LOGIN"อ๊า อูยยย รุ่นพี่ค่ะ แพรรู้สึกแปลกๆ อ้า แต่มันดีมากๆ เร็วอีกหน่อยค่ะ พี่พายุ!" เสียงหวานของแพรไหมเอื้อนเอ่ย เรียกชื่อชายตรงหน้า ด้วยความรู้สึกสุขในอุรา เมื่อร่างกายได้ปลดปล่อยหลั่งสารเอ็นโดรฟินออกมา จนพายุสัมผัสได้ถึงน้ำรักของเธอ ที่มันไหลเยิ้มเปียกชุ่มท่อนเอ็นร้อนของเขา
"อ๊า อ้า รุ่นพี่" แพรไหมพูดและครางออกมาพร้อมกับกระตุกตัวเกร็งงอ มือเล็กเรียวจิกผ้าปูมากุมเอาไว้แน่น ในขณะที่เธอรู้สึกเหมือนกับว่าวิญญาณได้ลอยออกจากร่างไปแล้ว เพราะมันเบาหวิวและรู้สึกดีไม่น้อย
พายุยิ้มกว้าง เขาพึงพอใจกับภาพตรงหน้า เมื่อเวลานี้อกนูนกลมโต พร้อมกับบัวอมชมพูตรงกลางกำลังสั่นกระเพื่อม เมื่อเขาดันสะโพกโยกเข้าออกอีกครั้ง
"คราวนี้พี่ขอบ้างนะแพรไหม ขอแตกในด้วยแล้วกันคงจะฟินน่าดูเพราะไม่เคยลอง" แพรไหมไม่ปฏิเสธใดๆ ออกไปสักคำ เธอปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจ ยิ่งพายุกระแทกเข้ามาแรงเท่าไหร่ แพรไหมกลับยิ่งชอบใจ โดยไม่ได้สนว่าช่วงล่างนั้นมันกำลังระบม
"อ้า เสียวมาก พี่จะแตกแล้ว" พายุพูดพร้อมกับเร่งความเร็ว ในขณะที่ตัวเขาเริ่มบิดเกร็ง แต่ทว่าแรงดันท่อนเอ็นนั้นกลับหนักหน่วง เมื่อชายร่างกายกำยำเริ่มเกร็งกระตุกเพราะความเสียว น้ำลาวาขุ่นได้พวยพุ่งเข้าในรูเสียวของหญิงสาวหมดทุกหยาดหยด ในขณะที่ก้นมนแอ่นงอนขึ้นรับจังหวะพวยพุ่งน้ำรักจากชายหนุ่ม จังหวะเดียวกันหญิงสาวได้เริ่มบิดตัวเกร็ง เมื่อเธอนั้นได้เสพสมในรสสวาทจากชายรุ่นพี่เป็นรอบที่สอง
ร่างของชายหญิงเปลือยเปล่านอนกอดกันกลม เมื่อทั้งสองนั้นเหน็ดเหนื่อย จากสนามรักมาทั้งคืนไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ แพรไหมอ้อนวอนให้เขาได้ทำอย่างหนำใจกว่ายาจะหมดฤทธิ์ พายุเองคางแทบเหลือง เมื่อหญิงสาวออดอ้อนขอแล้วขออีก จนน้ำในมักกรยักษ์แทบไม่เหลือสักหยด แสงที่มันแยงตาทำให้แค่ไหนรู้สึกตัว หญิงสาวค่อยๆ ขยับเปลือกตาขึ้นเพื่อปรับกับแสง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเธอนั้นรู้สึกตัวดี แต่ไม่สามารถควบคุมมันได้ และเวลานี้คงไม่โทษใคร พร้อมน้อมรับกับโชคชะตา เธอค่อยจับลำแขนชายข้างกายออกอย่างช้าๆ ความรู้สึกดีที่มีค่อยๆ จางหายไป
แพรไมไม่คิดมาก่อนเลยว่าพายุจะทำเรื่องสกปรกแบบนี้กับเธอได้ เท้าเล็กเหยียบลงบนพื้นแข็ง ก่อนจะค่อยๆ ทรงตัวยืนขึ้น เธอรู้สึกเจ็บช่วงล่างที่มันเริ่มระบมมากหรืออาจจะอักเสบไปแล้วก็ได้ ความรู้สึกที่มีในเวลานี้หญิงสาวต้องกล้ำกลืนฝืนทน หยิบชุดชั้นในมาสวมใส่ ก่อนจะค่อยๆ เดินตะเกียกตะกายเข้าไปในห้องน้ำ
