Share

บทที่ 14

Author: นายกัวผู้เล่าเรื่อง
ในขณะเดียวกัน หลี่โม่ก็มาถึงโรงพยาบาลแล้ว

แม่ยายได้เตือนสติเขาหลายครั้งตั้งแต่เช้าตรู่

ทันทีที่เดินเข้าไป หลี่โม่ก็ชนเข้ากับหลิวซินหมินซึ่งกำลังรีบวิ่งมา เขายิ้มอย่างชื่นชมและพูดว่า “ยินดีต้อนรับคุณหลี่สำหรับการมาตรวจงานที่โรงพยาบาลของเรา”

หลี่โม่แสดงสีหน้าตกใจ เขาโบกมือแล้วพูดว่า “ผู้อำนวยการหลิว คุณไม่ต้องทำถึงขนาดนี้หรอก ทำงานของคุณเถอะ ผมแค่มาเยี่ยมลูกสาว”

หลิวซินหมินยิ้มอาย ๆ และพูดว่า “ได้ครับ ผมจะไม่รบกวนคุณหลี่ อย่าได้กังวลเรื่องอาการของลูกสาวคุณเลยนะครับ ทางเราจัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญข้ามคืนและตอนนี้เรามีแผนแล้ว”

หลี่โม่พยักหน้า หลิวซินหมินจึงหันหลังเดินออกไป

หลังจากนั้นเขาเดินไปที่ห้องของซีซี ทันทีที่เขาก้าวเข้าประตู เขากลับถูกต่อว่าด้วยคำพูดที่รุนแรง

“หลี่โม่ ทำไมแกถึงเพิ่งมาเอาตอนนี้ แกไม่รู้เหรอว่าในโรงพยาบาลทั้งสกปรกและเหนื่อยมากน่ะฮะ?”

เมื่อแม่ยายหวังฟางเห็นหลี่โม่กำลังเข้ามา เธอรีบพุ่งเข้าไปหาเขาอย่างเดือดดาลและชี้หน้าหลี่โม่พร้อมกับด่าชุดใหญ่!

น่าโมโหชะมัด!

ตนดูแลแล้วตลอดช่วงเช้า ไอ้เด็กเวรนี่สมควรตาย เสียเวลาจริง ๆ !

หากไม่ใช่เพราะนายท่านกู้ชอบซีซี หวังฟางคงไม่จำเป็นที่จะต้องสนใจไอ้เด็กเวรนี่หรอก

ลูกสาวของไอ้คนไร้ประโยชน์อย่างหลี่โม่เป็นเพียงเรื่องที่ทำให้ตระกูลกู้ต้องอับอาย!

อย่างไรก็ตามหวังฟางปกติไม่กล้าที่จะพูดอะไร เพราะนายท่านกู้มองว่าซีซีคือสมบัติล้ำค่า เธอจึงไม่มีอะไรที่จะพูด

หลี่โม่ถ่อมตัวแล้วพูดว่า “คุณแม่ กลับไปก่อนเถอะครับ ผมจะดูแลซีซีเอง”

หวังฟางสะบัดมือและโยนของในมือตนเองให้กับหลี่โม่ เธอกัดฟันอย่างไม่พอใจแล้วพูดว่า “ฉันจะบอกแกให้นะ ถึงแม้คุณกู้จะอนุญาตให้แกดูแลซีซี แต่แกต้องจำไว้นะว่าซีซีเป็นคนในตระกูลกู้ ถ้าแกกล้าพูดว่าซีซีเป็นลูกสาวของแกที่โรงพยาบาลนี้ ฉันจะฆ่าแก!”

หลังจากพูดจบหวังฟางจ้องไปที่หลี่โม่และตะโกนว่า “ยืนอยู่ทำไม ทำไมยังไม่มาจัดการอีก?”

