Share

ตอนที่ 9

last update Last Updated: 2025-02-20 22:57:58

“เธอไม่รังเกียจ แม้รู้ว่าฉันเคยเป็นโสเภณียังงั้นหรือ?” นอร่าห์เบะริมฝีปากเหมือนจะร้องไห้

หล่อนไม่ควรขุดคุ้ยอดีตที่กร่อนกินใจมานาน อดีตที่เป็นเหมือนรอยด่างในดวงใจ ไม่อาจลบล้างได้ด้วยวันเวลา อดีตที่หล่อนพยายามกลบฝังมันมาตลอดชีวิต

          จากนั้นนอร่าห์ก็แน่นิ่ง น้ำตาคลอ ในวินาทีที่รอฟังคำตอบจากปากของโซเฟีย ราวจะหยุดหายใจ

          “ไม่เลยนอร่าห์…ไม่มีเหตุผลที่ฉันจะต้องไปรังเกียจเธอ” โซเฟียตอบออกมาอย่างคนที่หัวใจไม่คับแคบต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน นอร่าห์ผวาเข้ากอดเธอ โซเฟียลูบหลังให้กำลังใจ

          ในอดีตที่ผ่านมา นอร่าห์เคยเป็นนางระบำชื่อดังอยู่ที่ไนต์คลับและบาร์เหล้าหลายแห่ง ผู้ชายน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักนอร่าห์ หล่อนเติบโตมาจากครอบครัวที่ยากจน เริ่มทำงานด้วยการเป็นสาวเสิร์ฟในบาร์เหล้าของปีเตอร์ มีชีวิตคลุกคลีอยู่กับกลิ่นเหล้า เคล้าควันบุหรี่มาหลายปี ก่อนตัดสินใจขึ้นไปตากไฟแสงสีบนเวทีโชว์         

สาเหตุที่นอร่าห์ตัดสินใจเป็นนางระบำ เพราะรายได้จากการโชว์ในแต่ละคืน มากกว่าเงินเดือนที่ได้จากการเสิร์ฟเหล้าทั้งเดือนเลยก็ว่าได้  

          ในตอนนั้นนอร่าห์ไม่ได้คิดไกลไปถึงอนาคต คิดเพียงว่ารายได้นั้นคุ้มค่า แม้ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัว ต้องตกเป็นอาหารตาให้กับบรรดานักดื่มทั้งหลายก็เถอะ  

          จากนั้นก็เหมือนเป็นเคราะห์กรรมของชีวิต เมื่อโชคชะตาชักพาให้นอร่าห์ได้เจอกับอองตวน นักกีตาร์รูปหล่อชาวฝรั่งเศสที่เล่นดนตรีอยู่ในบาร์ใกล้ๆกัน ไม่นานนอร่าห์ก็ตกหลุมรักอองตวนจนหมดใจ ทุ่มเทให้กับความรักครั้งแรกจนหมดตัว  

          ในช่วงแรกของความสัมพันธ์ อองตวนก็อาจจะรักหล่อนจริง ทว่าด้วยอาชีพของนอร่าห์ที่ต้องคลุกคลีกับผู้ชายมากหน้าหลายตา สุดท้ายก็เกิดการหึงหวง อองตวนไม่ใช่ผู้ชายใจกว้างพอที่จะทนดูชายอื่นมาสัมผัสลูบไล้ภรรยาของตนได้ จากนั้นความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจก็ตามมา หลังจากมีข่าวลือว่าเมื่อลับหลังอองตวน นอร่าห์แอบขายตัวให้กับนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งที่มาแกะขอบเวทีเป็นขาประจำ ดูระบำเปลือยทุกค่ำคืน   

