LOGIN*คำโปรย* เมื่อโชคชะตาพาให้กลับมาเจอกัน เขาเลือก “แกล้ง” แทนคำพูดว่า.. “คิดถึง” เธอเลือก “เงียบ” แทนพูด.. “อธิบาย” *เนื้อเรื่องย่อหน้านิยาย* • เขาเคยเป็นเด็กอ้วนแสนร่าเริง... แต่วันนี้กลับกลายเป็นเจ้าพ่อเงินกู้ผู้เย็นชา • • เธอคือรักแรกที่หายไปโดยไม่ร่ำลา และกลับมาอีกครั้งพร้อมข่าวลือว่า "ขายตัวแลกกิจการ" • • เขาเลือกแกล้งเธอทุกครั้งที่เจอกัน เพราะไม่รู้จะพูดคำว่า "คิดถึง" อย่างไร • • ส่วนเธอ...ทำได้แค่เก็บความลับในอดีตไว้เงียบๆ เพราะบางเรื่องต่อให้รักแค่ไหนก็พูดออกไปไม่ได้ •
View More*อำเภออย่ามาซุย*
เป็นสถานที่อัดแน่นเต็มไปด้วยบทสนทนา หากไม่ว่าร้ายหรือติฉินนินทาผู้อื่นคงไม่ใช่ชุมชนแห่งนี้ เพราะเรื่องชาวบ้านคืองานถนัดของพวกเขาทั้งหลาย "ตายแล้วแก~ แม่หนูแยมเอาอีกแล้วเนี่ย!!!" หญิงวัยกลางคนเตรียมซุบซิบกับเพื่อนบ้าน เธอวิ่งมาแต่ไกลโพ้นราวกับเรียกประชุมด่วนเสียอย่างนั้น เธอสวมเสื้อคอกระเช้าลายดอกไม้และผ้าถุงสีดำสนิท "คราวนี้เป็นผัวบ้านไหนอีกล่ะ!!!" หญิงวัยกลางคนรีบตอบกลับ เธอกำลังก้มหน้ารดน้ำต้นไม้ต้องแหงนใบหน้าอย่างสนใจทันควัน เธอสวมเสื้อแขนยาวลายสก็อตและผ้าถุงสีน้ำตาล เหมือนว่าจะคาดการณ์หัวข้อเรื่องจากคนที่พูดถึงได้แล้ว เพราะแต่ไหนแต่ไรไม่เคยพ้นเรื่องเหล่านี้จริงๆ "เมื่อกี้ฉันดูไม่ค่อยชัดน่ะสิ!!! พวกเราไปกันเถอะ เดี๋ยวตกข่าวไม่ทันคนอื่นพอดี" หญิงวัยกลางคนกล่าวอย่างกระตือรือร้น "อีแค่เด็กกำพร้า!!! แถมยังเป็นเมียน้อยผัวป้าตัวเองอีก หากไม่ร่ำรวยเงินทองใครจะอยากดูกัน หึ~" หญิงวัยกลางคนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมเดินไปปิดก๊อกน้ำ เธอใช้ฝ่ามือเปียกชุ่มมาเช็ดผ้าถุงตัวเองแต่ก็วิ่งตามเพื่อนไปด้วยกัน ชาวบ้านละแวกใกล้ร้านขายของชำแห่งหนึ่ง กำลังยืนเฝ้ามองเหตุการณ์สาวปากร้ายโวยวายอยู่ตามเคย แม้เธอจะมีรูปโฉมงดงามเป็นเลิศจนเลื่องชื่อ และยังเป็นที่หมายปองบรรดาผู้ชายมากแค่ไหน หากแต่ปากร้ายเกินทน ทำให้ผู้คนพากันใจฝ่อไม่กล้าคิดจีบเธอ ดวงตากลมโตช่างสุกสกาวคล้ายจะใสซื่อบริสุทธิ์ ริมฝีปากสีชมพูหวานระเรื่อพร้อมกับรูปร่างอรชรเหมือนจะไร้พิษสง แต่เมื่อได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วดังแว่วเปรียบดั่งลำโพงวัด ทำให้ใครๆ ต้องรู้สึกหวาดผวาผู้หญิงอย่างเธอ "สรุปจะยอมจ่ายเงินไหม ไอ้โรคจิต!!!" แยมยืนเท้าสะเอวตะคอกใส่ผู้ชายรุ่นราวคราวพ่อได้ ส่วนมืออีกข้างถือไม้เบสบอลพาดบริเวณหัวไหล่คิดเอาเรื่องอย่างจริงจัง "หนูแยม!!! มันไม่มากไปเหรอจ๊ะ แค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยจะคิดเงินพี่เสียอย่างนั้น พวกมึงจะยืนมุงดูหาอะไรกันนักหนาวะ ไม่มีงานการทำหรือยังไง" เฒ่าหัวงูกล่าวตะคอกเสียงดังลั่น