แชร์

บทที่ 13

ผู้เขียน: นายกัวผู้เล่าเรื่อง
หลี่โม่เบิกตากว้างด้วยความโกรธ คนตรงหน้าไม่ใช่ใครอื่น กู้ซิ่งเหว่ยนั่นเอง!

กู้ซิ่งเหว่ยเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย เขาพูดอย่างจองหองว่า “โอ้หลี่โม่ ตอนนี้แกเก่งแล้วสินะถึงกล้าพูดกับฉันแบบนี้?”

โครม!

กู้ซิ่งเหว่ยเตะขึ้นไปบนหน้าอกของหลี่โม่อย่างแรง!

หลี่โม่เซถอยหลังไปสองสามก้าว ใบหน้าของเขาเย็นชา มือกุมหน้าอกตนเอง

แม่หลี่โม่ตะโกนขึ้นมาว่า “โม่ ลูกไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“คุณแม่ ผมไม่เป็นไร” หลี่โม่รีบดึงแม่ของเขาไว้

เขาไม่ต้องการให้แม่ของเขาเข้ามาเกี่ยวข้อง ดูเหมือนว่ากู้ซิ่งเหว่ยตั้งใจที่จะมาหาเรื่อง

“คุณ… คุณชายกู้ ถ้าลูกโม่ทำอะไรให้คุณไม่พอใจ ฉันจะขอโทษคุณแทนเขาด้วยนะคะ ปล่อยเขาไปเถอะนะคะ ไม่ว่ายังไง ลูกโม่ก็เป็นลูกเขยของตระกูลกู้…”

แม่ของหลี่โม่กล้ำกลืนความเจ็บช้ำน้ำใจบีบยิ้มพูดกับกู้ซิ่งเหว่ย

คิ้วของกู้ซิ่งเหว่ยขมวด เขามองที่แม่ของหลี่โม่อย่างเย็นชาและตะโกนว่า “ออกไป! แกเป็นแม่มันอย่ามายุ่ง แม่ที่ไร้ประโยชน์ คนที่นอนรอคอยความตายอย่างแก มีสิทธิ์อะไรมาบอกให้ฉันปล่อยมันไป?”

พูดจบกู้ซิ่งเหว่ยยกมือขึ้น เขากำลังจะตบหน้าแม่ของหลี่โม่!

หลี่โม่ทนไม่ไหวแล้ว!

บนโลกนี้ไม่มีใครหน้าไหนที่จะรังแกแม่ของเขาได้!

แม่ของนายน้อยแดนมังกร ทุกคนต้องเคารพ!

เขาก้าวไปข้างหน้า คว้าข้อมือของกู้ซิ่งเหว่ยอย่างเดือดดาล และตะโกนด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “กู้ซิ่งเหว่ย แกกล้าดียังไง!”

นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่โม่โกรธกู้ซิ่งเหว่ย อีกฝ่ายก็ผงะเช่นกัน ตามมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแกมประชดประชันอีกทั้งสบถด่าคำหยาบ!

ต่อมาเขาก็เหวี่ยงมืออีกข้างหนึ่งตบหน้าหลี่โม่อย่างโกรธจัดและตะโกนว่า “ไอ้เวร! ฉันจะฆ่าแก!”

“จัดการมัน!”

หลังจากกู้ซิ่งเหว่ยตบไปหนึ่งที เขาก็ตะโกนเรียกพวกนักเลงที่อยู่ด้านหลัง

ทันใดนั้น พวกนักเลงเหล่านั้นก็พังทลายร้านอาหารเช้าขนาดไม่กี่ตารางเมตรนี้จนหมดสิ้น!

ขณะที่หลี่โม่ยืนอยู่ด้านหน้าแม่ของเขาที่กำลังเช็ดน้ำตา และร้องไห้เงียบ ๆ สายตาจ้องไปยังกู้ซิ่งเหว่ยอย่างขมขื่น

กู้ซิ่งเหว่ยล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง มองหลี่โม่อย่างหยิ่งผยองแล้วพูดว่า “หลี่โม่ แกอย่าลืมสิ ว่าบ้านนี้ตระกูลกู้ให้พวกแกอยู่เพราะสงสารพวกแก! แกกล้าขึ้นเสียงใส่ฉัน แกไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วอย่างนั้นใช่ไหม?”

