ตอนที่ 10
หลังจากนั้นเขาก็พาเธอไปหาที่พัก เขาพาเธอไปดูหลายที่เธอไม่ไม่ใช่คนเรื่องมากเธอสามารถพักที่ไหนก็ได้ แต่เขาบอกกับเธอเสมอว่าความปลอดภัยจะละเลยไม่ได้ เธอเลยจำใจตามเขาไปดูที่พักต่าง ๆ จนมาหยุดที่ตึกสีขาวสะอาดตาสูง 5 ชั้น อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า ในซอยที่เงียบสงบ
“ที่จริงฉันอยู่ห้องเช่าเล็ก ๆ ก็ได้นะคะ” เธอกระซิบข้างหูร่างสูง เมื่อเดินตามเจ้าของอพาร์ตเมนต์เข้ามาดูห้องด้านใน
“ฉันบอกแล้วไง เธออยู่คนเดียวก็ต้องหาที่พักที่ปลอดภัย” ก็จริงตามที่เขาว่า ที่นี่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ครบครัน มีรถสาธารณะวิ่งผ่าน แต่ว่าอยู่ห้องแบบนี้มันไม่เกินกำลังของเธอไปหน่อยหรือ ลำพังรายได้ที่เธอได้รับก็ไม่ได้มากขนาดนั้น ที่ผ่านมาเธอมีบ้านให้อยู่อาศัย พอต้องออกมาใช้ชีวิตคนเดียว ไม่อยากจะคิดถึงค่าใช้จ่ายที่จะบานปลายตามมาเลย ไหนจะค่ามัดจำห้องที่ต้องจ่ายล่วงหน้าอีก
“ห้องเป็นอย่างไงบ้างคะ ชอบไหม” เจ้าของถาม
“ก็โอเคดีนะ” ห้องโล่งกว้างมีพื้นที่กำลังดี มีระบบรักษาความปลอดภัย เฟอร์นิเจอร์ครบ
“ผมตกลงเอาห้องนี้ครับ”
“คุณคณิณคะ...” เธอท้วง
“ฉันจัดการเอง” เขาหันไปพูดกับเธอ
“สะดวกเขาพักวันไหนคะ”
“วันนี้”
“งั้นเดี๋ยวเราลงไปเซ็นสัญญาด้านล่างกันค่ะ” เจ้าของที่พักผายมือเดินนำลงไปเคาน์เตอร์ด้านล่าง
และก็เป็นตามที่ร่างสูงพูด เขาจัดการเรื่องค่ามัดจำ ค่าประกันห้อง และค่าใช้จ่ายอื่นตามที่เขาบอกกับเธอไว้จริง ๆ เธอไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีคนใจดีกับเธอได้ขนาดนี้ เธอตัดสินใจว่าจะจ่ายเงินคืนให้คณิณ แต่ไม่รู้ว่ากี่ปีถึงจะคืนเงินให้เขาหมด
“ฉันจะพยายามทำงานหาเงินมาคืนคุณนะคะ” คณิณล้วงกระเป๋าคราง หึ ในลำคอ แล้วค่อย ๆ เดินออกไป เมื่อเธอเห็นเขากำลังจะเดินจากไป เธอรีบเดินเข้าไปขอกระดาษโน้ตและปากกาจากเคาน์เตอร์หอพัก แล้วบรรจงเขียนเบอร์โทรศัพท์และชื่อของเธอกำกับไว้ แล้วรีบวิ่งตามคุณคณิณ
“คุณคณิณคะ” ฝีเท้าชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกตามหลัง เขาหันกลับไปมองก็เห็นว่าแบบฝันกำลังวิ่งมาทางตน เธอยื่นแผ่นกระดาษให้เขา เขารับแล้วอ่านกระดาษในมือ
“นี่เป็นเบอร์โทรของฉัน ถ้าคุณคณิณมีอะไรให้ฉันช่วย โทรมาได้เลยนะคะ แล้วก็เป็นการรับประกันว่าฉันจะไม่หนีจ่ายเงินคืนคุณด้วยค่ะ” เธอคลี่ยิ้มบางส่งให้ เขาทำเพียงตอบรับในลำคอ
