เพชรกล้ารีบเดินฝ่าวงล้อมของเหล่าประชาชนเข้ามาหาร่างของมะลิ สีหน้าของเขาเรียบนิ่งไร้อารมณ์แววตาพยายามตรวจดูไปตามร่างกายเพื่อสังเกตอาการของเธอ
"ผมเป็นหมอ ขอให้ทุกคนช่วยหลีกทางให้คนป่วยมีอากาศหายใจได้สะดวกด้วยครับ"เหล่าประชากรทุกคนต่างทยอยขับออกมาจากตรงนั้น แต่ทุกคนก็ยังคงจับจ้องสถานการณ์ไม่ไปไหน ทุกคนในที่นี้มักจะเห็นมะลิออกมาซื้อของคนเดียวเพียงลำพังอยู่บ่อยครั้งในช่วงเช้า ความสนิทสนมและเป็นกันเองทำให้พวกเขารู้จักและเป็นห่วงหญิงสาวกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ไหนตอนนี้ "มะลิ มะลิ เธอเป็นอย่างไรบ้าง"เพชรกล้าเขย่าตัวเรียกชื่อของหญิงสาว เขาใช้นิ้ววางนาบลงบนข้อมือเรียวเล็กเพื่อต้องการวัดชีพจร คิ้วเข้มทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันเมื่อชีพจรการเต้นของหัวใจนั้นมันช่างผิดปกติและสีหน้าซีดเผือดของเธอและไหนกำปั้นเล็ก ๆ ที่ทุบลงบนหน้าอกซ้ำ ๆ เบา ๆ ราวกับว่าเธอเจ็บปวดตรงบริเวณนั้นอีก อาการเบื้องต้นผ่านที่เขาสังเกตการณ์มันยิ่งทำให้เพชรกล้าขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นขึ้นไปอีก "ขอทางหน่อยครับ"เพชรกล้าพยุงร่างของมะลิขึ้นมาอุ้มอยู่ในท่าเจ้าสาวซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่คนขับรถของตนเองวิ่งกลับมาจากการซื้อของตรงหัวมุมตลาด "เกิดอะไรขึ้นครับคุณเพชร" "เธอไม่สบาย เดี๋ยวนายนำของพวกนี้ไปส่งให้ที่บ้านคุณหญิงแสงมณีด้วยนะ ฉันจะพามะลิไปหาหมอ"เพชรกล้าไม่รอช้าอุ้มร่างของมะลิไปที่รถก่อนจะรีบขับมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลด้วยความเร็ว ระหว่างที่อยู่ภายในรถเพชรกล้าเหลือบหันหน้ามามองคนนั่งข้างอยู่บ่อยครั้ง สีหน้าของมะลิแสดงถึงความเจ็บปวดและทรมานจนเพชรกล้าต้องกดเหยียบคันเร่งให้เพิ่มเร็วขึ้นไปอีก "ขอบคุณมากเลยนะคะ"แจ๋วเอ่ยขอบคุณคนที่อาสามาส่งอาหารให้แทนมะลิ หัวใจของคนที่รับรู้ข่าวสารอย่างเธอตกหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ร่างของแจ๋วหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในมือของเธอถือของที่มะลิเป็นคนไปซื้อมาทั้งหมดไว้ สมองของเธอกำลังขบคิดถึงเรื่องเกี่ยวกับเด็กสาวด้วยความเป็นห่วงจนไม่ได้มองว่ามีใครบางคนกำลังยืนดักทางอยู่ด้านหน้า "นางแจ๋ว" "ว้าย พี่โฉมฉันตกใจหมด"เสียงเรียกชื่อของเธอดังสนั่นจนทำให้แจ๋วถึงกับตกใจจนแทบจะปล่อยของตกลงกับพื้น แต่ยังดีที่เธอเรียกสติกลับมาได้ทัน "ตกใจอะไรกัน ฉันเป็นคนไม่ใช่ผี แล้วนี่นางมะลิยังไม่กลับมาจากจ่ายตลาดอีกหรือไง แล้วเมื่อกี้แกยืนคุยกับใครนางแจ๋ว"คำถามของโฉมมันยิ่งทำให้แจ๋วไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตามอง และโฉมเองก็จ้องมองด้วยสายตาจับพิรุธจนแจ๋วถึงกับยืนตัวสั่น "ฉันถามว่านางมะลิกลับมาจากจ่ายตลาดแล้วหรือยังฮะ "มะลิยังไม่กลับมาทีจ้ะ แต่ว่าของที่พี่สั่ง มีคนเอามาส่งให้แล้วนะจ๊ะ"แจ๋วยื่นถุงใส่ของทั้งหมดไปตรงหน้าให้โฉมได้ดู แต่ตอนนี้โฉมเองไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเธอสนใจเรื่องการหายตัวไปของมะลิมากกว่า "แล้วนางมะลิมันหายหัวไปไหน ทำไมไม่กลับมาแกได้ถามคนที่มาส่งของหรือเปล่า" "ผู้ชายคนนั้นเขาบอกว่ามะลิเป็นลมอยู่ที่ตลาด มีพลเมืองดีพาไปหาหมออีกเดี๋ยวก็คงจะกลับแล้วล่ะจ้ะ"แจ๋วพูดจบก่อนจะก้มมองพื้นหลบสายตาต่ำเช่นดังเดิม "แกเอาของพวกนี้ไปจัดการให้เรียบร้อย แล้วให้เร็วด้วยล่ะ เดี๋ยวคุณราชากับคุณดอกฟ้าก็จะมาถึงแล้ว"โฉมออกคำสั่งก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในตัวคฤหาสน์มุ่งหน้าไปยังห้องรับแขกที่ตอนนี้มีร่างของสองสามีภรรยาซึ่งเป็นเจ้าของบ้านกำลังนั่งจิบกาแฟยามเช้าอยู่ "จริงเหรอนางโฉม นางมะลิมันเป็นลมอยู่ที่ตลาดจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ" "จริงค่ะคุณนาย นางแจ๋วมันเป็นคนบอกโฉมเองว่านางมะลิมันเป็นลมอยู่ที่ตลาด แล้วมีคนพามันไปส่งโรงพยาบาลแถมตอนนี้มันยังไม่ได้กลับมาบ้านถึงบ้านเลยนะคะ"โฉมเล่าตามจากที่ได้ไปสอบถามจากแจ๋วมาอีกที สองคนสามีภรรยาหันมามองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย "แกออกไปดูในครัวก่อนนางโฉม เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันจะจัดการมะลิเองทันทีที่มันกลับมาถึงบ้าน" "ค่ะ คุณผู้หญิง"โฉมลุกออกไปทำตามหน้าที่ของตัวเองโดยทันทีหลังจากรายงานเรื่องของมะลิให้ผู้เป็นเจ้านายได้ฟังโดยเสร็จ คุณหญิงแสงมณีขยับตัวเข้ามาใกล้สามีที่กำลังนั่งดูหุ่นอยู่ในแท็บเล็ตพร้อมกับหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบด้วยความสบายใจและไม่ทุกข์ร้อนอะไรกับเรื่องราวของมะลิที่ได้ยินมา "ทำไมวันนี้คุณพี่ดูอารมณ์ดีแปลก ๆ จังเลยคะ ทำไมดูไม่สนใจเรื่องของเด็กมะลิเลย"ผู้เป็นภรรยาถามพร้อมกับจ้องมองผู้เป็นสามีด้วยแววตาจับผิด "นางเด็กมะลิมันจะเป็นจะตายก็ปล่อยมันไปสิคุณหญิง เราสองคนไม่เห็นจะต้องไปสนใจอะไรกับเด็กไร้ค่าอย่างมันเลย ดีเสียอีกถ้ามันตายไปลูกของเราจะได้ไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายอะไรเกี่ยวกับมันอีก"คุณธำรงเอ่ยออกมาราวกับว่าเขาเองนั้นไม่มีหัวใจ ใช่ ผู้ชายอย่างเขาไม่ได้มีหัวใจไว้สนใจใครนอกจากคนในครอบครัวและคนที่เป็นดั่งญาติสนิทมิตรสหายเท่านั้นเอง "ถ้านางมะลิมันตายตามที่คุณพี่คิดไว้ก็ดีสิคะ"แต่คุณหญิงแสงมณีกลับคิดไปในอีกทาง เพียงแค่เป็นลมจะตายกันได้ง่าย ๆ อย่างนั้นเชียวหรือ เมื่อไหร่กันนะที่ราชาลูกชายของเธอจะเลิกวุ่นวายเกี่ยวกับนางเด็กคนรับใช้นั่นเสียที หรือว่าต้องให้นางเด็กมะลินั่นตายเสียก่อน ลูกชายของเธอถึงจะเลิกอาลัยอาวรณ์นางเด็กมะลินั่นเสียที ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกพร้อมกับร่างของผู้เป็นหมอเดินออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพชรกล้ารีบเดินเข้าไปหาหมอคนนั้นทันที "มะลิเธอเป็นอย่างไรบ้างครับหมอ" "เชิญคุณเพชรกล้าไปคุยเรื่องนี้ที่ห้องพักของหมอดีกว่านะครับ"ดูจากสีหน้าและฟังด้วยน้ำเสียงแล้ว อาการของมะลิคงจะไม่ใช่เรื่องดี ๆ แล้วแน่ ๆ และอาการของมะลิที่แสดงออกมาในตอนนั้นมันเริ่มทำให้เขาใจไม่ดีเอาเสียเลย "ก่อนอื่นหมอต้องขอถามตรงก่อนเลยนะครับว่า คนไข้รายนี้มีอาการแบบนี้มานานแล้วหรือยังครับคุณเพชรกล้า" "ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ เธอเป็นคนรักของเพื่อนสนิทน้องชาย ที่ตลาดเมื่อเช้าเห็นเธอเป็นลมล้มลงนอนกับพื้น ว่าแต่คุณหมอถามแบบนี้หมายความว่าอย่างไรครับ"สีหน้าของคนเป็นหมอดูเคร่งเครียดจนทำให้เพชรกล้าแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ "คนไข้เธอเป็นโรคหัวใจครับ"ไม่ผิดไปมากจากความคิดของเขาตอนที่เห็นอาการของเธอในครั้งแรก "อย่างที่คนเป็นหมอรู้ โรคหัวใจมันมีหลายภาวะ ซึ่งคนไข้รายนี้เป็นโรคหัวใจในภาวะหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจอ่อนกำลังครับ" "แล้วมันพอจะมีวิธีรักษาให้หายขาดไหมครับ ผมอยากทราบว่าเราควรรักษามะลิเธอต่ออย่างไรดี อย่างเช่น การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ" "เราคงยังผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจให้คนไข้ไม่ได้ครับถ้าหากว่าคนไข้ไม่ได้รับการยินยอม " "ไม่เป็นอะไรเอาไว้เรื่องนี้ผมจะจัดการเอง" "และอีกอย่างตอนนี้ยังไม่มีคนใจบุญมาบริจาคหัวใจให้กับทางโรงพยาบาล และอาการของคนไข้ในตอนนี้ก็น่าเป็นห่วง หมอกลัวว่าคนไข้อาจจะอยู่กับเราได้อีกไม่นานครับ" "มันไม่มีวิธีอื่นเลยเหรอครับที่จะรักษาให้มะลิหายจากโรคนี้ได้" "ไม่มีเลยครับ และอีกอย่างถ้าจะดำเนินการผ่าตัดตอนนี้ก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะคนไข้กำลังตั้งครรภ์อ่อน ๆ อยู่ด้วยครับ ซึ่งมันเสี่ยงมากหากเราทำการผ่าตัดในตอนนี้"สีหน้าของเพชรกล้าเคร่งเครียดจนเห็นได้ชัดเจน คนมีอาการเป็นโรคหัวใจ ไม่ควรทำตัวเองให้เหนื่อย และต้องพักผ่อนให้มาก ๆ ห้ามมีเรื่องให้กระทบต่อจิตใจ เพราะมันจะส่งผลต่อการเต้นของหัวใจและเป็นผลอันตรายต่อร่างกายของตัวเธอเอง และสิ่งที่น่าเป็นห่วงไปกว่านั้น คนเป็นโรคหัวใจในภาวะอ่อนแรงไม่สมควรที่จะตั้งครรภ์ถ้าไม่อยากให้ชีวิตของผู้เป็นแม่ต้องถึงอันตราย