หลี่โม่รีบหยิบกะละมัง เขาไปกดน้ำอุ่นใส่กะละมังมาเช็ดใบหน้าและมือของซีซีที่นอนอยู่บนเตียง

ซีซีน่ารักมาก เธอก็ยิ้มอย่างมีความสุขตลอดเวลาเมื่อเห็นหลี่โม่เช็ดมือของเธอ เด็กน้อยก็เผยลักยิ้มสองข้างที่มุมปาก ช่างน่ารักมาก

ดวงตาหลี่โม่เต็มไปด้วยความรักและหลงใหล เขาแหย่จมูกเล็ก ๆ ของเด็กน้อยทำให้เธอทำหน้าหน้าตาบูดบึ้ง

ซีซีหัวเราะและตะโกนออกมาว่า "คุณพ่อ... "

เพียะ!

จู่ ๆ หวังฟางที่กำลังเล่นโทรศัพท์มือถือและพูดคุยกับเพื่อน ๆ ว่ากระเป๋าใบไหนสวยก็ลุกขึ้นมาทันที จากนั้นเดินเข้าไปอย่างโกรธเคือง เธอตบหน้าหลี่โม่แล้วด่าว่า “แกทำอะไร ใครอนุญาตให้แกปล่อยให้เธอเรียกแกว่าพ่อ?”

หลี่โม่รู้สึกงุนงงเล็กน้อยจากการถูกตบอย่างกะทันหัน มือที่ประคองกะละมังบีบกำปั้นไว้แน่น

เขาเหลือบมองที่ซีซีซึ่งนั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย ดวงตาที่เหมือนดั่งอัญมณีสีดำขนาดใหญ่สองดวงของเด็กคนนั้นเต็มไปด้วยน้ำตา

เธอตระหนักได้ว่าเธอพูดบางอย่างผิด จึงรีบดึงชายเสื้อของหวังฝางแล้วพูดว่า “คุณยาย มันไม่ใช่ความผิดของคุณพ่อ แต่เป็นความผิดของซีซีเอง…”

“แกยังเรียกมันว่าพ่ออยู่อีกเหรอ?”

หวังฟางหันไปจ้องมองซีซีด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

ซีซีตัวสั่นด้วยความตกใจ เธอเบะปาก อีกไม่ช้าจะร้องไห้แล้ว ในที่สุดน้ำตาในดวงตาของเธอก็ไหลลงมา

หลี่โม่เห็นแบบนี้ก็รีบขอโทษอย่างรวดเร็ว “คุณแม่ ผมไม่ดีเอง ครั้งหน้าจะไม่กล้าทำอีกแล้ว”

หวังฟางจ้องไปที่หลี่โม่แล้วตำหนิว่า “แกรู้ตัวก็ดี เอาน้ำไปเทได้แล้ว!”

หลี่โม่พยักหน้าก่อนจะมองไปที่ซีซี เขายิ้มให้เธอแล้วหันหลังเดินจากไป

หวังฟางโกรธจัด จ้องไปที่ซีซีแล้วพูดว่า “กู้ซีซี แกต้องรู้ว่าเขาไม่ใช่พ่อของแก ถ้าแกยังเรียกเขาว่าพ่ออีกครั้ง ฉันจะไล่แกกับไอ้คนไร้ประโยชน์นั่นออกจากตระกูลกู้! อย่าคิดว่าเพราะคุณกู้ชอบแกแล้วฉันจะเป็นแบบนั้นด้วยนะ แกเข้าใจหรือยัง?”

แม้ว่ากู้ซีซียังเด็กแต่เธอฉลาด เธอเข้าใจคำพูดของหวังฟาง เธอร้องไห้ฮือ ๆ แล้วพูดว่า “คุณยาย หนูทำไม่ได้ อย่าขับไล่คุณพ่อ… คุณลุงเลยนะคะ”

หวังฟางกลอกตามองบนแล้วหันตัวกลับไปนั่งบนโซฟา เธอพูดคุยกับเพื่อนสาวถึงเรื่องกระเป๋าคอลเลกชันใหม่ที่เพิ่งออกมาต่อไป

ฝั่งของกู้หยุนหลาน

หลังจากเลิกงานในตอนเช้า เธออยู่ในสำนักงานตลอดเวลา มองดูกล่องเปล่าในมือ ภายในใจรู้สึกถึงความอัปยศ!

