FAZER LOGINค่าของหัวใจ หลานชายคนเดียวของตระกูล ที่ไม่คิดว่าตัวเองจะตกมาตกหลุมรัก คุณหมอสาวที่สุดแสนจะจืดชืด แถมยังพ่วงตำแหน่ง ลูกสาวคนงานในบ้านของตัวเอง ผู้ชายที่เพียบพร้อม ทั้งหน้าตา ฐานะ และชาติตระกูล กลับต้องมายอมแพ้ใจ ให้กับคุณหมอสาว ที่เพิ่งจะเรียนจบและเริ่มต้นทำงานได้ไม่นาน ความรักที่มาจาก การอยากแกล้ง อยากเอาชนะ และอยากจะสั่งสอนให้รู้ว่า อย่าเล่นกับไฟ แต่กลายเป็นว่า กลับตกหลุมรักเธอ อย่างถอนตัวไม่ขึ้น แม้ใครจะห้าม ใครจะบอกว่าอย่า แต่เค้าก็ไม่ฟัง คำว่าอย่า คือ คำต้องห้าม ที่คนอย่างเธียรวิทย์ จะพุ่งเข้าชน เพื่อให้ได้หัวใจ ของคุณหมอสาว
Ver maisเสียงเพลงดังออกมาเป็นระยะจากห้องรับรองหลังใหญ่กลางสวนสวย ทำให้คนที่กำลังคร่ำเคร่งกับการอ่านตำราภาษาอังกฤษตรงหน้าต้องถอนหายใจออกมา แล้วฟุบหน้าลงบนโต้ะหนังสือของตัวเองด้วยความอ่อนใจ นาฬิกาบนโต้ะบอกเวลาตีหนึ่งแล้วแต่งานเลี้ยงยังไม่จบสิ้น
ว่าที่คุณหมอสาวถอดแว่นสายตาออกก่อนจะปิดตำราเล่มหนาลง
" ป่านนี้ยังดื่มกันไม่เสร็จอีกหรอไง จะให้เมากันถึงขนาดไหน " เสียงบ่นออกมาเบาๆภายในห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะตั้งนาฬิกาปลุกที่สมาร์ทโฟนเครื่องเก่าของตัวเอง แล้วเดินไปที่เตียงนอนเล็ก ก่อนจะหลับลงทันทีด้วยความอ่อนเพลีย
" เธียร หมดแก้วนะคะ "
สาวสวยส่งแก้วเครื่องดื่มสีเข้มส่งให้ชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะขยับตัวขึ้นไปนั่งตักของคนข้างๆอย่างยั่วยวน ดาราสาวสวยยิ้มกว้างอย่างพอใจที่คืนนี้มีโอกาศได้ใก้ลชิดกับเค้าขนาดนี้
'เธียรวิทย์ เธียรธีระกุล '
ไฮโซหนุ่มหล่อวัยสามสิบกว่าปีที่โสด เนื้อหอมที่สุด ไม่เฉพาะหน้าตาที่หล่อร้ายกาจแล้ว แต่ทรัพย์สมบัติอีกนับพันล้านบาทที่ครอบครัวเค้าถือครองอยู่ ทำให้สาวๆทั้งดารา นางแบบ หรือแม้แต่ไฮโซด้วยกัน ต่างพากันทอดสะพานเสริมคอนกรีตมาให้คนตรงหน้าอย่างมากมาย
เธียรวิทย์ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มแล้วมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองก่อนจะมองดูคนรอบข้างตัวที่กำลังเมากันได้ที่ บางคู่บางคนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันจนแทบจะไม่มีเสื้อผ้าติดกาย เสียงเข้มกระแอมออกไปแล้วบอกย้ำอีกทีด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"ตีสามแล้วแยกย้าย" แสงไฟภายในห้องรับรองค่อยๆเพิ่มความสว่างขึ้นมา ก่อนที่ชายหนุ่มเจ้าของบ้านจะขยับตัวลุกขึ้นยืน เปิดประตูออกไปข้างนอกที่มีลูกน้องชายหนุ่มหลายคนนั่งรอเจ้านายอยู่
