ตอนที่ 11
คฤหาสน์ใหญ่โตตั้งตระหง่านบนพื้นกว้างขวาง โอบล้อมด้วยสวนหย่อมที่ถูกจัดแต่งด้วยความประณีต วันนี้คุณหญิงมณีคุณแม่ของคณิณชวนเขามารับประทานอาหารที่บ้าน เนื่องจากบ่นว่าลูกชายไม่ได้มาร่วมโต๊ะทานข้าวด้วยกันนานแล้ว
“น้องรินลดา เป็นอย่างไงบ้างลูก” เธอเอ่ยถาม
“ก็ดีครับ” เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจนักตักอาหารรับประทาน
“แต่หนูรินโทรมาร้องไห้กับแม่ บอกว่าลูกบอกเลิกน้อง” คุณหญิงจ้องมองลูกชายไม่วางตา เขาวางช้อนส้อมลงแล้วถอนหายใจเล็กน้อย คิ้วหนาขมวดเป็นปม จะบอกว่าขอเลิกได้อย่างไร ในเมื่อไม่เคยคบกัน
“ผมไม่ชอบครับ”
“โถลูก แล้วคนแบบไหนที่ลูกจะชอบล่ะ” คนเป็นแม่ทำหน้าเหนื่อยกับการหาผู้หญิงมาให้ลูกชายดูตัว ซึ่งเธอพยายามหาในหลายแบบให้ลูกชายเลือก แต่ก็ไม่ถูกใจคณิณสักคน เพื่อนของเธอได้อุ้มหลานกันเกือบหมดแล้ว แต่เธอยังไม่มีแม้แต่ลูกสะใภ้ ไม่รู้ลูกมาตรฐานผู้หญิงที่ลูกชายเธอชอบเป็นแบบไหนกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้าเธอก็อายุเริ่มมากขึ้นทุกปี เธออยากมีเรี่ยวแรงช่วยเลี้ยงดูหลาน ไม่อยากแก่หง่อมถึงชนิดที่ว่าอุ้มหลานไม่ไหวหรอกนะ
“ผมยังไม่เจอ” เธอถอนหายใจหมดคำจะพูด นึกถึงแม่หนูคนรักเก่าของลูกชาย ขนาดหาคนหน้าคล้ายก็แล้ว ยังไม่ถูกใจลูกคนนี้เลย อย่างว่ามันเป็นเรื่องของความรู้สึก เธอเองก็พอเข้าใจ แต่จะให้เธอรอนานไปกว่านี้ก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะเจอ บางทีจุดเริ่มต้นมันอาจจะไม่ต้องเกิดจากความรักก็ได้ เดี๋ยวอยู่กันไปก็รักกันเอง
“อย่าไปคาดคั้นลูกมากเลยคุณ” สุเมธผู้เป็นประมุขของบ้านนั่งฟังบทสนทนาแม่ลูกนานเอ่ยขึ้น นานทีลูกชายจะกลับมาทานข้าวที่บ้านเขาไม่อยากให้เสียบรรยากาศ
“ไม่รู้แหละ แม่ขอยื่นคำขาดเลยนะควินท์ แม่ไม่สนหรอก ว่าลูกจะรักหรือไม่รักใคร แม่อยากอุ้มหลาน ทำให้แม่ได้ไหม ถือว่าแม่ขอนะ” คงจะสุดแล้วจริง ๆ แม่ถึงขนาดเรียกชื่อเล่นของเขาแล้วขอร้องอย่างนี้
“อีกไม่นานลูกก็ต้องรับช่วงต่อจากพ่อด้วย อย่างน้อยควรมีผู้หญิงไว้ควงออกงานสังคมบ้าง” ก็จริงอย่างที่ผู้เป็นแม่กล่าว
“ครับ แต่ผมขอเลือก-”
“อุ๊ย! คุณเกตุทักมาพอดีเลย” เธอดูโทรศัพท์ในมือ
“ลูกสาวของคุณเกตุสวยมากเลยนะ ดูสิ” เธอยื่นรูปลูกสาวเพื่อนให้คณิณดู
