Share

บทที่ 4

Penulis: moonlight -mini
last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-18 02:59:25

บทที่ 4

หวงจิงอวี๋นั่งทอดถอนใจอยู่บนเรือที่ลอยลำกลับจากการสู้รบกับแคว้นศัตรู แม้จะนำชัยชนะกลับมาให้เสด็จพี่และปกป้องแผ่นดินบ้านเกิดได้สำเร็จ แต่ในใจของเขากลับไม่มีความยินดี เบื้องหน้าคือทัศนียภาพของแผ่นดินบ้านเกิดที่เขาเคยรักและคุ้นเคย แสงอาทิตย์อัสดงสาดส่องลงบนท้องทะเลและแผ่นดิน ทำให้เกิดภาพที่งดงามและสงบสุข ทว่าในใจของหวงจิงอวี๋กลับเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและความเศร้าหมอง

หวงจิงอวี๋กำลังนั่งทอดถอนใจอยู่บนกาบด้านหน้าของเรือ

แม้จะกำชัยชนะกลับมาให้เสด็จพี่ของตน แต่กลับไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกยินดีนัก

เพราะการเอาชนะเมืองแถบนี้เป็นเรื่องที่แคว้นของเขาสามารถทำได้ง่าย ๆ อยู่แล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านี้หากส่งบรรณาการ เสด็จพี่ของเขาก็จะไม่ทำอะไรเหล่าเมืองเล็กเมืองน้อย

นั่นมันเป็นเรื่องก่อนที่มเหสีของเสด็จพี่จะถูกสังหาร เหล่าขุนนางที่รับเงินและถูกหลอกว่าหากจัดการกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ลงได้จะได้รับบัลลังก์เป็นสิ่งตอบแทน

คนเหล่านั้นไม่มีทั้งหัวคิดและความสามารถ อาศัยยามที่เสด็จพี่ไปออกศึกจัดการทุกคนที่เสด็จพี่ของเขารัก หวงจิงอวี๋รู้ดีว่านี้เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของพี่ชาย แต่เขาก็ช่วยเหลืออะไรมากไม่ได้ คนตายก็ได้ตายไปแล้ว

การจากไปของมเหสีและะรัชทายาทที่รักทำให้หวงตี้ที่ยังคงมีใจเมตตาอยู่บ้างแปรเปลี่ยนไป เพราะรู้ถึงสาเหตุจึงไม่ปล่อยให้บรรดาเมืองใหญ่น้อยเป็นหอกข้างแคร่อีก นั่นจึงทำให้พี่ชายทำเช่นนี้เขาจึงจำต้องออกรบถี่ขึ้นกว่าเดิม

โดยแต่ละครั้งที่กลับมา แม้จะมีชัยชนะมาถวาย แต่สิ่งที่ได้ก็คือใบหน้าที่นิ่งเฉยจากพี่ชายเพียงเท่านั้น

หวงจิงอวี๋ยังนึกเสียดาย หากเขากลับมาก่อนพี่ชายในศึกครั้งนั้นจะสามารถช่วยพี่สะใภ้และหลานชายเอาไว้ได้หรือไม่ ชายหนุ่มถอนหายใจหนัก ไม่มีประโยชน์ที่จะคิดถึงเรื่องที่เคยเกิดไปแล้ว

ดวงตาของหวงจิงอวี๋มองไปยังสายน้ำตรงหน้าก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเขาเห็นบางอย่างที่ไม่ควรจะอยู่ตรงนั้น

“นั่นมัน” เสียงของเขาเรียกสายตาองครักษ์ข้างกายให้หันกลับมามองด้วยความสงสัย แต่หวงจิงอวี๋ไม่ทันจะอธิบายอะไรกับคนของตนก็หยิบเอาเชือกพันกับตัวเองและส่งปลายเชือกให้กับองครักษ์จู

“ดึงเอาไว้”

จบคำแม่ทัพใหญ่ก็กระโดดลงจากเรือ ทำเอาคนในเรือต่างแตกตื่น ไม่ใช่เพราะไม่เคยเห็นแม่ทัพใหญ่ทำเช่นนี้ แต่เพราะเรื่องศึกมันจบแล้วก็ไม่น่าจะต้องมีเรื่องตื่นเต้นอะไรอีก

