Share

บทที่182

Author: ลั่วหูโยว
ดังนั้นกับคนที่มาทีหลัง เธอจึงรู้สึกกับเขาแค่พี่น้องเท่านั้น

“เหม่ออะไรอยู่?” โม่ไป๋เร่งเร้าเธอ “ลุกขึ้นได้แล้ว ไม่หนาวหรือไง?”

เสิ่นหยินอู้ที่สติพึ่งกลับมาเม้มปากคิดแล้วตอบกลับไปว่า “ลืมเรื่องมื้อดึกไปเถอะ ฉันยังไม่หิว แล้วก็……”

“งานเลี้ยงต้อนรับก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว เธอไม่คิดว่าผมน่าสงสารหรอ? ไปกินมื้อดึกกับผมเป็นการชดเชยไม่ได้รึไง?”

เมื่อเขาพูดออกมาแบบนั้น มันก็ทำให้เสิ่นหยินอู้รู้สึกผิดเล็กน้อย

จริงๆแล้วงานคืนนี้จัดขึ้นก็เพื่อต้อนรับการกลับมาของเขา แต่สุดท้ายเพราะว่าเรื่องของเธอกับเจียงฉูฉู่ ทำให้ทุกคนต้องแยกย้ายกันกลับไป

ถึงแม้ว่าเรื่องนี้เธอจะไม่ได้เป็นคนเริ่มก็ตาม แต่เธอก็มีส่วนต้องรับผิดชอบเหมือนกัน

หลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง เสิ่นหยินอู้ก็พยักหน้าตอบตกลง

“งั้นก็ได้”

โม่ไป๋ยกยิ้มเล็กๆที่มุมปาก “เธออยากกินอะไร?”

ยี่สิบนาทีต่อมา

ทั้งสองคนนั่งอยู่ในร้านโจ๊กทะเลแห่งหนึ่ง

เวลานี้คนมากินมื้อดึกยังไม่เยอะ ดังนั้นในร้านจึงแทบไม่มีคน เสิ่นหยินอู้เลือกนั่งที่ที่นั่งริมหน้าต่าง เมื่อมองกลับไปเธอยังเห็นโม่ไป๋ยืนอยู่ ท่าทางเหมือนไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่183

    เมื่อพูดถึงเรื่องนี้เสิ่นหยินอู้ก็เบื่อนหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของโม่ไป๋ แล้วถามขึ้นมาว่า “นายตั้งใจจะกลับมาทำธุรกิจที่นี่หรอ?”“อืม สักครึ่งเดือนก็น่าจะลงตัวแล้วล่ะ”เสิ่นหยินอู้จึงตอบกลับไป “งั้นก็อวยพรล่วงหน้าเลยแล้วกัน ขอให้นายประสบความสำเร็จนะ แต่หลังจากนี้งานของฉันน่าจะยุ่งมาก คงจะไม่มีเวลาว่างเลย”เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ โม่ไป๋ก็ยังไม่เข้าใจว่าภายในคำพูดของเสิ่นหยินอู้นั้นคือการพยายามหลีกเลี่ยงและปฏิเสธเขาหรือไม่?แต่เขาในตอนนี้ไม่ได้เป็นคนหุนหันพลันแล่นเหมือนตอนวัยรุ่นอีกแล้ว ตอนนี้เขาโตเป็นผู้ใหญ่และรู้ดีว่าบางเรื่องก็ไม่สามารถเร่งรีบได้ หลังจากผ่านไปหลายปี เขาก็เตรียมตัวมาอย่างดี เรียนรู้ที่จะค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบร้อน และไม่ยอมแพ้เพียงเพราะคำปฏิเสธของเธอ “ไม่เป็นไร งั้นก็รอเธอว่างเมื่อไรค่อยมาเจอกันก็ได้ แค่เธออย่าลืมเพื่อนเก่าอย่างผมเพียงเพราะผ่านไปหลายปีแล้วแค่นั้นก็พอ”คำตอบที่ได้ทำให้เสิ่นหยินอู้สับสนเล็กน้อย เธอเข้าใจผิดงั้นหรอ ในไม่ช้า เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้สักหน่อย โม่ไป๋ไปต่างประเทศตั้งห้าปี อาจจะเป็นไปได้ว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่184