“ฉันขอตัวก่อนนะคะ” เธอโบกมือยิ้มแล้วเดินกลับที่พัก ตาคมมองแผ่นหลังบางค่อย ๆ จางหายไป
ร่างบอบบางพาตัวเองเข้ามาภายในห้อง ที่ได้กลายเป็นที่พักอาศัยใหม่ของเธอ เธอเข้ามาสำรวจห้องว่าขาดเหลืออะไรที่ต้องซื้อ เธอไม่มีเสื้อผ้าติดตัวมาซักชุด ของข้าวเครื่องใช้ส่วนตัวก็ไม่มี ยังดีที่มีเอกสารสำคัญติดตัวไว้อยู่บ้าง เธอถอนหายใจผ่อนคลายความกังวลในหลายเรื่อง ไม่รู้ว่าแม่เธอจะเลิกติดต่อเธอจริงอย่างที่คุณคณิณยื่นคำขาดไว้หรือเปล่า
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูหน้าห้องดึงเธอออกจากห้วงความคิด เธอเดินไปส่องตาแมวก็พบว่าเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์กำลังยื่นอยู่หน้าห้อง มือเรียวเปิดประตูรับ
“นี่เป็นเสื้อผ้า กับของใช้ส่วนตัวค่ะ” ว่าพลางยื่นถุงมากมายส่งให้เธอ เธอตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
“คุณคณิณบอกว่าถ้าขาดเหลืออะไรบอกฉันได้ตลอดเลยนะคะ” แล้วยื่นนามบัตรที่มีเบอร์โทรของเจ้าของอพาร์ตเมนต์ให้
“คุณคณิณบอกไว้เหรอคะ” ก้อนสะอึกเริ่มตีขึ้นลำคอ
“ใช่ค่ะ เขาฝากให้ฉันช่วยดูแลคุณด้วย” หญิงวัยกลางคนยิ้ม
เสียงปิดประตูดังขึ้น หลังจากรับของเข้ามาในห้อง ความรู้สึกท่วมท้นก่อตัวภายในจิตใจ ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทำไมเขาถึงดีกับเธอได้เหลือเกิน ใช่ว่าเธอจะเป็นคนโลกสวยมองคนในแง่ดี แต่การกระทำของเขามันสื่อออกมาเป็นแบบนี้จริง ๆ กลับกันมารดาในสายเลือดไม่เคยเหลียวแลเธอแม้ได้น้อย แต่ทำไมเขาคนนี้ถึงทำดีกับเธอมากมาย
“แล้วฉันจะตอบแทนคุณอย่างไงหมด” ตัวของเธอไหลพิงประตูอย่างคนหมดแรง ใบหน้าหวานซุกลงบนแขน แล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเป็นเพื่อน
ตอนที่ 52ตลอดทั้งวันคณิณไม่ได้กลับไปไหน เขาคอยช่วยยกของและจัดอาหารให้กับเด็กและทุกคน รวมถึงยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมหลาย ๆ อย่างด้วยท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีจากฟ้าใสกลายเป็นม่วงเข้ม เหล่าดาวระยิบระยับเรียงรายเหนือลานกิจกรรม เสียงหัวเราะและการพูดคุยค่อย ๆ เบาลง เมื่อเด็ก ๆ เริ่มทยอยกลับหลังเสร็จกิจกรรมตลอดวันแบบฝันเดินเข้าไปหาคณิณที่ยังนั่งอยู่ใต้แสงไฟสนามเล็ก ๆ เขากำลังคุยเล่นกับเด็ก ๆ ที่ยังไม่กลับบ้าน“น้ำค่ะ” เธอยื่นแก้วน้ำเปล่าส่งให้“ขอบคุณครับ” เขายิ้มดีใจที่เธอยังใส่ใจเขาอยู่“คุณกลับได้แล้วนะคะ มืดกว่านี้จะขับรถกลับลำบาก”“พี่ฝัน นี่ก็ค่ำแล้ว ให้คุณเขาพักกับพวกเราดีกว่าไหมคะ” น้อยหน่ารีบพูด“นั่นสิพี่ แถวนี้ขับรถยากจะตาย กลับตอนนี้มีแต่อันตราย” มาวินเสริมพลางมองหน้าขอความเห็นใจกับเธอแบบฝันมองบรรยากาศโดยรอบก็พบว่าตอนนี้ฟ้ามืด แล้วทางเข้าหมู่บ้านก็ทางโค้งค่อนข้างเยอะ ระยะทางหลายสิบกิโลเมตรกว่าจะเข้าสู่ถนนใหญ่ที่ไฟเริ่มเยอะ“แล้วจะให้เขาพักที่ไหน ห้องพักเต็มหมดแล้ว” เธอว่า“พักกับพี่ฝันไงคะ เดี๋ยวน้อยหน่าย้ายไปนอนกับเจนเอง มีนัดปาร์ตี้บอร์ดเกมกันน่ะค่ะ”“ถ้าเธอไม่สะดวก ฉันไปหาโรงแรม
ตอนที่ 51ณ ห้องประชุมขนาดกลางของคณะ โต๊ะยาวถูกดันต่อกันเป็นแนวยาวเต็มพื้นที่กลางห้อง รอบ ๆ มีแบบฝันและรุ่นน้องกำลังช่วยกันจัดเตรียมอุปกรณ์สื่อการสอน และเกมที่จะใช้ในค่าย พวกเขาตกลงกันว่าจะไปจัดค่ายสอนภาษาอังกฤษให้เด็กนักเรียนด้อยโอกาส ทุกคนขะมักเขม้นกับงานในมือ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ“การ์ดคำศัพท์เราเตรียมกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” แบบฝันถามขณะเดินตรวจสอบความเรียบร้อย“ใช่ครับ วินกับเพื่อนช่วยกันเช็กดูเรียบร้อยแล้ว” เสียงมาวินดังขึ้นจากอีกฝั่ง เขาชูถุงพลาสติกขนาดใหญ่ที่บรรจุการ์ดคำศัพท์ไว้หลายชุด“ได้แยกคำศัพท์เป็นหมวดหมู่ไหม”“แยกแล้วครับ แถมใส่ซองกันน้ำ เผื่อเจอสภาพอากาศไม่ดีด้วย”“โอเค ดีมากเลย”นอกจากจะเตรียมพวกการ์ดคำศัพท์และรูปภาพประกอบแล้ว พวกเขายังช่วยกันเตรียมเกมภาษาอังกฤษอย่างบิงโกคำศัพท์ และเกมจับคู่กับภาพด้วย“เราไปออกค่ายตั้ง 2 วัน พี่ได้บอกแฟนหรือยังคะ” น้อยหน่ารุ่นน้องกระซิบถาม“ไม่ใช่แฟนสักหน่อย” เธอแก้มแดงแล้วทำเป็นเสียงเข้มใส่“คนจีบก็ได้ค่ะ” คนอายุน้อยกว่าทำหน้าล้อเลียน “แต่จะว่าไปก็ไม่เห็นเขาตั้งหลายวันแล้วนะคะ ไม่ใช่ว่าเขาถอดใจไปแล้วนะ”“ก็เร
ตอนที่ 50คณิณยืนใต้ต้นไม้ใหญ่ตำแหน่งเดิมที่เขามักจะมารอเธอ เขามองไปรอบ ๆ อย่างประหม่า พยายามหาจังหวะให้ตัวเองกล้าที่จะเดินเข้าไปหาแบบฝันที่เพิ่งเดินออกจากห้องเรียนพร้อมเพื่อน ๆเมื่อสายตาของเธอสบกับเขา ความแปลกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้า แต่เธอพยายามรักษาสีหน้าสงบไว้ เธอบอกลาเพื่อนและเดินตรงมาหาเขา“มาที่นี่ทำไมคะ”คณิณยิ้มเล็กน้อย