ชายหนุ่มเดินมาถึงเรือนก็โบกมือไล่บ่าวรับใช้ไปให้พ้นหน้า เขาไม่เหมือนพี่ชายในเรือนจึงไร้บ่าวไพร่ ความเงียบสงบคือสิ่งที่เขาปรารถนาแต่มันเหมือนถูกทำลายไปสิ้นตั้งแต่วันที่เขาเข้ามาในห้องนอนของตนแล้วพบร่างอรชนหลับใหลบนเตียง
สินธุ์ทิ้งตัวลงนอน เขาหลับตาพลางนึกถึงภาพในวันนั้นซึ่งเขาคิดไปว่าเธอเป็นบ่าวที่หวังจะเลื่อนฐานะเป็นเมียเขา ครั้งนั้นเขาคิดแค่จะข่มขวัญเล็กๆ น้อยๆ แต่เมื่อเข้าใกล้กลับรู้สึกอยากสัมผัส ราวกับกำลังแตะต้องของต้องห้าม กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนกายเย้ายวนและปลุกเร้าเลือดในกายจนเดือดพล่าน จนเมื่อเจ้าของร่างอรชนลืมตามองเขาด้วยแววตาตื่นตระหนก เขาก็รู้สึกปรารถนาจะครอบครองเธอทั้งตัวและหัวใจ
เป็นความปรารนาที่รุนแรงยากเกินจะบรรยาย
ชายหนุ่มไม่เข้าใจตนเองนัก เขาเป็นหนุ่มนักเรียนนอก เคยไปเรียนหนังสือที่อังกฤษถึงสี่ปีด้วยทุนหลวง พบเจอหญิงสาวต่างเชื้อชาติมากหน้าหลายตา แต่กลับไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกต้องการได้รุนแรงถึงเพียงนี้ ทั้งที่เธอก็ไม่ได้สวยเลิศเลอมากกว่าหญิงสาวผู้ใด ตัวก็เล็กซ้ำยังพูดจาตะกุกตะกัก ดูแลตัวเองก็แทบไม่ได้ แต่เขากลับอยากเป็นฝ่ายดูแลเสียอย่างนั้น
ความรู้สึกเช่นนี้มันคืออะไรกันแน่
ขณะที่ใจประหวัดถึงหญิงสาวเจ้าของแววตาใสซื่อคู่นั้น ร่างกายของเขากลับซื่อสัตย์ยิ่งกว่า มันร้อนรุ่มและทรมานจนต้องใช้มือช่วยปลอบประโลม คิดถึงกลีบปากนุ่มยิ่งโหยหา เขายอมรับว่าทำตัวไม่สมกับเป็นสุภาพบุรุษนักแต่ความรู้สึกนี้มันเกิดกับเธอเพียงผู้เดียว
มือคู่หนึ่งยื่นมาลูบไล้กล้ามเนื้อแน่นหนั่น บุรุษผู้นี้ไม่เหมือนหนุ่มนักเรียนนอกที่วาดเคยเห็นยามออกติดตามคุณช้อยไปนอกเรือน คนเหล่านั้นดูผอมบางผิวขาว แต่คุณสินธุ์มีเรือนร่างกำยำและเต็มไปด้วยมัดกล้ามแต่ท่วงท่าองอาจดุจม้าพยศ
ดวงตาคมเบิกกว้างแล้วดีดตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงทันที
“วาด!”