“น้องเพิ่งกลับมาจากเรียนต่างประเทศพอดี หน้าตาสะสวย การศึกษาก็ดี ให้แม่นัดให้เอาไหม”
“ผมขอเลือกเองเถอะครับ” หลังจากได้ยินคำพูดของลูกชายสีหน้ายิ้มแย้มเมื่อครู่ก็พลันหายไป ก่อนจะเปลี่ยนเป็นถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง
“ก็ได้ แต่” เธอวรรคประโยคอยู่ครู่หนึ่ง “แม่ให้เวลาแค่ภายในสัปดาห์นี้”
“ทำไมเร็วจังครับ” เขารีบแย้ง
“ลูกผลัดแม่มากี่ครั้งแล้วควินท์ ภายในสัปดาห์นี้พาผู้หญิงที่ลูกถูกใจมาหาแม่ด้วย เข้าใจไหม” เธอพูดชัดถ้อยชัดคำเป็นการยื่นคำขาด
“ครับ” ผู้เป็นพ่อมองดูแม่ลูกเงียบ ๆ ไม่อยากเข้าไปร่วมวงด้วยเท่าไหร่ เขาก็พอเข้าใจลูกชาย แต่ก็เข้าใจภรรยาอีกเช่นกัน ลำบากใจแต่ก็อยากเห็นลูกชายเป็นฝั่งเป็นฝาเหมือนลูกบ้านอื่นเสียที บางทีการยื่นคำขาดแบบนี้อาจทำให้คณิณกระตือรือร้นเรื่องนี้มากขึ้น เพราะสถานการณ์ของบริษัทตอนนี้ก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงมากมาย น่าจะพอให้ลูกชายละความสนใจไปเรื่องอื่นได้บ้าง
หลังจากสิ้นสุดการประชุมผลประมาณการโครงการที่ผ่านมา เขาก็ยกสายโทรไปชวนชินกรและวาริชไปดื่มเหล้า ใบหน้าหล่อคม คิดไม่ตกกับคำพูดของผู้เป็นแม่ ไม่คิดว่าแม่จะรวบรัดเขาขนาดนี้
“โห แม่มึงพูดขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ชินกรอุทานอย่างไม่เหลือเชื่อคำขาดของคุณหญิงมณี
“เออ” คณิณร้องรับแล้วกระดกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าปาก ครั้งนี้คงจะหนักเอาการ ถึงขั้นชวนพวกเขามาดื่ม
“ผู้หญิงมีเยอะแยะ เลือก ๆ สักคนก็พอได้อยู่” ยิ่งหน้าตาแบบคณิณ ใครจะกล้าปฏิเสธลง ชินกรว่า
“ถ้ามันง่ายขนาดนั้นก็ดีสิ”
“มึงนั่นแหละคิดอะไรให้ยาก” ชินกรพยักเห็นด้วยกับคำพูดของวาริช
“ให้กูแนะนำให้ไหม” ชินกรอาสา
“ไม่ต้อง” เขารีบปฏิเสธทันที เพราะพอจะรู้ว่าชินกรจะแนะนำผู้หญิงแบบไหนให้เขา
“กูไม่ใช่พวกพ่อเล้านะเว้ย กูมีเพื่อนเยอะ น่าจะพอพามาให้มึงทำความรู้จักได้ต่างหาก” ชินกรรีบพูดปกป้องตัวเอง แต่คณิณดูไม่สนใจกระดกเครื่องอำพันจนหมดแก้ว
“คอแห้งอะไรขนาดนั้น” วาริชมองแก้วของคณิณในมือที่ว่างเปล่า ก่อนจะเรียกพนักงานในร้านมาสั่งเครื่องดื่มเพิ่ม
แก้วแล้วแก้วเล่าถูกกระดกจนเกลี้ยง เพื่อนทั้งสองมองเพื่อนหน้านิ่งด้วยแววตาเหลือเชื่อ ไม่บ่อยนักที่จะเห็นเขาดื่มเยอะขนาดนี้ คงจะเครียดน่าดู
