Se connecter"ที่ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้เจอกับลูก นั่นมันคือโอกาสเดียวที่ฉันมีให้กับคุณ เพราะอะไรรู้ไหม ที่ฉันต้องยอม ก็เพราะว่าใยไหมขอร้อง เธอพยายามถามหาพ่อตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่คุณทำเอาไว้ เด็กคนหนึ่งต้องมีปม เมื่อเธอเกิดมาแล้วไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นเขา ฉันไม่รู้ทำไมใยไหมถึงต้องการพ่อเลว ๆ อย่างคุณนักก็ไม่รู้" แพรไหมพูดสะกิดไปที่หัวใจของพายุ เวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาบีบรัดเอาไว้ มันเจ็บหน่วงไปหมดเมื่อลูกโหยหาเขามาแสนนาน ในขณะที่เขานั้นเอาแต่ทำงานไม่คิดที่จะตามหาแพรไหมอย่างจริงจัง
"นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด เท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำได้ ไปอาบน้ำผมจะทำอาหารรอ" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ต่อให้แพรไหมผลักไสไล่ส่งเขาไปไหน สิ่งที่เขาจะทำคือการยืนหยัดมุ่งมั่นที่จะอยู่ข้างเธอและลูก
"ออกไปได้แล้ว และอย่าคิดพยายามคิดทำในสิ่งที่คุณไม่มีสิทธิ์" แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างเช่นกัน เมื่อเธอนั้นไม่มีทางอภัยให้เขาได้เลยในชีวิตนี้
"จะอาบไหมน้ำ หรือจะให้ผมเช็ดตัวให้เหมือนเมื่อคืน ผมเช็ดสะอาดนะ รับรองหมดจดทุกซอกทุกมุม" พายุพูดพร้อมกับมองมาที่แพรไหมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ซึ่งแววตาแบบนี้แพรไหมรู้สึกเกลียดเป็นที่สุด ตอนนี้ความโกรธเธอได้เริ่มก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง หากเขาเช็ดตัวให้เธอแสดงว่าเมื่อคืนเขาก็ต้องเห็นหมดนะสิ
"คุณพูดภาษาคนไม่รู้เรื่องเลยใช่ไหม ฉันไล่คุณกลับไปแล้วยังจะหน้าด้านหน้าทนอยู่อีกทำไม" แพรไหมพูดออกมา ในขณะที่พวงแก้มของเธอนั้นร้อนผ่าวจนมีสีแดงระเรื่อออกมาเห็นได้ชัด เพราะเธอนั้นรู้สึกเขินอาย เมื่อนึกถึงสิ่งที่พายุนั้นได้ทำให้เธอเมื่อคืน แต่ก็พยายามฝืนให้เป็นปกติที่สุด
"ทำไมหน้าแดง อายเหรอ แล้วผ้านั่นจะคลุมไว้ทำไม ผมเห็นหมดแล้วไม่ต้องปิดไว้หรอก" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่กวนประสาท เมื่อเขารู้สึกชอบใจเวลาที่แพรไหมทำท่าทางขึงขังใส่เขา
"คุณมันคนชอบฉวยโอกาส ออกไปให้พ้นเลยนะ ก่อนที่ฉันจะตะโกนให้ลูกเข้ามา คุณอยากให้ใยไหมเห็นด้านเลวคุณนักใช่ไหม" แพรไหมพูดออกมาด้วยความโกรธ เมื่อมันแทรกเข้ามาแทนความเขินอายที่มีในเวลานี้
"ผมจะออกไป แล้วจะกลับมาใหม่ หลังจากที่ทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าคุณยังอาบน้ำไม่เสร็จ ผมจะเป็นคนจัดการให้เอง เข้าใจนะครับคุณภรรยา!"