ทางด้านหวงจิงอวี๋ก็ว่ายน้ำตรงไปยังร่างที่เขาเห็น ตอนแรกชายหนุ่มคิดว่าตัวเองตาฝาดจะมีใครผมสีนี้ได้กันหากไม่ใช่คนแก่ แต่แม่นางตรงหน้า ใบหน้าเนียนเรียบเช่นนี้และผมสีขาวยาวสลวยเช่นนี้ ราวกับเซียนกับเทพ ชายหนุ่มไม่คิดอะไรอีกเขาจับเชือกที่พันตัวเองพันเข้ากับอีกฝ่ายด้วยก่อนจะว่ายไปยังเรือของตน

บรรดาคนในเรือส่งบันไดลิงลงมาให้ชายหนุ่ม พร้อมกับใช้เชือกที่ดึงร่างคนทั้งสองเมื่อครู่ดึงร่างของ...ทุกคนปิดปากสนิทเมื่อเห็นการแต่งตัว ใบหน้า และสีผมของร่างหญิงสาวที่เจ้านายของตนพาขึ้นมาจากน้ำ

ทันทีที่หวงจิงอวี๋ขึ้นมาจากน้ำเขาก็พาหญิงสาวไปยังห้องพักของตนในเรือ อีกฝ่ายได้สติเพียงชั่วครู่ก่อนจะสลบไปอีกครั้ง ไม่มีหญิงสาวคนใดจะสามารถเปลี่ยนชุดให้แม่นางตรงหน้านี่ได้

แม่ทัพหนุ่มมองหญิงสาวตรงหน้าอยู่นานก่อนจะหยิบเอาเศษผ้ามาพันตาเอาไว้ แล้วจัดการถอดชุดที่เปียกชื้นของนางออกแล้วเปลี่ยนเป็นชุดของเขา รวมถึงตัวเขาเองก็เปลี่ยนเป็นชุดใหม่เพราะชุดเก่าเปียกหมดแล้วจากการลงไปช่วยนางตรงหน้า

หลังจากเสร็จสิ้นทุกอย่างชายหนุ่มก็ออกไปบอกกับคนของตนให้ต้มยาแก้หนาวให้กับหญิงสาว แม้จะไม่รู้ว่านี่เป็นคนหรือเซียนเทพลงมาจุติ สิ่งที่เขาเห็นชัดที่สุดก็คือร่างที่สั่นน้อย ๆ จากความหนาวเย็นที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อใกล้ถึงเมืองของเขา

เพราะสีผมที่แปลกตาและใบหน้าที่...หวงจิงอวี๋ต้องยอมรับกับตัวเองว่าเขานั้นถูกใจใบหน้าของนาง เขาไม่สามารถปล่อยหญิงสาวเอาไว้ด้านนอกกับคนอื่น ๆ ในเรือได้ ไม่ใช่เพราะนางเป็นหญิง หรือเพราะเขาถูกใจ แต่สีผมของนางจะทำให้เกิดคำพูดมากมาย แต่หากเขาเป็นคนพูดออกไปเองเรื่องทุกอย่างก็คงจะง่ายกว่า

เพราะนอกจากเรื่องที่พี่ชายเขานิสัยเปลี่ยนไปแล้วมันยังมีเรื่องอื่นที่รุนแรงกว่านั้น พี่ชายของเขาเพราะความเสียใจจึงตัดสินใจใช้คัมภีร์โบราณกับร่างและวิญญาณของพี่สะใภ้และหลานของเขา

หลังจากนั้นทั้งเขาและเสด็จพี่ของเขาก็คล้ายจะติดต่อสื่อสารกับคนที่จากไปทั้งสองได้ แต่มันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด การทำพิธีเป็นการทำให้ร่างทั้งสองทรมานเพราะสิ่งที่เขียนเอาไว้ในคัมภีร์มันคือคำสาปทำให้วิญญาณของทั้งคู่ถูกจองจำเอาไว้ และนั่นก็ยิ่งทำให้หวงตี้ฮ่องเต้ที่เคยเข้มแข็งและยิ่งใหญ่แทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน

“ยามเจ้าและลูกอยู่ข้าไม่สามารถช่วยชีวิตเจ้าและลูกเอาไว้ได้ ยามวิญญาณของเจ้าและลูกต้องการจะไป ข้ายังไปรั้งพวกเจ้าเอาไว้อีก”

หวงจิงอวี๋เคยคิดหากเขาสามารถที่จะลบล้างคำสาปได้ บางทีเสด็จพี่ของเขาอาจจะรู้สึกดีกว่านี้ อย่างน้อยก็ไม่ติดค้างกับภรรยาและบุตรชายของตน