          เมื่ออองตวนไม่ใจกว้างพอจะยอมรับในอาชีพของหล่อนได้ จากนั้นไม่นาน เขาก็ตีจากหล่อนไปในที่สุด หลังจากปอกลอกจนนอร่าห์สิ้นเนื้อประดาตัว ทิ้งให้หล่อนประชดชีวิตด้วยเหล้ายา สุดท้ายก็ติดงอมแงมจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน กระทั่งทอมมี่ ซึ่งตอนนั้นมีอาชีพขับรถบรรทุกถ่านหิน เป็นคนไปพบนอร่าที่บาร์แห่งนั้นเข้าโดยบังเอิญในคืนหนึ่ง

          ด้วยความที่ทอมถูกชะตา ทั้งสงสาร เวทนา และตกหลุมรักนอร่าห์ไปพร้อมๆกัน เขาจึงตัดสินใจชวนหล่อนให้มาใช้ชีวิต ร่วมหัวจมท้ายอยู่ด้วยกันที่ฟาร์มแห่งนี้

          5 ปีผ่านไป

เดลยังไม่กลับมาตามที่ได้ให้สัญญาไว้ ว่าจะกลับมาภายใน 3 เดือน น่าแปลกใจที่การหายไปนานของเดล ทำให้โซเฟียว้าวุ่นใจ รู้สึกคิดถึงเดลมากกว่าตอนที่คีธหายไป ความรู้สึกฟ้องชัดว่าเธอห่วงใยเดล รักเดลมากกว่าคีธ

          โซเฟียใช้ชีวิตผ่านเดือนสุดท้ายของปีที่ 5 มาด้วยความยากลำบากกว่าทุกครั้ง อาหารที่สำรองเอาไว้หมดลงไปหลายวันแล้ว พืชผักที่พอจะเก็บกินได้อย่างข้าวโขดและเผือกมัน ก็ยืนต้นตายแล้งจนแทบไม่มีเหลือตอซังให้ประทังชีวิต

          แม้โซเฟียรู้ว่านี่เป็นครั้งสำคัญที่พระเจ้ากำลังทดสอบชีวิตของเธอและลูกสาว แต่นั่นก็โหดร้ายเกินไปอยู่ดี สำหรับชีวิตผู้หญิงสองคนที่ถูกทิ้งเอาไว้กับการรอคอยที่ผ่านไปอย่างลมๆแล้งๆ ค่อยๆสิ้นหวัง อนาคตข้างหน้าดูลางเลือนและริบหรี่ลงเรื่อยๆ หลายครั้งที่โซเฟียรู้สึกอ่อนล้ากับการประคับประคองลมหายใจให้อยู่รอดเพื่อรอการกลับมาของเดล

          โซเฟียมองเห็นความหิวที่สะท้อนอยู่ในแววตาวิบวับของลูกสาว แม้ซาบรีน่าจะไม่เคยเอ่ยขอด้วยคำพูด แต่ยิ่งซาบรีน่าไม่พูดออกมาว่าหิว มันทำให้โซเฟียยิ่งเจ็บปวด เพราะสิ่งนั้นบ่งบอกว่าลูกอดทนมากกว่าเธอที่ท้อแท้จนแอบเอาความตายมาครุ่นคิดพิจารณาหลายๆครั้ง

โซเฟียอดคิดไม่ได้ว่า ในวินาทีที่การมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งที่ยากเย็น…ความตายก็อาจจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น

แต่ยิ่งได้เห็นสีหน้าของซาบรีน่าที่แสดงความอดทนต่อความหิวโหยมากเท่าไร มันยิ่งทำให้ผู้เป็นแม่ต้องน้ำตาตกอยู่ในใจมากขึ้นทุกที

วูบหนึ่งในความคิด โซเฟียฉุกคิดขึ้นว่าในฐานะของคนเป็นแม่ ถามตัวเองว่าเธอได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้วหรือยัง? สำหรับความรับผิดชอบต่อชีวิตของลูกสาว

