ย่าหยาขอกระดาษกับดินสอมาฝึกหัดคัดลายมือจากพี่ยี่สุ่น คุณหลวงรู้เข้าก็ประหลาดใจแต่ก็ใจดีให้คนเอาหนังสือแบบเรียนของเด็กสำหรับลูกท่านหลานเธอเอามาให้เธอศึกษา
“ผู้ชายบวชเรียนจึงได้เรียนหนังสือ ผู้หญิงต้องเป็นนางข้าหลวงถึงจะได้เรียน ส่วนใหญ่ก็เข้าวังถวายตัวแต่เด็ก ฝึกงานในรั้วในวัง มีหลายแขนง”
คุณหลวงเล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงเอ็นดู ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้อยากเข้าวังไปนั่งเย็บปักถักร้อยหรือทำอาหารอะไรนั้นหรอก เธอใช้ชีวิตแบบนี้น่าจะดีที่สุดแล้ว
อืม หลวงพิชัยก็ดูเป็นสุภาพบุรุษอ่อนโยนและใจดี แต่ทำไมเรื่องบนเตียงถึงได้รุนแรงเร่าร้อนนักนะ เธออยู่ห้องข้างได้ยินแล้วก็รู้สึกเห็นใจพี่ยี่สุ่น หรือเพราะคุณช้อยรับพลังงานของคุณหลวงไม่ไหว คุณหลวงก็เลย...เฮ้อ ... คนโสดอย่างเธอตายสนิทเลยทีเดียว
หิ่งห้อยตัวน้อยบินเข้าในห้องนอนของหญิงสาว ทำให้เธอวางมือจากดินสอแล้วมองเจ้าหิ่งห้อยที่มาเกาะอยู่บนหนังสือ พอจะยื่นมือไปแตะ เจ้าหิ่งห้อยก็บินออกไปที่หน้าต่าง ย่าหยาเดินตามไปดู เห็นด้านหลังเรือนมีหิ่งห้อยวิบวับสวยงามจนน่าตื่นตะลึง
“ระบบนิเวศวิทยาดีถึงได้มีหิ่งห้อยเยอะขนาดนี้สินะ”
ย่าหยาพึมพำ แน่นอนว่าชีวิตคนกรุงในยุค2024อย่างเธอ การเห็นหิ่งห้อยคือน้อยครั้งมาก แถมเห็นทีก็แค่ไม่กี่ตัว แม้จะเป็นคืนเดือนมืดแต่แสงไฟจากบนเรือนยังทำให้พอมองเห็นทางงเดินเบื้องหน้า หญิงสาวตัดสินใจฉวยผ้าคลุมไหล่แล้วย่องออกจากห้องนอนของตนอย่างเงียบๆ คืนนี้คุณหลวงมานอนค้างกับพี่ยี่สุ่น พี่แจ่มต้องไปนอนเฝ้าด้านนอกห้องคอยปรนนิบัติรับใช้
เท้าเล็กๆ ก้าวเดินอย่างระวัง เธอเดินลงบันไดไปด้านหลังเรือน ไม่ไกลนักก็พบหิ่งห้อยจำนวนมากใต้ต้นไม้ใหญ่ ดวงตาสุกใสเบิกกว้างจ้องมองอย่างตื่นตะลึง
“ว้าว! สวยอะไรอย่างนี้นะ!”
ราวกับดาวดวงน้อยระยิบระยับงามจับตา แน่นอนว่าย่าหยาไม่เคยเห็นหิ่งห้อยมากขนาดนี้ เธอยื่นสองมือไปประคองหิ่งห้อยน้อยในอุ้งมือ แสงสีเขียวเรืองรองสวยงามเกินบรรยาย เธอหมุนตัวช้าๆ เจ้าหิ่งห้อยน้อยก็รายล้อมรอบเธอ เพราะไม่ทันมองเท้าของเธอไปสะดุดกับก้อนหินเข้า หญิงสาวอุทานเสียงหลงเป็นจังหวะเดียวกับที่มีมือข้างหนึ่งยื่นมือจากด้านหลังปิดปากเธอไว้ได้ทันก่อนจะส่งเสียงร้องออกไป วงแขนอีกข้างโอบกอดเอวคอดไว้มั่นทำให้เธอขยับตัวไม่ได้
“อย่าร้อง ฉันเอง”
ลมหายใจอุ่นสัมผัสใบหู เธอเอี้ยวใบหน้าเล็กน้อยก็พบดวงตาคู่คมปลาบจ้องมองเธออยู่ ร่างที่เกร็งอยู่จึงผ่อนคลายลงเล็กน้อยเพราะอย่างน้อยก็ไม่ใช่คนร้าย แต่...ทำแบบนี้ก็ไม่ดีนัก แผ่นหลังของเธอแนบชิดกับเรือนกายใหญ่โตของเขา กลิ่นอายบุรุษเพศโอบล้อมจนทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ย่าหยาจึงพยายามดิ้นรนเพื่อออกจากอ้อมอกกว้างแต่เขากลับกอดรัดแน่นขึ้น
“ชู่ว์ อย่าเสียงดัง ประเดี๋ยวผู้อื่นก็รู้ว่ามาแอบดูเขาดอก”
‘แอบดู’
หญิงสาวงุนงง เธอมาดูหิ่งห้อยไม่ได้แอบดูอะไรเสียหน่อย
แววตาไร้เดียงสาของเธอทำให้สินธุ์อ่อนใจ เขาปล่อยมือจากริมฝีปากนุ่มแล้วพลิกตัวเธอให้เผชิญหน้ากับเขา และเพื่อไม่ให้เจ้าคนไม่ประสีประสาหลบหนีจึงตรึงนางไว้กับต้นไม้ใหญ่ ยามนี้แผ่นหลังของเธอจึงชิดกับต้นไม้และด้านหน้าเป็นร่างกำยำของคุณสินธุ์
ริมฝีปากสวยอ้าปากจะเอ่ยถาม แต่เขายกนิ้วชี้แตะริมฝีปากเธอไว้ก่อน ทั้งสองเงียบไปชั่วอึดใจ เมื่อตั้งใจเงี่ยหูฟังจึงได้ยินเสียงครางกระเส่าดังมาจากพุ่มไม้ไม่ไกลนัก เสียงแบบนี้ เวลาค่ำมืดเช่นนี้ คงไม่มีใครมาแอบกินของเผ็ดร้อนจนต้องครางซี๊ดซ๊าดเช่นนี้แน่ แล้วใบหน้าหวานก็แดงเรื่อไม่กล้าขยับตัว ทั้งเขินอายและทำอะไรไม่ถูก
ไม่ต้องถามย้ำก็รู้แล้วว่าเธอคงได้ยินและเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดแล้ว
“ค่ำมืดดึกดื่นมาแอบดูผู้อื่นเช่นนี้ไม่ดีเลย”
“มะ..ไม่...ไม่ได้แอบดู” เธอส่ายหน้าไปมาจนผมยาวสลวยพลิ้วไหว
“แล้วมาลงจากเรือนมาด้วยเหตุใด หรือนัดผู้ใดไว้” เขาถามเสียงแหบพร่าอย่างไม่รู้ตัว ร่างกายขยับเข้าหาร่างเล็กแนบชิดมากยิ่งขึ้น
“ปะ...เปล่า...” เธอส่ายหน้าอีกครั้ง “มะ...มาดู...หิ่งห้อย”
“หือ? ที่บ้านเธอไม่มีหรือไร”
“มี...แต่ไม่เยอะเท่าที่นี่...” ย่าหยาพูดได้แค่นั้นก็ทำจมูกฟุดฟิด “กะ กลิ่น..กลิ่นเหล้า คุณสินธุ์ดื่มเหล้า”