หลี่โม่ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดนั้น

เมื่อเห็นเขาเป็นแบบนั้น กู้ซิ่งเหว่ยยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ฉันก็ไม่อยากทำแบบนี้กับแก เอาแบบนี้แล้วกัน สำหรับท่าทีเมื่อครู่ของแก คุกเข่าขอโทษฉันซะ! ไม่อย่างนั้น ฉันจะยึดที่นี่คืน แล้วไล่แม่ที่จะกำลังจะตายของแกออกไป!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของหลี่โม่ก็อึมครึมจนถึงขีดสุด

กู้ซิ่งเหว่ยที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา สีหน้าเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย พวกอันธพาลที่อยู่ข้างหลังเขาก็เช่นกัน

หลี่โม่หมดหนทาง เขาค่อย ๆ คลายหมัดออกอย่างช่วยไม่ได้

เขาเลิกคิ้วมองไปที่ร่างในฝูงชนที่อยู่ไม่ไกล และส่งสัญญาณ ‘หยุด’ เขาค่อย ๆ งอขาเตรียมจะคุกเข่า

อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้นมืออันอบอุ่นและสั่นเทาได้คว้าตัวหลี่โม่ไว้

แม่ของหลี่โม่ยืนอยู่ข้างหลี่โม่ด้วยน้ำตาคลอเบ้า ส่ายหัวให้เขา และพูดด้วยรอยยิ้มที่มุมปากของเธอ “ลูกโม่ใต้เข่าลูกผู้ชายมีค่าดังทองคำ ลูกจะคุกเข่าไม่ได้”

พูดจบแม่ของหลี่โม่ก็คุกเข่าลงต่อหน้ากู้ซิงเว่ย และอ้อนวอน “คุณชายกู้ ฉันขอโทษ ลูกโม่ไม่รู้ความ ฉันผู้เป็นแม่ไม่สั่งสอนเขาให้ดีเอง เพราะฉะนั้นฉันจะคุกเข่าแทน”

ตู้ม!

ความโกรธของหลี่โม่ปะทุอย่างแรงในหัวใจ!

แม่ ทำไมแม่ต้องทนกับความอัปยศอดสูแบบนี้ด้วย!

กู้ซิ่งเหว่ย!

ฉันจะฆ่าแก!

ฉากนี้ทำให้ใบหน้าของกู้ซิ่งเหว่ยดูไม่พอใจอย่างมาก

เพราะทุกคนที่เฝ้าดูอยู่รอบ ๆ ต่างก็ชี้นิ้วกล่าวหาว่ากู้ซิ่งเหว่ยนั้นเป็นคนเอาแต่ใจ

คำพูดของคนนั้นน่ากลัว

กู้ซิ่งเหว่ยสะบัดมืออย่างรังเกียจ จากนั้นจึงหันหลังเตรียมตัวจะกลับ ก่อนจากไปเขาหันกลับมาด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาบน และพูดกับหลี่โม่ว่า “หลี่โม่ วันนี้กู้หยุนหลานไปที่ขอความร่วมมือกับหรงคังกรุ๊ป เท่าที่ฉันรู้ คุณชายแห่งหรงคังกรุ๊ปเป็นคนเสื่อมทรามและไร้ศีลธรรมมาทั้งชีวิต ฉันเกรงว่าเมียแกอาจจะ… หึหึ… ฮ่าฮ่าฮ่า”

พูดจบกู้ซิ่งเหว่ยก็นำคนของเขาเดินหัวเราะและจากไป

หลี่โม่ขมวดคิ้วและรีบช่วยประคองแม่ของเขาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณแม่…”

