LOGINเมื่อการแต่งงานเริ่มต้นจากบุญคุณที่อยากตอบแทน... แต่หัวใจเจ้ากรรมดันตกหลุมรักผู้มีพระคุณเต็มเปา ความรู้สึกยากจะบรรยายจึงเกิดขึ้น
View Moreตอนที่ 1
ตะวันบ่ายคล้อยแสงแดดสีนวลสาดส่องเข้ามาภายในห้องทำงาน ของว่าที่ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังอย่าง คณิณ เกตพิพัฒน์สกุล ชายหนุ่มวัย 32 ปี เจ้าของใบหน้าหล่อเหล่า ดวงตาสีดำรัตติกาล ที่ใครจ้องมองต่างลุ่มหลง คิ้วหนาเรียงสวยขมวดขึ้นเป็นปมเบา ๆ
จนผู้มาใหม่อย่าง ชินกร ชายหนุ่มผมยาวประบ่าสีน้ำตาลเข้ม เพื่อนสนิทของเขาทักขึ้นด้วยน้ำเสียงทะเล้น
“เป็นอะไร หน้านิ่วคิ้วขมวด อย่างกับคนถ่ายไม่ออกมาหลายวัน”
“เรื่องเดิม” คณิณตอบเสียงราบเรียบไร้อารมณ์
เรื่องเดิมก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการต้องไปดูตัวของเจ้าเพื่อนหน้านิ่งสินะ
“แม่มึงขยันหาคู่ดูตัวมาให้ขนาดนี้แล้ว มึงก็เลือก ๆ สักคนเถอะ” คำพูดของชินกร ทำให้ร่างสูงหันขวับมองไม่สบอารมณ์
“มึงคิดว่าการแต่งงานมันง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง” คิ้วหนาเลิกขึ้นพร้อมกับจ้องมองราวจะกินเลือดกินเนื้อไม่
“มึงก็อายุอานามไม่ใช่น้อยแล้วนะเพื่อน มึงจะมัวเก็บความโสดเอาไว้ให้ใครเอ่ย พ่อแม่มึงก็อายุเริ่มมากแล้ว เขาก็อยากอุ้มหลาน” สัจธรรมชีวิตถูกเปล่งออกมาจากเพื่อนผู้ไม่เอาถ่าน ฉุกคิดถึงความเป็นจริงตามที่ชินกรพูด แต่การแต่งงานไม่ใช่เรื่องที่จะเอาใครก็ได้มาแต่ง
“อย่างน้อยขอให้กูได้เลือกบ้างเถอะ”
ชินกรส่ายหน้าแล้วถอนหายใจอย่างเอือมระอาเต็มทน ถ้ามัวแต่ให้เจ้าเพื่อนหน้านิ่งเลือก ไม่รู้ชาตินี้มันจะมีหวานใจให้ควงแขนด้วยเมื่อไร
“คืนนี้มึงว่างเปล่า” ชินกรเปลี่ยนเรื่องคุยเพราะคร้านจะพูดประเด็นนี้
“มีอะไร”
“ไอ้ริชมันบ่นคิดถึงอยากเจอมึง แชตไปหามึงก็ไม่อ่านข้อความมัน” มือหนาหยิบโทรศัพท์ใกล้ตัวเข้าไปในแอปพลิเคชันก็พบว่ามีข้อความของ วาริช เข้ามาจริง ๆ
“มันชวนไปดื่ม ไปไหม” คณิณนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง เพราะเขาไม่ใช่สายดื่มสักเท่าไหร่
“ไปเถอะ ถือว่าไปเปลี่ยนบรรยากาศ เผื่อมึงจะได้เจอสาวสวยถูกใจมึงด้วย” ประโยคหลังน่าจะเป็นจุดประสงค์หลักในการชวนเขาสินะ เขาจึงตกปากรับคำไป
บาร์หรูชั้นสูงสุดของโรงแรมระดับห้าดาวใจกลางเมืองหลวง ถูกเป็นสถานที่นัดพบของพวกเขา เมื่อเดินเข้ามาด้านปกคลุมด้วยบรรยากาศผ่อนคลายจากเพลงแจ๊สบรรเลงคลอเบา ๆ วาริช หนุ่มหล่อร่างสูงโปร่งเชิ้ตสีเข้มปลดกระดุมสองเม็ดบน ยกมือขึ้นเรียกพวกเขามายังโต๊ะที่นั่ง
“หยิ่งนักนะ ทักไปไม่เคยอ่าน” วาริชบ่นท่ามกลางเสียงดนตรีบรรเลงในร้าน
"โทษทีช่วงนี้ยุ่งนิดหน่อย" ชินกรขยับปากพูดตามเจ้าของคำพูดอย่างหยอกล้อ