คนไข้ก็ต้องตัดสินใจเอาเองว่าจะให้รักษาใครคนหนึ่งคนใดเอาไว้ เพราะถ้าไม่เช่นนั้นโรคหัวใจอ่อนแรกอาจจะคร่าชีวิตของทั้งแม่และลูกไปก็เป็นได้"ราชาลูก ฟื้นสิราชา""อย่าเป็นอะไรนะลูก หมอครับช่วยลูกผมด้วย"เสียงตะโกนเรียกชื่อลูกชายดังกึกก้องภายในโรงพยาบาล ร่างไร้สติเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดของราชาดูน่ากลัวสำหรับคนพบเห็นไม่เว้นแม้แต่พ่อแม่ของตัวเขาเอง"ญาติคนไข้รอด้านนอกนะคะ""ช่วยชีวิตลูกชายของฉันด้วยนะคะหมอ ช่วยชีวิตลูกชายของพวกเราด้วย""หมอจะพยายามจนสุดความสามารถครับ"คุณหญิงแสงมณีร้องไห้ออกมาหัวใจของผู้เป็นแม่แทบจะแตกสลายเมื่อเห็นภาพลูกชายถูกรถชนไปต่อหน้าต่อตา คุณธำรงคว้าร่างของภรรยาเข้ามากอดตัวเขาเองก็รู้สึกตกใจไม่ต่างกันไม่นึกว่าราชาจะหยุดยืนอยู่ตรงกลางถนนอย่างกะทันหันแบบนั้น"ฮือ คุณคะลูกของเราจะเป็นอะไรไหม""ผมเชื่อว่าราชาจะต้องไม่เป็นอะไร ลูกของเราจะต้องปลอดภัยรวมถึงมะลิกับหลานของเราด้วย"'คุณพระคุณเจ้า ช่วยคุ้มครองลูกชายกับลูกสะใภ้และหลานของผมด้วย ช่วยคุ้มครองพวกเขาที'"คนไข้เสียเลือดมากและมีอาการเลือดคลั่งในสมอง ต้องทำการผ่าตัดด่วน""คุณหมอคะ คุณมะลิหัวใจเต้นอ่อนลงค่ะ""คนไข้หยุดหายใจครับคุณหมอ"ภายในห้องฉุกเฉินต่างวุ่นวายเมื่อคนไข้อาการหนักเข้าไปอยู่ในนั้นพร้อมกันถึงสองคน ทำเอาเหล่าพยาบาลแต่หมอต่างพากันวิ่งวุ่นจนหัวหมุ
วันเวลาเดินผ่านหมุนเวียนไป อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ผู้ชายที่มะลิรักก็จะต้องเข้าพิธีวิวาห์กับหญิงสาวที่ทางครอบครัวของเขาหามาให้ "ตื่นขึ้นมาได้แล้วนะมะลิ เธอจะนอนนานแบบนี้ไม่ได้นะ"น้ำเสียงอ่อนโยนของคุณหมอเพชรกล้าเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ ดวงตาสั่นเครือคู่นั้นจ้องมองร่างเล็กบนเตียงคนไข้หัวใจแกร่งที่สั่นไหว"ฉันอยากให้เธอตื่นขึ้นมา ตื่นขึ้นมาหาฉันสักทีจะได้ไหม""...""พูดอะไรกับฉันหน่อยสิ อย่าเงียบแบบนี้"ไร้วี่แววว่ามะลิจะฟื้นขึ้นมาเธอนอนหลับตาไม่รู้สึกตัวราวกับว่าเธอได้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปเสียแล้ว"ฉันรักเธอนะ มะลิ"นี่คือสิ่งที่เพชรกล้าอยากบอกมะลิมาโดยตลอดแต่คนอย่างเขารู้ตัวเองดีว่าไม่มีสิทธิ์บรรยากาศในยามเช้า ณ บ้านหลังใหญ่ของฝ่ายเจ้าสาวกำลังอบอวลไปด้วยความสุข ใบหน้าสวยพริ้งพราวของดอกฟ้ามีแต่รอยยิ้มสดใส "คุณดอกฟ้าสวยที่สุดเลยค่ะ"ช่างแต่งหน้าเอ่ยชื่นชม สตรีร่างเล็กมีรูปโฉมสง่าผ่าเผยท่าท่ากิริยางดงามน่าชื่นชมอยู่ในชุดแต่งงานทรงไทยสไบเฉียงสีขาวขับเน้นผิวพรรณของนางให้ขาวกระจ่าง แม้แต่พวงแก้มทั้งสองข้างยังแดงปลั่งงดงามดุจดั่งภาพเขียนร่างเพรียวบางลุกขึ้นยืนหมุนกายไปมาตรงหน้ากระจกใส นั