“วาดเองเจ้าคะคุณสินธุ์” วาดส่งยิ้มเย้ายวนแล้วขยับตัวขึ้นมานั่งบนเตียง วาดบ่าวรับใช้ข้างกายคุณช้อยตั้งแต่ยังไม่ออกเรือน เมื่อมาเป็นเมียคุณหลวงพิชัยก็ติดตามมารับใช้ด้วย แต่งงานกันมาหลายปีคุณช้อยยังไม่มีลูกให้คุณหลวงพิชัย คุณช้อยคิดยกวาดให้เป็นเมียบ่าวของคุณหลวง แต่คุณหลวงกลับไม่รับและไม่เร่งรัดเรื่องมีลูก ทำให้วาดเปลี่ยนเป้าหมายมาที่คุณสินธุ์น้องชายคุณหลวงพิชัยแทน อย่างไรเสีย นางก็ไม่ต้องการเป็นแค่บ่าวรับใช้ไปทั้งชีวิต
“เข้ามาทำไม ออกไป!” สินธุ์ตวาดแล้วกระชากผ้าห่มมาคลุมท่อนล่างของตนเสีย
“โธ่ คุณสินธุ์ อย่าเพิ่งไล่วาดเหมือนหมูหมาเช่นนี้สิเจ้าคะ” วาดยังคงทำใจเย็นส่งยิ้มยั่วยวนออกไป “จะปล่อยให้แข็งขันอยู่อย่างนั้นได้อย่างไรเจ้าคะ ให้วาดช่วยดีกว่าจะได้สบายเนื้อสบายตัว”
“ฉันบอกให้ออกไป พูดไม่รู้เรื่องหรือไร หรืออยากให้เรื่องนี้ถึงหูคุณช้อย!” สินธุ์ขึงตาใส่อย่างดุดัน เขาไม่อยากทำร้ายผู้หญิง
วาดเห็นท่าไม่ดีจึงไม่กล้าเซ้าซี้ต่อ นางรู้ดีว่าคุณสินธุ์หากเอ่ยปากไล่แล้วก็อย่าฝืนอาจโดนมือโดนตีนเอาเข้าได้
“ถ้าคุณสินธุ์ต้องการสิ่งใด เรียกใช้วาดได้เสมอ”
สินธุ์ในสายตาข่มขู่ก็ขับไล่วาดให้ออกไปให้พ้นห้องนอนของเขาได้ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีผู้อื่นแล้ว เขาก็ผ่อนลมหายใจเบาๆ สงสัยต้องหาบ่าวชายมาคอยเฝ้าเรือนเสียแล้ว แต่ถ้ามีคนเฝ้าเรือนแล้วแม่หญิงขี้อายผู้นั้นจะกล้าย่างเท้าเข้ามาถึงเรือนของเขาไหมหนอ ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่าง ให้สายลมเย็นยามค่ำคืนช่วยปลอบประโลมจิตใจที่ร้อนรุ่ม จะมีคนนอนไม่หลับเหมือนเขาบ้างไหม
วันนี้เป็นวันหยุดของสินธุ์ อาการแปลกประหลาดในอกที่ยังขบคิดไม่ตกทำให้นอนแทบไม่หลับนั้นเป็นเหตุให้เขาตัดสินใจมาเรือนของพี่ชายเพื่อปรึกษาตามประสาพี่น้อง พ่อแม่ของทั้งสองสิ้นบุญไปเมื่อหลายปีก่อน ก่อนที่เขาจะเดินทางไปเรียนที่อังกฤษ ส่วนปู่ย่าและตายายไม่ใช่คนพระนครไม่ใคร่ชอบความเปลี่ยนแปลงของพระนครจึงเลือกใช้ชีวิตสงบที่เมืองหล่มสักซึ่งเป็นบ้านเกิด ในเรือนหลังใหญ่นี้จึงมีเพียงพี่ชายและพี่สะใภ้ที่ยังไร้บุตรธิดาอยู่ในเรือน