แม่ของหลี่โม่ขัดจังหวะหลี่โม่ เธอจับมือเขาด้วยความรัก ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “เราไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เราต้องเรียนรู้ที่จะอดทนกับทุกสิ่ง แต่ลูกชายของแม่ไม่ใช่คนธรรมดา ไม่ควรคุกเข่าให้ใครง่าย ๆ แบบนี้”

อารมณ์ของหลี่โม่แสดงออกบนใบหน้า ดวงตาของเขาแดงก่ำ เขาจับมือแม่แน่นแล้วพูดว่า “คุณแม่ ที่จริงแล้ว ผมกำลัง…”

“โอเค เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว ช่วยแม่เก็บของดีกว่า” แม่ของหลี่โม่ขัดจังหวะหลี่โม่

หลี่โม่มองไปที่แม่ของเขาที่กำลังยุ่ง เขาแอบบีบกำปั้น และเหลือบมองที่ด้านหลังของกู้ซิ่งเหว่ยกับคนอื่น ๆ ที่เดินจากไป

‘สักวันหนึ่ง ฉันจะตอบแทนความอัปยศที่ตระกูลกู้ของแกทำกับแม่ของฉันเป็นสิบเท่า!’

ในตอนบ่าย หลี่โม่กำชับแม่หลายเรื่อง จากนั้นจึงออกจากบ้านแม่ของเขาและรีบไปโรงพยาบาล

คุณท่านกู้ตัดสินใจที่จะผ่อนปรนและอนุญาตให้หลี่โม่ไปเยี่ยม และดูแลซีซีได้

คิดดูแล้ว หลิวซินหมินคงจะแอบช่วยจัดการเรื่องนี้ให้

ทางด้านของกู้หยุนหลาน

วันนี้เธอรีบไปที่บริษัทตั้งแต่เช้าตรู่ ทันทีที่เธอเข้ามาในห้องทำงาน เธอก็เห็นกู้ชิงหลินนั่งกอดอกอยู่บนโซฟา พร้อมกับไขว้ขาขาวผ่องไว้ด้วยกัน

“กู้หยุนหลาน อย่าพูดว่าฉันไม่ได้ช่วยเธอนะ ฉันติดต่อกับคุณชายของหรงคังกรุ๊ปไปแล้ว ถ้าเธอต้องการหารือเรื่องความร่วมมือกับหรงคังกรุ๊ป ตอนนี้เธอก็รีบไปเถอะ” กู้ชิงหลินกล่าวอย่างเย็นชา ภายใต้คิ้วโค้งสวยเธอกำลังแอบซ่อนแผนการอันชั่วร้ายเอาไว้

กู้หยุนหลานรู้สึกสงสัยเล็กน้อย กู้ชิงหลินเนี่ยนะจะช่วยตน?

เธอถามกลับ “เธอพูดจริงเหรอ?”

กู้ชิงหลินลุกขึ้นอย่างสง่างามสองมือยังคงกอดอก และพูดว่า “ก็จริงน่ะสิ ส่วนนี่ คุณชายหรงฉางเวยจากหรงคังกรุ๊ปให้ฉันเอามาให้เธอ ถ้าอยากหารือเรื่องนี้จริง ๆ ก็ทำตามคำแนะนำของคุณชายหรงฉางเวยเถอะ”

กู้หยุนหลานเหลือบมองกล่องเล็ก ๆ บนโซฟา เธอก้าวไปข้างหน้าและเปิดออก ทันทีที่เห็น มันคือชุดชั้นในลายฉลุตัวบางเฉียบ!

ใบหน้าของกู้หยุนหลานแดงก่ำ ความโกรธฉายทั่วใบหน้าของเธอ เธอโยนสิ่งของทิ้งไปและพูดอย่างเย็นชากับกู้ชิงหลินว่า “เธอหมายความว่ายังไง?!”

