"ฉันต้องการให้นายมาเป็นเด็กเลี้ยงของฉัน"
"ทานโทษนะพอดีเป็นคนชอบความอิสระไม่นิยมมีโซ่คล้องคอ!"
อชิตพลที่นั่งขาไขว่ห้างอยู่บนเตียงนอนขนาดพอดี จ้องมองมาทางพิร์ภูณกรด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนที่คนตัวสูงจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามาประชิดตัวของเซทท์อีกครั้ง มือหนายกขึ้นมาจับที่ปลายคางเล็กให้เชิดหน้าขึ้นมาสบกับดวงตาคมที่มีแววตานิ่งสงบ
"วันนั้นเราตกลงกันแล้วนิ่"คนตัวสูงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มเข้มพร้อมกับเพิ่มแรงบีบที่ปลายคางเล็ก
"คุณอาจจะลืมนะคุณมังกร ว่าผมยังไม่ได้ตอบตกลง"
พิร์ภูณกรสะบัดใบหน้าออกจากมือหนาพลางเดินปลีกตัวออกมานั่งลงยังเตียงนอนนุ่มของตัวเอง มังกรหมุนตัวหันกลับมาจ้องมองคนตัวเล็กจอมดื้อ ที่ไม่ยอมตกลงมาเป็นเด็กของเขาพลันในใจของคนตัวสูงก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมานิดๆ เมื่อร่างโปร่งตรงหน้าไม่ยอมจำน
แสงแดดในยามสายสาดส่องผ่านผ้าม่านสีอ่อนกระทบเข้ากับเปลือกตาสีมุกของมังกร ปลุกให้ชายหนุ่มรูปร่างกำยำที่กำลังหลับอยู่ในห้วงนิทราต้องรู้สึกตัวตื่นขึ้น อชิตพลที่ลืมตาตื่นเป็นต้องกะพริบตาสองสามทีเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงสว่างเมื่อดวงตาคมคุ้นชินกับแสงสว่างยามเช้าคนตัวสูงก็ดันตัวจะลุกขึ้นจากเตียงนอนที่ไม่คุ้นชินนี้ แต่อชิตพลเป็นต้องชะงักกลางอากาศ เมื่อแขนแกร่งของตัวเองได้มีบางอย่างทาบทับอยู่"หืมมมมม"มังกรที่รู้สึกถึงน้ำหนักที่ทับอยู่ที่แขนด้านซ้ายของตัวเองก็หันไปมองดูอย่างอัตโนมัติ ก่อนที่จะพบว่าเป็นคนสวยจอมดื้อ ที่นอนหลับตาพริ้มหมุนแขนของเขาอยู่"ตอนนอนหลับนี้น่ารักดีจริงๆ แต่พอตื่นมามีสติทำไมแสบนักนะ"ผมบ่นออกมาเบาๆพลางเอื้อมมือไปไล่สัมผัสที่ใบหน้าขาวก่อนที่มุมปากของผมจะเผยรอยยิ้มออกมาน้อยๆ" อื้อออทำอะไร"เสียงทุ้มห
เวลาพัดผ่านไป1เดือนเวลา16.45นาทีร่างสูงโปร่งนั่งหลับตาพริ้มกอดอกเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ในหัวก็พลางคิดเรื่องมากมายตีวนกันไปหมด คิ้วสวยที่ขมวดมุ้ยเข้าหากันเป็นต้องขมวดเข้าหากันมากกว่าเดิม เมื่ออยู่ๆช่องว่างระหว่างคิ้วก็มีสัมผัสอุ่นร้อนของปลายนิ้วจิ้มลงมาเปลือกตาสีมุกค่อยๆเปิดขึ้นพลันนัยน์ตาลสีน้ำตาลจ้องมองเจ้าของนิ้วหนาที่จิ้มสัมผัสที่ใบหน้าของเขาด้วยแววตาคาดโทษ แต่เจ้าของนิ้วที่โดนร่างบางจ้องมองอย่างคาดโทษกลับทำตัวไม่รู้สึกรู้สาแถมยังโน้มใบหน้าลงมาแตะริมฝีปากที่หน้าผากมนอย่างแผ่วเบาอีกต่างหากให้ตายเหอะทำไมหมอนี้ถึงได้หน้าหนาขนาดนี้นะ!พิร์ภูณกรคิดในใจอย่างเบื่อหน่ายพลางดันตัวกลับมานั่งตัวตรงดังเดิม มือบางก็พลันเอื้อมไปจับเมาส์ลากไปมาเพื่อทำง
