LOGIN"คุณเจ็บมากหรือเปล่า แพรไหม" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดลงมาที่ใต้สะดือ แล้วพบว่ามีแผลเป็นรอยยาวจางๆ ประมาณสิบถึงสิบห้าเซนติเมตร ซึ่งรอยนั่นเขารู้ดีว่ามันคงได้มาจากการผ่าตัดทำคลอดใยไหม
"อืม..หนาว..หนาวจัง" แพรไหมครางออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงพูดที่บ่งบอกว่าเธอนั้น ต้องการผ้าห่มมากกว่าผ้าชุบน้ำที่พายุนั้นกำลังเช็ดไปทั่วเรือนกายของเธอ
"แป๊บหนึ่งเดี๋ยวผมก็จะห่มผ้าให้นอนตะแคงก่อน" พายุพูดพร้อมกับจับแพรไหม นอนตะแคงข้างเขาใช้ผ้าเช็ดไปที่แผ่นหลัง ที่ขาวนวลของเธอไปมา ในระหว่างนั้นเขาก็พยายามห้ามใจไปด้วย เมื่อเรือนกายของหญิงสาวช่างเซ็กซี่สะดุดตาเสียจนอยากกลืนกินเธอไปทั้งตัว
"อ้าว! เฮ้ย..บรรลัยละ" พายุเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อผ้าขนหนูผืนเล็กนั้น ไปเกาะเข้ากับตะขอบราสีชมพูอ่อนจนหลุดออกมา
"พอแล้ว..หนาว" แพรไหมพูดจาเสียงออดอ้อนออกมา โดยไม่รู้ตัวว่าหน้าอกของเธอนั้นกำลังจะเปลือยเปล่า เมื่อพายุกำลังใช้ความพยายามในการแกะตะขอบราออกจากผ้าขนหนูผืนเล็ก
"กรุณานอนนิ่งๆ ด้วยนะครับ ได้โปรดเห็นใจผมด้วย ยุบหนอพองหนอ" พายุพยายามสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ ปากก็พูดให้ปลง แต่สายตาคมกลับจ้องมองไปที่เต้างามอย่างไม่วางตา ในขณะที่หญิงสาวนั้นพยายามพลิกตัวนอนหงาย มันยิ่งประจักษ์ต่อสายตาของพายุ เมื่อเวลานี้บราได้หลุดออกจากสองเต้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"นั่นไงว่าแล้วเชียว มังกรยักษ์ลูกพ่อใจเย็นๆ เมียยังไม่ให้อภัย ทำอะไรไปตอนนี้ไม่ได้" ในที่สุดพายุก็เอาผ้าขนหนูที่เกาะกับตะขอออกสำเร็จ ก่อนจะดึงบรากระชับเข้ามาที่สองเต้างามอย่างหักห้ามใจ แล้วจับแพรไหมนอนตะแคง เพื่อที่จะติดตะขอบราให้เธอ
"เวลาปลดทำไมมันง่ายจังวะ ใส่ยังไงเนี่ยทำไมมันมีหลายระดับจังเลย" พายุบ่นพึมพำพร้อมกับพยายามติดตะขอไปด้วย กว่าจะทำได้เขาต้องใช้ความพยายามอยู่นานเลยทีเดียว
"ได้สักที คุณจะรู้หรือเปล่าแพรไหม ผมต้องใช้ความพยายามแค่ไหน ที่ต้องอดใจไว้แบบนี้" พายุพูดจบพร้อมกับห่มผ้าให้แพรไหม จากนั้นชายหนุ่มได้ขึ้นไปล้มตัวลงนอนข้างๆ หญิงสาวร่างเล็ก เขาเอามือไปอังที่หน้าผากของเธอ เวลานี้ไข้ได้ลดลงไปบ้างแล้ว แต่เขาคงต้องเช็ดตัวให้เธอบ่อยๆ ตลอดทั้งคืน
ชายหนุ่มดันร่างอรชรเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะสอดลำแขนไปให้เธอหนุนแทนหมอน เขาจุมพิตลงไปที่หน้าผากเธอเบาๆ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เช้าหากหญิงสาวตื่นมาจะโวยวาย และด่าทอเขามากน้อยแค่ไหนกัน แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เมื่อพายุพร้อมยอมจำนนให้กับเธอแต่เพียงผู้เดียว เขาพร้อมจะน้อมรับโทษทัณฑ์ หากว่าเธอต้องการ พายุขอแค่เธออภัยก็เพียงพอแล้ว
แสงแรกของอรุณสาดส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาภายในห้องนอน ที่ชายหญิงกำลังกอดกันกลม ใบหน้าเรียวซุกเข้าหาอกกว้างของชายหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว ในขณะที่ร่างกายของเธอ มีเพียงแค่ชุดชั้นในห่อหุ้มกายเอาไว้ ภายใต้ผ้าห่มผืนบาง โดยมีชายร่างกายกำยำยังคงนอนหลับใหลโอบกอดหญิงร่างเล็กเอาไว้ เมื่อเขาเฝ้าไข้และเช็ดตัวให้เธอทั้งคืน เพิ่งจะได้นอนตอนใกล้สว่างนี่เอง