เธอเอื้อมมือไปหยิบชุดนักศึกษามาสวมพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินลงมาอาบแก้มสองข้าง หมดสิ้นแล้วความสาวที่รักษามาทั้งชีวิต ที่สำคัญคนที่ได้มันไป เขากลับไม่คิดเห็นคุณค่า หญิงสาวยกมือเรียวขึ้นมาปาดน้ำตาให้กับตัวเอง ด้วยหัวใจที่แสนจะเจ็บปวด เมื่อหัวใจดวงน้อยได้แตกสลายไปแล้ว
ขณะที่แพรไหมเดินออกมาอย่างยากลำบาก พายุยังคงนอนหลับใหลสบายใจ เขาจะรู้ไหมว่าสิ่งที่ทำลงไปกำลังจะนำมาซึ่งความยุ่งยากยุ่งเหยิงในชีวิตของแพรไหม และหญิงสาวคงไม่มีทางอภัยให้กับผู้ชายอย่างเขาไปตลอดชีวิต
จากวันเป็นเดือนความสัมพันธ์ระหว่างแพรไหมกับพายุนั้นไม่ได้มากกว่าวันไนท์สแตนด์ เมื่อพายุไม่กล้าสู้หน้าหญิงสาว ที่สำคัญเข้าได้ในสิ่งที่ต้องการจากเธอไปแล้ว จึงคิดว่าไม่จำเป็นที่จะต้องงอนง้อแพรไหมอีกต่อไป ทั้งที่ส่วนลึกของหัวใจนั้น มันยังเรียกร้องหาแต่เธอ
แพรไหมเองก็พยายามหลบพายุ เธอหลีกเลี่ยงทุกทางที่จะเผชิญหน้ากับชายหนุ่ม จนริต้าแปลกใจ เมื่อเพื่อนเริ่มเปลี่ยนไปแพรไหมชอบเก็บตัวเงียบอยู่คนเดียว เธอไม่ไปกินข้าวที่โรงอาหารของมหา'ลัย บางวันก็ห่อข้าวใส่ปิ่นโตมากินที่ห้องเรียน บางวันก็ชวนริต้าขับรถออกไปรับประทานมื้อเที่ยงนอกมหา'ลัย อย่างเช่นวันนี้ที่แพรไหมขับมาตั้งไกลเพื่อรับประทานส้มตำไก่ย่าง ที่รสชาติจัดจ้าน แต่แพรไหมกลับกินอย่างเอร็ดอร่อย
"แพร ช่วงนี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า" ริต้าเอ่ยถามเพื่อนรักออกไปเมื่อทั้งสองกำลังนั่งกินมื้อเที่ยงที่ร้านส้มตำไก่ย่างด้วยกัน
"เปล่า" แพรไหมตอบริต้ากลับไปแค่คำสั้นๆ ก่อนจะลงมือจัดการอาหารตรงหน้าจนเกลี้ยง
ริต้าเอาแต่จ้องไปที่ใบหน้างามของเพื่อนด้วยความสงสัย แพรไหมต้องมีอะไรในใจอย่างแน่นอน พักหลังมานี่เพื่อนของเธอเปลี่ยนไป แพรไหมที่เธอรู้จัก เวลานี้กลับกลายคล้ายกับคนกำลังจะเป็นโรคซึมเศร้า ชอบเหม่อเก็บตัวเงียบ จากที่ไม่ยุ่งกับใครอยู่แล้ว เวลานี้แพรไหมยังไม่ค่อยพูดจากับเธออีก
"แพรถ้ามีเรื่องไม่สบายใจ ระบายให้ริต้าฟังบ้างก็ได้นะ เราอาจจะช่วยเธอไม่ได้ แต่ริต้าเป็นผู้ฟังที่ดีได้รับรอง" คำพูดของริต้า ทำให้แพรไหมส่งยิ้มบางๆ ไปให้กับเพื่อนแทน เพราะความในใจที่มีในเวลานี้นั้น เธอคงไม่สามารถเล่าให้ใครฟังได้ เมื่อเชื่อใจผู้ชายรุ่นพี่รหัสแก๊งไทเกอร์อย่างพายุ สุดท้ายแล้วก็เป็นตามที่คาดเอาไว้ เมื่อความสาวที่เสียไปไม่สามารถเรียกร้องกลับคืนมาได้ มิหนำซ้ำชายหนุ่มยังไม่เคยกล่าวคำขอโทษ เธอรู้สึกเกลียดจนไม่อยากเห็นหน้าเขา แม้อีกสักครั้งก็ไม่ขอเจอเช่นกัน
