนึ่ง ฉู่หวางที่ยังคงสำเริงสำราญพระทัยกับเหล่าฟูเหริน[5] โดยมิได้สนถึงความเร้นแค้นของประชาชนชาวหนานฉู่ ในที่สุดก็ถูกธนูกลุ่มหนึ่งทำลายกระเบื้องตำหนักร่วงกราว ราวกับว่าอดีตผู้ครองแคว้นพระองค์นี้เป็นที่รังเกียจของสวรรค์ กระทั่งแค่เศษกระเบื้องที่ร่วงกระแทกพระเศียร ยังทำให้สิ้นพระทัยคาอกของเหล่าฟูเหรินได้

เป็นฉากการสังหารที่น่าสังเวชใจยิ่งนัก

หลายปีต่อมาในแคว้นฉู่และแคว้นใกล้เคียงจึงมีละครล้อเลียนการสิ้นพระชนม์ของฉู่หวางพระองค์นี้อยู่ร่ำไป

หลังจากนั้นไม่นาน ฉู่หวางพระองค์ใหม่จึงขึ้นครองราชย์

แคว้นฉินร่วมมือกับแคว้นเว่ยแผ่ขยายแสนยานุภาพไปยังดินแดนภาคใต้ ท้ายที่สุดหนานฉู่ก็ยอมสวามิภักดิ์ แคว้นปาและแคว้นสู่ซึ่งอยู่ในดินแดน

ซื่อชวน รวมไปถึงดินแดนหนานเยว่ที่อยู่ติดกับทะเลตงไห่ก็ส่งบรรณาการมาแสดงความสวามิภักดิ์แต่โดยดี

หนึ่งปีหลังจากนั้นฉินหวางได้เถลิงรัชศกใหม่ สถาปนาอาณาจักร เมื่อถึงกาลที่ฤดูเปลี่ยนผัน ปีเก่าย่างเข้าปีใหม่ ในที่สุดอาณาจักรฉินก็ถูกเรียกว่า

ต้าฉิน ฉินหวางจึงกลายเป็นฉินหวงตี้ ทรงพระนามฉินเยว่หวงตี้[6]ซึ่งเป็นปฐมจักรพรรดิ ต้าฉินกลายเป็นจักรวรรดิที่ทั่วทั้งแปดทิศให้ความสวามิภักดิ์โดยพร้อมเพรียง

บรรดาผู้นำแคว้นต่างๆ เข้าร่วมดื่มน้ำปฏิญาณตน กำหนดให้

รัชศกเทียนจินที่หนึ่งเริ่มศักราชใหม่ ภายในยี่สิบปีห้ามแต่ละแคว้นผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์เกินกว่าที่กำหนดไว้ แร่โลหะที่มีค่าครึ่งหนึ่งต้องส่งมาบรรณาการ

ต้าฉิน เริ่มการเปลี่ยนแปลงเงินตราที่แลกเปลี่ยนเป็นเหรียญทองแดงกลมที่เจาะรูสี่เหลี่ยมตรงกลางเรียกว่า ป้านเหลี่ยงเฉียน[7] มีกฎหมายให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารโดยไม่สมัครใจ ยกเลิกการค้าทาสที่มาจากการทำสงครามโดยสมบูรณ์ ยกเว้นว่าจะเกิดจากความยินยอมจากผู้ขายแรงงาน

แคว้นเว่ยเป็นแคว้นใหญ่ที่เป็นพันธมิตรกับต้าฉินมาตั้งแต่แรกเริ่ม การบุกหนานฉู่เมื่อปีก่อนนั้นก็เป็นผลมาจากการทำนายอันแม่นยำของ

เว่ยหวางฝูหย่ง ฉินเยว่หวงตี้จึงแสร้งหลับพระเนตรข้างหนึ่ง มิได้เคร่งครัดเรื่องกำลังทหารของแคว้นเว่ยเท่ากับแคว้นอื่น อีกทั้งแร่ทองแดงที่ได้จากแคว้นเว่ยก็เป็นหลักประกันว่าจะไม่เกิดการซ่องสุมกำลังพลในภายหลัง ทว่าสิบเก้าปีต่อมา

กลับเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น เมื่อฉินเยว่หวงตี้มีราชโองการให้ประทานยาพิษแก่

เว่ยหวางฝูหย่งในข้อหาก่อกบฏ ไม่มีใครกล้ายื่นฎีกาคัดค้าน แคว้นเล็กๆ มากมายต่างก็คิดว่าตนเป็นนกขมิ้น[8]ที่มองอยู่ภายนอกเพื่อรอฉกฉวยผลประโยชน์ โอรสที่ประสูติจากหวางเฟยจึงสืบราชสมบัตินับแต่นั้นมา

ขนานพระนามว่าเว่ยหวางฝูเจี้ยน

หนึ่งปีให้หลังมักมีเรื่องตลกที่แอบพูดคุยกันอย่างลับๆ ว่าฉินเยว่หวงตี้นั้นแท้จริงแล้วเมื่อเสร็จศึกก็ฆ่าขุนพล น่าสงสารแต่อดีตเว่ยหวางที่วางพระทัยผิดคน ทั้งชีวิตใช้เพียงดวงตาคู่หนึ่งเพื่อเปิดเผยความลับสวรรค์จนต้าฉินแผ่ขยายอำนาจเกรียงไกร