กู้ชิงหลินหัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “กู้หยุนหลาน เธอจะแกล้งทำเป็นไร้เดียงสาต่อหน้าฉันไปเพื่ออะไรกัน เธอทำเรื่องน่ารังเกียจพวกนั้นแล้วยังจะต้องการปกปิดใครอีก? นี่คือสิ่งที่คุณชายหรงฉางเวยมอบให้กับเธอ เธอก็รู้ว่าเขาชอบความรู้สึกเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้เสมอ ถ้าเธอต้องการร่วมมือกับหรงคังกรุ๊ป เธอก็ต้องสวมชุดนี้ไป! แล้วคุณชายหรงฉางเวยก็สัญญากับฉันไว้แล้วว่า ถ้าเธอใส่ชุดนี้ไป ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเธอ!”

“กู้หยุนหลาน เธอคิดให้ดีเถอะ มันเป็นเดิมพันของเธอกับลูกพี่ลูกน้องมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับตำแหน่งของเธอในฐานะผู้อำนวยการนะ ถ้าเธอล้มเหลว แล้วลูกสาวของเธอล่ะ เธอจะทำยังไง? เธอจะพึ่งพาสามีที่ไร้ประโยชน์อย่างหลี่โม่นั่นน่ะเหรอ?”

พูดจบกู้ชิงหลินก็หันหลังเดินโยกบั้นท้ายออกไป

‘ยังจะมาแสร้งไร้เดียงสาต่อหน้าฉันอีก!’

‘ยัยผู้หญิงน่ารังเกียจ!’

‘เธอมันก็แค่ของเล่นของพวกผู้ชาย!’

‘กู้หยุนหลาน โธ่ กู้หยุนหลาน คราวนี้ฉันจะรอดูว่าเธอจะจบลงยังไง!’

ในอีกด้านหนึ่งกู้หยุนหลานมองดูเสื้อผ้าน่าละอายที่ถูกทิ้งในถังขยะ ร่างกายของเธออ่อนแรง เธอล้มตัวลงบนโซฟาพร้อมกำหมัดแน่นด้วยความหงุดหงิด

ให้ตายสิ ไอ้พวกงี่เง่า!

กู้ชิงหลินมาที่ห้องทำงานของกู้ซิ่งเหว่ยอย่างรวดเร็ว พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าของเธอ

“กู้ซิ่งเหว่ย ฉันบอกยัยนั่นไปแล้วนะ คราวนี้ ถ้ากู้หยุนหลานกล้าที่จะไปล่ะก็ เธอจบเห่แน่!” กู้ชิงหลินหัวเราะเยาะเย้ย

กู้ซิ่งเหว่ยที่กำลังนัวเนียอยู่กับผู้ช่วยสาวอย่างเปิดเผย โดยไม่สนใจว่า กู้ชิงหลินจะเห็นเลย บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย เขาพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ฮ่าฮ่า ดี! คราวนี้เราต้องทำให้กู้หยุนหลาน ยัยผู้หญิงน่ารังเกียจนั่น สูญเสียทั้งฐานะ ทั้งชื่อเสียง และกลายเป็นความอัปยศของตระกูลกู้!”

ทั้งสองยิ้มให้กัน เสียงหัวเราะอันชั่วร้ายของทั้งคู่ก้องกังวานไปทั่วห้องทำงาน

ผู้ช่วยสาวที่อยู่ข้าง ๆ ยังไม่เข้าใจ จึงถามด้วยความสงสัยว่า “คุณชายกู้ เกิดอะไรขึ้นกับกู้หยุนหลานกันแน่เหรอคะ? กู้หยุนหลานจะเป็นยังไงเหรอคะ?”

กู้ซิ่งเหว่ยโอบผู้ช่วยสาวสุดฮอตไว้ด้วยสองมือใหญ่ของเขา แล้วบอกผู้ช่วยหญิงเกี่ยวกับแผนการของเขาอย่างละเอียด

เมื่อผู้ช่วยสาวได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของเธอก็เป็นประกาย เธอก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า “ถ้าอย่างนั้น ก็หมายความว่า กู้หยุนหลานจะไปหลับนอนกับคุณชายหรงอย่างนั้นเหรอคะ?”