“อืม” เขาเป็นผู้ชายดื่มเหล้านิดๆหน่อยๆ ไม่แปลกอันใด แต่ท่าทางทำจมูกขยุกขยิกของเธอดูน่ารักเหลือเกิน ดวงตาคมหลุบมองริมฝีปากที่เผยอขึ้นเล็กน้อย เร็วเท่าที่ใจคิด เขากดริมฝีปากทาบทับลงไปชิมความหวานจากหญิงสาว
ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจ เรียวลิ้นร้อนแทรกเข้ามาอย่างอุกอาจ มือเรียวเล็กขึ้นดันแผ่นอกอีกฝ่ายแต่เขากลับกอดรัดแน่นขึ้น เขามอมเมาเธอด้วยรสจูบดื่มด่ำและร้อนแรงจนแข้งขาแทบไม่มีแรงยืน ถ้าไม่เพราะเขากอดเธอไว้ เธอคงทรุดลงไปกองกับพื้นแล้ว เสียงคนพลอดรักยังคงกระเส่าดังขึ้นเรื่อยๆ เคล้ากับเสียงเนื้อกระทบเนื้อยิ่งทำให้เลือดในกายชายหนุ่มเดือดพล่าน คนตัวเล็กพยายามทุบแผ่นอกของเขาแต่มันแทบไม่สะเทือนเลยสักนิด เขาจูบจนพอใจแล้วจึงยอมถอนริมฝีริมปากออก หญิงสาวหอบหายใจแรง ดวงตาแดงก่ำคล้ายคนกลั้นน้ำตาเต็มที่ ความรู้สึกผิดเรียกสติของสินธุ์กลับคืนมา เขาค่อยๆ คลายวงแขนที่โอบรัดออก แล้วยกมือขึ้นปัดริมฝีปากที่สั่นระริกเบาๆ
“ฉัน...”
“หาย...หายใจ...ไม่ออก” เธอต่อว่าเขา อยากทำมากกว่า แต่บางทีการแกล้งตัวทำโง่ๆ อาจจะดีกว่า แค่จูบยังไม่ได้เสียตัวสักหน่อย!
“ฉันขอโทษ...” เขาพูดเสียงเบาอย่างไม่เคยทำกับหญิงใดมาก่อน “กลัวหรือไม่”
“อื้ม” เธอพยักหน้าแรงๆ “เจ็บ”
“คราวหน้าจะไม่ทำให้เจ็บอีก”
‘หา! ยังจะมีครั้งหน้าอีกเหรอ!’
ย่าหยาส่ายหน้ารัวๆ
“ไม่เอาแล้ว!”
คราวนี้ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ เขาเงี่ยหูฟังดูเหมือนบ่าวในเรือนมาแอบพลอดรักกันยังไม่จบศึกง่ายๆ เขาก้มมองคนตัวเล็กที่ขมวดคิ้วยุ่งเหยิง คงทั้งกลัวทั้งตกใจ
“จะ...จะขึ้นเรือน”
“ฉันไปส่ง”
“กะ...กลับ...กลับเองได้” เพราะเขาคลายวงแขนออกแล้วทำให้เธอก้มตัวรอดใต้รักแร้ของเขาออกมา แต่เดินได้ก้าวเดียวแข้งขาที่ยังไม่แรงก็พาให้ตัวเซไปมา สินธุ์เห็นแล้วก็หมุนตัวไปช้อนร่างเล็กอุ้มขึ้นมาทันที
“คุณสินธุ์!”
“อย่าเสียงดัง ประเดี๋ยวก็ตื่นกันทั้งเรือน”
เขาขู่แต่กลับยิ้มละไม ทำให้คนตัวเล็กหยุดดิ้นรนและยอมอยู่นิ่งๆให้เขาอุ้มไปส่งจนใกล้ถึงเรือนจึงปล่อยให้เธอยืนด้วยตัวเอง
“คราวหน้าคราวหลังอย่าลงเรือนเดินคนเดียวเช่นนี้อีก”
ย่าหยาพยักหน้ารับแล้วรีบสาวเท้ากลับขึ้นเรือนอย่างรวดเร็วด้วยหัวใจเต้นรัว
แค่จูบ! แค่จูบเท่านั้น เขาคงเมา บรรยากาศพาไป ไม่มีอะไรเกินเลยสักนิด!