เฮ้อ

กู้หยุนหลานถอนหายใจยาว ๆ เธอดูเหมือนจะตัดสินใจแล้ว เพื่อซีซีและตระกูลกู้แล้ว มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น

แม้ว่าหลี่โม่จะสัญญากับตนเองแล้วเมื่อวานนี้ว่าสัญญาของหรงคังต้องเป็นของตนเองอย่างแน่นอน

แต่กู้หยุนหลานรู้ว่าเป็นเพียงคำพูดของหลี่โม่ที่ต้องการจะปลอบใจเธอเท่านั้น

เธอรู้ว่าสามีของเธอเป็นคนอย่างไร

ครึ่งชั่วโมงต่อมา กู้หยุนหลานเปลี่ยนไปใส่ชุดชั้นในที่น่าอับอายตัวนั้น จากนั้นจึงเดินออกจากบริษัทหยุนเซิงเภสัชกรรม รถของกู้ชิงหลินจอดอยู่ที่ประตู

เธอขึ้นรถไปอย่างไม่คิดอะไรมาก

แต่ทว่าเพื่อความปลอดภัยของตนเองเธอจึงส่งข้อความสั้น ๆ ไปบอกหลี่โม่

กู้ชิงหลินที่กำลังนั่งแต่งหน้าอยู่อีกด้านหนึ่ง เมื่อเห็นกู้หยุนหลานขึ้นมาบนรถ เธอเหลือบมองแล้วถามว่า “เธอใส่มันแล้วเหรอ”

กู้หยุนหลานบีบกระเป๋าในมือและกัดริมฝีปากสีแดงพร้อมพยักหน้า

กู้ชิงหลินพ่นลมหายใจแล้วพูดว่า “ฉันคิดว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัวมากกว่านี้ซะอีก ที่แท้เธอก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงที่ก้มหัวเพื่อเงิน”

กู้หยุนหลานได้ยินคำพูดเหน็บแนมเหล่านั้น เธอจึงจะลงจากรถ

กู้ชิงหลินไม่ได้ห้าม เธอแค่พูดว่า “ถ้าเธอลงไปตอนนี้ เธอจะไม่ได้รับความร่วมมือจากหรงคังกรุ๊ปแน่นอน”

กู้หยุนหลานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอจึงนั่งลงที่เดิม

กู้ชิงหลินยิ้มอย่างชั่วร้ายและพูดกับคนขับรถที่อยู่ด้านหน้าว่า “ไปเบลล์คลับ”

กู้หยุนหลานเธอแกล้งทำเป็นบริสุทธิ์ต่อไปเถอะ!

คราวนี้เธอจะต้องพังพินาศแน่!

ณ เบลล์คลับ ภายในห้อง VIP 888

กู้ชิงหลินผลักประตูเดินเข้าไปพร้อมกับกู้หยุนหลาน เธอบิดสะโพกและยิ้มอย่างมีเสน่ห์ “คุณชายหรงคุณดูสิคะว่าฉันพาใครมา กู้หยุนหลานสาวงามประดุจดั่งดอกไม้ทั้งสี่แห่งเมืองฮั่น”

กู้หยุนหลานรู้สึกประหม่ามาก หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นแรง เธอก็เดินตามกู้ชิงหลินเข้าไป

ห้องวีไอพีใหญ่โตแสงไฟสลัวเล็กน้อย มันถูกแบ่งออกเป็นสองห้องซึ่งถูกกั้นด้วยฉากกั้นและม่านลูกปัด

บนโซฟาด้านหน้าของเธอ มีชายหนุ่มรูปงามอายุ 20 กว่าปีนั่งอยู่บนโซฟา สองแขนโอบกอดสองสาวสุดฮอตที่สวมใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น พวกเขากำลังเล่นเกมกินองุ่นกันอยู่

หรงฉางเวยพาดแขนสองข้างไว้บนโซฟา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย เขามองกู้หยุนหลานตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นจึงยกนิ้วโป้งให้กับกู้ชิงหลินแล้วพูดว่า “โอเค”

กู้ชิงหลินยิ้ม เธอหันไปพูดกับกู้หยุนหลานว่า “ยืนบื้ออยู่ทำไมล่ะ รีบเข้าไปทักทายคุณชายหรงสิ!”