“ฮ่าฮ่า นั่นเป็นเรื่องธรรมดา! ยัยผู้หญิงน่ารังเกียจอย่างกู้หยุนหลานควรจะจบลงแบบนี้ล่ะ ถูกแล้ว!” กู้ซิ่งเหว่ยยิ้มอย่างชั่วร้ายเขารู้สึกมีความสุขเมื่อนึกถึงฉากที่กู้หยุนหลานเรียกใครก็ไม่มีใครช่วย

กู้หยุนหลานที่น่าสงสาร ในที่สุดก็ตกอยู่ในกำมือของกู้ซิ่งเหว่ย

ผู้ช่วยสาวก็หัวเราะเช่นกัน แต่แล้วจู่ ๆ ก็กังวลและพูดขึ้นว่า “แต่ถ้าหลี่โม่รู้ จะไม่มีปัญหาเหรอคะ?”

“มันก็แค่คนไร้ประโยชน์ ไม่ต้องกังวลหรอก!”

กู้ซิ่งเหว่ยไม่สนใจ “ถ้ามันกล้าสร้างปัญหาจริง ๆ ฉันก็มีวิธีที่จะจัดการกับมัน!”

หลี่โม่?

ฮ่าฮ่าฮ่า ก็แค่ขยะสังคม!

กู้ซิ่งเหว่ยรอแทบไม่ไหวที่จะเห็นความเศร้าโศกของหลี่โม่เมื่อเขาเห็นวิดีโอที่ภรรยาของเขาถูกทำให้แปดเปื้อน

ฮ่า ฮ่า ฮ่า!

สะใจ!

ผู้ช่วยสาวพยักหน้าเบา ๆ วางแขนโอบรอบคอกู้ซิ่งเหว่ยและพูดอย่างออดอ้อน “คุณชายกู้คะ ถ้าอย่างนั้น เมื่อคุณเป็นรองประธานแล้ว อย่าลืมฉันนะคะ ตำแหน่งผู้อำนวยการ…”

เธออยากได้ตำแหน่งผู้อำนวยการไม่ใช่แค่วันหรือสองวัน ไม่อย่างนั้นเธอคงจะไม่มีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับกู้ซิ่งเหว่ย

“ฮ่าฮ่าฮ่า เธอไม่ต้องกังวล เมื่อกู้หยุนหลานกลายเป็นผู้หญิงหน้าไม่อาย ตำแหน่งผู้อำนวยการจะต้องตกเป็นของเธออย่างแน่นอน!”

กู้ซิ่งเหว่ยหัวเราะสะใจ จากนั้นจ้องมองผู้ช่วยสาวที่สายตาของเธอกำลังเย้ายวน เขาลุกขึ้นและผลักเธอลงบนโซฟา

เมื่อกู้ชิงหลินเห็นฉากนี้ เธอก็เดินออกไปอย่างรู้งาน

หลังจากนั้นไม่นาน ภายในห้องทำงานก็มีเสียงของผู้ช่วยสาวและกู้ซิ่งเหว่ยที่กำลังบรรเลงเพลงรักกัน...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
สุกิจ หนุนเหลือง
เริ่มอ่านก็ไม่น่าติดตามแล้วพระเอกห่วยแตกอ่านแล้วเครียด
goodnovel comment avatar
มุจลินท์ P.
รีวิวโฆษนาภายนอกอย่างดี พอเข้ามาอ่านจริงๆ พระเอกขี้ขลาดใจเสาะ น่ารำคาญ ดีที่ยังไม่เติมเงิน เนื้อเรื่องน่าเบื่อ โดนเหยียบหัวต่ำตมอยู่นั่นแหละ อะไรของมันยิ่งอ่านยิ่งเครียด แทนที่จะสนุกยิ่งขึ้น ยิ่งน่าติดตาม ยิ่งอ่านยิ่งดิ่ง
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 945

