"ขอบคุณนะคะ เรื่องแต่งงานเดี๋ยวเราคุยกันอีกที ม่านยังอยากใช้ชีวิตตอนนี้ให้เต็มที่ก่อน""เฮ้ออออ~ โอเค แต่คืนนี้ค้างกับเคนะ คิดถึงแฟนจ๋าจะแย่อยู่แล้ว"ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนเข้ามาใกล้ เกยคางชิดหัวไหล่หญิงสาวพร้อมกะพริบตาปริบ ๆ ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู จนม่านฟ้าไม่อาจกลั้นรอยยิ้มเขินอายเอาไว้ได้ สุดท้ายก็
แต่ก็เบาใจเพราะไม่มีใครเข้ามาวุ่นวายจนเธอรู้สึกอึดอัด มีแค่หยอก แซว ตามประสาเท่านั้นหลายสัปดาห์ผ่านไป ม่านฟ้าจึงได้เริ่มใช้ความรู้จากที่ร่ำเรียนในมหาลัยทดลองงานจริง ซึ่งก็เป็นงานประเภทช่วยคำนวณโครงสร้าง เช็กสเป็กของเครื่องจักรให้ตรงตามที่ลูกค้ากำหนด หลังจากต้องทนเดินงานเอกสาร แม้กระทั่งซื้อข้าวซื้อ
หลายเดือนผ่านไปร่วงเลยจนเข้าสู่เทอมที่สองของชั้นปี 4 ม่านฟ้าก็เป็นคนหนึ่งที่เลือกฝึกงานแทนการทำโครงงานจบ เพื่อที่จะได้ใช้โอกาสนี้ศึกษางานในบริษัทของครอบครัวร่างเล็กสวมเสื้อนักศึกษาคลุมทับด้วยเสื้อช็อปวิศวะสีกรมท่าขนาดพอดีตัว ท่อนล่างสวมเป็นกางเกงยีนขายาวดูเรียบร้อย เพื่อความกระฉับกระเฉงคล่องแคล่ว
"อะไรเหรอ?""ของขวัญการเป็นเด็กดีครับ"เขาตอบอ้อม ๆ พลางเก็บมันใส่กระเป๋าเช่นเดิม ก้าวตรงมาหาร่างยั่วยวนของหญิงสาวที่นั่งไขว้ขาอยู่บนเตียง มุมปากแสยะยิ้มร้ายเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ดในท่าทางที่แสนร้อนแรงเร้าอารมณ์ ซึ่งครั้งนี้ม่านฟ้าไม่ได้แสดงท่าทีเลิ่กลั่กแตกตื่น เธอทำเพียงอมยิ้มแล้วส่งสา
หลายสัปดาห์ต่อมาคฤหาสน์ครอบครัวคาเตอร์เรือนร่างสูงโปร่งสง่างามราวกับนางพญาก้าวลงจากรถยุโรปคันหรู โดยมีคนขับรถวัยกลางคนเปิดประตูรอไว้ให้ ส้นสูงเกือบสี่นิ้วไม่ได้ทำให้ซวนเซแต่อย่างใด เสียงรองเท้ากระทบพื้นหินอ่อนอย่างดีดังก้องไปทั่วโถงทางเดินขณะเจ้าบ้านก้าวฉับ ๆ ขึ้นชั้นสองราวกับนางแบบเดินบนรันเวย์ว
"ไง! วันนี้ไปปากดีอะไรใส่เมียกู""พะ...พี่คาเตอร์!"พิ้งค์หน้าซีดตัวสั่นเมื่อเห็นหนุ่มที่ตัวเองหมายตายืนกอดอกขวางทางเอาไว้ ร่างกายสูงใหญ่ตวัดสายตาจ้องเขม็งเหี้ยมเกรียมเอาเรื่อง แผ่ไอรังสีกดดันออกมาทำขนในกายสาวลุกชันหวาดกลัวถ้อยคำหยาบคายแข็งกร้าวราวกับเป็นคนละคนกับหนุ่มขี้เล่นซุกซนที่เธอเคยจำได้"เอ