ยื่นถุงกระดาษที่ใส่กล่องเบนโตะไว้ในมือ“ฉันทำข้าวกล่องมาให้เธอ”แบบฝันมองเขาด้วยสายตาฉงนปนประหลาดใจ“คุณทำเองเหรอคะ”“ใช่” คณิณตอบเสียงเบา พยายามปั้นยิ้มให้ดูมั่นใจ แต่แล้วแบบฝันก็สังเกตเห็นปลาสเตอร์สีเนื้อที่พันรอบนิ้วชี้ข้างซ้ายของเขา เธอเลิกคิ้วด้วยความกังวล“นิ้วคุณไปโดนอะไรมาคะ” เธอถามพลางเอื้อมมือมาจับมือเขาดูเบา ๆ เพื่อดูให้ชัด ๆแม้จะรู้สึกดีใจที่อีกคนเป็นห่วง แต่เขาก็รีบชักมือกลับอย่างเขิน ๆ“ไม่มีอะไรหรอก แค่อุบัติเหตุตอนทำอาหารนิดหน่อย”“อุบัติเหตุนิดหน่อย?” แบบฝันขมวดคิ้วจ้องมองเขาไม่วางตา“ฉันไม่ชินกับอุปกรณ์ในครัวน่ะ เลยมีผิดพลาดบ้าง” คณิณหัวเราะแห้ง ๆ พลางหลบสายตา “แต่ไม่ต้องห่วงนะ ไม่มีเลือดตกลงไปในอาหารแน่นอน”แบบฝันมองเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก เธ
ตอนที่ 49หลังจากที่เขาไปหาเธอที่มหาวิทยาลัย ซึ่งก็มีนกบ้างไม่นกบ้าง เพราะบางช่วงที่เขาไปเธอไม่มีเรียนในช่วงนั้น เขาจึงตัดสินใจแอบขอตารางเรียนของเธอจากรุ่นน้องกลุ่มเดียวกับเธอ เพราะถ้าต้องขอจากเธอโดยตรง เธอน่าจะไม่ให้แน่นอนวันนี้แบบฝันมีเรียนช่วงเช้า เขาเลยว่าจะทำข้าวกล่องไปฝากเธอช่วงพักกลางวัน เลยกะว่าจะแค่แวะเอาข้าวกล่องไปฝากแล้วรีบกลับ เพราะตอนบ่ายเขามีประชุม แม้จะได้เห็นหน้าเธอแค่ไม่กี่นาทีก็น่าจะพอเยียวยาหัวใจที่เหี่ยวเฉาของเขาได้คณิณยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ในห้องครัว เขาสวมผ้ากันชนเปื้อนสีเข้มที่เพิ่งแกะจากห่อ เพราะปกติเขาไม่เคยทำอาหารทานเอง เลยเพิ่งจะไปซื้อผ้ากันเปื้อนสด ๆ ร้อน ๆ มาไว้ที่คอนโด เขาเปิดตำราอาหารที่เพิ่งลงทุนเดินเข้าร้านหนังสือในรอบหลายปีวางบนเคาน์เตอร์ทำอาหาร พร้อมเปิดไอแพดดูคลิปประกอบ แต่ถึงจะมีตัวช่วยมากมายแต่เขาก็ยังดูเงอะงะในทุกขั้นตอน“เริ่มจากหุงข้าว... ง่าย ๆ” เขาพึมพำให้กำลังใจตัวเองเขาตวงข้าวญี่ปุ่นใส่หม้อหุงข้าวแล้วเดินไปล้างข้าว แต่เผลอเปิดน้ำแรงเกินไปจนข้าวกระเด็นออกจากหม้อไปกว่าครึ่ง“ให้มันได้อย่างนี้สิ” เขาพึมพำพลางกวาดข้าวที่หกกลับมาใส่ในหม้ออย่างทุ
ตอนที่ 48วันต่อมา คณิณกลับมายังมหาวิทยาลัยอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ได้มาตัวเปล่า เขานำดอกไม้ช่อโตพร้อมจดหมายที่เขาเขียนความรู้สึกของตัวเองมาตลอดทั้งคืน ตรงมายังคณะที่แบบฝันเรียนเขานั่งรอเธอที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ ร่มรื่นและเงียบสงบเช่นเคย ดวงตาคมเข้มจ้องไปยังอาคารเรียน