          “เมื่อไหร่ลุงเดลจะกลับมาคะแม่” เสียงน้อยๆเอ่ยถาม

          โซเฟียเบือนหน้า สะบัดหยาดน้ำตาให้กระเด็นตกไปอีกฟากของสายตาลูกสาว แอบกลืนน้ำตาและก้อนความทุกข์จุกคอ ก่อนจะหันกลับมาตอบลูกสาวด้วยใบหน้าแค่นยิ้ม แม้จะฝืดฝืนกลืนน้ำตา ทว่าโซเฟียก็พยายามข่มซ่อนมันเอาไว้เบื้องหลังรอยยิ้มนั้น

          “ไม่นานหรอกจ้ะลูก…ไม่นาน”

ประโยคนั้นไม่เพียงแค่หลอกลูก หากเธอยังหลอกตัวเอง เพราะนอกจากพระเจ้า...ก็มีแต่เดลเท่านั้นที่จะตอบคำถามนี้ได้กระจ่าง

          ระหว่างที่สองแม่ลูกยืนกอดกันกลม ท่ามกลางกระแสลมแล้งที่อบอวลไปด้วยกลิ่นฟางและหญ้าแห้ง ทอดสายตาอาลัยไปในยามเช้าที่เวิ้งว้างว่างเปล่า ได้แต่รอคอยความหวังว่าสักวันเดลจะกลับมา

          ไม่นานจากนั้น รถยนต์ยี่ห้อเฟียต แบริลล่า 508 (Fiat 508 Balilla-Spider 1932) สองประตู สีดำเลื่อม คันใหญ่ ก็แล่นเรื่อยเข้ามาที่หน้าฟาร์ม ผ่านประตูด้านหน้าที่เปิดทิ้งเอาไว้ เข้ามาช้าๆ

          “รถใครคะแม่” ซาบรีน่าถาม

          โซเฟียส่ายหน้าแทนคำตอบ

          ซาบรีน่ารู้สึกได้ว่าสีดำเลื่อมและขนาดที่ใหญ่โตของรถยนต์คันนั้น ช่างเป็นภาพที่แตกต่างและแปลกตาไปจากรถม้าที่คนส่วนมากนิยมใช้กันเกลื่อนเมือง รถคันนั้นแลดูหน้ากลัว เพราะสีดำทะมึน ซุ้มล้อที่หนาและใหญ่ ทำให้มันแลดูคล้ายเต่าตัวใหญ่ที่คลานไว หรือไม่ก็สัตว์ประหลาดอะไรสักอย่างที่กำลังคืบคลานด้วยเท้าสั้นๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้เธอกับแม่ทุกขณะ

โซเฟียได้แต่ขมวดคิ้วมอง ไม่ว่าคนที่นั่งอยู่ในรถคันนั้นจะเป็นใครก็ตาม อย่างหนึ่งที่เธอรู้ก็คือเขาต้องร่ำรวยมหาศาล จึงจะมีรถแบบนั้นได้ และมันสร้างความสงสัยให้เธอว่าคนในรถคันนั้นมีธุระ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คนเถื่อนที่รักเธอ   ตอนที่ 91

    “ดึกดื่นป่านนี้ คุณหนูจะไปไหนครับ” คนรับใช้ถามด้วยความแปลกใจ“ไปบ้านของจอร์จ…เร็ว! แล้วอย่าถามอะไรมาก”จากนั้นรถม้าก็เคลื่อนออกไปด้วยความรวดเร็ว เสียงเท้าของแซนดร้าที่วิ่งลงบันไดบ้านไปเมื่อครู่ เสียงเฟืองและล้อรถม้าที่เสียดสีกับพื้นกรวดจากการออกตัวด้วยความเร็ว ดังขึ้นไปถึงชั้นบนของบ้าน โทนี่และซินเทียที่กำลังวิวาทะกันอยู่ในขณะนั้น รีบชะโงกหน้าออกมามอง“แซนดร้า…นั่นลูกจะไปไหน”ด้วยความตกใจ ซินเทียตะโกนไล่หลังรถม้าที่กำลังจะพาร่างของแซนดร้าหายลับไปในราตรีกาลอันมืดมิดจอร์จส่ายหน้า…น้ำตาซึม นึกตำหนิในอารมณ์ชั่ววูบของตนเอง ถ้าแซนดร้าเป็นอะไรไป เขาจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเป็นอันขาดสองเดือนผ่านไป“ช่างเป็นชุดแต่งงานที่สมบูรณ์แบบที่สุด…” ซาบรีน่าซึ่งอยู่ในชุดวิวาห์ ดวงหน้าเต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม รำพึงออกมาลอยๆ มองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจก “เธอตะหากที่สมบูรณ์แบบ…ไม่ใช่ชุดแต่งงานสักหน่อย”คริสโตเฟอร์ในชุดเจ้าบ่าวสีเทาขรึม ก้าวเข้ามาใกล้ ทาบร่างกายกำยำใหญ่เอาไว้ที่ด้านหลังของซาบรีน่า กอดและก้มกระซิบเบาๆที่หลังใบหูเพียงปีแรกหลังแต่งงาน ทั้งสองก็ได้ทายาทเป็นลูกชายไว้สืบสกุล และอีกปีถัด