"ส่งแขกด้วย" น้ำเสียงเข้มบอกออกมาเบาๆ ชายหนุ่มในชุดซาฟารีเดินเข้ามาด้านในค่อยๆประคองแขกของเจ้านายออกไปที่รถของแต่ละคนอย่างนุ่มนวล
"คุณก็ควรกลับได้แล้ว" เธียรวิทย์บอกกับดาราสาวข้างตัวที่กำลังกอดแขนตัวเองแน่นอยู่ในขณะนี้ สาวสวยอ้าปากค้างทันที ก่อนจะส่งสายตาออดอ้อนออกไป ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆเพียงหนึ่งครั้ง ลูกน้องอีกคนก็ตามมาประกบทันที
"ค่ะ ไปก็ได้ค่ะ" สาวสวยล่าถอยออกไป วันนี้ยังไม่ใช่วันของเธอ คราวหน้ายังมี ปากบางค่อยๆกดลงไปจูบเบาๆที่ปลายคางอย่างมีความหมาย เธียรวิทย์ถอนหายใจออกมา ก่อนจะคิดในใจ คนนี้คงไม่ได้มาที่นี่อีกแล้ว
เด็กสาวหลายคนที่ตื่นนอนตั้งแต่ยังไม่ฟ้าสางออกมาเริ่มงานกันตั้งแต่เช้า 'ธีรนุช หรือ หมอนุช 'ของคนในบ้านลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่เช้าตรู่เช่นกัน แม้ว่าเมื่อคืนจะได้หลับตาพักผ่อนเพียงสามสี่ชั่วโมงเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่ประการใด หากผ่านการเรียนแพทย์มาแล้ว ผ่านการสอบการติวที่หามรุ่งหามค่ำมาแล้ว การได้หลับสนิทถึงสี่ชั่วโมงก็เพียงพอในแต่ละวัน
สาวสวยวัยยี่สิบสองปี กำลังเป็นแพทย์ฝึกหัดในโรงพยาบาลรัฐบาลขนาดใหญ่ที่มีคนไข้มาใช้บริการเกือบห้าพันคนต่อวัน เธอโชคดีเหลือเกินที่คุณท่านเมตตาเธอมากถึงขนาดเอ่ยปากกับอาจารย์หมอของที่นี่ให้รับเธอเอาไว้ใก้ลตัวในระหว่างฝึกปฏิบัติงาน ด้วยความที่ตระกูลนี้มีอุปการะคุณกับโรงพยาบาลมานับสิบปี คำขอนี้จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
นักศึกษาแพทย์ปี5หรือหมอนุช จึงได้รับการคัดเลือกเข้ามาให้ฝึกประสบการ์ณวิชาชีพที่นี่โดยไม่มีโอกาสจะไปตามต่างจังหวัดอย่างที่ใจคิดเอาไว้ในตอนแรก
"คุณหมอ ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวหนูทำเอง" เสียงคนงานบอกออกมาเมื่อเห็นคุณหมอกำลังตักแบ่งข้าวต้มหม้อใหญ่ใส่โถแบ่งอย่างคล่องแคล่ว
"นุชช่วยแปปเดียวเสร็จ คนอื่นๆจะได้ไปทำอย่างอื่น" คุณหมอสาวปฏิเสธการช่วยเหลือ ก่อนจะยิ้มน้อยๆออกมา แล้วตักแบ่งข้าวต้มอย่างระมัดระวัง
คุณหญิงทิพย์ ยิ้มกว้างออกมา เมื่่อเห็นคุณหมอสาวถือกระเป๋าถือใบเล็กราคาแพงที่ตัวเองซื้อมาให้จากห้างดัง
"สวยหวานมากเลยหมอ"
หญิงวัยเจ็ดสิบแปดปีบอกออกมา แล้วกวักมือให้เข้ามาใก้ลๆ ก่อนจะรับไห้วคนตรงหน้าที่ก้มลงกราบที่ตักอย่างอ่อนโยน
"ย่าซื้อมาให้หมอเพราะรู้ว่าเหมาะกับหมอมาก"