"ใครเป็นภรรยาของคุณ ไอ้พายุบ้า!" แพรไหมร้องตะโกนเสียงดังโวยวายตามหลังพายุ เมื่อชายหนุ่มนั้นเดินออกไปจากห้องของเธอ เวลานี้แพรไหมไม่รู้ว่าชีวิตของเธอจะต้องเจอกับความยุ่งเหยิงแค่ไหน เมื่อพายุเข้ามาข้องแวะแบบนี้
เมื่อพายุเดินออกมาจากห้องของแพรไหม เขาตรงไปที่ครัวแล้วเปิดตู้เย็นดูของสดที่มี ซึ่งชายหนุ่มรู้สึกโอเคมากๆ เมื่อของสดนั้นมีอยู่เต็มตู้เย็น
"คุณป๋าทำอะไรคะ" เด็กหญิงหน้าตาแป้นแล้นวิ่งแจ้นตรงเข้ามาในครัว พร้อมกับจ้องไปที่บิดาของเธอ
"ป๋าว่าจะทำข้าวต้มให้มาดาม หนูอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าลูก" พายุเอ่ยถามลูกสาวออกไปด้วยความรักและเอ็นดู ในตัวของเด็กหญิงตรงหน้า ที่มองยังไงเธอก็น่ารัก
"มื้อเช้า ขอเป็นข้าวต้มเหมือนมาดามก็ได้ค่ะคุณป๋า" ใยไหมพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เธอรู้สึกมีความสุขที่สุดในวันนี้ เพราะกำลังจะได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันสักที
"โอเคครับ เช้านี้เราจะทานข้าวต้มทั้งสามคนเลย" พายุพูดพร้อมกับลงมือทำอาหารไปด้วย ภายในใจของเขาในเวลานี้รู้สึกปลาบปลื้มยินดีในสิ่งที่กำลังทำเป็นอย่างมาก เพราะเขาได้ใส่ใจลงไปในรสอาหารในหม้อ ชายหนุ่มทำด้วยความพิถีพิถัน เมื่อมันกำลังจะเป็นอาหารมื้อพิเศษสำหรับเขาเช่นกัน ที่จะได้รับประทานอาหารร่วมกันสามคนพ่อแม่ลูก หลังจากที่พายุทำอาหารเสร็จ เขารีบเข้าไปที่ห้องของตัวเองจัดการอาบน้ำแต่งตัว เพื่อออกมารับประทานมื้อเช้ากับครอบครัว ที่เขานั้นเพิ่งจะได้สัมผัสมันเป็นครั้งแรก
ทางด้านแพรไหมเธอรีบอาบน้ำแต่งตัว เพราะวันนี้ตั้งใจจะเข้าไปทำงานที่บริษัท เมื่อเธอนั้นได้ผัดมาหลายวันแล้ว
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
"มาดามมาทานข้าวได้แล้วค่ะ" เสียงใสของใยไหมร้องตะโกนอยู่หน้าประตูห้องของผู้เป็นมารดา
"แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าตะโกนเสียงดัง เราเนี่ยไม่เคยฟังเลยนะใยไหม" แพรไหมเปิดประตูออกมา พร้อมกับเอ็ดลูกสาวเบาๆ ก่อนจะเหลือบมองไปที่โต๊ะอาหารกลับพบว่าพายุนั่งรออยู่แล้ว
"ไล่ยังไงก็ไม่ยอมไปคนอะไรหน้าด้านหน้าทนชะมัดเลย" แพรไหมบ่นพึมพำเบา ๆ เมื่อเธอรู้สึกได้ว่าพายุนั้นคงไม่ยอมเลิกล้มความตั้งใจ ที่จะเข้าใกล้เธอง่ายๆ อย่างแน่นอน
"เชิญครับมาดาม" พายุเอ่ยเชื้อเชิญหญิงสาวราวกับว่าเป็นเจ้าของห้องนี้เสียเอง
"ทำอย่างกับตัวเองเป็นเจ้าของห้องอย่างนั้นแหละ" แพรไหมพูดออกมาด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด แต่ชายหนุ่มและลูกสาวกลับสบตากันแล้วแอบอมยิ้ม พร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างพร้อมเพรียง
"เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ อย่าเอานิสัยแย่ๆ ติดมาด้วยล่ะใยไหม" หญิงสาวพูดพร้อมกับกับข้าวต้มเข้าปากอย่างลืมตัว เมื่อเธอลืมนึกไปว่าอาหารมื้อนี้พายุเป็นคนทำ
"คุณป๋าขา วันนี้เลิกเรียนหนูจะไปหาคุณป๋าที่บริษัทนะคะ" เด็กหญิงพูดจาออดอ้อนฉอเลาะผู้เป็นบิดาออกมา
"ไม่ได้! เลิกเรียนก็ต้องทำการบ้านอย่าเกเรนะใยไหม" แพรไหมดุลูกอีกครั้ง หลังจากที่เธอนั้นเริ่มมีท่าที ที่จะติดผู้เป็นบิดามากเกินไปแล้ว