และยังไม่ทันที่หวงจิงอวี๋จะคิดมากไปกว่านั้นเขาก็ได้ยินเสียงละเมอของหญิงสาวที่ยังคงหลับตาสนิท มันจะไม่ทำให้ดวงใจของชายหนุ่มรู้สึกอะไรเลย หากไม่ใช่ว่าคำที่หลุดออกมานั้นจะเป็นชื่อของพี่สะใภ้และหลานชายที่จากไปแล้วของเขา

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • คำสาปราชันย์   ตอนพิเศษ5

    ตอนพิเศษ+5แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปที่ไซต์งานจริง ๆ หวงต้าลู่กลับขับรถพาเธอไปส่งถึงที่ พร้อมกับเตรียมเก้าอี้นุ่ม ๆ และร่มกันแดดคันใหญ่ให้เธอตลอดเวลาที่เธอออกจากที่ร่ม อีกฝ่ายไม่ได้ให้เธอได้เดินไปไหนมาไหนเกินความจำเป็น ลูกน้องทุกคนได้รับคำสั่งให้ดูแลเธออย่างใกล้ชิด ราวกับเธอเป็นสมบัติล้ำค่าที่ต้องดูแลให้ดีที่สุด แต่หลงเหยียนก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะอย่างน้อยเธอก็ได้ทำงาน...หญิงสาวนั่งดูงานด้วยความพอใจ ขณะที่หวงต้าลู่นั่งอยู่ข้าง ๆ คอยดูแลไม่ห่าง พวกเขาทั้งคู่หัวเราะและพูดคุยกันเบา ๆ ในบางครั้ง ซึ่งนั่นก็เป็นท่าทางที่ดูน่ารักดีสำหรับบรรดาเพื่อนร่วมงานคนอื่นเวลาผ่านไป 6 ปีพิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งนี้ ตั้งอยู่ท่ามกลางภูมิประเทศที่งดงาม ห้อมล้อมไปด้วยเทือกเขาและลำธารที่ไหลผ่าน ผืนดินที่เคยเป็นสถานที่ขุดค้นสมบัติโบราณ ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมชม ด้วยความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ และการจัดแสดงที่ได้รับการบูรณะอย่างพิถีพิถัน ซึ่งเป็นเรื่องราวของความรักและความเสียสละของต้นตระกูลหวง กลายเป็นเรื่องราวที่ซึ้งกินใจใครหลาย ๆ คนหวงต้าลู่และหลงเหยียนพาลูกแฝดของพ

  • คำสาปราชันย์   ตอนพิเศษ4

    ตอนพิเศษ+4“หลงเหยียน คุณต้องพักผ่อนมาก ๆ นะครับ อย่าทำงานหนักเกินไป ผมไม่อยากให้คุณหรือลูก ๆ ของเราเสี่ยงอะไรทั้งนั้น” หวงต้าลู่พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ขณะที่เขาช่วยประคองพาหญิงสาวเดินไปนั่งบนโซฟานุ่ม ๆ ในบ้าน เขาดูแลทุกอย่าง ตั้งแต่อาหารการกินไปจนถึงการนอนหลับของเธอ จนหลงเหยียนนึกว่าตัวเองเข้าคอร์สอะไรสักอย่างที่ต้องมีเทรนเนอร์ตามติดหญิงสาวค่อนข้างจะอึดอัด เพราะปกติแล้ว หลงเหยียนเคยชินกับการทำงานหนักในไซต์งาน การเป็นนักโบราณคดีเรียกได้ว่านอนกลางดินกินกลางทราย บางทีก็ไม่ได้นอน บางทีก็ไม่ได้กิน ตอนนี้ได้ทั้งนอนเต็มอิ่มและกินจนจุกจึงทำให้หญิงสาวเริ่มรู้สึกอึดอัดกับการถูกประคบประหงมขนาดนี้ เธอรู้สึกคิดถึงการทำงานภาคสนาม ที่ซึ่งเธอสามารถใช้ความรู้และทักษะของเธอได้เต็มที่ ไม่ใช่แค่มองภาพที่ถ่ายมาแล้วประเมินเนื้อหาทั่ว ๆ ไปอย่างตอนนี้“หวงต้าลู่คะ ฉันอยากกลับไปทำงานที่ไซต์งานได้ยินว่าเจอของใหม่ และฉันมั่นใจว่ามีอีกหลายอย่างที่เรายังต้องค้นพบอีก แล้วก็ยังสุสานเก่าอีกที่ที่เราเคยไปด้วยกันเมื่ออดีตที่นั่น ฉันก็อยากจะหามันให้เจอแต่ที่สำคัญที่สุดเลย คือฉันคิดถึงการทำงานที่นั่นมาก” หญิงสาวบอก