ธีรนุชยิ้มออกมาอีกครั้งก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งเก้าอี้ข้างๆ "หนูกลัวทำเปื้อนจังเลยค่ะ"
คุณหมอสาวบอกตามตรง แล้วค่อยๆวางกระเป๋าสีหวานลงข้างตัวอย่างระวัง คนฟังส่ายหน้าเบาๆแล้วถอนใจออกมาอย่างเอ็นดู
"ถ้าเปื้อนก็ส่งทำความสะอาดไม่ใช่เรื่องยาก แล้วย่าจะหาใบสีเข้มให้ใหม่ละกัน"
คุณหมอสาวรีบบอกปฏิเสธทันที
"ใบนี้สวยมากแล้วค่ะ รับรองว่าหนูไม่ทำเปื้อนแน่ๆค่ะ"
คุณหญิงยิ้มออกมาอย่างพอใจ นางไม่ผิดหวังสักนิดที่เลี้ยงดูลูกแม่ครัวอย่างธีรนุชมาเป็นอย่างดี สิบกว่าปีที่ผ่านมาเด็กหญิงคนนี้เติบโตเป็นคุณหมอสาวที่เก่งสมชื่อ งามทั้งกายและใจ จนคนที่เฝ้าเลี้ยงดูมาอดภาคภูมิใจไม่ได้ ชาติกำเนิดอาจจะต่ำต้อยนักเพราะเลือกเกิดไม่ได้ แต่การอบรมเลี้ยงดูทำให้วันนี้ ธีรนุช เป็นหมอนุชคนดีที่มีความรู้ความสามารถ ทำประโยชน์ให้คนหลายๆคนและนำพาความปลื้มใจให้แก่นางเหลือเกิน
รถเก๋งคันเล็กแล่นออกไปตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า คุณหญิงทานข้าวเช้าทานยาเสร็จเรียบร้อยแล้วเพราะคุณหมอสาวจะมาช่วยดูแลคุณท่านทุกวันก่อนจะไปทำงานในตอนเช้าและหากไม่มีงานช่วงเย็นคุณหมอสาวก็จะมาดูแลท่านอีกครั้งก่อนจะกลับมาพักผ่อนกับแม่ตัวเองที่บ้านหลังเล็กริมรั้วนั่นเอง
เธียรวิทย์ลุกขึ้นมาด้วยอาการแฮงค์เต็มที่ เมื่อคืนเค้าดื่มหนักจริงๆ ชายหนุ่มอาบน้ำแต่งตัวเดินออกมาที่ภายนอกห้องนอน ก่อนจะกดกริ่งเรียกหากาแฟดำที่ไม่ใส่น้ำตาลแก้วใหญ่มาเพิ่มความสดใสในตอนเช้า เสียงนักวิเคราะห์หุ้นรายงานข่าวเปิดเอาไว้เพื่อฟังข่าวเศรษฐกิจตอนเช้า คนงานวางแก้วกาแฟกับอาหารเช้ายามสายอย่างเงียบๆแล้วถอยออกไป
กาแฟดำแก้วใหญ่ ไข่ลวก และซุปไก่สกัดวางเอาไว้ในถาด เธียรวิทย์ยกซุปไก่ขึ้นดื่มตามด้วยไข่ลวกอีกสองฟอง แล้วตามด้วยน้ำเปล่า ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป ทิ้งแก้วกาแฟที่ยังคงอุ่นร้อนเอาไว้ให้เป็นหมันไร้การเหลียวแล
รถตู้คันหรูแล่นออกจากประตูบ้านหลังใหญ่ใจกลางเมืองในเวลาเกือบเที่ยงแล้ว คนขับรถรายงานตารางงานในวันนี้อย่างคล่องแคล่ว คนฟังพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเล่นโทรศัพท์ฆ่าเวลา แม้จะดื่มหนักเที่ยวเก่งแค่ไหนแต่เค้าไม่เคยเสียงานเสียการ ชายหนุ่มสั่งงานผ่านโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว เมื่อเค้าไปถึงที่ ทุกอย่างต้องพร้อม