  • คนเถื่อนที่รักเธอ   ตอนที่ 90

    โทนี่ถอดหมวก ถอดเสื้อโค้ทสีดำออกช้าๆ แขวนไว้ที่หลังประตูแล้วก้าวขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านโดยไม่ลืมมองไปที่ห้องนอนของแซนดร้าผู้เป็นลูกสาว พบว่าเธอไม่อยู่ จำได้ว่าแซนดร้าบอกเอาไว้ว่าจะออกไปหาคริสโตเฟอร์ เกี่ยวกับเรื่องพินัยกรรมที่ทำให้แซนดร้าดีใจจนเนื้อเต้น “ยังไม่นอนอีกหรือ” โทนี่ถามภรรยาที่ทอดร่างอยู่บนเตียงนอน อดสะท้อนใจไม่ได้ว่าแม้เธอจะยังไม่หลับ ก็ไม่ได้หมายความว่าซินเทียกำลังรอคอยการกลับมาของเขา “คุณหายไปไหนตั้งนาน” ซินเทียถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง “ห่วงฉันด้วยหรือ” สามีขมวดคิ้ว นิ่วหน้า “ถามอะไรอย่างนั้น...ถามเหมือนคุณไม่รู้ใจฉัน คุณเป็นสามีของฉันนะโทนี่” ซินเทียตัดพ้อโทนี่อยากจะตอบว่า ‘ใช่…ฉันไม่เคยรู้ถึงจิตใจลึกๆของเธอเลย…ซินเทีย’ทว่าสุดท้าย เขาก็เก็บถ้อยคำยอกย้อนนั้นเอาไว้ในใจ “ไม่ห่วงคุณแล้วจะห่วงใคร…คุณเป็นสามีฉันนะโทนี่” เธอกล่าวให้เขาได้คิด “สามียังงั้นรึ!....ช่วยบอกหน่อยเถอะว่าฉันควรจะภาคภูมิใจกับตำแหน่งนี้ใช่ไหม?” โทนี่ทำน้ำเสียงเย้ยหยัน เหมือนกับคนที่สูญสิ้นศรัทธาในชีวิตคู่ของตนมานานแล้ว ซินเทียขมวดคิ้