“อ้าว สินธุ์ วันนี้วันหยุดรึ” หลวงพิชัยเอ่ยถามหลังวางหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์แล้วพยักหน้าเป็นเชิงให้นั่งลงที่เก้าอี้
“หยุดขอรับ” สินธุ์ตอบแล้วกำลังเลื่อนเก้าอี้ แต่หางตารับรู้การเคลื่อนไหวจึงหันไปมอง ภาพที่เห็นทำเอาแทบลืมหายใจไปทันที
“พ่อสินธุ์วันนี้อยู่บ้านรึ กินข้าวเช้าแล้วหรือยัง”
คุณช้อยเอ่ยถามขณะประคองร่างเล็กนุ่งโจงกระเบนสวมเสื้อแพรไหมตัดแบบตะวันตกแขนยาวเอวเสื้อเข้ารูป ใบหน้าแต้มแต่งสีสันบางๆ ทว่าขับเน้นโครงหน้าให้งดงามชวนมอง หลวงพิชัยเห็นน้องชายตะลึงงันก็แสร้งกระแอมไอเรียกสติทำให้สินธุ์รู้สึกตัวแล้วกระพริบตาก่อนจ้องมองว่าหญิงงามตรงหน้าคือย่าหยา
“คนในเรือนนี้กินอาหารเช้ากันแล้ว สินธุ์จะรับอะไรรองท้องหรือว่าเอาข้าวต้มทรงเครื่อง” คุณช้อยแสร้งทำเป็นไม่เห็นสายตาของน้องชายสามี เธอแอบยิ้มขำแล้วส่งหันไปพูดกับยี่สุ่นที่เดินตามหลังมา “ฉันบอกแล้วว่าเสื้อผ้าเก่าๆของฉันมีหลายชุด ถ้าไม่รังเกียจก็ให้ย่าหยาเอาไปใส่เถิด ดีกว่าปล่อยไว้ให้หนูกัดเสียของเปล่า”
“ขอบพระคุณคุณช้อยมากเจ้าค่ะ”
ยี่สุนยกมือไหว้ทำให้ย่าหยายกมือไหว้ตาม เช้านี้ทั้งสองมารับประทานอาหารเช้าที่เรือนคุณหลวง พูดคุยกันไปมาคุณช้อยได้ยินว่าย่าหยามีเสื้อผ้ามาไม่กี่ชุด รูปร่างก็เริ่มเปลี่ยนโตเป็นสาวคุณช้อยจึงพาย่าหยาไปลองเสื้อผ้าเก่าๆ ของคุณช้อยเอง ย่าหยาเองก็ไม่คิดว่าเสื้อผ้าที่คุณช้อยยกให้จะเป็นชุดสวยๆงามๆ ขนาดนี้ แล้วก็ไม่คิดว่าจะมาเจอคุณสินธุ์เข้าพอดี ยิ่งเห็นสายตาตกตะลึงยิ่งทำให้เธออยากอวดให้เขาเห็นว่าเธอก็สวยเหมือนกัน
“รับประทานมาแล้วขอรับพี่ช้อย” สินธุ์ตอบแล้วแอบเห็นรอยยิ้มเยาะที่มุมปากของย่าหยา ไม่น่าเลย นี่เธอคงเห็นเขามองตาค้างกระมังถึงได้ยิ้มได้ใจเสียขนาดนั้น “แต่องค์ทรงเครื่องขนาดนี้จะไปไหนหรือ?”