“มาถึงก็จัด Neat เลยเหรอ” ชินกรเอ่ยแซวคนมาถึงก่อน เมื่อเห็นแก้วในมือของเจ้าดีเป็นเหล้าเพียว ไม่ใส่อะไรเลย คนถูกแซวไหวไหล่เล็กน้อยไม่ใส่ใจนักเพราะไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไร เลยเลือกที่ใช้เวลาจิบเครื่องดื่มไปเรื่อย ๆ ก่อนจะยกมือเรียกพนักงานในร้านมาสั่งเครื่องดื่มเพิ่ม
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าจะรับอะไรดีคะ” บริกรสาวเอ่ยถามอย่างนอบน้อม
“น้ำแร่หนึ่งที่” คณิณพูดเสียงเรียบ
“บ้าน่าเพื่อน มาถึงที่นี่ทั้งทีสั่งน้ำแร่เนี่ยนะ” ชินกรโวยใส่
“สะดวกแบบนี้” เขาพูดลอยหน้าลอยตาไม่สะทกสะท้านเพื่อนที่กำลังโวยวายใส่ตน
เหอะ ชินกรไม่อยากจะพูด
ตอนที่ 52ตลอดทั้งวันคณิณไม่ได้กลับไปไหน เขาคอยช่วยยกของและจัดอาหารให้กับเด็กและทุกคน รวมถึงยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมหลาย ๆ อย่างด้วยท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีจากฟ้าใสกลายเป็นม่วงเข้ม เหล่าดาวระยิบระยับเรียงรายเหนือลานกิจกรรม เสียงหัวเราะและการพูดคุยค่อย ๆ เบาลง เมื่อเด็ก ๆ เริ่มทยอยกลับหลังเสร็จกิจกรรมตลอดวันแบบฝันเดินเข้าไปหาคณิณที่ยังนั่งอยู่ใต้แสงไฟสนามเล็ก ๆ เขากำลังคุยเล่นกับเด็ก ๆ ที่ยังไม่กลับบ้าน“น้ำค่ะ” เธอยื่นแก้วน้ำเปล่าส่งให้“ขอบคุณครับ” เขายิ้มดีใจที่เธอยังใส่ใจเขาอยู่“คุณกลับได้แล้วนะคะ มืดกว่านี้จะขับรถกลับลำบาก”“พี่ฝัน นี่ก็ค่ำแล้ว ให้คุณเขาพักกับพวกเราดีกว่าไหมคะ” น้อยหน่ารีบพูด“นั่นสิพี่ แถวนี้ขับรถยากจะตาย กลับตอนนี้มีแต่อันตราย” มาวินเสริมพลางมองหน้าขอความเห็นใจกับเธอแบบฝันมองบรรยากาศโดยรอบก็พบว่าตอนนี้ฟ้ามืด แล้วทางเข้าหมู่บ้านก็ทางโค้งค่อนข้างเยอะ ระยะทางหลายสิบกิโลเมตรกว่าจะเข้าสู่ถนนใหญ่ที่ไฟเริ่มเยอะ“แล้วจะให้เขาพักที่ไหน ห้องพักเต็มหมดแล้ว” เธอว่า“พักกับพี่ฝันไงคะ เดี๋ยวน้อยหน่าย้ายไปนอนกับเจนเอง มีนัดปาร์ตี้บอร์ดเกมกันน่ะค่ะ”“ถ้าเธอไม่สะดวก ฉันไปหาโรงแรม
ตอนที่ 51ณ ห้องประชุมขนาดกลางของคณะ โต๊ะยาวถูกดันต่อกันเป็นแนวยาวเต็มพื้นที่กลางห้อง รอบ ๆ มีแบบฝันและรุ่นน้องกำลังช่วยกันจัดเตรียมอุปกรณ์สื่อการสอน และเกมที่จะใช้ในค่าย พวกเขาตกลงกันว่าจะไปจัดค่ายสอนภาษาอังกฤษให้เด็กนักเรียนด้อยโอกาส ทุกคนขะมักเขม้นกับงานในมือ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ“การ์ดคำศัพท์เราเตรียมกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” แบบฝันถามขณะเดินตรวจสอบความเรียบร้อย“ใช่ครับ วินกับเพื่อนช่วยกันเช็กดูเรียบร้อยแล้ว” เสียงมาวินดังขึ้นจากอีกฝั่ง เขาชูถุงพลาสติกขนาดใหญ่ที่บรรจุการ์ดคำศัพท์ไว้หลายชุด“ได้แยกคำศัพท์เป็นหมวดหมู่ไหม”“แยกแล้วครับ แถมใส่ซองกันน้ำ เผื่อเจอสภาพอากาศไม่ดีด้วย”“โอเค ดีมากเลย”นอกจากจะเตรียมพวกการ์ดคำศัพท์และรูปภาพประกอบแล้ว พวกเขายังช่วยกันเตรียมเกมภาษาอังกฤษอย่างบิงโกคำศัพท์ และเกมจับคู่กับภาพด้วย“เราไปออกค่ายตั้ง 2 วัน พี่ได้บอกแฟนหรือยังคะ” น้อยหน่ารุ่นน้องกระซิบถาม“ไม่ใช่แฟนสักหน่อย” เธอแก้มแดงแล้วทำเป็นเสียงเข้มใส่“คนจีบก็ได้ค่ะ” คนอายุน้อยกว่าทำหน้าล้อเลียน “แต่จะว่าไปก็ไม่เห็นเขาตั้งหลายวันแล้วนะคะ ไม่ใช่ว่าเขาถอดใจไปแล้วนะ”“ก็เร