ราชายืนนิ่งอยู่กับสิ่งที่ได้ยินเขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะช็อกกับเรื่องไหนก่อนดี ก่อนร่างสูงใหญ่ของราชาจะหมุนตัวเดินกลับออกไปเพราะไม่อยากให้ทั้งคู่ได้รู้ว่าเขายืนแอบฟังตลอดระยะทางที่นั่งอยู่บนรถเกิดความเงียบไร้เสียงพูดคุยจนชีต้าห์ขับรถมาจอดถึงหน้าปากซอยหมู่บ้านในเวลาพลบค่ำ"ฉันขอส่งแกแค่นี้นะ"ชีต้าห์พูดออกมาโดยไม่คิดจะหันหน้ามามอง"ฉันอยากรู้เรื่องราวของมะลิ ว่าเธอเป็นใครนายพอจะเล่าให้ฉันฟังจะได้ไหม""มะลิเธอก็เป็นเพื่อนของเราสองคนไง""ไม่ใช่""....""ฉันหมายถึง มะลิเธอมีคนรักไหม"คำถามของราชาเรียกความสนใจให้ชีต้าห์หันหน้ากลับมามอง"พยาบาลในห้องนั้นบอกฉันว่ามะลิกำลังจะมีน้อง ฉันก็เลยอยากจะรู้ว่าใครเป็นคนรักของเธอ"ริมฝีปากหยักเม้มเข้าหากันด้วยความประหม่ากับการหาข้ออ้างไม่ให้ชีต้าห์ได้สงสัย"มะลิเธอเป็นเพียงลูกสาวของแม่บ้าน ความรักของเธอนั้นมีแต่อุปสรรคที่ดันไปรักกับลูกชายของเจ้านาย"สุดท้ายแล้วชีต้าห์ยินยอมเปิดปากเล่าถึงความรักอันแสนหวานและขมขื่นของทั้งคู่"เธอกับผู้ชายคนนั้นรักกันมาก มากเสียจนไม่มีใครมาขัดขวางหรือคิดที่จะเข้ามาแทรกกลางได้ แต่ก็อย่างว่า ความรักของลูกชายกับเจ้ากับลูกสาวคนใช้
โรงพยาบาลตึก ตึก ตึกชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สองคนเดินเข้ามาภายในโรงยาบาลโดยมีร่างของชีต้าห์เดินนำหน้าไปยังห้องปลอดเชื้อสำหรับคนไข้ที่มีอาการรุนแรงอยู่ในตอนนี้ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือมะลิที่สามารถเฝ้ามองดูเธอผ่านกระจกแผ่นใสตึก"ผมมาเยี่ยมมะลิครับ""เชิญเลยค่ะคุณชีต้าห์ แต่มีเวลาเยี่ยมแค่สิบนาทีนะคะ""ขอบคุณมากครับ"ชีต้าห์หันมาพยักหน้าให้ราชาเดินตามตนเองเข้าไป ห้องพักมากมายถูกแบ่งแยกไว้เป็นสัดส่วนมีทั้งพยาบาลและหมอเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดตึก"ถึงแล้ว"ทั้งสองเดินมาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของกระจกสามารถมองเห็นเข้าไปด้านในได้ ร่างกายของราชาราวกับถูกแช่แข็งเอาไว้เมื่อได้เห็นร่างหมดสติของมะลิกำลังนอนรักษาตัวอยู่บนเตียง"มะลิ ธะ...เธอเป็นอะไรทำไมถึงได้"ตอนแรกเขาคิดว่าเธอคงจะเป็นไข้ไม่สบายตามปกติ แต่เมื่อได้เห็นเครื่องช่วยหายใจสายระโยงระยางมากมายมันยิ่งทำให้ความคิดของเขาเริ่มเปลี่ยนไปใบหน้าสดใสดั่งในรูปกลับกลายเป็นใบหน้าซูบเซียวไร้สีเลือดไม่มีความสดใส ผิวพรรณขาวใสกลับซีดเซียวดั่งราวหิมะ ลมหายใจผ่อนเข้าออกอย่างเชื่องช้าราวกับว่าคนบนเตียงกำลังรู้สึกเหนื่อยจนไม่สามารถหายใจด้วยตนเองได้ เพียงแต่ได้เห็นก็ทำให้หั