“สติไม่ดีอย่างนี้จะออกไปไหนได้” วาดพึมพำเสียงเบาแต่จงใจให้ยี่สุ่นได้ยิน แม้ยี่สุ่นได้ยินแต่กลับฝืนยิ้มออกมา อย่าว่าแต่น้องสาวไม่ได้ออกไปเปิดหูเปิดตาเลย เธอเองก็ไม่เคยไปที่ใดเช่นกัน แจ่มที่ได้ยินชัดจะอ้าปากโต้เถียงแต่ยี่สุ่นปรามด้วยสายตาไว้ก่อน อย่างไรวาดก็เป็นคนสนิทของคุณช้อย เธอไม่อยากลวงเกินคนของคุณช้อยเข้าให้ แล้วจะยิ่งผิดใจกันเสียเปล่า
เธอมองเขาอย่างประหลาดใจ ชายหนุ่มยิ้มเศร้าแล้วกอดร่างเล็กแน่นขึ้นราวกับกลัวว่าจะเป็นแค่ความฝันไป ไออุ่นจากกายแกร่งตอกย้ำว่าเขาคือคนที่หัวใจเธอเพรียกหา หญิงสาวส่งยิ้มให้เขาแล้วขยับตัวยื่นหน้าไปจูบมุมปากของชายหนุ่ม “หยารักพี่สินค่ะ หยาจะไม่หายไปไหนอีก ครั้งนี้เรามาทำให้มันไม่เหมือนเดิมนะคะ” แววตาของเธอคือคำตอบที่เขารอคอย มีหลายร้อยหลายพันคำที่เขาอยากพูด แต่กลับพูดไม่ออก อับจนถ้อยคำอย่างน่าสงสาร ความรู้สึกที่มีทั้งหลายทั้งปวงหลอมรวมเป็นอ้อมกอดแนบแน่น ไม่ว่าเขาจะเป็นใครแต่หัวใจของเขายังเป็นดวงเดิมที่รักเพียงหญิงเดียวเสมอมาและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป รักครั้งนี้กับหัวใจดวงเดิมที่จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้วบทส่งท้าย ข่าวโฮโซสาวชื่อดังและครอบครัวถูกจับข้อหาฉ้อโกงและคดีแชร์ลูกโซ่เป็นที่พูดถึงกับไปทั่ว ช่องข่าวทุกช่องรวมทั้งโลกโซเซียลให้ความสนใจกันมาก แต่นั้นทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวพอใจมาก เพราะพวกเขาไม่ต้องเป็นเป้าสายตาของใครนัก มารดาของย่าหยาและสามีใหม่บินตรงกลับเมืองไทยตามคำเชิญของว่าที่ลูกเขยเพื่อที่ทั้งสองครอบครัวจะ
คุณาสินวางร่างของย่าหยาลงบนเตียง เขาปรายตามองไปทางประตูเห็นลูกน้องปิดให้เรียบร้อยก็ถอนหายใจเบาๆ คนตัวเล็กยื่นมาคล้องคอเขาไว้ “พี่สิน” เสียงหวานครางแผ่ว “หยาอยากอาบน้ำ” เธอต้องการเขาเหลือเกิน แต่สภาพนี้มันก็เกินกว่าตัวเธอเองจะรับได้ ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ อุ้มคนตัวเล็กเดินไปที่ห้องน้ำ “เด็กดี...ให้พี่ช่วยนะครับ” เขาพูดขณะปล่อยให้เธอลงยืน หญิงสาวพยักหน้ารับให้เขาช่วยถอดเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นออกจากร่าง น้ำอุ่นไหลผ่านฝักบัวรินรดร่างเปลือยเปล่า มือใหญ่ค่อยๆ เช็ดใบหน้าสวยอย่างเบามือพลางสำรวจดูว่าเธอบาดเจ็บที่ไหนบ้าง เสียงหวานครางแผ่วยื่นมือไปปลดกระดุมเสื้อของเขาออกอย่างร้อนรน ปลายนิ้วสัมผัสแผ่นอกกว้างที่คุ้นเคยแล้วยื่นหน้าไปจูบอกซ้ายของเขา ชายหนุ่มถึงกับหลุดเสียงครางออกมา มือเรียวเล็กพยายามปลดเข็มขัดของเขาออก เขาจึงเลื่อนมือลงไปจัดการด้วยตัวเอง ปล่อยให้ร่างกายกำยำเปลือยเปล่าต่อหน้าคนรัก ผ่านมากี่ร้อยปี เธอก็ยังเป็นคนเดียวที่เขารัก แม้เคยคิดหันหลังให้ความรู้สึกที่มีแต่หัวใจมันไม่ยอมหยุดรักเธอได้เลย มือใหญ่กุมมือเล็กให้กอบกุมท