"ได้สิ เดี๋ยวป๋าจะหาคนขับรถให้หนู จะได้ไปรับไปส่งไม่ต้องนั่งแท็กซี่ ถ้าหนูจะไปที่ไหนก็แค่บอกคนขับรถเขาจะพาไปทุกที่เลยโอเคไหมครับลูกสาวพ่อ" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข เมื่อเขากำลังคิดทำสิ่งเล็กๆ ให้กับลูกสาว
"ที่ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้เจอกับลูก นั่นมันคือโอกาสเดียวที่ฉันมีให้กับคุณ เพราะอะไรรู้ไหม ที่ฉันต้องยอม ก็เพราะว่าใยไหมขอร้อง เธอพยายามถามหาพ่อตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่คุณทำเอาไว้ เด็กคนหนึ่งต้องมีปม เมื่อเธอเกิดมาแล้วไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นเขา ฉันไม่รู้ทำไมใยไหมถึงต้องการพ่อเลว ๆ อย่างคุณนักก็ไม่รู้" แพรไหมพูดสะกิดไปที่หัวใจของพายุ เวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาบีบรัดเอาไว้ มันเจ็บหน่วงไปหมดเมื่อลูกโหยหาเขามาแสนนาน ในขณะที่เขานั้นเอาแต่ทำงานไม่คิดที่จะตามหาแพรไหมอย่างจริงจัง"นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด เท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำได้ ไปอาบน้ำผมจะทำอาหารรอ" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ต่อให้แพรไหมผลักไสไล่ส่งเขาไปไหน สิ่งที่เขาจะทำคือการยืนหยัดมุ่งมั่นที่จะอยู่ข้างเธอและลูก "ออกไปได้แล้ว และอย่าคิดพยายามคิดทำในสิ่งที่คุณไม่มีสิทธิ์" แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างเช่นกัน เมื่อเธอนั้นไม่มีทางอภัยให้เขาได้เลยในชีวิตนี้ "จะอาบไหมน้
"คุณเจ็บมากหรือเปล่า แพรไหม" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดลงมาที่ใต้สะดือ แล้วพบว่ามีแผลเป็นรอยยาวจางๆ ประมาณสิบถึงสิบห้าเซนติเมตร ซึ่งรอยนั่นเขารู้ดีว่ามันคงได้มาจากการผ่าตัดทำคลอดใยไหม "อืม..หนาว..หนาวจัง" แพรไหมครางออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงพูดที่บ่งบอกว่าเธอนั้น ต้องการผ้าห่มมากกว่าผ้าชุบน้ำที่พายุนั้นกำลังเช็ดไปทั่วเรือนกายของเธอ "แป๊บหนึ่งเดี๋ยวผมก็จะห่มผ้าให้นอนตะแคงก่อน" พายุพูดพร้อมกับจับแพรไหม นอนตะแคงข้างเขาใช้ผ้าเช็ดไปที่แผ่นหลัง ที่ขาวนวลของเธอไปมา ในระหว่างนั้นเขาก็พยายามห้ามใจไปด้วย เมื่อเรือนกายของหญิงสาวช่างเซ็กซี่สะดุดตาเสียจนอยากกลืนกินเธอไปทั้งตัว "อ้าว! เฮ้ย..บรรลัยละ" พายุเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อผ้าขนหนูผืนเล็กนั้น ไปเกาะเข้ากับตะขอบราสีชมพูอ่อนจนหลุดออกมา
ก่อนจะเข้าไปหามารดา ใยไหมตัดสินใจเปิดประตูเข้าห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เด็กหญิงอาบน้ำได้สักพักใหญ่ เธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากห้อง มองไปที่โต๊ะอาหารทุกครั้งเวลาที่เธอออกไปข้างนอก ผู้เป็นมารดามักจะทำอาหารไว้รอเธอเสมอ แต่วันนี้มาแปลกหรือมารดาจะโกรธที่เธอออกไปตามหาบิดา ก่อก! ก่อก! แกร๊ก! ใยไหมเคาะประตูห้องของมารดา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป และแล้วเด็กหญิงต้องตกใจกับภาพที่เห็น เมื่อมารดานอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มท่าทางจะหนาวจนสะบั้น เพราะพิษไข้ ใบหน้าของผู้เป็นมารดานั้นดูซีดเซียวมาก "แม่! มาดามเป็นอะไร แย่แล้วทำไมตัวร้อนแบบนี้ ทำไงดี ทำยังไงดี" ใยไหมตกใจ เมื่อตัวของมารดาร้อนดั่งไฟสุม เด็กหญิงไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะมัวแต่ตกใจกลัวว่ามารดาจะเป็นอะไรไป "ป๋า! ..