กลับมาที่ปัจจุบันเวลาล่วงเลยมาช่วงเย็นเข็มสั้นของนาฬิกาชี้ที่เลข6 ส่วนเข็มยาวได้ชี้อยู่ที่เลข3 อชิตพลที่กึ่งนั่งกึ่งนอนเหยียดยาวจ้องหน้าจอโน๊ตบุ๊คสลับกับจ้อมมองเสี้ยวหน้าสวยของพิร์ภูณกรอยู่บนเตียงนอนนุ่มได้พ้นลมหายใจออกมายาวๆ ก่อนที่จะวางโน๊ตบุ๊คลงข้างตัวแล้วดันตัวลุกขึ้นก้าวลงจากเตียงเดินไปหยุดอยู่ด้านหลังเก้าอี้ที่คนตัวเล็กเอาแต่นั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันไม่ยอมหันมาสนใจตัวเขาเลยสักนิดตั้งแต่เลิกจากงานมา"เซทท์หยุดวาดแบบได้แล้วไปกินข้าวกัน นี่มันหกโมงเย็นแล้วนะ"มังกรเอ่ยพูดขึ้นด้านหลังพลางโน้มใบหน้าลงมาซบที่ไหล่เล็กแขนทั้งสองข้างก็พลางยกขึ้นโอบกอดร่างบางจากด้านหลัง"เฮ่อออออ อย่ากอดมันอึดอัด"เสียงถอนหายใจยาวดังขึ้นเล็กน้อยพิร์ภูณกรเอนหลังพิงผนักเก้าอี้พลางมือบางทั้งสองข้างก็ยกขึ้นมาแกะแขนแกร่งทั้งสองข้างของคนตัวสูงที่โอบกอดตัวเขาแน่นอย่างกับงูเหลือม
พิร์ภูณกรหลังจากที่ผมกับนายอชิตพลนั่งกินปิ้งย่างกันจนอิ่มหนำสำราญ ผมก็พานายมังกรไปทำน้ำแข็งไสอย่างที่ตกลงไว้ ระหว่างที่ผมเอ่ยสอนและสาทิศการใช้เครื่องบดน้ำแข็งให้เป็นเกล็ดหิมะให้คนตัวสูงดู มังกรก็ตั้งใจดูอย่างจริงจังดวงตาคมก็พลางจ้องมองด้วยแววตาเป็นประกายและตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัดจะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น"ลองทำสิ"ผมก้าวถอยหลังหลบให้มังกรมายืนแทนที่ ก่อนที่จะยืนสั่งให้คนตัวสูงหยิบนั้นหยิบนี้ตามที่เจ้าตัวชอบใส่ในถ้วยที่เตรียมมา แล้วให้มังกรตักน้ำแข็งใส่เครื่องบด พอเครื่องบดเริ่มทำงานแล้วเกล็ดน้ำแข็งหิมะร่วงลงมาใส่ถ้วยข้างล่าง มุมปากหนาของมังกรก็เผยรอยยิ้มขึ้นน้อยๆอย่างคนพอใจและดูท่าคนตัวสูงตรงหน้าจะภูมิใจตัวเองเป็นอย่างมากเมื่อเจ้าตัวชูถ้วยน้ำแข็งไสที่แต่งแต้มด้วยสีสันสวยงามจนเสร็จให้ผมดู"ดูสิเซทท์ น่าทานมั้ย"