รอจนกระทั่งเสียงฝีเท้าของนักศึกษาทยอยออกจากคลาสเริ่มเบาบางลง เขาก็เห็นร่างเล็กของแบบฝันเดินออกมาพร้อมกับเพื่อนร่วมชั้นสองสามคนคณิณรีบลุกขึ้นทันที ก้าวตรงไปหาเธอด้วยหัวใจที่เต้นแรง เมื่อแบบฝันเงยหน้าขึ้นมาเห็นเขา ดวงตาของเธอก็ฉายแววตกใจชั่วครู่ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเย็นชา“คุณมาทำอะไรที่นี่อีกคะ” เสียงของเธอเรียบเฉย ราวกับไม่อยากให้ใครบริเวณนี้สังเกตเห็นเหตุการณ์แปลก ๆ“ฉันมาหาเธอ มาง้อเธอไง” คณิณพูดตรงไปตรงมา เพราะจากประสบการณ์สอนให้เขาต้องกล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง เขายื่นช่อดอกไม้ช่อโตให้เธอ แต่เธอกลับไม่ยื่นมือออกมารับ“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณแล้ว” แบบฝันตอบ น้ำเสียงชัดเจนเช่นกันเมื่อคนตรงหน้าดูจะใจแข็งกับเขา เขาจึงหันไปสบตากับนักศึกษาสาวที่เดินออกมาพร้อมกับแบบฝัน ที่กำลังยืนมองดูพวกเขาจากด้
ตอนที่ 47แบบฝันพาคณิณมาหยุดที่ม้านั่งใต้ร่มไม้ใหญ่ จุดที่ค่อนข้างเงียบสงบของมหาวิทยาลัย ใบไม้พลิ้วไหวตามแรงลมพัดอ่อน ๆ เธอยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมาทางเขา“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันคะ” น้ำเสียงของเธอนิ่งเรียบ แฝงไปด้วยความระมัดระวังคณิณยืนนิ่งไปชั่วอึดใจ สายตาของเขาจับจ้องมาที่เธอราวกับพยายามกลั่นกรองคำพูดที่อัดแน่นภายในใจ“แบบฝัน...” เขาเอ่ยชื่อเธอเบา ก่อนจะถอนหายใจยาว “ฉันแค่อยากขอโทษเธอ ขอโทษที่รู้ตัวช้า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันเพิ่งรู้ว่าใครคือคนที่ฉันรัก”แบบฝันชะงัก เธอกะพริบตา พยายามจับความหมายในคำพูดนั้น“คุณหมายความว่าอย่างไง” เธอถาม น้ำเสียงเธอเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจคณิณก้มหน้าลง มือทั้งสองข้างของเขากำแน่นอยู่ข้างตัว ราวกับพยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี “ฉันหมายความว่า... ไม่ใช่แค่เธอที่รู้สึกดีกับฉัน ที่จริงแล้วฉันก็รู้สึกดีกับเธอเหมือนกัน แต่ฉันมันขี้ขลาด ไม่กล้าพูดความรู้สึกของตัวเองให้เธอรู้ เพราะฉันยังลังเล สับสนกับความรู้สึกที่มีต่อแพรวา”แบบฝันนิ่งไป ใจของเธอสั่นไหวเล็กน้อย แต่พยายามไม่แสดงออกทางสีหน้า“ฉันมันโง่ที่เพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือคนที่ฉันอยากใช้ชีวิตด้วยใน