เขายืนเท้าสะเอวจ้องเขม็งหมู่ชาวบ้าน "หยุดเลยนะ!!! ใครเขาอยากจะกินเผือกก็ปล่อยเขาไปสิ!!! ส่วนลุงถ้าไม่จ่ายวันนี้ได้หัวแตกแน่บอกเลย!!" แยมยังคงเจ้าคิดเจ้าแค้นไม่ยอมเลิกราง่าย เพราะไม่ยอมเสียผลประโยชน์ไปแม้เพียงเล็กน้อย จังหวะเดียวกันชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งผมยาวสลวย ได้ปรายหางตาอันคมกริบมองภาพตรงหน้าพร้อมกระตุกยิ้มมุมปากอย่างสนุกสนาน ปกติเขาไม่ค่อยสนใจการทะเลาะวิวาทของชาวบ้านสักเท่าไร แต่ครั้งนี้ดันมาเจอคนสวยขนาดที่ว่าไม่สามารถละสายตาได้ "เฮียไม่สนใจลูกหนี้พยศเก่งแบบนี้เหรอ" ยอดรีบกล่าวถามเจ้านายตนทันที เขาเป็นหนุ่มล่ำบึกบึนสีผิวเข้ม สวมเสื้อสีเขียวตองอ่อนราวกับแสงไฟนีออน "มึงโง่เหรอ~ ช่วยแหกตาดูหน่อย!!! เธอขาดแคลนเงินทุนตรงไหน กิจการใหญ่โตขนาดนี้!!!" ยูโรกระแทกเสียงใส่ลูกน้อง ที่ชอบแสดงเหมือนจะหวังดีกับธุรกิจแต่กลับลืมไตร่ตรองอยู่เสมอ "แต่เฮียชอบผู้หญิงแบบนั้นไม่ใช่เหรอครับ สวยโหดมีฐานะ แม้ชื่อเสียงจะไม่ค่อยดี คงไม่มีผลกระทบอะไรหรอก ถ้าไม่ยอมเป็นลูกหนี้ก็ให้มาเป็นเจ๊พวกเราสิ!!!" ใหญ่รีบเอ่ยสวน เพื่อไม่ให้ลูกพี่เอาเรื่องน้องชายตนเอง เขาเป็นหนุ่มล่ำบึกบึนสีผิวคล้ำ สวมแว่นตาแฟชั่นของเด็กน้อย "อืม!!! น่าสนใจอยู่ หึ~" ยูโรกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่พอได้ยินลูกน้องตนยุแยง ทำให้เขาต้องเอ่ยปากแถมยังเดินมาปรากฏตัวฝ่าฝูงชน "ตีมันให้ตายไปเลย!!! ไอ้ห่านี่ไม่มีปัญญาจ่ายเงินให้เธอหรอกนะ" ยูโรก้าวเท้ายาวพร้อมลูกน้องประกบข้างสองคน บ่งบอกว่าตนเป็นหัวโจกแก๊งนี้ "ทำไมล่ะ!!!" แยมรีบเบือนใบหน้ามาสบสายตาเขา เธอเอาแต่จ้องเขม็งอย่างคนไม่สบอารมณ์ "ถ้ามันมีปัญญาจ่ายเงินเธอจริง คงไม่มานั่งติดหนี้ฉันอยู่หรอกนะ" ยูโรตอบกลับพร้อมพูดจายียวนเสียอย่างนั้น แม้ว่าจะกวนอารมณ์อยู่ไม่น้อย แต่ทว่าประโยคของเขากลับทำให้เธอมีสติฉุกคิดได้บ้าง "ไม่มีก็หัวแตกซะไอ้เฒ่าหัวงู!!!!" แยมตวาดใส่และยกแขนเตรียมใช้ไม้เบสบอลลงแรงบนศีรษะคนมีอายุ แต่เธอต้องหยุดชะงักลงเพราะเสียงแหลมราวกับปรอทแตกตะโกนลั่น "อย่านะ!!! หนูแยมใจเย็นก่อน~" หญิงวัยกลางคนเร่งฝีเท้ามาใกล้พร้อมยกมือพนม เธอสวมเสื้อคอกระเช้าลายดอกไม้และผ้าถุงสีดำสนิท "อ้าว!!! เป็นไอ้สามีเวรแกเองเหรอเนี่ย" เพื่อนบ้านหญิงวัยกลางคนรีบกล่าวออกมา เธอสวมเสื้อแขนยาวลายสก็อตและผ้าถุงสีน้ำตาล กำลังยืนกอดอกพร้อมยกยิ้มอย่างสนุกสนาน "แกนะ!!! ไปมั่วเด็กร้านคาราโอเกะก็แล้วไปเถอะ!!! มายุ่งกับหนูแยมทำไมกัน!!" เธอโวยวายพร้อมดึงใบหูเฒ่าหัวงูบิดทันที "หนูแยมจ๊ะ!!! ไม่เอาเรื่องไอ้แก่นี่จะได้ไหม ถือซะว่าทำบุญทำทานคนใกล้ลงโลงศพอย่างมัน!!!" เธอยังคงกล่าวขอร้องจนแยมต้องรู้สึกหงุดหงิด "มันแต๊ะอั๋งหนูก่อนนะคะป้า!!!! จะไม่เอาเรื่องแล้วก็ได้ค่ะ!!!" แยมเตรียมหมุนลำตัวเดินเข้าร้านตนเอง แต่ทว่าสองขาเรียวเล็กต้องหยุดนิ่งเฉย เพราะได้ยินเสียงพูดของคนลามกจกเปรตเข้าหู "บั้นท้ายสาวสวยมันช่างหอมหวานเหลือเกิน~ ฮึ่ย!!!" เฒ่าหัวงูกล่าวยกฝ่ามือหนาสูดดมอย่างหื่นกระหาย ทั้งที่เป็นช่วงกลางวันแสกๆ แต่รอบตัวกลับมีดวงดาววิบวับจนตัวเองสลบหมอบคาพื้นดินลูกรัง "สมควรโดนแล้ว ไอ้เวรนี่!!! ป้ารีบเอาผัวไปเก็บเลยนะคะ หากยังปล่อยเพ่นพ่านมาใกล้หนูอีก ระวังจะได้เตรียมจองเมรุเผาศพค่ะ" คนสวยกล่าวพร้อมเดินเชิดใบหน้าเข้าร้านตน ท่ามกลางเสียงโห่ร้องชาวบ้านอย่างสนุกสนาน ราวกับไม่อยากให้เรื่องจบง่ายแค่เพียงเท่านี้ สองสามีภรรยาที่เหมือนจะรักใคร่กันดี ต้องรีบแบกคู่เวรคู่กรรมกลับบ้านโดยเร็ว กลัวสาวสวยจะเอาเรื่องต่อ ด้วยสถานะภาพทางการเงินไม่เอื้ออำนวย จะฝืนสู้ก็ไม่ใช่เรื่อง แต่ร่างสูงโปร่งที่ยืนยิ้มกว้างอย่างเบิกบานใจ เพราะนิสัยสาวสวยดันสะกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาเสียดื้อๆ "เฮียยูโร!!! ปล่อยเธอไปได้อย่างไรกันครับ หว่านล้อมให้มาเป็นลูกหนี้เราดีไหม แม้วันนี้ธุรกิจยังมั่นคง..แต่อนาคตใครจะรู้ได้ล่ะครับ!!!" ยอดยังคงกล่าวถามอีกรอบ "หน้าตาเอย~ นิสัยเอย~ กูว่าเฮียยูโรคงอยากได้เป็นเมียมากกว่านะ ไอ้ยอด!!!" ใหญ่เอ่ยสวนทันควันเหมือนเดาใจลูกพี่ได้ "อย่าทำมาเป็นรู้ดีนักนะ พวกมึงสองคนไปเก็บดอกเก็บหนี้ตามบ้านเรือนได้แล้ว อย่าให้กูต้องไล่เตะก้านคอนะเว้ย!!!" ยูโรกล่าวเสียงดังลั่น เขาพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกอยู่ จนลูกน้องทั้งสองคนยกนิ้วจิ้มอุดรูหูกันแทบไม่ทัน "ครับเฮียยูโร~ ไอ้ยอดวิ่งเร็ว!!!" ใหญ่กล่าวพร้อมวิ่งหนีไปไกลโพ้น "ยังจะยืนอึ้งอีก!!! วันนี้มึงอยากกินข้าวไหม ไอ้ใหญ่มันวิ่งไปตรงโน้นแล้ว!!!" ยูโรกระแทกเสียงใส่ เขาส่งสายตาแทบจะกินเลือดกินเนื้อลูกน้องอีกคน "ครับเฮียยูโร!!! ไอ้ใหญ่รอกูด้วย!!!" ยอดตะโกนไล่หลังพี่ชายตน เมื่อไล่ลูกน้องคนสนิททั้งสองไปจนหมด เขาก็เดินเร็วเข้าร้านขายของชำอย่างไม่ลังเล หลังได้พบสาวสวยเขาก็รู้สึกอยากทำความรู้จัก แม้จะไม่มีทางได้เธอมาเป็นลูกหนี้ดั่งใจหวัง แต่ทว่าอยากสานสัมพันธ์ระหว่างพวกเราสักหน่อย เพราะร้านของเธอเรียกว่าใหญ่สุดในอำเภอเลยด้วยซ้ำ สถานะภาพทางการเงินย่อมคล่องตัวพอสมควร จึงเป็นเรื่องยากที่จะหว่านล้อมให้เธอมาใช้บริการเงินกู้ (*หมายเหตุคำว่า.."