ชายผู้นั้นหน้าซีดมองร่างที่หลับใหลสลับกับหน้าถมึงทึงของวาด มือหยาบกร้านสั่นเทายื่นไปหมายแตะต้องเรือนร่างนวลละออ แต่มีเสียงคนพูดด้านนอกว่า ‘องค์วรสินเสด็จกลับมาแล้ว’ ทั้งสองจึงรีบออกไปราวกับภูติผีวิญญาณร้าย คราวนั้นองค์วรสินกลับมาได้เวลา แต่เธอกลับถูกเข้าใจผิดเพราะองค์วรสินเองก็ถูกปั่นศีรษะเป่าหูว่าเธอเป็นหญิงแพศยาคบชู้ ทำให้เรื่องราวจบลงด้วยตายจากของเธอและลูกในครรภ์ แรงรักแรงอาฆาตทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดเป็นเช่นนี้หลายชาติภพ เธอปล่อยวางตั้งแต่ชาตินั้นแต่คนผู้นี้ไม่อาจปล่อยเธอไป มือใหญ่กระชากเสื้อเธออย่างแรงทำให้ย่าหยาได้สติ หญิงสาวส่งเสียงหวีดร้องแล้วยกเท้าขึ้นถีบเปะปะไปทั่วแต่มือที่น่าขยะแขยงพวกนั้นจับเรียวขาเธอแล้วลูบไล้หยาบคาย คนหนึ่งถือสมาร์ทโฟนบันทึกภาพไว้ราวกับเธอคือนางเอกหนังAV ที่รับบทสาวสวยถูกขื่นใจ แต่นี่คือชีวิตจริงที่เธอกำลังจะถูกชายแปลกหน้ายำยี ‘พี่สิน’ ย่าหยาได้แต่พร่ำเรียกชื่อคนรักในใจ ใช่ เธอรักเขา ไม่ว่าผ่านมากี่ร้อยปีหรือกี่ชาติภพ เธอก็ยังคงรักผู้ชายคนนี้ โครม! เสียงถีบประตูดังสนั่นท
“เอ่อ...เจ้านายครับ ผมไม่เห็นคุณย่าหยาเลยครับ” “อะไรนะ?” “ผมเข้ามารับเอกสารตามที่เจ้านายสั่ง ผมมาถึงคอนโดแล้วแต่ไม่พบคุณย่าหยาเลยครับ เอ่อ...โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ ผมถามนิติกรคอนโดก็บอกว่าเห็นคุณย่าหยาเดินออกไปหน้าคอนโดแล้วยังไม่กลับเข้ามาครับ” “เป็นไปได้ยังไง” “ผมว่าแปลกๆนะครับ” “รอที่นั้นก่อน เดี๋ยวฉันลองติดต่อย่าหยาอีกที” คุณาสินวางสายจากลูกน้องแล้วโทรหาย่าหยา ใจของร้อนรุ่มไม่สนใจว่าแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดในห้องทำงานแล้ว เขาลุกขึ้นเดินไปที่ผนังกระจกที่มองเห็นวิวด้านนอก ตอนนี้เขาอยู่บนตึกสูงระฟ้าแต่หัวใจของเขากำลังดำดิ่งอย่างหวาดวิตก หญิงสาวไม่รับสายและครู่ต่อมาก็เหมือนทโทรศัพท์ดับไปเสียเฉยๆ เขาสบถหัวเสียแล้วเปลี่ยนเป็นโทรตามลูกน้องคนสนิทให้เข้ามาพบเขาทันที และโทรสั่งให้คนของเขาอีกคนไปขอดูกล้องวงจรปิดที่คอนโด เขาสูดลมหายใจลึกพยายามตั้งสติให้มั่น หากเป็นเรื่องอื่นเขาคงรับมือด้วยความใจเย็น แต่นี่เป็นเรื่องของย่าหยา ผู้หญิงที่ครอบครองพื้นที่ทุกตารางนิ้วในหัวใจของเขา ผ่านมาหลายชาติภพ เขาไม่
