LOGIN"น้องแพรไหม สอบผ่านหรือเปล่า คราวหลังถ้าเรียนไม่ทันเพื่อนบอกนะเดี๋ยวพี่จะติวให้" คำพูดของเก้า ช่างทิ่มแทงหัวใจแพรไหมเหลือเกิน เมื่อเธอกำลังคิดว่าพายุนั้น ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนๆ เขาฟัง เกี่ยวกับเรื่องที่เธอพลาดพลั้งเสียมันให้กับเขาไป
"หากผู้ชายทุกคนบนโลกใบนี้ เป็นเหมือนพวกพี่ โลกใบนี้คงเต็มไปด้วยขยะ" ครั้งแรกที่แพรไหมพูดจาก้าวร้าวใส่รุ่นพี่แบบนี้ ริต้าเองยังตกตะลึงไม่คิดว่าเพื่อนจะพูดจารุนแรงได้ถึงเพียงนี้
"แต่ขยะบางชนิดก็รีไซเคิลได้" พายุพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย แต่แววตาของเขานั้นมีบางอย่างซ่อนเอาไว้ เพื่อรอใครบางคนเข้าไปค้นหา แต่หญิงตรงสาวตรงหน้ากลับไม่สบตา เธอรู้สึกเกลียดชายร่างหนา ที่เขาได้สิ่งที่มีค่าไปจากเธอ จนยากที่จะให้อภัย และแพรไหมคงไม่มีทางที่จะญาติดีกับพายุอีกแล้วในชีวิตนี้
"แต่ขยะสังคมอย่างคุณรีไซเคิลไม่ได้" แพรไหมใช้สรรพนามเรียกพายุใหม่ไม่เหมือนเดิม พอพูดจบก็เดินขึ้นบันไดไปทันที โดยไม่ได้สนใจว่าใครจะโกรธจะคิดยังไง เมื่อสิ่งที่พายุทำกับเธอนั้นคำพูดแค่นี้มันยังน้อยไป
ตอนนี้ริต้าได้ยืนอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูก เมื่อเพื่อนรักได้พูดจาเหน็บแนมรุ่นพี่ออกไปแบบนั้น ก่อนจะวิ่งตามแพรไหมขึ้นไปที่ชั้นบน
"น้องแพรไหมทำไมพูดออกมาแบบนั้นวะ" กวินเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย เหมือนกับพายุไปทำอะไรให้เธอต้องขุ่นเคืองใจ และคงไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าพูดแบบนี้กับชายหนุ่ม
"พายุมึงไปทำอะไรให้น้องโกรธนักหนา น้องแพรไหมถึงได้ด่าเจ็บขนาดนั้น" เก้าพูดพร้อมกับจ้องมองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของพายุ พร้อมกับรอฟังคำตอบ แต่ชายหนุ่มกลับเฉยชานิ่งงัน ก่อนจะเดินหนีไปซะงั้นปล่อยให้เพื่อนๆ งงกันต่อไป
ชายหนุ่มหลบมานั่งในรถสปอร์ตคันหรู วันนี้เขารู้แล้วว่าแพรไหมนั้นไร้ซึ่งเยื่อใย มันจึงทำให้พายุตัดสินใจ ที่จะไม่สานสัมพันธ์กับเธอต่อ เพราะเขาคิดว่าแพรไหมคงจะไม่แคร์ เมื่อทุกอย่างมันลงเอยแบบนี้ ในเมื่อเขาเองก็ไม่ได้ต้องการที่จะผูกมัดกับเธอตั้งแต่แรก ฉะนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น
รถสปอร์ตคันหรูวิ่งออกจากมหา'ลัย ขณะที่เขาเองยังไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางนั้นจะไปที่ใด เมื่อใบหน้างามนั้นผุดขึ้นมาให้เห็นตลอดเวลา หญิงสาวที่มีวาจาอ่อนหวานและกิริยาอ่อนน้อมถ่อมตน ได้กลายเป็นคนละคน เพียงแค่วันคืนพ้นผ่านมา เขาไม่สามารถกลับไปแก้ไขสิ่งนั้นได้ และหากได้ย้อนเวลากลับไป พายุก็คงจะทำแบบนี้กับเธอดังที่ตัดสินใจไปแล้ว เพราะเขานั้นคิดว่าผู้หญิงทุกคน คงจะเป็นเหมือนกันหมด สำหรับแพรไหมอาจจะต่างเพียงแค่ เธอนั้นไม่ได้รับเงินตราจากเขาเหมือนดังเช่นหญิงคนอื่นที่เคยหลับนอนด้วย