ทว่ากลับมิอาจล่วงรู้อนาคตของตนว่าจะถูกกำจัดทิ้งในกาลต่อมา

[1]        ดินแดน แม่น้ำ และแคว้นในเรื่องนี้มีบางส่วนที่หยิบยกมาจากชื่อจริงในสมัยเจ็ดแคว้น แต่มิได้เอาประวัติศาสตร์ทั้งหมดมาอ้างอิงด้วย หลายส่วนเป็นจินตนาการของผู้เขียนเอง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ

[2]        ผู้เขียนยกมาบางส่วน เนื้อหาไม่ได้สอดคล้องกับประวัติศาสตร์จริง ความจริงแล้วหนานเยฺว่(南越) หรือ นามเหวียต เป็นอาณาจักรโบราณที่มีอาณาเขตปกคลุมบริเวณมณฑลทางตอนใต้ของจีน อันได้แก่ กวางตุ้ง, กว่างซี และยูนนาน ไปจนถึงตอนเหนือของเวียดนามในปัจจุบัน

[3]        ซื่อชวน หรือ เสฉวน เนื้อหาในนิยายบางส่วนไม่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์จริง

[4]        หน่วยฉือในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาลถึงคริสต์ศตวรรษที่ 3 ช่วงเวลานี้ตรงกับช่วงยุคราชวงศ์ฉินถึงยุคสามก๊ก มีค่าประมาณ 23.1 – 24.3 เซนติเมตร 10 ฉือเท่ากับ 1 จั้ง หรือประมาณ 2.31 – 2.43 เมตร

[5]        ในยุคสมัยนี้ ตำแหน่งภรรยาเล็กๆ ของบรรดาเจ้าผู้ครองเมืองหรือเชื้อพระวงศ์จะถูกเรียกว่าฟูเหริน รวมถึงตำแหน่งภรรยาขุนนางก็ด้วย

[6]        เดิมจะใช้นามว่า ฉินซื่อหวง(秦始皇) ซึ่งอ้างอิงจากปฐมจักรพรรดิราชวงศ์ฉินตามประวัติศาสตร์

[7]        ป้านเหลี่ยงเฉียน (半两钱) หรือเงินครึ่งเหลียง อ้างอิงจากสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ เหลียง(ตำลึง) มีอีกหลายชื่อเรียกคือ  หวนจิน (圜金) หวนเฉียน (环钱) หนึ่งเหลี่ยงมีค่าเท่ากับ เหรียญทองแดงหนึ่งก้วน หรือหนึ่งพวง เหรียญทองแดงหนึ่งเหรียญเรียกว่าเหวิน

[8]        มาจากสำนวนที่ว่าตั๊กแตนจับจักจั่น นกขมิ้นรออยู่ข้างหลัง หมายถึงรอจังหวะเพื่อฉกฉวยผลประโยชน์