    แต่กว่าที่เขาจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเสิ่น ฉินเย่ก็จัดการปัญหาทั้งหมดแทนเขาเรียบร้อยแล้วเนื่องจากตอนนั้นน้องสาวที่หวังดีเกินไปของเขาบอกว่ากลัวว่าเรื่องนี้จะกระทบกับการเรียนต่อของตัวเขาเอง ดังนั้นจึงไปบอกสายของเขาเก็บเรื่องนี้เป็นความลับจนกระทั่งเขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ พอถามไปก็พบว่ามันเกิดเรื่องใหญ่แบบนั้นขึ้น จริงๆแล้ว ยัยน้องสาวตัวป่วนชอบฉินเย่ ทำให้เขาช้ากว่าคนอื่นไปหนึ่งก้าว นอกจากนี้ยังคิดไม่ถึงว่าในการช่วยเหลือเธอเขาก็ช้าไปหนึ่งก้าวเหมือนกัน ““เอาเป็นว่าถ้าหลังจากนี้มีอะไรให้ช่วยก็บอกฉันนะ” ครั้งนี้ เขาจะไม่เป็นเหมือนแต่ก่อน เขาจะไม่ยอมแพ้อีกแล้ว รถจอดนิ่งอยู่ที่หน้าประตูบ้าน เสิ่นหยินอู้ปลดเข็มขัดนิรภัยออก “ขอบคุณที่มาส่งฉันถึงบ้าน งั้นฉันไปก่อนนะ ขับรถกลับดีๆล่ะ”โม่ไป๋พยักหน้ารับ “โอเค เธอรีบไปพักผ่อนเถอะ” เขามองไปที่ผู้โดยสารที่ตอนนี้ลงจากรถไปแล้วเดินไปที่ประตูใหญ่ เธอหันกลับมาแล้วโบกมือเพื่อบอกเขาว่าให้ไปได้แล้ว เขายิ้มพร้อมกับพยักหน้ามองดูเธอเข้าบ้านไปทันทีที่ร่างบางหายไปจากสายตา รอยยิ้มของเขาก็หายไป โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขาปรายตา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่185

    คำพูดนั้นของฉินเย่จริงๆควรจะมาพร้อมกับอีกประโยคคือ ฉันเห็นเธอนั่งรถของโม่ไป๋กลับมาที่บ้าน คำพูดนั้นค้างอยู่ที่ปาก แต่เขายังไม่ได้พูดออกไปจริงๆแล้วมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว ก็ส่งถึงหน้าบ้านซะขนาดนั้นแต่เมื่อคำพูดนั้นถึงหูของเสิ่นหยินอู้ เธอกลับเข้าใจผิดไปว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องที่เจียงฉูฉู่ได้รับบาดเจ็บเธอมั่นใจว่าเธอไม่ได้ผลักเจียงฉูฉู่ แต่ถ้าพูดออกไปแบบนั้นเขาจะเชื่อหรอ? เขาคงจะเชื่อแค่เจียงฉูฉู่? หลักจากคิดไปซักพัก เสิ่นหยินอู้มองไปที่เขา ไม่ตอบคำถามแต่ถามกลับไปว่า “เธอพูดยังไงกับคุณ?” “อะไรนะ?” ตอนแรกฉินเย่ยังนึกไม่ออกว่าเธอพูดเรื่องอะไร เพราะตอนนี้เขากำลังจดจ่ออยู่กับเรื่องที่โม่ไป๋ส่งเธอกลับมาที่บ้านเขาใช้เวลาซักพักกว่าจะนึกออกมาเสิ่นหยินอู้กำลังพูดถึงเรื่องอะไร “คุณหมายถึงฉูฉู่?” ฉูฉู่ สนิทกันมากสิท่า ดูเรียกเข้า เสิ่นหยินอู้ยิ้มเยาะ “ก็ใช่น่ะสิ เธอได้รับบาดเจ็บหนิ? ฉันจะบอกว่าเธอเป็นคนล้มลงไปเอง คุณเชื่อมั้ย?” พูดจบเสิ่นหยินอู้ไม่รอคำตอบของเขา สีหน้ายังคงสงบ ดูเหมือนจะมีแววตาเยาะเย้ยจากสายตาคู่นั้นแม้ว่าฉันจะกำลังอธิบาย แต่ฉันรู้ว่าคุณไม่ได้เชื่