กู้หยุนหลานขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอก้าวไปข้างหน้าไม่กี่ก้าวและโค้งตัวทักทายพร้อมกับพูดว่า “คุณชายหรง”

หรงฉางเวยยืนขึ้นทันที เขาคว้ามือเล็ก ๆ ที่ทั้งละเอียดขาวผ่องของกู้หยุนหลานขึ้นมาดม ใบหน้ามึนเมาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มพูดว่า “อ่อนโยน หอม ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเป็นสาวงามแห่งเมืองฮั่น ผมชอบนะ”

ตอนนั้นกู้หยุนหลานตกใจมาก เธอดึงมือออกอย่างเร็วและพูดกับหรงฉางเวยว่า “คุณชายอย่าทำแบบนี้เลยค่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางธุรกิจ”

หรงฉางเวยดมกลิ่นหอมที่ติดมืออยู่ เขาเหล่ตามองไปที่กู้หยุนหลานที่อยู่ด้านหน้า ผู้หญิงคนนี้ช่างวิเศษจริง ๆ น่ากินไปทั้งตัว!

“หารือได้ แน่นอนว่าหารือได้ แต่ถ้าจะหารือเรื่องความร่วมมือกับฉัน ก่อนอื่นเธอต้องดื่มขวดนี้ให้หมด”

ใบหน้าของหรงฉางเวยเต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย หลังจากเขาดีดนิ้วหนึ่งครั้งสาวฮอตด้านข้างก็หยิบขวดเหล้าเรมี่มาร์แตงค์ที่ยังไม่ได้เปิดออกมา

เมื่อเห็นเช่นนี้กู้หยุนหลานก็ตกตะลึง เธอมองกลับไปที่กู้ชิงหลินแต่กู้ชิงหลินกลับยิ้มแล้วโค้งคำนับและเดินออกไปจากห้องวีไอพี

กู้หยุนหลานลนลานจะวิ่งตามไป แต่ลูกน้องของหรงฉางเวยขวางกู้หยุนหลานเอาไว้ ในขณะเดียวกันก็พาคนออกจากห้องแล้วล็อกประตูจากด้านนอก

ภายในห้องวีไอพีขนาดใหญ่เหลือเพียงกู้หยุนหลานที่มีท่าทีตื่นตระหนกกับหรงฉางเวยที่สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย

หรงฉางเวยลุกขึ้น ภายในมือถือขวดเหล้าเรมี่มาร์แตงค์เดินเข้าไปหากู้หยุนหลาน เขายิ้มเยาะแล้วพูดว่า “ผู้อำนวยการกู้ หรือว่าคุณไม่ต้องการความร่วมมือครั้งนี้แล้ว?”

พูดจบเขารีบเดินไปข้างหน้าคว้าผมของกู้หยุนหลานไว้ จากนั้นก็กรอกเหล้าในมือลงใส่ปากของกู้หยุนหลาน

“วู้ฮู้!”

กู้หยุนหลานดิ้นรนอย่างสุดชีวิต แต่ทว่าหลังจากแอลกอฮอล์จำนวนมากเข้าไปในท้องของเธอ เธอรู้สึกวิงเวียนภายในไม่กี่นาที

หรงฉางเวยหัวเราะไม่หยุดเหมือนคนบ้า เขาดึงเสื้อโค้ตของกู้หยุนหลานออกอย่างแรง จากนั้นก็กอดกู้หยุนหลานจากทางด้านหลัง อีกทั้งซุกหน้าไว้ในผมของเธอพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึก ๆ

หอมมาก!