ซุย" : เป็นศัพท์ภาษาวัยรุ่นกล่าวถึงประมาณว่า.. อย่าขี้โม้ หรือ อย่าพูดมากในสิ่งที่ไม่ใช่ความจริง)แสงไฟระยิบระยับจากโคมระย้าคริสตัล ทอดเงาวูบไหวตามบนเพดานสูงของห้องจัดเลี้ยง เสียงดนตรีคลาสสิกบรรเลงคลอเบาๆ แทรกอยู่ระหว่างเสียงหัวเราะและคำอวยพร จากแขกผู้มีเกียรติยามค่ำคืนนี้งานวันเกิดของบรรเจิด ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติยศ ไม่ใช่เพียงแค่เขาเป็นบุตรชายของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด หากแต่ยังเพราะเขาเพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่ด้วย ซึ่งคือ..รองผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างเป็นทางการแยมยืนอยู่หน้าประตูห้องจัดเลี้ยง เธอสวมชุดกระโปรงสีน้ำเงิน แม้จะดูน่ารักเข้ากับรูปร่างเพรียวบางแต่ก็เรียบหรู สองมือประคองกล่องของขวัญทรงสี่เหลี่ยมผูกโบสีทองแน่นความรู้สึกประหม่าแล่นวาบภายในกลางอก เมื่อสายตาเธอกวาดมองบรรยากาศล้อมรอบตัว แขกภายในงานล้วนเป็น.. นักการเมืองกับข้าราชการระดับสูงและนักธุรกิจชื่อดัง ทุกคนดูสง่างามและคุ้นเคยกับโลกใบนี้ ต่างจากเธอที่ยังรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกเสมอแต่แล้วสายตาแยมก็หยุดลงที่ร่างสูงโปร่ง เขาสวมสูทสีดำอย่างเป็นทางการ บรรเจิดยืนอยู่กลางกลุ่มผู้ใหญ่ สีหน้าเปื้อนรอยยิ้มสุภาพ ดวงตาอบอุ่นเป็นประกายแม้จะต้องรับมือกับคำยินดีและคำอวยพรไม่ขาดสาย เขายังคงดูผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด ราวกับไม่ใช่งานให
*ร้านค้าขายปลีกส่งแยมมี่*แสงไฟบนหน้าจอกระทบแว่นตาเกือบหนึ่งชั่วโมง แยมนั่งตรวจสอบบัญชีอย่างมีสมาธิ จู่ๆ สมองของเธอกลับมีคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของแพนด้าเสียอย่างนั้นเธอกดบันทึกไฟล์เอกสารและปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ลง ก่อนจะใช้สองมือเล็กดันโต๊ะสำนักงาน จนเก้าอี้ล้อเลื่อนถอยหลังอย่างเชื่องช้า แอบชำเลืองสายตามองสาวน้อย อยู่ตรงบริเวณหน้าจอคอมพิวเตอร์"เจ๊มีอะไรหรือเปล่าคะ หนูทำบัญชีไม่เรียบร้อยใช่ไหมคะ" แพนด้าวิ่งพรวดพราดมาใกล้บริเวณโต๊ะที่แยมนั่ง ด้วยท่าทางตื่นตระหนกเพราะกลัวโดนดุแยมเอื้อมแขนยาวไปตรงแผ่นหลังสาวน้อย ก่อนจะยกฝ่ามือลูบแผ่วเบา ราวกับปลอบโยนไม่ให้แพนด้าตื่นเต้นเกินเหตุ"เจ๊..แค่มีคำถามที่สงสัยต่างหาก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานเลย" แยมกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แพนด้ากลับยืนขนลุกซู่ราวกับถูกกดดัน"เจ๊รีบถามมาเลยเถอะ ท่าทางแบบนี้ของเจ๊ มันทำให้หนูอึดอัดเกินไปนะคะ" แพนด้าตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เปลี่ยนทิศทางสายตาเบนลงต่ำแทน"เจ๊ยังจำได้อยู่นะ คราวก่อน..แพนด้ามาคุยเล่นกับเจ๊น่ะ เหมือนจะมีเพื่อนหนุ่มจอมเกเรตามจีบไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมดันมาคบหากับยอดได้ล่ะ แค่ยังสงสัยว่าหนูไม่ได้คบซ้อนใช