เธอมองเขาอย่างประหลาดใจ ชายหนุ่มยิ้มเศร้าแล้วกอดร่างเล็กแน่นขึ้นราวกับกลัวว่าจะเป็นแค่ความฝันไป ไออุ่นจากกายแกร่งตอกย้ำว่าเขาคือคนที่หัวใจเธอเพรียกหา หญิงสาวส่งยิ้มให้เขาแล้วขยับตัวยื่นหน้าไปจูบมุมปากของชายหนุ่ม “หยารักพี่สินค่ะ หยาจะไม่หายไปไหนอีก ครั้งนี้เรามาทำให้มันไม่เหมือนเดิมนะคะ” แววตาของเธอคือคำตอบที่เขารอคอย มีหลายร้อยหลายพันคำที่เขาอยากพูด แต่กลับพูดไม่ออก อับจนถ้อยคำอย่างน่าสงสาร ความรู้สึกที่มีทั้งหลายทั้งปวงหลอมรวมเป็นอ้อมกอดแนบแน่น ไม่ว่าเขาจะเป็นใครแต่หัวใจของเขายังเป็นดวงเดิมที่รักเพียงหญิงเดียวเสมอมาและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป รักครั้งนี้กับหัวใจดวงเดิมที่จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้วบทส่งท้าย ข่าวโฮโซสาวชื่อดังและครอบครัวถูกจับข้อหาฉ้อโกงและคดีแชร์ลูกโซ่เป็นที่พูดถึงกับไปทั่ว ช่องข่าวทุกช่องรวมทั้งโลกโซเซียลให้ความสนใจกันมาก แต่นั้นทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวพอใจมาก เพราะพวกเขาไม่ต้องเป็นเป้าสายตาของใครนัก มารดาของย่าหยาและสามีใหม่บินตรงกลับเมืองไทยตามคำเชิญของว่าที่ลูกเขยเพื่อที่ทั้งสองครอบครัวจะ
คุณาสินวางร่างของย่าหยาลงบนเตียง เขาปรายตามองไปทางประตูเห็นลูกน้องปิดให้เรียบร้อยก็ถอนหายใจเบาๆ คนตัวเล็กยื่นมาคล้องคอเขาไว้ “พี่สิน” เสียงหวานครางแผ่ว “หยาอยากอาบน้ำ” เธอต้องการเขาเหลือเกิน แต่สภาพนี้มันก็เกินกว่าตัวเธอเองจะรับได้ ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ อุ้มคนตัวเล็กเดินไปที่ห้องน้ำ “เด็กดี...ให้พี่ช่วยนะครับ” เขาพูดขณะปล่อยให้เธอลงยืน หญิงสาวพยักหน้ารับให้เขาช่วยถอดเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นออกจากร่าง น้ำอุ่นไหลผ่านฝักบัวรินรดร่างเปลือยเปล่า มือใหญ่ค่อยๆ เช็ดใบหน้าสวยอย่างเบามือพลางสำรวจดูว่าเธอบาดเจ็บที่ไหนบ้าง เสียงหวานครางแผ่วยื่นมือไปปลดกระดุมเสื้อของเขาออกอย่างร้อนรน ปลายนิ้วสัมผัสแผ่นอกกว้างที่คุ้นเคยแล้วยื่นหน้าไปจูบอกซ้ายของเขา ชายหนุ่มถึงกับหลุดเสียงครางออกมา มือเรียวเล็กพยายามปลดเข็มขัดของเขาออก เขาจึงเลื่อนมือลงไปจัดการด้วยตัวเอง ปล่อยให้ร่างกายกำยำเปลือยเปล่าต่อหน้าคนรัก ผ่านมากี่ร้อยปี เธอก็ยังเป็นคนเดียวที่เขารัก แม้เคยคิดหันหลังให้ความรู้สึกที่มีแต่หัวใจมันไม่ยอมหยุดรักเธอได้เลย มือใหญ่กุมมือเล็กให้กอบกุมท
ชายผู้นั้นหน้าซีดมองร่างที่หลับใหลสลับกับหน้าถมึงทึงของวาด มือหยาบกร้านสั่นเทายื่นไปหมายแตะต้องเรือนร่างนวลละออ แต่มีเสียงคนพูดด้านนอกว่า ‘องค์วรสินเสด็จกลับมาแล้ว’ ทั้งสองจึงรีบออกไปราวกับภูติผีวิญญาณร้าย คราวนั้นองค์วรสินกลับมาได้เวลา แต่เธอกลับถูกเข้าใจผิดเพราะองค์วรสินเองก็ถูกปั่นศีรษะเป่าหูว่าเธอเป็นหญิงแพศยาคบชู้ ทำให้เรื่องราวจบลงด้วยตายจากของเธอและลูกในครรภ์ แรงรักแรงอาฆาตทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดเป็นเช่นนี้หลายชาติภพ เธอปล่อยวางตั้งแต่ชาตินั้นแต่คนผู้นี้ไม่อาจปล่อยเธอไป มือใหญ่กระชากเสื้อเธออย่างแรงทำให้ย่าหยาได้สติ หญิงสาวส่งเสียงหวีดร้องแล้วยกเท้าขึ้นถีบเปะปะไปทั่วแต่มือที่น่าขยะแขยงพวกนั้นจับเรียวขาเธอแล้วลูบไล้หยาบคาย คนหนึ่งถือสมาร์ทโฟนบันทึกภาพไว้ราวกับเธอคือนางเอกหนังAV ที่รับบทสาวสวยถูกขื่นใจ แต่นี่คือชีวิตจริงที่เธอกำลังจะถูกชายแปลกหน้ายำยี ‘พี่สิน’ ย่าหยาได้แต่พร่ำเรียกชื่อคนรักในใจ ใช่ เธอรักเขา ไม่ว่าผ่านมากี่ร้อยปีหรือกี่ชาติภพ เธอก็ยังคงรักผู้ชายคนนี้ โครม! เสียงถีบประตูดังสนั่นท
“เอ่อ...เจ้านายครับ ผมไม่เห็นคุณย่าหยาเลยครับ” “อะไรนะ?” “ผมเข้ามารับเอกสารตามที่เจ้านายสั่ง ผมมาถึงคอนโดแล้วแต่ไม่พบคุณย่าหยาเลยครับ เอ่อ...โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ ผมถามนิติกรคอนโดก็บอกว่าเห็นคุณย่าหยาเดินออกไปหน้าคอนโดแล้วยังไม่กลับเข้ามาครับ” “เป็นไปได้ยังไง” “ผมว่าแปลกๆนะครับ” “รอที่นั้นก่อน เดี๋ยวฉันลองติดต่อย่าหยาอีกที” คุณาสินวางสายจากลูกน้องแล้วโทรหาย่าหยา ใจของร้อนรุ่มไม่สนใจว่าแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดในห้องทำงานแล้ว เขาลุกขึ้นเดินไปที่ผนังกระจกที่มองเห็นวิวด้านนอก ตอนนี้เขาอยู่บนตึกสูงระฟ้าแต่หัวใจของเขากำลังดำดิ่งอย่างหวาดวิตก หญิงสาวไม่รับสายและครู่ต่อมาก็เหมือนทโทรศัพท์ดับไปเสียเฉยๆ เขาสบถหัวเสียแล้วเปลี่ยนเป็นโทรตามลูกน้องคนสนิทให้เข้ามาพบเขาทันที และโทรสั่งให้คนของเขาอีกคนไปขอดูกล้องวงจรปิดที่คอนโด เขาสูดลมหายใจลึกพยายามตั้งสติให้มั่น หากเป็นเรื่องอื่นเขาคงรับมือด้วยความใจเย็น แต่นี่เป็นเรื่องของย่าหยา ผู้หญิงที่ครอบครองพื้นที่ทุกตารางนิ้วในหัวใจของเขา ผ่านมาหลายชาติภพ เขาไม่