ณ.เวลา03.12ร่างโปร่งบางยืนทิ้งตัวเท้าแขนกับราวระเบียงนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเหม่อมองท้องฟ้าอันเงียบสงบยามค่ำราตรีพลางนิ้วมือเรียวสวยที่คีบแท่งบุหรี่อยู่ก็ยกขึ้นมาจรดริมฝีปากก่อนที่สูดอัดสารนิโคตินเข้าปอดเพื่อหวังให้สารเหล่านี้ได้ช่วยให้เขาผ่อนคลายและสบายใจขึ้นริมฝีปากบางพ่นควันสีเทาปล่อยให้ล่องลอยไปตามสายลมที่พัดผ่านพลันเปลือกตาสีมุกก็ค่อยๆปิดลงเพื่อซึมซับบรรยากาศอันหนาวเย็นและเงียบสงบในยามค่ำคืน"ออกมาทำอะไรที่ระเบียงหื้ม..."เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามพร้อมกับสองเท้าหนาได้เดินมายืนซ้อนแผ่นหลังเล็กแล้วสอดแขนโอบกอดเอวบางจากทางด้านหลังฟอดดดสันจมูกโด่งกดหอมลงที่แก้มนุ่มของเซทท์อย่างมันเขี้ยวก่อนที่ใบหน้าคมจะซุกลงที่ลาดไหล่บางแล้วหลับตาลงอย่างช้าๆ
"เมียผมก็บอกชัดเจนแล้วนะ ว่าเขาคิดกับคุณแค่น้องชาย เพราะงั้นคุณกลับไปได้แล้ว แล้วอย่ามายุ่งกับเมียผมอีก"นัตน์ตาคมจ้องมองชายตรงหน้าด้วยแววตาแข็งกร้าวแสดงให้เห็นว่าเขานั้นพร้อมที่จะกระโจนเข้าหาได้ทุกเวลาถ้าเด็กหนุ่มตัวสูงตรงหน้ายังไม่หยุดที่จะลุกล้ำเข้ามาในอาเขตของคนที่เขาเรียกว่าเมีย"กลับไปแม็กซ์"คนในอ้อมแขนแกร่งเอ่ยบอกเด็กหนุ่มตัวสูงอีกครั้งพร้อมกับเบือนหน้าหนีเลือกที่จะไม่สบสายตากับคนที่เขาเรียกว่าน้องชายเพราะกลัวใจตัวเอง กลัวว่าจะใจอ่อนให้กับสายตาเศร้าสร้อยของเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าแม็กซ์เขาเองก็เหมือนเซทท์ที่มักจะใจอ่อนให้กับคนที่ตัวเองเรียกน้องชาย ก็เพราะมีจุดอ่อนตรงนี้นี่แหละถึงทำให้ผมกับไอ้เซทท์เกือบตายกัน"พี่~....พี่ครับ"เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเศร้าสร้อยทำให้องศาที่ได้ยินแทบที่จะหันมามองใบหน้าออกไปทางฝรั่งของแม็กซ์ แต่ก็โดนฝ่ามือใหญ่ของคนตัวสูงที่อยู่ด้านหลังเลื่อนขึ้นมาปิดสายตาของเขาซะก่อน"กลับไป! แล้วอย่ามายุ่งกับเมียกูอีก"เสียงเข้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับนัยน์ตาคมสาดมองไปทางแม็กซ์อย่างเชือดเฉือน แม็กซ์เองก็จ้องมองกลับอย่างไม่เกรงกลั
"ไปต่อกันมั้ย"...หลังจากที่องศาได้เอ่ยปากชวนผมที่ผับแบบนั้น ผมก็ไม่ได้เอ่ยตอบอะไรออกไปทำเพียงแค่พยุงคนที่ดื่มจนเมามายมาขึ้นรถแล้วขับออกมาจากผับแล้วตรงไปที่คอนโดของผมทันที คอนโดที่ผมไม่เคยให้ใครเข้ามาเหยียบแม้กระทั่งไอ้มังกรก็ยังไม่เคยได้เข้ามา มีองศาที่ได้เหยียบเข้ามาเป็นคนแรก ชายหนุ่มที่ผมพึ่งจะรู้จักได้ไม่นานพอผมกับองศาเหยียบก้าวเข้ามาในห้องนอนคนที่ตัวเล็กกว่าก็เล่นกระโจนเข้ามาจูบผมในทันที