“พอได้แล้วมั้งเพื่อน เดี๋ยวก็ขับรถกลับไม่ไหวหรอก” ชินกรว่า คณิณตอบรับในลำคอ
“มื้อนี้กูจ่ายเอง” เพราะเหมือนวันนี้เขาจะดื่มเยอะกว่าคนอื่น เขาว่าพลางหยิบกระเป๋าสตางค์ค้นหาบัตรเครดิตยื่นให้พนักงาน แต่สายตากลับไปสะดุดเศษกระดาษที่มีเบอร์กับชื่อเจ้าของกำกับไว้
เขาเก็บมันไว้ในนี้สินะ
ไม่รู้อะไรทำให้เขาพาตัวเองมาที่อพาร์ตเมนต์ของเธอ เขานั่งรอบริเวณโต๊ะหินอ่อนด้านหน้าทางเข้า
“เลิกงานแล้วเหรอ” เขาเอ่ยเรียกเมื่อหญิงสาวกำลังสแกนคีย์การ์ดเข้าประตูด้านในของที่พัก
“คุณคณิณ” ตากลมเบิกโตด้วยความตกใจที่เจอเขาในเวลานี้ หลังจากเรื่องในวันนั้นเธอก็ไม่ได้เจอเขานานเป็นสัปดาห์ แต่กลับมาเจอตอนเกือบตีสอง
“ทำไมมาอยู่ที่นี่คะ?” เสียงใสถาม
“มารอเธอ” ยิ่งคำพูดของเขายิ่งทำให้คิ้วเรียวเลิกขึ้นด้วยความสงสัย และเมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากคนตัวสูง
“ดื่มมาเหรอคะ?”
“อืม นิดหน่อย” เขาว่า
“เข้าไปข้างในก่อนไหมคะ ตรงนี้ยุงเยอะ” เธอว่าก่อนจะชวนเขาเข้าไปในห้องพักของเธอ
เมื่อมาถึงข้างในห้อง เธอก็รีบไปหยิบน้ำดื่มมารินใส่แก้ว แล้วยื่นให้เขาที่นั่งบนโต๊ะกินข้าว
“น้ำค่ะ” เธอว่า
“ขอบใจ”
ร่างเบาขยับเก้าอี้มานั่งฝังตรงข้าม “มาหาฉันมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”
ดวงตาคมสีนิลของคณิณสบเขากับตากลมโตสีอัลมอนด์แล้วจ้องมองลึกเข้าไปภายในราวกับกำลังสื่อสารอะไรบางอย่าง
“ช่วยแกล้งเป็นคนรักของฉันหน่อยได้ไหม”
ตอนที่ 52ตลอดทั้งวันคณิณไม่ได้กลับไปไหน เขาคอยช่วยยกของและจัดอาหารให้กับเด็กและทุกคน รวมถึงยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมหลาย ๆ อย่างด้วยท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีจากฟ้าใสกลายเป็นม่วงเข้ม เหล่าดาวระยิบระยับเรียงรายเหนือลานกิจกรรม เสียงหัวเราะและการพูดคุยค่อย ๆ เบาลง เมื่อเด็ก ๆ เริ่มทยอยกลับหลังเสร็จกิจกรรมตลอดวันแบบฝันเดินเข้าไปหาคณิณที่ยังนั่งอยู่ใต้แสงไฟสนามเล็ก ๆ เขากำลังคุยเล่นกับเด็ก ๆ ที่ยังไม่กลับบ้าน“น้ำค่ะ” เธอยื่นแก้วน้ำเปล่าส่งให้“ขอบคุณครับ” เขายิ้มดีใจที่เธอยังใส่ใจเขาอยู่“คุณกลับได้แล้วนะคะ มืดกว่านี้จะขับรถกลับลำบาก”“พี่ฝัน นี่ก็ค่ำแล้ว ให้คุณเขาพักกับพวกเราดีกว่าไหมคะ” น้อยหน่ารีบพูด“นั่นสิพี่ แถวนี้ขับรถยากจะตาย