  • คำสาปราชันย์   ตอนพิเศษ3

    ตอนพิเศษ+3ภาพคนทั้งสองที่ยืนเคียงข้างกัน ขณะที่เสียงเพลงหวาน ๆ บรรเลงขึ้นเบา ๆ เป็นภาพที่ทำให้บรรดาแขกมีรอยยิ้ม ทุกคนต่างเห็นพ้องว่าทั้งสองคนนั้นถูกกำหนดมาให้คู่กันอย่างแท้จริง ซึ่งแม้แต่กาลเวลาก็ไม่สามารถทำลายได้เมื่อเรือแล่นกลับมายังท่า หวงต้าลู่จับมือหลงเหยียนไว้แน่น ขณะที่พวกเขาเดินลงจากเรือไปพร้อมกับรอยยิ้มที่เปล่งประกายทั้งสองคนเดินเคียงข้างกันไปข้างหน้า ท่ามกลางเสียงปรบมือและความยินดีของแขกที่มาร่วมงาน งานแต่งงานครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเริ่มต้นชีวิตคู่ในปัจจุบัน แต่เป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ได้รับการสานต่อจากอดีต และพวกเขารู้ดีว่าทุกย่างก้าวที่พวกเขาจะก้าวไปด้วยกันนั้นจะเต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และความผูกพันที่ยืนยาวข้ามผ่านกาลเวลาหลังจากงานแต่งงานที่อลังการบนเรือผ่านพ้นไป หวงต้าลู่และหลงเหยียนเลือกที่จะไม่เดินทางไปยังสถานที่หรูหราเหมือนคู่แต่งงานอื่น ๆ แต่พวกเขากลับเลือกที่จะไปฮันนีมูนในเมืองโบราณที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความทรงจำ เพื่อชดเชยช่วงเวลาที่พวกเขาไม่ได้ใช้ร่วมกันในอดีตพวกเขาเดินทางมาถึงเมืองโบราณลี่เจียง เมืองที่มีอายุนับร้อยปี ถนนหนทางยังคงปูด้วยหินกรวด บ้

  • คำสาปราชันย์   ตอนพิเศษ2

    ตอนพิเศษ+2“ขอบคุณนะที่อยู่ข้าง ๆ ฉันเสมอ คุณรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนเรากำลังเริ่มต้นสิ่งใหม่”“ผมก็รู้สึกแบบเดียวกัน ทุกอย่างที่เราเจอมา ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน มันทำให้ผมมั่นใจว่าเราถูกกำหนดมาให้คู่กัน” แม้ว่าจะต้องใช้ความเจ้าเล่ห์ของตัวเองช่วยเหลือบ้าง แต่หวงต้าลู่คิดเช่นนั้นจริง ๆ ถ้าสวรรค์ไม่ช่วย เขาจะนำหญิงสาวข้าง ๆ กายมาเป็นของตนได้อย่างนั้นเหรอคงไม่มีทางงานแต่งงานของพวกเขาที่กำลังจะมาถึง ไม่ใช่แค่งานแต่งงานธรรมดา ๆ แต่มันเป็นการฉลองให้กับความรักที่ยาวนานผ่านกาลเวลา และเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ไม่รู้จบงานแต่งงานของหลงเหยียนและหวงต้าลู่จัดขึ้นอย่างอลังการ บนเรือที่ล่องออกไปกลางแม่น้ำใหญ่ แม้ว่าในตอนแรกทั้งสองจะมีความลังเลใจเป็นอย่างมากที่จะทำแบบนี้ เพราะในอดีตเคยเกิดเหตุที่ทำให้หลงเหยียนหายไปจากชีวิตของหวงต้าลู่เมื่อหลายร้อยปีก่อนแต่ความเชื่อมั่นที่ทั้งสองคนมีให้ต่อกันก็ทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะจัดงานแต่งงานในสถานที่แห่งนี้ เพื่อเป็นการพิสูจน์ความรักที่ยิ่งใหญ่และความผูกพันที่จะไม่มีวันจางหายตลอดกาล ต่อให้จะมีอุปสรรคมากแค่ไหนก็ตาม“คุณแน่ใจแล้วใช่ไหมหลงเหยียน” หวงต้า