  • คนเถื่อนที่รักเธอ   ตอนที่ 89

    สีหน้าของโทนี่เต็มไปด้วยความขมขื่น นิ่งฟังเสียงตึงตังของเตียงที่เคลื่อนไปกระแทกผนัง ดังอยู่เป็นจังหวะที่ต่อเนื่องและยาวนาน ยิ่งได้ยินยิ่งโกรธแค้น ชิงชัง และริษยาจอร์จที่บรรเลงลีลารักได้ยาวนานโดยไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ไม่เหมือนกับเขาที่มักจะล้มเหลวในทุกครั้ง จากความบกพร่องของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวของกับการกลั้นเกร็งการหลั่งซึ่งไม่อาจบังคับได้อวัยวะชิ้นนั้นมันอยู่เหนือการควบคุมของเขามานานแล้ว สืบเนื่องมาจากประสาทรับความรู้สึกบางส่วนได้ถูกทำลายลงไปพร้อมๆกับการผ่าตัด ภายหลังจากอุบัติเหตุตกม้า โทนี่คว้าเหล้าในขวดขึ้นมากระดกดื่มเหมือนน้ำ สบถด่าตัวเองอยู่ในใจด้วยถัอยคำหยาบโลน ถ้าไม่ใช่เพราะตัวเองที่อ่อนแอทั้งกายและใจ ซินเทียคงหนักแน่นพอที่จะประคับประคองความซื่อสัตย์ต่อกันเอาไว้ได้ เขาคงไม่ตกอยู่ในสภาวะอันทุกข์ตรมขมขื่นเช่นนี้ จากนั้นไม่นาน โทนี่ก็ฟุบหน้าลงบนโต๊ะ เขาหลับลงเพราะฤทธิ์สุราที่กรอกลงคอเพื่อให้ลืมทุกอย่างในชีวิต แม้รู้ดีว่าเหล้าอาจช่วยบิดเบือนความจริงอันเจ็บปวดได้ในช่วงสั้นๆก็ตาม จากเหตุการณ์อัปยศที่กำลังดำเนินอยู่นั้น โทนี่แทบจะไม่โทษซินเทีย เขาโยนความผิ

  • คนเถื่อนที่รักเธอ   ตอนที่ 88

    อีกครั้ง รั้งบั้นท้ายเปลือยร่อนไว้ในตำแหน่งที่พร้อมจะรองรับบางสิ่งซึ่งกำลังจะเคลื่อนเข้าสู่กันและกันหล่อนผ่อนลมหายใจเหมือนจะนับถอยหลัง ไม่ได้เหลียวกลับไปมอง หากก็เดาได้ถึงความเครียดเขม็งที่จรดเล็งลงตรงหลืบลับในสรีระของหล่อนเพียงพรวดสั้นๆ…ที่หล่อนจำต้องกัดฟันด้วยความทรมาน เสี้ยวสั้นๆที่เปลี่ยนสถานะความสัมพันธ์ของเธอและเขาตลอดไป ซินเทียสูดและพ่นลมหายใจเข้าออกอย่างสับสน แบ่งรับแบ่งสู้กับความรู้สึกที่เติมเต็มเข้ามารุนแรงเหล้าหลายแก้วที่หล่อนดื่ม ความมึนเมาในตอนนั้น ทำให้โซเฟียไม่ได้ฉงนใจกับความผิดปกติใดๆทั้งสิ้น ทว่าความรู้สึกอึดอัด รัด แน่น ก็ยืนยันว่า ‘ไม่ใช่โทนี่อย่างแน่นอน’เมื่อได้สติ…โซเฟียพยายามสะบัดสะโพกหนี หากเขาก็ดำดิ่งสู่แอ่งอารมณ์ของหล่อนไปแล้ว ความรู้สึกของซินเทียในตอนนั้น มันเหมือนกับมีรถไฟขบวนใหญ่ที่กำลังเคลื่อนผ่านเข้าไปในอุโมงค์ความปรารถนาอันมืดมิดและคับแคบของเธอ ซินเทียเหมือนผู้หญิงที่กำลังหวาดกลัวความมืด ได้แต่ภาวนาให้ความยาวลึกของรถขบวนนั้นเคลื่อนผ่านไปเสียที ยิ่งช้ายิ่งอึดอัด ยิ่งนานยิ่งทรมาน แต่เมื่อถึงที่สุดของมัน…กลับรู้สึกทรมานยิ่งกว่า ราวกับว่านรกและสวรรค์ได้ม