“ผู้อำนวยการกู้ เธอหนีไม่พ้นหรอก เป็นของฉันเถอะแล้วฉันจะร่วมมือกับเธอ” หรงฉางเวยพูดเยาะเย้ย

กู้หยุนหลานรู้สึกตึงเครียด หลังดิ้นหลุดออกจากหรงฉางเวย เธอก็ตบหน้าเขาอย่างแรง ร่างกายเธอเซไปมาจากนั้นคว้ากระเป๋าบนพื้นเอามีดปอกผลไม้ที่เตรียมไว้ออกมาจากด้านใน เธอตะโกนอย่างเจ็บปวดและหมดหนทางว่า "อย่าเข้ามานะ…”

หรงฉางเวยเลียริมฝีปาก ความเจ็บปวดบนแก้มยิ่งทำให้เขาไร้ซึ่งเหตุผล เขารีบเดินเข้าไปแย่งมีดปอกผลไม้จากมือของกู้หยุนหลาน แล้วตบหน้าเธออย่างโมโหแล้วตะโกนว่า “นังตัวดี แกกล้าสู้ฉันเหรอ!”

กู้หยุนหลานเจ็บปวด การตบครั้งนี้ทำให้เธอเวียนหัวและล้มลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

เธอพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่หล่นออกมาจากกระเป๋า

ในตอนนี้สิ่งที่เธอนึกถึงมีเพียงหลี่โม่เท่านั้น!

หลังจากมือเล็ก ๆ ของกู้หยุนหลานคลำหาโทรศัพท์จนเจอ เธอก็กดข้อความส่งอย่างสุดกำลัง!

โครม!

หรงฉางเวยคว้าข้อเท้าของกู้หยุนหลานแล้วโยนเธอลงบนโซฟาอย่างแรง จากนั้นก็ขึ้นคร่อมเธอ เขาทับอยู่บนร่างของกู้หยุนหลานพร้อมทั้งส่งรอยยิ้มชั่วร้าย

กู้หยุนหลานดิ้นไม่หยุด เธอข่วนหรงฉางเวย!

หรงฉางเวยบีบคอที่บอบบางของเธอและตบหน้าอีกสองที เขาด่า “แกล้งทำเป็นไร้เดียงสากับฉันเหรอ? วันนี้ฉันจะฆ่าเธอ!”

ในขณะเดียวกัน โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าของหลี่โม่ที่อยู่โรงพยาบาลก็ส่งเสียงขึ้น

เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อยและกดเปิดดูข้อความสั้น ๆ ที่กู้หยุนหลานส่งมา

ข้อความสั้น ๆ เพียงเจ็ดคำกลับทำให้หลี่โม่ตกอยู่ในความคลั่ง!

“หลี่โม่ เบลล์คลับ ช่วยฉันด้วย!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Somboon Piyobol
มังกรหรือใส่เดือน แม่ยายไม่หลานเรียกพ่อแค่นี้ก็หัวหด อ่านแล้วไม่เข้าใจคนเขียนเลย ยองแยง
goodnovel comment avatar
Piyapatta Samungkun
บทที่13-14กู้ซิ่งเหว่ยให้พระเอกคุกเข่าเขาก็จะคุกเข่าแล้วจะรับตำแหน่งสืบทอดไปเพื่ออะไรในเมื่อไม่กล้าเอาอำนาจมาใช้ยังก้มหัวให้คนเลวมีเงินเยอะแล้วควรจะซื้อบ้านให้แม่ให้เมียอยู่ไม่ต้องง้อตระกูลกู้ไม่เปิดเผยตัวตนแต่ก็ทำตัวรวยได้เมียก็ไม่เชื่อใจคิดว่าคำพูดของผัวที่ว่าจะได้ร่วมงานกับหรงคลังแค่พูดให้สบายใจ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 945