ตอนที่ 50คณิณยืนใต้ต้นไม้ใหญ่ตำแหน่งเดิมที่เขามักจะมารอเธอ เขามองไปรอบ ๆ อย่างประหม่า พยายามหาจังหวะให้ตัวเองกล้าที่จะเดินเข้าไปหาแบบฝันที่เพิ่งเดินออกจากห้องเรียนพร้อมเพื่อน ๆเมื่อสายตาของเธอสบกับเขา ความแปลกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้า แต่เธอพยายามรักษาสีหน้าสงบไว้ เธอบอกลาเพื่อนและเดินตรงมาหาเขา“มาที่นี่ทำไมคะ”คณิณยิ้มเล็กน้อย ยื่นถุงกระดาษที่ใส่กล่องเบนโตะไว้ในมือ“ฉันทำข้าวกล่องมาให้เธอ”แบบฝันมองเขาด้วยสายตาฉงนปนประหลาดใจ“คุณทำเองเหรอคะ”“ใช่” คณิณตอบเสียงเบา พยายามปั้นยิ้มให้ดูมั่นใจ แต่แล้วแบบฝันก็สังเกตเห็นปลาสเตอร์สีเนื้อที่พันรอบนิ้วชี้ข้างซ้ายของเขา เธอเลิกคิ้วด้วยความกังวล“นิ้วคุณไปโดนอะไรมาคะ” เธอถามพลางเอื้อมมือมาจับมือเขาดูเบา ๆ เพื่อดูให้ชัด ๆแม้จะรู้สึกดีใจที่อีกคนเป็นห่วง แต่เขาก็รีบชักมือกลับอย่างเขิน ๆ“ไม่มีอะไรหรอก แค่อุบัติเหตุตอนทำอาหารนิดหน่อย”“อุบัติเหตุนิดหน่อย?” แบบฝันขมวดคิ้วจ้องมองเขาไม่วางตา“ฉันไม่ชินกับอุปกรณ์ในครัวน่ะ เลยมีผิดพลาดบ้าง” คณิณหัวเราะแห้ง ๆ พลางหลบสายตา “แต่ไม่ต้องห่วงนะ ไม่มีเลือดตกลงไปในอาหารแน่นอน”แบบฝันมองเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก เธ
ตอนที่ 49หลังจากที่เขาไปหาเธอที่มหาวิทยาลัย ซึ่งก็มีนกบ้างไม่นกบ้าง เพราะบางช่วงที่เขาไปเธอไม่มีเรียนในช่วงนั้น เขาจึงตัดสินใจแอบขอตารางเรียนของเธอจากรุ่นน้องกลุ่มเดียวกับเธอ เพราะถ้าต้องขอจากเธอโดยตรง เธอน่าจะไม่ให้แน่นอนวันนี้แบบฝันมีเรียนช่วงเช้า เขาเลยว่าจะทำข้าวกล่องไปฝากเธอช่วงพักกลางวัน เลยกะว่าจะแค่แวะเอาข้าวกล่องไปฝากแล้วรีบกลับ เพราะตอนบ่ายเขามีประชุม แม้จะได้เห็นหน้าเธอแค่ไม่กี่นาทีก็น่าจะพอเยียวยาหัวใจที่เหี่ยวเฉาของเขาได้คณิณยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ในห้องครัว เขาสวมผ้ากันชนเปื้อนสีเข้มที่เพิ่งแกะจากห่อ เพราะปกติเขาไม่เคยทำอาหารทานเอง เลยเพิ่งจะไปซื้อผ้ากันเปื้อนสด ๆ ร้อน ๆ มาไว้ที่คอนโด เขาเปิดตำราอาหารที่เพิ่งลงทุนเดินเข้าร้านหนังสือในรอบหลายปีวางบนเคาน์เตอร์ทำอาหาร พร้อมเปิดไอแพดดูคลิปประกอบ แต่ถึงจะมีตัวช่วยมากมายแต่เขาก็ยังดูเงอะงะในทุกขั้นตอน“เริ่มจากหุงข้าว... ง่าย ๆ” เขาพึมพำให้กำลังใจตัวเองเขาตวงข้าวญี่ปุ่นใส่หม้อหุงข้าวแล้วเดินไปล้างข้าว แต่เผลอเปิดน้ำแรงเกินไปจนข้าวกระเด็นออกจากหม้อไปกว่าครึ่ง“ให้มันได้อย่างนี้สิ” เขาพึมพำพลางกวาดข้าวที่หกกลับมาใส่ในหม้ออย่างทุ