    คังหย่งอันกดหมายเลขของคังหย่งเฉียน แล้วพูดเสียงเข้ม "หย่งเฉียน ฉันได้ยินมาว่า แกกับเหวินซินมีปัญหากันเรื่องวิลล่าบนยอดเขาเหรอ?" “พี่ใหญ่ มีปัญหากันน่ะสิ ศิษย์พี่เกิ่งยังถูกทำร้ายจนเข่าหักแล้ว! ศิษย์พี่เกิ่งติดต่อกับอาจารย์โอวหยางไปแล้ว เรื่องนี้อภัยให้ไม่ได้แน่นอน!” คังหย่งเฉียนโกรธแค้นคังเหวินซิน ถ้าไม่ใช่เพราะคังเหวินซินพาหลี่โม่ไปที่นั่น เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น แต่ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว คังหย่งเฉียนเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทำได้เพียงเอาความโมโหไปลงที่คังเหวินซินเท่านั้น “หย่งเฉียน ไม่ว่ายังไงก็ตาม แกต้องรับรองความปลอดภัยของเหวินซิน ฉันไม่สนว่า อาจารย์โอวหยางพวกเขาจะทำอะไรกับเพื่อนของเหวินซิน แต่พวกเขาจะทำร้ายเหวินซินไม่ได้เด็ดขาด!” “พี่ใหญ่ ฉันไม่กล้ารับประกันหรอก รับประกันได้แค่ลูกชายของพี่จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงตายเท่านั้น ถ้าอาจารย์โอวหยางต้องการลงโทษลูกชายของพี่จริง ๆ ฉันจะไปขวางได้ยังไง ฉันขวางไม่ได้หรอก ไม่กล้าขวางด้วย!" คังหย่งอันขมวดคิ้วแน่น หากคังหย่งเฉียนอยู่ต่อหน้าคังหย่งอันในตอนนี้ คังหย่งอันจะต้องตบเขาให้ตายคามือแน่นอน “หย่งเฉียน! แกเป็นอาข

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 944

    “ไอ้บัดซบเอ๊ย! ใครกล้ามาต่อกรกับฉันโอวหยางจื้อ มันผู้นั้นจะต้องตาย!” โอวหยางจื้อพึมพำอย่างด้วยความอาฆาตแค้น แล้วสั่งให้ลูกศิษย์ไปจองตั๋วเครื่องบิน ...... คังเหวินซินมาส่งหลี่โม่และคนอื่น ๆ ที่บ้าน หลังจากมองดูทั้งสามเดินเข้าไปข้างในแล้ว จึงสตาร์ทรถและขับออกไปอย่างช้า ๆ “อาเล็กถูกจัดการจนหมดท่าแล้ว ต้องบอกพ่อสักคำไหมนะ อาเล็กจะได้ไปตีไข่ใส่สีอีก” หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง คังเหวินซินก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดหมายเลขพ่อของเขาคังหย่งอัน “ฮัลโหล พ่อครับ ผมเพิ่งจะขายวิลล่าบนยอดเขาที่สวนหนานชุ่ยให้เพื่อผมไป ขายราคาต้นทุนน่ะครับ” คังหย่งอันขมวดคิ้ว "นั่นเป็นวิลล่าที่อาเล็กของแกจะเอาไม่ใช่เหรอ แกเอาไปให้เพื่อนได้ยังไง? ผู้จัดการฝ่ายขายว่ายังไงบ้าง?" คังเหวินซินอึ้งครู่หนึ่ง รู้สึกถึงความผิดปกติในคำพูดของคังหย่งอัน "พ่อ พ่อรู้ได้ยังไงว่าอาเล็กอยากได้วิลล่านั่น?” “อาเล็กของแกเคยบอกพ่อว่า วิลล่าหลังนั้นเป็นของขวัญที่เขาจะเก็บไว้ให้กับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในต่างประเทศโอวหยางจื้อ แกคงเคยได้ยินเกี่ยวกับโอวหยางจื้อมาบ้างใช่ไหม? เขาเคยรับหน้าที่เป็นผู้กำกับฉากแอ็คชั่นให้กับภาพย