จนผมแทบจะตั้งรับไม่ทัน พอผมตั้งตัวได้ก็เปิดปากให้ร่างบางได้สอดแทรกเรียวลิ้นเข้ามาในโพรงปากของผม ก่อนที่จะดันให้องศาก้าวถอยหลังไปที่เตียงนอนแล้วผลักให้แผ่นหลังเล็กได้สัมผัสกับพื้นนอนนุ่มผมกับองศาจูบแลกลิ้นกันนัวเนียอยู่บนเตียงนอนนุ่มพลันลิ้นหนาของผมก็สอดขยับไล่ต้อนเกี่ยวตวัดลิ้นเล็กในโพรงปากอุ่น ก่อนที่ผมจะผละริมฝีปากออกจากปากบางแล้วโน้มใบหน้าก้มลงมาคลอเครียร์ที่ลำคอขาวทั้งเลียและขบเม้นเพ
ณ.เวลาปัจจุบันเวลา17.19นาทีองศาร่างสูงโปร่งยืนพิงหลังกับราวระเบียงหันหน้ามองทอดเข้าไปยังห้องนอนของตัวเองพลางขยับเรียวแขนข้างซ้ายที่พักพิงไว้กับราวระเบียงเล็กน้อยเพื่อยกมือที่คีบแท่งบุหรี่ขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปากแล้วสูดอัดสารนิโคตินเข้าเต็มปอด ก่อนที่ริมฝีปากสวยจะเผยพ่นควันสีขาวออกไปทางสีเทาปล่อยให้ล่องลอยไปตามสายลมติ๊ดเสียงกดเครื่องมือสื่อสารดังขึ้นเมื่อนิ้วเรียวสวยข้างขวากดโทรออกหาปลายสายเมื่อมีธุระสำคัญที่จะต้องพูดคุย รอสายไม่นานคนที่อยู่ปลายสายก็กดรับสายแต่ก็ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมาจนเป็นองศาที่ต้องเอ่ยทักขึ้นด้วยตัวเอง"ทำอะไรอยู่"เสียงใสเอ่ยถามพลางสูบอัดเอาสารนิโคตินเข้าไปเต็มปอดก่อนที่จะพ่นควันมันออกมาพลันนัยน์ตาสวยก็เหลียวมองไปยังเตียงนอนที่มีชายหนุ่มตัวสูงนอนคว่ำหน้าเผยแผ่นหลังแกร่งให้เขาได้เห็น/นอน.../เสียงเอ่ยตอบงัวเงียจากปลายดังขึ้นอย่างสั้นๆแล้วก็เงียบไปจนทำให้องศาขมวดคิ้วหน้ามุ้ยอย่างคนหงุดหงิด เมื่อรู้สึกว่าช่วงนี้เพื่อนสนิทของตนนั้นดูจะยุ่งกับการนอนซะเ
"ขอโทษครับที่รัก พี่ขอโทษ เด็กดีไม่ร้องนะครับ""ฮึก ผมไม่ร้องแล้วก็ได้ แต่คุณต้องบอกผมมานะว่าเด็กคนนั้นชื่ออะไร ไม่สิเอาประวัติของเด็กคนนั้นมาเลย ผมจะให้เมทีไปจัดการ"เซทท์เอ่ยพูดพลางดันตัวออกจากอ้อมกอดของมังกรมาสบกับดวงตาคม ก่อนที่จะยกมือบางของตัวเองขึ้นมาเช็ดน้ำตาบนใบหน้า ซึ่งมังกรที่เห็นอย่างนั้นก็เอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้กับคนรักอย่างอ่อนโยนพร้อมกับเอ่ยถามร่างบางอีกทีว่าเด็กที่เซทท์พูดถึงนั้นคือเด็กคนไหนเพราะเขาไม่รู้จริงๆว่าเด็กคนนั้นมันเป็นใคร"เอ่อ...