“โทษหยาเหรอคะ แต่พี่สินเริ่มก่อนนะ” เธออายจนหน้าแดงเรื่อ ไม่รู้ทำไมตอนเช้าเขาถึงมี ‘อารมณ์’ จนต้องจัดหนักก่อนไปทำงานทุกที เธอทำงานที่บ้าน ตื่นสายก็ไม่เป็นไรแต่เขานี่สิ “พี่เป็นเจ้าของบริษัท ไปถึงช้าหน่อยไม่เป็นไรหรอก” เขายื่นหน้าไปแล้วกระซิบข้างหู “ต่ออีกรอบได้นะครับ” “คนบ้า! ไปทำงานเลย” “ครับๆ รับคำสั่งคุณภรรยาครับ” ย่าหยาไม่อยากจะโต้ตอบอีก ดูเหมือนพูดอะไรไปก็จะเข้าทางเขาเสียหมด คุณาสินยิ้มกว้างแล้วจูบหน้าผากคนรักเบาๆ ก่อนออกไปทำงานเช่นทุกวัน แต่ความรู้สึกนั้นแตกต่างไปจากเดิม เหมือนได้ของหายที่หาไปนานกลับมา 2-3คืนแรก เขานอนหลับไม่สนิทนักเพราะกังวลและกลัวว่าเธอจะหายไป และกลัวว่าเธอจะหวนกลับไประลึกถึงเรื่องราวในอดีต คุณาสินเดินออกมาจากห้องของคนรัก เขาไม่อยากเร่งรัดเธอเกินไป แต่อีกใจก็กลัวจะเสียเธอไปอีก ตอนนี้เขากลายเป็นคนขี้กลัวไปเสียทุกอย่าง บางทีเขาก็นึกขำตัวเอง ตอนที่ยังหาเธอไม่เจอมันก็เป็นความรู้สึกเหงาและเคว้งคว้าง แต่เมื่อได้พบเธอ ได้โอบกอดอีกครั้ง กลับกลัวว่าจะเสียเธอไป เขาอยากใช้ชีวิตกับเธอเ
ทันที่ริมฝีปากร้อนของคนทั้งสองประกบกันอีกครั้ง ร่างกายผ่าวร้อนทาบทับลงมาบดเบียดแนบชิด สิ่งที่ใหญ่โตนั้นร้อนระอุคลอเคลียกลีบเนื้ออ่อนบางที่ยามนี้ฉ่ำชื้นเพราะถูกปลุกเร้าด้วยนิ้วมือร้ายกาจ คุณาสินผละจากริมฝีปากสวยแล้วพรมจูบลำคอขาวผ่องจนเป็นแดงเรื่อ ซุกไซและโลมเลียลำคอระเรื่อลงมาที่เนินอกสวยอีกครั้ง ขบเม้มดูดดึงที่ปลายถันจนเปียกชุ่มทำให้หญิงสาวเผลอใช้ปลายนิ้วจิกลงที่ต้นแขนกำยำอย่างลืมตัว “อื้อ พี่สิน...” ความต้องการของหญิงสาวทวีคูณ ขยับบดเบียดร่างแนบชิดพร้อมกับแยกเรียวขาออก ความปรารถนาจะถูกเติบเต็มทำให้เรียกร้องอย่างไม่เคยทำมาก่อน เขาส่งนิ้วไปสำรวจเบื้องล่างอีกครั้งขยับนิ้วในร่องสาวจนมั่นใจว่าน้ำรักของเธอมากพอจึงประคองแก่นกายของตนส่งเข้าไปที่น้อย “อ๊ะ!” “อย่าเกร็ง” เขาพูดเสียงพร่าและเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหวานที่แดงเรื่อ ดวงตาของเธอปรือฉ่ำไม่ใช่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอร์ แต่เพราะถูกปรนเปรอสวาทแทบขาดใจ เขาขยับเอวสอบดุนดันเข้าไปที่ละน้อย ขยับออกถอยเข้าเพิ่มความลึกไปที่ละนิดจนปลายหัวบากมุดเข้าไปในร่องสาว ย่าหยาตัวสั่นระริกในขณะที่อีกฝ