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 943

    ในแผนกดูแลพิเศษของโรงพยาบาล คังหย่งเฉียนและคนอื่น ๆ นั่งล้อมรอบเตียง มองดูพี่เกิ่งค่อย ๆ ฟื้นคืนสติ เข่าที่หักของพี่เกิ่งได้รับการผ่าตัดแล้ว แต่หลังการผ่าตัด พี่เกิ่งจะได้แต่นั่งอยู่บนรถเข็นเท่านั้น “ซี๊ด ขากับเข่าฉันเป็นยังไงบ้าง?” พี่เกิ่งถามอย่างร้อนใจ “ศิษย์พี่ไม่ต้องกังวล ผ่าตัดเสร็จแล้ว เพียงแต่ระดับการรักษาของที่นี่ยังต่ำไปหน่อย หลังจากฟื้นตัวแล้วพี่ต้องนั่งรถเข็น” คังหย่งเฉียนพูดเสียงเบาหวิว “ไอ้บัดซบ! ฉันไม่อยากนั่งรถเข็น! ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้!” พี่เกิ่งคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว รู้สึกเลวร้ายไปทั้งร่างกาย ชีวิตบนรถเข็น ไม่ใช่ชีวิตที่พี่เกิ่งต้องการเลย ถ้าต้องนั่งรถเข็นแล้ว ต่อไปจะฝึกศิลปะการต่อสู้ หรือออกไปรังแกคนอื่นอย่างไร แล้วจะไปจีบสาว ๆ ได้อย่างไร! “ฉันจะย้ายโรงพยาบาล ฉันจะไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุด!” “พี่เกิ่งอย่าเพิ่งตื่นตูม หมอบอกว่า รอพี่ฟื้นตัวดีแล้ว ก็สามารถทำการผ่าตัดครั้งที่สองในโรงพยาบาลที่ดีกว่านี้เพื่อเปลี่ยนข้อต่อเทียมได้” คังหย่งเฉียนปลอบใจพี่เกิ่งไปพลางก็ขยิบตาให้กับพวกพี่น้องคนอื่น ๆ ส่งสัญญาณให้พวกเขารีบมาช่วยกันโน้มน้าว ศิษย์พี่ห

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 942

    พี่เกิ่งร้องโหยหวนออกมา รู้สึกว่าขาซ้ายพลิกกลับไปด้านหลัง พลันสูญเสียการทรงตัวและล้มหงายไปข้างหลังทันที พลั่ก พี่เกิ่งล้มหงายลงกับพื้น ปากก็ร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา คังหย่งเฉียนถูกกระตุ้นด้วยเสียงร้องของพี่เกิ่งจนตัวสั่นไปทั้งตัว เสียงวิ้ง ๆ ที่ดังอยู่ในหัวยิ่งชัดเจนขึ้นมาทันใด คังหย่งเฉียนกุมใบหน้าที่บวมแดงไปครึ่งหนึ่งมองไปทางศิษย์พี่เกิ่ง ดวงตาของคังหย่งเฉียนก็แทบจะหลุดออกจากเบ้า ศิษย์พี่เกิ่งที่คังหย่งเฉียนเคยคิดว่า แข็งแกร่งไร้เทียมทานนั้น ตอนนี้กำลังร้องคร่ำครวญราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจะตาย เมื่อมองขาขวาของพี่เกิ่งหักงอในองศาที่ผิดธรรมชาติ คังหย่งเฉียนก็รู้สึกว่า เลือดทั่วร่างกายเย็นเฉียบขึ้นมา นี่เป็นเรื่องที่มนุษย์สามารถทำได้อย่างนั้นเหรอ? นี่เป็นผลลัพธ์ที่สามารถใช้กำปั้นทำได้เหรอ? นี่มันซูเปอร์ไซย่าในตำนานหรืออย่างไรกัน?! พวกศิษย์น้องของพี่เกิ่งหลายคนต่างหวาดกลัวกับความเผด็จการของหลี่โม่ ทั้งกลุ่มพลันหมดความโอหังไปโดยสิ้นเชิง พวกเขาลากพี่เกิ่งขึ้นมาจากพื้นแล้ววิ่งตะบึงออกไปข้างนอกอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่คำพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้คือศิษย์