หลังจากเลิกเรียนแพรไหมขับรถตรงไปที่บ้านด้วยหัวใจที่ปวดร้าว เมื่อเวลานี้เธออ้างว้างโดดเดี่ยวและเดียวดาย ตั้งแต่ผู้เป็นมารดาจากไป เธอก็รู้สึกเหมือนกับโลกใบนี้ช่างมืดมนมันอยู่ยากขึ้นทุกวัน มิหนำซ้ำโชคชะตายังกำหนดให้เธอนั้นต้องมาพบกับผู้ชายเลวๆ ที่เขาหวังเพียงแค่ความสาวจากเธอ ผู้ชายอย่างพายุไม่คู่ควรที่จะได้เชยชมมันเลยสักนิด และเธอก็ไม่คิดว่าจะต้องเสียมันให้กับชายหนุ่มรุ่นพี่ ที่เข้ามาตีสนิททำเป็นเหมือนกับหวังดี มันไม่ใช่เลยเขาแค่เสแสร้งแกล้งทำให้เธอนั้นตายใจ ก่อนจะลงมือทำร้ายอย่างไม่ละอายใจ เขาไม่สมควรที่จะเป็นลูกผู้ชาย เพราะวิธีที่เขาใช้กับเธอนั้นสกปรกสิ้นดี
พอชายหนุ่มได้ในสิ่งที่ใจปรารถนา เขาก็ตีตัวออกห่าง ธาตุแท้ของผู้ชายคงคิดแต่หวังได้แค่เชยชมเรือนร่างของสตรี ต่อจากนี้ไปเธอจะไม่ไว้ใจใครอีกแล้วในโลกใบนี้ จะไม่ขอให้เขามารับผิดชอบในสิ่งที่กระทำ แต่จะขอจดจำจารึกไว้เป็นบทเรียน
ณ มหาวิทยาลัย ทุกคนต่างก็มีจุดประสงค์เดียวกัน คือการเรียนให้จบแล้วนำเอาความรู้ที่ได้ไปพัฒนา เพื่อนำมาซึ่งการประสบผลสำเร็จในชีวิตต่อไป แต่นักศึกษาสาวสวยได้หายไปเป็นเดือนแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าเธอหายไปไหน เพราะการไปของเธอไม่ได้บอกลาใคร แม้แต่ริต้าเพื่อนสนิท ก็ไม่สามารถติดต่อแพรไหมได้เช่นกัน
ใครจะรู้ว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างแพรไหม คนที่ไม่เคยมองชายใด กลับแอบปันใจให้รุ่นพี่รหัสของเธอ ด้วยความเชื่อใจ และใส่ซื่อได้นำมาภัยใกล้ตัวมาสู่เธอ จนทำให้หญิงสาวนั้นไม่สามารถอยู่ที่มหา'ลัยนี้ได้อีกต่อไป
พายุกำลังจะเดินเข้าไปหาเพื่อนๆ แต่ต้องแปลกใจเมื่อริต้าน้องรหัสของแบงก์นั่งอยู่ด้วย สายตาคมทอดมองออกไปด้วยหัวใจที่เต้นรัว เมื่อเขาคิดว่าจะเจอกับแพรไหมอีกครั้ง หลังจากวันนั้นที่ทะเลาะกันชายหนุ่มก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย ทำให้เขาอยากรู้ว่าหญิงสาวเป็นยังไงสบายดีหรือเปล่า
"นั่งไง! ไอ้พายุมาแล้ว" เก้าพูดจบ พายุก็เดินเข้ามาพอดี เมื่อทุกคนคิดว่าเขารู้เรื่องที่แพรไหมหายตัวไป
"รุ่นพี่ทราบไหมคะว่าแพรหายไปไหน เธอไม่มาเรียนที่นี่เป็นเดือนแล้ว" คำถามของริต้า ทำให้พายุนั้นมีสีหน้าสงสัยขึ้นมาในทันที แพรไหมไม่ได้มาเรียนที่นี่ แล้วเธอจะหายไปไหน เพราะเท่าที่เขารู้เธอเรียนดี ถึงขั้นที่ว่าอาจจะคว้าเกรดนิยมอันดับหนึ่งมาครองก็เป็นได้ แล้วทำไมเธอถึงหายไปโดยไม่บอกริต้าสักคำ
"แพรไหมหายไป แล้วทำไมต้องเกี่ยวกับพี่ เราไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ขนาดน้องเป็นเพื่อนที่สนิทยังไม่รู้เลย แล้วพี่จะรู้ได้ยังไง" พายุพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย แต่ส่วนลึกของหัวใจกลับร้อนรนเป็นห่วงเป็นใย แต่ก็พยายามปิดบังความรู้สึกนั้นเอาไว้ เพราะเขาคิดว่าเธอคงอับอายที่ได้ตกเป็นของเขาแล้ว และคงไม่กล้าสู้หน้าถึงขนาดต้องย้ายไปเรียนที่อื่นก็เป็นได้
"ใจเย็นๆ นะริต้า พี่ว่าน้องแพรไหม น่าจะมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถมาเรียนที่นี่ได้ ทำไมไม่ลองไปหาเธอที่บ้านล่ะ" ริต้าได้ยินแบงก์พูดออกมาอย่างมีหลักการและเหตุผลครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกัน
"ที่ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้เจอกับลูก นั่นมันคือโอกาสเดียวที่ฉันมีให้กับคุณ เพราะอะไรรู้ไหม ที่ฉันต้องยอม ก็เพราะว่าใยไหมขอร้อง เธอพยายามถามหาพ่อตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่คุณทำเอาไว้ เด็กคนหนึ่งต้องมีปม เมื่อเธอเกิดมาแล้วไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นเขา ฉันไม่รู้ทำไมใยไหมถึงต้องการพ่อเลว ๆ อย่างคุณนักก็ไม่รู้" แพรไหมพูดสะกิดไปที่หัวใจของพายุ เวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาบีบรัดเอาไว้ มันเจ็บหน่วงไปหมดเมื่อลูกโหยหาเขามาแสนนาน ในขณะที่เขานั้นเอาแต่ทำงานไม่คิดที่จะตามหาแพรไหมอย่างจริงจัง"นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด เท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำได้ ไปอาบน้ำผมจะทำอาหารรอ" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ต่อให้แพรไหมผลักไสไล่ส่งเขาไปไหน สิ่งที่เขาจะทำคือการยืนหยัดมุ่งมั่นที่จะอยู่ข้างเธอและลูก "ออกไปได้แล้ว และอย่าคิดพยายามคิดทำในสิ่งที่คุณไม่มีสิทธิ์" แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างเช่นกัน เมื่อเธอนั้นไม่มีทางอภัยให้เขาได้เลยในชีวิตนี้ "จะอาบไหมน้
"คุณเจ็บมากหรือเปล่า แพรไหม" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดลงมาที่ใต้สะดือ แล้วพบว่ามีแผลเป็นรอยยาวจางๆ ประมาณสิบถึงสิบห้าเซนติเมตร ซึ่งรอยนั่นเขารู้ดีว่ามันคงได้มาจากการผ่าตัดทำคลอดใยไหม "อืม..หนาว..หนาวจัง" แพรไหมครางออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงพูดที่บ่งบอกว่าเธอนั้น ต้องการผ้าห่มมากกว่าผ้าชุบน้ำที่พายุนั้นกำลังเช็ดไปทั่วเรือนกายของเธอ "แป๊บหนึ่งเดี๋ยวผมก็จะห่มผ้าให้นอนตะแคงก่อน" พายุพูดพร้อมกับจับแพรไหม นอนตะแคงข้างเขาใช้ผ้าเช็ดไปที่แผ่นหลัง ที่ขาวนวลของเธอไปมา ในระหว่างนั้นเขาก็พยายามห้ามใจไปด้วย เมื่อเรือนกายของหญิงสาวช่างเซ็กซี่สะดุดตาเสียจนอยากกลืนกินเธอไปทั้งตัว "อ้าว! เฮ้ย..บรรลัยละ" พายุเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อผ้าขนหนูผืนเล็กนั้น ไปเกาะเข้ากับตะขอบราสีชมพูอ่อนจนหลุดออกมา
ก่อนจะเข้าไปหามารดา ใยไหมตัดสินใจเปิดประตูเข้าห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เด็กหญิงอาบน้ำได้สักพักใหญ่ เธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากห้อง มองไปที่โต๊ะอาหารทุกครั้งเวลาที่เธอออกไปข้างนอก ผู้เป็นมารดามักจะทำอาหารไว้รอเธอเสมอ แต่วันนี้มาแปลกหรือมารดาจะโกรธที่เธอออกไปตามหาบิดา ก่อก! ก่อก! แกร๊ก! ใยไหมเคาะประตูห้องของมารดา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป และแล้วเด็กหญิงต้องตกใจกับภาพที่เห็น เมื่อมารดานอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มท่าทางจะหนาวจนสะบั้น เพราะพิษไข้ ใบหน้าของผู้เป็นมารดานั้นดูซีดเซียวมาก "แม่! มาดามเป็นอะไร แย่แล้วทำไมตัวร้อนแบบนี้ ทำไงดี ทำยังไงดี" ใยไหมตกใจ เมื่อตัวของมารดาร้อนดั่งไฟสุม เด็กหญิงไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะมัวแต่ตกใจกลัวว่ามารดาจะเป็นอะไรไป "ป๋า! ..ใช่แล้วต้องโทรหาป๋า" ใยไหมวิ่งไปที่ห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นบิดา แต่พอนึกได้ว่าเขาอยู่ห้องตรงข้าม เธอน่าจะเดินไปเรียกเลยดีกว่า หรือว่าจะ
"ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก"ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวดเลยทีเดียวสองพ่อลูกเดินออกมาจากบริษัท คุยกันกะหนุงกะหนิงด้วยความสนิทใจอย่างรวดเร็ว เวลานี้ใกล้มืดแล้ว แต่ใยไหมกลับลืมเวลา ไม่ได้สนใจว่ามารดาจะคอยเธอกลับ พายุพาลูกสาวขับรถตรงไปที่ร้านอาหารหรู เขาได้สั่งเมนูตามใจชอบของเด็กหญิง "ว้าว! อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะคุณป๋า" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับแสดงกิริยาตื่นตาตื่นใจ เมื่อเธอนั้นเพิ่งกลับมาเมืองไทย มันจึงทำให้อาหารเหล่านี้แปลกตาและดูน่ารับประทาน "หนูทานเผ็ดไหม ทานได้หรือเปล่าลูก" พายุถามออกมาด้
"หนูอายุเท่าไหร่" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาแน่ใจว่า ความสัมพันธ์ของเขาที่ลึกซึ้งกับบรรดาสาว ๆ นั้น เมื่อคราวที่เรียนมหา'ลัยเท่านั้น เพราะหากเด็กคนนี้อายุเกินสิบขวบ ก็แสดงว่าเธอกำลังโกหกเขาอยู่อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแพรไหม เขาก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย "หนูอายุสิบขวบนิดๆ ค่ะ แต่แม่บอกว่าหนูเป็นสาวแล้ว" คำบอกเล่าของเด็กหญิง ทำให้พายุฉีกยิ้มกว้าง เขาอยากรู้จังเลยทำไมมารดาของเธอถึงได้บอกว่าลูกเป็นสาว ทั้งที่ลูกนั้นเพิ่งจะสิบขวบเอง แต่ดูจากหน้าตาและรูปร่างเธอโตเกินวัยจริงๆ มิน่ามารดาของเธอถึงบอกว่าใยไหมโตเป็นสาวแล้ว "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก
"คุณพายุรีบหรือเปล่าคะ ฝ้ายอยากจะชวนคุณไปดูแบบที่ร่างเอาไว้แล้วลืมหยิบมา ฝ้ายอยากได้แบบนั้น แต่ออกแบบไม่เป็นอยากให้คุณพายุแนะนำ คุณรีบหรือเปล่าคะ" ฝ้ายถามชายตรงหน้าออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่สายตาของเธอกลับหวานหยาดเยิ้ม พายุพอจะเดาได้ว่าหญิงตรงหน้าต้องการอะไร สำหรับเขาแล้วเวลานี้มีเพียงแพรไหมที่จะทำให้หัวใจเขานั้นพองโต "พอดีผมมีนัดกับลูกค้า เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับคุณฝ้าย" พายุพยายามปฏิเสธออกไป เพื่อรักษาน้ำใจของหญิงสาวตรงหน้า "ตกลงค่ะ แต่คราวหน้าคุณพายุห้ามปฏิเสธ เพราะว่าฝ้ายอยากได้ลายนั้นมาก แต่ว่าออกแบบไม่เป็น ต้องรบกวนคุณพายุแล้ว" ฝ้ายยังคงพูดจาจีบปากจีบคอส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มแบบนั้นมาที่พายุเหมือนเดิม "ไม่มีปัญหาครับเดี๋ยวคราวหน้าผมจะแวะไปดูให้" ยิ่งพายุพูดแบบนั้นออกไป ยิ่งทำให้ฝ้ายปลาบปลื้มใจ ที่ชายหนุ่มนั้นจะไปพบเธอ ตามที่ได้ตั้งเจตจำนงเอาไว้ เพื่อหลอกล่อชายตรงหน้าไปตกหลุมพรางของเธอ"ขอบคุณนะคะ นอกจากคุณพายุจะหน้าตาดีแล้ว ยังใจดีอีกต่างหา