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่186

    “ฉันรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืนนี้ทำให้เธอรู้สึกคับแค้นใจ ฉันสัญญาว่า ฉันจะ…” “คุณจะออกไปมั้ย?”เสิ่นหยินอู้หยิบขวดเจลอาบน้ำขว้างใส่เขา “ไปให้พ้น!” ฉินเย่ที่ตอนแรกตั้งใจจะอธิบายงุนงงอยู่กับที่ นี่เป็นครั้งแรกที่เสิ่นหยินอู้พูดจารุนแรงกับฉินเย่ฉินเย่ยืนอยู่กับที่ ใบหน้าอึมครึมและริมฝีปากที่ตรงราวกับเส้นตรง เผยให้เห็นอารมณ์ของเธอ เสิ่นหยินอู้ยืนมองเขาอย่างเยือกเย็น สีหน้าบ่งบอกว่าไม่อยากเห็นเขาอีกต่อไปผ่านไปชั่วครู่ ฉินเย่ก็หมุนตัวแล้วเดินออกไป เมื่อเขาออกไปแล้ว เสิ่นหยินอู้รู้สึกว่าไหล่ของเธอมีหินทับลงมาจนเกือบจะล้ม เธอยืดมือพยุงกำแพงแล้วนั่งลงช้าๆ พิงกำแพงและหลับตาลงความโกรธที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ คงเป็นเพราะคำพูดของฉินเย่ทำให้เธอโกรธจนเวียนหัวคลื่นไส้ คลื่นไส้?เสิ่นหยินอู้เปิดตาขึ้นทันทีเมื่อนึกถึงบางอย่าง แย่แล้ว อารมณ์ที่ปั่นป่วนขนาดนี้จะส่งผลต่อลูกในท้องไหมนะ?และเธอสังเกตว่าช่วงนี้เธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ถึงแม้จะบอกว่าจะพยายามสงบสติอารมณ์ทุกครั้ง แต่ก็จะควบคุมอารมณ์ไม่ได้เพราะเรื่องบางอย่างเสมอ มันเกิดอะไรขึ้น?เสิ่นหยินอู้เอื้อมมือ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่187

    ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ เจียงฉูฉู่ก็ยิ่งเกลียดเสิ่นหยินอู้จนไม่สนใจคำห้ามปรามของคนรอบข้างในขณะที่ผู้ช่วยหลี่ ผู้ช่วยของฉินเย่ที่ถูกเรียกมาหลังเลิกงาน กำลังยืนอยู่ที่ประตูและเฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในเงียบๆเขากอดอกพิงกำแพง มองภาพนี้ด้วยความรู้สึกหมดความอดทนแน่นอนว่าความอ่อนโยนที่เห็นภายนอกนั้นเป็นการเสแสร้งทั้งหมดแม้ว่าจะเห็นใจและสงสารเจียงฉูฉู่ที่หน้าผากบาดเจ็บเช่นนี้ และยังได้ยินหมอบอกว่าจะเป็นแผลเป็น เพราะการเสียโฉมเช่นนี้สำหรับผู้หญิงนั้นเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนต่อจิตใจเป็นอย่างมากแต่เมื่อคิดว่าเสิ่นหยินอู้ที่เป็นเลขาของพวกเขากำลังตั้งครรภ์อยู่ เขาก็ไม่รู้สึกสงสารเจียงฉูฉู่เลยยิ่งไปกว่านั้นพวกเพื่อนของเจียงฉูฉู่ก็พยายามบอกกับฉินเย่ว่าเสิ่นหยินอู้เป็นคนที่ผลักเจียงฉูฉู่จนล้มลงจนเจียงฉูฉู่ต้องกลายเป็นแบบนี้เขาฟังแล้วก็ยิ่งโกรธ เสิ่นหยินอู้ที่พยายามรับความทุกข์จากการท้องด้วยตัวเองเพียงคนเดียว จะเป็นไปได้อย่างไรที่เธอจะทำเรื่องแบบนั้น?ถึงแม้ว่าเธอจะผลักจริงๆ มันก็ต้องมีเหตุผลในใจของผู้ช่วยหลี่เขาเอนเอียงไปทางเสิ่นหยินอู้ ดังนั้นเขาจึงมองเจียงฉูฉู่และเพื่อนๆของเธอด้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 188

    เมื่อคิดถึงตรงนี้ สีหน้าของเจียงฉูฉู่ก็เปลี่ยนไป “เขาไปไหนแล้ว? รีบหยุดเขาไว้!” เจียงฉูฉู่จ้องมองไปที่ซูเชี่ยวด้วยความไม่พอใจ "เธอจะพูดจาซี้ซั้วไร้สาระไปเพื่อ? ในเมื่อฉินเย่โทรเรียกเขามา เขาก็ต้องเป็นคนของฉินเย่ เธอหยาบคายกับเขาขนาดนี้ ถ้าเขาเอาเรื่องแย่ๆของฉันไปบอกฉินเย่ขึ้นมาจะทำยังไง?” ซูเชี่ยวอึ้งอยู่ที่เดิม คาดไม่ถึงว่าฉูฉู่จะกล่าวหาเธอ "ฉัน ฉันแค่เห็นเธอร้องไห้เพราะเศร้าใจและอารมณ์ก็ไม่ค่อยดี ฉันก็เลยคิดจะให้เขาโทรหาฉินเย่ก็แค่นั้นเอง" เจียงฉูฉู่ไม่มีความคิดที่จะฟังซูเชี่ยวอธิบายอะไรอีกต่อไป เดิมทีสำหรับเธอแล้ว สถานการณ์ในปัจจุบันมาถึงตรงนี้มันถือว่าไม่ดีเลยสักนิด ดังนั้นเธอจึงวางแผนให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเพื่อที่ฉินเย่จะได้เบี่ยงเบนความสนใจทั้งหมดมาที่ตัวเธอ แต่ใครจะรู้ อาการบาดเจ็บเล็กน้อยกลายเป็นการบาดเจ็บสาหัส เธอคงทำเกินไปจริงๆ ช่างมันเถอะ สิ่งที่สำคัญคือเธอบาดเจ็บรุนแรงขนาดนี้ ฉินเย่ยังจะออกไปในเวลาแบบนี้อีก นี่คือสิ่งที่เจียงฉูฉู่ไม่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุด หากเธอเสียโฉมและถ้าฉินเย่ไม่ต้องการเธอ เธอจะให้เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร? ภายในใจของเจียงฉูฉู่ต