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
3 Chapters
ปฐมบท
เมื่อครั้งที่เหมันต์คืบคลานเข้ามายังดินแดนที่ราบลุ่มแม่น้ำโลหิต[1] แคว้นที่อยู่ทางใต้ตั้งแต่หนานเยว่[2]ทางทิศตะวันออกรวมไปถึงดินแดนซื่อซวน[3]ทางทิศตะวันตกประสบปัญหาฤดูหนาวอันโหดร้าย จากดินแดนที่เคยอุดมสมบูรณ์ พืชพรรณธัญญาหารกลับขาดแคลนอย่างแสนสาหัส ประชาชนที่ยากไร้ต่างก็ลุกฮือต่อต้าน ก่อการจลาจลวุ่นวาย แคว้นฉินแต่เดิมเป็นแคว้นที่อยู่ในภาคกลาง อากาศย่อมหนาวเหน็บกว่าดินแดนลุ่มแม่น้ำ แต่กลับมีผลผลิตทางการเกษตรเพียงพอตลอดทั้งปี อาศัยช่วงเวลาที่บ้านเมืองของแคว้นลุ่มน้ำระส่ำระสายร่วมมือกับแคว้นเว่ยเข้าบุกยึดครอง ใช้กุศโลบายอย่างชาญฉลาดเพื่อยับยั้งความยากไร้ในยามนั้น อาศัยข่าวลือที่ว่าดินแดนภาคกลางแม้ไม่อุดมสมบูรณ์เท่าทางใต้ แต่กลับมีอาหารการกินเหลือเฟือไปอีกนับร้อยปี อีกทั้งเป็นเพราะความอ่อนแอจากภายในของแคว้นฉู่ สุดท้ายฉินและเว่ยจึงกำชัยเหนือพวกเขาได้อย่างดงามแคว้นฉู่ แต่เดิมเป็นแคว้นใหญ่ที่คอยช่วยเหลือให้ความดูแลแก่แคว้นเล็กๆ โดยรอบ ทว่ากลับเกิดความระส่ำระสายจากการแย่งชิงบัลลังก์ระหว่างวงศ์ญาติ ค่ำคืนของวันขึ้นปีใหม่ซึ่งหิมะตกหนักที่สุดในรอบปี เหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ที่วางแผนการใหญ่
last updateLast Updated : 2025-10-22
Read more
ตอนที่ 1 มือสังหาร
พยับเมฆคล้อยผ่านยามอาทิตย์อัสดง ประกายแสงอ่อนจางกระจายเหนือน่านฟ้า ครั้นกระทบละอองหิมะที่ถูกลมแรงพัดพา จึงบังเกิดภาพคล้ายเหล่าเทพเซียนบนสรวงสวรรค์กำลังโปรยบุปผชาติเพื่อแสดงความยินดีให้กับไท่จื่อพระองค์แรกแห่งอาณาจักรต้าฉินผ่านมานับสองศตวรรษ ในที่สุดต้าฉินก็เพิ่งจะมีรัชทายาทที่ถูกต้องตามกฎมณเฑียรบาล ทั้งยังไม่ใช่โอรสองค์โตอีกด้วยฉงเยว่ไท่จื่อ…จื่อเว่ยลานกว้างกลางเมืองเฟิงหยางเป็นสถานที่จัดงานเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ในฤดูหนาวของปีซินซื่อ[1]แท่นสี่เหลี่ยมยกสูงราวสองจั้งคือพระที่นั่งสำหรับฉินเยว่หวงตี้ซึ่งทรงฉลองพระองค์สีดำปักลวดลายมงคลทั้งสิบสอง[2]ด้วยไหมทองอันวิจิตรบรรจง ถัดจากนั้นจึงเป็นหวงโฮ่ว หวงไทโฮ่วและเหล่าฟูเหรินทั้งหลาย ที่ต่างก็แต่งกายด้วยอาภรณ์หลากสีสัน ราวกับหมู่มวลบุปผาในฤดูใบไม้ผลิบรรดาองค์ชายและองค์หญิงถูกจัดให้นั่งเบื้องล่างเพื่อให้สะดวกแก่การเคลื่อนไหว โดยที่นั่งฝั่งขวาที่ใกล้ชิดพระแท่นขององค์จักรพรรดิมากที่สุดก็คือเจ้าของงานเฉลิมฉลองในครั้งนี้ฉงเยว่ไท่จื่อ…จื่อเว่ย องค์ชายสามผู้ประสูติจากหยินซีหวงโฮ่วแม้พระเชษฐาองค์โตจะประสูติจากหวงโฮ่วเช่นกัน ทว่าตำแหน่งไท่จื่อกลั
last updateLast Updated : 2025-10-22
Read more
ตอนที่ 2 ไท่จื่อผู้วิปริต 1
ตั้งแต่ลืมตาดูโลกจนล่วงเลยมาสิบแปดหนาว ไม่เคยมีครั้งใดที่นางรู้สึกถึงการถูกเหยียดหยามเช่นนี้มาก่อน เสียงฝีเท้าด้านนอกเร่งขึ้นตามจังหวะการเต้นของหัวใจ ฝ่ามือของนางหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ ได้แต่ถลึงตากร้าวด้วยแรงโทสะ ประหนึ่งสัตว์ตัวเล็กที่กำลังจนตรอก ราวกับว่าหากเกิดเรื่องอย่างที่เขาว่าขึ้นมาจริงๆ นางก็พร้อมจะตายตกไปตามกันกับเขาครั้นเสียงประตูเปิดขึ้น ชายฉกรรจ์สี่คนก้าวเข้ามาพร้อมน้ำร้อนถังใหญ่เท่าตัวคน ตัวของนางสั่นเยือกจนแป้งที่พอกหนาบนใบหน้าคล้ายจะแตกล่อนในทันใดเสด็จพ่อสอนนางว่าเกิดเป็นสตรียืดได้หดได้ อุดมการณ์ต้องมาก่อน แต่หากสูญสิ้นตัวตนอันน่าภาคภูมิแล้วคนเราจะหลงเหลืออะไร“ฝูหลิง”เสียงของนางแหบพร่า พานให้จื่อเว่ยหรี่ตาลงอย่างคาดคั้น มองลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่แข็งกร้าวของนาง รอกระทั่งชายทั้งสี่เทน้ำร้อนจนครบสี่ถังแล้ว ในที่สุดจื่อเว่ยก็ยืดกายขึ้น เรือนร่างสูงใหญ่คล้ายกลืนกินพื้นที่ในดวงตาของนางจนหมดสิ้น กลิ่นอายอันตรายพลันแผ่กำจายในอากาศ บุรุษตรงหน้าเปรียบเสมือนเทพแห่งความตายที่ซ่อนความชั่วร้ายไว้ภายใต้รูปลักษณ์อัันงดงาม“พวกเจ้าออกไป ข้าจะเล่น…กับนาง” เสียงนุ่มทุ้มลากยาวต
last updateLast Updated : 2025-10-22
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status