*อาคารสองชั้นสุดหรู*เสียงเครื่องยนต์จอดนิ่งและดับสนิทลงท่ามกลางความมืดมิด แยมเปิดประตูฝั่งคนขับออกมายืนเท้าสะเอวมองอย่างชั่งใจ หัวคิ้วคนสวยขมวดมุ่นเธอเบะปากราวกับโมโหยูโรอยู่ไม่น้อย แต่ทว่าสองขาเรียวเล็กกลับเดินไปเปิดประตูฝั่งผู้โดยสาร เธอแบกร่างกายอันหนาเตอะของชายขี้เมาออกมาทันที"เอามา!" แยมตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมแสดงสีหน้าโกรธเคือง เธอยื่นฝ่ามือเล็กแบออกอยู่ตรงหน้าเขา แต่กลับโดนอีกฝ่ายเอาคางมาเกยแทน"จะเอาหัวใจของผมเหรอครับคนสวย~" ยูโรกล่าวด้วยน้ำเสียงยานคางเขายิ้มหวานอย่างกวนอารมณ์"นายอยากตายมากนักเหรอ ฉันเป็นใครกันแน่ นายช่วยลืมตาดูหน่อยเถอะนะ" แยมสวนกลับทันควัน เพราะคิดว่าเขายังเอาแต่คิดถึงสาวร้านคาราโอเกะอีก"คุณเป็น..ภรรยาของผมน่ะสิ!" ยูโรยิ้มแป้นตาแทบปิด เตรียมจะยกฝ่ามือหนาลูบละไล้ดวงหน้าเห่อร้อนของเธอ แต่แยมเลือกที่จะผลักเขานอนลงกับพื้นปูนซีเมนต์แทน"ส่งกุญแจมาสักที! ยุงกัดจะตายอยู่แล้วเนี่ย!" แยมตวาดใส่แก้เขินอาย เธอยืนเม้มริมฝีปากแน่นพร้อมกอดอกตนเอง หวังเพียงให้ดวงใจเต้นอย่างสงบลงเขารีบล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วส่งให้เธออย่างว่าง่าย เมื่อประตูบานเล็กถูกเปิดออกแยมจึงลากยูโรเข้
*ร้านคาราโอเกะ*แสงไฟนีออนดวงสีชมพูม่วงกะพริบระยิบระยับ เสียงดนตรีจากห้องข้างๆ ดังลอดมาเป็นจังหวะ ยูโรนั่งอยู่ตรงมุมเคาน์เตอร์บาร์แก้ววิสกี้ในมือแทบไม่เคยว่าง เขาคอยรินซ้ำจนของเหลวสีทองขลุกขลิกเกือบล้นขอบแก้วภายในหัวใจของเขา.. ยังคงวนเวียนกับภาพแยมกำลังยืนหัวเราะเคียงข้างบรรเจิด หรือว่าเธอไม่เห็นความหมายของการรอคอยที่เราทำมาตลอดเลย เขาเอาแต่นั่งตัดพ้อตัวเองอยู่ซ้ำๆหญิงสาวรูปร่างเพรียวบางหน้าตาดีคนหนึ่ง เธอสวมชุดกระโปรงสีทองแบบกระชับลำตัว เดินเข้ามานั่งอยู่ตรงด้านข้างเขา กลิ่นน้ำหอมแสนหวานช่างเย้ายวนราวกับกลิ่นไวน์เก่าแก่"ยูโร! ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!" น้ำเสียงสดใสเอ่ยทักทายคนนั่งสับสน เธอกำลังเท้าคางมองแววตาเป็นประกาย เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะจำได้ "เรไร" อดีตเพื่อนสนิทของแยมสมัยเรียนมัธยม พวกเธอทั้งสองเคยไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ และยังเคยเป็นแฟนเก่าของเขาด้วยเช่นกัน"อืม!" ยูโรตอบเสียงแหบแสนจะแผ่วเบาเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์"นายมานั่งดื่มคนเดียว แต่ทำไมหน้าตาบึ้งตึงเชียว" เรไรหัวเราะน้อยๆ มือเรียวแตะไหล่เขาเป็นเชิงหยอกล้อ ยูโรไม่ได้ผลักไสเพราะเคยพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้ว เพียงปล่อยให้เ