ประตูกระจกกั้นความเย็นภายในห้องถูกเปิดออกทันทีที่คนทั้งคู่มาถึง ผู้ใหญ่ในบ้านที่เดินออกมาต่างมาหนุ่มสาวสองคนด้วยความรู้สึกแต่งต่างกันออกไป คุณหญิงยิ้มกว้างอย่างพอใจ ในที่สุดถ้าหลานชายคนเดียวจะมีวาสนาได้หนูนุชมาเป็นคู่ครองก็ถือว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาที่นางทำไปไม่สูญเปล่า คุณนรีรู้สึกขุ่นใจน้อยๆกับภาพที่เห็นหมอนุชแม้จะมีหน้าที่การงานมั่นคงแต่ไม่ได้มีทรัพย์สมบัติหรือนามสกุลใหญ่ให้พอที่จะเกื้อกูลกันทางธุรกิจ ส่วนคุณผู้ชายก็แค่แปลกใจที่ทั้งคู่มาพร้อมกันได้ยังไงเท่านั้นเอง"ซื้ออะไรมาเธียร" ผู้เป็นแม่ถามออกไปเมื่อเห็นลูกชายถือถุงใบใหญ่เดินเข้ามา เธียรวิทย์ยิ้มกว้างออกมาแล้ววางถุงตรงข้างตัวก่อนจะนั่งลงข้างๆผู้เป็นแม่"กระเป๋าครับ ซื้อมาให้นุช "เสียงที่บอกออกมาคล้ายเรื่อยๆไม่มีความนัย แต่คนในครอบครัวกลับจับพิรุธนี้ได้ ผู้ชายอย่างเธียรวิทย์ไม่ใช่จะใจดีแบบนี้ ธีรนุชมองชายหนุ่มอย่างตกใจก่อนจะงงๆกับอาการของเค้า"พี่ซื้อให้เอาไว้ใช้สลับกับใบที่ถืออยู่ ใบนี้สีดำรับรองไม่เปื้อน" คนรับทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว คุณย่าจึงสะกิดน้อยๆเพื่อให้รับของจากหลานชาย"ขอบคุณมากนะคะพี่เธียร" เสียงหวานกล่าวขอบคุณออกมาแม้อย
ธีรนุชดันตัวเองออกจากอ้อมกอดเค้าทันที แต่คนที่กอดกลับรั้งตัวเธอไว้แล้วยกตัวขึ้นมาก่อนจะวางลงตรงพื้นชั้นสามอย่างนุ่มนวล แล้วปล่อยแขนออกทันที"ระวังสิตกลงไปแย่เลย" เสียงเค้าบ่นเธอเบาๆก่อนที่คุณหมอจะพยักหน้ารับรู้แล้วกล่าวขอบคุณเสียงเบา คนฟังยิ้มกว้างออกมาแล้วเดินนำไปที่ห้องทำงานตัวเอง หยิบอุปกรณ์ทำงานหลายอย่างเอาไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง แล้วเดินออกมา ไม่ยอมให้เธอช่วยถือแม้แต่ชิ้นเดียว"ลงลิฟต์เถอะขี้เกียจเดิน" เสียงเจ้าของบ้านบอกทำให้เธอรีบกดลิฟต์ให้ทันที ในใจอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่า คุณเธียรคงไม่อยากให้เธอลงบันไดมากกว่า คุณหมอให้เจ้านายเดินออกจากลิฟต์ไปก่อนแต่ชายหนุ่มกลับดันเธอให้ออกจากลิฟต์ก่อนเค้า แล้วบอกเสียงเบาระหว่างที่เดินออกมาหน้าบ้านด้วยกัน"เรียกพี่เธียรดีกว่านะนุช"เสียงเค้ายังอยู่ในหัวสมองของเธอตั้งแต่เธอเดินกลับมาออกมา กลิ่นน้ำหอมที่เค้ายังยังติดชุดเธอมาถึงบ้านในตอนนี้ ธีรนุชยืนมองตัวเองที่หน้ากระจกแล้วยิ้มกว้างออกมาอย่างเขินอาย เธอมีความสุขมาก มากกว่าอะไรทั้งนั้น แค่ได้เรียกชื่อเค้าได้เห็นหน้าเค้าก็พอแล้ว แต่วันนี้หูของเธอยังได้ยินเสียงหัวใจของเค้าเต้น พี่เธียรนุชจะทนไหว