เมื่อรับประทานมื้อกลางวันเสร็จ ทั้งสองจ่ายค่าอาหารให้แม่ค้าแล้วขับรถตรงมาที่มหา'ลัย เพราะวันนี้มีเรียนช่วงบ่ายอีกสองคาบ
พอจอดรถเสร็จสองสาวเดินตรงเข้ามาที่ตึกคณะศิลปกรรมศาสตร์ ในขณะที่สองสาวกำลังจะเดินตรงไปที่บันได แพรไหมถึงกับต้องตกใจ เมื่อเจอกับใครบางคนที่พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น
"น้องริต้า น้องแพรไหม ช่วงนี้หายไปไหนไม่ค่อยเจอกันเลยนะ" แบงก์พูดขึ้นพร้อมกับส่งสายตาหวานเยิ้มให้กับริต้าเหมือนอย่างเคย แต่สิ่งที่ได้รับกลับคือจากหญิงสาวไม่ใช่สายตาหยาดเยิ้มเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขาเคยผ่านมา เมื่อริต้าทำตาขวางใส่แบงก์อย่างไม่ค่อยชอบใจ แต่เขากลับฉายแววของดวงตาเจ้าเล่ห์ที่มีนัยแอบแฝงมาที่เธอ
"เอาสายตาเจ้าเล่ห์รุ่นพี่ไว้ใช้กับหญิงอื่นเถอะ ริต้ารู้สึกขัดลูกหูลูกตายังไงไม่รู้" ในขณะที่ริต้าพูดกับแบงก์ พายุได้มองไปที่ใบหน้างามของแพรไหม เมื่อเขานั้นอดใจไม่ไหว อยากรู้เหมือนกันว่าเธอนั้นจะแสดงปฏิกิริยาอะไรออกมาบ้าง สิ่งที่พายุสัมผัสได้เวลานี้มีแค่ความเฉยชา สายตาของเธอว่างเปล่า เหมือนกับสิ่งรอบตัวเธอนั้นเป็นเพียงอากาศ
"ที่ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้เจอกับลูก นั่นมันคือโอกาสเดียวที่ฉันมีให้กับคุณ เพราะอะไรรู้ไหม ที่ฉันต้องยอม ก็เพราะว่าใยไหมขอร้อง เธอพยายามถามหาพ่อตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่คุณทำเอาไว้ เด็กคนหนึ่งต้องมีปม เมื่อเธอเกิดมาแล้วไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นเขา ฉันไม่รู้ทำไมใยไหมถึงต้องการพ่อเลว ๆ อย่างคุณนักก็ไม่รู้" แพรไหมพูดสะกิดไปที่หัวใจของพายุ เวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาบีบรัดเอาไว้ มันเจ็บหน่วงไปหมดเมื่อลูกโหยหาเขามาแสนนาน ในขณะที่เขานั้นเอาแต่ทำงานไม่คิดที่จะตามหาแพรไหมอย่างจริงจัง"นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด เท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำได้ ไปอาบน้ำผมจะทำอาหารรอ" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ต่อให้แพรไหมผลักไสไล่ส่งเขาไปไหน สิ่งที่เขาจะทำคือการยืนหยัดมุ่งมั่นที่จะอยู่ข้างเธอและลูก "ออกไปได้แล้ว และอย่าคิดพยายามคิดทำในสิ่งที่คุณไม่มีสิทธิ์" แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างเช่นกัน เมื่อเธอนั้นไม่มีทางอภัยให้เขาได้เลยในชีวิตนี้ "จะอาบไหมน้