    คังหย่งอันกดหมายเลขของคังหย่งเฉียน แล้วพูดเสียงเข้ม "หย่งเฉียน ฉันได้ยินมาว่า แกกับเหวินซินมีปัญหากันเรื่องวิลล่าบนยอดเขาเหรอ?" “พี่ใหญ่ มีปัญหากันน่ะสิ ศิษย์พี่เกิ่งยังถูกทำร้ายจนเข่าหักแล้ว! ศิษย์พี่เกิ่งติดต่อกับอาจารย์โอวหยางไปแล้ว เรื่องนี้อภัยให้ไม่ได้แน่นอน!” คังหย่งเฉียนโกรธแค้นคังเหวินซิน ถ้าไม่ใช่เพราะคังเหวินซินพาหลี่โม่ไปที่นั่น เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น แต่ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว คังหย่งเฉียนเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทำได้เพียงเอาความโมโหไปลงที่คังเหวินซินเท่านั้น “หย่งเฉียน ไม่ว่ายังไงก็ตาม แกต้องรับรองความปลอดภัยของเหวินซิน ฉันไม่สนว่า อาจารย์โอวหยางพวกเขาจะทำอะไรกับเพื่อนของเหวินซิน แต่พวกเขาจะทำร้ายเหวินซินไม่ได้เด็ดขาด!” “พี่ใหญ่ ฉันไม่กล้ารับประกันหรอก รับประกันได้แค่ลูกชายของพี่จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงตายเท่านั้น ถ้าอาจารย์โอวหยางต้องการลงโทษลูกชายของพี่จริง ๆ ฉันจะไปขวางได้ยังไง ฉันขวางไม่ได้หรอก ไม่กล้าขวางด้วย!" คังหย่งอันขมวดคิ้วแน่น หากคังหย่งเฉียนอยู่ต่อหน้าคังหย่งอันในตอนนี้ คังหย่งอันจะต้องตบเขาให้ตายคามือแน่นอน “หย่งเฉียน! แกเป็นอาข

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 944

    “ไอ้บัดซบเอ๊ย! ใครกล้ามาต่อกรกับฉันโอวหยางจื้อ มันผู้นั้นจะต้องตาย!” โอวหยางจื้อพึมพำอย่างด้วยความอาฆาตแค้น แล้วสั่งให้ลูกศิษย์ไปจองตั๋วเครื่องบิน ...... คังเหวินซินมาส่งหลี่โม่และคนอื่น ๆ ที่บ้าน หลังจากมองดูทั้งสามเดินเข้าไปข้างในแล้ว จึงสตาร์ทรถและขับออกไปอย่างช้า ๆ “อาเล็กถูกจัดการจนหมดท่าแล้ว ต้องบอกพ่อสักคำไหมนะ อาเล็กจะได้ไปตีไข่ใส่สีอีก” หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง คังเหวินซินก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดหมายเลขพ่อของเขาคังหย่งอัน “ฮัลโหล พ่อครับ ผมเพิ่งจะขายวิลล่าบนยอดเขาที่สวนหนานชุ่ยให้เพื่อผมไป ขายราคาต้นทุนน่ะครับ” คังหย่งอันขมวดคิ้ว "นั่นเป็นวิลล่าที่อาเล็กของแกจะเอาไม่ใช่เหรอ แกเอาไปให้เพื่อนได้ยังไง? ผู้จัดการฝ่ายขายว่ายังไงบ้าง?" คังเหวินซินอึ้งครู่หนึ่ง รู้สึกถึงความผิดปกติในคำพูดของคังหย่งอัน "พ่อ พ่อรู้ได้ยังไงว่าอาเล็กอยากได้วิลล่านั่น?” “อาเล็กของแกเคยบอกพ่อว่า วิลล่าหลังนั้นเป็นของขวัญที่เขาจะเก็บไว้ให้กับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในต่างประเทศโอวหยางจื้อ แกคงเคยได้ยินเกี่ยวกับโอวหยางจื้อมาบ้างใช่ไหม? เขาเคยรับหน้าที่เป็นผู้กำกับฉากแอ็คชั่นให้กับภาพย

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 943

    ในแผนกดูแลพิเศษของโรงพยาบาล คังหย่งเฉียนและคนอื่น ๆ นั่งล้อมรอบเตียง มองดูพี่เกิ่งค่อย ๆ ฟื้นคืนสติ เข่าที่หักของพี่เกิ่งได้รับการผ่าตัดแล้ว แต่หลังการผ่าตัด พี่เกิ่งจะได้แต่นั่งอยู่บนรถเข็นเท่านั้น “ซี๊ด ขากับเข่าฉันเป็นยังไงบ้าง?” พี่เกิ่งถามอย่างร้อนใจ “ศิษย์พี่ไม่ต้องกังวล ผ่าตัดเสร็จแล้ว เพียงแต่ระดับการรักษาของที่นี่ยังต่ำไปหน่อย หลังจากฟื้นตัวแล้วพี่ต้องนั่งรถเข็น” คังหย่งเฉียนพูดเสียงเบาหวิว “ไอ้บัดซบ! ฉันไม่อยากนั่งรถเข็น! ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้!” พี่เกิ่งคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว รู้สึกเลวร้ายไปทั้งร่างกาย ชีวิตบนรถเข็น ไม่ใช่ชีวิตที่พี่เกิ่งต้องการเลย ถ้าต้องนั่งรถเข็นแล้ว ต่อไปจะฝึกศิลปะการต่อสู้ หรือออกไปรังแกคนอื่นอย่างไร แล้วจะไปจีบสาว ๆ ได้อย่างไร! “ฉันจะย้ายโรงพยาบาล ฉันจะไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุด!” “พี่เกิ่งอย่าเพิ่งตื่นตูม หมอบอกว่า รอพี่ฟื้นตัวดีแล้ว ก็สามารถทำการผ่าตัดครั้งที่สองในโรงพยาบาลที่ดีกว่านี้เพื่อเปลี่ยนข้อต่อเทียมได้” คังหย่งเฉียนปลอบใจพี่เกิ่งไปพลางก็ขยิบตาให้กับพวกพี่น้องคนอื่น ๆ ส่งสัญญาณให้พวกเขารีบมาช่วยกันโน้มน้าว ศิษย์พี่ห

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 942

    พี่เกิ่งร้องโหยหวนออกมา รู้สึกว่าขาซ้ายพลิกกลับไปด้านหลัง พลันสูญเสียการทรงตัวและล้มหงายไปข้างหลังทันที พลั่ก พี่เกิ่งล้มหงายลงกับพื้น ปากก็ร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา คังหย่งเฉียนถูกกระตุ้นด้วยเสียงร้องของพี่เกิ่งจนตัวสั่นไปทั้งตัว เสียงวิ้ง ๆ ที่ดังอยู่ในหัวยิ่งชัดเจนขึ้นมาทันใด คังหย่งเฉียนกุมใบหน้าที่บวมแดงไปครึ่งหนึ่งมองไปทางศิษย์พี่เกิ่ง ดวงตาของคังหย่งเฉียนก็แทบจะหลุดออกจากเบ้า ศิษย์พี่เกิ่งที่คังหย่งเฉียนเคยคิดว่า แข็งแกร่งไร้เทียมทานนั้น ตอนนี้กำลังร้องคร่ำครวญราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจะตาย เมื่อมองขาขวาของพี่เกิ่งหักงอในองศาที่ผิดธรรมชาติ คังหย่งเฉียนก็รู้สึกว่า เลือดทั่วร่างกายเย็นเฉียบขึ้นมา นี่เป็นเรื่องที่มนุษย์สามารถทำได้อย่างนั้นเหรอ? นี่เป็นผลลัพธ์ที่สามารถใช้กำปั้นทำได้เหรอ? นี่มันซูเปอร์ไซย่าในตำนานหรืออย่างไรกัน?! พวกศิษย์น้องของพี่เกิ่งหลายคนต่างหวาดกลัวกับความเผด็จการของหลี่โม่ ทั้งกลุ่มพลันหมดความโอหังไปโดยสิ้นเชิง พวกเขาลากพี่เกิ่งขึ้นมาจากพื้นแล้ววิ่งตะบึงออกไปข้างนอกอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่คำพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้คือศิษย์