“โทษหยาเหรอคะ แต่พี่สินเริ่มก่อนนะ” เธออายจนหน้าแดงเรื่อ ไม่รู้ทำไมตอนเช้าเขาถึงมี ‘อารมณ์’ จนต้องจัดหนักก่อนไปทำงานทุกที เธอทำงานที่บ้าน ตื่นสายก็ไม่เป็นไรแต่เขานี่สิ “พี่เป็นเจ้าของบริษัท ไปถึงช้าหน่อยไม่เป็นไรหรอก” เขายื่นหน้าไปแล้วกระซิบข้างหู “ต่ออีกรอบได้นะครับ” “คนบ้า! ไปทำงานเลย” “ครับๆ รับคำสั่งคุณภรรยาครับ” ย่าหยาไม่อยากจะโต้ตอบอีก ดูเหมือนพูดอะไรไปก็จะเข้าทางเขาเสียหมด คุณาสินยิ้มกว้างแล้วจูบหน้าผากคนรักเบาๆ ก่อนออกไปทำงานเช่นทุกวัน แต่ความรู้สึกนั้นแตกต่างไปจากเดิม เหมือนได้ของหายที่หาไปนานกลับมา 2-3คืนแรก เขานอนหลับไม่สนิทนักเพราะกังวลและกลัวว่าเธอจะหายไป และกลัวว่าเธอจะหวนกลับไประลึกถึงเรื่องราวในอดีต คุณาสินเดินออกมาจากห้องของคนรัก เขาไม่อยากเร่งรัดเธอเกินไป แต่อีกใจก็กลัวจะเสียเธอไปอีก ตอนนี้เขากลายเป็นคนขี้กลัวไปเสียทุกอย่าง บางทีเขาก็นึกขำตัวเอง ตอนที่ยังหาเธอไม่เจอมันก็เป็นความรู้สึกเหงาและเคว้งคว้าง แต่เมื่อได้พบเธอ ได้โอบกอดอีกครั้ง กลับกลัวว่าจะเสียเธอไป เขาอยากใช้ชีวิตกับเธอเ
ทันที่ริมฝีปากร้อนของคนทั้งสองประกบกันอีกครั้ง ร่างกายผ่าวร้อนทาบทับลงมาบดเบียดแนบชิด สิ่งที่ใหญ่โตนั้นร้อนระอุคลอเคลียกลีบเนื้ออ่อนบางที่ยามนี้ฉ่ำชื้นเพราะถูกปลุกเร้าด้วยนิ้วมือร้ายกาจ คุณาสินผละจากริมฝีปากสวยแล้วพรมจูบลำคอขาวผ่องจนเป็นแดงเรื่อ ซุกไซและโลมเลียลำคอระเรื่อลงมาที่เนินอกสวยอีกครั้ง ขบเม้มดูดดึงที่ปลายถันจนเปียกชุ่มทำให้หญิงสาวเผลอใช้ปลายนิ้วจิกลงที่ต้นแขนกำยำอย่างลืมตัว “อื้อ พี่สิน...” ความต้องการของหญิงสาวทวีคูณ ขยับบดเบียดร่างแนบชิดพร้อมกับแยกเรียวขาออก ความปรารถนาจะถูกเติบเต็มทำให้เรียกร้องอย่างไม่เคยทำมาก่อน เขาส่งนิ้วไปสำรวจเบื้องล่างอีกครั้งขยับนิ้วในร่องสาวจนมั่นใจว่าน้ำรักของเธอมากพอจึงประคองแก่นกายของตนส่งเข้าไปที่น้อย “อ๊ะ!” “อย่าเกร็ง” เขาพูดเสียงพร่าและเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหวานที่แดงเรื่อ ดวงตาของเธอปรือฉ่ำไม่ใช่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอร์ แต่เพราะถูกปรนเปรอสวาทแทบขาดใจ เขาขยับเอวสอบดุนดันเข้าไปที่ละน้อย ขยับออกถอยเข้าเพิ่มความลึกไปที่ละนิดจนปลายหัวบากมุดเข้าไปในร่องสาว ย่าหยาตัวสั่นระริกในขณะที่อีกฝ