"คุณเจ็บมากหรือเปล่า แพรไหม" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดลงมาที่ใต้สะดือ แล้วพบว่ามีแผลเป็นรอยยาวจางๆ ประมาณสิบถึงสิบห้าเซนติเมตร ซึ่งรอยนั่นเขารู้ดีว่ามันคงได้มาจากการผ่าตัดทำคลอดใยไหม "อืม..หนาว..หนาวจัง" แพรไหมครางออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงพูดที่บ่งบอกว่าเธอนั้น ต้องการผ้าห่มมากกว่าผ้าชุบน้ำที่พายุนั้นกำลังเช็ดไปทั่วเรือนกายของเธอ "แป๊บหนึ่งเดี๋ยวผมก็จะห่มผ้าให้นอนตะแคงก่อน" พายุพูดพร้อมกับจับแพรไหม นอนตะแคงข้างเขาใช้ผ้าเช็ดไปที่แผ่นหลัง ที่ขาวนวลของเธอไปมา ในระหว่างนั้นเขาก็พยายามห้ามใจไปด้วย เมื่อเรือนกายของหญิงสาวช่างเซ็กซี่สะดุดตาเสียจนอยากกลืนกินเธอไปทั้งตัว "อ้าว! เฮ้ย..บรรลัยละ" พายุเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อผ้าขนหนูผืนเล็กนั้น ไปเกาะเข้ากับตะขอบราสีชมพูอ่อนจนหลุดออกมา
ก่อนจะเข้าไปหามารดา ใยไหมตัดสินใจเปิดประตูเข้าห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เด็กหญิงอาบน้ำได้สักพักใหญ่ เธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากห้อง มองไปที่โต๊ะอาหารทุกครั้งเวลาที่เธอออกไปข้างนอก ผู้เป็นมารดามักจะทำอาหารไว้รอเธอเสมอ แต่วันนี้มาแปลกหรือมารดาจะโกรธที่เธอออกไปตามหาบิดา ก่อก! ก่อก! แกร๊ก! ใยไหมเคาะประตูห้องของมารดา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป และแล้วเด็กหญิงต้องตกใจกับภาพที่เห็น เมื่อมารดานอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มท่าทางจะหนาวจนสะบั้น เพราะพิษไข้ ใบหน้าของผู้เป็นมารดานั้นดูซีดเซียวมาก "แม่! มาดามเป็นอะไร แย่แล้วทำไมตัวร้อนแบบนี้ ทำไงดี ทำยังไงดี" ใยไหมตกใจ เมื่อตัวของมารดาร้อนดั่งไฟสุม เด็กหญิงไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะมัวแต่ตกใจกลัวว่ามารดาจะเป็นอะไรไป "ป๋า! ..ใช่แล้วต้องโทรหาป๋า" ใยไหมวิ่งไปที่ห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นบิดา แต่พอนึกได้ว่าเขาอยู่ห้องตรงข้าม เธอน่าจะเดินไปเรียกเลยดีกว่า หรือว่าจะ
"ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก"ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวดเลยทีเดียวสองพ่อลูกเดินออกมาจากบริษัท คุยกันกะหนุงกะหนิงด้วยความสนิทใจอย่างรวดเร็ว เวลานี้ใกล้มืดแล้ว แต่ใยไหมกลับลืมเวลา ไม่ได้สนใจว่ามารดาจะคอยเธอกลับ พายุพาลูกสาวขับรถตรงไปที่ร้านอาหารหรู เขาได้สั่งเมนูตามใจชอบของเด็กหญิง "ว้าว! อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะคุณป๋า" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับแสดงกิริยาตื่นตาตื่นใจ เมื่อเธอนั้นเพิ่งกลับมาเมืองไทย มันจึงทำให้อาหารเหล่านี้แปลกตาและดูน่ารับประทาน "หนูทานเผ็ดไหม ทานได้หรือเปล่าลูก" พายุถามออกมาด้
"หนูอายุเท่าไหร่" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาแน่ใจว่า ความสัมพันธ์ของเขาที่ลึกซึ้งกับบรรดาสาว ๆ นั้น เมื่อคราวที่เรียนมหา'ลัยเท่านั้น เพราะหากเด็กคนนี้อายุเกินสิบขวบ ก็แสดงว่าเธอกำลังโกหกเขาอยู่อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแพรไหม เขาก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย "หนูอายุสิบขวบนิดๆ ค่ะ แต่แม่บอกว่าหนูเป็นสาวแล้ว" คำบอกเล่าของเด็กหญิง ทำให้พายุฉีกยิ้มกว้าง เขาอยากรู้จังเลยทำไมมารดาของเธอถึงได้บอกว่าลูกเป็นสาว ทั้งที่ลูกนั้นเพิ่งจะสิบขวบเอง แต่ดูจากหน้าตาและรูปร่างเธอโตเกินวัยจริงๆ มิน่ามารดาของเธอถึงบอกว่าใยไหมโตเป็นสาวแล้ว "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก
"คุณพายุรีบหรือเปล่าคะ ฝ้ายอยากจะชวนคุณไปดูแบบที่ร่างเอาไว้แล้วลืมหยิบมา ฝ้ายอยากได้แบบนั้น แต่ออกแบบไม่เป็นอยากให้คุณพายุแนะนำ คุณรีบหรือเปล่าคะ" ฝ้ายถามชายตรงหน้าออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่สายตาของเธอกลับหวานหยาดเยิ้ม พายุพอจะเดาได้ว่าหญิงตรงหน้าต้องการอะไร สำหรับเขาแล้วเวลานี้มีเพียงแพรไหมที่จะทำให้หัวใจเขานั้นพองโต "พอดีผมมีนัดกับลูกค้า เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับคุณฝ้าย" พายุพยายามปฏิเสธออกไป เพื่อรักษาน้ำใจของหญิงสาวตรงหน้า "ตกลงค่ะ แต่คราวหน้าคุณพายุห้ามปฏิเสธ เพราะว่าฝ้ายอยากได้ลายนั้นมาก แต่ว่าออกแบบไม่เป็น ต้องรบกวนคุณพายุแล้ว" ฝ้ายยังคงพูดจาจีบปากจีบคอส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มแบบนั้นมาที่พายุเหมือนเดิม "ไม่มีปัญหาครับเดี๋ยวคราวหน้าผมจะแวะไปดูให้" ยิ่งพายุพูดแบบนั้นออกไป ยิ่งทำให้ฝ้ายปลาบปลื้มใจ ที่ชายหนุ่มนั้นจะไปพบเธอ ตามที่ได้ตั้งเจตจำนงเอาไว้ เพื่อหลอกล่อชายตรงหน้าไปตกหลุมพรางของเธอ"ขอบคุณนะคะ นอกจากคุณพายุจะหน้าตาดีแล้ว ยังใจดีอีกต่างหา