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 941

    คังเหวินซินรออยู่สามวินาที แต่ละวินาทีราวกับยาวนานเป็นปี รออยู่นานฝ่ามือของพี่เกิ่งก็ยังไม่ตบลงมาสักที คังเหวินซินจึงลืมตาขึ้น เมื่อเอียงหน้ามองเห็นฝ่ามือของพี่เกิ่งอยู่ห่างจากหน้าตนแค่เฉียดฉิว หัวใจของคังเหวินซินแทบจะกระโดดออกมาจากปาก หลังจากที่เห็นข้อมือของพี่เกิ่งถูกหลี่โม่คว้าไว้ คังเหวินซินถึงได้รู้สึกว่า หัวใจของตัวเองกลับเข้าที่ได้แล้ว คังเหวินซินที่สงบลงแล้ว รีบถอยไปหลบด้านหลังหลี่โม่ แล้วร้องตะโกนด้วยน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง "อาจารย์!" “นายอย่าร้องไห้น่าสมเพชนักสิ มันทำฉันขายหน้านะ” หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้ม คังเหวินซินตะลีตะลานเช็ดเบ้าตา ไม่ยอมให้ตัวเองร้องไห้ออกมา พี่เกิ่งจ้องมองหลี่โม่อย่างโมโห แอบพยายามดึงข้อมือของตัวเองกลับมาอย่างลับ ๆ แต่ไม่ว่าพี่เกิ่งจะพยายามออกแรงแค่ไหน มือของหลี่โม่ก็ราวกับคีมปากเสือหนีบข้อมือของพี่เกิ่งเอาไว้แน่น จนข้อมือของพี่เกิ่งไม่มีทางสลัดหลุดได้เลย “ปล่อยมือฉัน!” พี่เกิ่งตวาดด้วยความโกรธเกรี้ยว “แกบอกให้ปล่อยก็ต้องปล่อยเหรอ? แกน่าจะอธิบายเรื่องที่จะลงไม้ลงมือกับลูกศิษย์ฉันเมื่อกี้นี้มาสักหน่อยไหม?” หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา คังเหวินซินส

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 940

    กู้หยุนหลานมองไปยังหลี่โม่อย่างประหลาดใจ เมื่อเห็นหลี่โม่ขยิบตาให้ เธอจึงไม่พูดอะไรและเก็บความสงสัยไว้ในใจ ผู้จัดการหวังโบกมือให้พนักงานขายสาว พนักงานสาวที่ถือสัญญาอยู่แล้วเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ผู้จัดการหวัง นี่เป็นสัญญาของวิลล่ายอดเขาค่ะ แต่ราคานี้มัน…” สีหน้าของพนักงานสาวดูบูดเบี้ยวเล็กน้อย ถ้าขายวิลล่านี้ออกไปในราคาต้นทุน เธอคงไม่ได้รับค่าคอมมิชชั่นเลยสักแดง! ที่ผ่านมาเศรษฐีในเมืองฮั่นจำนวนมากต่างก็ถูกใจวิลล่าแห่งนี้ แต่เพราะมีการปิดกั้นการซื้อขาย เลยไม่ได้ขายอย่างเป็นทางการ เดิมทีพวกพนักงานสาวนั้นเตรียมพร้อมที่จะทำกำไรมหาศาลด้วยการขายวิลล่าหลังนี้หลังจากที่เปิดการขายแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ความฝันของพวกเธอกำลังจะมลายหายไปซะแล้ว “พวกเธอมีสิทธิ์พูดงั้นเหรอ? นี่คือการตัดสินใจของคุณชายใหญ่!” ผู้จัดการหวังตำหนิพนักงานขายสาว พนักงานสาวหดคอและปิดปากเงียบไม่กล้าพูดอีก ผู้จัดการหวังเปิดสัญญาตรวจดู หลังจากยืนยันความถูกต้องแล้ว เขาก็ถือสัญญาเดินไปหาหลี่โม่ “อ่านสัญญาดูก่อนนะครับ หากไม่มีปัญหาอะไร เราจะไปเซ็นสัญญาที่สำนักงานของผมกัน ผมไม่สามารถนำตราประทับอะไรพวกนั้นพกติดต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status