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 941

    คังเหวินซินรออยู่สามวินาที แต่ละวินาทีราวกับยาวนานเป็นปี รออยู่นานฝ่ามือของพี่เกิ่งก็ยังไม่ตบลงมาสักที คังเหวินซินจึงลืมตาขึ้น เมื่อเอียงหน้ามองเห็นฝ่ามือของพี่เกิ่งอยู่ห่างจากหน้าตนแค่เฉียดฉิว หัวใจของคังเหวินซินแทบจะกระโดดออกมาจากปาก หลังจากที่เห็นข้อมือของพี่เกิ่งถูกหลี่โม่คว้าไว้ คังเหวินซินถึงได้รู้สึกว่า หัวใจของตัวเองกลับเข้าที่ได้แล้ว คังเหวินซินที่สงบลงแล้ว รีบถอยไปหลบด้านหลังหลี่โม่ แล้วร้องตะโกนด้วยน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง "อาจารย์!" “นายอย่าร้องไห้น่าสมเพชนักสิ มันทำฉันขายหน้านะ” หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้ม คังเหวินซินตะลีตะลานเช็ดเบ้าตา ไม่ยอมให้ตัวเองร้องไห้ออกมา พี่เกิ่งจ้องมองหลี่โม่อย่างโมโห แอบพยายามดึงข้อมือของตัวเองกลับมาอย่างลับ ๆ แต่ไม่ว่าพี่เกิ่งจะพยายามออกแรงแค่ไหน มือของหลี่โม่ก็ราวกับคีมปากเสือหนีบข้อมือของพี่เกิ่งเอาไว้แน่น จนข้อมือของพี่เกิ่งไม่มีทางสลัดหลุดได้เลย “ปล่อยมือฉัน!” พี่เกิ่งตวาดด้วยความโกรธเกรี้ยว “แกบอกให้ปล่อยก็ต้องปล่อยเหรอ? แกน่าจะอธิบายเรื่องที่จะลงไม้ลงมือกับลูกศิษย์ฉันเมื่อกี้นี้มาสักหน่อยไหม?” หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา คังเหวินซินส

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 940

    กู้หยุนหลานมองไปยังหลี่โม่อย่างประหลาดใจ เมื่อเห็นหลี่โม่ขยิบตาให้ เธอจึงไม่พูดอะไรและเก็บความสงสัยไว้ในใจ ผู้จัดการหวังโบกมือให้พนักงานขายสาว พนักงานสาวที่ถือสัญญาอยู่แล้วเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ผู้จัดการหวัง นี่เป็นสัญญาของวิลล่ายอดเขาค่ะ แต่ราคานี้มัน…” สีหน้าของพนักงานสาวดูบูดเบี้ยวเล็กน้อย ถ้าขายวิลล่านี้ออกไปในราคาต้นทุน เธอคงไม่ได้รับค่าคอมมิชชั่นเลยสักแดง! ที่ผ่านมาเศรษฐีในเมืองฮั่นจำนวนมากต่างก็ถูกใจวิลล่าแห่งนี้ แต่เพราะมีการปิดกั้นการซื้อขาย เลยไม่ได้ขายอย่างเป็นทางการ เดิมทีพวกพนักงานสาวนั้นเตรียมพร้อมที่จะทำกำไรมหาศาลด้วยการขายวิลล่าหลังนี้หลังจากที่เปิดการขายแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ความฝันของพวกเธอกำลังจะมลายหายไปซะแล้ว “พวกเธอมีสิทธิ์พูดงั้นเหรอ? นี่คือการตัดสินใจของคุณชายใหญ่!” ผู้จัดการหวังตำหนิพนักงานขายสาว พนักงานสาวหดคอและปิดปากเงียบไม่กล้าพูดอีก ผู้จัดการหวังเปิดสัญญาตรวจดู หลังจากยืนยันความถูกต้องแล้ว เขาก็ถือสัญญาเดินไปหาหลี่โม่ “อ่านสัญญาดูก่อนนะครับ หากไม่มีปัญหาอะไร เราจะไปเซ็นสัญญาที่สำนักงานของผมกัน ผมไม่สามารถนำตราประทับอะไรพวกนั้นพกติดต

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status