  • คำสาปราชันย์   ตอนพิเศษ1

    ตอนพิเศษ+1งานแต่งงานที่ใกล้เข้ามา ทำให้หลงเหยียนตื่นเต้นและอดไม่ได้ที่จะมีความคาดหวังกับมัน และเพราะอย่างนั้นหญิงสาวจึงมากังวลอยู่อย่างนี้ ตอนนี้เธอนั่งประชุมกับเพื่อน ๆ เพื่อจัดเตรียมงานแต่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ถึงแม้หลาย ๆ อย่างจะถูกเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว กลับมีสิ่งหนึ่งที่หญิงสาวยังหาไม่ได้ นั่นก็คือธีมของงานแต่ง ในวันที่สถานที่พร้อม ชุดพร้อม และทุกอย่างพร้อมสิ่งที่สำคัญที่สุดกลับยังไม่มี“ฉันมีไอเดียเสนอ ทำไมเราไม่ใช้ธีมต่อจากนิทรรศการที่เพิ่งจัดไปล่ะ” หลงเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ขณะที่เพื่อนอีกคนก็รีบเสริมทันที“จริงด้วย จริงด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นจะต้องเป็นธีมงานที่คนพูดถึงไปอีกนานแน่ ๆ ไหน ๆ ก็คงจะต้องเป็นข่าวอยู่แล้วใช่ไหมว่าที่คุณนายหวง” คำของเพื่อน ๆ ทำให้หลงเหยียนหน้าแดง เพื่อนที่ช่วยกันอยู่ตอนนี้ก็เป็นบรรดาเพื่อนร่วมรุ่นของเธอที่มหาวิทยาลัย และเพื่อนร่วมงานทั้งนั้น เพราะหญิงสาวเป็นคนบ้างานบ้าเรียนสุดท้ายจึงรู้จักคนอยู่เท่านี้“ใช่ไหมล่ะ ท่านอ๋องที่รอคนรักมาตลอดหลายร้อยปี แล้วสุดท้ายก็ได้เจอกันในชาตินี้และได้แต่งงานกัน เหมือนคู่ของเธอกับคุณหวงไง เจอกันเพราะเธอมาขุดสุสานต้น

  • คำสาปราชันย์   บทที่35

    บทที่ 35บนเรือสำราญลำเดิมที่ทำให้หวงต้าลู่และหลงเหยียนได้พบกันจากอุบัติเหตุของหญิงสาว ตอนนี้ทั้งคู่กลับมายืนที่ตรงนี้อีกครั้งพร้อมกับบรรยากาศที่คล้าย ๆ เดิมแต่ไม่เหมือนเดิมซะทีเดียว ปาร์ตี้ก็ยังคงดำเนินไประหว่างที่เรือลำใหญ่ล่องผ่านสายน้ำที่เงียบสงบ ไม่มีอาจารย์จางอยู่บนเวทีและไม่มีคนที่แอบอ้างงานคนอื่นอย่างว่านหนิงอยู่ที่นั่นมีเพียงแค่หลงเหยียนกับทีมนักโบราณคดีคนอื่น ๆ ที่ถูกกล่าวถึงทีละคน เพราะ “งานนี้คงสำเร็จไม่ได้ถ้าไม่มีทุกคนช่วยเหลือ” หลงเหยียนกล่าวระหว่างที่ยืนอยู่บนเวทีที่ห้อมล้อมไปด้วยผู้คนมากมายแสงไฟวิบวับจากดวงไฟนับร้อยที่ประดับประดาบนเรือ ทำให้บรรยากาศของงานเลี้ยงฉลองดูหรูหราและอลังการมากขึ้นไปอีกแขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างแต่งกายในชุดราตรี นักโบราณคดีที่มีชื่อเสียงและสื่อมากมายหลายสื่อต่างเข้าร่วมงานนี้ หลายคนมาเพราะคำเชิญ อีกหลายคนมาเพราะสนใจในงานนิทรรศการที่เพิ่งผ่านไปจริง ๆ บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงดนตรีที่บรรเลงเบา ๆ คลออยู่ในอากาศหลงเหยียนกลับมายืนอยู่ที่ด้านหลังเรืออีกครั้ง หญิงสาวมองออกไปยังสายน้ำเบื้องล่าง เธอสวมชุดราตรีสีงาช้างที่พลิ้วไหวท

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status