ใช่แล้วต้องโทรหาป๋า" ใยไหมวิ่งไปที่ห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นบิดา แต่พอนึกได้ว่าเขาอยู่ห้องตรงข้าม เธอน่าจะเดินไปเรียกเลยดีกว่า หรือว่าจะ
"ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก"ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวดเลยทีเดียวสองพ่อลูกเดินออกมาจากบริษัท คุยกันกะหนุงกะหนิงด้วยความสนิทใจอย่างรวดเร็ว เวลานี้ใกล้มืดแล้ว แต่ใยไหมกลับลืมเวลา ไม่ได้สนใจว่ามารดาจะคอยเธอกลับ พายุพาลูกสาวขับรถตรงไปที่ร้านอาหารหรู เขาได้สั่งเมนูตามใจชอบของเด็กหญิง "ว้าว! อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะคุณป๋า" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับแสดงกิริยาตื่นตาตื่นใจ เมื่อเธอนั้นเพิ่งกลับมาเมืองไทย มันจึงทำให้อาหารเหล่านี้แปลกตาและดูน่ารับประทาน "หนูทานเผ็ดไหม ทานได้หรือเปล่าลูก" พายุถามออกมาด้
"หนูอายุเท่าไหร่" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาแน่ใจว่า ความสัมพันธ์ของเขาที่ลึกซึ้งกับบรรดาสาว ๆ นั้น เมื่อคราวที่เรียนมหา'ลัยเท่านั้น เพราะหากเด็กคนนี้อายุเกินสิบขวบ ก็แสดงว่าเธอกำลังโกหกเขาอยู่อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแพรไหม เขาก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย "หนูอายุสิบขวบนิดๆ ค่ะ แต่แม่บอกว่าหนูเป็นสาวแล้ว" คำบอกเล่าของเด็กหญิง ทำให้พายุฉีกยิ้มกว้าง เขาอยากรู้จังเลยทำไมมารดาของเธอถึงได้บอกว่าลูกเป็นสาว ทั้งที่ลูกนั้นเพิ่งจะสิบขวบเอง แต่ดูจากหน้าตาและรูปร่างเธอโตเกินวัยจริงๆ มิน่ามารดาของเธอถึงบอกว่าใยไหมโตเป็นสาวแล้ว "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก
"คุณพายุรีบหรือเปล่าคะ ฝ้ายอยากจะชวนคุณไปดูแบบที่ร่างเอาไว้แล้วลืมหยิบมา ฝ้ายอยากได้แบบนั้น แต่ออกแบบไม่เป็นอยากให้คุณพายุแนะนำ คุณรีบหรือเปล่าคะ" ฝ้ายถามชายตรงหน้าออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่สายตาของเธอกลับหวานหยาดเยิ้ม พายุพอจะเดาได้ว่าหญิงตรงหน้าต้องการอะไร สำหรับเขาแล้วเวลานี้มีเพียงแพรไหมที่จะทำให้หัวใจเขานั้นพองโต "พอดีผมมีนัดกับลูกค้า เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับคุณฝ้าย" พายุพยายามปฏิเสธออกไป เพื่อรักษาน้ำใจของหญิงสาวตรงหน้า "ตกลงค่ะ แต่คราวหน้าคุณพายุห้ามปฏิเสธ เพราะว่าฝ้ายอยากได้ลายนั้นมาก แต่ว่าออกแบบไม่เป็น ต้องรบกวนคุณพายุแล้ว" ฝ้ายยังคงพูดจาจีบปากจีบคอส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มแบบนั้นมาที่พายุเหมือนเดิม "ไม่มีปัญหาครับเดี๋ยวคราวหน้าผมจะแวะไปดูให้" ยิ่งพายุพูดแบบนั้นออกไป ยิ่งทำให้ฝ้ายปลาบปลื้มใจ ที่ชายหนุ่มนั้นจะไปพบเธอ ตามที่ได้ตั้งเจตจำนงเอาไว้ เพื่อหลอกล่อชายตรงหน้าไปตกหลุมพรางของเธอ"ขอบคุณนะคะ นอกจากคุณพายุจะหน้าตาดีแล้ว ยังใจดีอีกต่างหา