เมฆหมอกครึ้มควันสีจางไม่มีวันเลือนหาย ร่างกายอ่อนแรงบนเตียงคนไข้ลืมตาตื่นขึ้นมา หยาดน้ำตารินไหนออกมาดั่งราวกับสายเลือดเมื่อนึกย้อนกลับไปก่อนเธอจะได้เข้ามาอยู่ในที่แห่งนี้'ความรักของเราสองคนมันคงจบลงแล้ว'นี่คือสิ่งที่เธอคิดมาตลอดและมันก็เป็นจริงดั่งว่าไว้"อาการของคนไข้กำลังอยู่ในวิกฤต หมออยากให้คนไข้ยุติการตั้งครรภ์เพื่อทำการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายหัวใจ"หมอคนเดิมที่รักษาอาการของเธอมาตั้งแต่ข้างต้นได้กล่าวเอาไว้ แม้มันจะเป็นทางเลือกที่ทำใจยากแต่มันเป็นทางเดียวที่จะรักษาชีวิตของมะลิเอาไว้ได้"คุณมะลิครับ"ใบหน้าซีดเซียวเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาหันมามองหน้าของคุณหมอด้วยความเศร้าเสียใจ"รักษาตัวเองก่อนเถอะนะครับ""ฮือ"เสียงสะอื้นของคนไข้ทำให้คนเป็นหมอเองก็แทบจะน้ำตาไหลเขารู้สึกเห็นใจหญิงสาวอยู่ไม่น้อย เหลือเวลาอีกเพียงแค่สีเดือนเท่านั้นที่ลูกน้อยจะได้ออกมาลืมตาแต่ทว่าร่างกายของเธอกลับแบกรับเอาไว้ไม่ไหว"มะลิทำไม่ได้ค่ะคุณหมอ อย่าบังคับให้มะลิต้องทำร้ายลูกเลยนะคะ"หัวอกคนเป็นแม่ย่อมไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ลูกน้อยเป็นดั่งแก้วตาดวงใจแม้จะยังไม่ได้เห็นหน้าแต่ความรักความผูกพันผ่านทางสายเลือดไม่สามารถบังคับใ
เพชรกล้าสั่งทุกคนให้ปิดเรื่องข่าวการแต่งงานระหว่างราชากับดอกฟ้าเป็นความลับ ห้ามคนในบ้านพูดถึงเพราะไม่ต้องการให้มะลิได้รับรู้ เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนเธอก็จะให้กำเนิดลูกน้อยออกมาและเมื่อถึงเวลานั้นเขาจะเป็นคนผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจให้เธอเองแต่ใครจะไปติดล่ะว่าทางด้านครอบครัวของราชาจะออกมาประกาศข่าวจนมีนักข่าวให้ความสนใจจนเป็นที่รับรู้กันทั้งประเทศว่าลูกชายของนักธุรกิจใหญ่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในไม่ช้านี้"มะลิ"เพชรกล้ารีบวิ่งเข้ามาคว้าร่างของมะลิโดยทันทีเมื่อเธอดันเคลื่อนทีวีเจอครอบครัวของราชาและดอกฟ้าแถลงข่าวซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี ร่างเล็กโอบอุ้มลูกน้อยในครรภ์เอาไว้ทรุดกายลงนั่งบนโซฟาตัวใหญ่อย่างคนไร้เรี่ยวแรงที่จะยืนไหว"คุณเพชร"ใบหน้าซีดเซียวของมะลิอาบไปด้วยหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาจนเปียกชุ่มทันทีเมื่อได้เห็นข่าวคนรักกำลังจะแต่งงานในไม่ช้านี้"ไม่เป็นอะไรนะ เธอยังมีฉันอยู่ตรงนี้""ฮึก มะลิเจ็บเหลือเกินค่ะ"สีหน้าของเธอแสดงถึงความเจ็บปวดและทรมานจนหายใจแทบจะไม่ทัน มันเหมือนกับว่ากำลังมีใครเอามือมาบีบหัวใจของเธอเอาไว้ให้เต้นลงช้า ๆ "มะลิ เธออย่าหลับนะ"เพชรกล้าคว้าร่างอ่อนแรงของมะลิขึ้นมาอ