กลับตอนนี้มีแต่อันตราย” มาวินเสริมพลางมองหน้าขอความเห็นใจกับเธอแบบฝันมองบรรยากาศโดยรอบก็พบว่าตอนนี้ฟ้ามืด แล้วทางเข้าหมู่บ้านก็ทางโค้งค่อนข้างเยอะ ระยะทางหลายสิบกิโลเมตรกว่าจะเข้าสู่ถนนใหญ่ที่ไฟเริ่มเยอะ“แล้วจะให้เขาพักที่ไหน ห้องพักเต็มหมดแล้ว” เธอว่า“พักกับพี่ฝันไงคะ เดี๋ยวน้อยหน่าย้ายไปนอนกับเจนเอง มีนัดปาร์ตี้บอร์ดเกมกันน่ะค่ะ”“ถ้าเธอไม่สะดวก ฉันไปหาโรงแรม
ตอนที่ 51ณ ห้องประชุมขนาดกลางของคณะ โต๊ะยาวถูกดันต่อกันเป็นแนวยาวเต็มพื้นที่กลางห้อง รอบ ๆ มีแบบฝันและรุ่นน้องกำลังช่วยกันจัดเตรียมอุปกรณ์สื่อการสอน และเกมที่จะใช้ในค่าย พวกเขาตกลงกันว่าจะไปจัดค่ายสอนภาษาอังกฤษให้เด็กนักเรียนด้อยโอกาส ทุกคนขะมักเขม้นกับงานในมือ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ“การ์ดคำศัพท์เราเตรียมกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” แบบฝันถามขณะเดินตรวจสอบความเรียบร้อย“ใช่ครับ วินกับเพื่อนช่วยกันเช็กดูเรียบร้อยแล้ว” เสียงมาวินดังขึ้นจากอีกฝั่ง เขาชูถุงพลาสติกขนาดใหญ่ที่บรรจุการ์ดคำศัพท์ไว้หลายชุด“ได้แยกคำศัพท์เป็นหมวดหมู่ไหม”“แยกแล้วครับ แถมใส่ซองกันน้ำ เผื่อเจอสภาพอากาศไม่ดีด้วย”“โอเค ดีมากเลย”นอกจากจะเตรียมพวกการ์ดคำศัพท์และรูปภาพประกอบแล้ว พวกเขายังช่วยกันเตรียมเกมภาษาอังกฤษอย่างบิงโกคำศัพท์ และเกมจับคู่กับภาพด้วย“เราไปออกค่ายตั้ง 2 วัน พี่ได้บอกแฟนหรือยังคะ” น้อยหน่ารุ่นน้องกระซิบถาม“ไม่ใช่แฟนสักหน่อย” เธอแก้มแดงแล้วทำเป็นเสียงเข้มใส่“คนจีบก็ได้ค่ะ” คนอายุน้อยกว่าทำหน้าล้อเลียน “แต่จะว่าไปก็ไม่เห็นเขาตั้งหลายวันแล้วนะคะ ไม่ใช่ว่าเขาถอดใจไปแล้วนะ”“ก็เร
ตอนที่ 50คณิณยืนใต้ต้นไม้ใหญ่ตำแหน่งเดิมที่เขามักจะมารอเธอ เขามองไปรอบ ๆ อย่างประหม่า พยายามหาจังหวะให้ตัวเองกล้าที่จะเดินเข้าไปหาแบบฝันที่เพิ่งเดินออกจากห้องเรียนพร้อมเพื่อน ๆเมื่อสายตาของเธอสบกับเขา ความแปลกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้า แต่เธอพยายามรักษาสีหน้าสงบไว้ เธอบอกลาเพื่อนและเดินตรงมาหาเขา“มาที่นี่ทำไมคะ”คณิณยิ้มเล็กน้อย ยื่นถุงกระดาษที่ใส่กล่องเบนโตะไว้ในมือ“ฉันทำข้าวกล่องมาให้เธอ”แบบฝันมองเขาด้วยสายตาฉงนปนประหลาดใจ“คุณทำเองเหรอคะ”“ใช่” คณิณตอบเสียงเบา พยายามปั้นยิ้มให้ดูมั่นใจ แต่แล้วแบบฝันก็สังเกตเห็นปลาสเตอร์สีเนื้อที่พันรอบนิ้วชี้ข้างซ้ายของเขา เธอเลิกคิ้วด้วยความกังวล“นิ้วคุณไปโดนอะไรมาคะ” เธอถามพลางเอื้อมมือมาจับมือเขาดูเบา ๆ เพื่อดูให้ชัด ๆแม้จะรู้สึกดีใจที่อีกคนเป็นห่วง แต่เขาก็รีบชักมือกลับอย่างเขิน ๆ“ไม่มีอะไรหรอก แค่อุบัติเหตุตอนทำอาหารนิดหน่อย”“อุบัติเหตุนิดหน่อย?” แบบฝันขมวดคิ้วจ้องมองเขาไม่วางตา“ฉันไม่ชินกับอุปกรณ์ในครัวน่ะ เลยมีผิดพลาดบ้าง” คณิณหัวเราะแห้ง ๆ พลางหลบสายตา “แต่ไม่ต้องห่วงนะ ไม่มีเลือดตกลงไปในอาหารแน่นอน”แบบฝันมองเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก เธ
ตอนที่ 49หลังจากที่เขาไปหาเธอที่มหาวิทยาลัย ซึ่งก็มีนกบ้างไม่นกบ้าง เพราะบางช่วงที่เขาไปเธอไม่มีเรียนในช่วงนั้น เขาจึงตัดสินใจแอบขอตารางเรียนของเธอจากรุ่นน้องกลุ่มเดียวกับเธอ เพราะถ้าต้องขอจากเธอโดยตรง เธอน่าจะไม่ให้แน่นอนวันนี้แบบฝันมีเรียนช่วงเช้า เขาเลยว่าจะทำข้าวกล่องไปฝากเธอช่วงพักกลางวัน เลยกะว่าจะแค่แวะเอาข้าวกล่องไปฝากแล้วรีบกลับ เพราะตอนบ่ายเขามีประชุม แม้จะได้เห็นหน้าเธอแค่ไม่กี่นาทีก็น่าจะพอเยียวยาหัวใจที่เหี่ยวเฉาของเขาได้คณิณยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ในห้องครัว เขาสวมผ้ากันชนเปื้อนสีเข้มที่เพิ่งแกะจากห่อ เพราะปกติเขาไม่เคยทำอาหารทานเอง เลยเพิ่งจะไปซื้อผ้ากันเปื้อนสด ๆ ร้อน ๆ มาไว้ที่คอนโด เขาเปิดตำราอาหารที่เพิ่งลงทุนเดินเข้าร้านหนังสือในรอบหลายปีวางบนเคาน์เตอร์ทำอาหาร พร้อมเปิดไอแพดดูคลิปประกอบ แต่ถึงจะมีตัวช่วยมากมายแต่เขาก็ยังดูเงอะงะในทุกขั้นตอน“เริ่มจากหุงข้าว... ง่าย ๆ” เขาพึมพำให้กำลังใจตัวเองเขาตวงข้าวญี่ปุ่นใส่หม้อหุงข้าวแล้วเดินไปล้างข้าว แต่เผลอเปิดน้ำแรงเกินไปจนข้าวกระเด็นออกจากหม้อไปกว่าครึ่ง“ให้มันได้อย่างนี้สิ” เขาพึมพำพลางกวาดข้าวที่หกกลับมาใส่ในหม้ออย่างทุ
ตอนที่ 48วันต่อมา คณิณกลับมายังมหาวิทยาลัยอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ได้มาตัวเปล่า เขานำดอกไม้ช่อโตพร้อมจดหมายที่เขาเขียนความรู้สึกของตัวเองมาตลอดทั้งคืน ตรงมายังคณะที่แบบฝันเรียนเขานั่งรอเธอที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ ร่มรื่นและเงียบสงบเช่นเคย ดวงตาคมเข้มจ้องไปยังอาคารเรียน รอจนกระทั่งเสียงฝีเท้าของนักศึกษาทยอยออกจากคลาสเริ่มเบาบางลง