คือเด็กคนไหนหรอครับ"มังกรเอียงใบหน้าถามเสียงเบาพลางมือหนาข้างขวาก็ประคองใบหน้าสวยของคนรักไว้ส่วนมืออีกข้างก็วางไว้ที่เอวบางของคนตรงหน้า ที่ช่วงนี้เขารู้สึกว่าเมียสุดที่รักของเขานั้นดูจะมีน้ำมีนวนขึ้นซะเหลือเกิน อย่างเช่นหน้าท้องที่เคยมีลอนกล้ามเล็กน้อยของเซทท์นั้น ในตอนนี้กลับแปลเปลี่ยนเป็นแอบมีพุงเล็กๆแทนซะแล้ว"ก็เด็กมหาลัยคนนั้นไง เด็กที่หน้าตาน่ารักตัวขาวๆ สเป๊กของคุณเลยอ่ะ""ครับ? เด็กคนไหน"มังกรก็ยังคงแสดงสีหน้างงงวยไม่รู้ว่าเด็กที่เซทท์เอ่ยถึงนั้นเป็นใคร จนเซทท์ที่เห็นเป็นต้องโมโหเอ่ยพูดถึงเด็กที่เ
เนื้อหาในตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลังแต่อย่างใดและเนื้อหาในตอนนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น หากท่านใดไม่ถูกใจสามารถกดข้ามได้ทุกเมื่อณ.ตระกูลโชติฐิติเมธานนท์"อะ อื้มมม อ่าาาพี่มังกรพอก่อน เซทท์ไม่ไหวแล้ว อะ! พอแล้ว อื้อส์ พอ มะ ไม่ไหว อ่าาาส์"น้ำเสียงครางหวานหลุดลอดออกมาจากกายเล็กเป็นระยะๆ เมื่อโดนเอวสอบของคนตัวสูงบนร่างโยกขยับเข้าออกช่องทางรักของตัวเองไม่หยุดหย่อนเป็นเวลานับสามชั่วโมงแล้วที่อชิตพลบรรเลงบทเพลงรักอันเร่าร้อนกับพิร์ภูณกรอย่างไม่มีช่วงเวลาเว้นว่างให้กายบางใต้ร่างได้พักหายใจ หายคอ จนร่างบางในตอนนี้แทบจะสิ้นสติอยู่ล่อมล้อ เซทท์ที่โดนคนพี่เสร็จสมใส่ช่องทางรักรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ได้แต่นอนหอบหายใจเหนื่อยชายตามองดวงตาคมด้วยแววตาเหนื่อยอ่อนแทบจะปิดเปลือกตาลงได้ทุกวินาที"เหนื่อยแล้วหรอครับ หื้มมม"เสียงทุ้มเข้มเอ่ยถามคนใต้ร่างด้วยน้ำเสียงนุ่มนวนพลางมือหนาก็เอื้อมขึ้นมาลูบใบหน้าหวานของคนใต้ร่างอย่างอ่อนโยน ก่อนที่จะทิ้งร่างของต
ห้องอาหาร"อุแว้ อุแว้ อุแว้"เด็กชายพิรภพเริ่มจะแผดเสียงร้องไห้อีกครั้ง เมื่อเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้วไม่ได้ยินเสียงทุ้มเข้มของผู้เป็นพ่อ"อ่าาา ร้องไห้งอแงอีกแล้วนะเจ้าเสือ น้องติณห์หนูจะเอาอะไรลูก ทำไมวันนี้หนูงอแงกับมี๊จังครับ"พิร์ภูณกรบ่นอุ๊บอิบพลางช้อนอุ้มเด็กตัวน้อยเดินเล่นรอบห้องโถง เวลาผ่านไปไม่กี่นาที ร่างสูงของมังกรก็เดินทอดน่องลงมาจากชั้นสองก่อนที่จะรีบสาวเท้าเดินตรงมาหาสองแม่ลูกในทันที"น้องติณห์หนูไม่ดื้อกับมี๊สิครับ เห็นมั้ยป๊ายังไม่ดื้อกับมี๊เขาเลยนะ"อชิตพลเดินประชิดตัวร่างบางพลางยกมือขึ้นมาจิ้มพุงของลูกน้อยเบาๆสองสามที ก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มลูกน้อยและไม่วายเงยหน้ามาหอมแก้มนุ่มของผู้เป็นแม่ไปด้วยฟอดใหญ่ฟอดดดด"คุณมังกร!!!คุณนี้อีกแล้วนะ! อะ!เจ้าเสือ!!มี๊จั๊กจี้"เซทท์ที่กำลังเอ่ยว่าให้มังกรเป็นต้องร้องเสียงหลงหันมาปลามลูกน้อยแทน เมื่อใบหน้าเล็กของลูกน้อยหันเข้าหาอกบางแล้วใช้ริมฝีปากเล็กงับลงยอดถันผ่านเนื้อผ้าบาง พอผู้เป็นพ่อเห็นลูก