เธียรวิทย์ เปิดประตูห้องประชุมเข้าไปแล้วกล่าวเปิดประชุมทันที วันนี้เค้ามีประชุมงานเกี่ยวกับแพคเก็จจิ้งขนมยี่ห้อใหม่ที่เพิ่งจะนำมาวางขายในเร็วๆนี้ เสียงเข้มท้าวความถึงการประชุมครั้งที่แล้วก่อนจะบอกความต้องการของตัวเองออกไป แต่ทีมงานนับสิบคนที่จ้างมาด้วยเงินเดือนสูงลิ่วกลับทำงานไม่คุ้มค่าจ้าง"เหมือนเดิมไม่แก้ไขไม่ปรับปรุง"เธียรวิทย์กัดฟันข่มความโกรธ วัตถุดิบส่งมาพร้อมเตรียมการผลิต แต่แพคเก็จจิ้งห่วย ทีมงานหน้าซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด"ผมให้เวลาอีกสองวัน ถ้าผมออกแบบมาแล้วท่านประธานเลือกของผม พวกคุณควรพิจารณาตัวเอง"เธียรวิทย์ยื่นคำขาดก่อนจะลุกออกจากห้องประชุมไปเค้าตัดสินใจงานเป็นคนสุดท้าย แต่ถ้างานแบบนี้มีปัญหา ท่านประธานจะเป็นคนตัดสินใจเอง"อ้าวไอ้เสือว่าไง" ท่านประธานทักลูกชายที่เดินหน้าตูมเข้ามา เธียรวิทย์นั่งลงแล้วถอนหายใจออกมา"แพคเก็จไม่สวยเลย" ลูกชายบอกเบาๆ ผู้เป็นพ่อยิ้มกว้าง"ถ้าไม่ถูกใจอยากได้แบบไหนทำเองสิ" คนเป็นลูกค้อนน้อยๆอย่างงอนๆเมื่อฟังท่านประธานพูดจบ"ดี ทำเองอย่างงี้อีกหน่อยก็ไม่ต้องจ้างใคร" คนเป็นพ่อขำออกมาอย่างพอใจ ที่ลูกชายบ่นออกมาเสียงดัง แล้วลุกออกจากห้องไปอย่างร
เสียงเพลงดังออกมาเป็นระยะจากห้องรับรองหลังใหญ่กลางสวนสวย ทำให้คนที่กำลังคร่ำเคร่งกับการอ่านตำราภาษาอังกฤษตรงหน้าต้องถอนหายใจออกมา แล้วฟุบหน้าลงบนโต้ะหนังสือของตัวเองด้วยความอ่อนใจ นาฬิกาบนโต้ะบอกเวลาตีหนึ่งแล้วแต่งานเลี้ยงยังไม่จบสิ้นว่าที่คุณหมอสาวถอดแว่นสายตาออกก่อนจะปิดตำราเล่มหนาลง" ป่านนี้ยังดื่มกันไม่เสร็จอีกหรอไง จะให้เมากันถึงขนาดไหน " เสียงบ่นออกมาเบาๆภายในห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะตั้งนาฬิกาปลุกที่สมาร์ทโฟนเครื่องเก่าของตัวเอง แล้วเดินไปที่เตียงนอนเล็ก ก่อนจะหลับลงทันทีด้วยความอ่อนเพลีย" เธียร หมดแก้วนะคะ "สาวสวยส่งแก้วเครื่องดื่มสีเข้มส่งให้ชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะขยับตัวขึ้นไปนั่งตักของคนข้างๆอย่างยั่วยวน ดาราสาวสวยยิ้มกว้างอย่างพอใจที่คืนนี้มีโอกาศได้ใก้ลชิดกับเค้าขนาดนี้'เธียรวิทย์ เธียรธีระกุล 'ไฮโซหนุ่มหล่อวัยสามสิบกว่าปีที่โสด เนื้อหอมที่สุด ไม่เฉพาะหน้าตาที่หล่อร้ายกาจแล้ว แต่ทรัพย์สมบัติอีกนับพันล้านบาทที่ครอบครัวเค้าถือครองอยู่ ทำให้สาวๆทั้งดารา นางแบบ หรือแม้แต่ไฮโซด้วยกัน ต่างพากันทอดสะพานเสริมคอนกรีตมาให้คนตรงหน้าอย่างมากมายเธียรวิทย์ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มแล้วมอง






Comentários