แพรไหมเริ่มรู้สึกตัว ซึ่งเธอรู้สึกสบายตัวขึ้นกว่าช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา หญิงสาวค่อยๆ ขยับเปลือกตาขึ้นอย่างช้า ๆ เมื่อแสงกระทบเข้ามาแยงดวงตาของเธอ เวลานี้แพรไหมสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากชายร่างบึกบึน หญิงสาวพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อคลายความตื่นเต้น เมื่อเวลานี้ใจของเธอมันเต้นแรงราวกับว่ามันจะกระเด็นออกมาจากอกข้างซ้าย เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าคมคายของชายตรงหน้า
"รุ่นพี่พายุ!" แพรไหมตกใจ จนอุทานออกมาเสียงดัง
เมื่อชายหนุ่มรู้สึกตัว เขากลับโอบกระชับโอบรัดร่างเล็กเข้าหา ในขณะที่มือเล็กเรียวของแพรไหมดันอกกว้างของเขาเอาไว้ ก่อนที่เธอจะตกใจกับเรือนกายของตัวเอง
"ว้าย! นี่คุณ! ลุกออกไปจากเตียงฉันเลยนะ แล้วทำบ้าอะไรเนี่ย เสื้อผ้าฉันหายไปไหน อย่าบอกนะว่าคุณลักหลับฉัน ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต! นี่แน่ะ! นี่แนะ! นี่แนะ! " แพรไหมพูดพร้อมกับดึงผ้าห่มมาคลุมไว้ที่อก แล้วยกกำปั้นขึ้นมาทุบลงไปที่ลำตัวของพายุรัวๆ อย่างไม่ยั้งมือ
"โอ๊ะ! โอ๊ย อะไรของคุณเนี่ย" พายุถามออกไปพร้อมกับงัวเงียเอามือลูบลงที่ดวงตาไปมา เพราะเขาเพิ่งจะหลับลงไปได้ไม่กี่ชั่วโมงเอง
"คุณออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!" แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างและเย็นชา จนพายุสัมผัสได้ เมื่อดวงตาคู่สวยนั้นว่างเปล่า
"แพรไหมฟังผมอธิบายก่อนได้ไหม เรื่องระหว่างเรา"
"หยุดพูด!" แพรไหมรีบพูดแทรกขึ้นทันที ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น เธอไม่มีวันอภัยให้กับผู้ชายคนนี้ เมื่อสิ่งที่เขาทำกับเธอนั้น มันเลวทรามสิ้นดี เกินกว่าที่จะอภัยให้ได้
"คุณจะโกรธจะเกลียดยังไงผมไม่ว่า ผมอยากให้คุณนึกถึงหัวอกลูกของเราบ้างแค่นั้นเอง คุณไม่สงสารใยไหมเลยเหรอ หืม" พายุพยายามเอาลูกขึ้นมาเป็นข้ออ้างอ้าง แต่ดูจากท่าทางของแพรไหมแล้วคงยาก สายตาของหญิงตรงหน้า เวลาที่จ้องมองมายังเขานั้นช่างเย็นชาเหลือเกิน
"คุณอย่ายกเอาลูกขึ้นมาเป็นข้ออ้าง เพื่อพูดให้ตัวเองดูดี เพราะมันยิ่งจะตอกย้ำถึงสิ่งที่คุณได้กระทำไว้กับฉัน คุณใช้วิธีสกปรกพรากความสาวไปจากฉัน มิหนำซ้ำคุณยังไม่คิดป้องกัน แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ เพราะใยไหมคือของขวัญที่ล้ำค่า ที่ฉันเฝ้าทะนุถนอมเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี" แพรไหมพูดร่ายยาว เพื่อระบายความอัดอั้นตันใจออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เมื่อเวลานี้ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กับชายตรงหน้านั้น กำลังจะหมดสิ้นไป แต่พอเจอเขาอีกครั้งหัวใจของเธอกลับเต้นแรง ทั้งที่พยายามบอกหัวใจอย่าได้หลงใหลแค่รูปลักษณ์ภายนอก ผู้ชายคนนี้ไม่ต่างจากอสุรกายในร่างคน