เนื้อหาในตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลังแต่อย่างใดและเนื้อหาในตอนนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น หากท่านใดไม่ชอบหรือไม่ถูกใจสามารถกดออกได้ทุกเมื่อณ.ตระกูลโชติฐิติเมธานนท์"อุแว้ อุแว้ อุแว้"เสียงของเด็กน้อยวัยแรกเกิดแผดร้องดังก้องไปทั่วทั้งห้องนอน ทำให้คุณแม่มือใหม่อย่างพิร์ภูณกรได้แต่อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมอกแล้วพาเดินไปเดินมาทั่วห้องเพื่อหวังให้ลูกน้อยนั้นสงบลงสักหน่อย เพราะเซทท์ไม่รู้เลยว่าในตอนนี้ลูกน้อยของเขานั้นเป็นอะไร ถึงเอาแต่แผดเสียงร้องไห้อยู่อย่างนี้นานนับชั่วโมง จะว่าลูกน้องของเขาหิวก็เป็นไปไม่ได้เลย เพราะเขาพึ่งจะป้อนนมลูกน้อยไปเมื่อไม่กี่นาทีนี้เองและเขาเองก็ตรวจเช็กก้นลูกน้อยของเขาเรียบร้อยแล้วด้วยเจ้าตัวน้อยของเขาไม่ได้อึหรือฉี่เลยแม้แต่น้อย"ติณห์หนูเป็นอะไรครับ ทำไมหนูถึงร้องไห้งอแงจังเลยลูก"ร่างโปร่งบางที่อยู่ในสบายอิดโรยและใต้ขอบตาเริ่มมีสีดำคล้ำได้แต่อุ้มลูกน้อยโยกตัวไปมา ส่วนเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นมารดาก็ยังคงแผดเสียงร้องไ
บทส่งท้ายผ่านไป2ปีไว้เหมือนในนิยาย"คุณมังกร!!!"เสียงใสทรงอำนาทตะเบ่งเรียกชื่อประมุขของบ้านดังลั่น ทำให้เหล่าลูกน้องใต้บังคับบัญชาที่กำลังฝึกอยู่ของอชิตพลต่างพากันสะดุ้งหันไปมองยังต้นเสียงตามๆกัน"คะ ครับ..."มังกรที่กำลังยืนดูการฝึกฝนของลูกน้องที่พึ่งจะรับเข้ามาใหม่ ต้องสะดุ้งโหย่งหันไปมองตามเสียงแล้วรีบเอ่ยขานรับน้ำเสียงติดขัดในทันที และด้วยเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้เหล่าลูกน้องชายที่อยู่ในชุดลำลองต่างหันมองหน้าสบตากันอย่างงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้เป็นนายเหนือหัวที่ดูเงียบขรึมและน่าเกรงกลัวของพวกเขากัน ทำไมอยู่ๆผู้เป็นนายที่มีสีหน้าท่าทางที่ดูจะโหดเหี้ยมของพวกเขาเมื่อกี้ ถึงได้แปลเปลี่ยนกลายเป็นแมวน้อยเชื่องๆตัวหนึ่ง เมื่อชายร่างโปร่งใบหน้าหวานคนนี้ปรากฏตัวขึ้น"คุณลืมอะไร"เซทท์เอ่ยถามขึ้นเสียงต่ำพลางก้าวเดินเข้าประชิดตัวคนตัวสูงด้วยใบหน้านิ่งๆ ส่วนมังกรที่ได้ยินคำถามของคนตัวเล็กกว่า ก็ได้แต่ยืนงงพลางในหัวก็นึกคิดถึงสิ่งที่คนตรงหน้าเอ่ยถามไปด้วยล