เขาก็เห็นร่างเล็กของแบบฝันเดินออกมาพร้อมกับเพื่อนร่วมชั้นสองสามคนคณิณรีบลุกขึ้นทันที ก้าวตรงไปหาเธอด้วยหัวใจที่เต้นแรง เมื่อแบบฝันเงยหน้าขึ้นมาเห็นเขา ดวงตาของเธอก็ฉายแววตกใจชั่วครู่ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเย็นชา“คุณมาทำอะไรที่นี่อีกคะ” เสียงของเธอเรียบเฉย ราวกับไม่อยากให้ใครบริเวณนี้สังเกตเห็นเหตุการณ์แปลก ๆ“ฉันมาหาเธอ มาง้อเธอไง” คณิณพูดตรงไปตรงมา เพราะจากประสบการณ์สอนให้เขาต้องกล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง เขายื่นช่อดอกไม้ช่อโตให้เธอ แต่เธอกลับไม่ยื่นมือออกมารับ“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณแล้ว” แบบฝันตอบ น้ำเสียงชัดเจนเช่นกันเมื่อคนตรงหน้าดูจะใจแข็งกับเขา เขาจึงหันไปสบตากับนักศึกษาสาวที่เดินออกมาพร้อมกับแบบฝัน ที่กำลังยืนมองดูพวกเขาจากด้
ตอนที่ 47แบบฝันพาคณิณมาหยุดที่ม้านั่งใต้ร่มไม้ใหญ่ จุดที่ค่อนข้างเงียบสงบของมหาวิทยาลัย ใบไม้พลิ้วไหวตามแรงลมพัดอ่อน ๆ เธอยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมาทางเขา“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันคะ” น้ำเสียงของเธอนิ่งเรียบ แฝงไปด้วยความระมัดระวังคณิณยืนนิ่งไปชั่วอึดใจ สายตาของเขาจับจ้องมาที่เธอราวกับพยายามกลั่นกรองคำพูดที่อัดแน่นภายในใจ“แบบฝัน...” เขาเอ่ยชื่อเธอเบา ก่อนจะถอนหายใจยาว “ฉันแค่อยากขอโทษเธอ ขอโทษที่รู้ตัวช้า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันเพิ่งรู้ว่าใครคือคนที่ฉันรัก”แบบฝันชะงัก เธอกะพริบตา พยายามจับความหมายในคำพูดนั้น“คุณหมายความว่าอย่างไง” เธอถาม น้ำเสียงเธอเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจคณิณก้มหน้าลง มือทั้งสองข้างของเขากำแน่นอยู่ข้างตัว ราวกับพยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี “ฉันหมายความว่า... ไม่ใช่แค่เธอที่รู้สึกดีกับฉัน ที่จริงแล้วฉันก็รู้สึกดีกับเธอเหมือนกัน แต่ฉันมันขี้ขลาด ไม่กล้าพูดความรู้สึกของตัวเองให้เธอรู้ เพราะฉันยังลังเล สับสนกับความรู้สึกที่มีต่อแพรวา”แบบฝันนิ่งไป ใจของเธอสั่นไหวเล็กน้อย แต่พยายามไม่แสดงออกทางสีหน้า“ฉันมันโง่ที่เพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือคนที่ฉันอยากใช้ชีวิตด้วยใน