"ผมขอโอกาสจากคุณสักครั้งได้หรือเปล่าแพรไหม ผมสัญญาจะทำให้ดี ขอแค่คุณให้โอกาสผมสักครั้งก็เพียงพอแล้ว" พายุยังคงพยายามพูดจาตื๊อแพรไหมไม่เลิก ขณะที่หญิงสาวนอนห่มผ้าอยู่บนเตียง เธอมองเขาตาขวางอย่างไม่พอใจ ในสิ่งที่พายุร้องขอ เพราะเขาจะไม่มีทางได้รับจากเธอ
"ที่ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้เจอกับลูก นั่นมันคือโอกาสเดียวที่ฉันมีให้กับคุณ เพราะอะไรรู้ไหม ที่ฉันต้องยอม ก็เพราะว่าใยไหมขอร้อง เธอพยายามถามหาพ่อตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่คุณทำเอาไว้ เด็กคนหนึ่งต้องมีปม เมื่อเธอเกิดมาแล้วไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นเขา ฉันไม่รู้ทำไมใยไหมถึงต้องการพ่อเลว ๆ อย่างคุณนักก็ไม่รู้" แพรไหมพูดสะกิดไปที่หัวใจของพายุ เวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาบีบรัดเอาไว้ มันเจ็บหน่วงไปหมดเมื่อลูกโหยหาเขามาแสนนาน ในขณะที่เขานั้นเอาแต่ทำงานไม่คิดที่จะตามหาแพรไหมอย่างจริงจัง"นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด เท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำได้ ไปอาบน้ำผมจะทำอาหารรอ" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ต่อให้แพรไหมผลักไสไล่ส่งเขาไปไหน สิ่งที่เขาจะทำคือการยืนหยัดมุ่งมั่นที่จะอยู่ข้างเธอและลูก "ออกไปได้แล้ว และอย่าคิดพยายามคิดทำในสิ่งที่คุณไม่มีสิทธิ์" แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างเช่นกัน เมื่อเธอนั้นไม่มีทางอภัยให้เขาได้เลยในชีวิตนี้ "จะอาบไหมน้
"คุณเจ็บมากหรือเปล่า แพรไหม" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดลงมาที่ใต้สะดือ แล้วพบว่ามีแผลเป็นรอยยาวจางๆ ประมาณสิบถึงสิบห้าเซนติเมตร ซึ่งรอยนั่นเขารู้ดีว่ามันคงได้มาจากการผ่าตัดทำคลอดใยไหม "อืม..หนาว..หนาวจัง" แพรไหมครางออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงพูดที่บ่งบอกว่าเธอนั้น ต้องการผ้าห่มมากกว่าผ้าชุบน้ำที่พายุนั้นกำลังเช็ดไปทั่วเรือนกายของเธอ "แป๊บหนึ่งเดี๋ยวผมก็จะห่มผ้าให้นอนตะแคงก่อน" พายุพูดพร้อมกับจับแพรไหม นอนตะแคงข้างเขาใช้ผ้าเช็ดไปที่แผ่นหลัง ที่ขาวนวลของเธอไปมา ในระหว่างนั้นเขาก็พยายามห้ามใจไปด้วย เมื่อเรือนกายของหญิงสาวช่างเซ็กซี่สะดุดตาเสียจนอยากกลืนกินเธอไปทั้งตัว "อ้าว! เฮ้ย..บรรลัยละ" พายุเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อผ้าขนหนูผืนเล็กนั้น ไปเกาะเข้ากับตะขอบราสีชมพูอ่อนจนหลุดออกมา
ก่อนจะเข้าไปหามารดา ใยไหมตัดสินใจเปิดประตูเข้าห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เด็กหญิงอาบน้ำได้สักพักใหญ่ เธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากห้อง มองไปที่โต๊ะอาหารทุกครั้งเวลาที่เธอออกไปข้างนอก ผู้เป็นมารดามักจะทำอาหารไว้รอเธอเสมอ แต่วันนี้มาแปลกหรือมารดาจะโกรธที่เธอออกไปตามหาบิดา ก่อก! ก่อก! แกร๊ก! ใยไหมเคาะประตูห้องของมารดา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป และแล้วเด็กหญิงต้องตกใจกับภาพที่เห็น เมื่อมารดานอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มท่าทางจะหนาวจนสะบั้น เพราะพิษไข้ ใบหน้าของผู้เป็นมารดานั้นดูซีดเซียวมาก "แม่! มาดามเป็นอะไร แย่แล้วทำไมตัวร้อนแบบนี้ ทำไงดี ทำยังไงดี" ใยไหมตกใจ เมื่อตัวของมารดาร้อนดั่งไฟสุม เด็กหญิงไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะมัวแต่ตกใจกลัวว่ามารดาจะเป็นอะไรไป "ป๋า! ..ใช่แล้วต้องโทรหาป๋า" ใยไหมวิ่งไปที่ห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นบิดา แต่พอนึกได้ว่าเขาอยู่ห้องตรงข้าม เธอน่าจะเดินไปเรียกเลยดีกว่า หรือว่าจะ
"ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก"ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวดเลยทีเดียวสองพ่อลูกเดินออกมาจากบริษัท คุยกันกะหนุงกะหนิงด้วยความสนิทใจอย่างรวดเร็ว เวลานี้ใกล้มืดแล้ว แต่ใยไหมกลับลืมเวลา ไม่ได้สนใจว่ามารดาจะคอยเธอกลับ พายุพาลูกสาวขับรถตรงไปที่ร้านอาหารหรู เขาได้สั่งเมนูตามใจชอบของเด็กหญิง "ว้าว! อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะคุณป๋า" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับแสดงกิริยาตื่นตาตื่นใจ เมื่อเธอนั้นเพิ่งกลับมาเมืองไทย มันจึงทำให้อาหารเหล่านี้แปลกตาและดูน่ารับประทาน "หนูทานเผ็ดไหม ทานได้หรือเปล่าลูก" พายุถามออกมาด้
"หนูอายุเท่าไหร่" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาแน่ใจว่า ความสัมพันธ์ของเขาที่ลึกซึ้งกับบรรดาสาว ๆ นั้น เมื่อคราวที่เรียนมหา'ลัยเท่านั้น เพราะหากเด็กคนนี้อายุเกินสิบขวบ ก็แสดงว่าเธอกำลังโกหกเขาอยู่อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแพรไหม เขาก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย "หนูอายุสิบขวบนิดๆ ค่ะ แต่แม่บอกว่าหนูเป็นสาวแล้ว" คำบอกเล่าของเด็กหญิง ทำให้พายุฉีกยิ้มกว้าง เขาอยากรู้จังเลยทำไมมารดาของเธอถึงได้บอกว่าลูกเป็นสาว ทั้งที่ลูกนั้นเพิ่งจะสิบขวบเอง แต่ดูจากหน้าตาและรูปร่างเธอโตเกินวัยจริงๆ มิน่ามารดาของเธอถึงบอกว่าใยไหมโตเป็นสาวแล้ว "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก
"คุณพายุรีบหรือเปล่าคะ ฝ้ายอยากจะชวนคุณไปดูแบบที่ร่างเอาไว้แล้วลืมหยิบมา ฝ้ายอยากได้แบบนั้น แต่ออกแบบไม่เป็นอยากให้คุณพายุแนะนำ คุณรีบหรือเปล่าคะ" ฝ้ายถามชายตรงหน้าออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่สายตาของเธอกลับหวานหยาดเยิ้ม พายุพอจะเดาได้ว่าหญิงตรงหน้าต้องการอะไร สำหรับเขาแล้วเวลานี้มีเพียงแพรไหมที่จะทำให้หัวใจเขานั้นพองโต "พอดีผมมีนัดกับลูกค้า เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับคุณฝ้าย" พายุพยายามปฏิเสธออกไป เพื่อรักษาน้ำใจของหญิงสาวตรงหน้า "ตกลงค่ะ แต่คราวหน้าคุณพายุห้ามปฏิเสธ เพราะว่าฝ้ายอยากได้ลายนั้นมาก แต่ว่าออกแบบไม่เป็น ต้องรบกวนคุณพายุแล้ว" ฝ้ายยังคงพูดจาจีบปากจีบคอส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มแบบนั้นมาที่พายุเหมือนเดิม "ไม่มีปัญหาครับเดี๋ยวคราวหน้าผมจะแวะไปดูให้" ยิ่งพายุพูดแบบนั้นออกไป ยิ่งทำให้ฝ้ายปลาบปลื้มใจ ที่ชายหนุ่มนั้นจะไปพบเธอ ตามที่ได้ตั้งเจตจำนงเอาไว้ เพื่อหลอกล่อชายตรงหน้าไปตกหลุมพรางของเธอ"ขอบคุณนะคะ นอกจากคุณพายุจะหน้าตาดีแล้ว ยังใจดีอีกต่างหา