4เดือนต่อมาเวลา 03.12 นาที"อุแว้! อุแว้!"เสียงเด็กแผดร้องดังก้องขึ้นทั่วทั้งห้อง ทำให้คนตัวสูงที่กำลังนอนคว่ำเผยให้เห็นแผ่นหลังที่แต่งแต้มไปด้วยรูปรอยสักมังกร ต้องดันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างเหม่อลอย เมื่อได้สติมือหนาก็เอื้อมไปกดเปิดสวิทไฟที่หัวเตียงให้ทั่วทั้งห้องสว่างขึ้นแล้วหย่อนขายาวทั้งสองลงจากเตียงนอนเดินตรงไปหาเปลนอนของลูกน้อยที่กำลังนอนแผดเสียงร้องไห้อย่างเอาแต่ใจอยู่"ว่าไงเด็กดื้อ หิวหม่ำๆหรอครับ หรืออึๆ หื้มมม"เสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อเอ่ยถามลูกน้อยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนที่สองแขนแกร่งจะช้อนอุ้มเด็กตัวน้อยที่กำลังร้องห่มร้องไห้มาไว้ในอ้อมอกแล้วโยกไปมาเพื่อกล่อมเด็กน้อยให้หยุดร้อง"ชู่ววว์ ไม่ร้องนะครับเด็กดี ไม่ร้องนะ มี๊กำลังหลับอยู่ ไม่ร้องนะครับ ชู่ววววว์"มังกรเอ่ยกล่อมเด็กน้อยในอ้อมอกพลางตรวจเช็กแพมเพิสของเด็กน้อยว่าได้อึหรือฉี่หรือเปล่าพอเห็นว่าเด็กน้อยอึ มังกรก็จัดการปรับเปลี่ยนแพมเพิสให้เด็กตัวน้อยในทันทีหลังจากที่เปลี่ยนแพมเพิสและป้อนนมให้ลูกเสร็จ อชิตพลก็ช้อนอุ้มลูกน้อยพาดบ่าเพื่อ
ณ.โรงพยาบาลอชิตพลหลังจากที่ชิตพลสติแตกแล้วโดนฝ่ามือเรียวของพิร์ภูณกรฟาดเรียกสติกลับมา มังกรก็รีบเร่งพาคุณแม่ท้องโตมาที่โรงพยาบาลในทันที พอมาถึงโรงพยาบาลเซทท์ก็ถูกเหล่าคุณพยาบาลเข็นพาไปที่ห้องเตรียมคลอด ส่วนมังกรก็ได้อยู่กรอกเอกสารต่างๆมากมายจนเสร็จสรรพแล้วค่อยตามไปเฝ้าร่างบางที่ห้องรอคลอดเวลาพัดผ่านไปหลายชั่วโมงหลังจากที่คุณหมอตรวจร่างกายของพิร์ภูณกรเรียบร้อย ก็แจ้งให้ว่าที่คุณแม่อย่างพิร์ภูณกรงดน้ำและอาหารเพื่อเตรียมผ่าคลอดในทันที พอถึงเวลาบุรุษพยาบาลก็มาพาคุณแม่ท้องโต้เข้าห้องผ่าตัดเพื่อผ่าคลอด โดยที่มังกรก็ได้แต่เดินตามและหยุดยืนรออยู่ด้านนอกห้องไม่ได้ตามเข้าไปถ้าจะถามว่าทำไมเขาไม่ตามเข้าไปทั้งที่เขาก็สามารถตามเข้าไปได้ ให้ตอบตามความจริงเลยคือ เขาไม่อยากเห็นเด็กดื้อของเขาเจ็บปวด แค่สีหน้าที่เซทท์แสดงให้เขาเห็นตอนเจ็บท้องคลอดระหว่างรอเวลาเข้าห้องผ่าคลอดเขาก็แทบจะทนไม่ไหว ถ้าเขาตามเข้าไปเฝ้าในห้องผ่าคลอดเขาต้องเป็นบ้าตายก่อนแน่ๆ