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 189

    หลังจากพูดจบ ฉินเย่ก็เดินขึ้นไปชั้นบนไปโรงพยาบาลด้วยฝีก้าวที่มั่นคง หลังจากฟังเจียงฉูฉู่พูดแล้ว และกำลังจะลงไปชั้นล่างเพื่อไปหาผู้ช่วยหลี่ แต่เมื่อเห็นฉินเย่กลับมาแล้ว เขาก็หยุดฝีเท้าลง “ประธานฉิน ฉู ฉูฉู่เธอ…” อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเธอจะพูดจบ ฉินเย่ก็เดินผ่านพวกเธอไปโดยไม่แม้แต่จะชายตามอง ฉินเย่ในเวลานี้อยู่ในอารมณ์ที่แย่มากเพราะเขาทะเลาะกับเสิ่นหยินอู้ สีหน้าของเขาก็ดูแย่มากเช่นกัน ผู้หญิงหลายคนสัมผัสได้ถึงความเย็นเยียบที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขาอย่างชัดเจน พวกเธอตกตะลึงอยู่กับที่และไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดรั้งเขาไว้และพูดอะไรกับเขา แต่จู่ๆฉินเย่กลับสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่าง ฝีเท้าของเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เขาหันไปมองคนคนหนึ่งในกลุ่มของพวกเธอ "คุณ ทำไมยังอยู่ที่นี่อีก?" ซูเชี่ยวยืนอยู่กับทุกคน แต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงสายตาอันเย็นชาที่ตกลงมาบนหัวของเธอ เธอเงยหน้าขึ้นและสบตาเข้ากับสายตาที่อันตรายและเฉียบคมของฉินเย่ เธอตกใจจนหนังศีรษะของเธอชาไปหมด และเธอไม่รู้จะอธิบายอย่างไร "เย่!" ในเวลานี้ เสียงของเจียงฉูฉู่ก็ดังขึ้นจากที่ไม่ไกลพอดี ทุกคนมองไปตามเสียงนั้นแ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 190

    เมื่ออยากจะร้องไห้ ดวงตาของเธอแทบจะเต็มไปด้วยน้ำตา แต่กลับไม่มีน้ำตาหยดลงมาสักหยด ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง จากนั้นเธอก็หันหลังกลับอย่างดื้อรั้น เธอซ่อนน้ำตาทั้งหมดไว้โดยหันหลังให้เขา ทันใดนั้นฉินเย่ก็รู้สึกจวนตัวเล็กน้อย เขายังคงจำตอนเด็กๆที่เธอร้องไห้เสียงดังต่อหน้าเขาที่ทั้งน้ำตาและน้ำมูกไหล เหมือนกันกับที่เธอดึงชายเสื้อของเขาเบาๆเช่นนี้ เธอมองเขาอย่างน่าสงสารและสูดจมูกอีกครั้ง ดวงตาของเธอเป็นสีแดง มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เธอหยุดร้องไห้ต่อหน้าเขาและซ่อนน้ำตาเอาไว้ ในที่สุดฉินเย่ก็เข้าใจว่าทำไมเขาถึงรู้สึกว้าเหว่อยู่ภายในใจมาตั้งแต่แรก เพราะระหว่างเสิ่นหยินอู้กับเขามีช่องว่างที่ลึกมากๆอยู่ เธอไม่เห็นเขาเป็นคนสนิทชิดเชื้อที่สามารถแบ่งปันปัญหาทางอารมณ์ต่างๆได้อีกต่อไป “เย่...นายโกรธฉันจริงๆใช่ไหม?” เสียงอันนุ่มนวลของเจียงฉูฉู่ทำให้เขากลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง ฉินเย่กลับมามีสติอีกครั้ง มองดูเจียงฉูฉู่ที่มีน้ำตาไหลอาบเต็มหน้า เขาเม้มริมฝีปากแล้วถามว่า "เกิดอะไรขึ้นตอนเย็นวันนี้?" เมื่อได้ยิน เจียงฉูฉู่ก็ตกตะลึง "อะไรนะ?" สายตาของฉินเย่ขยับขึ้นม

Latest chapter

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status