  • คนเถื่อนที่รักเธอ   ตอนที่ 87

    เหล้ารัมอีกขวดหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่นาน โทนี่ใช้มือหมุนขวดเปล่าไปมา มองดูมันกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพื้น ขวดเหล้าไม่ต่างอะไรกับจิตใจของเขาในตอนนั้น บางครั้งก็มั่นคง แข็งแกร่ง ทว่าอยู่ๆกลับอ่อนแอ ล้มลงอย่างไม่เป็นท่า กลิ้งไปกลิ้งมาเหมือนขวดเหล้า ไม่เคยมีครั้งไหนในชีวิตของโทนี่ ที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นพ่อที่ไร้ค่าขนาดนี้จากนั้นเขาก็ทอดร่างลงเหยียดยาว นอนหงายที่กลางพื้น มือก่ายหน้าผาก กวาดสายพาพร่าพรางไปที่เพดานบ้าน ราวกำลังค้นหาแมงมุมสักตัวที่อาจจะกำลังชักใยระโยงระยางอยู่ในตอนนั้นโทนี่ค้นพบว่านอกจากเหล้าจะไม่ช่วยให้เขาหยุดคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตเก่าๆที่กร่อนกินใจ แต่มันยิ่งกลับไปกวนตะกอนความแค้นที่กาลเวลากดทับมันเอาไว้ ให้ปะทุขึ้นมาอีกครั้งเขาหยัดร่างซวนเซขึ้นมาจากพื้นด้วยดวงตาแดงก่ำ “คนทรยศ...คนชั่วช้า การที่ทำแบบนี้ มันเท่ากับว่าแกกำลังล้ำเส้นฉัน” โทนี่กล่าวถึงคนที่ตนกำลังโกรธ สาดเสียงสบถไปในความว่างเปล่า นอนฟังน้ำเสียงของตัวเองสะท้อนอยู่ในห้อง กังวานของมันกระทบผนังและสะท้อนกลับเข้าไปถึงหัวใจที่กำลังปวดแปลบ รู้สึกแสบเหมือนโดนสุราราดรดลงกลางบาดแผลหัวใจที่กลัดหนอง ความพิโรธสะท้อ

  • คนเถื่อนที่รักเธอ   ตอนที่ 86

    “ไม่แน่ใจขนาดนั้นหรอกมาธาร์…แต่ถ้าจะเป็นพินัยกรรมจริง คุณพ่อก็ต้องถูกบังคับให้เซ็นอย่างแน่นอน” “แต่ก็มีพยานรับรู้อย่างถูกต้องนะคะ” มาธาร์ให้เหตุผล “จะมีประโยชน์อะไร…ถ้าพยานเป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่จอร์จวางเอาไว้ในกระดาน” คริสโตเฟอร์เปรียบเปรย มาธาร์หรี่ตา ครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ในข้อนี้ “ถ้าคุณไม่ยอมรับพินัยกรรม หรือต้องการจะหาข้อจริงใดๆมาโต้แย้ง ก็ต้องรีบแล้วนะคะ เพราะในพินัยกรรมระบุเอาไว้ชัดว่าคุณจะต้องแต่งงานกับแซนดร้าภายในหนึ่งเดือนหลังจากที่พินัยกรรมฉบับนี้ได้ถูกเปิด” มาธาร์เตือนด้วยความหวังดี ที่บ้านของแซนดร้า ใกล้ค่ำของวันนั้น แซนดร้าที่กำลังอยู่ในอาการตื่นเต้นดีใจสุดขีด โผเข้ากอดกับซินเทียผู้เป็นแม่ ภายหลังจากตัวแทนจากสำนักงานกฏหมายที่ชื่อเดวิด แวะมาแจ้งข่าวให้แซนดร้าได้ทราบเกี่ยวกับเนื้อหาในพินัยกรรมซึ่งเกี่ยวข้องกับเธอ “แม่ได้ยินเหมือนกับที่หนูได้ยินใช่ไหมคะ” แซนดร้าละล่ำละลัก ถามออกมาด้วยความดีใจเหมือนต้องการคนยืนยัน ทันทีที่ร่างท้วมของเดวิดหายลับไปที่เบื้องหลังประตู “จริงแท้ที่สุด…แม่ดี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status