ภูเขาและองศาเวลา03:23นาทีคุณแม่ท้องโตที่กำลังนอนหลับใหลอยู่ในห้วงนิทราอยู่บนเตียงนอนนุ่ม ต้องสะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นกลางดึก เมื่อความรู้สึกปวดร้าวเข้าเล่นงานที่ขาเรียวด้านซ้ายของเขา องศายันตัวลุกขึ้นนั่งใบหน้าสวยแสดงความบิดเบี้ยวด้วยความปวดราวที่เริ่มทวีคูณขึ้น จนเสียงใสต้องหลุดร้องออกมาให้คนที่นอนหลับอยู่ข้างกายได้ยิน"โอ๊ยยยย"ภูเขาที่กำลังนอนหลับอยู่ในห้วงนิทราเป็นต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างตื่นตัว เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ร้องอย่างเจ็บปวดขององศา ร่างสูงรีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่งในทันทีพลางมือหนาก็เอื้อมไปเปิดไฟที่หัวเตียงเพื่อให้ภายในห้องเกิดความสว่าง ก่อนที่เสียงทุ้มเข้มจะเอ่ยถามคนรักขึ้นอย่างเป็นห่วง"องศาเป็นอะไรครับ"ภูเขาเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรนพลางนัยน์ตาคมก็ลอบมองสังเกตกายของคนรักด้วยแววตาที่แสดงถึงความเป็นห่วงให้ได้เห็นอย่างชัดเจน"ตะคริวกินขาด้านซ้าย"องศาเอ่ยตอบคนตัวสูงด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมกับรอบๆดวงตาสวยได้มีน้ำสีใสเอ่อนอง"อ่าาาโอเคครับ มาครับเดี๋ยวพี่นวดให้"ภูเขาที่ได้ยินคำตอบจากคุณแม่ท้องโต
เวลาพัดผ่านไป3เดือนด้านภูเขาและองศา"องศาคุณอย่าดื้อได้มั้ย"เสียงทุ้มเอ่ยว่าคนท้องพลางมือหนาก็ยกขึ้นคว้ามือบางขององศาที่กำลังสาละวนอยู่กับเส้นผมของเขา แต่องศาก็ยังคงชักมือออกจากการกับกุมของมือหนาและจัดการมัดจุกให้คนตัวสูงเหมือนเดิม"ผมไม่ได้ดื้อสักหน่อย"คนท้องยังคงเอ่ยปฏิเสธเสียงใสและมือบางก็ยังคงจับกลุ่มผมดกดำของภูเขามัดเล่นอยู่ไม่ห่างผมที่กำลังนั่งตรวจทานเอกสารอยู่ในห้องทำงานนั้นได้แต่ถอดถอนหายใจ เมื่อโดนคุณแม่ท้องโตที่หนีบมาทำงานด้วยก่อกวนไม่เลิก ก็ตั้งแต่วันที่องศาออกจากโรงพยาบาลมาจนถึงทุกวันนี้ องศาเขาก็ยังคงแสดงอาการออดอ้อนและอยากตามติดผมอยู่ตลอดเหมือนเดิมแถมดูท่าจะหนักขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วย เพราะเวลาผมจะเดินไปไหนมาไหน องศาก็จะคอยเดินตามและคอยออดอ้อนผมอยู่ตลอดเวลาเหมือนไม่อยากที่จะห่างจากผม ขนาดผมจะเดินเข้าห้องน้ำองศายังจะเดินตามผมเข้ามาด้วยจนผมนึกสงสัยกับท่าทีที่แปลกไปแบบนั้นของเขา จึงได้พาไปหาหมอและพบว่าองศาได้แพ้ท้องแบบติดกลิ่นของผม คือแบบแพ้มากแบบติดกลิ่นผมมากๆ แบบติดกลิ่นของผมชนิดที่ว่าไม่ให้ห่างจากสายตาหรืออยู่